ใครว่านางเอกนิยายต้องผอมสวยเสมอไป คนอวบอ้วนก็เป็นนางเอกได้ พวกเธอเป็นสาวพลัสไซน์ที่ผู้ชายหลงรักมากที่สุด แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้เข้าใจผิด แต่เขาและเธอก็จับมือกันผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาได้ ติดตามความรักของแต่ละคู่ได้ในซีรีส์ชุดเมียอ้วนได้เลยค่ะ
View More“ว้าย! ขอโทษค่ะ”
ร่างอ้วนกลมในเสื้อเชิ้ตขาวกระโปรงจีบรอบสีดำ ผมยาวทักเปียลวก ๆ เอาไว้ด้านหลัง โค้งศีรษะเล็กน้อยให้กับผู้บริหารทรงคุณวุฒิท่านหนึ่งเพื่อเป็นการขอโทษ
อิงวราพยายามสอดแทรกร่างตัวเองผ่านเก้าอี้แต่ละคนในห้องประชุมเพื่อไปนั่งประจำตำแหน่งตัวเอง หลังจากเธอมาเข้าประชุมช้าไปถึงห้านาที
ก้าวกล้านั่งอยู่หัวโต๊ะได้แต่ถอนหายใจด้วยความเอือมระอา อีกแล้วเธอเป็นอย่างนี้อีกแล้ว ในห้องประชุมแห่งนั้นไม่มีใครกล้าอ้าปากติติงผู้หญิงคนนั้นสักคนเพราะว่าเธอคือเมียเขา
...เมียประธานบริษัท
‘ผมรักคุณนะ และจะรักตลอดไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น’
นั่นคือคำสัญญาเมื่อเจ็ดปีที่แล้วในพิธีแต่งงาน ชายหนุ่มรูปหล่อใบหน้าดูเพิ่งพ้นวัยนักศึกษาได้ไม่นาน หัวคิ้วดกเข้มจนแทบจะชิดกันทั้งสองข้าง จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาคมเข้มแฝงไปด้วยอำนาจ ริมฝีปากหนาได้รูปชวนมอง
ไม่ใช่แค่เจ้าบ่าวเท่านั้นที่หล่อเหล่าชวนน่าอิจฉาทว่าแต่เจ้าสาวเองก็สวยราวกับนางฟ้าเดินดินเหมือนกัน ใบหน้ารูปไข่ ปากนิด จมูกหน่อยผิวขาวอมชมพูเปล่งประกายออกมาสมกับเป็นเจ้าสาวเสียจริง
แต่นั่นมันก็แค่เมื่อเจ็ดปีที่แล้วเท่านั้น แต่ดูสภาพเมียเขาเวลานี้สิไม่ต่างจากโอ่งราชบุรีเคลื่อนที่ได้เลยสักนิด คำสัญญาวันแต่งงานไม่รู้ว่าเขาจะยังรักษามันไว้ได้อีกนานแค่ไหน
หลังเลิกประชุมเป็นเวลาเกือบเที่ยงพอดีอิงวรารอดักเจอคนเป็นสามีเพื่อชวนไปทานข้าวด้วยกันหลังจากไม่ได้ทานข้าวเที่ยงด้วยกันมาเกือบเดือน ส่วนมือเย็นไม่ต้องถามถึงแทบจะไม่เคยกลับบ้านพร้อมกันเลยสักวัน
ร่างสูงเดินออกมาจากห้องเธอกำลังจะยกมือขึ้นโบกเรียกแล้วต้องชะงักมือลงเมื่อเห็นว่าเขาหยุดคุยกับสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ เนื้อ นม ไข่ จนชวนมองเหลียวหลัง ใบหน้าหล่อยิ้มกว้างให้ผู้หญิงคนนั้นไม่นานก็เดินจากไปด้วยกัน
ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? เธอไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในบริษัท เรียวคิ้วหม่นเข้าหากันเกิดความสงสัยกำลังจะก้าวเท้าเดินตามเพื่อนร่วมแผนกก็เรียเอาไว้และชวนไปกินมื้อเที่ยงด้วยกันเธอจึงจำใจไปด้วย
