Share

Chapter7

last update Last Updated: 2025-08-21 01:36:13

Chapter7

กัญญาภรณ์กับชุติมาก้าวลงมาจากรถกระบะ ทั้งคู่มาหยุดยืนหน้ารั้วบ้านหลังงามที่ชาตินี้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสมีบ้านหรูๆ แพงๆ อย่างนี้หรือไม่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าของบ้านหลังนี้จะร่ำรวย เพราะรากฐานของต้นตระกูลมั่นคงส่งผลต่อลูกหลานที่พลอยสบายตามไปด้วย

          ไม่มีใครไม่รู้จักเถ้าแก่สันต์ ผู้กว้างขวางในจังหวัดตรัง กระบี่และภูเก็ต เขาเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง มีคนนับหน้าถือตามาก ขนาดนักการเมืองท้องถิ่นยังต้องนอบน้อม กัญญาภรณ์ไม่รู้จักเถ้าแก่สันต์เป็นการส่วนตัว เคยเจอเพียงแค่สองครั้ง แต่ก็ได้ยินกิตติศัพท์ของเขามาตั้งแต่เด็ก และไม่คิดว่าวันนี้ตนจะเข้ามาหาคนใหญ่คนโตของจังหวัดด้วยเรื่องหนี้สินของบิดา หนี้ก้อนโตเสียด้วย

          “สวัสดีค่ะเถ้าแก่สันต์ เถ้าแก่เนี้ย” กัญญาภรณ์พนมมือไหว้เจ้าของบ้าน

          “นั่งสิ” เถ้าแก่สันต์รับไหว้ ก่อนเชิญให้นั่ง

          “หนูชื่อแพรค่ะ เป็นลูกพ่อพจน์ ลูกหนี้ของเถ้าแก่ค่ะ”

กัญญาภรณ์แนะนำตัว

          “ฉันรู้แล้วว่าหนูคือใคร ไม่อย่างนั้นคงไม่ตั้งเงื่อนไขให้มาเป็นเมียลูกชายฉันหรอก” สันต์ตอบกลับว่าที่ลูกสะใภ้ที่ตนหมายปองให้สิงหนาท “ว่าแต่หนูมาหาฉันทำไม”

          “หนูจะมาพูดเรื่องหนี้ค่ะ หนูขอผัดผ่อนหนี้ไปก่อนได้ไหมคะ หนูจะหาดอกเบี้ยมาให้เถ้าแก่...”

          “คงไม่ได้หรอกเพราะนี่ก็เลยเวลาตามสัญญามาเกือบหกเดือนแล้ว ฉันให้โอกาสพจน์มาตลอดนะ แต่พจน์ไม่ทำตามสัญญา ฉันจึงต้องยึดที่ดินทั้งหมดที่พจน์เอามาจำนอง” เถ้าแก่สันต์พูดแทรก มองหน้ากัญญาภรณ์ “หนูก็ต้องเข้าใจฉันด้วยนะ เงินฉันตั้งสิบล้านที่ให้พจน์ไปก็ไม่ใช่น้อยๆ ทรัพย์สินที่เอามาจำนองราคาทั้งหมดก็ไม่ถึงสิบล้าน แต่ที่ให้เพราะฉันช่วยพจน์ หนูคงไม่รู้ว่า มีครั้งนึงที่บ่อนพจน์โดนทหารลง ต้องเสียเงินค่าปรับไปตั้งเท่าไหร่ ไหนจะประกันตัวให้คนเล่นอีก วันนั้นฉันช่วยพจน์ไปเกือบล้านนะ ฉันก็ช่วยพจน์สุดๆ แล้ว ผ่อนปรนให้มากกว่าคนอื่นด้วย”

          กัญญาภรณ์เงียบกับประโยคที่ได้ยิน เรื่องบิดาเปิดบ่อนเธอยังไม่รู้ แล้วเรื่องนี้จะรู้ได้อย่างไร แต่ก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลก ข่าวเรื่องตำรวจ ทหารบุกจับบ่อนการพนันในกรุงเทพหรือตามต่างจังหวัดออกข่าวบ่อยๆ การจ่ายเพื่อประกันตัวก็ต้องเกิดขึ้นอย่างไม่มีทางเลือก

