“แม่ขอโทษ...แม่ไม่คิดว่าหนูสิตาจะเกิดเรื่องแบบนี้”
คุณหญิงเยาวเรศเอ่ยขึ้น เมื่องานเลี้ยงฉลองพิธีมงคลสมรสนั้น เป็นอันต้องชะงักลงกลางคัน เพราะแผนการของคุณหญิงเยาวเรศเอง เธอกลัวลูกชายของเธอนั้นจะหลุด*โป๊ะกลางงาน เธอเลยออกอุบายหาข้ออ้างให้เจ้าสาวเกิดเป็นลมล้มพับกลางงานขึ้น
“ขอโทษเหรอครับ...แม่ขอโทษโดยการเอาเด็กรับใช้นั่นมาเข้าพิธีแต่งงานกับผมงั้นหรือครับ”
สายตาคมดุสาดไปยังบุคคลที่เขากำลังเอ่ยถึง เธอกำลังยืนก้มหน้าอยู่กลางห้องนอนใหญ่ของโรงแรม โดยห้องนี้ถูกจัดให้เป็นห้องที่เตรียมพิธีส่งตัวเข้าหอ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่แม่ของเขาวางแผนให้เด็กรับใช้นั้นเป็นลม ธารณ์จึงอุ้มร่างของเธอมายังห้องนี้ โดยแม่ของเขาก็ตามติดๆ ทั้งสามเลยต้องยืนประจัญหน้ากันภายในห้อง เพื่อสะสางในสิ่งที่เกิดขึ้น
“แต่มันแค่เป็นพิธีเลี้ยงตอนเย็นแค่นั้นนะธารณ์ และตอนนี้เราก็ติดต่อหนูสิตาได้แล้ว มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดฝั่งของหนูสิตาเองนะธารณ์ แม่ว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากนะ”
คุณหญิงเยาวเรศเหลือบมองไปยังเด็กรับใช้ในบ้านของเธอ ทุกอย่างของเด็กคนนี้ใกล้เคียงกับว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอมาก เธอไม่คิดว่าลูกชายของเธอจะโกรธมากขนาดนี้ที่เอาเด็กนี่มาเป็นตัวแทน
“ความจริงผมเองก็ยังไม่ได้คิดที่จะแต่งงานกับสิตาหรอกนะครับ แต่คุณแม่สิครับ มาขอร้องให้ผมรีบแต่งและมีทายาท ผมก็ไม่เคยขัด แต่นี่อะไรครับ ทำไมสิตาถึงหนีไปแบบนี้ และหนำซ้ำแม่ยังเอาเด็กรับใช้มาเข้าพิธีแก้ขัดกับผมอีก แม่เห็นผมเป็นอะไรครับ”
ที่ธารณ์ยอมแต่งงานกับรสิตานั้น เขายอมรับว่าส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากความชอบของเขาเหมือนกัน รสิตากับเขาถูกจับให้คบกัน โดยผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายสนับสนุน ธารณ์เองยังไม่มีใคร ก็เลยไม่อยากขัดใจผู้เป็นแม่ เขาไม่เคยรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของรสิตาสักเท่าไหร่ รู้เพียงแต่ว่าเธอนั้นน่ารักและอ่อนหวานเท่านั้น ตลอดเวลาที่คบกันเธอก็เหมือนกับรักเขา แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับรสิตากันแน่?
“หนูสิตาแค่ออกไปดื่มกับเพื่อนในช่วงของการรอพิธีตอนเย็น และดันดื่มจนเมาและกลับมาไม่ทัน คุณหญิงเบญจมาศมาแจ้งเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่แม่เห็นว่าเหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียว หนูสิตาน่าจะไม่ทันและอีกอย่างหนูสิตาก็เมาจนไม่ได้สติ แม่ก็เลยให้ลูกสาวของมาลินีรับหน้าแทนก็แค่นั้นเองนะธารณ์”
สิ่งที่คุณหญิงเยาวเรศเล่านั้น มีความจริงแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้น อีกเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์คือการ*กุเรื่อง เธอไม่รู้ว่ารสิตาอยู่ที่ไหน และเธอก็ยังไม่ทราบความเป็นจริงเรื่องนี้จากปากของคุณหญิงเบญจมาศเลยสักนิด เพียงแต่ได้เตรียมคำพูดกันประมาณนี้
“งั้น คุณแม่ก็ควรล้มเลิกเรื่องงานแต่งงานบ้าบอนี้ไปซะ”
“เดี๋ยวสิธารณ์ ลูกใจเย็นๆ ก่อนนะ ทุกอย่างถูกจัดขึ้นอย่างถูกต้องหมดแล้ว และหนูสิตาเองก็ไม่ได้หนีไปอย่างที่ธารณ์คิดนี่ แม่ว่า ลูกใจเย็นและออกไปฉลองกับเพื่อนข้างนอกก่อน เดี๋ยวเรื่องนี้แม่จัดการเองนะ ส่วนแม่เด็กนี่ ลูกก็อย่าเอามาใส่ใจเลย ลูกสาวมาลินีก็แค่ทำตามที่แม่บอกก็เท่านั้นเองนะ”
คุณหญิงเยาวเรศพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมบุตรชาย เพื่อประวิงเวลาในการออกตามหาว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ
“ถ้าคืนนี้ สิตาไม่กลับมาที่ห้องนี้ ผมถือว่าทุกอย่างจบลงก็แล้วกัน และผมจะไม่ทำตามคำขอของคุณแม่อีกต่อไป”
พูดจบชายหนุ่มก็หันไปมองเด็กสาวรับใช้ที่ยืนนิ่งราวกับรูปปั้น ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มออกมา พร้อมกับกวาดสายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
แกร๊ก!! ปึ่ง!! เสียงประตูถูกเปิดและปิดดังสนั่น!
