สองมือป้อมค้ำคางอยู่หน้าเคาน์เตอร์ห้องครัวมองคนตัวสูงร่อนกระทะอยู่หน้าเตาไปมา ดวงตาไล่ตั้งแต่ปลายเส้นผมจนยาวถึงมือ ใบหน้าหล่อ กล้ามเนื้อแน่นเส้นเลือดตามแขนขึ้นชัดเจน รูปร่างหน้าตาของเขาไม่เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่คบกันและแต่งงานกันมันช่างดูน่ากินมากกว่าสปาเกตตี้ในกระทะนั้นเสียอีก
“หอมจังเลยค่ะ อิงดีใจนะที่วันครบรอบแต่งงานของเรายังมีคุณอยู่ด้วยอีกปี”
ก้าวกล้าละสายตาจากกระทะเงยมองหน้าคนเป็นเมียนิดหนึ่งแล้วก็ก้มลงปรุงอาหารต่อ อีกปีอย่างนั้นเหรอ แล้วถ้าปีต่อไปเขาจะเลิกกับเธอล่ะแค่คิดชายหนุ่มก็ถอนหายใจยาวออกมา
“ถอนหายใจทำไมคะ มีอะไรหนักใจหรือเปล่า หรือว่างานมีปัญหา”
ดวงหน้าอวบอิ่มยังคงใสซื่อเหมือนเดิมแต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คงเป็นสามีซึ่งมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ เขาเพียงคลี่ยิ้มบาง ๆ แล้วตักอาหารใส่จานมาเสิร์ฟให้กับคนตัวอ้วนชอบกินตรงหน้า
“น่ากินจัง กินแล้วนะคะ” พูดจบมือป้อมก็จ้วงส้อมในมือลงจานแล้วหมุน ๆ ตักเข้าปากทันที
เมื่อก่อนเขาเคยคิดว่าการกินแบบนี้มันช่างดูน่ารัก แต่สภาพตอนนี้มันดูเกินน่ารักไปมาก...มากจนล้น
หลังจากจัดการมื้อค่ำและล้างจานเรียบร้อยอิงวราหันกลับมาก็ไม่เจอคนเป็นสามีแล้ว หญิงสาวเดินไปรอบบ้านจนกระทั่งไปหยุดยืนอยู่ข้างเสาริมสวน
‘แล้วผมจะหาเวลาว่างไปนะ’
เรียวคิ้วบางย่นเข้าหากันก้าวกล้าจะไปหาใครกัน แล้วทำไมต้องมาหลบซ่อนเพื่อคุยโทรศัพท์ตรงนี้ด้วย เท้าอูมเดินเข้าไปหาและน่าแปลกที่พอเห็นว่าเป็นเธอเขาก็รีบวางสายทันที
“คุยกับใครเหรอคะก้าว” ยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม
“คุยกับลูกค้าครับ เดี๋ยวผมไปล้างจานก่อนนะ” เขาบอกแล้วกำลังจะขยับเท้าเดินทว่าอิงวรากลับเอาตัวเองเข้าไปขวาง
“ไม่ต้องแล้วค่ะ อิงล้างทั้งหมดแล้ว”
ร่างสูงขมวดคิ้ว “ปกติคุณไม่ชอบล้างจานนี่”
“เว้นวันนี้ไว้วันหนึ่งค่ะ เพราะว่าเป็นวันสำคัญของเราสองคน” อิงวราหรี่ตาลงก้าวเท้าเข้าไปชิดสามีมากขี้น