“คุณอิงคะ รบกวนทานข้าวค่ะ เย็นหมดแล้ว”
นุดีเพื่อนร่วมแผนกทักท้วงขึ้นเมื่อเห็นว่าคนเจ้าเนื้อเอาแต่ใช้ช้อนเขี่ยข้าวในจานไปมาจะตักเข้าปากอยู่แล้วก็วางลงเหมือนเดิม ส่วนมืออีกข้างก็วุ่นอยู่กับการเลื่อนหน้าจอไปมา
อิงวราวางโทรศัพท์ลงไม่สบอารมณ์นัก “ไม่ตอบก็ไม่ต้องตอบ”
“คุณอิงเป็นอะไรคะ” ช้อนข้าวกำลังจะตักเข้าปากแต่ต้องวางลงเมื่อเห็นว่าเพื่อนร่วมงานกระแทกโทรศัพท์ลงโต๊ะ
“สามีพี่ไม่ยอมตอบแชทนะสิ แถมยังออกไปกับผู้หญิงสวย ๆ ที่ไหนก็ไม่รู้”
ตักข้าวกะเพราหมูสับเข้าปากแม้จะโกรธแค่ไหนแต่ท้องเธอต้องอิ่ม เรื่องกินมาก่อนเสมอ นุดีย่นคิ้วเข้าหากันด้วยความอยากรู้
“ท่านประธานนะเหรอคะออกไปกับสาวสวย ไปกับคุณเลขาฯหรือเปล่าคะ”
“ไม่น่าใช่ เพราะคุณเลขาฯ ไม่ได้หุ่นเปะ อกอึ้มขนาดนั้น”
“นุดีไม่ได้หมายถึงเลขาฯ ท่านประธานคนเก่านะคะ หมายถึงคนใหม่”
“คนใหม่?” ยิ่งสร้างคว้ามน้อยใจให้กับอิงวรามากขึ้นกว่าเดิม
ก้าวกล้าเปลี่ยนเลขาฯ ใหม่ตั้งแต่ตอนไหน ทำไมเธอไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลยความอยากรู้ทำให้ช่วงบ่ายเจ้าของร่างอ้วนท้วนขึ้นลิฟต์มายังชั้นบนสุดของอาคารสูงซึ่งเป็นห้องทำงานของคนเป็นสามี
กว่าเจ็ดปีแล้วที่เธอและก้าวกล้าแต่งงานกันมา เขาขึ้นรับตำแหน่งประธานบริษัทแทนพ่อที่เสียชีวิตไปเมื่อสี่ปี่ที่แล้ว ส่วนเธอยังคงทำตำแหน่งฝ่ายการตลาดเหมือนเดิมเพราะถนัดด้านนี้และทำออกมาได้ดีมากกว่า
ช่วงหลังมานี้เธอรู้สึกได้ว่าคนเป็นสามีเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด พูดกับเธอน้อยลง เราหวานกันน้อยลง ไม่ใช่ต้องเรียกว่าเขาหวานกับเธอน้อยลงมันช่างแตกต่างกับเมื่อก่อน หรือว่าความรักมันน้อยลงกันแน่
แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่เธอรักเขาน้อยลงแน่นอน
“มาพบท่านประธานได้นัดไว้หรือเปล่า” เสียงห้วนของใบหน้าสวยแต่งเข้มจัดเอ่ยถาม อิงวราจำได้ว่าเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับเมื่อกลางวัน
“ไม่ค่ะ ปกติขึ้นมาก็ไม่ต้องนัด”
“ถ้าไม่นัดก็ไม่ให้เข้า” ท่าทีนั้นยังคงเย่อหยิ่งไม่เป็นมิตร
อิงวราจ้องมองด้วยสีหน้าไม่พอใจเข้ามาทำงานไม่ถึงวันกลับแสดงกิริยาไม่น่ารัก ไม่รู้ว่าเธอเป็นเมียเจ้าของที่นี่เธอไม่ว่าแต่ต้องไม่แสดงมารยาทแบบนี้ไม่ว่าจะกับใครทั้งนั้น หากเป็นลูกค้ามาติดต่องานล่ะ จะทำยังไง
อิงวรายกโทรศัพท์กดโทรหาก้าวกล้ารอครู่หนึ่งปลายสายก็กดรับ
“เลขาฯ หน้าห้องคุณไม่ให้ฉันเข้าพบคุณค่ะ ออกมารับหน่อยได้ไหม” พูดจบเธอตัดสายทิ้งทันที ดวงตาคู่สวยหันไปจับจ้องเลขาฯ สาวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ไม่นานก้าวกล้าก็เดินออกมา อิงวรารีบเดินเข้าไปคล้องแขน
