เข้าสู่ระบบ“สมกับเป็นพี่สาวที่แสนดีของน้องจริง ๆ รู้ใจไปหมดทุกอย่าง แต่ถ้าจะให้ดีขอเงินซื้ออัลบั้มหน่อยนะ”
เพียงฟ้าส่งสายตาปริบ ๆ ให้กับคนเป็นพี่ แต่ทว่าคนเป็นพี่กลับแกล้งไม่ได้ยินแล้วเดินหนีเข้าบ้าน แต่มีหรือคนอย่างเพียงฟ้าจะยอม จึงเดินตามไปอ้อนเพื่อขอในสิ่งที่อยากได้
รำพึงมองตามลูกสาวสองคนทั้งยิ้มทั้งส่ายหัว เธอดีใจที่ลูกสาวสองคนรักกันแน่นแฟ้น หากสามีเธอไม่ได้ตายจากอุบัติเหตุเมื่อสิบปีก่อน เขาคงต้องภูมิใจและดีใจมากแน่ ๆ ที่ลูกทั้งสองคนเป็นเด็กดีไม่เคยทำเรื่องอะไรให้คนเป็นแม่เสียใจสักครั้ง
“วันนี้คุณแม่อารมณ์ดีจังเลยนะครับ ผมได้ยินเสียงฮัมเพลงตั้งแต่ทางเข้าประตูบ้าน”
เสียงทุ้มดังขึ้นจากทางด้านหลัง คุณหญิงศจีที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารเย็นกับแม่บ้านถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย เธอหันกลับไปมองเมื่อเห็นว่าเป็นอนาวินลูกชายเพียงคนเดียวก็ปรับสีหน้าเรียบเฉยแกล้งทำเป็นงอน
“ป้าไก่ ได้ยินเสียงนกเสียงกาแถวนี้ไหม”
“ได้ยินค่ะ นก กาที่ว่าน่าจะตัวใหญ่ด้วยนะคะ”
หญิงแก่แม่บ้านประจำหันไปหาคุณหนูของบ้านแล้วยักคิ้วให้ เพื่อบ่งบอกว่าคุณหญิงของบ้านน้อยใจคนเป็นลูกชายที่แทบจะไม่แวะเวียนกลับมาหาเลย
“แม่ครับ อย่าโกรธผมเลยนะ ก็ที่บริษัทงานยุ่งมาก ก็ตั้งแต่คุณพ่อยกตำแหน่งให้ ผมก็แทบจะไม่มีเวลาหายใจหายคอเลย”
ชายหนุ่มเดินเข้ามาโอบกอดพร้อมกับหอมแก้มฟ้อดใหญ่เพื่อเป็นการขอโทษ
“นี่แกโทษพ่อเหรอเจ้าวิน ที่ทำให้แกไม่มีเวลากลับมานอนบ้าน”
คฑาเดินลงมาจากบนบ้านแล้วเอ่ยหยอกลูกชายที่พยายามงอนง้อคนเป็นแม่อยู่ เพราะนับตั้งแต่ย้ายไปอยู่คอนโดฯลูกชายก็แทบไม่กลับมานอนที่บ้านเลย
“ไม่ใช่ครับ ผมแค่ไม่อยากให้พ่อกับแม่มานั่งห่วงผมก็เท่านั้นเอง”
“ถ้าแกไม่อยากให้แม่ห่วงก็รีบแต่งงานได้แล้ว แม่จะได้มั่นใจว่าแกมีคนดูแล”
“ยังไม่พร้อมครับ เราอย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลยครับผมหิวจะแย่ ป้าไก่ครับวันนี้มีอะไรกินบ้างครับ” เขารีบหันกลับไปถามป้าแม่บ้านเพื่อเอาตัวรอดจากเรื่องนี้
“แบบนี้ทุกที พูดเรื่องนี้ทีไรเปลี่ยนเรื่องหนีตลอด”ศจีบ่นตามหลังลูกชายที่เดินไปล้างไม้ล้างมือ
“เอาน่าคุณ ลูกเราคงยังไม่มีคนถูกใจ วันไหนที่พร้อมลูกก็คงพาว่าที่ลูกสะใภ้มาแนะนำเองแหละ เราไปกินข้าวกันเถอะเดี๋ยวกับข้าวจะเย็นเสียก่อน”
คฑาพยายามปลอบใจคนเป็นเมียเอาน้ำเย็นเข้าลูบแล้วชวนกันไปร่วมโต๊ะอาหารเย็นที่ตระเตรียมไว้จนเสร็จแล้ว
ค่ำคืนนั้นหลังจากที่อนาวินกลับจากไปกินข้าวที่บ้านแม่เสร็จแล้ว ระหว่างทางที่ขับรถกลับสายตาเขาเหลือบไปเห็นข้อความจากโทรศัพท์ซึ่งถูกส่งมาจากคนสำคัญที่เขาแอบรักมาตลอด ชายหนุ่มรีบหักพวงมาลัยเข้าข้างทางเพื่อเปิดอ่านข้อความนั้นทันที
