ตอนที่ 12 โดนหอมแก้ม!
“มีอะไรให้ฉันช่วยบ้าง บอกได้นะ” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมา ร่างสูงเดินเข้ามาหยุดยืนข้างๆเพื่อนลูกสาว ลสิสากำลังยืนก้มหน้าหั่นผัก การกระทำของเธอเหมือนกับคนที่เก่งด้านทำอาหารพอสมควร “จะช่วยหนูทำจริงๆเหรอคะ คุณกัปตันกลับมาเหนื่อยๆ น่าจะพักผ่อนดีกว่านะคะ” เธอหันไปพูดกับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ และส่งยิ้มสดใสให้เขา พิพัฒน์สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงวอร์มขายาวสีเทา กลิ่นหอมจากกายของเขาทำให้ลลิสาอยากจะสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เขายังคงหล่อเหลาและดูดีเหมือนที่เธอเคยเจอครั้งแรก “ให้ฉันช่วยทำเถอะ เธอเป็นแขก ไม่ควรมาทำอาหารด้วยซ้ำ” “ไม่เป็นไรค่ะ หนูชอบทำอาหารอยู่แล้ว คุณกัปตันช่วยชิมก็พอนะคะ” “หนูเป็นคนปรุงดีกว่า วางมีดลง ฉันจะหั่นผักเอง” “ก็ได้ค่ะ” เขาขยับไปยืนแทนที่ของเธอ พิพัฒน์ยืนหั่นผักอย่างขะมักเขม้น ปกติเขาเป็นคนที่ชอบทำอาหารเช่นกัน เพียงแต่เขาไม่ค่อยมีเวลาทำก็เท่านั้น “เก่งจังเลยค่ะ หั่นผักเร็วกว่าหนูอีก” เธอเอ่ยชมเขา “หึ หนูไม่รู้ซะแล้ว ฉันนี่แหละ พ่อครัวตัวจริง แล้วในหม้อนั่นแกงอะไร” เขาถามลลิสา เนื่องจากอาหารในหม้อส่งกลิ่นหอมจนเขาอยากจะทานข้าวขึ้นมาเสียแล้ว “แกงสับปะรดใส่หอยแมลงภู่ค่ะ ส่วนหม้อถัดไป ต้มยำซีฟู้ด” “แล้วผักคะน้าที่กำลังหั่นอยู่ล่ะ เมนูอะไร” “หนูจะทำคะน้าหมูกรอบค่ะ” “ดีจังเลย คะน้าหมูกรอบ อาหารโปรดของฉันเลยนะ” “จริงเหรอคะ งั้นหนูจะทำให้สุดฝีมือเลยค่ะ” เธอพูด และมองพ่อของเพื่อนด้วยแววตาเป็นประกาย ลลิสาทำเมนูคะน้าหมูกรอบจนเสร็จ กลิ่นหอมของอาหารทำให้พิพัฒน์น้ำลายสอ “หอมมาก น่าทานสุดๆ แค่ได้กลิ่นหอมก็รู้แล้วว่าอร่อย” “ลองชิมก่อนสิคะ จะได้รู้ว่าอร่อยจริงหรือเปล่า” เธอใช้ช้อนตักขึ้นมา เพื่อให้พิพัฒน์ชิม การกระทำของลลิสาเหมือนเด็กน้อยที่กำลังเอาใจผู้ใหญ่ มันไม่ใช่การหว่านเสน่ห์แบบผู้หญิงที่เขาเคยเจอ เหมือนว่าเธอจะโตแต่ตัว แต่นิสัยยังคงเป็นเด็ก ปลายช้อนจ่อที่ริมฝีปากหนา พิพัฒน์เผลอจ้องใบหน้าสวยหวานจนลืมว่าเธอกำลังจะป้อนอาหารเข้าปากเขา “คุณกัปตันคะ ชิมสิคะ” เขาสะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นจึงอ้าปากชิมอาหารที่เธอป้อน “อื้อ...