LOGIN“ค่ะ ฉันอาศัยอยู่ที่ไตรสุรเดช บ้านหลังสุดซอยโน้นค่ะ”
เธอกล้าพูดกับเขามากขึ้น เมื่อดูท่าแล้วเขาไม่ใช่คนร้ายที่จะทำอันตรายเธอ แม้ใบหน้าจะดูเหี้ยมๆ แววตาจะดุดัน แต่เธอสัมผัสถึงความห่วงใยจากเขาได้
“เจ็บมากไหม”
มือใหญ่เอื้อมไปจับใบหน้าเธออย่างอ่อนโยน เธอคงเจ็บมากเพราะก่อนหน้านี้ก็โดนทุบตีทำร้ายมาจากบ้านแล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาดทันที่ได้เห็นสายตาเอื้ออาทรนั้น ทั้งยังน้ำเสียงห่วงใย และมืออุ่นที่สัมผัสผิวหน้าของเธอ
“เป็นคนใช้ที่นั่นเหรอ”
เขาหยั่งเชิงถาม พิณทิราพยักหน้าเบาๆ เธอไม่กล้าบอกใครๆ หรอกว่าเป็นหลานสาวเจ้าของบ้าน
“จะไปซื้อส้มตำหรือเปล่าล่ะ เดี๋ยวฉันเดินไปเป็นเพื่อน”
พิณทิรามองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย เขาจึงรีบพูด
“ถ้าเกิดพวกมันกลับมาอีกจะทำยังไง เธอจะสู้พวกมันได้เหรอ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า ถ้าฉันไปด้วย ฉันจะปกป้องดูแลเธอเอง”
คำพูดของเขาทำให้พิณทิราอบอุ่นใจยิ่งนัก
“ขอบคุณค่ะ คุณไม่ใช่คนแถวนี้นี่คะ เอ่อ... หมายถึงคุณมาทำธุระแถวนี้เหรอคะ”
“ใช่ ฉันมาหาเพื่อนน่ะ แล้วเธอซื้อส้มตำไปให้ใครล่ะ หรือซื้อไปกินเอง”
เขาชวนสนทนา ลอบมองหญิงสาวด้วยความพึงพอใจ ขณะเดินเคียงข้างไปยังร้านส้มตำหน้าปากซอย
“ฉันซื้อไปให้คุณวิน่ะค่ะ เธอเป็นลูกสาวเจ้าของบ้าน”
สิงหรัตน์พยักหน้ารับรู้ คิดไว้ไม่มีผิด หญิงสาวร้ายกาจคนนั้นเป็นว่าที่เจ้าสาวของเขา แค่คิดก็สะอิดสะเอียน ขยะแขยงผู้หญิงเจ้าอารมณ์คนนั้นเหลือเกิน แต่ถ้าเป็นหญิงสาวที่เดินอยู่ใกล้ๆ นี่สิ เขากลับรู้สึกถูกชะตาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
... แม้เธอจะเป็นเพียงคนรับใช้ แต่เขาไม่ได้มองคนแค่ฐานะ จิตใจคนสำคัญกว่าการปรุงแต่งภายนอก
ถ้าจะมีภรรยาสักคน เขาต้องพิสูจน์ว่าพวกเธอรักเขาจริง ไม่ใช่ต้องการเพียงเงินทองของเขาเท่านั้น ต้องอยู่ร่วมกันดูแลกันจนแก่เฒ่า ไม่ใช่หม้อข้าวไม่ทันดำก็เลิกรากันไป
เขาไม่อยากให้ชีวิตครอบครัวมีปัญหาเพราะมีพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง น้อยนักที่เด็กๆ เหล่านั้นจะได้รับความอบอุ่นแท้จริงจากคนที่ไม่ใช่บุพการี
... เขาเป็นหนึ่งในจำนวนคนโชคดีคนนั้นที่มีแม่เลี้ยงใจดีรักและดูแลเขาเหมือนลูกในไส้
