LOGINEP.16
สามสัปดาห์ต่อมา เป็นเวลาเกือบเดือนแล้วที่ผมอยู่กับยัยเด็กเนเน่มา มันค่อนข้างเร็วแต่มันน่าเบื่อ ผมไม่ได้กลับไปที่บ่อนั้นเลย เอาแต่คอยช่วยยัยเด็กวัยขบเผาะนี้ทำงานบ้านและทำกับข้าว เด็กนี่ไม่ทำอะไรเลยเพราะอยู่ในช่วงสอบกลางภาค อ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำ ไม่มีเวลาพาผมไปเที่ยวน้ำตกด้วย ตอนนี้คงต้องรอหลังสอบเสร็จอย่างเดียว ทริปเรือสำราญใกล้เข้ามาแล้ว บางทีไม่อยากนอนเหี่ยวเฉาอยู่ในห้องตอนน้องอ่านหนังสือ ผมก็ออกไปเที่ยวรอบมหาวิทยาลัยของเนเน่เพียงลำพัง ช่วงนี้เขาจัดงานอะไรกันไม่รู้ ไปดูมหรสพต่างๆบ้าง ไปเสี่ยงโชคบ้างและผมกำลังให้เงินน้องเนเน่ใช้เยอะๆด้วยการซื้อลอตเตอร์รี่มายกแผงตอบแทนที่เลี้ยงดูกันอย่างดี แต่ใช้เงินเธอซื้อนะ จึงต้องคาดหวังอย่างมากว่าคราวนี้จะถูกมากกว่าเดิมหลายสิบเท่า เรื่องแหวนน่ะผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทุกครั้งที่น้องพูดถึงเรื่องนี้ เวลาออกไปข้างนอกจะแอบถอด เธอรู้เธอก็เอาถุงยางมาผูกใหม่เอาจริงเอาจังถึงขั้นซื้อถุงยางมายกโหลเพื่อทำสิ่งนี้กับผม ผมอยากจะเปลี่ยนเป็นยางมัดผมแบบที่เนเน่เคยเสนอ แต่ผมไม่เคยเห็นเนเน่ใช้ยางมัดผมอีกเลย ยางสักเส้นในห้องก็ไม่มี ตอนนี้เธอเปลี่ยนมาใช้กิ๊บหนีบผมอันใหญ่แทน ใช้ให้ผมม้วนผมให้ด้วย ผมก็ทำไม่เป็น แต่ก็ต้องทำให้ หรือผมจะต้องซื้อแหวนให้เธอจริงๆ จะได้จบปัญหานี้ แต่ยังคิดลายแหวนไม่ออกเลยว่าจะใส่รายละเอียดอะไรไปบ้าง อยากเซอร์ไพรส์ แต่ไม่รู้เธอจะถูกใจไหม โลกยุคปัจจุบันคนนิยมใส่แหวนแบบไหนก็ไม่รู้ แม้ว่าเด็กหื่นนั่นจะอ่านหนังสือจนไม่ทำงานบ้านเลย แต่เรื่องเดียวที่เธอไม่เคยขาดคือเรื่องเซ็กซ์ ไม่ว่าจะเหนื่อยมาจากไหน พอเธอมาแตะตัวผมปุ๊บ อารมณ์มาปั๊บ สุดท้ายก็โดนเธอจับกิน บางทีก็ไม่อยากทำ แต่เธอเอามันมาป้อนถึงปาก บางทีเธอแอบลักหลับผม สุดท้ายแล้วก็ต้องยอมมีอะไรกับน้องนับครั้งไม่ถ้วน ยัยเด็กนี่มันหื่นเกินไป หื่นแม้กระทั่งตอนมีประจำเดือน แม้จะทำไม่ได้แต่เธอก็ชอบมากอดมาอ้อนมาหอม มาวุ่นวาย มาทำให้อยากแล้วจากไปนอนอยู่เรื่อย แถมบังคับให้ผมนวดขาให้อีก มันจะเกินไปแล้ว