LOGINหลังจากที่ภูริทัตกลับถึงห้องตัวเอง อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็ไปรอข้าวฟ่าง ในใจของเขาคิดถึงแต่เรื่องเมื่อคืนเขาพยายามจะทำตัวให้ปกติ แต่ในตาของเขามีแต่ความกังวลบวกความรู้สึกผิด
“ภูคะ รอนานมั้ยคะ?” ข้าวฟ่างเอ่ยถาม โดยที่ไม่รู้เลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น
“ไม่นานครับ..ไปทานข้าวกันเถอะ”
“แล้วคุณแม่และน้องจาร์ละคะ?” ข้าวฟ่างถามด้วยความเป็นห่วง
“เดี๋ยวเขาก็มาทีหลังแหละครับ เราไปก่อนเถอะ” ภูริทัตพยายามหลบหน้าจารุวีย์เพราะรู้สึกผิดต่อเธอและยังมาเห็นแก่ตัวแบบนี้อีก…อีกอย่างภูริทัตรู้ดีว่าจารุวีย์ได้เสียความบริสุทธิ์ให้เขาซึ่งต่างจากข้าวที่เคยผ่านผู้ชายมาก่อนที่จะมาเจอเขา
“ไปกันค่ะ”
“หนูจาร์ไปทานข้าวกันเถอะลูกแต่งตัวเสร็จรึยัง”
“คุณน้าไปทานเถอะค่ะหนูไม่ค่อยหิว” ฉันคงไม่มีอารมณ์ที่จะไปไหนหรอกความรู้สึกของฉันมันไม่โอเคสักเท่าไหร่
ดาราวรรณเข้าใจว่าจารุวีย์ยังคงคิดเรื่องที่เกิดขึ้นคงต้องการอยู่คนเดียวเธอจึงปล่อยให้จารุวีย์ได้อยู่กับตััวเองสักพัก
“งั้นน้าไปก่อนนะ ถ้าหนูหิวก็โทรบอกน้านะเดี๋ยวน้าจะให้คนเอาอาหารมาส่ง”
“ค่ะคุณน้า ขอบคุณนะคะ”
เวลา 09:04น.
จารุวีย์ได้ออกไปเดินเล่นที่ชายหาดคนเดียวโดยที่เธอเดินเหมอลอยวนคิดแต่เรื่องเดิมๆ และเดินไปชนเข้ากับคนๆ หนึ่ง
“อุ้ย..ขอโทษค่ะ” จารุวีย์เอ่ยขอโทษ และกำลังมองขึ้นไปมองหน้าคนๆ หนึ่งที่ตนเดินชน เธอได้เห็นกับผู้ชายคนหนึ่ง สูง176 ผิวขาว หน้าตาหล่อเหลา ตาเป็นประกายกำลังจ้องมองเขาอยู่
“ไม่เป็นไรครับ..คุณเป็นอะไรรึป่าว?” ชายคนนั้นถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นเธอเดินเหมอลอยเหมือนคนที่อมความทุกข์
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“เอ่อ…ว่าแต่คุณมาคนเดียวเหรอครับ?” ชายคนนั้นถามอย่างสนใจเพราะเขาเห็นหน้าของจารุวีย์แล้วเกิดการชอบ จารุวีย์มีหน้าตาที่สะสวย และน่ารัก เธอตัวเล็กมีผิวที่ขาว ดวงตาโตๆ กลมยิ่งมองยิ่งชวนหลงไหล
“ฉันมากับพวกคุณน้าค่ะ แต่ฉันออกมาเดินคนเดียว”
“ผม วีรภัทร หรือเรียกสั้นๆ ว่า ภัทร นะครับ ว่าแต่คุณ..?”
“จารุวีย์ค่ะ หรือเรียกว่า จาร์ ก็ได้ค่ะ” ทำไมกันนะกับคนนี้ที่ฉันพึ่งเจอฉันกลับรู้สึกผ่อนคลายที่ได้คุยกับเขา
“คุณจาร์ดูเหมอลอยนะครับคุณมีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึป่าว?”
“ฉันมีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยค่ะแต่ช่างมันเถอะค่ะ ฉันขอตัวไปทานข้าวก่อนนะคะ”
“คุณจาร์จะไปทานข้าวเหรอครับ? พอดีเลยผมเองก็กำลังจะไปทานข้าวเหมือนกันถ้าไม่รังเกียจไปทานด้วยกันมั้ยครับ”
วีรภัทร เอ่ยถามด้วยความสนใจจารุวีย์
เอาไงดีนะ พึ่งเจอกันฉันจะไปกับเขาดีมั้ยนะ จารุวีย์ตั้งคำถามกับตัวเองในใจแต่ก็เหงาที่ไม่มีเพื่อนเลยเธอเลยตัวสินใจที่จะไปทานข้าวกับเขา ไปเถอะจาร์ดีกว่าที่จะต้องมาอยู่คนเดียวแบบนี้ยังไงก็ไม่มีเพื่อนอยูู่่แล้วแค่ไปทานข้าวคงไม่เสียหายอะไร
“งั้นก็ไปกันค่ะ” จาร์พูดจบก็เดินนำไปที่ห้องอาหารของโรงแรม
“เดี๋ยวก่อนครับคุณจาร์..” วีรภัทรเอ่ยขึ้นขณะที่จารุวีย์กำลังเดิน
“ว่าไงคะ?”
“คือคุณจาร์จะไปทานที่ห้องอาหารของโรงแรมเหรอครับ?”
“ใช่ค่ะ จาร์พึ่งมาครั้งแรกก็รู้แค่ห้องอาหารของโรงแรมนี่แหละค่ะ ทำไมเหรอคะ?”
“เดี๋ยวผมจะพาคุณจาร์ไปทานอาหารที่ร้านริ่มทะเลอาหารอร่อยและวิวดีเลยทีเดียว”
“ที่ไหนเหรอคะ” จารุวีย์ถามอย่างสนใจ และไม่กลัวด้วยที่จะไปกับเขาเพราะเขาท่าทางไว้ใจได้อีกอย่างชีวิตของเธอก็พึ่งเจอกับเรื่องแย่ๆ มาแล้วเธอไดูคุยกับเขาทำให้เธอสบายใจ แถมเขายังหล่อเหลาขนาดนั้น
“ร้านอยู่อีกไม่ไกลครับแต่ต้องเดินไปนะครับเดินไหวมั้ย?”
“สบายมากค่ะ”
“งั้นไปกันครับ”
…..
ที่ร้านอาหาร….
“ว้าว..สวยมาเลยค่ะวิวนี้ดีมากเลยนะคะ อากาศก็ดีลมพัดเย็นสบายเลย” จารุวีย์รู้สึกดีและผ่อนคลายมากที่มาเห็นบรรยากาศดีๆ แบบนี้
“สวยใช่มั้ยละครับ ผมบอกแล้วเดี๋ยวผมสั่งอาหารให้เลยนะครับอร่อยปน่นอน”
“ได้เลยค่ะ” ทำไมฉันอยู่กับผู้ชายคนนี้ฉันรู้สึกสบายใจกว่าที่อยู่บ้านคุณน้าอีก
>>>>ติดตามตอนต่อไป
หลังจากนั้นวุฒิชัยก็เดินเข้าไปในครัว เขากะจะโชว์ฝีมือการทำอาหารให้เมียเขาดูแต่เมื่อหันกลับไปเมียของเขากับนั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาไม่เดินตามเขามาเขาเดินกลับไปที่ห้องรับแขกไปยืนอยู่ตรงหน้าผู้เป็นเมีย“ทำไมคุณไม่ตามผมมา” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ข้าวฟ่างถึงกับสะดุ้งและเงยหน้ามอง“ไปไหน” เธอถามเพียงสั้นๆ พร้อมหน้าตาที่งงงวย“ไปครัวไงผมจะโชว์ฝีมือ” เธอได้แต่ถอนหายใจแค่ทำอาหารทำไมต้องให้เธอไปดูด้วย“ทำไมฉันต้องไปด้วยคุณทำมาให้กินเฉยๆ ไม่ได้เหรอ”“ก็ได้นั่งรออยู่นี่แหละ” สิ้นสุดเสียงนั้นหนุ่มหล่อผู้เป็นสามีก็เข้าครัวไปทำอาหารและสักพักก็ถือออกมาให้เมียของเขาทาน