LOGINอัศราและกฤติกาไปถึงโรงแรมที่ใช้เป็นที่สัมมนาในตัวเมืองเชียงใหม่บ่ายวันรุ่งขึ้น การประชุมจะเริ่มในวันต่อไป ก่อนจะแยกย้ายเข้าห้องพักเจ้านายหนุ่มบอกเธอว่า
“ผมต้องไปธุระ เย็นนี้ลูกไก่หาอะไรทานเลยนะจะลงไปข้างล่างหรือสั่งมาข้างบนก็ได้ลงบัญชีได้เลยเดี๋ยวผมมาเคลียร์เอง หรือว่าอยากทานอะไรพิเศษเก็บบิลไว้เบิกได้”
ท่าทางเขารีบร้อนจนเธอไม่กล้าถามมาก กฤติกาได้แต่รับปากแล้วมองตามอัศราที่แยกเข้าห้องพักตัวเองไป
คืนนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับที่ทางสมาคมฯ จัดไว้ให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนลงไปร่วมสังสรรค์ได้ กฤติกาแต่งตัวด้วยชุดเดรสแบบกึ่งทางการลงไปร่วมงาน จุดประสงค์ของเธอเพียงแค่ต้องการลงไปหาอะไรทานและตั้งใจจะรีบกลับขึ้นห้องมาพักผ่อน
“ลูกไก่ทางนี้” ญาณินโบกมือเรียกเพื่อน เธอมาในฐานะตัวแทนบริษัทของบิดามารดาจึงได้พบกันโดยบังเอิญ
กฤติกาเดินเร็วๆ มาหาเพื่อน เธออุ่นใจขึ้นที่พบญาณินในงาน
“โชคดีจังที่เจอนิน เรานึกว่าจะไม่เจอใคร”
“มีโต๊ะนั่งรึยังลูกไก่ นั่งกับเราไหมเราก็มาคนเดียว” ญาณินเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน
สองสาวพากันไปตักอาหาร ในงานจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์เมื่อได้อาหารพอแล้วจึงพากันกลับมานั่งคุยกันที่โต๊ะ พวกเธอแทบไม่ได้สนใจใครในงาน จนกระทั่งพิธีกรในงานพูดขึ้นว่า
“ขอเชิญคุณสมิติประธานบริษัทเอสเอ็มคอนสตรัคชั่นขึ้นมากล่าวเปิดงานด้วยครับ”
กฤติกาหันขวับไปมองเธอไม่คิดว่าจะเจอสมิติที่นี่ เขาดูสูงสง่าในชุดสูททางการ แสงไฟจับที่ร่างเขาจนดูเหมือนออร่าเปล่งประกาย สมิติคนที่อยู่บนเวทีไม่เหมือนคนที่เคยอยู่กับเธอมาหลายปี และยิ่งดูห่างไกลตอกย้ำคำว่าคนละชั้นให้เธอรู้สึก
“เฮียหมิงนี่ วันนี้หล่อจัง”
เสียงญาณินทำให้เธอหันมามอง เพื่อนสาวจึงพูดต่อ
“เฮียหมิงเป็นชื่อที่เพื่อนๆ รุ่นน้องของเขาเรียกน่ะ เพื่อนในคลาสป.โทของเราเป็นรุ่นน้องของเขา” ญาณินพูดตามที่รู้มาเธอเองก็เคยพบสมิติแค่ผ่านๆ ตามงานสังคม แต่ไม่ได้สนิทสนมเป็นการส่วนตัว เธอรู้แต่ว่าเขาสนิทกับชานนท์ลูกชายเพื่อนแม่และเป็นเพื่อนในคลาสเดียวกับเธอ
กฤติกาหันกลับมาสนใจอาหารตรงหน้า
“แล้วเรียนป.โทสนุกไหม เผื่อฉันอยากไปเรียนมั่ง” เธอเปลี่ยนเรื่องคุยกับเพื่อนสาว
“ฮื่อ ไปสิถ้าลูกไก่ไปเรียนต้องได้เกียรตินิยมแน่ๆ เรารับรอง” ญาณินกระตือรือร้น หากชวนกฤติกาไปเรียนได้ถึงจะคนละปีการศึกษาแต่ก็ยังดี เผื่อมีโอกาสเจอกันบ้างที่คณะ
เธอทั้งสองคนคุยกันจนอิ่มจึงชวนกันแยกย้าย ญาณินถูกผู้ใหญ่ในงานคนหนึ่งเรียกคุย กฤติกาจึงขอตัวขึ้นห้องพักเธอกำลังจะเดินออกจากห้องจัดเลี้ยง แต่หางตาเห็นร่างชายหญิงคู่หนึ่งคุยกันอยู่ในมุมอับสายตา ท่าทางเหมือนกำลังโอบกอด กฤติกาไม่อยากเสียมารยาทแต่เธอหันหน้ากลับไม่ทัน
หญิงสาวตัวแข็งเมื่อเห็นว่าคนคู่นั้นคือสมิติกับหญิงสาวสวยจัดคนหนึ่งที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในวงการ กฤติกาจำได้ว่าเธอเป็นประธานบริษัทหนึ่งในเครือของเอสเอ็มกรุ๊ปนั่นเอง
สมิติและเธอคนนั้นหันมาเห็นเธอ เขาทำหน้าตกใจแต่กฤติกาพึมพำขอโทษก่อนจะรีบเดินเร็วจนกลายเป็นวิ่งมากดลิฟท์ขึ้นห้องพัก
เมื่อเข้าห้องได้หญิงสาวกดล็อกห้องและใส่กลอนยืนพิงหลังบานประตู น้ำตาไหลรินช้าๆ เธอถามตัวเองว่าร้องไห้ทำไม
เพราะเธอไม่ใช่คนสำคัญอีกแล้ว หรือว่าเยื่อใยที่เคยคิดว่ายังมีเหลือมันถูกหั่นจนขาดสะบั้นไปหมดแล้วจริงๆ
เธอไม่รู้ว่าด้านหน้าห้อง สมิติยืนอยู่ตรงนั้นเขากำลังจะยกมือขึ้นเคาะประตู แต่สุดท้ายเขาเปลี่ยนใจเดินกลับไปตามทางที่เดินมาเงียบๆ
#############
เช้าวันรุ่งขึ้นทั้งกฤติกาและอัศราต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเองจนแทบไม่ได้คุยกัน กฤติกาบังคับตัวเองให้สนใจอยู่กับเนื้อหาการสัมมนา ส่วนอัศราหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ได้เขาได้รู้เมื่อวานบ่าย
ในตอนเช้าวานนี้ตอนที่เขาไปรับกฤติกาที่บ้านเพื่อมาสนามบิน ในช่วงที่รอเธอลงมาจากชั้นบนเขาพบเกศราที่กำลังทำข้าวบดให้น้องเชอรี่ ชายหนุ่มจึงทดสอบเธอด้วยการเอาสร้อยทองเส้นนั้นให้เธอดู มันมีจี้พระจันทร์ติดอยู่เขาแกล้งถามว่าหากซื้อสร้อยนี้เป็นของขวัญให้น้องสาว ผู้หญิงสาวๆ จะชอบไหม
ชายหนุ่มเห็นเกศราหน้าถอดสีเมื่อเห็นสร้อยเส้นนั้น เขาจึงแน่ใจว่าเธอจำได้ว่าเป็นของตัวเองที่ทำตกไว้บนที่นอน เมื่อมาถึงเชียงใหม่ส่งกฤติกาเข้าที่พักแล้ว อัศราขับรถที่เช่ามาไปลำปาง เขาตรงไปที่ร้านเหล้าที่เขาไปมาเมื่อปีก่อน เค้นเจ้าของร้านให้ตามเด็กเชียร์เบียร์คนนั้นมาพบเขาให้ได้ จนได้คำตอบจากเพื่อนของเกศราว่าคนที่อยู่กับเขาในคืนนั้นคือน้องสาวของกฤติกาจริงๆ และเขามั่นใจมากว่าน้องเชอรี่คือลูกสาวของเขาเอง
เพื่อนของเกศราสารภาพสิ้นว่าเกศราไม่ได้รับงานพิเศษ เธอแค่มาทำงานแทนคนที่ขาดตามคำเกลี้ยกล่อมของเพื่อนและเจ้าของร้าน และเจ้เจ้าของร้านรับสารภาพว่าไม่ได้เอาค่าตัวแบ่งให้เด็กสาวเลย เงินสองหมื่นที่เขาจ่ายเจ้าของร้านเอาไปแบ่งกับเพื่อนของเธอคนละครึ่ง
อัศรายอมรับว่าโมโหแต่เขาไม่รู้จะเอาผิดพวกนี้ได้อย่างไร เพราะคนที่ผิดที่สุดในเหตุการณ์นี้คือตัวเขาเอง
ชายหนุ่มไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน ไม่รู้จะบอกพ่อแม่ตัวเองอย่างไรว่าไปทำเด็กสาวคนนึงท้องและเธอต้องเผชิญปัญหาต่างๆ มากับครอบครัวของเธอเอง โดยที่เขาไม่ได้มีส่วนดูแลอะไรเลย
เขาเองที่เป็นคนทำลายอนาคตของเกศรา เด็กสาวอายุสิบเก้าที่กำลังเรียนปวส.ปีที่สองต้องลาออกกลางคันเพื่อมาอุ้มท้องลูกของเขา ความรู้สึกผิดนี้ทำให้เขาแทบไม่กล้ามองหน้ากฤติกาเต็มตา
เย็นนั้นเมื่อทานอาหารแล้วกฤติกาตัดสินใจบอกอัศราว่า
“นายคะไก่รู้สึกไม่ค่อยโอเคเลยค่ะ ถ้าจะขอกลับกรุงเทพฯ ก่อนจะเป็นไรไหมคะ”
เขามองหน้าเธอก่อนจะพูดว่า
“ไม่ว่าหรอก ผมก็อยากกลับเหมือนกันเอกสารการประชุมเราได้แล้ว ไปอ่านเองทีหลังก็คงได้”
อัศรายอมเสียเงินทิ้งค่าตั๋วขากลับที่จองไว้ก่อนหน้านี้และจองตั๋วใหม่ในเที่ยวบินพรุ่งนี้เช้า เมื่อถึงตอนเช้าทั้งเจ้านายและลูกน้องต่างอยู่ในความเงียบ เมื่อถึงดอนเมืองหญิงสาวขอแยกตัวกลับบ้านเงียบๆ ตามลำพังและเธอต้องช็อกซ้ำสองเมื่อเกศราตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังในเย็นวันนั้น
เธอมองน้องสาวที่ร้องไห้เงียบๆ เมื่อพูดถึงเหตุการณ์คืนนั้นอีกครั้ง
“ทำไมหน่อยไม่บอกพี่เราจะได้หาทางแก้ไข” เธอพลอยร้องไห้ไปกับน้องด้วย กฤติกาไม่คิดว่าสิ่งที่น้องเจอมามันเลวร้ายถึงขั้นนั้น เธอเคยเข้าใจแค่ว่าเกศราอาจจะมีความรักในวัยเรียนที่ไม่ได้จริงจังต่อกัน แต่ไม่ใช่การเข้าไปเป็นเหยื่อในการค้ามนุษย์แบบนี้และลูกค้าคนนั้นก็คือเจ้านายของเธอเอง
“หน่อยไม่แน่ใจ หน่อยไม่มีหลักฐานอะไรว่าเป็นเขา แต่พอเห็นสร้อยเส้นนั้นที่พี่ซื้อให้หน่อยก็เลยแน่ใจ” เกศราทั้งกลัวทั้งกังวล เธอกลัวว่าอัศราอาจจะมาแย่งลูกไปจากเธอ
“ถ้าเราไม่ยอมรับเขาก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าเราไม่ยินยอมให้ตรวจดีเอ็นเอเขาก็ยิ่งไม่มีสิทธิ์ทำอะไร เด็กนอกสมรสเป็นสิทธิ์ของแม่ร้อยเปอร์เซ็นต์” กฤติกาพูดดวงตาเธอวาวโรจน์ ทำไมผู้หญิงจะต้องเป็นฝ่ายที่เสียใจอยู่ร่ำไปเธอจับมือน้องสาวไว้
“ไม่เป็นไรนะหน่อยไม่ต้องกลัว พี่จะลาออกจากงานจะขายบ้านหลังนี้ เราจะย้ายบ้านกัน”
