LOGIN“อาหารร้านนี้อร่อยนะครับ เวลาผมมาที่นี่ผมมาทานบ่อย”
“บ้านคุณภัทรอยู่ที่ไหนเหรอคะ?"
“บ้านผมอยู่กรุงเทพครับแต่ผมก็ชอบมาเที่ยวที่นี่ นี่ก็เป็นร้านพี่สาวผมครับ"
“จริงเหรอคะ พี่สาวคุณจัดร้านได้สวยนะคะวิวก็ดี อาหารอร่อยด้วย”
“ผมลืมถามไปเลยคุณจาร์มาจากไหนครับ?”
“จาร์มาจากกรุงเทพเหมือนกันค่ะ คุณน้าพามาเที่ยวที่นี่เป็นครั้งแรกเลย เพราะจาร์พึ่งกลับมาจากอเมริกา”
“คุณจาร์เคยไปที่อื่นมั้ยครับ” วีรภัทรชวนคุยตลอดเพราะอยากรู้จักจารุวีย์มากขึ้น เขาเป็นคนที่ไม่สนใจใครง่ายๆและแปลกที่เขาสนใจจารุวีย์มากๆ
“จาร์ไม่เคยไปเที่ยวไหนเลยค่ะที่นี่ที่แรก”
“คุณจาร์พูดไทยได้คล่องและดีมากเลยนะครับทั้งที่ไม่ได้อยู่ที่ไทย”
“พอดีคุณแม่สอนค่ะและจ้างครูภาษาไทยมาสอนด้วย จาร์เลยรู้ภาษาไทยทั้งหมด เพราะคุณแม่วางแพลนว่าจะพามาอยู่ที่ไทย” ทำไมคุณภัทรชวนคุยดีจังแต่ก็ดีนะทำให้ฉันผ่อนคลายกับเรื่องที่ทุกข์
“ผมขออนุญาตขอไลน์คุณจาร์ไว้ได้มั้ยครับ เผื่อกลับกรุงเทพแล้วคุณจาร์เหงาอยากไปเที่ยวที่ไหนผมจะได้แนะนำ” วีภัทรอ้างไปอีกว่าอยากแนะนำที่เที่ยวความจริงแล้วอยากจะสานต่อความสัมพันธ์กับจารุวีย์
“ได้สิคะ จาร์มาอยู่ที่นี่ก็ไม่มีเพื่อนเลย อย่างน้อยมีคุณเป็นเพื่อนจาร์จะได้ไม่ต้องเหงามากเหมือนอยู่คนเดียว”
ที่โรงแรม…
“ตาภูเห็นหนูจาร์มั้ย แม่ไปหาที่ห้องก็ไม่เห็น”
“ไม่เห็นครับ..เขาไปเดินเล่นรึป่าว” ภูริทัตพูดแต่ก็แอบเป็นห่วงอยู่เพราะตนทำผิดต่อเธอแถมไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลย
“แม่ลืมไปเลยว่ามีเบอร์น้องอยู่ เดี๋ยวลองโทรหาก่อนนะ”
“ครับ”
ที่ร้านอาหาร…
…กริ่งๆๆ เสียงโทรศัพท์จารุวีย์ดังขึ้น…
“ฮัลโหลค่ะคุณน้า…” .
“หนูจาร์อยู่ไหนลูก ตอนบ่ายเราจะกลับแล้วนะ”
“หนูอยู่ร้านอาหารที่ริมทะเลค่ะ อีกสักครู่หนูก็กลับแล้วค่ะ”
“รีบมานะ รีบมาเก็บของ”
“ได้ค่ะ คุณน้า” ถึงเวลาที่ฉันต้องกลับแล้วเหรอเนี้ยต้องกลับไปอยู่แบบเดิมๆต้องกลับไปเห็นหน้าคนที่ทำให้ฉันเป็นทุกข์
“คุณจาร์จะกลับแล้วเหรอครับ?"
