เจ้าสมุทร....
"ถ้าแกรู้ความจริงทุกอย่างแกจะไม่พูดแบบนี้ แต่เอาเถอะพูดไปแกก็คงจะไม่เชื่อพ่อ แต่ครั้งนี้พ่ออยากขอร้องลูก เจ้าสมุทรในชีวิตของพ่อพ่อไม่เคยขออะไรแกเลย พ่อขอแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวจะได้ไหม"
"ได้ดิ"
"จริงเหรอลูก พ่อขอบใจมาก" พ่อแสดงสีหน้าดีใจขึ้นมาทันที่ผมพูดว่าได้แต่...
"แต่ผมมีข้อแม้"
"ข้อแม้อะไรบอกพ่อมาได้เลยลูกพ่อยอมทำทุกอย่าง" ผมรู้สึกเจ็บปวดกับอาการดีใจของพ่อ พ่อที่เคยบอกกับผมว่าพ่อรักผมรักแม่มากที่สุดในโลก
งานวันเกิดอายุครบเจ็ดขวบ
"พ่อค๊าบบบ"
"ว่าไงครับลูก"
"พ่อรักผมกับแม่มั้ย"
"รักสิครับรักที่สุดในโลกเลย รักมากๆๆ"
"ผมก็รักพ่อกับแม่มากที่สุดเลย วันเกิดปีนี้ผมไม่ขออะไรมากผมขอให้พ่อกับแม่อยู่กับผมรักผมไปนานๆนะครับ"
"พ่อสัญญาลูก"
"แม่ล่ะครับรักผมกับพ่อมั้ยครับ"
"แม่..แม่ก็รักลูกครับ" ผมจำรอยยิ้มของแม่ได้เป็นอย่างดีแม้รอยยิ้มของแม่จะดูเศร้าแต่ก็ยังสวยงามในความรู้สึกของผม ผมแทบจะนับครั้งได้ว่าเคยเห็นแม่ยิ้มกี่ครั้งเพราะแม่ไม่เคยยิ้มเลยตั้งแต่ผมจำความได้
"ผมดีใจนะครับที่เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับแม่ จุ๊บ จุ๊บ"
ผมหันไปหอมแก้มพ่อกับแม่คนละทีก่อนจะเป่าเค้กวันเกิดของตัวเองซึ่งตอนนั้นผมอายุครบเจ็ดขวบพอดีซึ่งมันก็เป็นปีสุดท้ายที่ผมได้เป่าเค้กวันเกิดพร้อมหน้าพ่อกับแม่ก่อนที่แม่จะจากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ
"ผมจะยอมให้พ่อแต่งงานใหม่ก็ได้แต่....พ่อต้องห้ามจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนนั้น พ่อทำให้ผมได้ไหมถ้าทำได้ผมก็จะยอมให้พ่อแต่ง แต่ถ้าไม่ได้...ผมก็จะกลับไปอยู่กับปู่กับย่าที่อเมริกาแล้วก็จะไม่กลับมาที่นี่อีกตลอดชีวิต"
"............"
"ตลอดระยะเวลาสิบห้าปีที่ผ่านมาผมไม่เคยขอร้องอะไรพ่อเลยผมหวังว่าคำขอร้องจากลูกชายคนเดียวของพ่อพ่อจะทำให้ผมได้นะ"
"ตาเจ้า"
"พ่ออย่าลืมว่าใบหย่าฉบับนั้นแม่ยังไม่ได้เซ็นชื่อลงไปเพราะฉะนั้นผมจะถือว่าแม่ของผมยังได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของพ่ออยู่ถึงแม้ในทางกฎหมายจะถือว่าการสมรสของพ่อกับแม่เป็นโมฆะเพราะแม่ตายไปหลายปีแล้วแต่ในความคิดของผมแม่กับพ่อยังเป็นคู่สามีภรรยากันอยู่ เพราะฉะนั้นถ้าพ่อรักผมอย่างที่พ่อเคยพูดถ้าพ่อยังต้องการให้ผมอยู่ที่นี่พ่อก็ต้องห้ามจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนนั้น ผมขอแค่นี้แล่ะ"
"พ่อ..."
