Share

ไม่อยากคุย

last update Last Updated: 2024-12-06 22:00:14

.

.

หลังจากที่ทานอาหารกันเรียบร้อย ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับ มีเพียงชุนและเฮียตงกับภรรยาที่ยังคงนั่งอยู่ตามคำสั่งของเตี่ยว่าให้อยู่คุยกับต้นหยกก่อนดึกๆ ค่อยกลับ ส่วนป๊ากับม๊าของต้นหยกก็ขอตัวขึ้นห้องก่อน ปล่อยให้ทั้งสี่คนนั่งคุยกันอยู่ที่ห้องรับแขกเหมือนจงใจ ชุนนั่งไขว่ห้างพิงพนักโซฟาเล่นโทรศัพท์โดยไม่สนใจหญิงสาวที่นั่งข้างๆ เขาเลยแม้แต่น้อย

“เฮ้ย! ชุน! ไม่คุยกับน้องหน่อยหรอวะ? ไม่เจอกันมาตั้งนาน”

“ก็แค่ไม่ได้เจอ ไม่ได้ป่วยใกล้ตายสักหน่อย จะรีบคุยทำไม”

“ไอ้นี่ ปากแกนี่ไม่น่าหาเมียได้นะชาตินี้”

“หึ...ทำไมจะหาไม่ได้ ก็มีคนแถวนี้ ยอมถวายตัวแลกกับสมบัติของตระกูลเราอยู่นี่ไง ตราบใดที่มีเงินหาไม่ยากหรอกเมีย”

ป้าบ!!

เฮียตงอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นไปตบศีรษะน้องชายตัวดีที่พูดจาไม่ให้เกียรติหญิงสาวที่นั่งข้างๆ เอาเสียเลย ต้นหยกที่ตอนแรกดีที่จะได้คุยกันก็นั่งเงียบ เธอพึ่งรู้ว่าความคิดของชุนที่มีต่อเธอเป็นแบบไหน เขาไม่เคยรู้เลยว่าที่เธอยอมเพราะอะไร แม้เธอจะตั้งใจว่าต่อให้ชุนไม่เหลืออะไรเธอก็จะอยู่กับเขาไม่ทิ้งเขาไปไหนแน่นอนก็ตาม

“โอ้ย! เจ็บนะเฮีย โห...ฟาดมาซะเต็มแรง”

“เจ็บสิดี จะได้มีสติ”

“ชุนก็พูดแรงไปนะพี่ว่า”

“นี่พี่ซินก็เข้าข้างเฮียหรอเนี่ย”

ซินยิ้มบางๆ แต่สายตาดุจ้องมองน้องชายพร้อมกับส่ายหัว ก่อนที่เฮียตงจะกลับไปนั่งที่เดิมแล้วหันไปทางต้นหยกที่นั่งเงียบอยู่นานอย่างเป็นห่วง

“อย่าถือสาหมาในปากมันเลยนะหยก”

“นั่นสิ อาชุนโตมาก็นิสัยเปลี่ยนนิดหน่อยน่ะ”

เฮียตงและซินพยายามพูดปลอบใจน้องสาว ต้นหยกยิ้มเจื่อนๆ แล้วพยักหน้าแค่นั้นก่อนจะลอบมองชุนที่นั่งนิ่งเงียบไม่มีคำขอโทษใดๆ และไม่สนใจความรู้สึกของเธอว่าเสียใจแค่ไหนกับคำพูดไม่แยแสของเขา

“พูดกับน้องหน่อยสิอาชุน”

“จะให้พูดอะไร? แล้วทำไมเธอไม่พูดล่ะ อยู่ๆ เกิดเป็นใบ้ขึ้นมาหรือไง”

“เอ่อ...เฮียชุน...”

“อะไร”

ซินที่บอกให้ชุนพูดคุยกับต้นหยก แต่เขาก็ไม่วายปากเสียใส่พร้อมกับปรายตาคมมองเธออย่างไม่พอใจนัก และไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยถามอะไรเขาก็ตอบรับเสียงเข้มใส่เสียอย่างนั้น เธอจึงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถามต่อ

“เฮียชุนเป็นยังไงบ้าง ไม่เจอกันนานเลย....”

