“ชุดนี้เหมาะกับคุณมากเลยค่ะ”
นิ้วป้อมสั้นติดกระดุมชุดสูทสีน้ำเงินเข้มครบทุกเม็ดแล้วลูบแผ่นอกกว้าง ทุกเช้าเธอจะเป็นคนจัดเตรียมชุดและเนคไทให้กับสามีและแน่นอนว่าเธอมักจะเอ่ยชมความหล่อของเขาทุกวัน
...ก็คนมันหล่อจริง ๆ นี่นา
มือใหญ่คว้าไปจับนิ้วป้อมไว้เพราะไม่อยากถูกกระตุ้นอารมณ์จนตื่นตัวตอนนี้เพราะต้องรีบไปทำงานแต่เช้า ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้
“ผมอยากให้คุณลดน้ำหนัก”
เท้าที่กำลังจะก้าวออกจากห้องถึงกับชะงัก ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเอ่ยปากเรื่องนี้ เธอหันกลับไปหาก้าวกล้าด้วยรอยยิ้มเจื่อน ๆ
“คุณรู้ใช่ไหมว่าผมอยากมีลูก”
“รู้ค่ะ คุณพูดกับฉันบ่อยเสียขนาดนี้ ฉันก็พยายามควบคุมอาหารอยู่” หญิงสาวพยายามจะเข้าไปซบอกทว่าถูกเขาดันมือออก ไม่ได้พูดอะไรต่อแล้วขอตัวไปทำงาน ทั้งคู่ไม่ได้ไปรถคันเดียวกันต่างคนต่างขับไปทำงานจนกลายเป็นเรื่องปกติ
พักเที่ยงก้าวกล้าเดินลงมาทานอาหารยังแคนทีนของบริษัท เขาก้าวเข้าไปหยุดอยู่ประตูทางเข้า กวาดสายตาไปรอบ ๆ แล้วไปหยุดอยู่โต๊ะอาหารของคนเป็นเมีย
นี่คือการพยายามลดน้ำหนักแล้วใช่ไหม?
บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาการคาวหวานซึ่งกินหมดนั้นน้ำหนักคงขึ้นได้เป็นกิโลเพียงชั่วข้ามคืนแน่นอน ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขายกมือขึ้นกอดอกจ้องมองร่างอ้วนด้วยแววตาเคือง ๆ
ปีกไก่ทอดชิ้นใหญ่ถูกส่งเข้าปากอีกครั้งพร้อมบทสนทนากับเพื่อนแต่แล้วก็ต้องชะงักลงเมื่อหันไปเจอสามีกำลังยืนกอดอกมองมาที่ตนเอง ชิ้นไก่ในปากร่วงลงจานทันทีพร้อมกับก้าวกล้าหันหลังเดินจากไป
สีหน้าแบบนั้นเธอรู้ได้ทันทีว่าสามีกำลังโกรธอยู่จึงรีบวิ่งตามไปทันเขาที่ห้องทำงานพอดี “คุณคะ คือว่า...”
“มาแก้ตัวเหรอ” อิงวราพูดยังไม่ทันจะจบก้าวกล้าจึงเอ่ยดักขึ้นก่อน
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” เดินเข้าไปเกาะแขนแต่ว่าคราวนี้ชายหนุ่มกลับสะบัดออกแล้วแสดงสีหน้าเบื่อหน่าย
อีกแล้ว...สีหน้าแบบนี้อีกแล้ว ทำไมช่วงนี้เธอเห็นเขาแสดงออกมาบ่อยเหลือเกิน บ่อยจนรู้สึกว่าเขาไม่อยากจะเห็นเธอเสียด้วยซ้ำ
“มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ ฉันเองก็อยากลดน้ำหนักไม่ใช่ไม่อยากลดแต่คุณจะให้ฉันปุ๊บปั๊บลดให้ได้ภายในวันสองวันทั้งที่กินมาตั้งหลายปีได้ยังไง” เธอพยายามจะอธิบายแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความนิ่งเงียบ
ดวงตาคมปลาบตวัดมองเธอก่อนจะเบือนใบหน้าหนีอย่างไม่แยแส กำลังจะอ้าปากพูดต่อแต่พอเห็นสายตาของเขา เธอก็กลืนคำพูดทั้งหมดลงคอแล้วเดินออกจากห้อง
