คุณหญิงฤทัยไม่พอใจที่ลูกชายของตัวเองทำแบบนี้อย่างมาก
" ครับแม่ เพื่อนของผมแค่มาแสดงความยินดีในวันแต่งงานของผมก็เท่านั้น ไม่เห็นมีอะไรนี่ครับ " มาร์ตินตอบออกไปแบบไม่ทุกข์ร้อน พร้อมกับมองหน้าของเนยหวาน ซึ่งเขาเองก็พอใจผลงานในวันนี้เป็นอย่างมาก หลังจากที่เจอนีน่าในวันนั้นก็ทำให้เขาคิดแผนการบางอย่างขึ้นมา จึงติดต่อเธอไปแล้วเธอก็รับงานนี้แต่โดยดี " ถ้าเป็นเพื่อนแกจริงๆแม่ก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่ถ้าจะมาเพื่อมาป่วนงานแล้วล่ะก็ แม่ไม่ยินดีต้อนรับ " คุณหญิงฤทัยมองนีน่าตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับทำท่าทางหงุดหงิดเพราะสาวเจ้าแต่งชุดมาไม่ให้เกียรติสถานที่เอาซะเลย " สวัสดีค่ะคุณแม่ หนูชื่อนีน่านะคะเป็น... " หญิงสาวร่างอวบอัดเลือกที่จะเว้นคำไว้แค่นั้นเพื่อให้ทุกคนภายในงานคิดกันเอาเอง " ฉันมีลูกชายเพียงแค่สองคน แล้วก็ลูกสะใภ้อีกสองคน ส่วนคนอื่นเรียกฉันว่าคุณหญิงฤทัยเถอะ เพราะคำว่าแม่ใช้กับแค่คนสนิทเท่านั้นซึ่งฉันคิดว่าไม่ได้สนิทอะไรกับเธอสักเท่าไร " คุณหญิงฤทัยตอบกลับจนนีน่ารู้สึกหน้าชาพร้อมกันนั้นก็รีบหันไปจับมือของเนยหวานเอาไว้อย่างเป็นห่วง เธอเข้าใจความรู้สึกของลูกผู้หญิงดี แม้จะแต่งงานโดยปราศจากความรักแต่อย่างน้อยผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีก็ควรจะให้เกียรติตนเองบ้างอย่างน้อยๆก็วันแต่งงานนี่แหละ แต่ดูสิ่งที่ลูกชายเธอทำสิ แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน " หนูโอเคไหมลูก " ร่างบอบบางยิ้มตอบกลับไปให้ เพราะเธอไม่อยากทำให้ทุกคนไม่สบายใจเพราะเธอ " โอเคสิคะคุณป้า ก็คุณนีน่าเป็นเพื่อนนี่นาไม่ได้เป็นอย่างอื่น " คำหลังเธอเน้นย้ำพร้อมกับหันไปมองหน้าของนีน่าพร้อมกันนั้นนีน่าเองก็ทำท่าทางหงุดหงิดใส่เธออย่างเปิดเผย เพราะสิ่งที่เธอพูดมันคือความจริง คุณหญิงฤทัยที่อมยิ้มมุมปากอย่างพอใจลูกสะใภ้ของเธอไม่ได้ยอมคนไปซะทุกเรื่องแบบนี้สิถึงจะสมน้ำสมเนื้อหน่อย ส่วนทางด้านมาร์ตินเองเขาเพียงแค่ยิ้มมุมปากเท่านั้น " เข้าข้างในกันเถอะลูก ส่วนใครที่ไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเองถ้าอยากทำอะไรก็ทำไป หนูไปกับแม่เดี๋ยวแม่จะดูแลเอง " คุณหญิงฤทัยจูงมือเนยหวานเข้าไปภายในงานเพื่อไปทักทายแขกผู้ใหญ่ที่กำลังรออยู่ ส่วนมาร์ตินที่กำลังจะตามเข้าไปแต่นีน่าเกาะแขนเอาไว้ก่อน " คุณมาร์ตินคะอยู่เป็นเพื่อนนีน่าก่อนสิคะ " มาร์ตินหันกลับหลังมามองเธอพร้อมกับดึงมือของตัวเองออกจากการเกาะกุมของนีน่า " วันนี้คุณกลับไปก่อนนะนี่น่า ไว้วันหลังผมจะเรียกใช้คุณอีกที ส่วนค่าจ้างผมจะให้เลขาผมส่งเช็คไปให้ " คำพูดที่แสนเย็นชาของเขาทำให้นีน่าไม่พอใจแต่เธอจะทำทุกทางเพื่อให้ผู้ชายคนนี้เป็นของเธอให้ได้ " ก็ได้ค่ะ ไว้วันหลังคุณเรียกนีน่ามาอีกนะคะ " " ครับ " มาร์ตินให้บอดี้การ์ดที่อยู่ภายในงานไปส่งนีน่าซึ่งเธอก็ยอมกลับแต่โดยดี เพราะเธอมีแผนการต่อจากนี้ไว้รออยู่แล้ว มาร์ตินเองวันนี้เขาแค่ต้องการให้นีน่ามาแสดงตัวเพื่อให้เนยหวานรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับเขา แต่พอแม่เขาพาเธอเข้าไปในงานโดยไม่รอเขาเขาก็รู้สึกหงุดหงิดที่แม่ไม่เข้าข้างเขาเลย แต่กลับเข้าข้างแต่ลูกสะใภ้คนดีของแม่ ร่างสูงเดินเข้ามาประกบกับเจ้าสาวของตัวเองที่ตอนนี้เธอกำลังทักทายแขกภายในงานอยู่ เขาพยายามทำให้เธออยู่ใกล้ชิดกับเขาตลอดเวลาเพราะยังรู้สึกขัดใจกับชุดที่เธอใส่วันนี้อยู่ แต่เป็นเธอเองที่พยายามตีตัวออกห่างจากเขา เธอรู้สึกน้อยใจที่เขาทำกับเธอแบบนี้ แต่เดี๋ยวนะน้อยใจหรอ? เธอจะมาน้อยใจอะไรเนยหวาน เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ความคิดของร่างบางตอนนี้ตีกันในหัวจนยุ่งเหยิงเต็มไปหมด เวลาผ่านไปจนถึงค่อนคืน ตอนนี้ถึงเวลาส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอแล้ว ครอบครัวของมาร์ตินรวมทั้งครอบครัวของเนยหวานและเหล่าเพื่อนๆของเขาต่างมาส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ " มีความสุขมากๆนะลูก หนักนิดเบาหน่อยอภัยให้กันนะลูก " เป็นพ่อของมาร์ตินที่เอ่ยอวยพรให้ลูกเป็นคนแรก " ดูแลน้องให้ดีๆนะตามาร์ติน น้องยังเด็กค่อยๆพูดค่อยๆจากกันจะทำให้ความรักยืนยาวแล้วก็มีหลานให้แม่ไวๆนะ " คำพูดอวยพรของคุณหญิงฤทัยทำเอาเนยหวานหน้าแดงซ่านอย่างห้ามไม่ได้ " ครับพ่อ แม่ " " อยู่กับพี่เขาอย่าดื้อให้มากนะลูก พี่เขาพูดอะไรก็ให้เชื่อฟัง หนักนิดเบาหน่อยก็พยายามใช้เหตุผลประคับประคองกัน " เป็นพ่อของเนยหวานอวยพร " ค่ะพ่อ ,ครับ " " แม่ขอให้ลูกๆมีความสุขมากๆนะ แล้วก็มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองเลยนะลูก " ชิดจันทร์อวยพรให้กับคู่บ่าวสาว และหลังจากที่ผู้ใหญ่อวยพรให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นเหล่าบรรดาเพื่อนๆของเขาอวยพรหลังจากนั้น โดยที่คำอวยพรแต่ละคำทำเอาเนยหวานเขินหน้าแดงไปหมด เพราะพวกเขาไม่วายพูดหยอกล้อเธอ จนบางทีเป็นมาร์ตินเองที่จ้องเธอตาเขม็งเพราะรู้สึกไม่พอใจ และตอนนี้ทุกคนก็ออกไปจากห้องเรียบร้อยแล้วเหลือแค่มาร์ตินและเนยหวานที่อยู่ในห้องที่ทางโรงแรมจัดไว้เป็นห้องหอแค่สองคน " เธอไปอาบน้ำก่อนสิ แล้วก็รีบอาบล่ะ ฉันจะได้อาบต่อเหนื่อยมาทั้งวันแล้วฉันง่วง " ร่างสูงพูดพร้อมกับนั่งลงที่ปลายเตียงหันมามองเธอที่กำลังพยายามถอดชุดเจ้าสาวออกอยู่แต่ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะรูดซิปไม่ถึง แต่ก็ยังไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากเขา " จะชักช้าอยู่ทำไม ไปอาบน้ำสิ " เขายังไม่วายพูดเร่งเธออีก เพื่ออยากแกล้งทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเธอยังถอดชุดไม่ได้สักที " เนยกำลังถอดชุดอยู่ค่ะไม่เห็นเลยมั้ง " คำพูดของเธอทำเอาเขาจ้องเธอตาเขม็ง ไม่รู้นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่มีใครมากวนโมโหเขาแบบนี้ " เป็นเด็กเป็นเล็กหัดพูดจากับผู้ใหญ่ให้มันดีๆกว่านี้หน่อย หันหลังมา " เขาพูดพร้อมกับลุกขึ้นจากปลายเตียง แล้วเดินมาหาเธอพร้อมกับจับให้เธอหันหลังแล้วก็รูดซิปหลังเธอลงมาจนถึงสะโพกงอน ทำให้ชุดแทบจะหลุดออกทันที เนยหวานตกใจรีบจับชายเสื้อเอาไว้แนบอกไม่ให้มันตกลงไปสู่พื้น " อุ๊ย! พอแล้วค่ะไม่ต้องทำแล้ว เดี๋ยวที่เหลือเนยจัดการเองได้ ขอบคุณมากค่ะ " ร่างบอบบางกำลังจะเดินเข้าไปในห้องน้ำแต่เป็นมาร์ตินเองที่หลังจากแกล้งเธอกลับเป็นเขาที่ต้องกลืนน้ำลายลงคออีกใหญ่ พร้อมกับมองแผ่นหลังขาวเนียนของเธอ สติสตางค์ที่มีอยู่ก็เริ่มพล่าเลือนเมื่อเรือนร่างของเธอช่างยั่วยวนเหลือเกินและแล้วก็มาถึงสุดสัปดาห์ที่เขารอคอยก็มาถึงเพราะวันนี้เขาได้พาภรรยาตัวน้อยพร้อมกับลูกสาวอย่างมะนาวแล้วก็เด็กอีกชายอีกสองคนที่อยู่ในท้องของเธอที่เขาเสกเข้าท้องเอาไว้ไว้เรียบร้อยแล้วและรู้ผลว่าเป็นลูกชายเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากวันนั้นที่ได้กินข้าวด้วยกันเวลาผ่านมาห้าเดือนแล้ว ตอนนี้ท้องของเนยหวานใหญ่ขึ้นมากกว่าปกติวันนี้เขาเลยพาเธอมาพักผ่อน เราสองคนได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าจะมีลูกเพียงแค่สามคนเท่านั้น หากเด็กชายสองคนนี้เกิดขึ้นมาเท่าไหร่เขาก็จะยอมทำหมันทันที