Share

บทที่ 4

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-14 00:24:43

ความเย็นชา

“หาเวลาพักผ่อน ดูแลตัวเองบ้าง” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงห่าม ๆ ทว่าเต็มไปด้วยความห่วงใย ก่อนจะเอ่ยต่อตามประสาคนปากเสีย “ตาคล้ำอย่างกับหมีแพนด้า”

“คล้ำมากเลยเหรอ” ณิชาขมวดคิ้ว เปิดกระเป๋าผ้า หยิบมือถือออกมาเปิดกล้องหน้าเพื่อส่องดูขอบตาตัวเองว่าดำอย่างที่เพื่อนพูดหรือเปล่า

“คล้ำมากเถอะ แล้วดูผิวหน้าดิ” ชายหนุ่มยื่นมือข้ามฝั่งไปจับใบหน้ารูปไข่ของหญิงสาวพลิกไปพลิกมา พิศมองอย่างสำรวจแล้ววิจารณ์ออกมาตรง ๆ อย่างไม่เกรงใจ “แห้งอย่างกับอะไร เป็นผู้หญิงจริงปะวะเนี่ย”

“ก็เราไม่ค่อยมีเวลา” หญิงสาวยู่ปากเซ็ง ๆ เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า ไม่ได้ถือสาเรื่องที่โดนทักท้วงเรื่องผิวหน้าอย่างรุนแรงและอาจจะค่อนข้างหยาบคายสำหรับคนอื่น แต่สำหรับณิชา การที่โดนกันตยศทักอย่างนี้ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะตอนที่เรียนด้วยกัน เขาพูดแรงกว่านี้หลายเท่า นี่จึงถือว่าซอฟต์ที่สุดแล้ว

“เออจริงด้วย ตอนที่ได้ข่าวว่าเธอจะแต่งงาน เราตกใจมากเลยนะเว้ย” ชายหนุ่มได้ยินข่าวเรื่องการแต่งงานของณิชาจากกลุ่มเพื่อนสมัยเรียนมหา’ลัย ที่ส่งต่อ ๆ กันมาเป็นทอด ๆ ซึ่งตอนที่รู้ เขาก็รู้สึกงง ๆ ด้วยคิดไม่ถึงว่าหญิงสาวจะแต่งงานเร็วขนาดนี้ มิหนำซ้ำยังแต่งกับ...คนที่เธอแอบชอบมานานแสนนาน “ถึงเธอจะไม่ได้ชวนเราไปร่วมงาน แต่ก็ยินดีด้วยนะเว้ย” เขาเอ่ยอย่างติดตลก กึ่งประชดกึ่งยินดี ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก

“มันกะทันหันน่ะ ไม่คิดว่าจะได้แต่งเหมือนกัน” ณิชาบอกพลางยิ้มเหย ๆ ไปให้แทนคำขอโทษที่ไม่ได้เชิญไปร่วมงาน การที่ได้แต่งงานกับวินทร์เป็นอะไรที่เธอไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นจริง หากเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมานั้น มีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอมากมายจนเธอตั้งตัวไม่ทัน และเรื่องราวทั้งหมดนั้นก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเธอ

“ได้ข่าวว่าท้องด้วย เรื่องจริงปะ” กันตยศถามต่อด้วยความสงสัยใคร่รู้ ข่าวลือที่ได้ยินมานั้นยังคาใจ

“จริง”

ชายหนุ่มตาโตขึ้นด้วยรู้สึกอึ้งนิด ๆ ลากสายตาจากใบหน้าลงมาที่หน้าท้องแบนราบ คำนวณระยะเวลาคร่าว ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปถาม “อย่าบอกว่าคลอดแล้ว ?”

“อือ คลอดแล้ว ได้สามเดือน” ณิชาพยักหน้าอีกครั้งพร้อมชูสามนิ้วโชว์เพื่อนชายที่ยังมีสีหน้าตื่นตะลึงไม่หาย

“ชื่ออะไร ผู้หญิงหรือผู้ชาย แล้วออกมาแบบนี้ใครเลี้ยงลูกให้เธอ”

“ชื่อหนูณิ เป็นผู้หญิง วันนี้พี่วินทร์อยู่บ้าน ก็เลยอยู่กับพี่วินทร์น่ะ”