“ก็ยังเห็นอยู่นี่ ยังไม่ตาย”

“เอ๊ะ!...ไอ้น้องเวร”

“ก็มันเป็นคำถามที่ไม่น่าถาม”

“แล้วมึงจะให้น้องถามอะไร น้องแค่อยากรู้ว่าที่ผ่านมามึงเป็นยังไงบ้าง”

“ก็ตอบไปแล้วไง”

เฮียตงถึงกับส่ายหน้ากับความดื้อดึงของผู้เป็นน้อง ซินถึงกับถอนหายใจพลางคิดว่าการแต่งงานครั้งนี้ต้นหยกจะต้องเจออะไรบ้าง เพราะดูท่าทางของชุนแล้วไม่น่าจะยอมรับง่ายๆ แน่ ขนาดเจอกันตรงๆ เขายังไม่คิดจะหวั่นไหวเสียบ้างเลย ต้นหยกก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรทั้งรูปร่างหน้าตากิริยามารยาท แต่ชุนกลับมองข้ามไปซะอย่างนั้น ไม่รู้ว่าหลงอะไรเส้นฟางหนักหนา

“สรุปจะคุยกับน้องไหม?”

“ไม่รู้จะคุยอะไร ไม่มีเรื่องคุย”

“ดี งั้นก็นั่งเงียบๆ มันอย่างนี้แหละ ไม่ดึกไม่กลับ ถึงกลับไปเตี่ยได้โมโหโวยวายแน่ๆ”

“ผมไม่อยู่นั่งโง่ๆ แบบนี้หรอกนะ มีที่ต้องไป”

“อย่าบอกนะ....”

“ใช่”

“ไอ้ชุนเอ๊ย...มึงจะแต่งงานแล้วนะ ห่างได้ห่าง...”

“ไม่...ผมไม่ได้เต็มใจแต่งงาน”

“ไอ้ชุน!! ทำไมพูดออกมาต่อหน้าต้นหยกแบบนั้นวะ”

“เฮียตงใจเย็นๆ ก่อน”

เรื่องมันเริ่มรุนแรงขึ้นจนซินถึงกับต้องร้องห้ามเมื่อเฮียตงลุกขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น เพราะครั้งนี้ชุนหักหน้าต้นหยกเกินไป เฮียตงคิดว่าอย่างน้อยน่าจะเห็นแก่ที่เคยวิ่งเล่นด้วยกันตั้งแต่เด็ก รักษาน้ำใจหน่อยก็ดี เพราะยังไงก็ต้องแต่งงานอยู่แล้ว

“ไม่เป็นไรค่ะเฮียตง หยกไม่ถือ...คิดซะว่าเฮียชุนระบายความในใจ หยกก็จะได้รู้ด้วยว่าเฮียชุนคิดยังไง”

“โธ่...หยก”

“หึ...เพราะเธอนั่นแหละที่ทำให้พี่น้องทะเลาะกัน ไม่ต้องมาทำเป็นนางเอกใสซื่อ”

“เพราะตัวแกเองนั่นแหละไอ้ชุน ไม่ต้องไปโทษน้องมันเลย”

“ผมขี้เกียจเถียงเฮียแล้ว แค่ถามก็ไปได้ใช่ไหม? ได้!”

ชุนหันทั้งตัวไปทางต้นหยกและจ้องมองเธอเขม็งพร้อมกับยื่นใบหน้าหล่อๆ นั้นเข้าไปใกล้ๆ ต้นหยกถอยออกเล็กน้อย เพราะความใกล้เกินไปทำให้แก้มเนียนขึ้นสีแดงเรื่อด้วยความเขิน ยังไงคนตรงหน้าก็เป็นคนที่เธอรักมาตลอดไม่เปลี่ยน

“งั้นตอบมา...ทำไมเธอถึงตกลงแต่งงานกับฉัน เธอต้องการอะไร สมบัติ หรือเงินช่วยครอบครัว เท่าไหร่ว่ามาฉันจะจ่ายให้”

“เอ่อ...ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ..”

สีหน้าของต้นหยกที่เคอะเขินตอนแรกเปลี่ยนไปเป็นอึดอัดกับคำถามของชุน และเขาก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ โดยไม่สนสายตาของเฮียตงและซินเลย เฮียตงเห็นอย่างนั้นจึงลุกขึ้นพร้อมซินและเดินเข้าไปแยกชุนออกมาทันที

“ป่ะ กลับ...กูว่าไม่เวิร์คล่ะ กลับๆ”

“ผมยังไม่ได้คำตอบ”

“ไม่ต้องอยากได้คำตอบ มึงไม่อยากคุยอยู่แล้วไม่ใช่? ไป..กลับ”