ความน้อยเนื้อต่ำใจกับท่าทีหมางเมินของเขามันทำให้เธอรู้สึกน้อยใจอย่างบอกไม่ถูก เธอเดินมาหยุดอยู่กระจกหน้าห้องน้ำ มองรูปร่างตัวเองในกระจก สองมือหยิกพุงตัวเองแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ใครบ้างจะอยากอ้วนเธอเองก็ไม่อยากแต่จะทำยังไงได้พยายามลดมาตั้งหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยสำเร็จเลยสักครั้ง เพราะอาหารแต่ละอย่างมันล่อตาล่อใจจนเธอไม่เคยห้ามปากได้เลยสักครั้ง
“หายไปไหนมาเหรอคะคุณอิง กับข้าวเย็นชืดหมดเลย” นุดีรีบกวักมือเรียกไว ๆ เมื่อเห็นอิงวราเดินกลับมาจนลืมสังเกตสีหน้าที่เปลี่ยนไป
“ไปหาคุณก้าวมาน่ะ” เธอตอบสั้น ๆ แล้วนั่งลง
อาหารหลายอย่างยังไม่พร่องลงไปสักนิดเลยอิงวรามองมันแล้วเขี่ยไปเขี่ยมาทั้งที่น้ำลายสอปากอยากสวาปามมันเข้าไปให้หมด แต่คำขอให้ลดน้ำหนักของสามียังคงก้องอยู่ในหูจนเธอต้องห้ามใจเอาไว้
หลายวันแล้วที่ก้าวกล้ากับอิงวราต่างมึนตึงใส่กันและไม่ได้พูดคุยกัน หากเขาอยู่บนบ้าน เธอก็จะนั่งอยู่ด้านล่าง แม้แต่ยามนอนยังหันหลังให้กัน
ความเย็นชาและมึนตึงของทั้งคู่ไม่ได้รับรู้กันแค่สองคนอย่างที่เข้าใจแต่ท่าทางเหล่านั้นมันแสดงออกมาให้พนักงานและเพื่อนร่วมงานเห็นได้อย่างชัดเจนโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดจนพลอยทำให้ทุกคนอึดอัดไปด้วย
แม้ในใจจะอึดอัดกับปัญหาภายในครอบครัวของตัวเองแต่หน้าที่
การงานก็สำคัญ อิงวราจึงยังคงแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนออกจากกันอย่างชัดเจนและยังคงพยายามเลือกทานอาหารเพื่อคุมน้ำหนักของตัวเองแม้ว่ามันจะหิวโหยจนท้องร้องทั้งวันก็ตาม“นุดี วันนี้ฉันต้องออกไปเจอลูกค้านะ หากมีอะไรโทรมาก็แล้วกันนะ”
“ได้ค่ะ คุณอิง” นุดีรีบตอบรับหันไปอีกทีอิงวราก็เดินออกจากห้องทำงานไปแล้ว
อิงวราเหวี่ยงเรื่องส่วนตัวทุกอย่างเก็บใส่ลิ้นชัก แต่มันก็ไม่ทั้งหมดเพราะขณะขับรถสมองเธอก็ยังคงเอาแต่คิดวนเวียนซ้ำ ๆ เรื่องของสามีจนกระทั่งรถติดไฟแดงและเห็นว่ารถสามีอยู่ถัดไปคันหน้าไม่กี่คัน
“ตารางงานวันนี้เขาไม่มีออกมาข้างนอกนี่”
เธอชะเง้อคอมองครู่หนึ่งไฟแดงจึงเปลี่ยนเป็นไฟเขียวและโชคดีเหลือเกินว่ารถของก้าวกล้าไปทางเดียวกันกับเธอ เท้าเหยียบคันเร่งตามหลังช้า ๆ แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อรถของเขาเลี้ยวเข้าไปยังโรงแรมม่านรูด
มือกำพวงมาลัยแน่นร่างกายสั่นไปทั้งตัวเมื่อเห็นว่าผู้หญิงที่นั่งเคียงข้างมาด้วยกันคือแม่เลขาฯ สาวคนใหม่ ภาพเหตุการณ์การหลายอย่างหลั่งไหลเข้ามาราวกับถูกเข็มแหลมทิ่มแทงข้างในใจ
ความรู้สึกภายในมันรวดร้าวทรมานเจียนตาย ดวงตาคลอหน่วยไปด้วยหยดน้ำ เรี่ยวแรงเธอไม่มีแม้แต่จะเดินลงไปหาเขาและถามว่าทำแบบนี้กับเธอทำไม หากไม่รักกันแล้วก็น่าจะบอกกับเธอมากกว่ามานอกใจ