“เลขาฯ คุณใจร้ายจังไม่ให้ฉันเข้าไปพบ แถมยังทำกิริยาไม่น่ารักใส่อีกด้วย” ไม่ได้แค่พูดเปล่าแต่ใบหน้ากลมยังคงซบลงอกแกร่ง
คุณเลขาฯ คนสวยถึงกับยืนงงเป็นไก่ตาแตกว่าพนักงานอ้วน ๆ คนนี้เป็นใครทำไมถึงมีท่าทีสนิทสนมกับเจ้านายสุดหล่อของเธอขนาดนั้นด้วย
“คุณเมย์ วันหลังถ้าคุณอิงวรามาขอเข้าพบผมปล่อยเธอเข้าไปเลยนะ เพราะเธอเป็นภรรยาของผม” เขาบอกเสียงเรียบแล้วจับมือเมียเดินเข้าห้องทำงานไป
เมวดีถึงกับอ้าปากค้าง ไม่คิดเลยว่าผู้ชายหน้าตาดีอย่างท่านประธานจะคว้าผู้หญิงอ้วน ๆ แบบนั้นมาทำเมีย ทำไมเธอไม่มีวาสนาแบบนั้นบ้าง
เข้าห้องทำงานมาอิงวรากระแทกตูดนั่งลงบนโซฟา คว้าเอาหมอนอิงมากอด ทว่าดวงตากลับจดจ้องไปยังสามีที่เดินตามเข้ามานั่งลงฝั่งตรงช้าม
ก้าวกล้าเห็นสายตานั้นเต็มไปด้วยคำถามจึงเป็นฝ่ายถามเธอขึ้นมาก่อน เพราะไม่อยากมีเรื่องทะเลาะกันในที่ทำงาน
“มาหาผมเพราะอยากรู้เรื่องที่เปลี่ยนเลขาฯ ใหม่แล้วทำไมไม่บอกคุณใช่ไหม”
อิงวราหรี่ตาลง เขายังคงเป็นผู้ชายที่รู้ใจเธอเสมอเพียงแค่มองตาเธอแต่มันก็ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเสียหน่อย
“ก็ไม่ทั้งหมด ทำไมคุณถึงไม่ตอบข้อความฉันเลย อ่านแล้วทำไมต้องเมินเราไม่ได้กินข้าวด้วยกันมานานมากแล้วนะคะ”
น้ำเสียงนั้นมีความตัดพ้ออยู่ในที ความน้อยใจแล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่คอ ดวงตากลมโตสั่นระริก หากเป็นเมื่อก่อนมันคงน่ารักมากสำหรับเขาทว่าตอนนี้มันกลับไม่มีอะไรให้ดูน่าตื่นเต้นเหมือนตอนนั้น
“ผมติดนัดทานข้าวกับลูกค้าก็เลยต้องออกไปพร้อมกับเลขาฯ ตอนนั้นยุ่งมากก็เลยไม่ได้ตอบ”
คำตอบนั้นทำให้เธอกลืนก้อนน้อยใจลงคอไปทันทีแล้วเผยรอยยิ้มที่เห็นเขี้ยวเล็ก ๆ อีกเสน่ห์อย่างหนึ่งของเธอเลยก็คือรอยบุ๋มข้างแก้ม
“เหรอคะ ถ้าอย่างนั้นวันนี้ที่รักมีนัดกับลูกค้าที่ไหนไหมคะ”
ก้าวกล้าหยุดคิดไปครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว “ไม่มี ทำไมเหรอ”
“อย่าบอกนะว่าคุณลืมว่าวันนี้เป็นวันอะไร”
เจอคำถามนี้แล้วส่วนใหญ่ผู้ชายทุกคนคงได้ตายอย่างเขียดเพราะลืมว่ามันเป็นวันสำคัญอะไร แต่ไม่ใช่สำหรับเขาแน่นอนเพราะทุกปีเขาจะทำให้วันนี้เป็นวันว่างเอาไว้เพื่อผู้หญิงตรงหน้า
“ไม่ลืมหรอก วันครบรอบวันแต่งงานของเรา ครบเจ็ดปี”
เขาเน้นย้ำคำสุดท้ายซึ่งมันปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ จนแทบมองไม่ทัน แค่นั้นมันก็ทำให้หัวใจอิงวราอบอุ่นแล้วล่ะ ที่เขาไม่เคยลืมวันนี้ของเราเลย
คืนนี้เธอกับเขาขอฉลองในห้องกันตัวต่อตัวเสื้อผ้าไม่เกี่ยว....