“เฮ้อ...เอาไงกันล่ะทีนี้ ฉันจะพาหนูสิตากลับมาได้ไหม เธอพอจะมีวิธีหรือเปล่า”
คุณหญิงเยาวเรศหันมา เพื่อถามความคิดเห็นของเด็กสาวที่เธอนั้นเห็นเด็กคนนี้มาตั้งแต่ยังแบเบาะ
“คุณท่านติดต่อคุณหญิงเบญจมาศแล้วหรือยังคะ เผื่อคุณรสิตาจะกลับมาแล้วก็ได้นะคะ”
เอมิกาเปิดปากพูดเป็นครั้งแรก หลังจากที่เธอผ่านชั่วโมงอันแสนโหดร้ายนั้นมาได้ เอมิการู้ว่าลูกชายคนโตของบ้านหลังนี้ มีความเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองมากแค่ไหน และก็ไม่ค่อยจะชอบหน้าเธอสักเท่าไหร่ ผิดกับลูกชายคนเล็ก ‘ธราธิป’ หรือ ‘ธีย์’เป็นอย่างมาก น้องชายของเขาเปรียบเสมือนเหรียญคนละด้านกับเขาเลย แต่ทว่าน้องชายของเขาก็ช่างโชคร้ายเหลือเกิน...
ธราธิปนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานนับหกเดือนเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อต้นปี ด้วยเหตุนี้ คุณหญิงเยาวเรศจึงเหลือเพียงความหวังเดียว คือ บุตรชายคนโตเท่านั้น คุณหญิงอยากให้ลูกชายแต่งงานและมีทายาทเพื่อสืบสกุล เนื่องจากทรัพย์สมบัติอันมหาศาลนี้มันมากมายจนคุณหญิงเกรงว่าถ้าไม่มีทายาทสืบทรัพย์สมบัติ และทุกอย่างก็อาจจะมลายหายไปก็เป็นได้
“อืม จริงสินะ ป่านนี้จะตามตัวเจอแล้วหรือยัง เดี๋ยวฉันโทรหาเลยดีกว่า เธอเองก็อย่าพึ่งไปไหนล่ะ อยู่คอยรอให้หนูสิตามาก่อนนะ”
“ค่ะ”
ร่างบอบบางที่อยู่ในชุดเจ้าสาวทิ้งตัวลงบนโซฟาใหญ่กลางห้องอย่างหมดแรง เอมิกาไม่รู้ว่า เรื่องราวพวกนี้จะผ่านพ้นไปเมื่อไหร่ 19 ปีที่ผ่านมาของเธอนั้นไม่เคยเจอเรื่องที่มันหนักเท่ากับเรื่องนี้มาก่อน เอมิกายังคงต้องพึ่งพาผู้มีพระคุณของคนบ้านนี้ต่อไป เพราะเธอเรียนหนังสือไม่จบ และเพื่อแม่ของเธอเองด้วย
“อะไรนะ!! ยังตามหาตัวไม่เจองั้นเหรอ! เธอจะรับผิดชอบเรื่องนี้ยังไงเบญจมาศ พี่รับตาธารณ์ไม่ไหวแล้วนะ...เธอจะมีวิธีแก้แบบไหน #%@&^$%#”
คุณหญิงเยาวเรศระเบิดความอัดอั้นออกมาทันที เธอไม่รู้ว่าวิธีการที่จับลูกชายคนโตแต่งงานแบบสายฟ้าแลบตามคำแนะนำของเพื่อนรุ่นน้องของเธอ ที่แนะนำลูกสาวของตัวเองให้ลองมาคบกับลูกชายของเธอ สุดท้ายลงเอยที่การแต่งงาน เรื่องราวมันน่าจะ *แฮปปี้ไปแล้ว แต่เธอก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันนี้ขึ้น
“จะขอคุยกับลูกสาวมาลินีงั้นเหรอ”
“ใช่ค่ะคุณพี่ น้องมีเรื่องจะคุยกับเด็กนั่นหน่อยค่ะ ตอนนี้ยัยสิตาเรากำลังให้คนออกตามหาแล้วนะคะ คาดว่าไม่เกินคืนนี้แน่นอนค่ะ”
“โอเค ยังไงเธอก็อย่าให้เรื่องมันร้อนถึงพี่แล้วกัน ต่อไปตาธารณ์จะไม่ไว้ใจพี่อีกแล้วนะถ้าขืนเป็นแบบนี้”
“ค่ะคุณพี่”
“นี่...ยัยมิ้นท์!”