“อ๋อ...” กันตยศพยักหน้ารับรู้ แล้วหลุบตามองแก้วน้ำตรงหน้า จมอยู่กับความคิดของตัวเองครู่หนึ่ง ทว่าไม่นานก็เงยหน้าขึ้นเมื่อระบบเรียกคิวของทางร้านสั่นสะเทือน บ่งบอกว่าขนมที่สั่งไปพร้อมเสิร์ฟแล้ว “เดี๋ยวเราไปเอาให้เอง”

“ไปด้วยกันดีกว่า เราสั่งไปสามอย่างแน่ะ นายยกมาคนเดียวไม่ไหวหรอก” ณิชาบอกแล้วรีบลุกขึ้นยืน ขณะที่กันตยศยังคงอึ้งกับประโยคที่หญิงสาวบอกว่าสั่งขนมไปสามอย่าง เท่าที่จำได้ ขนมร้านนี้มีแต่ไซซ์ใหญ่ สั่งมาอย่างเดียวแล้วแบ่งกันกินสองคนก็ไม่หมด

“เธอสั่งเยอะไปปะวะ จะกินหมดเหรอ” เขาถามระหว่างเดินไปที่เคาน์เตอร์ด้วยกัน

“ก็มันเลือกไม่ได้ว่าจะกินอะไร เราเลยสั่งมาทั้งหมดเลย” หญิงสาวยิ้มขำ พลางยื่นระบบเรียกคิวคืนให้พนักงาน แล้วรับถาดขนมมาถือ ก่อนจะเดินนำกันตยศกลับไปที่โต๊ะ

“พนันกันไหมว่าเธอกินไม่หมดแน่นอน” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อยกขนมมาวางบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เขากวาดตามองขนมหวานตรงหน้า ก่อนจะนิ่วหน้าด้วยรู้สึกเลี่ยนลิ้นไว้รอ ถ้าเดาไม่ผิด ก็คงไม่พ้นเขาที่ต้องเป็นคนจัดการขนมที่เหลือแทนเธอ

“ไม่พนัน เพราะไม่หมดอยู่แล้ว” ณิชาตอบอย่างไม่สะทกสะท้านใด ๆ เธอรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าอย่างไรก็กินไม่หมด แต่เพราะร้านนี้เป็นร้านที่เธอโปรดปรานมาก ๆ อันที่จริงเธออยากสั่งมากินทุกเมนู หากก็รู้ดีว่าทำอย่างนั้นไม่ได้ จึงตัดใจเลือกที่ชอบที่สุดมาเพียงแค่สามเมนู “เรากินไม่หมด นายก็กินช่วยสิ นี่เราสั่งเผื่อนายหรอก”

“เธอก็เป็นแบบนี้ตลอดแหละ” คิดเอาไว้ไม่มีผิด ไม่ว่าจะอะไรก็ตามที่ณิชากินไม่หมด ก็ต้องกลายเป็นเขาซึ่งมีนิสัยชอบเสียดายของจัดการให้เธอทุกครั้ง กันตยศได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ก่อนจะหยิบมีดกับส้อมขึ้นมาหั่นฮันนี่โทสเข้าปากคำโต ๆ

ณิชายิ้มขำกับสีหน้าแหยะ ๆ ของเพื่อน ส่ายหน้าเบา ๆ แล้วเริ่มตักไอศกรีมรสโปรดเข้าปากทันที นานแล้วเหมือนกันที่เธอไม่ได้กินของหวานร้านนี้ พอวันนี้มีโอกาสออกมาข้างนอก เธอก็เลยแวะเสียหน่อย กอปรกับรู้มาว่ากันตยศทำงานที่นี่พอดี เลยติดต่อไปเพื่อนัดให้ออกมากินขนมด้วยกันและถามไถ่ถึงความเป็นไปของอีกฝ่าย

กินเสร็จก็เป็นเวลาบ่ายโมงพอดี ณิชาจึงเดินไปสั่งขนมปังกลับบ้านอีกสองชุด เอาไปฝากดวงใจหนึ่งชุด ส่วนอีกชุดเธอตั้งใจจะเอาไปฝากคนที่เป็นพ่อของลูก เพราะจำได้ว่าเมื่อก่อนเขาก็ชอบขนมร้านนี้เหมือนกัน แต่ถ้าเขาไม่กินหรือเลิกชอบไปแล้ว เธอก็จะเก็บไว้กินเองตอนเช้าของวันถัดไป