แต่ก็สงสารเลยทำให้จบๆไปจะได้ไม่โดนบ่น ส่วนเรื่องเป็นแฟนน่ะเหรอ.... ขอข้ามไปเลยละกัน “พี่พาย หนูกลับมาแล้ว ซื้อหมาล่ามาฝากด้วย”เนเน่กลับมาห้องมืดทุกวันเพราะต้องไปติวหนังสือให้เพื่อนด้วย เวลากลับมาห้องก็มาพร้อมขนมติดไม้ติดมือมา เธอบอกจะได้มีกำลังใจในการอ่านหนังสือ เด็กนี่น้ำหนักขึ้นมาสองโลเพราะกินอาหารฝีมือผมครบสามมื้อ ไหนจะขนมอีก ออกแก้มทั้งหมด น่าหยิกให้ขาด “ไม่กินอ่ะ แสบท้อง” “วันนี้ทำกับข้าวอะไรให้หนูกินคะ” “ข้าวผัดและกะเพราหมูกรอบ” “ดี ของชอบหนูทั้งนั้น คืนนี้หนูต้องอ่านหนังสือ แต่จารย์แม่งสั่งงานเพิ่มด้วยอ่ะพี่ มันจะเยอะไปแล้วนะ”มาถึงเธอก็โวยวายหงุดหงิดอะไรไม่รู้ วางข้าวของของตัวเองไม่เป็นที่เป็นทาง หนีไปทิ้งตัวลงโซฟา คงจะเหนื่อยและปวดหัวจากการสอบ แล้วก็คงต้องเป็นผมสินะที่ต้องเก็บของพวกนั้นเข้าที่ พอดีผมโรคจิต ของต้องวางเป็นที่ไม่งั้นอยู่ไม่ได้ เจ้าของห้องไม่ค่อยรักสะอาดเสียด้วยสิ เธอน่ะเอาแต่บ่นว่าผมสะอาดเกินไป อยู่กับผมไม่รู้จักคำว่าฝุ่นอีกเลย ท่าทางจะอยู่กันยากละ ถ้าไม่ติดว่ารอไปเที่ยวนะ จะกลับบ่อไปแล้ว “โวยวายให้มันได้อะไรขึ้นมา” “ไม่ได้ไง หนูเหนื่อย แค่อยากระบายเฉยๆ” “พี่เตรียมชาไทยไว้ให้ด้วยนะ มากินจะได้หายเหนื่อย” “จริงเหรอคะ”เด็กนี่ตาลุกวาว ดีดตัวลุกจากโซฟาทันที ชาไทยนี่ก็จะดื่มแทนน้ำเปล่าเลยมั้ง พอผมแซวว่าแก้มป่องก็งอนไปสามวัน “พี่ซื้อร้านใต้ถุนตึกบริหารมาป่ะ ร้านนี้อร่อยนะ” “ชงเอง” “ฮะ? พี่ชงเป็นเหรอ” “มาชิมดิ”ภูมิใจนำเสนอ ชาไทยโบราณที่ผมชอบมากๆ สมัยผมมีชีวิตเคยทำขาย ขายดีด้วย คนมาซื้อก็บอกว่าอร่อยมาก ผมรีบเอามันออกมาจากตู้เย็น เทใส่แก้วใส่น้ำแข็ง จากนั้นเอามาเสิร์ฟลูกค้าที่นอนรอบนโซฟา สายตาเวลาเด็กนี่เห็นของกินที่ชอบมันก็จะแวววาวมาก เธอจิบไปเพียงเล็กน้อย แล้วทำหน้าครุ่นคิด สงสัยมันอร่อยจนสมองไม่สั่งการ “รสชาติแปลกๆ แต่ก็อร่อยดี”ตัวลอยติดเพดานไปแล้ว ไม่มีคำชมไหนดีเท่าคำที่ลูกค้าชม สุดปลื้มปีติจนอยากทำให้ดื่มทุกวัน “ขอบคุณครับ” “พี่พายขาาา”เอาอีกแล้ว เด็กนี่อ้อนอีกแล้ว อย่าบอกนะว่าอยากมีอะไรด้วย เธอดึงผมลงมานั่งที่โซฟาด้วย มาออเซาะอีกแล้ว ทำผมตัวแข็งทื่อแล้ว