“ใช่ค่ะ จาร์ต้องรีบไปเก็บของกลับกรุงเทพแล้ว” จารุวีย์พูดด้วยความถอดใจ
“ทำไมคุณจาร์ทำหน้าเหมือนไม่อยากกลับเลย” วีรภัทรเห็นจารุวีย์ทำหน้าอมทุกข์เหมือนอึดอัดไม่อยากเจอหน้าใครสักคน
“ป่าวหรอกค่ะ เดี๋ยวจาร์กลับก่อนนะคะค่าอาหารเท่าไหร่คะ”
“ไม่เป็นไรครับมื้อนี้ผมเลี้ยง” เลี้ยงไปทั้งชีวิตเลยยังได้สำหรับจารุวีย์เธอถูกใจผมมากไม่เหมือนใครที่ผมเคยเจอ
“ไม่เป็นไรค่ะ จาร์เกรงใจพึ่งเจอกัน จาร์ไม่กล้ารบกวนคุณภัทรหรอกค่ะ”
“รบกวนอะไรกันครับแค่นี้เอง อีกอย่างนี่ร้านอาหารพี่สาวผมเองผมขอเลี้ยงเองนะครับ” วีรภัทรไม่เคยพาใครมาทานข้าวด้วยสักคนเพราะเขาเองก็ไม่ค่อยสนใจใครเลยผู้หญิงมากมายเข้าหาเขาแต่เขากลับไม่ชอบจารุวีย์เป็นคนแรกที่พึ่งเจอแล้วกลับชวนมาทานข้าว และชอบจาร์มากด้วยซ้ำนี่สินะเขาเรียกรักแรกพบ
“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับอาหารอร่อยๆ จาร์ไปก่อนนะ” พูดเสร็จจารุวีย์ก็เดินออกไป
ฉันไม่คิดเลยว่าจะมาเจอคนที่ทำให้สบายใจแถมเป็นสุภาพบุรุษด้วยไม่เหมือนกับคุณภูบ้าบออะไรนั่น ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษอะไรเลย
เมาแล้วรู้ว่าไม่มีสติแล้วยังจะดื่มทำไมจนเมาขนาดนั้นความซวยเลยมาตกอยู่ที่ฉัน แต่ฉันเองก็ผิดที่ดื่มจนตัวเองไม่มีสติ แต่ถ้าเขาไม่เข้ามาเรื่องก็คงไม่เกิด ทำให้ฉันต้องเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดของฉันไปฉันเก็บไว้ให้สามีในอนาคตของฉันแท้ๆคิดแล้วก็ปวดหัว
ที่โรงแรม..
“หนูจาร์มาแล้วเหรอ รีบเก็บของเร็วเดี๋ยวน้าเก็บช่วย”
“ขอบคุณค่ะคุณน้า”
“เดี๋ยวผมกับข้าวไปรอที่รถนะครับ” ภูริทัตพูดแบบไม่สนใจใยดีอะไรจารุวีย์เลยทั้งที่เมื่อคืนมีความสัมพันธุ์กันแต่ก็ด้วยความไม่มีสติและเขาไม่ได้รักหนิ
“เดี๋ยวข้าวไปช่วยเก็บของน้องจาร์ด้วยดีกว่านะคะจะได้เสร็จเร็ว ภูไปรอที่รถเถอะค่ะ” ข้าวฟ่างเธอเองก็เป็นคนที่จิตใจดีไม่แปลกเลยที่ภูริทัตถึงรักเธอมากยอมเป็นคนเห็นแก่ตัวไม่รับผิดชอบจารุวีย์เพื่อที่จะได้แต่งงานกับข้าวฟ่าง
“ไม่ต้องหรอกข้าวของแค่นี่เก็บไม่นานหรอก” ภูริทัตพูดเสร็จก็ดึงมือข้าวฟ่างไปที่รถ
คุณข้าวฟ่างไม่ควรต้องมาเจอคนแบบคุณเลยด้วยซ้ำคนอะไรก็ไม่รู้ไม่คิดถึงคนอื่นเลย
ถึงบ้านภูริทัตก็ไปส่งข้าวฟ่างทำให้จารุวีย์รู้สึกนอยทั้งที่ไม่ได้รัก แต่ผู้หญิงเมื่อมีความสัมพันธุ์กับผู้ชายที่เป็นคนแรกมันก็ต้องมีความรู้สึกบ้างแหละ
>>>>>>ติดตามตอนต่อไป