“ชื่ออะไรล่ะ คุยกันตั้งนานยังไม่รู้จักชื่อเลย”
“ชื่อพิณทิราค่ะ คุณเรียกฉันว่าพิณก็ได้ค่ะ”
พิณทิรายิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่คิดรังเกียจรูปลักษณ์ภายนอกของเขา
“ชื่อเพราะดี” เขาเอ่ยชม
“ฉันชื่อสิงห์”
เขาแนะนำตัวเองก่อนถึงร้านส้มตำไก่ย่างหน้าปากซอย
“พิณขอบคุณคุณสิงห์อีกครั้งนะคะ ถ้าไม่ได้คุณคงแย่แน่”
พิณทิราขอบคุณเขาอย่างซาบซึ้งใจ หน้าสลดชั่ววูบก็จางหายไป เธอคิดว่าหากเขาไม่เผอิญผ่านมาแถวนี้เธออาจโดนทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต
“เรียกพี่สิงห์ก็ได้ ส้มตำไก่ย่างร้านนี้อร่อยเหรอ เจ้านายถึงใช้ให้มาซื้อ” เขาเอ่ยถามมองสภาพแวดล้อมของร้านอย่างสำรวจตรวจตรา
“ค่ะ อร่อยมาก เค้าทำสะอาดด้วยค่ะ”
หญิงสาวรีบพยักหน้ายิ้มให้อีกฝ่าย
“พี่เริ่มหิวแล้วสิ ยังไม่ได้ทานอะไรเลย”
สิงหรัตน์ลูบท้องไปมา ทำหน้าตาน่าสงสาร มองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“งั้นพิณเลี้ยงตอบแทนพี่สิงห์นะคะ แต่อุ๊ย!!! ตายจริงพิณไม่ได้พกเงินมา มีแค่เงินทอนไม่กี่สิบบาท ทำไงดี แล้วต้องซื้อส้มตำไปให้คุณวิอีก”
พิณทิราล่วงกระเป๋านำเศษเงินออกมาด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย หญิงสาวบิดมือไปมา สายตามองแค่ปลายเท้า ไม่กล้าเงยหน้ามองอีกฝ่าย ได้แต่ก้มหน้าด้วยความอายที่เอ่ยปากจะเลี้ยงตอบแทนเขา แต่กลับไม่มีเงินพอ
“มานั่งสิ ถือว่าพี่เลี้ยงแล้วกัน อยากให้พิณนั่งทานเป็นเพื่อน พี่ไม่อยากนั่งคนเดียว”
เขาแก้สถานการณ์ให้เธอรู้สึกดีขึ้น พิณทิราสัมผัสได้ในความเอื้ออาทรนั้น มือใหญ่แสนอบอุ่นกอบกุมมือน้อยเอาไว้แล้วดึงไปนั่งเก้าอี้ที่ทางร้านจัดให้
พิณทิราดึงมือออกด้วยความขัดเขิน ก้มหน้างุดเมื่อโดนสัมผัสจากชายหนุ่ม สิงหรัตน์มองความน่ารักของอีกฝ่ายยิ้มๆ แต่ไม่พูดอันใด
“วันหลังค่อยเลี้ยงพี่ก็ได้ ส่วนไก่ย่างส้มตำของเจ้านายพิณก็สั่งได้ตามสบายพี่จ่ายให้เอง แล้วไม่ต้องบอกว่าเกรงใจอีก เพราะพิณก็อุตส่าห์นั่งทานเป็นเพื่อนพี่”
สิงหรัตน์ดักคอเมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาว เขารู้ว่าเธอเกรงใจ แต่เขามีวิธีพูดให้เธอไม่ขัดเขินหรือกระดากอายไปมากกว่านี้
“แต่พิณเกรงใจจังเลยค่ะ”
“ไม่เห็นต้องเกรงใจเลย งถ้าเกรงใจ พิณตอบแทนน้ำใจพี่สิ”
“คะ?”