ภรรยาของเขาให้เหตุผลว่าน้องชายสองคนก็เพียงพอสามารถปกป้องพี่สาวอย่างมะนาวได้แล้ว เขาจึงไม่ขัดใจภรรยาอีก ในเมื่อเธออยากมีแค่สองคนเขาก็พอใจแล้วเหมือนกัน ความสุขของเราคือการที่ได้หัันหน้าคุยกัน ไม่ชอบอะไรก็พูดกันตรงๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต่างคนต่างคิดไปเองจนเรื่องราวมันเลยเถิดใหญ่โตเกือบกลับมารักกันไม่ได้อีก " บรรยากาศดีมากเลยนะครับที่รักว่าไหม หลายเดือนแล้วนะที่ผมไม่ได้พาคุณมาที่นี่ ผมรู้ว่าคุณชอบทะเลแต่งานของผมก็เยอะเหลือเกิน ต่อไปนี้ผมจะพยายามหาเวลาว่างสำหรับครอบครัวเรามากขึ้นนะครับ เมื่อไหร่นะที่เจ้าสองแฝดนี่จะโตสักทีผมจะได้วางมือแ
เวลาผ่านไปสามปีกว่าตอนนี้หนูน้อยมะนาวอายุได้สามขวบแล้วและกำลังจะเข้าเตรียมอนุบาล หนูน้อยซนมากๆได้คุณพ่อมาเต็มๆทำเอาคุณแม่ปวดหัวอยู่ไม่น้อย " คุณแม่ขาวันนี้คุณพ่อกลับมาหรือยังคะ หนูคิดถึงคุณพ่ออยากขี่คอคุณพ่ออีกค่ะ " ผู้เป็นแม่ถึงกับส่ายหน้าเหนื่อยใจ เธอไม่น่าให้สามีตั้งชื่อลูกว่ามะนาวเลยจริงๆเพราะเปรี้ยวซ่าสมชื่อ ไม่มีความหวานอยู่ในตัวเลยแม้แต่นิดเดียว " โถ่ลูก เบาๆลงบ้างนะคะกับการเล่นผาดโผนเนี่ย เดี๋ยวจะเจ็บตัวเอา เราเป็นผู้หญิงควรที่จะเรียบร้อยไว้บ้างนะลูก " เนยหวานเอ็ดลูกสาวหลังจากที่ตอนนี้เจ้าตัวมองหาแต่ผู้เป็นพ่อที่ออกไปทำงานจนตอนนี้ก็ไกล้จะได้เวลาที่จะกลับเข้าบ้านมาแล้ว กริ่ง กริ่ง กริ่ง เสียงกดออดหน้าบ้านเป็นนิ่มสาวใช้ที่อยู่กับเธอมาตั้งแต่บ้านหลังแรกจนตอนนี้กลายมาเป็นพี่เลี้ยงของยัยหนูมะนาวเรียบร้อยแล้ว เดินออกไปเปิดประตูเมื่อมีแขกมาหาผู้เป็นเจ้านาย แล้วเธอก็ต้องดีใจที่วันนี้คุณตากับคุณยายมาหาหลานสาวถึงที่บ้านพร้อมกับหอบของกินมามากมายเช่นเคย " คุณตา คุณยาย น้องมะนาวคิดถึงจังเลยค่ะ " เด็กน้อยพูดเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมกับวิ่งไปกอดกับคุณตาและคุณยาย คุณตาก้มลงอุ้มหลานสาวขึ้นม
ปัก! ปัก! ปัก! ปัก! ปัก! เสียงเนื้อกระทบเนื้ออยู่ภายในห้องนอนกว้างใหญ่ที่เป็นคฤหาสน์หลังใหม่เรือนหอของมาร์ตินและเนยหวาน หลังจากที่เขาออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ได้ทำการขายบ้านหลังนั้นเป็นที่เรียบร้อย เรือนหอเก่าของเขาและเธอเพราะเขามองว่ามันเล็กเกินไปและอาจไม่เพียงพอสำหรับทายาทไมโลเวอร์ที่กำลังจะเกิดมา " อื้อ....อ๊ะ...