ปลายนิ้วยาวลากวนหน้าอกแกร่ง ส่งสีหน้าเย้ายวนหวาบหวามแววตาแบบนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมียเขาหมายความว่าอย่างไร จากใบหน้าเรียบนิ่งเมื่อครู่กลายเป็นยกยิ้มมุมปากแล้วหัวเราะผ่านลำคอ
หื่นกว่าเขาก็เมียนี่แหละ ไม่ต้องรอให้ชวนแต่อ่อยได้เกือบทุกวัน
“ผมไปอาบน้ำรอนะ” บอกเสร็จก็เดินกลับขึ้นห้อง อิงวรายกคิ้วสูงรอยยิ้มกว้างผุดขึ้นมาทันที
หลังจากก้าวกล้าอาบน้ำเสร็จแล้ว อิงวราก็รีบเปลี่ยนเข้าไปอาบบ้างวันนี้เธอใช้เวลาค่อนข้างนานเพื่อขัดสีฉวีวรรณให้เอี่ยมอ่อง ทว่าพอออกมาจากห้องน้ำก็รู้สึกอารมณ์เสียเมื่อคนเป็นสามีนอนหลับไปแล้ว
หญิงสาวคิดว่าสามีคงเหนื่อยจากงานจึงเลือกไม่ปลุกก่อนจะแทรกตัวเองลงใต้ผ้าห่ม เอื้อมวงแขนไปกอดรัดรอบเอวหนา ซุกหน้าลงแผ่นหลัง
ข้อดีของผู้หญิงรูปร่างอ้วนคือทุกอย่างขยายใหญ่จับตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือ อย่างเช่นเนินเนื้อนุ่มบดเบียดอยู่กับร่างกายของเขา ก้าวกล้าไม่ได้หลับอย่างที่อิงวราเข้าใจ
ชายหนุ่มพลิกตัวเองกลับไปหาร่างอ้วน ยกมือขึ้นลูบไล้ผมยาวทัดหู ก้มลงจุมพิตหน้าผากนูน “นึกว่าคุณหลับไปแล้ว”
“จะหลับได้ไง รอเอาคุณอยู่”
อิงวรายิ้มยั่วยวนกับคำพูดเร้าอารมณ์ เธอเอื้อมมือนุ่ม ๆ ไปแตะ
แก่นกายใต้ชุดนอนบางยามนี้มันตื่นตัวเต็มที่ราวกับว่าพร้อมจะออกรบ“แข็งแล้ว?”
“อือ ช่วยทำให้มันแข็งกว่านี้หน่อยสิ”
ขณะที่พูดมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วผิวเนียนละเอียด ส่วนหญิงสาวก็แอ่นเนื้อตัวให้เขาเชยชม ไม่นานอิงวราเลื่อนตัวเองลงไปยังจุดกึ่งกลาง
กางเกงชุดนอนถูกถลกลงไปกองอยู่ตรงข้อเท้า ลำเอ็นใหญ่ดีดขึ้นตั้งลำ ปลายหัวเห็ดชมพูระเรื่อชวนลิ้มลอง เธอไม่รอช้าก้มลงใช้ปลายลิ้นแตะเสียวนรอบ
"ฮืม...อ่า”
เสียงห้าวคำรามในลำคออย่างพึงพอใจ เขาขบกรามแน่นสองมือจิกลงผ้าปูที่นอนผืนขาว เงยหน้าสูดปากด้วยความเสียวซ่าน
ก้าวกล้าเปลี่ยนจากใช้มือจิกผ้าปูที่นอนมาขยุ้มเลือนผมยาว ยิ่งเขาแสดงความพึงพอใจมากเท่าไรหญิงสาวยิ่งครอบปากกับท่อนเอ็นเร็วมากยิ่งขึ้น