อร่อยมากๆ หนูทำอาหารเก่งมาก ฝีมือเหมือนเชฟในร้านอาหารชื่อดังเลยล่ะ” “ขอบคุณค่ะ” เธอส่งยิ้มหวานด้วยความดีใจ ทั้งสองไม่รู้เลย ว่ามีใครคนหนึ่งแอบยืนมองดูอยู่ไม่ไกล “อาหารเสร็จครบทุกอย่างแล้ว หนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” เขาพยักหน้าตอบกลับ ลลิสาเดินขึ้นไปยังห้องนอนของแพรพลอย เพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย ทางด้านพิพัฒน์เดินออกไปที่หน้าบ้าน เพื่อดูเด็กๆจัดเตรียมสถานที่สำหรับงานวันเกิดในคืนพรุ่งนี้ “ไฟสวยไหมครับคุณอา ผมออกแบบมาเพื่องานวันเกิดยัยพลอยโดยเฉพาะเลยนะครับ” ภาคินเดินตรงเข้ามาหาพิพัฒน์ที่กำลังยืนกอดอกมองดู “สวยมาก เก่งนะเรา อีกปีเดียวก็เรียนจบแล้วนี่” “ครับ ตอนนี้อยู่ปีสี่แล้ว เรียนจบจะได้ช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำงาน” “แล้วเป็นไงบ้าง เรื่องสาวๆ เบาลงบ้างหรือยัง หรือว่ามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว” พิพัฒน์ถามหลานชาย เพราะเขารู้ว่าภาคินเป็นหนุ่มเจ้าชู้และเสน่ห์แรง “เลิกแล้วครับ เลิกเจ้าชู้น่ะ ตอนนี้กำลังชอบสาวคนหนึ่ง เจ้าชู้ให้น้องเขาเห็นไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวโดนปัดตก” “เสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราเข้าบ้านไปอาบน้ำทานข้าวกันดีกว่า ป่านนี้ยัยซาร่าคงทำอาหารเสร็จแล้ว” แพรพลอยบอกเพื่อนๆ ทุกคนกำลังจะเดินเข้าไปในบ้าน ขณะที่ลลิสาเดินออกมาพอดี “ซาร่า มานี่สิ” แพรพลอยเรียกเพื่อน ลลิสาเดินตรงเข้ามาหาเธอทันที “พ่อคะ นี่ซาร่า เพื่อนสนิทอีกคนของพลอยค่ะ ซาร่านี่คุณพ่อของฉันเอง” แพรพลอยแนะนำให้ทั้งสองได้รู้จักกัน เธอไม่รู้เลยว่าคนทั้งสองรู้จักกันมาก่อนแล้ว “พ่อเจอหนูซ่าร่าแล้วล่ะ” “อ้าว เหรอคะ” “พาเพื่อนๆเข้าบ้านไปอาบน้ำเถอะ จะได้ลงมาทานอาหาร” พิพัฒน์บอกลูกสาวและเพื่อนๆของเธอ “เดี๋ยวพี่มาทานอาหารฝีมือน้องซาร่านะครับ พี่ขอไปอาบน้ำก่อน” “ค่ะ” ภาคินบอกลลิสา ท่าทางและแววตาของเขา บ่งบอกว่าเขาชื่นชอบลลิสาไม่น้อย แต่เธอไม่ได้รู้สึกอะไร ยิ่งเธอได้เจอพิพัฒน์อีกครั้ง ยิ่งทำให้เธออยากจะมองแค่พิพัฒน์เพียงคนเดียว “อาหารอร่อยมากเลยอ่ะ” “จริงด้วย อร่อยสุดๆ ฝีมือยัยซาร่ายอดเยี่ยมจริงๆ” ดรีมและเอิร์นกล่าวชมเพื่อน ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งทานอาหาร พิพัฒน์นั่งเก้าอี้ตรงกลาง ลูกสาวและหลานชายนั่งอยู่ข้างๆ สามสาวนั่งอยู่ฝั่งเดียวกัน ลลิสานั่งตรงข้ามกับพิพัฒน์ เธอรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นพิพัฒน์ทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย “โห...วันนี้คุณพ่อทานข้าวเยอะมาก แสดงว่าอาหารที่ซาร่าทำถูกปากคุณพ่อแน่ๆ” แพรพลอยเอ่ยแซวบิดา “ใช่ อร่อยมาก” พิพัฒน์ตอบ “สวยแล้วยังทำอาหารอร่อยอีก อร่อยมากครับ” ภาคินเอ่ยชมในทำนองเกี้ยวสาว “ขอบคุณค่ะ” ลลิสาตอบกลับ พิพัฒน์พอจะเดาได้ว่า ผู้หญิงที่หลานชายหมายปอง น่าจะเป็นลลิสาคนนี้แน่นอน ลลิสาพยายามข่มตานอน แต่ทำยังไงเธอก็นอนไม่หลับ ขณะที่แพรพลอยหลับไปสักพักแล้ว เธอได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังว่ายน้ำ อยู่ในสระว่ายน้ำหลังบ้าน ลลิสาชะเง้อมองตรงหน้าต่าง เธอเห็นร่างแกร่งกำลังแหวกว่ายน้ำไปมา ลลิสาตัดสินใจเปิดประตูออกจากห้อง แล้วเดินลงไปที่สระว่ายน้ำ เท้าเล็กก้าวเข้าไปหยุดยืนข้างๆก้าวอี้หวาย (พรึ่บ) “!” พิพัฒน์ที่เพิ่งจะโผล่ขึ้นจากน้ำถึงกับสะดุ้ง “นึกว่าใคร ยังไม่นอนอีกเหรอ” เขาเอ่ยถามคนที่กำลังนั่งลงที่เก้าอี้หวาย เธอสวมชุดนอนสายเดี่ยวสีแดงเลือดหมู และกางเกงนอนขาสั้นสีเดียวกัน ผมยาวปล่อยสยาย ผิวขาวนวลชวนให้มองเป็นที่สุด “หนูนอนไม่หลับค่ะ ได้ยินเสียงคนว่ายน้ำ ก็เลยลงมาดู” (พรึ่บ) ร่างแกร่งดันตัวขึ้นมาที่ขอบสระ เขาสวมเพียงกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว ดวงตากลมโตไล่สำรวจร่างกายแกร่งกำยำ หน้าท้องแกร่งแน่นด้วยลอนกร้ามเนื้อ ร่างกายของเขาดูดีทุกสัดส่วน จนเธอแทบไม่อยากละสายตา (พรึ่บ) “!” เธอถึงกับสะดุ้ง เมื่อเขาเดินมาหยิบเสื้อคลุมที่วางอยู่บนเก้าอี้มาสวมทับ ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวนั้น “ไม่หนาวหรือไง” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถาม ก็เธอเล่นใส่ชุดนอนแบบนั้น จะไม่ให้เขาถามได้ยังไง “ไม่หนาวค่ะ แล้วคุณกัปตันไม่หนาวเหรอคะ ดึกขนาดนี้ยังว่ายน้ำได้” “ไม่หนาวหรอก ฉันชอบว่ายน้ำตอนกลางคืน ชอบอะไรที่มันเงียบ และไม่มีคนผ่านมา” “หนูขอโทษนะคะที่มารบกวนคุณ” “ไม่เป็นไรหรอก หนูไม่ได้รบกวนฉันสักหน่อย” “คุณกัปตันว่ายน้ำเก่งมากเลยนะคะ หนูว่ายน้ำไม่เป็นเลยค่ะ หนูกลัว ตั้งแต่ตอนที่หนูตกน้ำครั้งนั้น หนูก็ไม่กล้าเข้าใกล้น้ำอีกเลย” “ไม่ต้องกลัวนะ และหนูควรจะหัดว่ายน้ำให้เป็น จะได้ช่วยเหลือตัวเองเวลาคับขันไงล่ะ” “หนูไม่กล้าหรอกค่ะ กลัวว่ายไปแล้วจมน้ำไม่มีใครเห็น” ลลิสาพูดความจริง ตั้งแต่ตอนที่เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น เธอไม่กล้าเข้าใกล้น้ำอีกเลย “จากนี้หนูไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะเป็นคนสอนหนูว่ายน้ำเอง” “คุณกัปตันพูดจริงๆเหรอคะ” เธอจ้องหน้าเขา แววตาเป็นประกาย เธอตื่นเต้นที่เขาพูดมาแบบนั้น “จริงสิ ฉันจะสอนหนูว่ายน้ำเอง” (พรึ่บ) “ขอบคุณนะคะ” (ฟอดดดด) “!” พิพัฒน์ตกใจจนทำตัวไม่ถูก อยู่ๆเพื่อนลูกสาวก็ทำตัวซุกซนเข้ามาหอมแก้มเขา การกระทำของเธอเหมือนกับที่แพรพลอยทำกับเขา แต่ความรู้สึกมันต่างกันมาก เพราะหญิงสาวตรงหน้าไม่ใช่ลูกสาวของเขา แถมยังเป็นเพื่อนของลูกสาวอีกต่างหาก -------------------------------------- ฝากกด like comment เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ เจอกันตอนต่อไปคืนนี้ค่ะสามปีต่อมาพิพัฒน์ในวัย 48 ปี แต่ใบหน้ายังคงหล่อเหลาราวกับหนุ่มในวัยสามสิบปลายๆ ร่างกายของเขายังคงแข็งแรงจากการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เขาใช้เวลาทุกๆวันดูแลลูกๆและภรรยา แม้จะไม่ได้ทำงานเหมือนแต่ก่อน แต่พิพัฒน์ก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสายการบินของครอบครัว และแพรพลอยขึ้นรับตำแหน่งรองประธาน ในขณะที่ภาคินเองก็เพิ่งจะขึ้นรับตำแหน่งประธานไปหมาดๆ พิพัฒน์และลลิสาแต่งงานกันในโบสถ์แห่งหนึ่ง กลางเมืองมิลาน ครอบครัวทั้งสองฝ่ายต่างร่วมยินดีและเป็นสักขีพยานรักให้กับคนทั้งสอง“มาค่ะ ใครจะนั่งกับคุณยายคุณตาบ้างคะ”คุณยายริสาถามหลานๆ พวกเขากำลังเดินทางไปเที่ยวที่เทือกเขาโดโลไมต์ในช่วงปิดเทอม“ผมจะนั่งกับคุณตาคุณยายครับ”เด็กชายภูผาในวัย4 ขวบ เดินขึ้นรถบ้านไปนั่งตรงกลางระหว่างคุณตาคุณยาย “น้องพราวจะนั่งกับคุณตาคุณยาย หรือจะนั่งกับพี่พลอยคะ”แพรพลอยถามน้องสาว เด็กหญิงแพรวพราวในวัยสองขวบ เด็กน้อยน่ารักเหมือนตุ๊กตาบาบี้ พี่สาวอย่างแพรพลอยหวงนักหนา“นั่งกับพลอยๆ พี่พลอยฉวยๆ”เด็กหญิงตัวน้อยยื่นมือให้พี่สาวโอบอุ้มขึ้นรถ(พรึ่บ)(ฟอดดดด)“น่ารักที่สุดค่ะ น้องสาวพี่”แพรพลอยหอมหน้าผากน้องสาวและอุ้มขึ้นรถบ้าน
ตอนพิเศษNC20+“เฮียไม่ต้องไปตามลูกหรอกค่ะ ปล่อยให้เขานอนกับพี่สาว เฮียก็รู้ยัยพลอยกับน้องภูตัวติดกันขนาดนั้น เรามาหาความสุขกันเถอะนะคะ ผลิตลูกเพิ่มดีไหม”เธอพูดพร้อมกับยื่นมือไปดึงขอบเอวกางเกงวอร์ม แล้วรูดลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้าของพิพัฒน์“ดีครับ งั้นเฮียจะผลิตลูกเพิ่มอีกสักสองคน หนูโอเคใช้ไหม”เขาก้มหน้าลงไปจับที่คางภรรยาสาว เธอช้อนตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา ขณะที่มือเล็กกำลังรวบรัดแก่นกายลำใหญ่“ดีค่ะที่รัก คืนนี้จัดทั้งคืนเลยดีไหมคะ”(จ๊วบ)“อ่าส์...สะ...เสียว”พิพัฒน์ถึงกับซู้ดปาก เมื่ิอภรรยาคนสวยใช้ริมฝีปากจดจูบที่ปล่ายหัวเห็ดบาน เธอมองจ้องมันอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงอ้าปากครอบกลืนแท่งเอ็นใหญ่ และผงกศีรษะขึ้นลงเรื่อยๆ(บ๊วบบ๊วบบ๊วบ)“อ่าส์...ซี้ด...เสียว...โอ้ว”เขายืนเต็มความสูงและโยกเอวเบาๆเข้าไปในโพรงปากนุ่มนิ่ม ลลิสานั่งอยู่ปลายเตียง เธอช้อนตามองสามีอย่างยั่งยวน มือหนายื่นไปเกี่ยวสายเดี่ยวให้หลุดลงจากไหล่บาง จากนั้นจึงยื่นมือไปบีบคลึงเต้านมอวบใหญ่ ลลิสายังคงเร่งผงกหัวเข้าออกรัวๆ “อ๊าส์...อ่า...สุดยอด...โอย...ซี้ด เร็วอีกครับ”หลังจากที่ภรรยาคนสวยใช้ปากรูดดูดแท่งเอ็นใหญ่หลายนาที พิ