“ขอบคุณมากนะคะ ท่านประธานที่พาเมย์แวะมาดูให้เห็นกับตาว่าแฟนของฉันนอกใจ” เมวดียังคงก้มหน้าร้องไห้ออกมา
มือหนาเอื้อมไปแตะไหล่หญิงสาวโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ความเห็นใจของเจ้านายคนหนึ่งมันย่อมสำคัญเหมือนกัน ก่อนหน้านี้มีนัดกับลูกค้ารายใหญ่เข้ามาด่วนเขาจึงออกมาพบพร้อมกับเลขาฯ
แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะขอให้พามาที่นี่เพื่อมาเห็นภาพบาดตาบาดใจว่าคนรักนอกใจไปมีคนอื่น แถมไอ้ผู้ชายชาติชั่วนั้นยังปกป้องชู้เต็มที่อีกต่างหากเขาเลยจัดการสั่งสอนไปยกสองยก ที่เหลือก็อยู่ที่ว่าเลขาฯ ของเขาจะจัดการยังไง ยังอยากจะโง่คบต่อหรือเดินออกมาอย่างชาญฉลาด
เวลาเกือบสองทุ่มเสียงรถยนต์เคลื่อนเข้ามาจอดในโรงจอดรถ อิงวรานั่งอยู่ในห้องท่ามกลางความมืดมิด มือโคลงแก้วเหล้าขณะสายตาจ้องมองน้ำสีเข้มหมุนวนในนั้นอย่างเลื่อนลอย
แสงไฟในห้องสว่างวาบขึ้นร่างสูงถึงกับผงะตกใจเมื่อเห็นว่าคนเจ้าเนื้อนั่งกับพื้นอิงโซฟา เนื้อตัวแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
“กลับมาแล้วเหรอคุณสามี” ยันกายลุกขึ้นร่างกายของเจ้าตัวโอนเอนเล็กน้อยขณะพูด
“คุณเมาเหรอ แล้วคิดยังไงถึงดื่ม ปกติไม่ชอบดื่มนี่”
ก้าวกล้าเดินเข้าไปพยุงทว่ามือป้อมกลับผลักเขาออก อิงวราพูดด้วยน้ำเสียงยานคางกว่าปกติ
“ฉันดื่ม เพราะฉันไปเห็นภาพบาดตาบาดใจมา”
“ภาพบาดตาบาดใจเหรอ? คุณหมายถึงอะไร” หัวคิ้วย่นเข้าหากันไม่เข้าใจความหมายของคนพูด
ยังไม่ทันได้คำตอบทว่าอีกฝ่ายกลับทิ้งตัวลงพื้นอย่างหมดสภาพ แถมใบหน้ากลมยังมีคราบน้ำตาเปื้อนแก้มอยู่ เขาไม่รู้เลยว่าวันนี้เธอไปเจอกับอะไรมา
ก้าวกล้าเอื้อมมือไปเขย่าตัวอิงวราซึ่งหลับปุ๋ยไปแล้วเขาจึงรวบรวมแรงที่มีดึงตัวของเธอขึ้นไปนอนบนโซฟาเพราะให้เขาอุ้มขึ้นไปนอนบนบ้านคงไม่ไหวหรอก เพราะน้ำหนักของเธอเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อนค่อนข้างเยอะ
มือหนาดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวแต่แล้วก็ต้องชะงักลง เมื่อเสียงอ้อแอ้
เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง“ถ้าไม่รักกันแล้ว บอกเลิกฉันนะ อย่านอกใจ ฉันขอร้อง”
เขาย่อตัวนั่งลงด้านข้างยกมือขึ้นเขี่ยปลายผม แม้รูปร่างจะเปลี่ยนไปแต่ว่าใบหน้าเธอยังสวยเหมือนเดิม นิสัยยังน่ารักเหมือนเดิมแต่ที่เขามึนตึงใส่เธอก็เพราะว่าเป็นห่วงสุขภาพของและอยากให้เราได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปนาน ๆ ก็เท่านั้น
ก้าวกล้าก้มหน้าลงไปจุมพิตบนหน้าผากแผ่วเบาของคนเป็นเมีย
“ผมจะไม่มีวันนอกใจคุณ”