[วินคะ มาหาลิตาหน่อยได้ไหม ลิตารอที่เดิมนะคะ]
เพียงแค่อ่านข้อความจบเขาก็รีบเหยียบคันเร่งไปหาหญิงสาวทันทีโดยไม่รีรอหรือช่างใจเลยสักนิด
ลิตาคือดารานางเอกอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยและทั้งคู่เป็นกลุ่มเพื่อนเดียวกันตั้งแต่สมัยเรียน เขาตกหลุมรักลิตาครั้งแรกตั้งแต่ที่เห็นแต่ไม่เคยสารภาพรักเพราะเธอมีคนรักอยู่แล้วและคบหากันจนถึงปัจจุบัน
อนาวินจึงเป็นได้แค่เพียงเพื่อนที่ปรึกษาเท่านั้นแม้ใจเขาอยากจะเป็นมากกว่านั้นก็ตาม
ลิตาเองก็รู้ว่าอนาวินรู้สึกอย่างไรกับเธอแต่เธอก็ไม่สามารถตอบรับได้เพราะยังคงรักแฟนหนุ่มที่คบหากันมาหลายปี
ส่วนตัวแล้วลิตาก็ไม่อยากเสียอนาวินให้ใครไปจึงคอยหลอกล่อเหมือนว่ามีใจให้เพื่อขอให้เขาอยู่ข้างเธอไปแบบนี้ หากวันไหนที่เธอไปต่อกับแฟนหนุ่มไม่รอด อย่างน้อยเธอก็ยังเหลืออนาวินไว้เป็นตัวเลือก
เวลาเพียงไม่นานชายหนุ่มก็มาถึงร้านที่นัดหมาย เขาตรงดิ่งเข้าไปที่โต๊ะประจำที่ทั้งคู่นัดมาเจอกันบ่อยๆเพราะเป็นที่ลับตาคน จะได้ไม่มีข่าวเล็ดรอดทำให้ลิตาเสียหาย
“วิน”
เมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มเดินมายังไม่ถึงโต๊ะเสียด้วยซ้ำลิตาก็ลุกขึ้น โผเข้ากอดจนเขาไม่ทันได้ตั้งตัว
“ลิตา คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงดื่มและร้องไห้หนักขนาดนี้”
เขาประคองร่างเล็กในอ้อมกอดกลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม พร้อมกับฟังสิ่งที่หญิงสาวระบายออกมาด้วยความอัดอั้น
“ทำไมอ่าวิน ทำไมอณุไม่เข้าใจลิตาเลย เขาแทบไม่มีเวลาให้ลิตาเลย เอะอะก็ซ้อมแต่บอล”
“ก็ช่วงนี้ใกล้แข่งคัดบอลโลกแล้วนี่ลิตา อณุก็ต้องซ้อมหนักเพื่อเป็นตัวแทนทีมชาติ ลิตาต้องใจเย็น ๆ นะแล้วค่อยไปปรับความเข้าใจกับอณุใหม่”
“ลิตาไม่เข้าใจเลย ทำไมต้องรักผู้ชายที่ไม่เห็นค่าลิตา ทำไมผู้ชายที่ ลิตารักไม่เป็นคุณ”
หญิงสาวพูดจบประโยคก็ฟุบหลับคาโต๊ะ อนาวินมองหญิงสาวตรงหน้าแล้วรู้สึกเจ็บปวดลงไปก้นบึ้งของหัวใจ
ต้นประโยคเธอบอกว่ารักอณุแต่ท้ายประโยคเธอให้ความหวังเขา และเขาก็ยังคงรอความรักจากเธอเหมือนเดิม
ถึงจะเป็นห่วงผู้หญิงตรงหน้าเพียงไหนแต่ชายหนุ่มก็ไม่สามารถหิ้วปีกเธอออกไปจากที่นี้ได้เพราะมีคนอยู่มากมาย คนที่จะได้รับความเสียหายอาจจะเป็นลิตาก็ได้
อนาวินยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาผู้จัดการส่วนตัวของเธอและนั่งรอจนเขามารับกลับไป หากจะโทรหาคนรักของลิตาก็คงมารับไม่ได้เพราะเจ้าตัวก็คงเก็บตัวเพื่อฝึกซ้อมฟุตบอล
แม้เขากับอณุจะรู้จักกันผ่านลิตาแต่เขาก็ไม่ได้สนิทชิดเชื้อด้วยเสียสักเท่าไร เพราะรู้สึกได้ว่าแฟนเพื่อนไม่ค่อยชอบหน้าเขาเสียสักเท่าไร เขาจึงทำได้แค่ขีดเส้นกั้นความรู้สึกกับลิตาเอาไว้ก็เท่านั้น