สามปีต่อมาชีวิตของเกศราและอัศราดำเนินไปอย่างมีความสุขภายใต้ร่มเงาของความรักและความเข้าใจ มีพ่อ แม่และลูกอีกสองคนคือน้องเชอรี่และน้องพีชทำให้ครอบครัวสมบูรณ์ขึ้น การมีสมาชิกเพิ่มอีกคนทำให้บ้านอบอุ่นและมีชีวิตชีวามากขึ้น น้องเชอรี่รับหน้าที่พี่สาวได้อย่างดีเยี่ยม เธอรักน้องชายมาก หวงมากและคอยช่วยเหลือคุณพ่อคุณแม่ดูแลน้องพีชอยู่ไม่ห่างเกศรายังคงสนุกกับงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง กฤติกาผู้เป็นเจ้าของช่องก็ยังคงสร้างสรรค์คอนเทนต์ดีๆ ออกมาไม่หยุด การทำงานร่วมกันของพี่น้องเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ เกศราใช้เวลาส่วนหนึ่งในการดูแลลูกๆ และอีกส่วนหนึ่งในการพัฒนาอาชีพที่เธอรักอัศราเองก็ยังคงเป็นผู้บริหารมือทองและเป็นหัวหน้าครอบครัวที่อบอุ่น เขาบริหารงานที่บริษัทอัศราดูโฮมให้เติบโตอย่างมั่นคง และยังคงมีเวลาสำหรับภรรยาและลูกๆ ทุกคนรู้ดีว่าความสุขที่แท้จริงของอัศราอยู่ที่บ้าน สถานที่ที่มีรอยยิ้มของเกศรา เสียงหัวเราะของแม่ลูก รวมถึงเสียงเถียงกันบ้างหรือรักกันดีบ้างของน้องเชอรี่ และน้องพีชดังก้องอยู่เสมอก้องเกียรติน้องชายคนเล็กของเกศรา ก็ประสบความสำเร็จในเส้นทางของตัวเอง อู่ซ่อมรถเล็ก
“เช้านี้คุณแม่ต้องไปหาหมอใช่ไหมครับ เดี๋ยวพี่เข้ามารับตอนเที่ยงนะเผื่อไปหาอะไรกินกันก่อน” อัศราบอกขณะที่ยกนมและอาหารเช้ามาวางไว้ให้ภรรยาที่โต๊ะ “หน่อยไปเองก็ได้นะคะพี่ฮาน โรงพยาบาลอยู่แค่นี้เอง” ตั้งแต่อายุครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สาม และหมอเริ่มนัดบ่อยขึ้นครอบครัวก็ย้ายมาพักที่เพนต์เฮาส์เพราะว่าที่นี่อยู่ใกล้โรงพยาบาลมาก เดินทางไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงแล้ว“ไม่เป็นไร พี่อยากไปด้วย” อัศราเลื่อนเก้าอี้ให้ภรรยานั่งหลังจากที่เขาดูแลให้เชอรี่นั่งเรียบร้อยแล้ว“กินมื้อเช้าก่อนค่ะลูก เชอรี่วันนี้มีโจ๊กนะคะ พ่อสั่งร้านข้างล่างมาให้ใส่ไข่ออนเซ็นแบบที่หนูชอบด้วย” “มีหมี่กรอบอีกไหมคะพ่อ” เด็กหญิงหยิบช้อนเตรียมจะคนโจ๊ก“มีลูก แม่ใส่ให้ดีกว่าจะได้ไม่หก” เกศราเลื่อนถ้วยใส่หมี่กรอบที่อัศรารู้ว่าลูกชอบเป็นพิเศษ เขาจึงสั่งซื้อมาต่างหากเพิ่มมาด้วย“ขอบคุณค่ะแม่ แบบนี้เลยที่หนูอยากกิน”ชีวิตหลังแต่งงานของเกศรากับอัศราดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีความสุขกันดี ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะทั้งคู่อยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งก่อนแต่งงาน ทำให้ไม่ต้องมีเรื่องปรับตัวกันอีก และจากการที่เธอท้องลูกอีกคนความรักขอ