“ขอบคุณมากนะคะที่อยากร่วมงานกับเรา”อิงวรายื่นมือไปจับเพื่อขอบคุณลูกค้ารายใหญ่ ทุกการเจรจาเรียบร้อยเหลือแค่ส่งเรื่องไปให้ท่านประธานไปเซ็นสัญญาก็เท่านั้น“คุณอิงเก่งมาเลยค่ะ ไม่อยากจะคิดเลยว่าห้างฯ ระดับนั้นอยากได้สินค้าของเราไปวางสาขาต่างประเทศด้วย” นุดียืนยิ้มปลื้มอกปลื้มใจ“มันแน่นอนอยู่แล้ว ก็สินค้าเรามีคุณภาพนี่ ใครก็อยากได้”อย่าถามหาความถ่อมตัวจากคนตัวกลมเลยเพราะมันคือความภาคภูมิจองเธอที่ขายงานได้ทุกครั้ง ใครไม่อวยก็ช่างเธอไม่สนใจขอแค่ตัวเองอวยและให้กำลังใจตัวเองก็มากเกินพอแล้ว“ปะ กลับขึ้นไปทำงานกันเถอะ” อิงวราเอ่ยชวนหันหลังขึ้นบันไดได้สองสามขั้นอยู่ ๆ หญิงสาวก็รู้สึกหน้าหน้ามืดขึ้นมาแม้ว่าจะสะบัดหัวไล่ความมึนงงออกไปแต่มันก็ไม่เป็นผล“นุดี” เรียกได้แค่คำสั้น ๆ ก่อนร่างอ้วนจะหงายหลังกลิ้งลงบันไดศีรษะฟาดกับขอบราวแล้วแน่นิ่งไป“คุณอิง!” นุดีร้องเสียงหลงวิ่งลงไปประคองร่างไร้สตินั้นสถานการณ์ตอนนั้นเริ่มวุ่นวายไปหมด เสียงรถพยาบาลดังมาแต่ไกลจนได้ยินไปถึงห้องประชุม ก้าวกล้าขมวดคิวนิดหน่อยนึกว่ามีพนักงานป่วยจึงไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่ง...“ท่านประธานคะ!” เมวดีเปิดประตูพรวดพลาดเข้ามาด้ว
การทะเลาะกันของคนทั้งคู่กลายเป็นเรื่องซุบซิบของเหล่าเพื่อนและคณะอาจารย์จนอิงวราไม่สามารถทนต่อสายตาทุกคนได้จึงเลี่ยงออกจากงานเพื่อกลับบ้านเสียงวิ่งตามเหยาะ ๆ ทำให้คนเจ้าเนื้อหันกลับไปมองและก็เห็นว่าเป็นภูกำลังวิ่งตามมาเธอจึงหยุดฝีเท้าลง“วิ่งตามเรามา มีอะไรหรือเปล่าภู”“เราจะมาขอโทษเธอเรื่องวันนี้” ทั้งพูดทั้งหายใจเหนื่อยหอบสองมือเท้าเอว แล้วพ่นลมหายใจออกมา“ไม่ต้องขอโทษหรอก มันไม่ใช่ความผิดของภูนะ เรากับก้าวมีปัญหากันมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เรื่องนี้เดี๋ยวเราจัดการเอง”“แต่เราก็รู้สึกผิดอยู่ดี เอาอย่างนี้ไหม เดี๋ยวเราขับรถไปส่ง” ชายหนุ่มขันอาสาด้วยรอยยิ้ม แล้วต้องหุบลงเพียงชั่ววินาที“ไม่เป็นไร เราอยากเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ขอบใจนะ” ว่าจบอิงวราก็หันหลังเดินจากไป ปล่อยให้ชายหนุ่มมองตามหลังอยู่อย่างนั้นเธอไม่รู้ว่าเดินมาไกลแค่ไหนหรือเดินมาถึงไหนแล้วแต่พอเงยหน้าขึ้นก็มาหยุดอยู่ท่ามกลางฝูงชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติย่านแหล่งท่องเที่ยวใจกลางเมืองกลุ่มไทยมุงแล้วก็เสียงร้องโวยวายอยู่เบื้องหน้าไม่ไกลเรียกสติให้เธอหันกลับมาสนใจสถานการณ์ตรงหน้า มีหลายคนพยายามจะเข้าไปช่วยแต่ว่าผู้ชายคนนั้นกล