หลังจากนั้นวุฒิชัยก็เดินเข้าไปในครัว เขากะจะโชว์ฝีมือการทำอาหารให้เมียเขาดูแต่เมื่อหันกลับไปเมียของเขากับนั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาไม่เดินตามเขามาเขาเดินกลับไปที่ห้องรับแขกไปยืนอยู่ตรงหน้าผู้เป็นเมีย“ทำไมคุณไม่ตามผมมา” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ข้าวฟ่างถึงกับสะดุ้งและเงยหน้ามอง“ไปไหน” เธอถามเพียงสั้นๆ พร้อมหน้าตาที่งงงวย“ไปครัวไงผมจะโชว์ฝีมือ” เธอได้แต่ถอนหายใจแค่ทำอาหารทำไมต้องให้เธอไปดูด้วย“ทำไมฉันต้องไปด้วยคุณทำมาให้กินเฉยๆ ไม่ได้เหรอ”“ก็ได้นั่งรออยู่นี่แหละ” สิ้นสุดเสียงนั้นหนุ่มหล่อผู้เป็นสามีก็เข้าครัวไปทำอาหารและสักพักก็ถือออกมาให้เมียของเขาทาน ข้าวฟ่างที่นั่งเล่นมือถืออยู่เมื่อได้ยินเสียงวางอาหารเธอก็รีบวางมือถือเพื่อจะชิม“ฉันรอชิมก่อนนะ” สิ้นสุดเสียงเธอก็ใช้ซ้อมตักโดยไม่รอคำตอบจากสามี เมื่ออาหารเข้าปากคำแรกเธอก็ได้รับรสชาติที่แสนอร่อยและไม่คิดว่าเขาจะทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้“เป็นไงบ้าง อร่อยมั้ยครับคุณหนูข้าวฟ่าง” ใบหน้าแห่งความคาดหวังให้เมียชมก็จ้องมองไปที่หน้าของเธอ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ ก็พอทานได้ให้สอนคุณทำอาหาร” ต่อให้อาหารจะอร่อยแค่ไหนเธอก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียฟอร์ม“งั้นเห
“คุณไปเอารูปผมมาจากไหน” ใบหน้าที่แทบจะเก็บรอยยิ้มของเขาไว้ไม่อยู่ทั้งพูดทั้งมองหน้าเธอ“ในเฟชบุ๊คและไลนฺ์คุณไง เอามาไม่ได้เหรอ”“ก็ได้แต่แค่แปลกใจเฉยๆ ไหนคุณบอกไม่อยากลบรูปเขาไงกลัวไม่มีโอกาสได้ถ่ายอีก” คำพูดของเขาดูนอยๆ แต่ความจริงก็หายโกรธตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วแหละแค่แกล้งถามไป“พอมาคิดดูๆ แล้วเขาก็แค่อดีตไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันแล้ว ปัจจุบันนี้ต่างหากที่สำคัญ” เธอพูดและส่งรอยยิ้มหวานให้สามีเธอทำให้หัวใจของเขาพองโตยิ้มออกมาด้วยความเขิน“จริงเหรอผมสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอ”“เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงฉันเองต่างหากที่ยืนอยู่ในปัจจุบันควรที่จะเห็นความสำคัญของตัวเองไม่ควรไปยึดติด” คำพูดของเธอกับทำให้เขาโกรธอีกครั้ง เขาเดินหนีไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของเขาทำให้ข้าวฟ่างเข้าใจในทันทีว่าเขาน้อยใจอีกแล้ว เธอรีบเดินตามเขาไป“คุณเป็นอะไรคะ” หญิงสาวนั่งลงข้างๆ สามีและยื่นหน้าไปถามเขาทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังน้อยใจเธอ“เปล่าครับ”“ฉันล้อเล่น คุณก็สำคัญเหมือนกันนะไม่งั้นฉันไม่มาง้อถึงที่นี่หรอก” ได้ยินแบบนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็กอดไปที่เอวเธออัตโนมัติ และโน้มตัวไปหอมแก้มเธอ“จริงเหรอ”“คุณ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งนิ่งเงียบและมองหน้าเธอแปลกๆ เธอจึงเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย“คุณเป็นอะไรรึเปล่าทำไมมองหน้าฉันแปลกๆ”“เปล่า” สายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของเขาก็แสดงออกมาทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าคำปฏิเสธของเขานั้นต้องมีอะไรแน่ๆ“แน่ใจเหรอคะ” เธอถามทวนเขาอีกรอบเพราะรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเก็บความอึดอัดไว้คนเดียวได้เดี๋ยวก็ต้องบอกความต้องการของเขามา ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานแต่เธอมั่นใจว่าเธอรู้จักเขาดีพอ“ผมถามจริงๆ เถอะคุณยังรักคุณภูริทัตอยู่รึป่าว”“คุณถามทำไม”“ผมแค่อยากรู้” บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกลัวว่าเมียจะยังรักแฟนเก่าอยู่สายตาที่ต้องการคำตอบมองเธอไม่กระพริบสายตา“ฉันไม่รู้แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรแล้ว ไม่แน่ใจว่าไม่รักแล้วรึเปล่า” เธอยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอาจจะไม่รักแล้วแต่แค่ยังเสียดายเวลาที่ผ่านมาเพราะคบกันมาตั้งหลายปีจะให้ลืมสนิทมันคงเป็นไปได้ยากอาจจะแค่นึกถึงแค่นั้น“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่รักเขาแล้ว ผมยังเห็นรูปเขาอยู่เต็มโทรศัพท์ของคุณอยู่เลย" เขาแสดงอาการของคนที่ขี้น้อยใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดข้าวฟ่างเธอไม่คิิดว่าผู้ช
“สวัสดีน้ำหวาน” เธอทักทายกลับโดยไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เธอเหล่ตาไปมองที่ข้างๆ ที่ข้าวฟ่างนั่งเห็นวุฒิชัยก็สะดุดตาในความหล่อเหลาของเขา“ภูไปไหนแล้วละทำไมได้มากับผู้ชายอื่น”“เลิกกันแล้ว”“อุ้ย!ทำไมได้เลิกเหรอเห็นรักกันดีอยู่นะรักกันมาตั้งหลายปีเธอปล่อยภูหลุดมือไปได้ยังไงกันอุส่าแย่งไปจากฉัน”“พูดให้มันดีๆ นะฉันไม่เคยแย่งภูมาจากเธอแต่ภูไม่เคยเป็นของเธอเลยต่างหาก” เธอเงยหน้าขึ้นขิงใส่น้ำหวานอย่างเบื่อหน่ายเพราะน้ำหวานตามราวีเธอไม่เลิกจนไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีนึกว่าเธอจะเลิกแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม“อย่าทำมาพูดหน่อยเลย ตอนนี้เป็นไงได้ข่าวว่าภูเขามีลูกมีเมียใหม่แล้วหนิ” เธอพูดเยาะเย้ยใส่ทำให้ข้าวฟ่างโกรธเพราะเหมือนมากรีดแผลใจเธอแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บมากเหมือนเมื่อก่อนอาจเป็นเพราะเธอได้อยู่ใช้ชีวิตกับวุฒิชัยผู้ชายไม่เอาไหนที่เจ้าชู้ไปวันๆ แต่วันนี้เหมือนราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“มีใหม่แล้วยังไง ฉันก็มีใหม่แล้วเหมือนกันทั้งหล่อรวยเธอละมีปัญญาหาได้สักคนรึยังมาเที่ยวยุ่งเรื่องคนอื่นนี่ ออกไปจากโต๊ะนี่ได้แล้วไปเกะกะลูกตา” เธอเอนหัวไปที่ไหล่ของวุฒิชัยและกอดแขนเขาเพื่อทำใส่น้ำหวานเธอโกรธและ