ทั้งกอดทั้งหอม ใครจะไปทนไหว “อะไรอีก ไหนบอกงานเยอะไง” “ก็ใช่ไงคะ งานเยอะมากๆ แต่ว่า…” จุ๊บ~ หอมแก้มและส่งสายตาออดอ้อนแบบนี้ผมก็แพ้ทางทุกที “หนูอยาก…” “อยาก…” “อยาก… ให้พี่พายช่วยเขียนรายงานให้” เธอยิ้มแป้น แต่ผมนี่สิหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ ตรงนั้นมันควบคุมไม่ได้ด้วยจะเอามันลงยังไงล่ะทีนี้ “แค่ให้ช่วยเขียนรายงานทำไมต้องอ้อนขนาดนี้”ผมถามเสียงเข้ม “อยากเหรอคะ” “เปล่า” “เปล่าก็ดี เพราะหนูไม่อยาก คืนนี้น่าจะไม่ได้นอน ไหนจะงาน ไหนจะอ่านหนังสืออีก ช่วยหนูนะ” ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! กริ่ง~ กริ่ง~ เสียงเคาะประตูและเสียงกดกริ่งหน้าห้องดังขึ้นมาพร้อมกันทำให้บทสนทนาหยุดลงโดยอัตโนมัติ เนเน่รีบลุกขึ้นจากโซฟา แล้วไปดูที่ช่องตาแมวว่าใครมา แต่เมื่อเธอหมุนตัวกลับออกมาจากประตู สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป ตอนเดินไปยังอารมณ์ดีอยู่เลยแต่ตอนนี้เหมือนคนกำลังกังวลอะไรบางอย่าง “เป็นอะไร” “ปู่กับย่ามาค่ะ เขารู้ที่อยู่ใหม่หนูได้ไงเนี่ย” “แล้วไง แล้วจะกังวลอะไร” “หนูทะเลาะกับพวกเขา หนูทำไม่ดีกับเขาไว้เยอะมากเลย หนูยังไม่อยากเจอเขา” “เรื่องอะไร” “ยังไม่มีเวลาเล่าค่ะ แต่พี่ช่วยออกไปบอกเขาได้ไหมคะ ว่าเขามาผิดห้อง ถ้าเขาถามถึงหนูก็บอกว่าไม่รู้จัก หนูยังไม่อยากเจอเขาค่ะ” ดูจากท่าทางแล้วคงเป็นเรื่องใหญ่ น้องทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ผมจึงเดินเข้าไปกอดและลูบหัวเป็นกำลังใจให้เธอ ไม่ได้ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนะ แต่ก็อยากรู้ว่าเรื่องมันเป็นมาอย่างไร หากเนเน่ได้ระบายให้ผมฟังบ้างเธอคงดีขึ้น ไม่ชอบเห็นแววตาเศร้าจากเด็กนี่เลย เธอร่าเริงน่ะดีแล้ว “เออ ก็ได้ เดี๋ยวพี่ช่วย เราไปหลบไป ถ้าพร้อมแล้วส่งสัญญาณนะ” เด็กนี่พยักหน้า ทำหน้าหงอยอยู่อย่างนั้นไม่เลิกสักที เธอเดินไปอีกทาง ผมเดินไปที่ประตูรอสัญญาณสักพัก ไม่ได้หันกลับไปดูว่าทำไมนาน เธอคงเก็บของของตัวเองหลบอยู่ ระหว่างที่รอเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกหลายรอบ “เปิดเลย” สิ้นสุดคำสั่งที่เป็นสัญญาณบ่งบอกผมก็เปิดประตูออกไปเจอกับปู่และย่าของเนเน่ ผมแสร้งทำหน้างงๆเมื่อเจอคนแปลกหน้ามาเคาะห้อง “มาหาใครครับ” “มาหาหลานน่ะ” “มาผิดห้องแล้วครับ ห้องนี้มีผมอยู่คนเดียว” “แล้วคุณเป็นแฟนใหม่เนเน่เหรอ” “ฮะ? เนเน่ไหน ลุงพูดเรื่องอะไรครับ”การแสดงละครครั้งแรกมันน่าตื่นเต้นจริงๆ “ใช่แฟนใหม่เนเน่ไหม” “ไม่ใช่ครับ” “แต่นี่มันห้องเนเน่” “ห้องผมครับ ผมไม่รู้จักคนที่ลุงพูดถึงเลยนะ” “พ่อหนุ่ม จะไม่รู้จักได้ยังไง คุณเอมิกาแม่ของแฟนเก่าเนเน่น่ะบอกว่าเนเน่อยู่ห้องนี้ ถ้าเอ็งไม่ใช่แฟนใหม่ แล้วเอ็งเป็นใคร แล้วถ้านี่ไม่ใช่ห้องเนเน่ทำไมมีรูปเนเน่ตั้งโด่อยู่ในห้องด้วย” “ฮะ?” ผมยิ่งงงเข้าไปใหญ่ หันไปมองด้านหลังตามที่ตาลุงนี่มองเข้าไปข้างใน เป็นภาพของยัยเด็กแสบจริงๆ ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ แล้วผมเป็นคนจัดของทุกอย่างในห้องนี้เอง ซึ่งตลอดสามสัปดาห์ที่ผ่านมามันไม่เคยมีมาวางอยู่ตรงนี้ ผมจำได้ดีผมจัดเองเรียบร้อยทุกระเบียบนิ้ว รู้ว่าอะไรมันวางตรงไหน ดูจากลักษณะแล้วเหมือนเพิ่งจะย้ายเอามาวางไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี้เอง ไอ้เด็กแสบ! นี่เล่นละครใส่เหรอ เมื่อกี้คือการแสดงอย่างนั้นสิ “สรุป เอ็งเป็นแฟนใหม่เนเน่ใช่ไหม”เราเอามือปิดปากตัวเองทันที หากพูดถึงชื่อนั้นบ่อยๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นเรียกเจ้าของชื่อให้มาหา คิดเสียว่าไม่รู้ชื่อจริงพี่พายแล้วกัน มันจะได้ไม่ลำบากใจ“หนูจะไม่ให้ชื่อจริงของพี่มาเป็นอุปสรรคในความรักของเราค่ะ”“พี่เปลี่ยนชื่อไม่ได้ หนูเองก็เปลี่ยนมาใช้นามสกุลพี่ไม่ได้ น่าหงุดหงิดเนอะ”“แล้วไงคะ เราได้อยู่ด้วยกันก็ดีแค่ไหนแล้ว สมัยนี้เป็นผัวเป็นเมียกัน เมียไม่ต้องเปลี่ยนนามสกุลตามผัวก็ได้ พอพูดถึงเรื่องนี้ก็นึกถึงทะเบียนสมรสขึ้นมา ตอนนี้มันไม่สำคัญเท่าที่พี่เรียกหนูว่าเมียแล้ว”“ไหนเรียกพี่ว่าผัวซิ”“ผัวขา รักผัวนะคะ”ทั้งเราและพี่พายต่างมีอาการเขินเหมือนกัน มองหน้าเขาไม่ได้มันยิ้มไม่หุบเลย เราสะดีดสะดิ้ง กระโดดโลดเต้นจนพี่พายทำท่าทางเลียนแบบ “ผัวก็รักเมียตัวน้อยคนนี้นะ”“พอแล้วหนูเขิน”ไม่ใช่แค่โดนเขาบอกรัก