บะ เบาหน่อยค่ะที่รัก "เสียงครางหวานในห้องเก็บเสียงอย่างดีของร่างบอบบางที่ตอนนี้โดนกระแทกอย่างเอาเป็นเอาตายจากคนตัวโตที่ไม่ยอมเหน็ดเหนื่อย แม้ตอนนี้อายุครรภ์ของเธอใกล้จะคลอดเต็มทีเขาก็ยังให้เหตุผลว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะคลอดและเขาจะไม่มีโอกาสได้รังแกเธอแบบนี้ไปอีกสักพักใหญ่ แต่การทิ้งทวนครั้งสุดท้ายของเขาก็ทำเอาเธอหมดแรงเป็นอย่างมาก ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! สะโพกสอบกระแทกแก่นกายใหญ่โตตามฉบับหนุ่มลูกครึ่งเข้าไปในท่าหันหลังแล้วโก่งโค้งมือหนาของเขาก็จับหน้าท้องของเธอเพื่อพยุงเอาไว้อย่างดี ท่านี้เข้าลึกมากเป็นคนตัวเล็กที่ร้องครางระงมออกมาไม่เป็นภาษา รวมทั้งตัวเขาด้วย ร่างอวลอัดที่ตอนนี้เต็มไม้เต็มมือจับไปตรงไหนก็รู้สึกเร่าร้อนไปหมด " โอ้ววว!!! ซี๊ดดด...ดีเหลือเ
เวลาผ่านไปอีกราวๆสองชั่วโมงกว่า คุณหมอก็ได้ออกมาจากห้องผ่าตัดท่ามกลางบรรยากาศความลุ้นระทึกของบรรดาญาติทุกคนรวมถึงเพื่อนสนิทของมาร์ตินที่ตอนนี้มากันครบทุกคนเพื่อมารอดูอาการของมัน เพื่อนแท้ย่อมไม่ทิ้งกันจริงๆ" คุณหมอคะ สามีของฉันเป็นยังไงบ้างคะ " ร่างบอบบางพูดออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำกับคำว่าสามีเมื่อคุณหมอออกมาจากห้องผ่าตัดนั้น " คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ โชคดีที่กระสุนไม่ได้โดนอวัยวะสำคัญ บวกกับคนไข้ใจสู้มาก เดี๋ยวรอดูอาการอีกสักคืนแล้วหมอจะให้ไปนอนพักฟื้นที่ห้องผู้ป่วยนะครับ คนไข้นอนที่โรงพยาบาลอีกซักสองสัปดาห์ก็กลับบ้านได้แล้วครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมขอตัวก่อนนะครับ "" เอ่อ คุณหมอคะขอดิฉันเข้าไปเยี่ยมเค้าได้ไหมคะ "" ถ้าเป็นตอนนี้หมออยากให้คนไข้ได้พักผ่อนก่อนนะครับ ไว้พรุ่งนี้เช้าญาติคนไข้ก็เข้าเยี่ยมได้แล้วครับ " ทุกคนที่ได้ฟังคำวินิจฉัยของคุณหมอแล้วทำเอาโล่งใจแล้วเนยหวานก็น้ำตาร่วงออกมาอย่างไม่มีเหตุผล เธอทั้งดีใจอย่างบอกไม่ถูก ดีใจที่เขากลับมาอยู่กับเธอและลูกอีกครั้งไม่ปล่อยให้เธอต้องอยู่กับลูกเพียงลำพัง " พี่เค้าปลอดภัยแล้วนะลูก หายห่วงได้แล้ว ส่วนตัวเราก็กลับไปพักผ่อนเถอะ