ข้าวฟ่างยังคงยืนนิ่งกับคำถามของวุฒิชัยอยู่“ขึ้นรถเถอะ”“ตอบผมมาก่อนสิ” สายตาแห่งความคาดหวังมองไปที่หน้าของเธออย่างจริงจังแต่เธอกลับหลบสายตาเขา“ขึ้นรถไปก่อนแล้วฉันจะตอบ” พูดจบขาทั้งสองข้างของเธอก็ก้าวขึ้นรถและยังคงนั่งนิ่งเงียบคิดเรื่องที่เขาถามเธอความสับสนมากมายอยู่ในใจของเธอ“ว่าไงครับ” เขายังคงต้องการคำตอบจากเธออยู่จี้ถามให้เธอตอบ“ฉันไม่รู้เหมือนกัน คุณมันเจ้าชู้ฉันไม่รู้จะเอาคุณอยู่รึเปล่าฉันไม่กล้าเปิดใจเพราะกลัวจะเป็นแบบภูอีก” เธอพูดพร้อมก้มหน้าลง“แต่ผมไม่ใช่เขา ถึงเวลาที่ผมหยุดผมก็หยุดได้ที่ผมทำตัวเจ้าชู้เพราะผมยังไม่เจอคนที่ใช่ แต่ตอนนี้ผมอยากใช้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุขกับคุณ” เขาพูดด้วยหน้าตาที่จริงจัง“ฉันยังไม่กล้าเปิดใจกับคุณหรอกพูดจริงๆ นะฉันเข็ดกับความรักจริงๆ” สองสายตาของเธอมองไปที่เขาด้วยความรู้สึกที่ดีแต่เธอกลัวจริงๆ เพราะเขาเจ้าชู้จริงๆ ในขณะที่เธอท้องไปหาเขายังนัวเนียกับผู้หญิงอื่นไปทั่วเลย“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่ไอ้หมอนั้น!” เขาพูดเสียงดังด้วยความเคืองที่เธอเอาแต่นึกถึงภูริทัต“ก็คุณเจ้าชู้ไง ผู้หญิงมาหาคุณไม่ซ้ำหน้าจะให้ฉันเชื่อใจคุณได้ยังไง” เธอพูดออกไปแบบนั้
05 : 20 น.เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายเธอเหมือนมีอะไรมากอดอยู่เมื่อก้มลงมามองดูก็เห็นเป็นแขนของวุฒิชัยที่กำลังกอดเธออยู่เธอรีบลุงขึ้นและแขนของเขากับกอดเธอลงไปนอนอีก“นี่คุณมานอนกอดฉันได้ยังไงกันใครอนุญาตให้กอดไม่ทราบ” เธอหันหน้าไปถามเขาด้วยเสียงดุใส่“ไม่มีอะ ผมอยากกอดก็กอดเลยคุณมีปัญหาเหรอนี่เมียผม” เขาพูดหน้าตาเฉยใส่เธอ“แค่เมียในนามเท่านั้นแหละ ฉันเป็นแค่แม่ของลูกคุณเท่านั้น”“ไม่อ่ะ คุณเป็นเมียผมคืนนั้นยังร่วมรักกันอยู่เลย” สิ้นสุดเสียงนั้นก็มีฝามือเล็กๆ ตีลงที่หน้าอกของเขาโอ้ยยยย!! เสียงที่ทำเขาสะดุ้งอาจไม่เจ็บสักเท่าไหร่แต่ก็แสบไม่น้อย“นี่คุณอย่ามาพูดทะลึงนะ คุณมันชอบฉวยโอกาส” เธอโกรธที่เขาพูดเรื่องนี่หรือเขินก็ไม่แน่ใจ“ใจร้ายจังแค่พูดความจริงก็รับไม่ได้” เขากอดเธอให้แน่นกว่าเดิม ยิ่งเธอทำเหมือนหวงตัวแบบนี้ยิ่งชอบเขาไม่ชอบผู้หญิงง่ายๆ แต่เขาก็เอาเหมือนเดิมแต่กับข้าวฟ่างเขารู้สึกว่ามันน่าค้นหาดีเล่นตัวแบบนี้“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” เธอพูดเสียงแข็งให้เขาเลิกกอดเธอ“ไม่นะ ขอนอนกอดก่อน”เปี๊ยะ!! เสียงตีไปที่หน้าอกเขาอีกรอบ ทำให้เขาคายกอดออกอย่างรวดเร็ว“เอะอะก็ตีเป็นลูกเลี้ยงเ







