.
.
“ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกับพ่อ”
เจินอึ้งนิ่งค้างเมื่อชัยพูดขึ้น ในใจรู้สึกหวั่นอยู่ไม่น้อยแต่ก็คิดหาทางออกไม่ได้ ทำได้แต่ยืนนิ่ง ก่อนจะรีบคว้าแขนของผู้เป็นพ่อพร้อมกับมองด้วยสายตาร้องขอ ชัยเบือนหน้าหนีไม่กล้ามองหน้าลูกสาวของตนเพราะกลัวจะใจอ่อนอีก
“ฉันจะออกค่าใช้จ่ายที่ต้องตรวจให้ ตรวจให้ครบทุกตารางนิ้วทุกโปรแกรม”
ชุนพูดเสียงนิ่งเรียบและหนักแน่น ก่อนจะหยิบเช็กเงินสดที่เตรียมไว้ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของตนออกมา ยื่นให้ลูกน้องของตน ชัยก้มมองตัวเลขบนเช็กก่อนจะรีบเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตน
“ทำไมมันมากขนาดนี้ล่ะครับ? ผมไม่กล้ารับไว้หรอกคุณชุน แค่นี้ผมก็รู้สึก...”
“ให้ค่าเสียเวลา...และค่าเลี้ยงดูลูกของมึง กูอยากให้มึงเลี้ยงดูมันให้ดี ไม่ให้ไปทำเรื่องแบบนี้อีก”
“เจินไม่ไปนะคะคุณชุน เจินขอโทษ...อย่าไล่เจินออกไปจากบ้านนี้เลยนะคะ เจินจะไม่ทำอีกแล้ว”
เจินแทบจะคุกเข่าตรงหน้าชุน พร้อมกับขอร้อ
..เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด!!!“อ๊า อ๊า อื้อ”สะโพกพลิ้วสวนกระแทกหนักหน่วงและรุนแรงขึ้นจนเตียงโยกไปมา เสียงครางของเขาและเธอสลับกับเสียงของเตียงที่ดังเอี๊ยดอ๊าดตามด้วยเสียงกระทบของเนื้อหน้าขาและบั้นท้ายงอนงาม บทเพลงรักที่ยาวนานจนเกิดเสียงฉ่ำแฉะอยู่กึ่งกลางของทั้งสองร่างที่เชื่อมต่อกันไม่มีหลุด แม้ว่าจะโยกเข้าออกจนสุดก็ไม่อาจจะทำให้ทั้งสองร่างหลุดออกจากกันความเสียวซ่านเริ่มรุนแรงทวีคูณถาโถมเข้ามาหาคนทั้งสอง มือหนาบีบคลึงเต้าตึงไม่พัก ส่วนมืออีกข้างเอื้อมไปจับที่หัวเตียงยึดรั้งตัวไว้ก่อนจะเร่งสะโพกพลิ้วกระแทกเข้าสุดอย่างรุนแรงและถี่ยิบ ต้นหยกกำหมอนไว้แน่นเพื่อระบายความเสียวและจุกช่องท้องไปหมด“อ๊า อ๊า อ๊า...อ๊ะ อ๊ะ!!”“ฮื่มมมม...อา”สะโพกรัวซอยถี่ยิบคิ้วเข้มขมวดชนกันแน่น ยิ่งกระแทกเข้าออกยิ่งทำให้รู้สึกเสียวซ่านจนตัวเกร็ง ความหนักหน่วงของแรงกระแทกไม่ได้แผ่วลงเลย คนใต้ร่างร้องครางเหมือนใจจะขาด ก่อนที่ทั้งสองร่างจะกระดุกเกร็งปลดปล่อยความเสียวกระสันพ