“เจอกันที่หน้าร้าน...ทางออกชั้นสี่นะ รถเราจอดอยู่ที่นั่น เดี๋ยวแวบไปหยิบเอกสารแป๊บเดียว” กันตยศเอ่ยบอกหญิงสาวที่ยืนข้าง ๆ เมื่อเดินมาถึงทางแยกไปสำนักงาน ชายหนุ่มมีธุระออกไปข้างนอกพอดี ส่วนณิชาเองก็ไม่ได้ขับรถมา เขาจึงอาสาไปส่งเธอที่บ้าน จะได้แวะเข้าไปเล่นกับหลานน้อยด้วย จากนั้นถึงจะไปคุยกับลูกค้าที่นัดไว้ ซึ่งสถานที่นัดก็อยู่ห่างจากบ้านเธอไม่มากเท่าไร

“โอเค” ณิชาพยักหน้ารับแล้วยื่นมือไปรับถุงของใช้ที่อีกฝ่ายถือให้ “เอาถุงมา เดี๋ยวเราถือเอง”

“ไม่เป็นไร เธอเดินไปเลย เดี๋ยวเราถือไปให้ ไม่รู้ซื้ออะไรเยอะแยะ หนักฉิบ” ชายหนุ่มอดบ่นขึ้นมาไม่ได้ตามประสาคนปากไว แต่กระนั้นก็ไม่ยอมยื่นให้เธอเอาไปถือเองอยู่ดี

“เนี่ย แล้วก็บ่นเรา” ณิชาย่นจมูกนิด ๆ เธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี บ่นทุกเรื่องที่เธอทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เขาก็มักจะบ่นเธอก่อนอันดับแรก แต่สุดท้ายก็ยอมช่วยเธอทุกที

“เออน่า ไป ๆ เดินไปรอเลย สิบนาทีเดี๋ยวตามไป”

ณิชาพยักหน้ารับ ก่อนที่กันตยศจะเดินแยกออกไปทางสำนักงาน ส่วนเธอก็เดินดูของไปเรื่อย ๆ กระทั่งถึงร้านอาหารใกล้ทางออกที่ชายหนุ่มบอก เธอยืนรออยู่ตรงนั้นราว ๆ สิบนาที ก็เห็นเพื่อนสนิทสะพายกระเป๋าเป้และหอบหิ้วถุงพะรุงพะรังของเธอมา

“ปะ” เขาพยักหน้า เมื่อเห็นเธอพยักหน้าตอบจึงเดินนำออกไปยังอาคารจอดรถเลยทันที

“ผ่อนหมดยังเนี่ย” ณิชาแกล้งถามเย้าแหย่เมื่อรถคันหรูขนาดสี่ที่นั่งของกันตยศแล่นออกสู่ถนนใหญ่มาได้สักพัก

“โห ดูถูกว่ะ ระดับนี้แล้ว” ชายหนุ่มว่าอย่างโอ่ ๆ ยืดอกออกมานิด ๆ แล้วทำหน้าภูมิใจหน่อย ๆ คนที่นั่งข้าง ๆ เลยรับมุกด้วยการถามกลับ

“จะบอกซื้อสด ?”

“เปล่า เหลือผ่อนอีกสองปี” กันตยศตอบกลับเสียงเบาด้วยสีหน้าหงอย ๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะระเบิดหัวเราะออกมา ด้วยคิดถึงวันวานที่คอยตบมุกเฮฮาแบบนี้กันอยู่บ่อย ๆ ตอนแรกที่รู้จักกันณิชาก็ตามมุกของเพื่อนชายไม่ทัน ทว่าพอได้รู้จักกันมากขึ้น เธอก็เริ่มเรียนรู้และคอยส่งมุกให้เพื่อนเล่นเป็นประจำ

“เอ้อ กลับมาเรื่องพี่วินทร์ของเธอ ตอนเรียนเราจำได้ว่าพี่เขามีแฟนไม่ใช่เหรอ พี่เปียวอะไรนั่นอะ เห็นรักกันดีนี่ แล้วเลิกกันไปตั้งแต่เมื่อไร” ชายหนุ่มถามอย่างเพิ่งนึกขึ้นมาได้ ทำเอาคนถูกถามนิ่งไปด้วยรู้สึกจุกในอกจนพูดอะไรไม่ออก มันจะแปลกไหม หากเธอจะตอบว่าวินทร์แต่งงานกับเธอโดยที่ยังไม่เลิกกับคนรัก มิหนำซ้ำทั้งคู่ยังดูรักกันดีมาจนถึงทุกวันนี้...