“เสียว...พอ ๆ”
ชายหนุ่มดันศีรษะของเมียออกแล้วสอดมือใต้รักแร้ดึงคนเจ้าเนื้อให้ขึ้นมาอยู่บนร่างตัวเอง เนินสามเหลี่ยมอูมบดเบียดอยู่กับกล้ามหน้าท้องและแก่นเนื้อสลับกันไปมา
อิงวราเอื้อมสองแขนจับหัวเตียงโน้มตัวไปด้านหน้าสองเต้าใหญ่เด่นล่อปลายลิ้นสากของเขายิ่งนักชายหนุ่มไม่รอช้าส่งมือบีบคั้น ความเสียวซ่านจากยอดอกที่ถูกปลายนิ้วขยี้ส่งผ่านไปยังท้องน้อย
ลิ้นอุ่นเลียตรงยอดเชอร์รี่ ก่อนดูดดึงหนัก ๆ สลับกับออกแรงงับเบาๆ พอให้สะดุ้งตาย ริมฝีปากของผู้ถูกกระทำย้ายไปอยู่บนยอดอกอีกข้างขณะที่ใช้ปลายนิ้วหยอกเย้าข้างที่เหลือจนตั้งขึ้นมา
“อือออ ที่รัก ตรงนั้นมันเสียว...” สองมือกำแน่นกับพนักเตียง
ก้าวกล้าดึงอิงวราลงมานอนหงายไล้ปลายลิ้นวนยอดตุ่มจนตั้งชันอีกครั้งแล้ววนลิ้นสากลงมาตรงเนินจุดสามเหลี่ยม ใช้ลิ้นลากวนส่วนที่เป็นช่องเล็ก ๆ ซึ่งมีไว้ปล่อยน้ำ ความร้อนถูกกักอยู่บริเวณท้องน้อยเพิ่มมากขึ้นเมื่อปลายลิ้นสัมผัสส่วนอ่อนไหว
“อ้า ซี๊ดดดดด”
ทั้งครางทั้งยกสะโพกขึ้นสู้ปาก เธอพยายามหนีบขาเข้าหากันทว่า
มือใหญ่กลับแยกสองขาออกให้กว้างขึ้นละเลงลิ้นหนักหน่วงมากยิ่งขึ้นจนอีกฝ่ายถึงฝั่งฝัน“ที่รักกกก สะ...เสร็จแล้ว”
ร่างอ้วนกระตุกเกร็งสองสามครั้งแล้วหายใจเหนื่อยหอบ มองหน้าผู้เป็นสามีด้วยความสุข เขายกมือปาดมุมปากซึ่งมีทั้งน้ำกามและน้ำลายสอ
แม้จะร่วมรักกันมาหลายปีทว่าทุกครั้งเหมือนได้กินของสดใหม่อยู่ตลอดเวลา นิ้วสอดเข้าไปยังส่วนที่หดเกร็งขยี้ซ้ำ ๆ ตรงจุดที่ไวต่อการสัมผัสกลั่นแกล้งทำให้ร่างกายสั่นเทิ้ม
ความโอฬารที่ตื่นตัวเต็มที่ดันเข้ามาตรงปากทางและแทรกเข้าสู่ภายในช้า ๆ ตามจังหวะลมหายใจของทั้งสองฝ่าย สะโพกถูกยึดแน่นระหว่างที่แก่นกายนั้นล่วงผ่านเข้ามา ร่างกายสั่นเทิ้มแม้แต่ส่วนที่แนบสนิทข้างในก็ยังสั่นสะท้าน
ส่วนลึกถูกจ้วงแทงครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่เว้นระยะ ร่างของเขาเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้น เช่นเดียวกับสีหน้าที่บอกให้รู้ว่าตื่นตัวจนแทบทนไม่ไหว