ข้าวฟ่างที่นั่งเล่นมือถืออยู่เมื่อได้ยินเสียงวางอาหารเธอก็รีบวางมือถือเพื่อจะชิม“ฉันรอชิมก่อนนะ” สิ้นสุดเสียงเธอก็ใช้ซ้อมตักโดยไม่รอคำตอบจากสามี เมื่ออาหารเข้าปากคำแรกเธอก็ได้รับรสชาติที่แสนอร่อยและไม่คิดว่าเขาจะทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้“เป็นไงบ้าง อร่อยมั้ยครับคุณหนูข้าวฟ่าง” ใบหน้าแห่งความคาดหวังให้เมียชมก็จ้องมองไปที่หน้าของเธอ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ ก็พอทานได้ให้สอนคุณทำอาหาร” ต่อให้อาหารจะอร่อยแค่ไหนเธอก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียฟอร์ม“งั้นเห
“คุณไปเอารูปผมมาจากไหน” ใบหน้าที่แทบจะเก็บรอยยิ้มของเขาไว้ไม่อยู่ทั้งพูดทั้งมองหน้าเธอ“ในเฟชบุ๊คและไลนฺ์คุณไง เอามาไม่ได้เหรอ”“ก็ได้แต่แค่แปลกใจเฉยๆ ไหนคุณบอกไม่อยากลบรูปเขาไงกลัวไม่มีโอกาสได้ถ่ายอีก” คำพูดของเขาดูนอยๆ แต่ความจริงก็หายโกรธตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วแหละแค่แกล้งถามไป“พอมาคิดดูๆ แล้วเขาก็แค่อดีตไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันแล้ว ปัจจุบันนี้ต่างหากที่สำคัญ” เธอพูดและส่งรอยยิ้มหวานให้สามีเธอทำให้หัวใจของเขาพองโตยิ้มออกมาด้วยความเขิน“จริงเหรอผมสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอ”“เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงฉันเองต่างหากที่ยืนอยู่ในปัจจุบันควรที่จะเห็นความสำคัญของตัวเองไม่ควรไปยึดติด” คำพูดของเธอกับทำให้เขาโกรธอีกครั้ง เขาเดินหนีไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของเขาทำให้ข้าวฟ่างเข้าใจในทันทีว่าเขาน้อยใจอีกแล้ว เธอรีบเดินตามเขาไป“คุณเป็นอะไรคะ” หญิงสาวนั่งลงข้างๆ สามีและยื่นหน้าไปถามเขาทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังน้อยใจเธอ“เปล่าครับ”“ฉันล้อเล่น คุณก็สำคัญเหมือนกันนะไม่งั้นฉันไม่มาง้อถึงที่นี่หรอก” ได้ยินแบบนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็กอดไปที่เอวเธออัตโนมัติ และโน้มตัวไปหอมแก้มเธอ“จริงเหรอ”“คุณ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งนิ่งเงียบและมองหน้าเธอแปลกๆ เธอจึงเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย“คุณเป็นอะไรรึเปล่าทำไมมองหน้าฉันแปลกๆ”“เปล่า” สายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของเขาก็แสดงออกมาทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าคำปฏิเสธของเขานั้นต้องมีอะไรแน่ๆ“แน่ใจเหรอคะ” เธอถามทวนเขาอีกรอบเพราะรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเก็บความอึดอัดไว้คนเดียวได้เดี๋ยวก็ต้องบอกความต้องการของเขามา ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานแต่เธอมั่นใจว่าเธอรู้จักเขาดีพอ“ผมถามจริงๆ เถอะคุณยังรักคุณภูริทัตอยู่รึป่าว”“คุณถามทำไม”“ผมแค่อยากรู้” บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกลัวว่าเมียจะยังรักแฟนเก่าอยู่สายตาที่ต้องการคำตอบมองเธอไม่กระพริบสายตา“ฉันไม่รู้แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรแล้ว ไม่แน่ใจว่าไม่รักแล้วรึเปล่า” เธอยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอาจจะไม่รักแล้วแต่แค่ยังเสียดายเวลาที่ผ่านมาเพราะคบกันมาตั้งหลายปีจะให้ลืมสนิทมันคงเป็นไปได้ยากอาจจะแค่นึกถึงแค่นั้น“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่รักเขาแล้ว ผมยังเห็นรูปเขาอยู่เต็มโทรศัพท์ของคุณอยู่เลย" เขาแสดงอาการของคนที่ขี้น้อยใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดข้าวฟ่างเธอไม่คิิดว่าผู้ช
“สวัสดีน้ำหวาน” เธอทักทายกลับโดยไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เธอเหล่ตาไปมองที่ข้างๆ ที่ข้าวฟ่างนั่งเห็นวุฒิชัยก็สะดุดตาในความหล่อเหลาของเขา“ภูไปไหนแล้วละทำไมได้มากับผู้ชายอื่น”“เลิกกันแล้ว”“อุ้ย!ทำไมได้เลิกเหรอเห็นรักกันดีอยู่นะรักกันมาตั้งหลายปีเธอปล่อยภูหลุดมือไปได้ยังไงกันอุส่าแย่งไปจากฉัน”“พูดให้มันดีๆ นะฉันไม่เคยแย่งภูมาจากเธอแต่ภูไม่เคยเป็นของเธอเลยต่างหาก” เธอเงยหน้าขึ้นขิงใส่น้ำหวานอย่างเบื่อหน่ายเพราะน้ำหวานตามราวีเธอไม่เลิกจนไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีนึกว่าเธอจะเลิกแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม“อย่าทำมาพูดหน่อยเลย ตอนนี้เป็นไงได้ข่าวว่าภูเขามีลูกมีเมียใหม่แล้วหนิ” เธอพูดเยาะเย้ยใส่ทำให้ข้าวฟ่างโกรธเพราะเหมือนมากรีดแผลใจเธอแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บมากเหมือนเมื่อก่อนอาจเป็นเพราะเธอได้อยู่ใช้ชีวิตกับวุฒิชัยผู้ชายไม่เอาไหนที่เจ้าชู้ไปวันๆ แต่วันนี้เหมือนราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“มีใหม่แล้วยังไง ฉันก็มีใหม่แล้วเหมือนกันทั้งหล่อรวยเธอละมีปัญญาหาได้สักคนรึยังมาเที่ยวยุ่งเรื่องคนอื่นนี่ ออกไปจากโต๊ะนี่ได้แล้วไปเกะกะลูกตา” เธอเอนหัวไปที่ไหล่ของวุฒิชัยและกอดแขนเขาเพื่อทำใส่น้ำหวานเธอโกรธและ