          “เถ้าแก่ก็ไม่อยากยึดที่ดินของพจน์นะ เห็นว่าที่ดินเป็นมรดกตกทอดมาหลายรุ่น แต่หนูแพรก็ต้องเข้าใจเจ้าของเงินอย่างฉันกับเถ้าแก่ด้วยนะ ความเมตตาปรานีก็อีกเรื่อง สัญญากู้ยืมเงินมันก็อีกเรื่อง ทุกคนก็ต้องเข้าใจกฎกติกา ตอนที่พจน์เดินมาหาเถ้าแก่เพื่อขอความช่วยเหลือ พจน์ก็เข้าใจตามข้อตกลง พอถึงเวลาก็ต้องใช้หนี้ หนูว่าที่ฉันพูดถูกไหม” ปานวาดพูดต่อจากสามี

          “ค่ะ ถูกค่ะ” กัญญาภรณ์เข้าใจดี แต่ทำใจไม่ได้ที่จะไปเป็นเมียลูกชายเถ้าแก่สันต์ ที่ไม่รู้จักหน้าตา ไม่เคยพบหน้า ไม่เคยพูดคุย มันเป็นเรื่องยากจะยอมรับได้ “แต่หนูขอโอกาสเถ้าแก่สันต์อีกสักครั้งนะคะ ขอให้หนูเวลาสักอาทิตย์ หนูจะหาดอกมาให้ก่อน ส่วนเงินต้นหนูจะทยอยคืนให้เป็นรายเดือนค่ะ หนูรับข้อเสนอของเถ้าแก่สันต์ไม่ได้จริงๆ ค่ะ”

          “เงินมันเยอะนะหนูแพร ผ่อนเป็นรายเดือนก็ต้องเดือนละเป็นแสนนะ” เถ้าแก่สันต์บอกเสียงเรียบ รู้อยู่แล้วว่ากัญญาภรณ์ไม่ยอม  “ส่วนดอกเบี้ยตั้งแต่ไม่ได้ส่งดอกให้จนถึงวันนี้ก็หกแสนนะ ถ้าหนูหาได้ทันวันมะรืน ฉันก็จะผ่อนผันให้”

          “หกแสน!” กัญญาภรณ์กับชุติมาพูดพร้อมกัน น้ำเสียงบอกถึงความตกใจเต็มที่

          “ใช่หกแสน” เถ้าแก่สันต์ย้ำ “ฉันไม่ได้ตั้งค่าดอกเบี้ยขึ้นมาลอยๆ เพื่อให้หนูยอมเป็นเมียลูกชายฉัน ที่มันเยอะเพราะมันเป็นดอกเบี้ยสะสม แล้วเงินค่าประกันตัวพจน์กับผีพนันที่ฉันเอาเงินไปประกันตัวออกมา และเคลียร์พื้นที่อีก พจน์บอกเองว่าให้ฉันร้อยละยี่สิบ หกแสนนี่คือหยวนๆ นะ”

          “หนูคงหาเงินหกแสนในวันสองวันไม่ได้หรอกค่ะ ขอผลัดไปเดือนหน้าได้ไหมคะ ถือว่ากรุณาหนูเถอะค่ะ” กัญญาภรณ์ยกมือไว้สองสามีภรรยา

          “นี่ก็กรุณามากแล้วนะ ถ้าฉันไม่กรุณาฉันคงยึดที่ดินทั้งหมดของพจน์ไปตั้งแต่เดือนที่แล้ว ไม่ยืดเยื้อมาถึงเดือนนี้หรอก เอาตามนี้ก็แล้วกัน ถ้าหนูหาเงินค่าดอกเบี้ยได้ฉันก็จะล้มข้อเสนอทั้งหมด แล้วให้หนูผ่อนหนี้ได้ แต่ถ้าหนูหาไม่ได้ หนูต้องมาเป็นเมียลูกชายฉัน” เถ้าแก่สันต์สรุป “ฉันพูดแค่นี้นะ ขอตัวก่อนได้เวลาพักผ่อนของฉันแล้ว”