ไม่ทันที่จะได้ฟังคำตอบเฮียตงก็ทั้งลากทั้งดึงน้องชายของตนกลับ แต่ชุนก็ยังไม่วายจ้องมองเธอทั้งที่ยังโดนลากออกจากบ้านอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อทั้งสามคนเดินออกไปจนลับตา หญิงสาวที่นั่งอยู่ถึงกับถอนหายใจอย่างนึกโล่งอก อะไรที่ทำให้เขาคิดแบบนั้นกันนะ มีอะไรที่เธอยังไม่รู้เกี่ยวกับครอบครัวหรือเปล่า ต้นหยกได้แต่คิดแล้วสงสัยอยู่อย่างนั้น

เช้าวันต่อมา

ก๊อกๆ

“ค่ะ ห้องไม่ได้ล็อกค่ะ”

เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ผู้เป็นแม่จะเดินเข้าห้องมาด้วยรอยยิ้มหวาน ต้นหยกหันไปมองแม่ของตนก่อนจะหันไปแต่งตัวต่อเหมือนปกติในชุดทำงานเรียบง่ายเหมือนเช่นทุกวัน ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะเข้ามาช่วยม้วนมวยผมและมัดให้

“วันนี้ไปลองชุดแต่งงานนะลูก”

“ฮะ? วันนี้เลยหรอคะ?”

“ใช่จ้ะ อาเพ่ยม๊าของอาชุนโทรบอกที่ร้านลองชุดไว้แล้ว”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวม๊าส่งที่อยู่ร้านมาให้หยกด้วยนะคะ”

“ไม่ต้องลำบากหรอกลูก เดี๋ยวอาชุนมารับ”

“...เขาจะยอมมาหรอคะม๊า”

“มาสิ อาชุนโทรมาบอกม๊าแล้ว”

“อ๋อ...ค่ะ”

ต้นหยกแปลกใจไม่น้อยที่ได้ยินว่าเขาโทรมาหาผู้เป็นแม่ของตนแล้วบอกว่าจะมารับไปลองชุดแต่งงานด้วยกัน ทั้งที่เมื่อคืนเขายังมีท่าทีเหมือนจะล้มงานแต่งอยู่เลย ต้นหยกเก็บความสงสัยไว้ในใจก่อนจะเก็บของเตรียมกระเป๋าและพาแม่ลงไปรอข้างล่างโดยไม่ได้พูดอะไรหรือบอกแม่ของตนเรื่องเหตุการณ์เมื่อคืน

เหตุการณ์ก่อนหน้า

ชายหนุ่มในชุดสูทราคาแพงดูดีมีระดับขับรถบีเอ็มคันหรู มือข้างหนึ่งควงพวงมาลัยอีกข้างจับกล่องของขวัญขึ้นมามองก่อนจะยกยิ้มเมื่อนึกถึงเจ้าของกล่องของขวัญนี้ที่เขาตั้งใจจะซื้อไปมอบให้ พร้อมกับเหยียบคันเร่งมิดไมล์เพื่อจะได้เจอแฟนสาวให้ไวที่สุด

ครืดดดดด...

ชุนปรายตามองหน้าจอโทรศัพท์เล็กน้อยก่อนจะกดรับสายผ่านหน้าจอรถพร้อมกับน้ำเสียงที่ดูอารมณ์ดี ไม่ว่าใครจะโทรมาตอนนี้เขาอารมณ์ดีด้วยหมด

“ครับเตี่ย”

(ไอ้ลูกเวร แกอยู่ไหน?)

“ขับรถอยู่ เตี่ยมีอะไรหรือเปล่า”

(เออดี! ขับตรงไปบ้านเจริญกุลเลยนะ พาอาหยกไปลองชุดแต่งงาน)

เอี๊ยดดด!!

คำพูดของผู้เป็นพ่อทำเอาเขาเหยียบเบรกแทบจะทันทีทันใด จากอารมณ์ดีตอนนี้สีหน้าไปเหมือนกิ้งก่า คิ้วเข้มขมวดชนกันแน่นเป็นปม ประโยคคำสั่งเมื่อครู่ทำเอาเขาหัวเสีย

“อะไรนะ?! ตอนนี้เนี่ยนะ รีบไปไหนอีกตั้งเดือนหน้า”

(เดือนหน้าก็จริง แต่เป็นต้นเดือน)

“ฮะ?! ทำไมต้องไปรับ ไม่ได้เป็นง้อยก็ขับรถไปเองสิ”

(นี่คือคำสั่ง! ม๊าแกโทรนัดไว้แล้ว ถ้าไม่ไปเดี๋ยวนี้หรือแกเล่นลิ้น ก็อย่าหวังจะได้มรดกสักแดงเดียว ฉันจะยึดบัตรแกให้หมด ยึดคอนโด ยึดธุรกิจที่แกสร้างมา ยึด! ยึด! ยึด!)

ปลายสายพูดจบก็วางสายทันทีโดยที่ชุนไม่ได้อ้าปากโต้ตอบใดๆ คำว่ายึดธุรกิจของเขายังก้องอยู่ในหู ที่เขากลัวที่สุดคือสิ่งนี้ เพราะเตี่ยสามารถดิสเครดิตของเขาได้ เท่ากับเขาจะทำธุรกิจอะไรก็ไม่ได้ นอกจากจะไปเป็นพ่อค้าขายข้าวแกงตามข้างทาง ชุนตบพวงมาลัยอย่างหัวเสีย ไม่เข้าใจว่าทำไมเตี่ยถึงได้ใจร้ายกับเขาขนาดนั้น

รถบีเอ็มคันหรูวนรถกลับอย่างรวดเร็วพร้อมกับเหยียบคันเร่งมิดไมล์ด้วยอารมณ์หงุดหงิด เส้นทางที่จะไปเปลี่ยนไปทันที ชุนยกโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาพร้อมกับกดโทรหารายชื่อที่คุ้นเคยทันที

“เส้นฟาง พี่ไม่ได้ไปหาแล้วนะคะ พอดีมีธุระด่วน”

.

.

.

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียใน(ใบ)สมรส   ตลอดไปมีจริง [END]

    ..เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด!!!“อ๊า อ๊า อื้อ”สะโพกพลิ้วสวนกระแทกหนักหน่วงและรุนแรงขึ้นจนเตียงโยกไปมา เสียงครางของเขาและเธอสลับกับเสียงของเตียงที่ดังเอี๊ยดอ๊าดตามด้วยเสียงกระทบของเนื้อหน้าขาและบั้นท้ายงอนงาม บทเพลงรักที่ยาวนานจนเกิดเสียงฉ่ำแฉะอยู่กึ่งกลางของทั้งสองร่างที่เชื่อมต่อกันไม่มีหลุด แม้ว่าจะโยกเข้าออกจนสุดก็ไม่อาจจะทำให้ทั้งสองร่างหลุดออกจากกันความเสียวซ่านเริ่มรุนแรงทวีคูณถาโถมเข้ามาหาคนทั้งสอง มือหนาบีบคลึงเต้าตึงไม่พัก ส่วนมืออีกข้างเอื้อมไปจับที่หัวเตียงยึดรั้งตัวไว้ก่อนจะเร่งสะโพกพลิ้วกระแทกเข้าสุดอย่างรุนแรงและถี่ยิบ ต้นหยกกำหมอนไว้แน่นเพื่อระบายความเสียวและจุกช่องท้องไปหมด“อ๊า อ๊า อ๊า...อ๊ะ อ๊ะ!!”“ฮื่มมมม...อา”สะโพกรัวซอยถี่ยิบคิ้วเข้มขมวดชนกันแน่น ยิ่งกระแทกเข้าออกยิ่งทำให้รู้สึกเสียวซ่านจนตัวเกร็ง ความหนักหน่วงของแรงกระแทกไม่ได้แผ่วลงเลย คนใต้ร่างร้องครางเหมือนใจจะขาด ก่อนที่ทั้งสองร่างจะกระดุกเกร็งปลดปล่อยความเสียวกระสันพ