“ป้าไก่คะ ฝันรบกวนดูตาหนูสักครู่นะคะ”เพียงฝันยื่นหนูน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเพิ่งคลอดได้สามเดือนกว่าให้กับป้าแม่บ้าน ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับอดีตนางเอกชื่อดังอย่างลิตาที่มาหาเธอถึงบ้าน“ไม่เจอกันนานเลยนะคะ คุณลิตา”“ ค่ะ ก็นับตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้น ฉันก็บินไปอยู่ต่างประเทศเพิ่งกลับมาไม่กี่วันก่อน” หญิงสาวยิ้มให้พร้อมกับยกน้ำตรงหน้าขึ้นดื่ม“ฝันสียใจเรื่องลูกของคุณด้วยนะคะ” ในฐานะคนเป็นแม่เหมือนกันหล่อนย่อมเข้าใจดีว่ามันรู้สึกอย่างไร“ขอบคุณค่ะ ที่ลิตามาหาคุณวันนี้ก็เพราะอยากจะมาขอโทษเรื่องที่ผ่านมา ทำให้คุณกับวินเข้าใจผิดจนเกือบพรากพ่อลูกกันแล้ว”หลังจากที่เกิดเรื่องวันนั้นเธอก็รับรู้ว่าเพียงฝันตั้งท้องลูกของอนาวินจากการันต์ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดบาปที่คิดทำอะไรเอาความสะใจเป็นที่ตั้ง แต่สุดท้ายบทเรียนที่เธอได้รับมันก็สมควรแล้วขณะที่สองสาวคุยกันอยู่นั้นร่างสูงของอนาวินก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาจากด้านนอกเมื่อได้ยินป้าไก่พูดว่าลิตามาหาเพียงฝัน“วิ่งหน้าตื่นเข้ามาเลยนะคะวิน ลิตาไม่ทำอะไรเมียคุณหรอกค่ะ”ดวงหน้าหวานยิ้มรับเมื่อเห็นเพื่อนทำสีหน้าเหมือนว่าตนจะมาทำร้ายเมียก็อดขำไม่ได้“คุณลิตาเขามา
จากวันเลื่อนเป็นสัปดาห์อนาวินก็ยังคงปักหลักอยู่ที่ต่างจังหวัดเพื่อที่จะง้อเมียให้กลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม โดยที่ตัวเองก็เทียวบินขึ้นบินลงเพื่อไปประชุมกับบอร์ดผู้บริหาร“หนูฝันเอ้ย เสร็จหรือยัง เดี๋ยวจะไปไม่ทันพระฉันท์เช้านะ”เสียงผู้เฒ่าผู้แก่สองสามคนมาตะโกนเรียกเพียงฝันอยู่หน้าบ้านทำให้อนาวินที่กำลังง่วนอยู่กับการเซ็นต์เอกสารต้องรีบวางปากกาแล้ววิ่งออกมา“คุณยายจะพากันไปไหนเหรอครับ”“ไปวัดจ้า วันนี้วันพระใหญ่” คุณยายใจดีหันกลับมาตอบด้วยท่าทีเป็นมิตร“ผมไปด้วยได้ไหม” อนาวินกระตือรือร้นเดินเข้าไปคว้าตะกร้าจากมือเพียงฝัน“ไม่ได้” เธอปฏิเสธเสียงห้วน“คิดว่าห้ามผมได้เหรอ” เขายิ้มกริ่ม “มาครับคุณยายผมช่วยถือ” เขาไม่สนใจคำปฏิเสธของคนเจ้าเนื้อที่ยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่ทางด้านหลังเสียด้วยซ้ำบนศาลาใหญ่ผู้คนจากทั่วทั้งหมู่บ้านต่างมาทำบุญเช้านี้กันอย่างคับคั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่ร่างสูงเป็นตาเดียว จนกระทั่งมีป้าคนหนึ่งใจกล้าเอ่ยถามขึ้นมา“หนูฝันผู้ชายที่มาด้วยใช่สามีหรือเปล่า เห็นเขาลือกันทั้งหมู่บ้าน” ผู้คนบนศาลาต่างเงียบเพื่อรอฟังคำตอบราวกับกำลังลุ้นจับฉลากรางวัลป