          เถ้าแก่สันต์กับภรรยาเดินออกจากห้องนั่งเล่นทันทีที่พูดจบ คนเป็นลูกหนี้ถอนหายใจพรืดยาวด้วยความกลัดกลุ้ม เงินหกแสนไม่ใช่น้อยๆ ไม่มีคาถาวิเศษเสกเงินได้ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ได้เงินจำนวนนี้ไว้ในมือ กัญญาภรณ์กับชุติมาเดินทางกลับบ้านด้วยความผิดหวัง และความหวังที่จะหาเงินหกแสนก็ลิบหรี่ กัญญาภรณ์คิดไม่ออกว่า จะหาเงินก้อนนี้จากที่ใด การเจรจาที่เหมือนจะดี กลับกลายเป็นว่าสร้างความหนักใจให้กัญญาภรณ์มากขึ้น

“พี่จะหาเงินได้เหรอ เงินหกแสนนะไม่ใช่หกบาทที่จะไปยืมใครแล้วได้เลยน่ะ” ชุติมาถามลูกพี่ลูกน้องที่นั่งหน้าเครียดขณะขับรถกลับบ้าน

          “คิดไม่ออก” กัญญาภรณ์ตอบตามตรง เธอมีเพื่อนสนิทไม่กี่คน แล้วไม่กี่คนที่ว่านี้ไม่ได้ร่ำรวยมีเงินให้ยืมหลักแสน แค่หลักพันยังพอช่วยกันได้ สมองเธอเกิดตันขึ้นมาทันใด

          “ถ้าพี่หาไม่ได้ พี่ต้องไปเป็นเมียนายหัวสิงห์นะ” ชุติมาพูดเชิงตอกย้ำ “นายหัวสิงห์โหดมากนะพี่ คนในพื้นที่รู้จักกิตติศัพท์ดีเลยแหละ คนงานกลัวกันหงอเลย ใครมีเรื่องด้วยโดนทั้งเตะ ทั้งถีบ ทั้งต่อยจนน่วมไปทั้งตัวต้องหามส่งโรงบาล ไม่มีใครกล้ายุ่งกับนายหัวสิงห์สักคน”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียลับนายหัว   Chapter8

    Chapter8 ชุติมามีความคิดว่า หากกัญญาภรณ์เป็นเมียนายหัวสิงห์จริง คงได้ฆ่ากันตายแน่นอน เพราะคนหนึ่งก็ร้าย อีกคนหนึ่งก็ไม่ยอม เธอไม่อยากคิดภาพเลย “ไม่มีทางยอมหรอก ใครจะไปยอมเป็นเมียคนที่ไม่รู้จัก แล้วที่หาเมียไม่ได้จนต้องให้พ่อหาให้ หน้าตาอีตานายหัวสิงห์คงดูไม่ได้ สิวเขรอะเต็มหน้า อ้วนลงพุง ตัวดำแน่ๆ เถ้าแก่เลยใช้วิธีนี้หาเมียให้ลูกตัวเอง”ชุติมาหันมามองหน้ากัญญาภรณ์ เธออยากพูดออกไปเหลือเกินว่า นายหัวสิงห์คนนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่กล่าวมา ทุกอย่างตรงกันข้าม แต่ก็เลือกจะไม่พูดขับรถมุ่งหน้ากลับบ้าน“ถ้าพี่ยืนกรานว่าไม่ยอมก็ต้องหาเงินหกแสนมาให้เถ้าแก่สันต์วันมะรืนนะพี่” ชุติมาย้ำพูด“เออรู้แล้ว แกจะย้ำทำไมเนี่ย คนยิ่งกลุ้มๆ อยู่”คราวนี้กัญญาภรณ์เหวี่ยงใส่ชุติมา“ฉันไม่ได้ตอกย้ำให้พี่คิดมากหรือกลุ้มใจนะ ฉันเป็นห่วงพี่ เป็นห่วงลุงพจน์ ป้าหยุดแล้วก็แม่ด้วย เพราะทุกคนต่างก็ได้รับผลกระทบกับหนี้ก้อนนี้ทั้งนั้น” ชุติมาให้เหตุผล “ถ้าฉันมีใครให้หยิบยืมเงินหรือว่ากู้ได้ล่ะก็ ฉันทำทันทีเลยพี่ แต่ถ้าเงินสูงขนาดนี้ฉันก็จนปัญญา”ชุติมาก็เหมือนกัญญาภรณ์ ให้ยืมเงินหลักพันหรือหลักหมื่นต้นๆ