“ลึกๆ ค่ะ ขอเร็วกว่านี้” เธอสั่งเขาด้วยเสียงกระเซ้าสั่น ไม่ต่างกันกับเขาที่เงยหน้าสูดปากพร้อมทั้งเร่งจังหวะเร็วขึ้นตามคำขอ
ความตอดรัดแน่นกระตุกถี่อีกครั้งทำให้รู้ว่าเมียนั้นถึงจุดฝั่งฝันอีกรอบแล้ว ร่างกายเกร็งเสียวแปลบไปทั้งตัวมากกว่าคำว่ารู้สึกดี
“เปลี่ยนท่าหน่อยไหม” ชายหนุ่มบอกแล้วจับคนเจ้าเนื้อนอนคุกเข่าบั้นท้ายยกสูงขึ้น พลิกหน้าคว่ำแนบหมอน
ความเป็นชายร้อนผ่าวถูกทาบเข้ามายังช่องทางด้านหลัง ความตื่นตัวเบียดแทรกเข้ามาช้า ๆ แล้วฝังลึกเข้ามาในกาย ทุกครั้งที่เคลื่อนไหวร่างกายก็สั่นสะท้านไม่หยุด
“ลึกพอไหมครับ”
“ลึกค่ะ จะ...จุกไปหมดแล้ว อ๊า แบบนั้นแหละค่ะ” ได้แต่บิดตัวเร่า ๆ ซุกหน้ากับหมอนด้วยความรู้สึกยากจะทนไหว
เสียงครางหลุดออกมาทุกครั้งที่หายใจ เสียงครางสั่น ๆ ของผู้ชายไม่เห็นมีอะไรน่าฟังและไม่อยากให้ใครได้ยิน ทว่าเขาดันไม่มีปัญญาจะหยุด
“โอ้ย...ผมจะไม่ไหวแล้วครับที่รัก ปล่อยในนะ”
อิงวราพยักหน้าให้ ไม่เคยเอ่ยห้ามเลยสักครั้งว่าเข้าต้องการแบบไหน
เลือดลมทั่วร่างกายไหลมากระจุกอยู่ตำแหน่งเดียว ก่อนกระตุกเกร็งปลดปล่อยความต้องการออกมา สะโพกบิดเมื่อถูกบีบเค้นราวกับจะรีดคั้นออกมาทุกหยาดหยด ไม่ต่างจากอิงวราตั้งใจจะพูดว่าออกแล้วแต่เสียงกลับถูกกลืนลงคอเปลี่ยนเป็นการกลั้นหายใจระหว่างปลดปล่อย
หลังการปลดปล่อยสิ้นสุดความร้อนก็ยังไม่หายไปจากร่างกายสีหน้าสุขสมราวกับตกอยู่ในภวังค์ ความเบาสบายแผ่กระจายไปท่าวร่าง เมื่อละอองแห่งความสุขถูกปลดปล่อย
พวกเขานอนหอบหายใจอยู่เคียงข้างกัน ก่อนอีกฝ่ายจะดึงร่างคนเจ้าหน้าเข้ามากอดแนบอก เมื่อได้รับความสุขสมอันล้ำลึก ก็เผลอซุกตัวเข้าหาอย่างออดอ้อน
“อิงรักคุณนะคะ รักมาก”
คำตอบของอีกฝ่ายเพียงแค่ตอบรับสั้น ๆ ว่า ‘ครับ’ พร้อมกับก้มลงจุมพิตหน้าผากมน แล้วกระชับวงแขนเข้าหาแน่น ท่ามกลางบรรยากาศหอมหวานที่เลื่อนลอย เขาปิดเปลือกตาลงช้า ๆ เข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด...
ปรวีย์อยู่ในชุดคนไข้สีฟ้านอนบนเตียงเข็นเพื่อเตรียมเข้ารับการผ่าตัด ก่อนหน้านี้หมอประจำตัวแจ้งแล้วว่าต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าเจ็ดชั่วโมงในการผ่าตัดเตียงกำลังจะถูกเคลื่อเข้าห้องผ่าตัดทว่าปรวีย์ก็สั่งหยุดและเรียกปีวราให้เดินมาหา เขายื่นสมุดบันทึกเล่มเล็กแต่หนาให้กับเธอ“ถ้าผมตื่นขึ้นมาแล้วจำอะไรไม่ได้คุณช่วยเอามันให้ผมอ่านนะ”“ค่ะ คุณรีบออกมานะ ฉันกับลูกจะรอ”บีบมือกันแน่นเพื่อให้กำลังใจ เขาพยักหน้ารับแล้วคุณหมอก็เข็นรถเข้าห้องผ่าตัดไปหากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงขอให้ลูกกับครอบครัวได้กลับมาอยู่ด้วยกัน‘ผมชื่อปรวีย์ อายุ 35 มีสมบัติและธุรกิจxx เป็นหัวหน้าแก๊งxxหากได้อ่านบันทึกเล่มนี้แสดงว่าคุณรอดตายกลับมาและความทรงจำหายไป แต่ไม่ต้องห่วงก่อนเข้าผ่าตัดตัวคุณเองได้จดทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว แม้คุณจะจำคนรักไม่ได้แต่เมียกับลูกของคุณจำคุณได้นะ’‘คนรักของผมชื่อปีวรา เราสองคนมีลูกด้วยกันชื่อเทียนหอม’‘เมื่อก่อนเธอสวยมาก ตอนนี้เธอก็สวยแค่รูปร่างเท่านั้นที่เปลี่ยนไปแต่จิตใจและความน่ารักเหมือนเดิม’‘เธอชอบกินข้าวกะเพราทุกชนิด ชอบน้ำแตงโมปั่น ชอบกินหมูกระทะ’ ‘เวลาเธองอนต้องรีบง้อ อย่าปล่อยไว้นานเพราะเธอเ
‘ปัง ๆ ’เสียงกัมปนาทของกระบอกปืนหลายกระบอกดังสนั่นหวั่นไหว ลูกน้องของแต่ละฝั่งต่างล้มตายและบาดเจ็บกันหลายสิบคนเลือดสีแดงสดและกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วบริเวณเป้าหมายเดียวของปรวีย์คือการเด็ดหัวศัตรูและคนหักหลังแก๊งของตัวเอง ดวงตาดุจเหยี่ยวเห็นมันหลบอยู่หลังเสา เขาก้าวออกไปอย่างมาดมั่นไม่ได้เกรงกลัวและสุดท้ายก็จัดการกับศัตรูตรงหน้าทั้งหมดลงได้ แต่ตัวเองก็เกือบไม่รอดเหมือนกันปัง!เสียงปืนหนึ่งนัดดังขึ้น หูของเขาอื้อไปหมดความเจ็บแล่นไปทั่วศีรษะ รู้สึกได้ว่ามีของเหลวไหลลงมาตรงขมับหูได้ยินแว่ว ๆ ของทิวาและภาพเลือนรางก่อนทุกอย่างจะดับวูบลงเขาถูกยิง“ฮึก...”ปีวราขมวดคิ้วแล้วย่อตัวลงจ้องมองใบหน้าหล่อซึ่งมีแต่เม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามไรผม ศีรษะส่ายไปมาเหมือนคนฝันร้าย คนเอาแต่ใจขอนอนค้างที่นี่ด้วยตอนแรกเธอไม่ยอมแต่เพราะเห็นแต่สายตาอ้อนวอนของลูก เธอจึงให้เขานอนตรงโซฟาภายในบริเวณร้านด้านล่างมืออวบเอื้อมไปแตะหน้าผากเขาเผื่อเขาจะสงบลงแต่แล้วไม่นานร่างสูงนั้นเหมือนกระตุก‘เฮือก’ดวงตาคมเบิกโพลงหายใจหอบถี่ ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นยังคงตามมาหลอกหลอนในความฝันอยู่ตลอดเวลาเพราะการถูกยิงในครั้งนั้นเขาหลับไปสาม