..หลังจากที่ต้นหยกออกไปส่งเฮียตงและซินกลับมา เธอก็เดินมาหาชุนแล้วทำท่าหยิบกระเป๋าของตน ชุนนอนคะแคงเท้าศีรษะอย่างงงๆ ว่าต้นหยกจะไปไหน“จะไปไหนหรอคะ?”“หยกว่าจะไปหาอะไรมาให้ทานน่ะค่ะ แล้วว่าจะกลับเลย”“ได้ไง...ไม่อยู่เฝ้าหรอ?”ชุนพูดพร้อมกับหน้าน่าสงสาร ต้นหยกมองสีหน้าของเขาก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ที่ชุนเข้าใจผิด แต่ว่าเธออยากจะแกล้งคนตรงหน้าเสียหน่อย เพราะเธอเองก็โดนเขาแกล้งมาเยอะ เห็นทีจะต้องเอาคืนบ้างแล้ว“เฝ้าทำไมคะ? ก็เห็นบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่บอกหมอให้ทำแผลดูโอเว่อร์เท่านั้น พรุ่งนี้หยกต้องไปทำงานไม่มีเวลามาเยี่ยมนะคะ อาจจะมาเย็น”“สามีเป็นขนาดนี้ไม่อยู่ดูแลหน่อยหรอ...งานน่ะหยกไม่ทำก็ได้นะ เฮียเลี้ยงได้ เฮียดูแลหยกได้”“ดูแลตัวเองไปก่อนนะคะ หายดีค่อยมาดูแลหยกเนอะ”“โธ่..หยก”ชุนเอื้อมมือไปจับแขนเธอเขย่าเบาๆ พร้อมกับทำหน้าออดอ้อนน่าสงสารสุดฤทธิ์ ต้นหยกอดที่จะหัวเราะออ
..“เอ่อ...ยะ...หยก...ใจเย็นๆ ก่อน”ต้นหยกเดินเข้าไปใกล้ชุนพร้อมกับหน้าเขาด้วยสายตานิ่งเรียบ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเสียใจจนชุนถึงกับหุบยิ้มแทบจะทันที เพราะตอนแรกเธอคิดมากมายว่าจะดูแลยังไงต้องศึกษาอะไรบ้างเพื่อให้เขากลับมาเดิน เธอวางแผนทุกอย่างไว้ในหัว แต่กลับมารู้ความจริงแบบนี้ ชุนจะเอื้อมมือไปจับมือเล็กแต่ต้นหยกกลับหันหลังแล้วเดินไปในทันที“ต้นหยก! โอ๊ยยย!!!”“คนไข้! อย่าพึ่งลุกสิครับ”ชุนรีบลุกขึ้นอย่างลืมตัวก่อนจะทรุดตัวลงนั่งพร้อมร้องลั่น มือเอื้อมไปจับที่ข้างลำตัว เพราะมันตรึงแผลที่อยู่ด้านหลัง ต้นหยกตอนแรกที่ไม่คิดจะหันกลับพลางคิดว่าเขาคงลองใจเธออีก แต่พอได้ยินเสียงบุรุษพยาบาลเธอก็รีบหันกลับไปมองแล้ววิ่งเข้าไปหาชุนทันที ต้นหยกพยุงเขาลุกขึ้นจากพื้นโดยมีบุรุษพยาบาลช่วยอีกแรงเพี๊ยะ!!“โอ๊ย! หยกตีเฮียทำไมเนี่ย”“อยากดื้อทำไมล่ะคะ คนบ้านี่! ลองใจอะไรก็ไม่รู้...คนเขาเป็นห่วงนะ&rdquo
..ต้นหยกและชุนเดินออกมาจากลิฟท์ของบริษัทก่อนจะเดินไปยังลานจอดรถโดยที่ชุนไม่แม้แต่จะยอมปล่อยมือที่จับมือต้นหยกไว้เลย ต้นหยกเองก็เขินไม่น้อย คำพูดที่เขาบอกรักยังคงก้องอยู่ในหัวเด่นชัด ใครจะไม่ใจอ่อนไหว การกระทำตลอดเกือบหนึ่งเดือนเต็มที่เขาตามตื้อตามง้อและทำหลายๆ เพื่อเธอโดยไม่บ่นสักคำ แต่...มันจะดีแค่ช่วงแรกรักหรือเปล่านะ ต้นหยกเองก็แอบกังวลเช่นกัน คงต้องดูกันไปอีกยาว นั่นหมายความว่าเธอจะลองให้โอกาสเขาอีกสักครั้งนั่นเอง“ไปหาอะไรกินกันไหมคะ? เพราะเมื่อกี้กินบะหมี่ไปนิดเดียวเองไม่ใช่หรอ?”“ก็เพราะใครล่ะคะ”“เฮียก็หิวเหมือนกันนะคะ”“ไม่เหมือนกันสักหน่อย”ต้นหยกหันไปทำหน้าดุแต่ใบหน้าของเธอกลับแดงเรื่อด้วยความเขิน นึกว่าตัวเองจะตายเสียแล้ว นี่สินะที่เขาบอกว่าอย่าปล่อยให้สามีหิวมากๆ ชุนมองต้นหยกแล้วหัวเราะออกมา อย่างน้อยเธอก็ยอมใจอ่อนแล้วทั้งสองเดินไปพลางหยอกล้อกันโดยไม่ได้สนใจรอบๆ ตัวเลย เหมือนโลกทั้งใบมีแต่พวกเขาจนลืมสังเกตหญิงสาวที่เดินตามหลังพวกเขามาติด