เธออย่างไม่เข้าใจ ตะแคงหน้ามองอีกฝ่าย กิริยาน่ารักนั้นทำให้สิงหรัตน์อมยิ้ม
“เล่าเรื่องพิณให้พี่ฟังบ้างสิ เพื่อเพิ่มบรรยากาศในการทานของเรา พี่จะได้ไม่เบื่อ นี่ถือว่าเป็นการตอบแทนพี่แล้วกัน”
เขาหาทางออกให้อย่างน่ารัก ชายหนุ่มหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่มอย่างชื่นใจ มองหน้าหญิงสาวเพื่อรอฟัง
“เอ่อ... เรื่องของพิณเหรอคะ” เธอถามด้วยความไม่แน่ใจ
“ใช่”
เขาพยักหน้า แม้พิณทิราจะไม่เข้าใจว่าเขาต้องการรู้เรื่องของเธอไปทำไม แต่เธอก็ยินดีเล่า อย่างน้อยเป็นการตอบแทนเขาบ้างอย่างที่เขาว่า
สิงหรัตน์ทานข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่างด้วยความเอร็ดอร่อย เขาฟังหญิงสาวเล่าไปเรื่อยๆ โดยชี้ชวนให้เธอทานไปพร้อมๆ กับเขา
“เสียใจด้วยนะเรื่องแม่ของพิณ แต่ก็เก่งนะ เรียนหนังสือจะจบปริญญาตรีแล้ว” เขาเอ่ยชม
“ค่ะ แล้วพี่สิงห์ล่ะคะ บอกว่ามาหาเพื่อนเจอหรือยังคะ”
เธอรีบถามเผื่อเขามีอะไรให้เธอช่วยเหลือบ้าง
“พี่ได้เจอเพื่อนแล้ว”
“พี่เป็นคนที่ไหนเหรอคะ”
“พี่เป็นคนงานอยู่ทางปักษ์ใต้น่ะ ตามนายหัวเข้ามาทำธุระในกรุงเทพ”
สิงหรัตน์ตอบเสียงเรียบ ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องตัวเองมากนัก แต่เขาสนใจเรื่องหญิงสาวตรงหน้ามากกว่า
“ทำไมแม่ถึงตั้งชื่อว่าพิณทิราล่ะ”
“มีคนถามพิณบ่อยเหมือนกันค่ะ เค้าบอกว่าชื่อแปลกดี แม่บอกว่าอยากให้พิณทั้งเข้มแข็งและอ่อนโยนค่ะ เลยตั้งชื่อพิณแบบนี้” เธอตอบด้วยความภูมิใจเมื่อนึกถึงมารดา
“อ่อนโยนได้ แต่อย่าอ่อนแอ ให้คนอื่นรังแก”
“คะ?” เธอมองหน้าเขาอย่างสงสัย เหมือนเขารับรู้อะไรที่เกี่ยวกับเธอ
“ไม่มีอะไรหรอก ทานสิ อร่อยๆ จริงอย่างที่พิณว่านั่นแหละ เดี๋ยวทานเสร็จแล้วจะเดินไปส่ง”
พิณทิราทานข้าวเหนียว ไก่ย่าง ส้มตำกับชายหนุ่มด้วยความหิว วันนี้เธอทำงานบ้านตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนอกจากน้ำก๊อกข้างบ้านที่เธอแอบดื่มไม่ให้กานดาและวิธาดาได้เห็น
สิงหรัตน์ลอบมองหญิงสาวนิ่ง เขากำลังคิดอะไรหลายอย่างในหัว โดยเฉพาเรื่องว่าที่ “เจ้าสาว” สมองอันชาญฉลาดของนายหัวหนุ่มผุดพรายความคิดหนึ่งขึ้นมา สายตาสีสนิมมองหญิงสาวไม่วาง ก่อนพิงหลังกับเก้าอี้ของร้าน ยกมือขึ้นกอดอก พร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก
“ขอบคุณมากค่ะ พี่สิงห์รอเดี๋ยวนะคะ พิณจะไปหยิบเงินค่าส้มตำมาให้”
พิณทิราไหว้ชายหนุ่มหน้าโหดที่อุตส่าห์เดินมาส่งเธอถึงหน้าบ้าน นึกได้ว่าเธอควรไปหยิบเงินมาให้เขา เพราะเท่านี้เธอก็ติดหนี้บุญคุณเขาจะแย่
“ไม่เป็นไร ขอเป็นอย่างอื่นแทนได้ไหม”
สิงหรัตน์เอ่ยขอตรงๆ หลุบตามองริมฝีปากจิ้มลิ้มเพียงครู่ ก่อนเงยหน้าสบตากับอีกฝ่าย
“คะ?”