...หลายวันแล้วคำนี้ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้งนับจากวันที่เขากลับไปและบอกว่าจะกลับมาหาเธอกับลูกอีกทว่าก็เงียบหายไป แม้จะบอกตัวเองว่าอย่าไปคาดหวังหรือคิดอะไรมากไปกว่านั้นแต่ความรู้สึกมันก็ห้ามไม่ได้อยู่ดีพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้งแล้วจัดเตรียมอุปกรณ์เชียร์กีฬาเข้ากระเป๋า เพราะวันนี้มีงานกีฬาสีของเด็กนักเรียนซึ่งเขาเชิญพ่อกับแม่ไปร่วมงานด้วย แน่นอนว่าเทียนหอมต้องอิดออดไม่อยากไปเพราะว่าไม่มีพ่อไปร่วมงานเหมือนคนอื่นเขา“เทียนหอม เสร็จหรือยังลูก” ตะโกนเรียก ได้รับเพียงความเงียบกลับมาเดินไปส่องตรงทางขึ้นบันไดกำลังขยับปากจะเรียกอีกครั้งต้องหุบลงเมื่อเจ้าตัวเล็กเดินลงมาด้วยใบหน้าบูดบึ้งไม่สดใสเหมือนทุกวันเลย จะว่าไปมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกงานกีฬาสีโรงเรียนทีไรลูกสาวเธองอแงทุกที“แม่ปีจ๋า หนูไม่ไปโรงเรียนไม่ได้เหรอคะ”“ไม่ได้ค่ะ อย่าลืมว่าวันนี้หนูเป็นตัวแทนถือป้ายสีให้เพื่อน ๆ ถ้าลูกไม่ไปใครจะเป็นคนถือคะ”เจ้าตัวเล็กได้ยินเหตุผลแล้วถึงกับห่อไหล่ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท เดินไหล่ตกไปหยิบกระเป๋าสะพายแล้วนำหน้าไปขึ้นรถซึ่งจอดอยู่หน้าร้านปีวราหันกลับไปปิดประตูร้านและเปลี่ยนป้ายหน้าร้านเป็นคำว่า ‘close’“วั
“เสียงเล่านิทานจบลงนานแล้วปีวราชะโงกหัวผ่านประตูห้องเข้าไปด้านใน เธอเห็นคนตัวสูงกำลังนั่งจ้องหน้าลูกสาวพลางเขี่ยจมูกเล็กเล่นด้วยความเอ็นดู ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะมายืนอยู่ต่อหน้าเธอและลูก“คุณวีย์คะ ออกมาคุยกันหน่อยได้ไหมคะ”เขาเดินตามเธอออกไปและปิดประตูลงให้เบาที่สุดเพราะเกรงว่าเจ้าตัวเล็กจะตื่นขึ้นมากลางคัน ทั้งคู่ลงมาอยู่ด้านล่างจุดเดิม สองแขนป้อมยกขึ้นกอดอกดวงตาคู่กลมจ้องมอง“ทำไมถึงมองผมแบบนั้นล่ะ” ปรวีย์เป็นฝ่ายเปิดปากถาม“คุณมาที่นี่ต้องการอะไรคะ เราสองคน ไม่สิ...คุณเป็นคนไล่ฉันออกไปจากชีวิตตั้งแต่หกปีที่แล้วและตอนนี้เข้ามาวุ่นวายในชีวิตฉันกับลูกทำไม”“ไม่ได้ต้องการอะไร...” หยุดพูดและมองสบตา “ผมแค่คิดถึงคุณ”ร่างอวบถึงกับนิ่งงันที่ได้ยินประโยคนี้ หากเป็นเมื่อก่อนตอนที่เธอคิดว่าเขาเป็นโลกทั้งใบของตัวเองก็คงดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่แต่เวลานี้มันไม่ได้ดูตื่นเต้นเหมือนตอนนั้นแล้ว เรียกว่าหัวใจด้านชาได้หรือเปล่าปรวีย์เห็นเพียงรอยยิ้มมุมปากเหมือนยิ้มเยาะแล้วหุบลงจนมองแทบไม่ทัน มีความเย็นชาแผ่ออกมาให้เห็นอยู่เป็นระยะ ๆ ตอนนั้นที่เขาเย็นชากับเธอมันก็คงรู้สึกแบบเดียวกันสินะ“ฉันรู้นะคะว