  • เมียลับนายหัว   Chapter7

    Chapter7กัญญาภรณ์กับชุติมาก้าวลงมาจากรถกระบะ ทั้งคู่มาหยุดยืนหน้ารั้วบ้านหลังงามที่ชาตินี้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสมีบ้านหรูๆ แพงๆ อย่างนี้หรือไม่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าของบ้านหลังนี้จะร่ำรวย เพราะรากฐานของต้นตระกูลมั่นคงส่งผลต่อลูกหลานที่พลอยสบายตามไปด้วย ไม่มีใครไม่รู้จักเถ้าแก่สันต์ ผู้กว้างขวางในจังหวัดตรัง กระบี่และภูเก็ต เขาเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง มีคนนับหน้าถือตามาก ขนาดนักการเมืองท้องถิ่นยังต้องนอบน้อม กัญญาภรณ์ไม่รู้จักเถ้าแก่สันต์เป็นการส่วนตัว เคยเจอเพียงแค่สองครั้ง แต่ก็ได้ยินกิตติศัพท์ของเขามาตั้งแต่เด็ก และไม่คิดว่าวันนี้ตนจะเข้ามาหาคนใหญ่คนโตของจังหวัดด้วยเรื่องหนี้สินของบิดา หนี้ก้อนโตเสียด้วย “สวัสดีค่ะเถ้าแก่สันต์ เถ้าแก่เนี้ย” กัญญาภรณ์พนมมือไหว้เจ้าของบ้าน “นั่งสิ” เถ้าแก่สันต์รับไหว้ ก่อนเชิญให้นั่ง “หนูชื่อแพรค่ะ เป็นลูกพ่อพจน์ ลูกหนี้ของเถ้าแก่ค่ะ”กัญญาภรณ์แนะนำตัว “ฉันรู้แล้วว่าหนูคือใคร ไม่อย่างนั้นคงไม่ตั้งเงื่อนไขให้มาเป็นเมียลูกชายฉันหรอก” สันต์ตอบกลับว่าที่ลูกสะใภ้ที่ตนหมายปองให้สิงหนาท “ว่าแต่หนูมาหาฉันทำ