  • เมียใน(ใบ)สมรส   เจ็บแค่นี้เอง

    ..หลังจากที่ต้นหยกออกไปส่งเฮียตงและซินกลับมา เธอก็เดินมาหาชุนแล้วทำท่าหยิบกระเป๋าของตน ชุนนอนคะแคงเท้าศีรษะอย่างงงๆ ว่าต้นหยกจะไปไหน“จะไปไหนหรอคะ?”“หยกว่าจะไปหาอะไรมาให้ทานน่ะค่ะ แล้วว่าจะกลับเลย”“ได้ไง...ไม่อยู่เฝ้าหรอ?”ชุนพูดพร้อมกับหน้าน่าสงสาร ต้นหยกมองสีหน้าของเขาก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ที่ชุนเข้าใจผิด แต่ว่าเธออยากจะแกล้งคนตรงหน้าเสียหน่อย เพราะเธอเองก็โดนเขาแกล้งมาเยอะ เห็นทีจะต้องเอาคืนบ้างแล้ว“เฝ้าทำไมคะ? ก็เห็นบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่บอกหมอให้ทำแผลดูโอเว่อร์เท่านั้น พรุ่งนี้หยกต้องไปทำงานไม่มีเวลามาเยี่ยมนะคะ อาจจะมาเย็น”“สามีเป็นขนาดนี้ไม่อยู่ดูแลหน่อยหรอ...งานน่ะหยกไม่ทำก็ได้นะ เฮียเลี้ยงได้ เฮียดูแลหยกได้”“ดูแลตัวเองไปก่อนนะคะ หายดีค่อยมาดูแลหยกเนอะ”“โธ่..หยก”ชุนเอื้อมมือไปจับแขนเธอเขย่าเบาๆ พร้อมกับทำหน้าออดอ้อนน่าสงสารสุดฤทธิ์ ต้นหยกอดที่จะหัวเราะออ

  • เมียใน(ใบ)สมรส   ไม่ได้โกรธ

    ..“เอ่อ...ยะ...หยก...ใจเย็นๆ ก่อน”ต้นหยกเดินเข้าไปใกล้ชุนพร้อมกับหน้าเขาด้วยสายตานิ่งเรียบ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเสียใจจนชุนถึงกับหุบยิ้มแทบจะทันที เพราะตอนแรกเธอคิดมากมายว่าจะดูแลยังไงต้องศึกษาอะไรบ้างเพื่อให้เขากลับมาเดิน เธอวางแผนทุกอย่างไว้ในหัว แต่กลับมารู้ความจริงแบบนี้ ชุนจะเอื้อมมือไปจับมือเล็กแต่ต้นหยกกลับหันหลังแล้วเดินไปในทันที“ต้นหยก! โอ๊ยยย!!!”“คนไข้! อย่าพึ่งลุกสิครับ”ชุนรีบลุกขึ้นอย่างลืมตัวก่อนจะทรุดตัวลงนั่งพร้อมร้องลั่น มือเอื้อมไปจับที่ข้างลำตัว เพราะมันตรึงแผลที่อยู่ด้านหลัง ต้นหยกตอนแรกที่ไม่คิดจะหันกลับพลางคิดว่าเขาคงลองใจเธออีก แต่พอได้ยินเสียงบุรุษพยาบาลเธอก็รีบหันกลับไปมองแล้ววิ่งเข้าไปหาชุนทันที ต้นหยกพยุงเขาลุกขึ้นจากพื้นโดยมีบุรุษพยาบาลช่วยอีกแรงเพี๊ยะ!!“โอ๊ย! หยกตีเฮียทำไมเนี่ย”“อยากดื้อทำไมล่ะคะ คนบ้านี่! ลองใจอะไรก็ไม่รู้...คนเขาเป็นห่วงนะ&rdquo

  • เมียใน(ใบ)สมรส   อันตราย

    ..ต้นหยกและชุนเดินออกมาจากลิฟท์ของบริษัทก่อนจะเดินไปยังลานจอดรถโดยที่ชุนไม่แม้แต่จะยอมปล่อยมือที่จับมือต้นหยกไว้เลย ต้นหยกเองก็เขินไม่น้อย คำพูดที่เขาบอกรักยังคงก้องอยู่ในหัวเด่นชัด ใครจะไม่ใจอ่อนไหว การกระทำตลอดเกือบหนึ่งเดือนเต็มที่เขาตามตื้อตามง้อและทำหลายๆ เพื่อเธอโดยไม่บ่นสักคำ แต่...มันจะดีแค่ช่วงแรกรักหรือเปล่านะ ต้นหยกเองก็แอบกังวลเช่นกัน คงต้องดูกันไปอีกยาว นั่นหมายความว่าเธอจะลองให้โอกาสเขาอีกสักครั้งนั่นเอง“ไปหาอะไรกินกันไหมคะ? เพราะเมื่อกี้กินบะหมี่ไปนิดเดียวเองไม่ใช่หรอ?”“ก็เพราะใครล่ะคะ”“เฮียก็หิวเหมือนกันนะคะ”“ไม่เหมือนกันสักหน่อย”ต้นหยกหันไปทำหน้าดุแต่ใบหน้าของเธอกลับแดงเรื่อด้วยความเขิน นึกว่าตัวเองจะตายเสียแล้ว นี่สินะที่เขาบอกว่าอย่าปล่อยให้สามีหิวมากๆ ชุนมองต้นหยกแล้วหัวเราะออกมา อย่างน้อยเธอก็ยอมใจอ่อนแล้วทั้งสองเดินไปพลางหยอกล้อกันโดยไม่ได้สนใจรอบๆ ตัวเลย เหมือนโลกทั้งใบมีแต่พวกเขาจนลืมสังเกตหญิงสาวที่เดินตามหลังพวกเขามาติด