“ขอบคุณมากนะคะที่อยากร่วมงานกับเรา”อิงวรายื่นมือไปจับเพื่อขอบคุณลูกค้ารายใหญ่ ทุกการเจรจาเรียบร้อยเหลือแค่ส่งเรื่องไปให้ท่านประธานไปเซ็นสัญญาก็เท่านั้น“คุณอิงเก่งมาเลยค่ะ ไม่อยากจะคิดเลยว่าห้างฯ ระดับนั้นอยากได้สินค้าของเราไปวางสาขาต่างประเทศด้วย” นุดียืนยิ้มปลื้มอกปลื้มใจ“มันแน่นอนอยู่แล้ว ก็สินค้าเรามีคุณภาพนี่ ใครก็อยากได้”อย่าถามหาความถ่อมตัวจากคนตัวกลมเลยเพราะมันคือความภาคภูมิจองเธอที่ขายงานได้ทุกครั้ง ใครไม่อวยก็ช่างเธอไม่สนใจขอแค่ตัวเองอวยและให้กำลังใจตัวเองก็มากเกินพอแล้ว“ปะ กลับขึ้นไปทำงานกันเถอะ” อิงวราเอ่ยชวนหันหลังขึ้นบันไดได้สองสามขั้นอยู่ ๆ หญิงสาวก็รู้สึกหน้าหน้ามืดขึ้นมาแม้ว่าจะสะบัดหัวไล่ความมึนงงออกไปแต่มันก็ไม่เป็นผล“นุดี” เรียกได้แค่คำสั้น ๆ ก่อนร่างอ้วนจะหงายหลังกลิ้งลงบันไดศีรษะฟาดกับขอบราวแล้วแน่นิ่งไป“คุณอิง!” นุดีร้องเสียงหลงวิ่งลงไปประคองร่างไร้สตินั้นสถานการณ์ตอนนั้นเริ่มวุ่นวายไปหมด เสียงรถพยาบาลดังมาแต่ไกลจนได้ยินไปถึงห้องประชุม ก้าวกล้าขมวดคิวนิดหน่อยนึกว่ามีพนักงานป่วยจึงไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่ง...“ท่านประธานคะ!” เมวดีเปิดประตูพรวดพลาดเข้ามาด้ว
การทะเลาะกันของคนทั้งคู่กลายเป็นเรื่องซุบซิบของเหล่าเพื่อนและคณะอาจารย์จนอิงวราไม่สามารถทนต่อสายตาทุกคนได้จึงเลี่ยงออกจากงานเพื่อกลับบ้านเสียงวิ่งตามเหยาะ ๆ ทำให้คนเจ้าเนื้อหันกลับไปมองและก็เห็นว่าเป็นภูกำลังวิ่งตามมาเธอจึงหยุดฝีเท้าลง“วิ่งตามเรามา มีอะไรหรือเปล่าภู”“เราจะมาขอโทษเธอเรื่องวันนี้” ทั้งพูดทั้งหายใจเหนื่อยหอบสองมือเท้าเอว แล้วพ่นลมหายใจออกมา“ไม่ต้องขอโทษหรอก มันไม่ใช่ความผิดของภูนะ เรากับก้าวมีปัญหากันมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เรื่องนี้เดี๋ยวเราจัดการเอง”“แต่เราก็รู้สึกผิดอยู่ดี เอาอย่างนี้ไหม เดี๋ยวเราขับรถไปส่ง” ชายหนุ่มขันอาสาด้วยรอยยิ้ม แล้วต้องหุบลงเพียงชั่ววินาที“ไม่เป็นไร เราอยากเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ขอบใจนะ” ว่าจบอิงวราก็หันหลังเดินจากไป ปล่อยให้ชายหนุ่มมองตามหลังอยู่อย่างนั้นเธอไม่รู้ว่าเดินมาไกลแค่ไหนหรือเดินมาถึงไหนแล้วแต่พอเงยหน้าขึ้นก็มาหยุดอยู่ท่ามกลางฝูงชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติย่านแหล่งท่องเที่ยวใจกลางเมืองกลุ่มไทยมุงแล้วก็เสียงร้องโวยวายอยู่เบื้องหน้าไม่ไกลเรียกสติให้เธอหันกลับมาสนใจสถานการณ์ตรงหน้า มีหลายคนพยายามจะเข้าไปช่วยแต่ว่าผู้ชายคนนั้นกล