  • เมียลับนายหัว   Chapter6

    Chapter6 “ก็กว่าจะรอแกมีเมียเองอีกกี่ปีกว่าจะมีหลานให้ฉันอุ้มอีก ฉันก็แก่ขึ้นไปทุกปี ฉันรอแกอย่างไม่มีกำหนดไม่ได้หรอก แกต้องมีเมียตามที่ฉันบอก แกจะได้มีหลานให้ฉันกับแม่แกเลี้ยง”เถ้าแก่สันต์ไม่เคยบังคับลูกชาย เขาปล่อยให้ทำตามใจอิสระมาตลอด แต่คราวนี้เขารอต่อไปไม่ได้จึงต้องบังคับให้ทำตามความต้องการของตนบ้าง“ไม่ ผมไม่ทำตามที่พ่อบอกแน่นอน ยังไงผมก็ไม่มีเมีย ถ้าเมียคนนั้นผมไม่ได้เป็นคนเลือกเอง”น้ำเสียงสิงหนาทแข็งขึงไม่ต่างกับบิดา ตามองตาอย่างไม่มีใครยอมใคร“สิงห์ลูก ทำเพื่อแม่สักครั้งไม่ได้เหรอลูก แม่ไม่เคยขอร้องอะไรสิงห์เลยนะ ตามใจมาตลอด แต่ครั้งนี้แม่ขอนะลูก แม่อยากมีหลาน แม่อยากเลี้ยงหลาน...ฮือ” ปานวาดที่นั่งฟังอยู่นานพูดขึ้นบ้าง พูดไปน้ำตาไหลไป สิงหนาทใจอ่อนยวบเมื่อเห็นมารดาร้องไห้ และยิ่งได้ยินคำขอร้องของมารดาด้วยแล้ว เขาใจไม่ดีเอาเสียเลย “แล้วหลานที่แม่อยากได้ก็ต้องเกิดกับผู้หญิงที่พ่อหาให้ด้วย แกก็รู้นี่ว่า ถ้าพ่อไม่เลือกเองผลจะเป็นยังไง”ประโยคนี้เองที่ทำให้สิงหนาทสะอึกไปคำโต“ดูสิดู แม่แกเคยร้องไห้ไหม แต่ต้องมาร้องไห้ขอร้องแกเนี่ยนะ” เถ้าแก่สันต์เห็นเมียร้องไห้ก็โวยใส่

  • เมียลับนายหัว   Chapter5

    Chapter5“พ่อทำแบบนั้นไม่ได้นะ เดือนหน้าไหมจะแต่งงานแล้ว ทำอย่างนี้ทำร้ายจิตใจไหมมากเลยนะ” กัญญาภรณ์รีบค้านความคิดบิดา“แล้วจะให้ทำยังไง เอ็งก็ไม่ยอมทำตามที่เถ้าแก่บอกก็ต้องให้ไหมไปเป็นเมียนายหัวสิงห์แทน ไม่งั้นเราไม่เหลืออะไรแน่”พจน์กลัดกลุ้มไม่น้อย นึกโทษตัวเองที่ไม่น่าหวังรวยทางลัดและเชื่อคำพูดของป๋าจิตมากเกินไป หลงลมจนตั้งบ่อนขึ้นมา“เรื่องหนี้เจรจาไม่ได้เหรอพ่อ ขอผ่อนผันเขาไปก่อน”ผู้พูดพยายามทำใจเย็นและทำให้ตัวเองมีสติมากที่สุดมีความคิดที่ว่า ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้“ถ้าเจรจาได้จะเรียกเอ็งกลับมาบ้านทำไม ไม่จนปัญญาก็คงไม่กวนเอ็งหรอก” พจน์ทำหน้าเครียดจัด “เถ้าแก่เป็นคนดีมาก ผัดผ่อนให้หลายครั้งแล้ว ให้จ่ายแต่ดอก แต่ที่ต้องยึดเพราะสัญญาระบุไว้ว่า ภายในหนึ่งปีครึ่งถ้าหาเงินต้นมาให้ไม่ได้ครึ่งหนึ่งที่ดินทั้งหมดจะถูกยึด แล้วก็ถึงกำหนดแล้วด้วย”น้ำเสียงพจน์เศร้าหนักขึ้นไปอีก“พ่อเอ็งก็กลุ้มนะ ไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหน ไปหยิบยืมใครจะมีเงินตั้งสิบล้าน พอดีเถ้าแก่เสนอวิธีนี้ แม่ก็เลยเรียกเอ็งกลับบ้านไง” สายหยุดรู้นิสัยลูกสาวคนโตดีว่าดื้อรั้นมากแค่ไหน ไม่ยอมคนถ้าไม่จนตรอกจริงๆ ยิ่งเรื่องที่ให

