LOGINหลังจากที่เขามีอะไรกันเสร็จภูริทัตก็พูดกับจารุวีย์ สายตาของเขาดูหวงจารุวีย์มาก
“ฉันบอกกับเธอแล้วใช่มั้ยว่าเธอห้ามไปกับนายพลนั้นสองต่อสอง ทำไมไม่ฟังฉันบ้าง” เขามองหน้าเธอด้วยความนอยเพราะความโกรธทั้งหมดเขาได้ระบายมันออกไปหมาแล้ว “พอใจคุณแล้วใช่มั้ย” เธอถามเพียงคำเดียว “เธอโกรธฉันเหรอ” “ป่าวหรอก ถ้าคุณอยากอยู่กับฉันและลูกจริงๆ คุณไปเคลียร์คนของคุณให้เรียบร้อยก่อนเถอะ ถ้าเขายังมาระรานแบบนี้ลูกคลอดออกมาเขาจะรู้สึกยังไงเขาต้องมารับรู้กับสิ่งที่เขาไม่รู้เรื่อง” สายตาแห่งความกังวลก็เกิดขึ้นสำหรับเธอ “เธอฟังฉันนะ! ฉันกำลังพยายามอยู่ถ้าจะให้ฉันไปว่าข้าวมันก็ไม่ใช่เพราะเธอไม่ได้ผิดอะไรเลยคนที่ผิดมันเป็นฉันเอง” “ฉันเข้าใจนะแต่คุณก็รีบเคลียร์ให้มันจบๆ ฉันไม่อยากเห็นสายตาผู้คนที่มองฉันแบบนั้นอีก” พูดจบเธอก็เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ส่วนภูริทัตก็นั่งเครียดกับเรื่องทั้งหมดจะว่าเขาเลิกรักข้าวฟ่างทั้งหมดก็ไม่ใช่เพราะเขาเองก็ยังห่วงความรู้สึกของเธออยู่จารุวีย์อาบน้ำเสร็จก็เข้านอนส่วนภูริทัตก็ไปอาบน้ำและมานอนกอดจารุวีย์ 06:45 น. จารุวีย์และภูริทัตก็ลงมาทานอาหารเช้า “หนูจาร์หนูจะไปไหนแต่เช้า” “ไปทำงานที่บริษัทคุณแม่ค่ะ” จารุวีย์หยุดทานอาหารและตอบแม่สามีของเธอ “หนูไม่มาทำที่บริษัทกับพี่ภูละลูกเดี๋ยวบริษัทนี่ก็เป็นของลูกสองคน หรือหนูไม่จำเป็นต้องทำก็ได้นะพักผ่อนอยู่บ้านหรือไปเที่ยวผ่อนคลายก็ได้ตาภูเลี้ยงหนูได้นะไม่เห็นต้องลำบากเลย" “คุณแม่ไม่มีคนช่วยค่ะและหนูก็ไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ ด้วย” “งั้นก็ตามใจหนูละกันอย่าหักโหมมากนะเดี๋ยวจะกระทบกับลูกในท้อง เดี๋ยวแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดก่อนนะดูแลตัวเองดีๆ ด้วย” “ครับ/ค่ะ” หลังจากที่ทั้งสองตอบไปดาราวรรณก็เดินไปที่รถเธอไปเที่ยวกับเพื่อนสููงวัยของเธอที่ต่างจังหวัด “เธอไปที่ทำงานฉันก่อนมั้ยฉันอยากให้เธอไปนั่งรอฉันที่นั้น” ภูริทัตเอ่ยถามภรรยาของเขาเพราะอยากอยู่ใกล้ภรรยาเขาตลอด “ฉันมีงานที่ต้องทำนะ จะให้ฉันไปนั่งรอคุณคิดว่าฉันไม่เบื่องั้นเหรอ?” “ก็ฉันไม่อยากห่างจากเธอนี่น่า” สายตาของเขาจ้องมองจารุวีย์ด้วยความคลั่งรัก “อย่าเวอร์ไปหน่อยเลย เดี๋ยวก็เจอกันตอนเย็น” เธอยิ้มอ่อนๆ และมองไปที่หน้าภูริทัตการที่เขาได้อยู่กับคนที่เขารักมันทำให้เขามีความสุขมากเพราะได้อยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก เธอไม่เคยคิดว่าสามีของเธอจะหันมารักเธอเลยเพราะมีลูกด้วยกันด้วยความไม่ได้ตั้งใจ "ก็ได้แต่ธอห้ามไปอยู่ใกล้นายพลนั้นบ่อยนะ ฉันจะพยายามเคลียร์เรื่องข้าวฟ่างให้เร็วที่สุด “ค๊าา!” หลังจากที่ทั้งคู่ทานอาหารเช้าเสร็จก็นั่งรถออกไปบริษัทโดยไปส่งจารุวีย์ก่อนและค่อยไปบริษัทภูริทัต ข้าวฟ่างก็ยังคงต้องการภูริทัตคืนยังคงคิดวนไปมาว่าจะทำยังไงที่จะเอาภูริทัตมาคืนได้ คิดไปมาเธอก็ตกใจสุดขีดเพราะเธอลืมไปซื้อยาคุมมากินเพราะเธอพลาดไปมีอะไรกับเจ้าของผับโดยที่ไม่ได้ป้องกัน “ตามจริง! ฉันลืมซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินไปซื้อตอนนี้จะทันมั้ยนะ” เธอรีบออกไปซื้อยาคุมมากินแต่น่าจะไม่ทันแล้วเพราะมันผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว ภูริทัตก็อยู่กับจารุวีย์อย่างมีความสุขโดยที่หลบหนีจากการเจอข้าวฟ่างแต่เธอเองก็ยังตามแต่น้อยกว่าเดิม 1เดือนผ่านไป.. ประจำเดือนของข้าวฟ่างก็ขาดหายไปทำให้เธอกระวนกระวายใจไม่น้อยเพราะนอกจากนายวุฒิชัยแล้วเธอก็ไม่เคยไปมีอะไรกับใครอีกเลย แต่เขาเป็นเสือผู้หญิงที่ไม่เคยคิดจะจริงจังกับใคร ทำให้เธอกังวลว่าหากท้องกับเขาจริงๆ เธอจะทำยังไง เธอไปซื้อที่ตรวจมาตั้งหลายอันและตรวจทำให้เธอตกใจสุดขีด เพราะผลลัพธ์เป็นสองขีด เธอเครียดมากเพราะเธอต้องการภูริทัตแต่ดันมาพลาดท้องกับเสือผู้หญิงและจะไปหาภูริทัตได้ยังไง เธอนั่งขุ่นคิดว่าจะทำยังไงต่อไปและเธอก็ไปหาวุฒิชัยที่ผับ “อ้าวมีอะไรคุณหนูข้าว หรือติดใจผมมาหาถึงที่เลย” วุฒิชัยพูดทักทายข้าวฟ่าง “อย่ามาพูดจาทะลึงใส่ฉันนะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ” ข้าวฟ่างเอ่ยปากพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด “มีอะไรผมมีเวลาไม่มากนะ ต้องไปหาเด็กอีก” “ฉันท้อง!!” คำพูดนี่ออกจากปากข้าวฟ่างพร้อมน้ำตาที่รินไหลออกมา “ว่าไงนะ ผมให้คุณไปซื้อยาคุมฉุกเฉินกิน ไม่ได้ไปซื้อเหรอ?” เขาขึ้นเสียงใส่ด้วยความตกใจ “ฉันลืม” “ไม่ใช่ลูกของผมหรอก” วุฒิชัยพูดปฏิเสธด้วยความรวดเร็ว “นี่คุณจะบ้าเหรอนอกจากคุณฉันก็ไม่ได้ไปมีอะไรกับใครอีกเลย” “ไปเอาออกซะ ผมไม่เลี้ยงนะผมยังไม่อยากมีครอบครัวอีกอย่างผมไม่ได้รักคุณด้วย” เขาพูดด้วยความเห็นแก่ตัว “ไม่ฉันไม่เอาออก” “อะไรกันคุณจะเก็บไว้ทำไม” “ฉันมีคนที่จะรับผิดชอบฉันแล้วแต่คุณต้องช่วยฉัน” ข้าวฟ่างพูดด้วยความที่มีแผน “ยังไง?” “คุณรู้จักภูริทัตมั้ย” “รู้สิ ทำไม?” วุฒิชัยถามด้วยความงง “เขาเป็นแฟนเก่าฉัน ฉันจะให้เขาเป็นพ่อเด็กแต่คุณต้องช่วยฉันนะ” “ได้ผมจะช่วย เพราะผมยังรักสนุกอยู่ยังไม่อยากเป็นพ่อคน ว่าแต่จะให้ช่วยยังไง?" >>>>>ติดตามตอนต่ไปหลังจากนั้นวุฒิชัยก็เดินเข้าไปในครัว เขากะจะโชว์ฝีมือการทำอาหารให้เมียเขาดูแต่เมื่อหันกลับไปเมียของเขากับนั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาไม่เดินตามเขามาเขาเดินกลับไปที่ห้องรับแขกไปยืนอยู่ตรงหน้าผู้เป็นเมีย“ทำไมคุณไม่ตามผมมา” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ข้าวฟ่างถึงกับสะดุ้งและเงยหน้ามอง“ไปไหน” เธอถามเพียงสั้นๆ พร้อมหน้าตาที่งงงวย“ไปครัวไงผมจะโชว์ฝีมือ” เธอได้แต่ถอนหายใจแค่ทำอาหารทำไมต้องให้เธอไปดูด้วย“ทำไมฉันต้องไปด้วยคุณทำมาให้กินเฉยๆ ไม่ได้เหรอ”“ก็ได้นั่งรออยู่นี่แหละ” สิ้นสุดเสียงนั้นหนุ่มหล่อผู้เป็นสามีก็เข้าครัวไปทำอาหารและสักพักก็ถือออกมาให้เมียของเขาทาน ข้าวฟ่างที่นั่งเล่นมือถืออยู่เมื่อได้ยินเสียงวางอาหารเธอก็รีบวางมือถือเพื่อจะชิม“ฉันรอชิมก่อนนะ” สิ้นสุดเสียงเธอก็ใช้ซ้อมตักโดยไม่รอคำตอบจากสามี เมื่ออาหารเข้าปากคำแรกเธอก็ได้รับรสชาติที่แสนอร่อยและไม่คิดว่าเขาจะทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้“เป็นไงบ้าง อร่อยมั้ยครับคุณหนูข้าวฟ่าง” ใบหน้าแห่งความคาดหวังให้เมียชมก็จ้องมองไปที่หน้าของเธอ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ ก็พอทานได้ให้สอนคุณทำอาหาร” ต่อให้อาหารจะอร่อยแค่ไหนเธอก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียฟอร์ม“งั้นเห
“คุณไปเอารูปผมมาจากไหน” ใบหน้าที่แทบจะเก็บรอยยิ้มของเขาไว้ไม่อยู่ทั้งพูดทั้งมองหน้าเธอ“ในเฟชบุ๊คและไลนฺ์คุณไง เอามาไม่ได้เหรอ”“ก็ได้แต่แค่แปลกใจเฉยๆ ไหนคุณบอกไม่อยากลบรูปเขาไงกลัวไม่มีโอกาสได้ถ่ายอีก” คำพูดของเขาดูนอยๆ แต่ความจริงก็หายโกรธตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วแหละแค่แกล้งถามไป“พอมาคิดดูๆ แล้วเขาก็แค่อดีตไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันแล้ว ปัจจุบันนี้ต่างหากที่สำคัญ” เธอพูดและส่งรอยยิ้มหวานให้สามีเธอทำให้หัวใจของเขาพองโตยิ้มออกมาด้วยความเขิน“จริงเหรอผมสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอ”“เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงฉันเองต่างหากที่ยืนอยู่ในปัจจุบันควรที่จะเห็นความสำคัญของตัวเองไม่ควรไปยึดติด” คำพูดของเธอกับทำให้เขาโกรธอีกครั้ง เขาเดินหนีไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของเขาทำให้ข้าวฟ่างเข้าใจในทันทีว่าเขาน้อยใจอีกแล้ว เธอรีบเดินตามเขาไป“คุณเป็นอะไรคะ” หญิงสาวนั่งลงข้างๆ สามีและยื่นหน้าไปถามเขาทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังน้อยใจเธอ“เปล่าครับ”“ฉันล้อเล่น คุณก็สำคัญเหมือนกันนะไม่งั้นฉันไม่มาง้อถึงที่นี่หรอก” ได้ยินแบบนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็กอดไปที่เอวเธออัตโนมัติ และโน้มตัวไปหอมแก้มเธอ“จริงเหรอ”“คุณ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งนิ่งเงียบและมองหน้าเธอแปลกๆ เธอจึงเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย“คุณเป็นอะไรรึเปล่าทำไมมองหน้าฉันแปลกๆ”“เปล่า” สายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของเขาก็แสดงออกมาทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าคำปฏิเสธของเขานั้นต้องมีอะไรแน่ๆ“แน่ใจเหรอคะ” เธอถามทวนเขาอีกรอบเพราะรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเก็บความอึดอัดไว้คนเดียวได้เดี๋ยวก็ต้องบอกความต้องการของเขามา ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานแต่เธอมั่นใจว่าเธอรู้จักเขาดีพอ“ผมถามจริงๆ เถอะคุณยังรักคุณภูริทัตอยู่รึป่าว”“คุณถามทำไม”“ผมแค่อยากรู้” บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกลัวว่าเมียจะยังรักแฟนเก่าอยู่สายตาที่ต้องการคำตอบมองเธอไม่กระพริบสายตา“ฉันไม่รู้แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรแล้ว ไม่แน่ใจว่าไม่รักแล้วรึเปล่า” เธอยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอาจจะไม่รักแล้วแต่แค่ยังเสียดายเวลาที่ผ่านมาเพราะคบกันมาตั้งหลายปีจะให้ลืมสนิทมันคงเป็นไปได้ยากอาจจะแค่นึกถึงแค่นั้น“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่รักเขาแล้ว ผมยังเห็นรูปเขาอยู่เต็มโทรศัพท์ของคุณอยู่เลย" เขาแสดงอาการของคนที่ขี้น้อยใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดข้าวฟ่างเธอไม่คิิดว่าผู้ช
“สวัสดีน้ำหวาน” เธอทักทายกลับโดยไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เธอเหล่ตาไปมองที่ข้างๆ ที่ข้าวฟ่างนั่งเห็นวุฒิชัยก็สะดุดตาในความหล่อเหลาของเขา“ภูไปไหนแล้วละทำไมได้มากับผู้ชายอื่น”“เลิกกันแล้ว”“อุ้ย!ทำไมได้เลิกเหรอเห็นรักกันดีอยู่นะรักกันมาตั้งหลายปีเธอปล่อยภูหลุดมือไปได้ยังไงกันอุส่าแย่งไปจากฉัน”“พูดให้มันดีๆ นะฉันไม่เคยแย่งภูมาจากเธอแต่ภูไม่เคยเป็นของเธอเลยต่างหาก” เธอเงยหน้าขึ้นขิงใส่น้ำหวานอย่างเบื่อหน่ายเพราะน้ำหวานตามราวีเธอไม่เลิกจนไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีนึกว่าเธอจะเลิกแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม“อย่าทำมาพูดหน่อยเลย ตอนนี้เป็นไงได้ข่าวว่าภูเขามีลูกมีเมียใหม่แล้วหนิ” เธอพูดเยาะเย้ยใส่ทำให้ข้าวฟ่างโกรธเพราะเหมือนมากรีดแผลใจเธอแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บมากเหมือนเมื่อก่อนอาจเป็นเพราะเธอได้อยู่ใช้ชีวิตกับวุฒิชัยผู้ชายไม่เอาไหนที่เจ้าชู้ไปวันๆ แต่วันนี้เหมือนราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“มีใหม่แล้วยังไง ฉันก็มีใหม่แล้วเหมือนกันทั้งหล่อรวยเธอละมีปัญญาหาได้สักคนรึยังมาเที่ยวยุ่งเรื่องคนอื่นนี่ ออกไปจากโต๊ะนี่ได้แล้วไปเกะกะลูกตา” เธอเอนหัวไปที่ไหล่ของวุฒิชัยและกอดแขนเขาเพื่อทำใส่น้ำหวานเธอโกรธและ