สำหรับณิชา...มันเป็นเรื่องน่าอายเกินกว่าจะตอบออกไปตรง ๆ

“ทำไมเงียบไปเลย มีอะไรหรือเปล่า” กันตยศถามขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ยอมตอบ ทั้งยังเงียบนานเกินไป ครั้นหันไปมอง เขาก็สัมผัสได้ถึงความหม่นเศร้าที่เธอแสดงออกมาทางแววตา พลันนั้นชายหนุ่มก็เริ่มรู้สึกเอะใจขึ้นมา ก่อนจะถามออกไปทันที “หรือว่าสองคนนั้นยังไม่เลิกกัน ?”

เมื่อถูกยิงคำถามมาตรง ๆ ณิชาที่โกหกไม่เก่งก็ไม่มีทางเลือก จึงพยักหน้าลงช้า ๆ เพื่อตอบคำถามของอีกฝ่าย

“เชี่ย! นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรวะเนี่ย” กันตยศสบถออกมาด้วยถ้อยคำหยาบคาย ยกมือขึ้นเสยผมไปข้างหลังอย่างหัวเสียกับเรื่องที่เพิ่งได้รับรู้ พลันนึกถึงหนูน้อยอีกคนที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นาน “ไม่เลิกกัน แต่มาทำเธอท้องเนี่ยนะ”

“มันเป็นอุบัติเหตุน่ะ พอดีตอนนั้นเกิดเรื่องนิดหน่อย” ณิชาเล่าแบบคร่าว ๆ ไม่ลงรายละเอียดมากนัก ด้วยเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าอายไม่ต่างจากเรื่องก่อนหน้านี้

“มันไม่เรื่องนิดหน่อยแล้วนะชา นี่มันเรื่องใหญ่มาก” ชายหนุ่มว่าอย่างเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเพื่อน “แล้วยังไง ที่แต่งงานกันก็เพื่อรับผิดชอบที่ทำเธอท้องใช่ไหม”

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”

“หมายความว่าไง” คิ้วหนาของกันตยศขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินคำตอบที่คลุมเครือของหญิงสาว

“ที่พี่วินทร์ยอมแต่งงานกับเรา ก็เพราะว่าต้องการรับผิดชอบลูก”

“แปลว่ามันไม่ได้รักเธอ” ชายหนุ่มสรุป “แล้วเธอล่ะ อยากแต่งไหม”

“ไม่” ณิชาตอบไปตามตรง เธอยอมรับว่ารักวินทร์มาก รักมาตลอด จนถึงตอนนี้ก็ยังรักอยู่ และแน่นอนว่าเธออยากแต่งงานกับเขา แต่มันต้องไม่ใช่การแต่งเพื่อรับผิดชอบลูก หากเธอก็ไม่มีทางเลือกมากนัก สุดท้ายก็ต้องยอมแต่งกับเขาไปตามที่บิดาและมารดาจัดแจงให้

“ไม่อยากแต่ง แล้วแต่งทำไมวะ” กันตยศยังคงถามต่อ ในใจเขามีเรื่องสงสัยอีกมากมายที่อยากจะถาม

“เราก็ไม่อยากยอมหรอก แต่ว่า...กันต์ เบรก ๆ เราอยู่หมู่บ้านนี้” หญิงสาวกำลังจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนสนิทฟัง ทว่าก็เป็นจังหวะที่รถใกล้จะแล่นถึงทางเข้าหมู่บ้านพอดี เธอจึงหยุดการเล่าเอาไว้แค่นั้น แล้วตั้งใจบอกทางคนที่ทำหน้าที่ขับรถแทน “หลังนี้แหละ”

กันตยศจอดรถที่หน้ารั้วบ้านหลังใหญ่ขนาดสองชั้น ก่อนจะมองเข้าไปอย่างสำรวจ ไม่นานก็หันกลับมาถามหญิงสาวที่กำลังจะปลดเข็มขัดนิรภัยเพื่อลงจากรถ “บ้านใคร”

ณิชาเข้าใจทันทีว่าเพื่อนหมายถึงอะไร “บ้านพี่วินทร์ พี่วินทร์เป็นคนซื้อ”

“อืม ลงรถเถอะ เธอเอาแค่พวกที่อยู่ในรถลงไปก็พอ ส่วนที่อยู่ข้างหลังเดี๋ยวเราถือเข้าไปให้” ชายหนุ่มบอกก่อนจะกดเปิดกระโปรงหลังรถ แล้วลงไปหิ้วถุงทั้งข้าวของที่เอาไว้ในนั้นออกมา พร้อมกับณิชาที่รีบเดินไปเปิดประตูรั้วให้ จากนั้นก็เดินนำเข้าไปในบ้านทันที