บอกรักเขาเราเองก็มีความสุข เหลือบไปมองรูปอีกครั้งมีอีกสิ่งที่เรายังอ่านในรูปไม่หมดนั่นคือวัน เดือนปีเกิดของพี่พาย ชื่อจริงเขาไม่ถูกใจเรา แต่วันเกิดนั้น…“ชาตะ24ธันวาคม 24××มรณะ 25 ธันวาคม 25××อายุ40ปี พี่พายเกิด24ธันวาเหมือนกับหนูเลย”หยิบบัตรประชาชนในกระเป๋ามาโชว์ให้พี่พ
EP.27 “คุณป้าคะ หนูเป็นคนค่ะ”“จริงเหรอ”“จริงค่ะ จับดูได้เลย”ป้าเพ็ญเอื้อมมือมาสัมผัสแขนเราแบบกล้าๆกลัวๆ เขาลูบแขนมาถึงมือเพื่อความแน่ใจ ตัวเราอุ่นแต่มือป้าเพ็ญเย็นเฉียบ เรายิ้มแหยๆเพราะเขาใช้เวลาดูให้แน่ใจหลายนาที“แล้วทำไมหนูถึงเข้าฝันป้าได้”“อันนี้หนูไม่ทราบค่ะ”“หรือว่าพี่พายเจอคนที่เหมาะสมกับบ้านหลังนี้แล้ว”“ยังไงนะคะ”“ก็คือบ้านหลังนี้ที่จริงพี่ชายป้าปลูกไว้ให้พ่อกับแม่อยู่ด้วยกัน บ้านป้าเขาก็สร้างให้เป็นของขวัญวันเกิด ตอนนี้เขาเสียไปแล้ว แต่ตอนเขามีชีวิตอยู่นะเขาใจดีมาก เป็นพี่ชายที่อบอุ่นมาก”ป้าเพ็ญเริ่มน้ำตาคลอ เราเองก็เห็นน้ำตาคนอื่นไม่ได้มันจะร้องตาม ส่วนพี่พายน่ะเหรอ ไม่อยู่ฟัง คงกลัวร้องไห้ เขาหายเข้าไปในบ้านแล้ว“ตอนเขาเสียใหม่ๆนะ ป้าและพ่อกับแม่เสียใจมาก พ่อกับแม่อาศัยอยู่ที่บ้านของพี่ชายป้ามาตลอด เก็บทุกอย่างไว้เสมือนเขายังอยู่ด้วย แต่เขาไม่เคยปรากฏตัวให้เห็นเลย เมื่อห้าปีที่ผ่านมา พ่อแม่ป้าเสียตามไปเพราะแก่ชรา ป้าเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ความทรงจำเยอะแยะไปหมด เคว้งคว้างเพราะเหลือคนเดียวในตระกูลนี้ การต้องเห็นบ้านหลังนี้ทุกวันมันเจ็บปวดเหมือนกันนะ ป้าทำใจก
EP.26“เล่นแรงไปรึเปล่าคะ”“เป็นห่วงมัน?"“เป็นห่วงแม่ค่ะ แม่ดีกับหนู อย่าทำอะไรแม่มากนะ”“ไม่รับปากนะ”“เว้นแม่ไว้คนหนึ่งนะ”ถึงจะรำคาญแม่พี่อิฐบ้างแต่ก็ไม่ได้อยากให้เขาเจออะไรไม่ดี“ถ้าเรายังสนิทกับแม่ไอ้อิฐอยู่ พี่รู้สึกไม่ดี แบบที่อธิบายไม่ได้ว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น แค่มีไอ้นะเป็นสัมพเวสีตามติดก็พอ อย่าให้ใครมาตามติดหนูมาตื๊อหนูอีกเข้าใจไหม”“แต่หนูไม่ชอบวิธีการนี้เท่าไรนะ เขาเป็นผู้ใหญ่กว่า หนูเกรงใจ”“…”พี่พายเงียบไปไม่ตอบอะไรกลับ แต่ถอนหายใจเสียงดังเหมือนจะไม่พอใจอีกแล้ว