หญิงสาวมองตอบด้วยความงุนงง และโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว เขารั้งร่างอรชรเข้าหา พิณทิราตาโตอ้าปากทำท่าจะร้อง เขาประกบริมฝีปากหยักหนาลงมาจุมพิตอย่างดูดดื่ม มือน้อยรัวกำปั้นใส่ไม่ยั้ง แต่มิอาจต้านแรงกำลังอีกฝ่ายได้
“ขอมัดจำไว้ก่อนนะ แม่ขนมหวาน”
สิงหรัตน์กระซิบบอกเมื่อถอนริมฝีปากออกห่างอย่างอ้อยอิ่งด้วยความเสียดาย
สิงหรัตน์แอบชะโงกมองบุตรชายและบุตรสาว เมื่อเห็นว่าทั้งสองหลับสนิทเขาจึงค่อยๆ ปีนไปอีกด้านอย่างแผ่วเบา“อื้อ... พี่สิงห์เดี๋ยวลูกตื่น”“ไม่ตื่นหรอก เล่นซนทั้งวัน กว่าจะตื่นคงเช้า”สิงหรัตน์กระซิบเสียงแผ่วกลัวลูกตื่นอยู่เหมือนกัน“พี่สิงห์น่ะ”พิณทิราทุบอกเบาๆ ชายหนุ่มหอมแก้มภรรยาซ้ายขวาด้วยความต้องการริมฝีปากร้อนๆ พบกันดูดดื่ม มือหนาเลื่อนเข้าสอดแทรกในเสื้อนอนบางเบาขยำเต้าอวบอิ่มของภรรยา“อื้อ...”พิณทิราเผลอครางก่อนเม้มริมฝีปากเพราะกลัวลูกน้อยทั้งสองตื่น มือใหญ่ถลกชุดนอนของภรรยาขึ้นเหนือเอวบาง ทำเสียงจิ๊จ๊ะเหมือนขัดใจกลายๆ เมื่อเจอด่านที่กลางกาย“วันหลังไม่ต้องใส่ อยากให้ปล่อยโล่ง”เขาทำเสียงดุ พิณทิราค้อนให้กับคนเอาแต่ใจบิดหัวนมเขาเบาๆ“โอ๊ะ! อย่าหวังว่าจะได้นอน”พิณทิราตาโตเมื่อได้ยินประโยคนั้น คนเจ้าเล่ห์รีบดึงอันเดอร์แวร์ตัวน้อยออกจากเรือนร่างสาวโดยเร็วอย่างใจร้อน... ยังไม่ทันที่นายหัวหนุ่มจะซุกใบหน้าคมคายเข้าหากลีบน้ำหวานเบื้องล่าง เสียงอันไม่พึงประสงค์ก็ดังขึ้นทันที“เป่ายิ้งฉุบๆๆ”“ปู่ชักว่าว...”เสียงเด็กๆ ละเมอเพราะเล่นซนลุกมาเป่ายิ้งฉุบกันชุลมุน แถมมีปู่ชักว่าวมาอีก“เฮ้ย!
“คุณพ่อขา... คุณพ่อ”สขิลารีบปีนขึ้นเตียงบิดาในตอนเช้า ก่อนจะตะเกียกตะกายขึ้นไปบนคอของสิงหรัตน์ ใช้มือป้อมๆ ตีแขนล่ำๆ นั้นสองสามทีเพื่อปลุกให้เขาตื่น“อื้อ... ลูกลิงที่ไหนนี่” ชายหนุ่มแสร้งทำเสียงรำคาญเล็กน้อย“ลูกลิงของพ่อสิงห์ค่ะ”สขิลากอดคอหนาแนบใบหน้ากลมๆ กับหน้าของบิดา“แค่กๆๆ หายใจไม่ออก”สิงหรัตน์รีบดีดตัวเองขึ้นจากที่นอน คว้าร่างบุตรสาวกดลงกับเตียงแล้วจี้เอวกลั่นแกล้ง“ฮ่าๆๆๆ คุณพ่อขา คิกๆ จั๊กจี้ค่ะ”เด็กหญิงตัวอ้วนหัวเราะเสียงใส คนเป็นพ่อซุกใบหน้าที่หน้าท้องอ้วนๆ กลมๆ ด้วยความรักสุดหัวใจ“มาอ้อนพ่อแต่เช้าจะเอาอะไร”“ฮิฮิ จะให้คุณพ่ออาบน้ำให้ค่ะ เดี๋ยวคุณพ่อไปตามอาลม อาไตรและอากล้ามารับหนูไปเล่นในหมู่บ้านด้วยนะคะ”เด็กสาวกอดคอบิดาหัวเราะคิกคักดวงตาเป็นประกาย“งั้นไปเราไปอาบน้ำกัน”ก่อนที่สิงหรัตน์จะพาบุตรสาววิ่งเข้าห้องน้ำด้วยเสียงหัวเราะลั่น“นั่งๆ ลงเดี๋ยวนี้” เด็กน้อยบอกบิดาชี้นิ้วป้อมๆ ออกคำสั่ง“จ้ะๆๆ”สิงหรัตน์หมอบลงให้ลูกสาวคลานขึ้นหลัง พิณทิราที่แอบมองอยู่อีกด้านอดอมยิ้มเสียไม่ได้ จะมาพาเจ้าตัวเล็กแสนซนไปอาบน้ำ แต่คงไม่ต้องแล้วเพราะสามีได้จัดการไปเรียบร้อยแล้ว... แต่