ข้าวฟ่างยังคงยืนนิ่งกับคำถามของวุฒิชัยอยู่“ขึ้นรถเถอะ”“ตอบผมมาก่อนสิ” สายตาแห่งความคาดหวังมองไปที่หน้าของเธออย่างจริงจังแต่เธอกลับหลบสายตาเขา“ขึ้นรถไปก่อนแล้วฉันจะตอบ” พูดจบขาทั้งสองข้างของเธอก็ก้าวขึ้นรถและยังคงนั่งนิ่งเงียบคิดเรื่องที่เขาถามเธอความสับสนมากมายอยู่ในใจของเธอ“ว่าไงครับ” เขายังคงต้องการคำตอบจากเธออยู่จี้ถามให้เธอตอบ“ฉันไม่รู้เหมือนกัน คุณมันเจ้าชู้ฉันไม่รู้จะเอาคุณอยู่รึเปล่าฉันไม่กล้าเปิดใจเพราะกลัวจะเป็นแบบภูอีก” เธอพูดพร้อมก้มหน้าลง“แต่ผมไม่ใช่เขา ถึงเวลาที่ผมหยุดผมก็หยุดได้ที่ผมทำตัวเจ้าชู้เพราะผมยังไม่เจอคนที่ใช่ แต่ตอนนี้ผมอยากใช้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุขกับคุณ” เขาพูดด้วยหน้าตาที่จริงจัง“ฉันยังไม่กล้าเปิดใจกับคุณหรอกพูดจริงๆ นะฉันเข็ดกับความรักจริงๆ” สองสายตาของเธอมองไปที่เขาด้วยความรู้สึกที่ดีแต่เธอกลัวจริงๆ เพราะเขาเจ้าชู้จริงๆ ในขณะที่เธอท้องไปหาเขายังนัวเนียกับผู้หญิงอื่นไปทั่วเลย“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่ไอ้หมอนั้น!” เขาพูดเสียงดังด้วยความเคืองที่เธอเอาแต่นึกถึงภูริทัต“ก็คุณเจ้าชู้ไง ผู้หญิงมาหาคุณไม่ซ้ำหน้าจะให้ฉันเชื่อใจคุณได้ยังไง” เธอพูดออกไปแบบนั้
05 : 20 น.เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายเธอเหมือนมีอะไรมากอดอยู่เมื่อก้มลงมามองดูก็เห็นเป็นแขนของวุฒิชัยที่กำลังกอดเธออยู่เธอรีบลุงขึ้นและแขนของเขากับกอดเธอลงไปนอนอีก“นี่คุณมานอนกอดฉันได้ยังไงกันใครอนุญาตให้กอดไม่ทราบ” เธอหันหน้าไปถามเขาด้วยเสียงดุใส่“ไม่มีอะ ผมอยากกอดก็กอดเลยคุณมีปัญหาเหรอนี่เมียผม” เขาพูดหน้าตาเฉยใส่เธอ“แค่เมียในนามเท่านั้นแหละ ฉันเป็นแค่แม่ของลูกคุณเท่านั้น”“ไม่อ่ะ คุณเป็นเมียผมคืนนั้นยังร่วมรักกันอยู่เลย” สิ้นสุดเสียงนั้นก็มีฝามือเล็กๆ ตีลงที่หน้าอกของเขาโอ้ยยยย!! เสียงที่ทำเขาสะดุ้งอาจไม่เจ็บสักเท่าไหร่แต่ก็แสบไม่น้อย“นี่คุณอย่ามาพูดทะลึงนะ คุณมันชอบฉวยโอกาส” เธอโกรธที่เขาพูดเรื่องนี่หรือเขินก็ไม่แน่ใจ“ใจร้ายจังแค่พูดความจริงก็รับไม่ได้” เขากอดเธอให้แน่นกว่าเดิม ยิ่งเธอทำเหมือนหวงตัวแบบนี้ยิ่งชอบเขาไม่ชอบผู้หญิงง่ายๆ แต่เขาก็เอาเหมือนเดิมแต่กับข้าวฟ่างเขารู้สึกว่ามันน่าค้นหาดีเล่นตัวแบบนี้“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” เธอพูดเสียงแข็งให้เขาเลิกกอดเธอ“ไม่นะ ขอนอนกอดก่อน”เปี๊ยะ!! เสียงตีไปที่หน้าอกเขาอีกรอบ ทำให้เขาคายกอดออกอย่างรวดเร็ว“เอะอะก็ตีเป็นลูกเลี้ยงเ