เราเลยคิดตามที่พี่พายบอก มันก็น่าโมโหอยู่นะหากเราต้องเจอแบบที่พี่พายเจอคงจะทนไม่ได้เหมือนกันมั้ง“แต่ถึงหนูจะไม่ค่อยชอบวิธีการนี้ แต่หนูเข้าใจพี่ พี่มีสิทธิ์หวงมีสิทธิ์หึงหนูได้เสมอค่ะ จะมากเท่าไรก็ได้ หนูเป็นของพี่ พ่อคนขี้หึงของหนู”“…”“ได้ยินไหม หนูเป็นของพี่ และพี่เป็นของหนู”ไม่แคร์สายตาพ่อพี่อิฐที่ยังงุนงงกับเหตุการณ์นี้อยู่ เพราะพี่พายกำลังงอน เราจึงเข้าไปง้อด้วยการทำเสียงอ่อนเสียงหวาน ท่าไม้ตายอย่างการออดอ้อนให้หายงอนต้องใช้ได้บ้างแหละ “…”“งอนหนูเหรอ หนูดื้อ~ น่าตี”ผีพรายที่ดึงหน้านิ่งก็ไม่
EP.25 “แม่ไอ้อิฐโทรมาทำไมอีก”“พี่พายคะ หนูขอไปเยี่ยมพี่อิฐ ครั้งสุดท้ายได้ไหม”“มันจะตายแล้วรึไง”พี่พายไม่สบอารมณ์ ใครจะไปชอบให้แฟนเก่ามายุ่งกับแฟนตัวเองอันนี้เข้าใจได้ แต่เราไม่อยากมีอะไรปิดบังพี่พายเลยบอกเรื่องนี้กับเขาไปตรงๆ หากตอนนี้ไม่มีพี่พายเราคงเป็นอีโง่ที่ยอมกลับไปคบกับพี่อิฐง่ายๆมั้ง ตอนนี้จินตนาการว่าชีวิตไม่มีพี่พายไม่ออกแล้วแต่ตอนนี้เราไม่ใช่คนโง่คนนั้น เราไม่ใช่ของตาย พี่อิฐทำเหมือนเราไม่มีความรู้สึก อยากจะไปก็ไป อยากจะกลับก็กลับ ตลกมาก คำขอโทษมันลบล้างสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ แค่จะไปให้มันจบๆ “หนูจะไปตัดขาดจากครอบครัวนี้แล้วค่ะไปบอกว่ามีแฟนใหม่แล้ว เขาจะได้ไม่ยุ่ง พี่ต้องไปด้วยนะ ไปเปิดตัวให้เขารู้”ขึ้นไปนั่งบนตักพี่พายด้วยท่าทางออดอ้อน พี่พายตอนนี้อารมณ์เสียมากต้องทำให้เย็นลงบ้างด้วยการหอมแก้มหลายครั้งเขาหันแก้มอีกข้างมาให้หอม ฟัดแก้มเขาไปอีกสิบที คิ้วที่ขมวดชนกันก็ยังไม่คลาย จนต้องใช้นิ้วโป้งวนๆรอบคิ้วดึงให้คลายเอง“ถ้าไม่ไปวันนี้หนูคิดว่าหนูจะโดนวอแวตลอดไป แม่พี่อิฐตามมายันห้องมันรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวมากไปแล้ว”“แล้วถ้าพวกเขาไม่ยอมจบล่ะ เป็นพวกดื้อด้านอ่ะ”