ทั้งคืน...ทั้งคืนที่อิงวรานั่งหลังพิงเตียงแล้วทอดมองออกไปยังด้านนอกห้องบนคอนโดฯ หรูโดยไม่สามารถข่มตาหลับลงได้ เธอเอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้นซ้ำ ๆ จนขอบตาบวมช้ำนับจากสายสุดท้ายที่เธอตัดทิ้งไปเขาก็ไม่ได้โทรมาหาอีกเลย ไม่มีคำขอโทษใด ๆ ให้ได้ยินหรือแม้แต่พิมพ์มาให้รู้สึกดีขึ้นเลยเธอลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อกลับไปทำงานอีกครั้งถึงแม้ว่าร่างกายจะอ่อนเพลียและหัวใจจะบอบช้ำก็ตาม เธอต้องแยกเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานออกจากกันเกือบสายอิงวราพาตัวเองมาถึงที่ทำงานด้วยสภาพอิดโรย เธอไม่ได้สนใจสายตาของพนักงานด้วยกันว่าจะมองเธออย่างไร และวางตัวไม่เหมาะสมกับการเป็นเมียของประธานบริษัทเพราะต่อไปก็คงไม่ใช่แล้ว“คุณอิงคะ ทำไมสภาพเหมือนคนไม่ได้นอนแบบนี้ล่ะคะ”“ก็ไม่ได้นอนจริง ๆ มาดักรออยู่หน้าห้องมีอะไรหรือเปล่า”“นุดีไม่มีหรอกค่ะ แต่คนที่มีน่าจะนั่งรออยู่ในห้องแถมตอนนี้ยังทำหน้ายักษ์จนทุกคนไม่กล้าสบตาเลยค่ะ” นุดีรีบมารายงานเมื่อเห็นว่าอิงวราเดินออกจากลิฟต์มาไม่บอกก็รู้ว่าใครมารอเจอเธอ เพราะก่อนออกมาเธอเห็นเขากดโทรหาตั้งหลายสายแต่เธอก็ยังคงจะเลือกไม่รับสายเหมือนเดิมประตูเปิดออกพร้อมกับร่างอ้วนท้วนเดินเข้า
รุ่งเช้าของวันใหม่อิงวราลืมตาขึ้นมาเห็นเพียงแค่ชามน้ำและผ้าขนหนูวางอยู่ ถัดไปไม่ไกลเห็นร่างกำยำนั่งหลับแนบหน้าลงกับโต๊ะ เขาอยู่ดูแลเธอทั้งคืนเลยอย่างนั้นหรือหากเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะอบอุ่นใจแต่เหตุการณ์เมื่อวานมันทำให้เธอกลับไปคิดอย่างเดิมไม่ได้หญิงสาวนั่งมองสามีอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่งก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปทำงาน แต่เธอก็ยังไม่ลืมหน้าที่ของภรรยาจึงจัดเตรียมชุดทำงานและอุปกรณ์ทำให้งานวางไว้บนที่นอนเหมือนเดิมก้าวกล้าตื่นขึ้นมาไม่เห็นคนเจ้าเนื้อนอนอยู่ที่เดิม คิดว่าเธอคงอยู่บนห้องนอน พอเปิดประตูเข้ามาไม่เห็นแม้แต่เงาเหลือบมองไปยังเตียงนอนถึงได้เห็นว่าเธอเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้และคงออกไปทำงานแล้วด้วย‘ทำไม ไม่ปลุก’เขาย่นคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัยก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวเดินหายเข้าไปในห้องเพื่อชำระร่างกายและออกไปทำงานเช่นเดียวกันชายหนุ่มเห็นภรรยาเดินตรงมากับเพื่อนด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแต่พอเห็นหน้าเขากลับหุบยิ้มและเดินผ่านเลยไปเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น‘เป็นอะไรของเขา’ถึงแม้หลายวันที่ผ่านมาจะมึนตึงใส่กันทว่าท่าทางของเธอก็ไม่ได้เย็นชาขนาดนี้ ทำเหมือนกับว่ากำลังโกรธอะไรสักอย่าง