"พ่อทำให้ผมได้ไหมถ้าทำได้ผมก็จะยอมให้พ่อพาผู้หญิงคนนั้นเข้ามาอยู่ในบ้าน เพราะถ้าเธอรักพ่อจริงๆไม่ใช่รักทรัพย์สมบัติเงินทองของพ่อเธอก็ต้องยอมที่จะแต่งงานกับพ่อโดยไม่จดทะเบียน"
"ก็ได้ลูกถ้ามันเป็นความต้องการของลูก แต่พ่อเชื่อว่าความดีของพิไลจะทำให้ลูกรักเธอเหมือนที่ลูกรักแม่ของลูก"
"ไม่มีทาง ไม่มีใครมาแทนที่แม่ของผมได้ทั้งนั้น ต่อให้เมียใหม่พ่อจะแสนดีเป็นนางฟ้ามาเกิดผมก็ไม่มีวันยอมรับจำเอาไว้นะครับ"
ผมพยายามควบคุมสติอารมณ์เพราะไม่อยากทะเลาะกับพ่อ ผมเพิ่งรู้ว่าพ่อไม่ค่อยสบายเป็นทั้งความดันเบาหวานโรคหัวใจเพราะแบบนี้ผมถึงยอมให้พ่อแต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนนั้นที่พ่อบอกว่าเธอเป็นคนดีซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่าดีจริงหรือเปล่าแต่ในเมื่อพ่อบอกว่าดีผมก็ไม่อยากจะขัดพ่ออาจจะเหงาจริงอย่างที่พูดเพราะแม่ก็จากไปนานถึงสิบห้าปีแล้ว ส่วนเรื่องที่พ่อเป็นสาเหตุทำให้แม่ตายผมก็ไม่เคยลืมหรอกนะแต่ผมไม่อยากเจ้าคิดเจ้าแค้นเพราะไหนๆแม่ก็ตายไปแล้ว แล้วพ่อก็เป็นพ่อของผมจะให้ผมโกรธแค้นท่านไปทั้งชีวิตก็ดูจะเป็นลูกที่เลวเกินไป แต่มีเรื่องเดียวที่ผมให้พ่อไม่ได้นั่นก็คือผมจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนนั้นมาแย่งทุกอย่างของแม่เพราะถ้าพ่อจดทะเบียนกับผู้หญิงคนนั้นทรัพย์สมบัติที่เคยเป็นของแม่ก็จะตกเป็นของผู้หญิงคนนั้นผมไม่ยอมเด็ดขาด ต่อให้จะสิบบาทยี่สิบบาทผมก็ไม่ยอมให้กระเด็น
ม่านไหม...
ฉันเดินเข้ามาในห้องห้องที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามซึ่งมันไม่เหมาะกับฉันเลยสักนิด ฉันชินกับห้องเล็กๆที่มีฟูกเล็กๆกับพัดลมแค่ตัวเดียวฉันไม่เคยนอนห้องแอร์ไม่เคยมีโต๊ะเครื่องแป้งสวยๆแบบนี้ไม่เคยมีห้องน้ำส่วนตัวไม่เคยมีเตียงนอนใหญ่ๆ อยากจะบอกว่าตอนที่คุณท่านพาฉันมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆคุณท่านให้ฉันนอนบนตึกใหญ่และบอกกับทุกคนในบ้านว่ารับฉันมาเลี้ยงในฐานะหลานสาวแต่ฉันคิดว่ามันไม่ควรถึงฉันจะอายุแค่เจ็ดขวบแต่ฉันก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไรฉันรู้ตัวเองดีว่าเป็นใครมาจากไหนพ่อของฉันเป็นใคร