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เมียแต่งที่ (ไม่) รัก   บทที่ 89

    “ก็ใช่ แต่นั่นมันแค่ที่บ้านไง ที่พี่พูดพี่หมายถึงให้ชามาทำที่บริษัทด้วย คอยจัดการตารางงาน ดูแลเรื่องอาหารกลางวัน ออกไปพบลูกค้า และช่วยตรวจเช็กเอกสารบางอย่าง เพราะบางทีพี่ก็ทำไม่ทัน”หญิงสาวนั่งเงียบคิดตามที่เขาพูด“อันนี้พี่จริงจังนะ ถ้าชามาช่วยพี่ในส่วนนี้คือจะช่วยได้มากกว่าลงไปทำที่แผนกไหนแผนกหนึ่

  • เมียแต่งที่ (ไม่) รัก   บทที่ 88

    ตอนพิเศษ 3หลังจากตั้งครรภ์เด็กชายพัทธดลย์เข้าเดือนที่หก วินทร์ก็ขอให้ณิชาลาออกจากการเป็นผู้ช่วยของสุดโปรด โดยให้เหตุผลว่าอย่างไรก็ต้องลาคลอด อีกทั้งยังต้องเลี้ยงลูกและให้นมลูกเป็นเวลาหลายเดือน ณิชาซึ่งอยากเลี้ยงลูกด้วยตัวเองอยู่แล้วจึงยอมทำตามที่เขาบอกอย่างง่ายดายถึงแม้บริษัทจะมีสวัสดิการให้พนักงา

  • เมียแต่งที่ (ไม่) รัก   บทที่ 87

    พูดจบชายหนุ่มก็ย่อตัวอุ้มหนุ่มน้อยขึ้น หันไปบอกภรรยาว่าทางนี้เดี๋ยวเขาจัดการให้ และให้เธอไปทำธุระในส่วนของตัวเองได้เลยใช้เวลาไม่นานวินทร์กับเด็กชายพัทธดลย์ก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบพาลูกขึ้นไปนอนบนเตียงทันที เนื่องจากตอนนี้หนุ่มน้อยของเขาไม่มีพลังงานหลงเหลืออยู่แล้ว“หนูณิหลับหรือยัง”

  • เมียแต่งที่ (ไม่) รัก   บทที่ 86

    “เอาไว้น้องดลย์ค่อยเล่นอย่างอื่นแทนนะครับ ข้างในยังมีอีกเยอะแยะเลย” เธอบอกเสียงอ่อนโยนแล้วก้มลงจูบศีรษะเล็กอย่างปลอบใจ ก่อนจะชี้ชวนให้เด็กชายมองไปยังคุณพ่อกับพี่สาวที่เริ่มส่งเสียงร้องเมื่อเครื่องเล่นหวี่ยงตัวให้เกิดความรู้สึกหวาดเสียวกระทั่งหมดรอบ เจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณให้ผู้เล่นลงมาทีละแถว สองพ่อลู

  • เมียแต่งที่ (ไม่) รัก   บทที่ 85

    ตอนพิเศษ 2เพราะวันนี้เป็นวันหยุดที่สวนสนุกจึงมีผู้คนค่อนข้างหนาตา ส่วนมากจะจับจูงกันมาเป็นครอบครัวและแก๊งเพื่อน หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรผ่านประตู และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำกันเรียบร้อยแล้ว วินทร์โน้มใบหน้าลงไปไล่สายตาอ่านแผนผังของสวยสนุกแห่งนี้ในมือภรรยา ก่อนจะหันไปถามลูกสาวที่ยืนดูอยู่ด้วยกั

  • เมียแต่งที่ (ไม่) รัก   บทที่ 84

    “ก็ได้ค่ะ” ว่าจบสาวน้อยผมเปียก็หันไปมองบันไดบ้านอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมาบ่นกับมารดาเรื่องที่คุณพ่อคุยงานไม่เสร็จเสียที “คุณพ่อช้ามากเลยค่ะ ตอนแรกก็บอกแค่แป๊บเดียว ๆ แต่นานมากแล้วนะคะ หนูณิเบื่อจัง”“คุณพ่อมีงานด่วนเข้ามาค่ะ อีกเดี๋ยวคงคุยเสร็จ ใจเย็น ๆ ค่ะ ยังไงวันนี้ก็ได้ไป”“ณิ ใจเย็น” เด็กชายพัทธ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status