ทั้งคืน...ทั้งคืนที่อิงวรานั่งหลังพิงเตียงแล้วทอดมองออกไปยังด้านนอกห้องบนคอนโดฯ หรูโดยไม่สามารถข่มตาหลับลงได้ เธอเอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้นซ้ำ ๆ จนขอบตาบวมช้ำนับจากสายสุดท้ายที่เธอตัดทิ้งไปเขาก็ไม่ได้โทรมาหาอีกเลย ไม่มีคำขอโทษใด ๆ ให้ได้ยินหรือแม้แต่พิมพ์มาให้รู้สึกดีขึ้นเลยเธอลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อกลับไปทำงานอีกครั้งถึงแม้ว่าร่างกายจะอ่อนเพลียและหัวใจจะบอบช้ำก็ตาม เธอต้องแยกเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานออกจากกันเกือบสายอิงวราพาตัวเองมาถึงที่ทำงานด้วยสภาพอิดโรย เธอไม่ได้สนใจสายตาของพนักงานด้วยกันว่าจะมองเธออย่างไร และวางตัวไม่เหมาะสมกับการเป็นเมียของประธานบริษัทเพราะต่อไปก็คงไม่ใช่แล้ว“คุณอิงคะ ทำไมสภาพเหมือนคนไม่ได้นอนแบบนี้ล่ะคะ”“ก็ไม่ได้นอนจริง ๆ มาดักรออยู่หน้าห้องมีอะไรหรือเปล่า”“นุดีไม่มีหรอกค่ะ แต่คนที่มีน่าจะนั่งรออยู่ในห้องแถมตอนนี้ยังทำหน้ายักษ์จนทุกคนไม่กล้าสบตาเลยค่ะ” นุดีรีบมารายงานเมื่อเห็นว่าอิงวราเดินออกจากลิฟต์มาไม่บอกก็รู้ว่าใครมารอเจอเธอ เพราะก่อนออกมาเธอเห็นเขากดโทรหาตั้งหลายสายแต่เธอก็ยังคงจะเลือกไม่รับสายเหมือนเดิมประตูเปิดออกพร้อมกับร่างอ้วนท้วนเดินเข้า
รุ่งเช้าของวันใหม่อิงวราลืมตาขึ้นมาเห็นเพียงแค่ชามน้ำและผ้าขนหนูวางอยู่ ถัดไปไม่ไกลเห็นร่างกำยำนั่งหลับแนบหน้าลงกับโต๊ะ เขาอยู่ดูแลเธอทั้งคืนเลยอย่างนั้นหรือหากเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะอบอุ่นใจแต่เหตุการณ์เมื่อวานมันทำให้เธอกลับไปคิดอย่างเดิมไม่ได้หญิงสาวนั่งมองสามีอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่งก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปทำงาน แต่เธอก็ยังไม่ลืมหน้าที่ของภรรยาจึงจัดเตรียมชุดทำงานและอุปกรณ์ทำให้งานวางไว้บนที่นอนเหมือนเดิมก้าวกล้าตื่นขึ้นมาไม่เห็นคนเจ้าเนื้อนอนอยู่ที่เดิม คิดว่าเธอคงอยู่บนห้องนอน พอเปิดประตูเข้ามาไม่เห็นแม้แต่เงาเหลือบมองไปยังเตียงนอนถึงได้เห็นว่าเธอเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้และคงออกไปทำงานแล้วด้วย‘ทำไม ไม่ปลุก’เขาย่นคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัยก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวเดินหายเข้าไปในห้องเพื่อชำระร่างกายและออกไปทำงานเช่นเดียวกันชายหนุ่มเห็นภรรยาเดินตรงมากับเพื่อนด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแต่พอเห็นหน้าเขากลับหุบยิ้มและเดินผ่านเลยไปเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น‘เป็นอะไรของเขา’ถึงแม้หลายวันที่ผ่านมาจะมึนตึงใส่กันทว่าท่าทางของเธอก็ไม่ได้เย็นชาขนาดนี้ ทำเหมือนกับว่ากำลังโกรธอะไรสักอย่าง