ตอนพิเศษหลายเดือนต่อมา“แว้แว้แว้!”เสียงเด็กทารกเพศชายร้องไห้ในยามเช้า พิพัฒน์ในวัย 45 ปี รีบเดินเข้าไปโอบอุ้มลูกชายวัยสามเดือนขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดของเขา“โอ๊ะโอ๋ ลูกชายของคุณพ่อ ตื่นแล้วเหรอครับ ไม่ต้องร้องนะคนเก่ง วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่จะพาน้องภูกลับประเทศไทย เรากลับไปอยู่บ้านของเรากันนะครับ ให้ลูกโตขึ้นกว่านี้ คุณพ่อจะพากลับมาเยี่ยมคุณตาคุณยาย โอเคไหมครับ”“แอ้”พิพัฒน์พูดราวกับว่าเจ้าตัวเล็กฟังรู้เรื่อง เด็กชายภูผาหยุดร้องไห้ทันที เจ้าตัวกำลังมองดูบิดาที่กำลังทำท่าหยอกล้อและพูดคุยด้วย“ลูกตื่นแล้วเหรอคะเฮีย”ร่างระหง ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูมีน้ำมีนวล กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอใช้ผ้าเช็ดตัวนุ่งกระโจมอก พิพัฒน์จ้องมองภรรยาสาวด้วยความหลงใหลเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา“ลูกตื่นแล้วครับ น่าจะหิวนมด้วย”“แป๊บนะคะ”เธอตอบสามี ขณะที่กำลังนำเสื้อเชิ๊ตมาสวมใส่“ครับ ที่รัก”“มองทำไมขนาดนั้นคะ”ลลิสาถามถามพิพัฒน์ เขาเอาแต่จ้องมองเธอด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึกหลากหลาย“มองคุณแม่คนสวยไงครับ ทั้งสวย ทั้งมีน้ำมีนวล ทั้งน่ารัก น่าขย้ำสุดๆ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมา ก่อนที่เขาจะหันไปหยอกล้อลูกชาย“อดทน
ตอนที่ 43 ตามหาหัวใจพิพัฒน์และแพรพลอยเดินทางมาถึงประเทศอิตาลีในช่วงเช้าของวันเสาร์ แพรพลอยค่อนข้างตื่นเต้น เพราะเป็นการเดินทางในต่างประเทศครั้งแรกของเธอ เธอมองซ้ายมองขวาด้วยท่าทางเหมือนเด็ก“เดินเร็วๆสิพลอย พ่อรีบนะ”พิพัฒน์เองก็ตื่นเต้นไม่แพ้ลูกสาว เขาคิดถึงเมียรักจนสุดหัวใจ และหวังว่าลลิสาจะไม่โกรธเขา สองพ่อลูกนั่งรถแท็กซี่ไปตามเส้นทางที่เขาจำได้ดี“ตื่นเช้าจังเลยนะลูก หรือว่านอนไม่หลับอีก”มาดามริสาถามลูกสาวที่กำลังนั่งอยู่ในสวนดอกไม้“เจ้าตัวเล็กดิ้นแต่เช้าเลยค่ะคุณแม่”เธอยิ้มให้กับมารดาพร้อมกับใช้มือลูบหน้าท้องกลมโตนับตั้งแต่วันที่ลลิสากลับมาอยู่กับบิดามารดา เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ลึกๆในใจเธอเฝ้าแต่คิดถึงคนที่เป็นพ่อของลูกอยู่ตลอด เธอไม่ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้บิดามารดาฟัง เธอบอกแค่ว่าพิพัฒน์ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก จนความจำเสื่อม และเขาต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกนาน เธอจึงต้องกลับมาอยู่กับท่านทั้งสอง มิสเตอร์ฟรังโก้และมาดามริสาเข้าใจลูกสาวและลูกเขยเป็นอย่างดี “หลานชายของแม่คงจะแข็งแรงน่าดูเลย คริคริ ดีใจจังเลย จะได้เป็นคุณยายแล้ว”มาดามริสาทั้งตื่นเต้นและมีความสุข“