ท่ามกลางสายตาผู้คนอนาวินก็ยังคงโอบกอดร่างกลมตรงหน้าไม่ยอมปล่อย ชายหนุ่มยอมรับว่าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเขาคิดถึงผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหนความอึดอัดทำให้เพียงฝันขืนตัวแล้วผลักร่างสูงออกจนเจ้าตัวเซถลาเล็กน้อยแต่ยังดีที่อนาวินดึงตัวเธอเอาไว้ได้“ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวลูกก็เป็นอะไรไปหรอก” เขาดุเล็ก ๆ แต่แววตาแฝงไปด้วยความเป็นห่วง“คุณมาที่นี่ทำไม ฝันว่าเราไม่ควรจะเจอกันอีกเสียด้วยซ้ำ”“ที่มาหาเพราะคิดถึงคุณกับลูก” เขาตอบด้วยความสัตย์จริง“เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของคุณ กลับไปเถอะ”“จะไม่ใช่ได้ยังไงคุณทำเองคนเดียวไม่ได้หรอกนะ อย่าทำแบบนี้เลยนะฝัน ยังไงผมก็เป็นพ่อของลูกเรานะ”...ลูกของเราอย่างนั้นเหรอ ตลกสิ้นดี“คุณกล้าใช้คำว่าลูกของเราทั้งที่ก่อนหน้านี้คุณบอกกับคุณลิตาว่าจะรับเป็นพ่อของลูกเธอแล้วขอหย่ากับฉันเนี่ยนะ”หญิงสาวยกยิ้มเยาะทั้งเจ็บทั้งเสียใจกับสิ่งที่เธอได้เจอมา“ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าคุณท้องนี่ คุณไม่ยอมบอกอะไรผมสักอย่าง”“แล้วคุณล่ะ เคยสนใจฉันบ้างหรือเปล่า อ่อ ลืมไปเราแต่งงานกันเพราะสัญญาที่คุณสร้างขึ้นมานี่นา ก่อนหน้านี่คุณอยากจะหย่ากับฉันใจแทบขาดแล้วตอนนี้จะมาเรียกร้องอะไร เราสองคนไม่มีอะไรเก
หกเดือนผ่านไป...“ท้องได้กี่เดือนแล้วนังหนู แล้วผัวเองไปไหน”มันยังคงเป็นคำถามเดิม ๆ ซ้ำ ๆที่เพียงฝันยังคงต้องตอบจากคนที่อาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกันเธอก็ยังคงยิ้มให้เหมือนเคย...ไร้ซึ่งคำตอบ...แต่พวกเขาก็มีความพยายามดีเหลือเกินที่ยังคงสอบถามเรื่อย ๆ แม้จะรู้ว่าไม่ได้คำตอบจากเธอ พอเธอไม่ได้บอกก็นำเรื่องราวไปใส่สีตีไข่แล้วบอกต่อๆ กันไปว่าเธอปล่อยให้ตัวเองท้องจนไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของเด็กแรก ๆ เธอก็เคืองจนอยากจะตามไปถอนหงอกถึงบ้านแต่มาคิดดูแล้วมันก็เป็นเรื่องปกติของคนต่างจังหวัดที่มักจะจับกุมนินทากันเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วมืออวบลูบหน้าท้องที่นูนออกมาไม่มากเพราะเป็นท้องแรกจึงไม่ค่อยโตเสียสักเท่าไร เจ้าตัวเล็กคงรับรู้ว่าเธอกำลังลูบท้องถึงตอบสนองด้วยการถีบเสียยกใหญ่“กลับมาแล้วเหรอคะแม่ ฝันกำลังจะขับรถออกไปตามพอดีเลย ไม่เห็นแม่กลับมาสักที”“จะไปตามทำไมกำลังท้องกำลังไส้แม่ไม่อยากให้แกขับรถมันอันตราย” รำพึงเอ็ดคนเป็นลูกที่แม้ว่าท้องกำลังโตแต่ก็ยังทำตัวคล่องแคล่วเหมือนตัวเองไม่ได้มีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในท้อง“ก็ฝันเป็นห่วงแม่นี่จ๊ะ ดูสิแก่ขนาดนี้ยังต้องทำงานแถมยังมีฝันกับลูกมาเป็นภาระอีกต่างหาก