“ธัญญ์ขอให้พี่สิงห์กับพิณมีความสุขมากๆ ตลอดไป”ธัญญ์ยิ้มให้พิณทิราด้วยความรักไม่เคยเปลี่ยนแปลง หลังจากเขาบินกลับมาจากต่างประเทศเพื่อมางานแต่งของทั้งสองโดยเฉพาะ“นายรีบมีเมียบ้างสิ จะได้มีคนดูแล”สิงหรัตน์ตบบ่าน้องชายเบาๆ ด้วยความรักไม่ต่างกัน“ถ้าผมมีผู้หญิงที่ดีแบบพิณ ผมคงตัดสินใจแต่งงานครับพี่สิงห์”ธัญญ์พูดเสียงเศร้า เขายินดีกับทั้งสองด้วยความบริสุทธิ์ใจ สิงหรัตน์ตบบ่าน้องชายอีกครั้ง เขาไม่ได้เคืองโกรธแต่ทำด้วยความรักงานแต่งงานเสร็จสิ้นลงด้วยความสุขของทุกคนที่ไม่น้อยไปกว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาว เมื่อญาติผู้ใหญ่ต่างอวยพรให้คู่บ่าวสาวในห้องหอเรียบร้อยก็ปล่อยให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง“พี่สัญญาว่าจะดูแลพิณและลูกให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้”“ถึงแม้ว่าพี่สิงห์จะไม่สัญญา ตอนนี้พี่สิงห์ก็ดูแลพิณกับลูกดีที่สุดเท่ากับผู้หญิงคนนึง จะได้รับการดูแลจากสามีแล้วค่ะ”พิณทิราก้มลงกราบสิงหรัตน์บนเตียงกว้างที่โรยด้วยกลีบดอกไม้หลากสีล้วนเป็นดอกไม้มงคลสิงหรัตน์ประคองภรรยาคนสวยขึ้นมากอดแนบอก เช็ดน้ำตาให้บางเบา“พี่รักพิณกับลูกมากนะ”“พิณก็รักพี่สิงห์ค่ะ รักมากเท่ากับผู้หญิงคนหนึ่งจะรักผ
“เจอหรือยัง”เสียงทุ้มเอ่ยถาม พิณทิราปาดเม็ดทรายทิ้งไปก่อนดึงกล่องกำมะหลี่สีฟ้าขึ้นมาสิงหรัตน์กุมมือบอบบาง ก่อนจะช่วยกันเปิดกล้องแหวน ด้านในบรรจุแหวนเพชรเม็ดงามเอาไว้เพชรน้ำงามส่งแสงแวววาว พิณทิราก้มลงมองด้วยความตื้นตัน สิงหรัตน์ค่อยๆ บรรจงสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย หญิงสาวโผเข้ากอดเขาแนบแน่นด้วยความรักสุดหัวใจ“พี่รักพิณนะ”สิงหรัตน์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงหวานล้ำ คละเคล้ากับเสียงคลื่นที่กระทบฝั่งเหมือนเพลงขับกล่อมบรรเลงซึ้ง“พิณก็รักพี่สิงห์ค่ะ”เสียงปรบมือดังก้องไปทั่วเกาะพร้อมกับเสียงไชโยอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการจุดพุสวยงามฉลองความสุขดังสนั่นไปทั่วเกาะทุกคนต่างช่วยกันขนแคร่ไม้ไผ่ยกมาวางริมหาด พร้อมกับอาหารที่เตรียมเอาไว้“แบบนี้ต้องฉลองกันหน่อย เต็มที่เลยทุกคน”พิณทิราเพิ่งรู้ว่าสามีได้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว หลังจากนั้นก็เป็นเสียงเพลงบรรเลงหนุ่มสาวชาวเกาะต่างร้องรำทำเพลงและทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยสิงหรัตน์กอดไหล่บอบบาง ยืนมองภาพความสุขของชาวบ้านบนเกาะด้วยความสุขใจไม่แพ้ภรรยางานหมั้นในช่วงเช้าถูกจัดขึ้นที่เกาะเสือ มีเพียงเครือญาติสนิท เพื่อนพ้องและลูกน้องที่เคารพนับถือและรักเท