ตอนที่ 42 สำนึกผิด“ซาร่า! อย่าไป ซาร่ากลับมาก่อน!”(พรึ่บ)พิพัฒน์เอาแต่นอนละเมอ เรียกหาเมียรัก และสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก“อื๊อ...คุณอาละเมอหรือครับ”ภาคินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เพราะเขาเองก็เพิ่งหลับไป และต้องตื่นตอนที่ได้ยินเสียงของพิพัฒน์“ซาร่า ซาร่าไปไหนแล้ว เมียของอาหายไปไหน ไปตามซาร่ามาหาอาหน่อยสิภีม”พิพัฒน์พยายามมองหาเมียรักของเขา ภาคินรีบลุกจากโซฟาเดินเข้ามาหาคุณอาของเขา“อาพัฒน์ว่าไงนะครับ”“ซาร่าไปไหน ทำไมไม่กลับมาหาอา เมียของอาไปไหน”“ใจเย็นๆนะครับคุณอา คุณอาจำผมได้แล้วใช่ไหมครับ”พิพัฒน์จ้องหน้าภาคินทันที“แกพูดอะไรของแกวะไอ้ภีม ทำไมอาจะจำไม่ได้ แกมันก็เป็นหลานชายของอาไง เมื่อก่อนแกก็ตามจีบเมียอา หมั่นไส้ ไอ้หลานบ้านี่”“ฮ่าๆๆ คนแก่จำได้แล้วโว้ย!”ภาคินหัวเราะดังลั่นห้อง“ว่าใครแก่วะ อายังไม่แก่นะเว้ย”“นั่งอยู่ตรงนี้นะครับ ผมจะไปตามคุณหมอ”ภาคินรีบเดินออกจากห้อง เพื่อไปตามแพทย์เจ้าของไข้แพทย์หนุ่มพูดคุยและตรวจอาการพิพัฒน์โดยละเอียด พิพัฒน์ตอบคำถามได้ทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะถามหาเมียรักของเขาอยู่แบบนั้น“คนไข้หายเป็นปกติแล้วนะครับ แต่เรื่องของแขนด้านซ้าย อย่าเ
ตอนที่ 41 ซาร่าจากไปพร้อมกับลูกในท้องพิพัฒน์เอาแต่นอนซึม เมื่อรู้ว่าลลิสาไปจากเขาแล้ว ทุกๆครั้งที่ตื่นมา เขาจะเจอเธออยู่ข้างๆตลอด แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว ผู้หญิงที่คอยดูแลเขา ผู้หญิงที่คอยป้อนข้าว คอยเช็ดตัว และคอยเอายาให้เขาทานทุกวัน “คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะพี่ภีม พลอยไม่ได้มาเยี่ยมสองวัน คุณพ่อดีขึ้นหรือเปล่า ”แพรพลอยเดินทางมาเยี่ยมบิดาของเธอในเช้าวันเสาร์ และก็เป็นเหมือนทุกครั้ง แอนนี่คอยติดตามเธอมาตลอด“ก็ตามที่เห็น ดูเอาสิ”ภาคินตอบกลับ แพรพลอยมองดูบิดาที่กำลังนอนหน้าเศร้าไม่สนใจใคร“คุณพ่อไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมดูซึมๆ”เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วยื่นมือไปแตะที่หน้าผากของบิดา“ตัวก็ไม่ร้อนนี่ แต่ทำไมถึงดูเหมือนคนเป็นไข้ล่ะ คุณหมอมาตรวจหรือยัง หมอบอกหรือเปล่าว่าคุณพ่อเป็นอะไร”เธอหันไปถามภาคินที่กำลังนั่งก้มหน้าเล่นมือถือ ที่ภาคินต้องทำแบบนั้น เพราะเขาไม่อยากจะใส่ใจแพรพลอยอีกแล้ว“หมอก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรนี่ สงสัยจะเป็นไข้ใจละมั้ง”“ไข้ใจอะไรกัน”“ก็ตั้งแต่ซาร่าไปจากที่นี่ คุณอาก็ไม่ยอมทานข้าว เอาแต่นอนซึมเหมือนที่เห็นนั่นแหละ”“ฮะ ยัยซาร่าไปแล้วเหรอ ไปไหน”แพรพลอยทำหน้าฉงน“ไปอิตาลีไ