“วันนี้อากาศดีมาก ฝนก็ไม่ตกด้วยใครปักตะไคร้นะ” เสียงแซวดังขึ้นในเช้าวันสำคัญ เด็กหญิงอัญชุลีหรือน้องเชอรี่ยกมือทันที“หนูเองค่ะย่า” เสียงหัวเราะดังขึ้นทันที วันนี้ในพื้นที่ในส่วนรีสอร์ตของบูรพาถูกเหมาปิดทั้งหมดเพื่อจัดงานแต่งงานระหว่างอัศราและเกศรา “เดี๋ยวจะได้เวลาทำพิธีแล้ว ใครเป็นคนไปตามเจ้าสาวจ๊ะ” นางอัมพรถาม ทำให้ก้องเกียรติรีบตอบ “พี่ไก่ไปแล้วครับคุณป้า ส่วนผมว่าจะออกไปดูความเรียบร้อยที่สนามข้างนอกอีกที” คำตอบของเขาทำให้บรรดาผู้ใหญ่พยักหน้า พลางจัดเตรียมที่นั่งของแต่ละท่านด้านในห้องแต่งตัวเจ้าสาว “เจ้าสาวแต่งตัวเสร็จหรือยังคะ” กฤติกาเข้ามาดู“อีกนิดเดียวค่ะคุณลูกไก่ เดี๋ยวคุณลูกไก่รอเติมหน้าด้วยไหมคะ หนูว่าน่าจะเก็บรายละเอียดอีกนิด” ช่างแต่งหน้าประจำกองของบริษัทถามเจ้านายสาว“ได้สิ งั้นเดี๋ยวพี่รอในนี้แหละ” ระหว่างรอเจ้าสาวแต่งหน้ากฤติกาเดินมามองออกไปยังนอกหน้าต่าง แสงแดดยามเช้าทอประกายอบอุ่นลงมาต้องผืนหญ้าสีเขียวขจี ณ สถานที่จัดงานแต่งงานริมทะเลสาบที่ถูกเนรมิตขึ้นอย่างงดงามทุกตารางนิ้วถูกประดับประดาด้วยมวลดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ตามที่เจ้าสาวชอบ ท
ข่าวดีเรื่องการขอแต่งงานของอัศรากับเกศราแพร่สะพัดไปทั่วทั้งสองครอบครัวอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างแสดงความยินดีและปลาบปลื้มใจ โดยเฉพาะน้องเชอรี่ที่ดูจะมีความสุขเป็นพิเศษ เมื่อรู้ว่าเธอจะได้เห็นคุณแม่ใส่ชุดสวยๆ ใส่แหวนแวววาว และคุณพ่อจะได้แต่งตัวหล่อวันสู่ขอถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความอบอุ่นที่บ้านของกฤติกา บรรยากาศภายในบ้านอบอวลไปด้วยความรักและความสุข อัศรามาพร้อมกับคุณศราและนางอัมพรผู้เป็นบิดามารดา เพื่อสู่ขอเกศราอย่างเป็นทางการ ส่วนฝ่ายเกศราก็มีนางแก้วคำผู้เป็นแม่ กฤติกา และก้องเกียรติ มาร่วมเป็นสักขีพยานเมื่อถึงเวลาพูดคุยเรื่องสินสอดทองหมั้น อัศราเอ่ยปากถึงสิ่งที่เขาได้เตรียมไว้ให้เกศราอย่างสมฐานะและแสดงถึงความรักที่เขามีให้เธออย่างเต็มเปี่ยม แต่แล้ว นางแก้วคำก็ยกมือขึ้นปรามเบาๆ“คุณฮานคะ... แม่ขออย่างเดียวเท่านั้นค่ะ” นางแก้วคำพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย แต่แววตาของเธอเต็มไปด้วยความจริงใจและความรักที่แม่มีต่อลูกสาว“สินสอดทองหมั้น... แม่ไม่ขออะไรจากคุณฮานเลยค่ะ”คำพูดของนางแก้วคำสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนในห้อง โดยเฉพาะอัศราที่เตรียมตัวมาอย่างดี“ที่ผ่านมา..