“คะ? คุณท่าน”
“มารับสายนี่เร็ว ไม่ต้องถามอะไร เธอมีหน้าที่ฟังและรับคำสั่งอย่างเดียว แค่นี้ฉันก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว เร็ว!”
“ค่ะๆ คุณท่าน” เอมิกายื่นมือรับสายร้อนนั่นทันที
“ฉันจะบอกเธอสั้นๆ นะ และไม่ต้องถามอะไรฉันมาก เรื่องนี้เธอรู้กับฉันแค่สองคน อย่าให้คุณพี่รู้เรื่องนี้เด็ดขาด เข้าใจมั้ย”
“อ่อ ค่ะ” เอมิกากำลังมึนงงกับคำพูดของอีกฝ่าย ทำไมคนพวกนี้ถึงสร้างเรื่องราวกันเก่งนัก
“ฉันต้องการให้เธอ คอยรอพิธีเข้าห้องหอกับตาธารณ์ก่อน รอจนกว่าฉันจะนำตัวลูกสาวของฉันมาสับเปลี่ยนกับเธอ”
“เอ่อ แล้วคุณธารณ์จะไม่...”
“เธอไม่ต้องถามอะไร ฉันสั่งให้เธอทำตามแค่นั้นพอ เข้าใจมั้ย และถ้างานนี้สำเร็จ ฉันจะตบรางวัลให้เธอด้วย ไม่ต้องห่วงหรอก”
“และถ้าลูกสาวคุณไม่เอ่อ...”
“คืนนี้ ยัยสิตา ลูกสาวของฉันต้องมาแน่นอน ฉันมั่นใจ เธอแค่รอและคอยอยู่กับตาธารณ์ก่อนก็แล้วกัน ไม่ต้องถามมาก”
อีกวิธีหนึ่งที่เบญจมาศจะต้องทำก็คือ เธอจะส่งคนไปคุมเกมว่าที่ลูกเขยของเธอ อย่างน้อยถ้าดื่มหนักๆ ก็คงจะไม่มีสติมาคิดถึงเรื่องของลูกสาวเธอ และช่วยในการถ่วงเวลาในการออกตามหาลูกสาวของเธออีกแรง
“ทำไมคุณถึง...”
เอมิกาคิดหนัก แค่เข้าพิธีเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เธอก็แทบเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว และยังจะให้เธออยู่กับเขาคืนนี้เพื่อรอตัวจริงมาสับเปลี่ยนอีกเหรอ เอมิกาคงจะตายแน่ๆ เลย จะทำยังไงดี แล้วเจ้าสาวตัวจริงจะมาเวลาไหนกัน
“ฉันบอกให้เธอทำ ก็ทำตามที่ฉันบอก เข้าใจมั้ย”
“เอ่อ...ค่ะ”
เอมิกาจำใจต้องรับคำสั่งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สาวรับใช้อย่างเธอ มีสิทธิ์ที่จะโต้แย้งอะไรได้อีก นอกจากก้มหน้าน้อมรับคำสั่งเพียงอย่างเดียว
“ดี!” ปลายสายถูกตัดไปทันที สิ่งที่คุณหญิงเบญจมาศต้องทำในชั่วโมงเร่งด่วนนี้ก็คือ การออกตามหาลูกสาวสุดที่รักของเธอให้เจอให้จงได้ ว่าที่ลูกเขยร่ำรวยมหาศาลแบบนี้ไม่ได้หากันง่ายๆ นะ
………………..
กดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ
ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น
และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