  • เมียลับนายหัว   Chapter4

    Chapter4 “หนูไม่เหนื่อย พ่อพูดมาเถอะ” ความอยากรู้มันแน่นอก นอนพักก็คงไม่หลับ “แต่แม่ว่า เอ็งพักก่อนก็ได้นะ” สายหยุดทำเหมือนกับว่ายังไม่อยากพูดเรื่องนี้ตอนนี้ และนั่นยิ่งทำให้กัญญาภรณ์อยากรู้มากขึ้น “พูดมาเถอะแม่ ไม่ว่าจะพูดตอนนี้หรือตอนไหนก็พูดเหมือนกัน” “ลุงกับป้าก็รีบๆ พูดมาเถอะน่า อยากรู้จะแย่อยู่แล้วเนี่ย”ชุติมาพูดขึ้นหลังจากทนไม่ไหว “มันเกี่ยวอะไรกับเอ็งฮะไอ้ยู นี่มันเรื่องในครอบครัวฉันนะ เอ็งกลับบ้านไปได้แล้ว หมดหน้าที่เอ็งแล้ว” พจน์ไล่ตะเพิดชุติมา “ไม่กลับหรอก อยากรู้จนอกจะแตกอยู่แล้ว กลับบ้านไปก็ไม่รู้เรื่องน่ะสิ กลับให้โง่ทำไม” ชุติมาเถียงกลับนั่งอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน “เอ็งนี่มันสอดรู้เหมือนแม่เอ็งไม่มีผิด” สายหยุดเป็นพี่สาวสายใจ มารดาของชุติมา “แหม เชื้อมันก็มาเป็นทอดๆ นั่นแหละ อย่างกับป้าไม่ชอบสอดรู้เรื่องคนอื่นงั้นแหละ” เจอย้อนเข้าไปสายหยุดจึงคว้าห่อกระดาษทิชชู่เขวี้ยงใส่ชุติมาที่รับมันไว้อย่างแม่นยำ “ปากเอ็งนี่นะ เอาไม้ตีหัวดีไหมเนี่ย” “เอาน่าแม่ ปล่อยๆ ยูไปเถอะ มาพูดเรื่อง

  • เมียลับนายหัว   Chapter3

    Chapter3 ย้อนกลับไปเมื่อห้าปีหกเดือนก่อน ร่างสมส่วนท่าทางทะมัดทะแมงสวมเสื้อยืดสีชมพูอ่อนทับในกางเกงยีนทรงเดฟสวมรองเท้าผ้าใบ เส้นผมยาวดัดเป็นลอนใหญ่ช่วงปลายผมถูกรวบมัดเป็นหางม้าสูงกว่าท้ายทอยเล็กน้อยก้าวลงมาจากรถบขส. เมื่อนำเธอมาถึงท่ารถอย่างปลอดภัย เธอกระชับเป้ที่สะพายอยู่บนหลัง ก่อนเดินไปยังหน้าสถานีขนส่งระหว่างเดินเสียงมือถือได้ดังขึ้น กัญญาภรณ์ไม่ได้หยุดเดิน เธอก้าวเดินไปด้วยก้มหน้าหยิบมือถือในกระเป๋าสะพายข้าง จึงไม่ทันระวังคนที่วิ่งหน้าตั้งราวกับหนีใครมา ชนตัวเธอมือถือเกือบหลุดมือ ส่วนคนชนล้มลงไปนั่งกับพื้น ก่อนรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งเผ่น “เฮ้ย! อะไรวะ” กัญญาภรณ์หัวเสียเล็กน้อยที่ไม่ได้รับคำขอโทษจากคนชน วินาทีต่อมาเธอเข้าใจแล้วว่า เหตุใดคนชนจึงไม่มีคำขอโทษให้ “จับมันให้ที มันกระชากสร้อยทองฉัน”เจ้าของเสียเป็นสตรีวัยห้าสิบกว่าปีร้องตะโกนไปด้วยวิ่งไปด้วย ทว่าไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ คนที่ได้ยินเพียงแค่มองดูชายหนุ่มที่บอกว่าเป็นคนร้ายกระชากทองวิ่งผ่านไปเท่านั้น จะมีเพียงคนเดียวที่พร้อมช่วยเหลือ เมื่อได้ยินเสียงพูด กัญญาภรณ์รีบวิ่งตามคนกระชากทองทันท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status