หนึ่งชั่วโมงแล้วที่ปรวีย์ยังคงนั่งอยู่มุมร้านมุมเดิมโดยดวงตายังคง จับจ้องมายังเธอกับลูกจนรู้สึกอึดอัดไปหมดสายตาแบบนั้นเธอรู้ดีว่ามันมีอะไรแอบแฝงอยู่และเธอกลัวเหลือเกินว่ามันจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับยัยหนูกรุ๊งกริ๊งเสียงกระดิ่งร้านดังขึ้นอีกครั้งหญิงสาวนึกว่าเป็นลูกค้าเข้ามากำลังจะลุกขึ้นไปให้บริการแต่แล้วก็ต้องนั่งลงเหมือนเดิม เธอจำได้ว่าเขาเป็นบอดี้การ์ดคู่กายของคุณปรวีย์ตั้งนมนานแล้วสายตาคู่นั้นเหลือบมองคู่หนึ่งก่อนจะเดินไปกระซิบหูอะไรบางอย่าง ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย และหันมายิ้มให้กับเธอขนลุก...น่ากลัวคำนั้นผุดขึ้นมาในหัวทันที รอยยิ้มแบบนั้นเธอจำได้ว่าเห็นไม่บ่อย แต่หากเขาได้ยิ้มแบบนั้นหมายความว่าสิ่งที่อยากรู้หรืออยากได้เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้“คุณลุงขา หนูระบายสีสวยไหมคะ”เพราะมัวแต่คิดเรื่องท่าทีของเขาจนเหม่อลอยรู้ตัวอีกทีเจ้าตัวเล็กก็เดินไปหาคุณปรวีย์ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้“เทียนหอมมานี่ลูก”ง รีบผละจากกองแท่งดินสอสีเข้าไปดึงแขนของลูกสาวให้เดินกลับมา ทว่าชายหนุ่มกลับรั้งแขนอีกข้างของเด็กหญิงเอาไว้ทำให้ปีวราชะงักมือหันกลับไปมองเขาย่อตัวลงแล้วยกมือลูบหัวเด็กน้อยด้วยแ
ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวหน้าตาสะสวยซุกเข้าหาอกแกร่งหลังจากทั้งคู่ร่วมรักกันมายาวนานเกือบทั้งคืน แขนยาวกระชับอ้อมกอดมากขึ้นแล้วก้มจุมพิตหน้าผากแผ่วเบาเวลาล่วงเลยไปจนถึงช่วงสายของวันปีวราตื่นลืมตาตื่นเธอไม่เห็นผู้ชายเคียงข้างเมื่อคืนแล้ว ทั้งที่ปกติเธอจะเป็นฝ่ายตื่นก่อนเขาหญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งสีขาว สวมกางเกงขาสั้นด้านใน เธอสอดส่องสายตาหาปรวีย์ซึ่งภายในห้องเงียบเชียบไม่เห็นแม้แต่เงาของสิ่งมีชีวิตนางบำเรอของมาเฟียคือสรรพนามที่น่าจะแปะติดหน้าของเธอไว้ตั้งแต่ได้รู้จักกับเขาเหตุเพราะร้อนเงินจำเป็นต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลคนเป็นพ่อ ทำให้เธอต้องก้าวเข้ามาในวงการนี้ด้วยการแนะนำของเพื่อนครั้งแรกที่เจอหน้ากันเธอรู้สึกชอบเขาขึ้นมาทันทีแต่เพราะกฎของนางบำเรอคือห้ามตกหลุมรักหรือรู้สึกมากไปกว่านั้น เธอจำใจยอมรับข้อเสนอและใช้ร่างกายเข้าแลกทั้งเงินและความสุขให้กับตัวเองจนกระทั่งพ่อของเธอจากโลกนี้ไปเธอเหลือตัวคนเดียวแน่นอนว่าปรวีย์จึงเป็นเหมือนโลกอีกใบของเธอ“หายไปไหนของเขา” ร่างระหงเดินไปทรุดตัวนั่งลงโซฟาแล้วกดโทรศัพท์โทรออกแต่ยังไม่ทันจะมีเสียงสัญญาณคนที่เธอกำลังมองหาก็เดินกลับเ