ข้าวฟ่างยังคงยืนนิ่งกับคำถามของวุฒิชัยอยู่“ขึ้นรถเถอะ”“ตอบผมมาก่อนสิ” สายตาแห่งความคาดหวังมองไปที่หน้าของเธออย่างจริงจังแต่เธอกลับหลบสายตาเขา“ขึ้นรถไปก่อนแล้วฉันจะตอบ” พูดจบขาทั้งสองข้างของเธอก็ก้าวขึ้นรถและยังคงนั่งนิ่งเงียบคิดเรื่องที่เขาถามเธอความสับสนมากมายอยู่ในใจของเธอ“ว่าไงครับ” เขายังคงต้องการคำตอบจากเธออยู่จี้ถามให้เธอตอบ“ฉันไม่รู้เหมือนกัน คุณมันเจ้าชู้ฉันไม่รู้จะเอาคุณอยู่รึเปล่าฉันไม่กล้าเปิดใจเพราะกลัวจะเป็นแบบภูอีก” เธอพูดพร้อมก้มหน้าลง“แต่ผมไม่ใช่เขา ถึงเวลาที่ผมหยุดผมก็หยุดได้ที่ผมทำตัวเจ้าชู้เพราะผมยังไม่เจอคนที่ใช่ แต่ตอนนี้ผมอยากใช้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุขกับคุณ” เขาพูดด้วยหน้าตาที่จริงจัง“ฉันยังไม่กล้าเปิดใจกับคุณหรอกพูดจริงๆ นะฉันเข็ดกับความรักจริงๆ” สองสายตาของเธอมองไปที่เขาด้วยความรู้สึกที่ดีแต่เธอกลัวจริงๆ เพราะเขาเจ้าชู้จริงๆ ในขณะที่เธอท้องไปหาเขายังนัวเนียกับผู้หญิงอื่นไปทั่วเลย“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่ไอ้หมอนั้น!” เขาพูดเสียงดังด้วยความเคืองที่เธอเอาแต่นึกถึงภูริทัต“ก็คุณเจ้าชู้ไง ผู้หญิงมาหาคุณไม่ซ้ำหน้าจะให้ฉันเชื่อใจคุณได้ยังไง” เธอพูดออกไปแบบนั้
05 : 20 น.เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายเธอเหมือนมีอะไรมากอดอยู่เมื่อก้มลงมามองดูก็เห็นเป็นแขนของวุฒิชัยที่กำลังกอดเธออยู่เธอรีบลุงขึ้นและแขนของเขากับกอดเธอลงไปนอนอีก“นี่คุณมานอนกอดฉันได้ยังไงกันใครอนุญาตให้กอดไม่ทราบ” เธอหันหน้าไปถามเขาด้วยเสียงดุใส่“ไม่มีอะ ผมอยากกอดก็กอดเลยคุณมีปัญหาเหรอนี่เมียผม” เขาพูดหน้าตาเฉยใส่เธอ“แค่เมียในนามเท่านั้นแหละ ฉันเป็นแค่แม่ของลูกคุณเท่านั้น”“ไม่อ่ะ คุณเป็นเมียผมคืนนั้นยังร่วมรักกันอยู่เลย” สิ้นสุดเสียงนั้นก็มีฝามือเล็กๆ ตีลงที่หน้าอกของเขาโอ้ยยยย!! เสียงที่ทำเขาสะดุ้งอาจไม่เจ็บสักเท่าไหร่แต่ก็แสบไม่น้อย“นี่คุณอย่ามาพูดทะลึงนะ คุณมันชอบฉวยโอกาส” เธอโกรธที่เขาพูดเรื่องนี่หรือเขินก็ไม่แน่ใจ“ใจร้ายจังแค่พูดความจริงก็รับไม่ได้” เขากอดเธอให้แน่นกว่าเดิม ยิ่งเธอทำเหมือนหวงตัวแบบนี้ยิ่งชอบเขาไม่ชอบผู้หญิงง่ายๆ แต่เขาก็เอาเหมือนเดิมแต่กับข้าวฟ่างเขารู้สึกว่ามันน่าค้นหาดีเล่นตัวแบบนี้“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” เธอพูดเสียงแข็งให้เขาเลิกกอดเธอ“ไม่นะ ขอนอนกอดก่อน”เปี๊ยะ!! เสียงตีไปที่หน้าอกเขาอีกรอบ ทำให้เขาคายกอดออกอย่างรวดเร็ว“เอะอะก็ตีเป็นลูกเลี้ยงเ