“คนไข้ปลอดภัยดีนะครับ แต่หมอต้องขอแสดงความเสียใจด้วยที่ไม่สามารถรักษาเด็กในท้องไว้ได้”“เด็กในท้องหมายความว่ายังไงครับ” อณุปากคอสั่นเมื่อได้ยินผลการรักษา ลิตาท้องจริงอย่างนั้นเหรอ“คุณลิตาน่าจะตั้งครรภ์อ่อน ๆ โดยที่ไม่รู้ตัวนะครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวก่อนนะครับ”อณุแทบล้มทั้งยืน ร่างกายอ่อนปวกเปียกจนอนาวินและการันต์ต้องเข้ามาพยุงร่างเอาไว้ชายหนุ่มยกมือสั่นเทาขึ้นดูพร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลอาบสองแก้ม...เขาทำให้ลิตาแท้งลูกของตัวเองอย่างนั้นเหรอ“ไอ้นุ ใจเย็น ๆ แกต้องตั้งสติทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก คนที่แกต้องห่วงตอนนี้คือลิตา”การันต์ตบไหล่ปลอบเพื่อนจึงทำให้อณุตั้งสติได้ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องพักฟื้นร่างบอบบางนอนมองเพดานด้วยดวงตาเหม่อลอยแต่น้ำตายังคงไหลออกมา หญิงสาวไม่รู้ว่าต้องรู้สึกอย่างไรกันแน่ที่รู้ว่าตัวเองท้องจริง ๆ แต่ก็มาเสียลูกในท้องไปพร้อมกัน“ลิตา คุณเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”อณุนั่งลงด้านข้างพร้อมกับเอื้อมไปจับมือเธอขึ้นมากุมไว้ หญิงสาวหันมองหน้าเขาช้า ๆ แล้วก็สะอื้นออกมา“คุณคิดว่าฉันรู้สึกยังไงล่ะ ที่หลอกทุกคนว่าท้องทั้งที่ต
“ทุกคนมากันครบแล้วแกมีอะไรจะพูดก็พูดมา ฉันมีเวลาไม่มากต้องทำงาน”อนาวินหันกลับไปจ้องหน้าอณุแต่เจ้าตัวกลับมีสีหน้าเรียบเฉยแล้วเสมองไปยังร่างเล็กที่นั่งถัดไปไม่กี่เมตร“ก่อนอื่นผมต้องขอโทษคุณลุงกับคุณป้าก่อนนะครับที่เสียมารยาทเรียกออกมาแต่ถ้าผมไม่เรียกออกมา ไอ้วินก็คงไม่ออกไปพบพวกผมโดยพร้อมหน้ากันแน่นอน” อณุยกมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง“ไม่เป็นไรจ๊ะ ป้าเข้าใจ ว่าแต่มีอะไรก็รีบพูดมาเถอะจ๊ะ ต้องหายใจร่วมกับใครบางคนป้าหายใจไม่ค่อยออก” ว่าพลางปลายตามองลิตา“ถ้างั้นผมเข้าเรื่องเลยนะครับ ตอนนี้ผมคิดว่าคุณป้ากับคุณลุงคงเข้าใจว่าลิตาท้องกับอนาวิน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ครับ” อณุพูดออกมาช้า ๆ แต่เน้นย้ำทุกคำแต่มีหรือลิตาจะยอมอยู่เฉยเธอรีบเอ่ยขัด“หยุด ปล่อยให้อณุพูดทุกอย่างออกมา หล่อนอย่าเพิ่งขัด” คราวนี้เป็นเสียงทุ้มแต่น่าเกรงขามของคฑาเอ่ยขึ้นทุกคนจึงไม่มีใครกล้าแย้งใด ๆชายแก่ปล่อยให้ตัวเองนิ่งเงียบเรื่องของลูกชายมานานแล้วถึงเวลาที่ต้องจัดการทุกอย่างให้มันเรียบร้อยสักทีปล่อยให้มันกลายเป็นเรื่องยุ่งยากจนเกิดหย่าร้างมานานเกินไปแล้ว“แล้วยังไงต่อจ๊ะ เล่ามันออกมาเลย”คุณหญิงศจีจีบปากจีบคอพลางเยาะเย้