..“เส้นฟาง...เธอมาทำอะไรที่นี่?”“ฟางคิดถึงพี่ชุนมากๆ เลยค่ะ”เส้นฟางเดินเข้าไปกอดชุนแน่น ชุนตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของเธอ เพราะตั้งแต่เธอออกจากบ้านไป เส้นฟางไม่เคยติดต่อกลับมาหาเขาเลยสักครั้ง แล้วอยู่ๆ เธอก็โผล่มา คงไม่ใช่เพราะคิดถึงจริงๆ หรอก แต่คงจะเป็นเพราะเงินที่เขาให้ไปก่อนออกจากบ้านหมดแล้วเป็นแน่“คุณเส้นฟาง ปล่อยผม”“ทำไมถึงพูดห่างเหินแบบนั้นล่ะคะ พี่ชุนไม่รักฟางแล้วจริงๆ หรอคะ?”ชุนพูดพร้อมกับพยายามดันตัวของเส้นฟางออกด้วยมือข้างที่เหลืออยู่ แต่เส้นฟางกอดเขาแน่นไม่ยอมเป็นปล่อย จนเขาต้องออกแรงผลักเธออย่างแรงจนเซล้มไปกับพื้น เส้นฟางหันไปมองหน้าชุนพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลอ ชุนเห็นอย่างนั้นก็ทำท่าว่าจะเข้าไปช่วยแต่ก็ชะงัก ถ้าเขาใจดีเธอคงไม่คิดจะยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่ ชุนจึงตัดสินใจเลือกที่จะเดินผ่านเธอไปอย่างเงียบๆ“พี่ชุน!! ทำไมถึงได้ใจร้ายกับฟางแบบนี้!!”ชุนหยุดชะงักครู่หนึ่งแต่ไม่หันกลั
..หลังจากที่ทานอาหารกันเรียบร้อย ทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปอาบน้ำและเข้าห้องนอนของตัวเอง ชุนเอนตัวลงนอนบนโซฟาหลังจากอาบน้ำเสร็จ และแน่นอนว่าโซฟามันไม่ได้นอนสบายอย่างที่คิดเลย แต่เขาก็ต้องอดทนให้ได้ และคิดว่าเดี๋ยวก็คงจะชินไปเอง ไฟในบ้านถูกปิดจนมิดสนิท ชุนนอนเอาแขนก่ายหน้าผากพลางคิดวิธีง้อต้นหยก ก่อนที่เขาจะหลับตาลงเพื่อพักสายตาเสียหน่อยผ่านไปได้พักหนึ่ง เสียงฝีเท้าที่แผ่วเบาก็ดังขึ้นและเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ชุนที่หลับตาอยู่นิ่งไม่ขยับรอฟังเสียงฝีเท้านั้นอย่างเงียบๆ ไม่นานเสียงนั้นก็หยุดลงข้างๆ ที่เขานอน ก่อนจะรู้สึกถึงบางอย่างที่สัมผัสร่างกาย ผ้าห่มที่เขาร่นไว้ตรงขาได้เลื่อนขึ้นมาบนตัวเขาจนถึงอก ชุนยกยิ้มก่อนจะคว้าข้อมือเล็กที่จับผ้าห่มอยู่นั้นกระชากลงมาเข้าหาตน“อ๊ะ!!! เฮียชุน!! ยังไม่หลับทำไมต้องแกล้งหลับด้วย”“ถ้าไม่แกล้งหลับจะรู้หรอว่ามีคนจะลักหลับเฮีย”“บ้า! ปล่อยนะคะ!”ชุนยังคงกอดต้นหยกที่เซล้มลงมาบนตัวเขาไว้แน่น ถึงแม้จะมืดแต่เขาจำกลิ่นตัวของเธอได้ดี ต้นหยกดิ้นขลุกขลักอยู