EP.24 Cake อยากทัชซิกแพคคุณพี่จัง“ยิ้มอะไรคนเดียว”พี่พายมานั่งที่โซฟาเดียวกันกับเรา เขาเข้ามาออเซาะ สายตาก็จับจ้องจอโทรศัพท์หาสาเหตุที่ทำให้เรายิ้ม ตอนนี้หกโมงตรงเป๊ะ ได้เวลาที่เขาจะเข้ามาอ้อนแล้วซินะ ตรงเวลามาก“ก็อ่านคอมเมนต์อยู่ มีแต่คนชมพี่ ว่าหล่อมาก หล่อที่สุด หนูวาดรูปสวยมีคนชมคนเดียวเอง ทุกคนหลุดโฟกัสหมด”“เหรอ”พี่พายจัดท่าให้เรานอนเหยียดตรงบนโซฟา เขยิบหัวหนุนที่วางแขนโซฟาอันแสนแข็ง เขาเองก็นอนแต่เอาหัวมาซุกหน้าอกเราด้วยท่าทางออดอ้อน เราเริ่มติดสกินชิพเพราะพี่พายชอบมาอยู่ใกล้ทุกนาทีที่เราแตะต้องกันได้ “ขออ้อนหน่อย อยากอ้อน ต้องใช้ทุกวินาทีที่เราแตะตัวกันได้ให้คุ้มค่า”แล้วแขนขาของพี่พายก็ก่ายตัวเรา ทำเหมือนตัวเองตัวเล็กมาก ซุกอกหลับตาพริ้ม ยอมให้เราลูบหัว ตอนนี้เหมือนแมวที่กำลังถูไถเจ้าของเพื่อเรียกร้องความสนใจ หนักแต่ยอมให้นอนทับแต่โดยดี น่าเสียดายที่ถ่ายรูปความน่ารักนี่ไว้ไม่ได้ โทรศัพท์ในมือจึงไร้ประโยชน์ทันทีวางโทรศัพท์ลงมาติดคนที่กำลังออดอ้อนอยู่แทน“นุ่มจัง นมหนูมันโคตรนุ่ม”“ขี้อ้อนจังคะ ขี้อ้อนเหมือนแมวเลย”“แมว? ไม่ชอบแมวอ่ะ ไม่ได้รักสัตว์ขนาดนั้น”“งั้นหมา
EP.23 “ทำบุญให้ด้วย”พี่นะทักท้วงเมื่อกลับถึงฝั่งได้ไม่กี่นาที ไม่ให้พักเหนื่อยเลย“ค่ะ จะไปให้เดี๋ยวนี้แหละ”จะว่าไปเราเองก็ไม่ได้เข้าวัดมานาน เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ทำบุญให้ตัวเองและผีพรายจอมเรื่องมาก เขาคะยั้นคะยอขอให้เราทำบุญให้ครบเก้าวัด ซึ่งเราก็ทำให้อย่างเลี่ยงไม่ได้“ไอ้พาย มึงจะไม่กลับไปกับกูจริงๆเหรอ”นี่ก็มืดค่ำแล้วคนจะเดินเข้าคอนโดไปพักผ่อนแต่หันกลับมาพี่นะก็ยังไม่ไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาบอกลาพี่พายไปแล้ว ยังจะรออะไรอีก “กลับไปตอนนี้ยังทันนะ”คำชักชวนของพี่นะเหมือนเป็นการลองใจอะไรบางอย่าง“พูดไม่รู้เรื่องเหรอมึงอ่ะ”“กูถามเพื่อความแน่ใจ”“พี่นะกลับไปเถอะค่ะ หมดเวลาของพี่แล้ว พี่ก็ได้ทุกอย่างที่ต้องการไปแล้วนี่”ทั้งที่พูดน้ำเสียงปกติ ไม่ได้ไล่เหมือนหมูเหมือนหมา แต่ปฏิกิริยาของพี่นะมันเหมือนจะไม่พอใจ“รักที่ผิดกฎ รักที่ผิดธรรมชาติ ความรักระหว่างคนกับผีก็อย่างนี้แหละ ลำบากปกปิดหน่อยนะ แต่ถ้าผู้คุมกฎมันขี้เสือกแล้วมันสืบเองล่ะ ข้าจะทำยังไงดีน้าาาา เรื่องนี้มันอยู่นอกเหนือการควบคุมของข้า ข้าไม่ยุ่งแล้วกัน ได้ไหม?”น่าคิด! คำขู่ของพี่นะก็ทำให้เราเครียด เรื่องเหนือการควบค