“ชุดนี้เหมาะกับคุณมากเลยค่ะ”นิ้วป้อมสั้นติดกระดุมชุดสูทสีน้ำเงินเข้มครบทุกเม็ดแล้วลูบแผ่นอกกว้าง ทุกเช้าเธอจะเป็นคนจัดเตรียมชุดและเนคไทให้กับสามีและแน่นอนว่าเธอมักจะเอ่ยชมความหล่อของเขาทุกวัน...ก็คนมันหล่อจริง ๆ นี่นามือใหญ่คว้าไปจับนิ้วป้อมไว้เพราะไม่อยากถูกกระตุ้นอารมณ์จนตื่นตัวตอนนี้เพราะต้องรีบไปทำงานแต่เช้า ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้“ผมอยากให้คุณลดน้ำหนัก”เท้าที่กำลังจะก้าวออกจากห้องถึงกับชะงัก ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเอ่ยปากเรื่องนี้ เธอหันกลับไปหาก้าวกล้าด้วยรอยยิ้มเจื่อน ๆ“คุณรู้ใช่ไหมว่าผมอยากมีลูก”“รู้ค่ะ คุณพูดกับฉันบ่อยเสียขนาดนี้ ฉันก็พยายามควบคุมอาหารอยู่” หญิงสาวพยายามจะเข้าไปซบอกทว่าถูกเขาดันมือออก ไม่ได้พูดอะไรต่อแล้วขอตัวไปทำงาน ทั้งคู่ไม่ได้ไปรถคันเดียวกันต่างคนต่างขับไปทำงานจนกลายเป็นเรื่องปกติพักเที่ยงก้าวกล้าเดินลงมาทานอาหารยังแคนทีนของบริษัท เขาก้าวเข้าไปหยุดอยู่ประตูทางเข้า กวาดสายตาไปรอบ ๆ แล้วไปหยุดอยู่โต๊ะอาหารของคนเป็นเมียนี่คือการพยายามลดน้ำหนักแล้วใช่ไหม?บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาการคาวหวานซึ่งกินหมดนั้นน้ำหนักคงขึ้นได้เป็นกิโลเพียงชั่วข้ามคืนแน่นอน ชายหนุ่มถอน
สองมือป้อมค้ำคางอยู่หน้าเคาน์เตอร์ห้องครัวมองคนตัวสูงร่อนกระทะอยู่หน้าเตาไปมา ดวงตาไล่ตั้งแต่ปลายเส้นผมจนยาวถึงมือ ใบหน้าหล่อ กล้ามเนื้อแน่นเส้นเลือดตามแขนขึ้นชัดเจน รูปร่างหน้าตาของเขาไม่เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่คบกันและแต่งงานกันมันช่างดูน่ากินมากกว่าสปาเกตตี้ในกระทะนั้นเสียอีก“หอมจังเลยค่ะ อิงดีใจนะที่วันครบรอบแต่งงานของเรายังมีคุณอยู่ด้วยอีกปี”ก้าวกล้าละสายตาจากกระทะเงยมองหน้าคนเป็นเมียนิดหนึ่งแล้วก็ก้มลงปรุงอาหารต่อ อีกปีอย่างนั้นเหรอ แล้วถ้าปีต่อไปเขาจะเลิกกับเธอล่ะแค่คิดชายหนุ่มก็ถอนหายใจยาวออกมา“ถอนหายใจทำไมคะ มีอะไรหนักใจหรือเปล่า หรือว่างานมีปัญหา”ดวงหน้าอวบอิ่มยังคงใสซื่อเหมือนเดิมแต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คงเป็นสามีซึ่งมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ เขาเพียงคลี่ยิ้มบาง ๆ แล้วตักอาหารใส่จานมาเสิร์ฟให้กับคนตัวอ้วนชอบกินตรงหน้า“น่ากินจัง กินแล้วนะคะ” พูดจบมือป้อมก็จ้วงส้อมในมือลงจานแล้วหมุน ๆ ตักเข้าปากทันทีเมื่อก่อนเขาเคยคิดว่าการกินแบบนี้มันช่างดูน่ารัก แต่สภาพตอนนี้มันดูเกินน่ารักไปมาก...มากจนล้นหลังจากจัดการมื้อค่ำและล้างจานเรียบร้อยอิงวราหันกลับมาก็ไม่เจอคนเป็นสามีแล้ว หญิงสาวเดินไป