หกเดือนต่อมารถตู้ของทีมงาน “ไทยทริปแดนสไมล์” แล่นไปตามถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าสู่จังหวัดระยองเกศรานั่งอยู่ข้างกฤติกา มือถือแท็บเลตตรวจดูตารางงานและคิวถ่ายทำของวัน กฤติกามองน้องสาวด้วยรอยยิ้ม“ตื่นเต้นไหมหน่อย ที่จะได้กลับไปถ่ายทำที่สวนแม่อีกครั้ง”เกศรายิ้มตอบ “ตื่นเต้นค่ะพี่ไก่ คิดถึงบรรยากาศที่นั่นเหมือนกัน”การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่แค่การทำงาน แต่เป็นการหวนรำลึกถึงจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของช่อง “ไทยทริปแดนสไมล์” เมื่อสี่ปีที่แล้ว หลังจากการทดลองถ่ายทำคลิปแรกที่สวนผลไม้ของนางอัมพรซึ่งในตอนนั้นเป็นเพียงการอัดคลิปง่ายๆ เพื่อแนะนำสวนทุเรียนเนื้อดี นอกจากทุเรียนที่ถือเป็นราชาผลไม้ทางสวนยังมีเงาะ มังคุดและอื่นๆ อีกหลายชนิด ที่เปิดให้เข้าชมแบบบุฟเฟต์กินได้ไม่อั้น ใครจะคิดว่าคลิปนั้นจะได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย จนกลายเป็นจุดแจ้งเกิดของช่องยูทูบที่ตอนนี้มีผู้ติดตามหลักล้านเมื่อรถตู้เลี้ยวเข้ามาในเขตอำเภอเมืองระยอง ตำบลบ้านเพ บรรยากาศสองข้างทางก็เริ่มเปลี่ยนไป ต้นไม้ใหญ่เขียวขจี อากาศบริสุทธิ์ และกลิ่นอายของธรรมชาติที่คุ้นเคยก็โชยมาปะทะจมูก“ถึงแล้วพวกเรา” เสียงทีมงานคนหนึ่งร้องขึ้นเมื่อรถต
หลังจากที่เกศราสำเร็จการศึกษาแล้ว หญิงสาวตอบตกลงข้อเสนอทำงานต่อที่ Aurix Audit Group เพราะว่าเธอยังต้องการความรู้และประสบการณ์จากการทำงานจริงที่จากที่นี่ซึ่งมีโปรเจกต์มากมายให้เธอเรียนรู้ ทำให้เธอรู้สึกสนุกและท้าทายกับการได้ศึกษาสิ่งใหม่ๆ ทุกวันส่วนอัศราเขายังคงเป็นผู้ชายที่แสนดีและเป็นที่พึ่งให้เธอเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน หรือเรื่องที่เกี่ยวกับน้องเชอรี่เขาก็ดูแลเอาใจใส่ไม่เคยขาด ตลอดสามปีกว่าที่ผ่านมาเขาพิสูจน์ความมั่นคงให้ได้เห็น ความรักและความผูกพันของเกศรากับอัศราเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ เกศราเองก็ยอมรับในใจว่าเธอรักผู้ชายคนนี้หมดหัวใจ และมองเห็นอนาคตที่มีเขากับน้องเชอรี่อยู่เคียงข้างได้อย่างชัดเจนทุกเย็นหลังเลิกงานอัศราจะมารับเกศราที่บริษัทเสมอ และบางครั้งก็พาน้องเชอรี่ที่กลับจากโรงเรียนอนุบาลมารอรับด้วย ทำให้ภาพของครอบครัวเล็กๆ ที่อบอุ่นนี้เป็นที่คุ้นตาของพนักงานคนอื่นๆ ในบริษัท ความรักและความเอาใจใส่ที่อัศรามีให้เกศราและน้องเชอรี่นั้นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคนวันหนึ่งเมื่อเกศรากำลังตรวจสอบตารางงานในสัปดาห์หน้า อัศราก็เดินเข้ามาพร้อมใบหน้ายิ