มาร์ตินเขารีบมาดังโกดังร้างแถวนี้ตามที่ลูกน้องของเขาด้วยแจ้งพิกัดเอาไว้ พอมาถึงก็ถึงกับหัวใจกระตุกวูบไปถึงตาตุ่ม เพราะเมียตัวน้อยของเขาถูกมัดติดเอาไว้กับเก้าอี้อย่าน่าสงสาร พร้อมกับไอ้เชนที่นอนเหมือนคนตายอยู่บนพื้นไปแล้ว และก็นีน่าที่มีอาการเหมือนคนบ้านีน่าหันไปเจอมาร์ตินก็เกิดอาการตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะตามเธอมาถึงที่นี่ได้ในเวลารวดเร็วขนาดนี้ เธอคิดว่าเธอจะจัดการกับนังเนยหวานเสร็จก่อนเขาจะมาด้วยซ้ำ แต่เธอทำมาถึงขนาดนี้แล้ว จะไม่มีทางถอยหลังกลับเด็ดขาดตายเป็นตาย" หึ! ไหนๆ ฉันก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้าฉันจะต้องตายฉันก็จะเอาอีนางนี่ไปด้วย "นีน่าเล็งปืนไปทางเนยหวานที่ตอนนี้เธอนั่งตัวแข็งทื่ออยู่" อย่านะนีน่าอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ "มาร์ตินใจแทบขาดเหงื่อออกตามกรอบหน้าด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ถ้าปกติแล้วเขาจะเด็ดขาดกว่านี้ แต่ตอนนี้เขาทำไม่ได้จริงๆ" หึ! ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณรักมันจริงๆ ไหม ลองคุกเข่าดูสิ คุกเข่าต่อหน้าฉัน บางทีฉันอาจจะใจดีก็ได้ แต่อาจจะเท่านั้นนะจะลองเสี่ยงคุกเข่าดูไหมล่ะ "เธอรู้ดีว่าคนอยากมาร์ตินไม่เคยคุกเข่าให้ใคร กับแม่นี่ก็คงจะเช่นกัน แต่มันกลับผิดคาดเมื่อมาร์ติ
เชนจับตัวของเนยหวานมาไว้ที่โกดังร้างแห่งหนึ่งแถวชานเมืองที่ปลอดผู้คน โดยที่เนยหวานตอนนี้ได้สลบไปแล้วเนื่องจากรู้สึกตกใจ เขาจับเธอมัดแขนไว้กับเก้าอี้อย่างแน่นหนา แม้เธอจะตัวเล็กแค่นี้แต่เธอฉลาดไม่น้อยเลย พร้อมกับต่อสายหานีน่าทันที เพราะเขาอยากไปจากที่นี่แล้ว " ฉันจัดการจับเนยหวานมาได้แล้ว ทีนี้เธอก็โอนค่าแรงของฉันมาได้แล้วแล้วฉันจะได้รีบไป " เชนรู้สึกกลัวแปลกๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาจึงรีบขอค่าจ้างและจะรีบออกไปจากที่นี่เพราะอำนาจของมาร์ตินเขารู้ว่าไม่นานมันจะต้องตามมาที่นี่แน่นอน เพราะฉะนั้นการหนีให้ไวที่สุดจะเป็นผลดีกับเขามากที่สุด " ไม่ต้องห่วงหรอก นายได้แน่ เดี๋ยวรออยู่ตรงนั้น ฉันจะกดเงินสดไปให้ ไม่นานหรอกนายได้ไปสมใจอยากแน่ " นีน่าที่คิดไม่ซื่อ เธอกะว่าพอไปถึงเธอจะจัดการกับเชนซะเธอไม่ยอมเสียเงินไปฟรีๆหรอกนะมันทำงานให้แค่นี้จะเอาเงินหลักแสนไปจากเธอ เธอไม่มีวันให้มันเด็ดขาด " งั้นก็รีบๆมา ฉันจะได้รีบไป " หลังจากวางสายจากนีน่าเขาก็มีท่าทางร้อนรนจนรออยู่เกือบชั่วโมงนีน่าก็มาถึงพอดี" ไหนล่ะเงินที่เธอบอกจะให้ รีบๆเอาออกมาซะสิฉันจะได้รีบไป " " หึ! ไม่ต้องห่วงหรอกยังไงแกก็จะได้ใ