ถ้าพูดตามความจริงคุณท่านก็คือเจ้านายของพ่อเพราะพ่อของฉันทำงานให้กับคุณท่านแล้วฉันจะมาอยู่ในฐานะหลานสาวของคุณท่านได้ยังไงฉันก็เลยขอไปนอนที่ตึกคนงานแทนซึ่งตอนแรกคุณท่านจะไม่ยอมแต่พอท่านเห็นฉันเอาแต่นิ่งเงียบไม่ขยับลุกไปไหนท่านก็เลยยอมให้ฉันนอนที่ตึกคนงานแต่ก็มีข้อแม้ว่าห้ามให้ฉันทำงานบ้านเพราะฉันต้องเรียนหนังสือซึ่งมันเป็นความตั้งใจของพ่อเพราะพ่อเคยพูดกับคุณท่านว่าพ่ออยากส่งฉันเรียนให้สูงที่สุดเท่าที่พ่อจะทำได้คุณท่านก็เลยสานต่อความฝันของพ่อโดยการส่งฉันเรียนหนังสือแต่เป็นเพราะฉันยังพูดไม่ได้คุณท่านก็เลยจ้างคุณครูมาสอนที่บ้านจนกระทั่งฉันเรียนจบมอหกและสอบเข้ามหาลัยได้ฉันจึงขอท่านว่าฉันขอเรียนออนไลน์แทนการไปมหาลัย จนป้าแม่ครัวว่าฉันว่าฉันโง่แทนที่จะอยู่อย่างสุขสบายบนตึกใหญ่เป็นคุณหนูแต่กลับอยากลำบากมาขออยู่ที่ตึกคนงานแทนแต่ฉันก็ไม่โกรธแกหรอกนะเพราะแกพูดด้วยความเป็นห่วง แกบอกว่าแกรู้จักพ่อของฉันแกบอกว่าพ่อของฉันเป็นคนดีทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่บ้านคุณท่านมานานหลายสิบปีก็เลยสนิทคุ้นเคยกันพ่อมักจะมาพูดถึงฉันให้ป้าแม่ครัวฟังเสมอเวลาเข้ามากินข้าวในครัว
ปั้ง!!!! ปั้ง!!!! ปั้ง!!!! เสียงทุบประตูทำให้ฉันสะดุ้งรีบเดินไปเปิดประตูทันทีพอเปิดประตูออกไปก็เจอคุณเจ้าสมุทรยืนเท้าเอวจ้องหน้าฉันอย่างหาเรื่อง
"มัวทำอะไรอยู่ ไหนอาหารของฉันทำแล้วรึยัง" ฉันรีบส่ายหน้า คือฉันลืมไปเลยว่าต้องทำอาหารให้คุณเจ้าสมุทรทาน
"ยังไม่ได้ทำ??" ฉันพยักหน้าอีกรอบ
"แล้วจะได้กินไปไหมข้าวอ่ะห๊ะ" เข้าตะคอกใส่ฉันจนฉันต้องรีบเดินออกไปจากห้องเพื่อไปเข้าครัว
"แม่ง หิวก็หิว รีบๆไปทำมาเร็วๆฉันให้เวลาเธอสิบนาทีอาหารต้องตั้งอยู่บนโต๊ะเข้าใจไหม ฉันจะขึ้นไปอาบน้ำลงมาต้องได้กินถ้าเธอทำไม่ทันเธอเตรียมเก็บเสื้อผ้ากลับไปอยู่ตึกคนใช้ได้เลย" เขาตะโกนไล่หลังจนฉันรู้สึกกลัวกับน้ำเสียงของเขาที่ดูเหมือนพร้อมจะระเบิดตลอดเวลาถ้าทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ
ฉันรีบเข้าไปในครัวเพื่อดูว่ามีอะไรทำให้คุณเจ้าสมุทรทานบ้างก่อนจะลงมือทำอาหารแบบง่ายๆซึ่งตอนนี้มันจะบ่ายแล้วเซ็ตอาหารเช้าคงไม่เข้าท่าฉันก็เลยทำอาหารไทยง่ายๆสองสามอย่างซึ่งฉันก็หวังว่าเขาจะชอบเพราะฉันไม่รู้ว่าเขาชอบทานอะไรไม่ชอบอะไร ฉันใช้เวลาสิบกว่านาทีจนอาหารเสร็จเรียบร้อยทุกเมนูซึ่งในขณะที่ฉันทำฉันก็ภาวนาว่าอย่าเพิ่งให้เขาลงมา
ฉันจัดการยกอาหารไปตั้งที่โต๊ะเมนูวันนี้ฉันทำผัดกะเพราเนื้อโปะด้วยไข่ดาวสองฟองแล้วก็ต้มจืดเต้าหู้หมูสับเอาไว้ให้ด้วย แล้วก็คั้นน้ำส้มเตรียมไว้ให้ในตู้เย็นอีกหนึ่งแก้ว จนเวลาผ่านไปนานเกือบชั่วโมงคุณเจ้าสมุทรก็ยังไม่ลงมาสักทีจนอาหารเริ่มเย็นฉันคอยชะเง้อมองไปที่บันไดแต่ก็ไร้วี่แววเจ้าของห้องจะเดินลงทานข้าว ฉันตัดสินใจเดินขึ้นไปตาม