  • เมียใน(ใบ)สมรส   ห้องทำงานของต้นหยก

    ..“เส้นฟาง...เธอมาทำอะไรที่นี่?”“ฟางคิดถึงพี่ชุนมากๆ เลยค่ะ”เส้นฟางเดินเข้าไปกอดชุนแน่น ชุนตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของเธอ เพราะตั้งแต่เธอออกจากบ้านไป เส้นฟางไม่เคยติดต่อกลับมาหาเขาเลยสักครั้ง แล้วอยู่ๆ เธอก็โผล่มา คงไม่ใช่เพราะคิดถึงจริงๆ หรอก แต่คงจะเป็นเพราะเงินที่เขาให้ไปก่อนออกจากบ้านหมดแล้วเป็นแน่“คุณเส้นฟาง ปล่อยผม”“ทำไมถึงพูดห่างเหินแบบนั้นล่ะคะ พี่ชุนไม่รักฟางแล้วจริงๆ หรอคะ?”ชุนพูดพร้อมกับพยายามดันตัวของเส้นฟางออกด้วยมือข้างที่เหลืออยู่ แต่เส้นฟางกอดเขาแน่นไม่ยอมเป็นปล่อย จนเขาต้องออกแรงผลักเธออย่างแรงจนเซล้มไปกับพื้น เส้นฟางหันไปมองหน้าชุนพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลอ ชุนเห็นอย่างนั้นก็ทำท่าว่าจะเข้าไปช่วยแต่ก็ชะงัก ถ้าเขาใจดีเธอคงไม่คิดจะยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่ ชุนจึงตัดสินใจเลือกที่จะเดินผ่านเธอไปอย่างเงียบๆ“พี่ชุน!! ทำไมถึงได้ใจร้ายกับฟางแบบนี้!!”ชุนหยุดชะงักครู่หนึ่งแต่ไม่หันกลั

  • เมียใน(ใบ)สมรส   สารภาพ

    ..หลังจากที่ทานอาหารกันเรียบร้อย ทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปอาบน้ำและเข้าห้องนอนของตัวเอง ชุนเอนตัวลงนอนบนโซฟาหลังจากอาบน้ำเสร็จ และแน่นอนว่าโซฟามันไม่ได้นอนสบายอย่างที่คิดเลย แต่เขาก็ต้องอดทนให้ได้ และคิดว่าเดี๋ยวก็คงจะชินไปเอง ไฟในบ้านถูกปิดจนมิดสนิท ชุนนอนเอาแขนก่ายหน้าผากพลางคิดวิธีง้อต้นหยก ก่อนที่เขาจะหลับตาลงเพื่อพักสายตาเสียหน่อยผ่านไปได้พักหนึ่ง เสียงฝีเท้าที่แผ่วเบาก็ดังขึ้นและเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ชุนที่หลับตาอยู่นิ่งไม่ขยับรอฟังเสียงฝีเท้านั้นอย่างเงียบๆ ไม่นานเสียงนั้นก็หยุดลงข้างๆ ที่เขานอน ก่อนจะรู้สึกถึงบางอย่างที่สัมผัสร่างกาย ผ้าห่มที่เขาร่นไว้ตรงขาได้เลื่อนขึ้นมาบนตัวเขาจนถึงอก ชุนยกยิ้มก่อนจะคว้าข้อมือเล็กที่จับผ้าห่มอยู่นั้นกระชากลงมาเข้าหาตน“อ๊ะ!!! เฮียชุน!! ยังไม่หลับทำไมต้องแกล้งหลับด้วย”“ถ้าไม่แกล้งหลับจะรู้หรอว่ามีคนจะลักหลับเฮีย”“บ้า! ปล่อยนะคะ!”ชุนยังคงกอดต้นหยกที่เซล้มลงมาบนตัวเขาไว้แน่น ถึงแม้จะมืดแต่เขาจำกลิ่นตัวของเธอได้ดี ต้นหยกดิ้นขลุกขลักอยู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status