“ชุดนี้เหมาะกับคุณมากเลยค่ะ”นิ้วป้อมสั้นติดกระดุมชุดสูทสีน้ำเงินเข้มครบทุกเม็ดแล้วลูบแผ่นอกกว้าง ทุกเช้าเธอจะเป็นคนจัดเตรียมชุดและเนคไทให้กับสามีและแน่นอนว่าเธอมักจะเอ่ยชมความหล่อของเขาทุกวัน...ก็คนมันหล่อจริง ๆ นี่นามือใหญ่คว้าไปจับนิ้วป้อมไว้เพราะไม่อยากถูกกระตุ้นอารมณ์จนตื่นตัวตอนนี้เพราะต้องรีบไปทำงานแต่เช้า ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้“ผมอยากให้คุณลดน้ำหนัก”เท้าที่กำลังจะก้าวออกจากห้องถึงกับชะงัก ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเอ่ยปากเรื่องนี้ เธอหันกลับไปหาก้าวกล้าด้วยรอยยิ้มเจื่อน ๆ“คุณรู้ใช่ไหมว่าผมอยากมีลูก”“รู้ค่ะ คุณพูดกับฉันบ่อยเสียขนาดนี้ ฉันก็พยายามควบคุมอาหารอยู่” หญิงสาวพยายามจะเข้าไปซบอกทว่าถูกเขาดันมือออก ไม่ได้พูดอะไรต่อแล้วขอตัวไปทำงาน ทั้งคู่ไม่ได้ไปรถคันเดียวกันต่างคนต่างขับไปทำงานจนกลายเป็นเรื่องปกติพักเที่ยงก้าวกล้าเดินลงมาทานอาหารยังแคนทีนของบริษัท เขาก้าวเข้าไปหยุดอยู่ประตูทางเข้า กวาดสายตาไปรอบ ๆ แล้วไปหยุดอยู่โต๊ะอาหารของคนเป็นเมียนี่คือการพยายามลดน้ำหนักแล้วใช่ไหม?บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาการคาวหวานซึ่งกินหมดนั้นน้ำหนักคงขึ้นได้เป็นกิโลเพียงชั่วข้ามคืนแน่นอน ชายหนุ่มถอน
สองมือป้อมค้ำคางอยู่หน้าเคาน์เตอร์ห้องครัวมองคนตัวสูงร่อนกระทะอยู่หน้าเตาไปมา ดวงตาไล่ตั้งแต่ปลายเส้นผมจนยาวถึงมือ ใบหน้าหล่อ กล้ามเนื้อแน่นเส้นเลือดตามแขนขึ้นชัดเจน รูปร่างหน้าตาของเขาไม่เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่คบกันและแต่งงานกันมันช่างดูน่ากินมากกว่าสปาเกตตี้ในกระทะนั้นเสียอีก“หอมจังเลยค่ะ อิงดีใจนะที่วันครบรอบแต่งงานของเรายังมีคุณอยู่ด้วยอีกปี”ก้าวกล้าละสายตาจากกระทะเงยมองหน้าคนเป็นเมียนิดหนึ่งแล้วก็ก้มลงปรุงอาหารต่อ อีกปีอย่างนั้นเหรอ แล้วถ้าปีต่อไปเขาจะเลิกกับเธอล่ะแค่คิดชายหนุ่มก็ถอนหายใจยาวออกมา“ถอนหายใจทำไมคะ มีอะไรหนักใจหรือเปล่า หรือว่างานมีปัญหา”ดวงหน้าอวบอิ่มยังคงใสซื่อเหมือนเดิมแต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คงเป็นสามีซึ่งมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ เขาเพียงคลี่ยิ้มบาง ๆ แล้วตักอาหารใส่จานมาเสิร์ฟให้กับคนตัวอ้วนชอบกินตรงหน้า“น่ากินจัง กินแล้วนะคะ” พูดจบมือป้อมก็จ้วงส้อมในมือลงจานแล้วหมุน ๆ ตักเข้าปากทันทีเมื่อก่อนเขาเคยคิดว่าการกินแบบนี้มันช่างดูน่ารัก แต่สภาพตอนนี้มันดูเกินน่ารักไปมาก...มากจนล้นหลังจากจัดการมื้อค่ำและล้างจานเรียบร้อยอิงวราหันกลับมาก็ไม่เจอคนเป็นสามีแล้ว หญิงสาวเดินไป
Comments