“พิณ หลับไปแล้วเหรอ”สิงหรัตน์หอมแก้มนวลเบาๆ เมื่อเธอคงเพลียที่ต้องช่วยพี่เลี้ยงดูแลลูกทั้งวันจนหลับไปสิงหรัตน์เล่นกับลูกก่อนไปทำงานและหลังกลับจากที่ทำงาน ช่วงนี้งานยุ่งเขากลับมาก็หลับเป็นตาย บ้างก็หลับพร้อมลูกๆ อยู่บนเตียง พิณทิราเห็นแล้วอดอมยิ้มไม่ได้ลูกสาวตัวน้อยเริ่มร้อง เธอสังเกตว่าคงหิวนมเพราะผงกศีรษะขั้นอ้าปากแล้วก็ดูดปากตัวเองด้วยความที่เลี้ยงลูกจากน้ำนมตัวเอง พิณทิราจึงช้อนอุ้มลูกน้อยขึ้นแนบอก แล้วคีบหัวนมจ่อที่ปากน้อยน่ารักลูกสาวตัวน้อยรีบดูดน้ำนมด้วยความหิวกำปั้นน้อยกดบนเต้าอวบๆ ของมารดาสิงหรัตน์ปรือตามองภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม เขาหันไปดูลูกชายตัวน้อยอีกด้านที่ยังนอนหลับปุ๋ยอยู่ยิ่งเห็นภาพนั้น ความต้องการยิ่งมากขึ้น จนเขาเริ่มทนไม่ไหว ตาคมเงยหน้าขึ้นสบสายตาหวานๆ ของภรรยาเหมือนจะเอ่ยขออนุญาตพิณทิราแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เพราะลูกน้อยกำลังดื่มนม แต่การไม่ปฏิเสธทำให้ชายหนุ่มสรุปเอาเองว่าเธอยอมเขา“พิณ...” เสียงแหบพร่าที่สวมกอดมาทางด้านหลังทำให้เธออุ่นวาบในอ้อมแขนของเขา“พี่ขอได้ไหมพิณ”“ลูกยังกินนมอยู่นะคะพี่สิงห์”“เจ้าตัวน้อยกินนมนั่นแหละพี่เลยหิว อยากกินพิณแบบนี้”เขาบอกด
“พี่สิงห์”พิณทิราบิดหู ก่อนจะทุบเสียหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ ไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรห่ามๆ เอาแบบนี้ขนาดเธอไม่สบายนะนี่“เปิดเสื้อได้แล้ว มัวแต่พูดมาก เดี๋ยวไม่ให้นอนเลย”พิณทิราค้อนให้กับคนเอาแต่ใจ สิงหรัตน์รีบถลกเสื้อตัวสวยออกโดยเร็ว สายตากระหายมองเต้าอวบๆ ขาวเนียนเต็มตึงตาพราว ใบหน้าคมก้มลงซุกไซ้แล้วอมดูดหนักๆ มือใหญ่สอดเข้าบีบเคล้นหนักหน่วงตอนนี้สิงหรัตน์ย้ายภรรยากลับมาอยู่บนฝั่ง มาอยู่บ้านใหญ่ของบิดาเพราะจะได้สะดวกในการคลอดเขากลัวว่าหากอยู่บนเกาะจะลำบาก ส่วนตัวเองไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านกับเกาะ จนบิดายิ้มหน้าบานเมื่อเห็นลูกชายอยู่ติดบ้านงานบนเกาะก็ให้ลูกน้องคอยดูแล แต่เขาไปตรวจอยู่ประจำ ไปเช้าเย็นกลับ เพราะห่วงภรรยาและต้องกลับมาซุกอกอวบๆ ของพิณทิราไม่งั้นรู้สึกว่าตัวเองจะขาดใจเสียให้ได้สิงหรัตน์เลื่อนงานแต่งงานออกไปรอจนกว่าภรรยาคลอด แล้วจึงค่อยแต่งงานกับหญิงสาวอย่างเป็นทางการชายหนุ่มดูแลภรรยาเป็นอย่างดี จนคนรอบข้างต่างอมยิ้มในความน่ารักนั้นมือใหญ่ลูบหน้าท้องกลมๆ ของภรรยาเบาๆ แนบใบหูฟังเสียงลูกน้อยที่จะมีปฏิกิริยาดิ้นเตะแม่ทุกครั้งที่เขาสัมผัส“อุ๊ย! พี่สิงห์”พิณทิราเอามือจับที่ท้อ







