เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนเย็น ซึ่งตอนนี้เนยหวานแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วยชุดเจ้าสาวที่สุดเซ็กซี่ที่ในวันนั้นเธอได้ลองใส่กับเจ๊อ้อย
" โห....ยัยเนยแกรู้ตัวไหมว่าแกเซ็กซี่มากเลยนะ พอแกอยู่ในชุดเจ้าสาวแล้วดูโตขึ้นมากเลยอ่ะ ฉันชักจะอยากใส่ชุดเจ้าสาวบ้างแล้วสิ " เป็นแพมที่เอ่ยออกมาอย่างอิจฉาเพื่อนนิดๆ ดูเพื่อนเธอคนนี้สิ ทั้งสวยทั้งดูสง่า แตกต่างจากที่เป็นหญิงสาวที่แสนเรียบร้อยของเพื่อนๆ " แกก็พูดเวอร์ไป " เนยหวานตอบกลับเพื่อนทั้งที่ความเป็นจริงเธอก็แอบตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะช่างแต่งหน้าเนรมิตให้เธอสวยมากจริงๆ " ยัยแพมไม่ได้พูดเวอร์ไปหรอก วันนี้แกเป็นเจ้าสาวที่สวยและเซ็กซี่มากจริงๆ พวกฉันยังอิจฉาแกเลยเนี่ย ว่าแต่ชุดเซ็กซี่ขนาดนี้เจ้าบ่าวแกไม่ว่าหรอ ฉันรับรองได้เลยว่าแกลงไปทุกคนต้องมองแกเป็นตาเป็นมันแน่ " บรีสถามอย่างสงสัย ถึงแม้ว่าเธอจะเคยเจอลุคเจ้าสาวที่ดูเซ็กซี่แบบนี้มาไม่น้อย แต่ก็ไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะมาแนวนี้คิดว่าจะมาแนวหวานซะมากกว่า " นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ ความจริงชุดที่ฉันต้องใส่เป็นอีกชุดนึง แต่ว่าฉันชอบชุดนี้มันขัดใจเขาดีฉันก็เลยแอบให้เจ้าของร้านเอาชุดนี้มาส่ง " เนยหวานบอกความจริงกับเพื่อนไป เธอชอบชุดนี้ตั้งแต่แรกเพราะมันดูเข้ากับเธอที่สุด แถมอยากแก้เผ็ดเขาด้วย อยากห้ามให้เธอใส่ชุดแบบนี้ดีนักเธอก็จะใส่มันซะเลย อะไรที่เขาห้ามเธอก็จะทำให้หมดคอยดู " เฮ้ยแก มันจะดีหรอวะ นี่งานแต่งแน่นะไม่ใช่ว่าพอเปิดตัวเจ้าสาวจะกลายเป็นสนามรบซะล่ะ " แพมบ่นให้เนยหวานเพราะเธอไม่เห็นด้วยเลยกับการที่เพื่อนของเธอจะทำทุกอย่างที่อีกฝ่ายห้าม เพราะมันจะทำให้ทั้งสองคนปรับตัวเข้าหากันยากมากกว่าเดิม " อย่าห่วงเลยให้ฉันได้แก้เผ็ดตะลุงนั่นบ้างเถอะ ถ้าแกได้ฟังเรื่องที่เขาทำกับฉันแกจะไม่พูดแบบนี้เลย " เนยหวานตอบแพมออกไป เพราะเรื่องวันที่เขาพาเธอไปสนามแข่งรถเธอยังไม่ได้เล่าให้ใครฟังแม้กระทั่งเพื่อนรักทั้งสองคน เพราะกลัวว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ จึงได้แต่เก็บมันไว้เพียงลำพัง ระหว่างที่กำลังเม้าท์มอยกัน ชิดจันทร์ผู้เป็นแม่ก็ได้เดินเข้ามาเพื่อตามลูกสาวเข้าไปในงาน แต่พอเข้ามาถึงก็ตกตะลึงกับความสวยและเซ็กซี่ของลูกสาว ลูกของเธอดูโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก จนเธอแทบจำไม่ได้ เมื่อคุยกับลูกสาวพอหอมปากหอมคอแล้วก็พากันเข้าไปในงาน พอเดินเข้ามาทุกคนต่างมองเจ้าสาวคนสวยตาเป็นมันเหมือนอย่างที่เพื่อนของเธอพูดเอาไว้จริงๆโดยเฉพาะมาร์ตินเขามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้ายอมรับว่าเธออยู่ในลุคนี้แล้วสวยมากจริงๆชุดเจ้าสาวในวันนั้นเขาเห็นว่ามันเหมาะกับเธอมาก แต่เพราะมันดูเซ็กซี่และเป็นผู้ใหญ่มากเกินไปจนไม่อยากให้เธอได้ใส่เพราะกลัวว่าคนจะมองเหมือนอย่างเช่นตอนนี้นี่แหละ เขาได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความโมโหและรีบเดินเข้าไปหาเธอทันที " ใครบอกให้เธอใส่ชุดนี้ฮะ " เขาตะคอกเธอเสียงเบาเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน แต่เสียงก็ยังหนักแน่นจนร่างบอบบางขนลุกแต่ก็ยังใจดีสู้เสือยิ้มสู้กับเขาไป ทำทีว่าไม่กลัวทั้งที่ใจเต้นแรงระส่ำไปหมดแล้ว " วันนี้เนยเป็นเจ้าสาวเนยก็ต้องใส่ชุดที่เนยชอบมากที่สุดสิคะ แล้วเนยก็ชอบชุดนี้ไม่ได้ชอบชุดที่คุณเลือกให้วันนั้นสักหน่อย ทำไมต้องใส่ชุดนั้นด้วย " เธอเถียงเขาคอเป็นเอ็น มาร์ตินจัดการกระชากแขนเธอเข้ามาหาตัวเองจนดูเหมือนว่าทั้งคู่ตอนนี้กำลังยืนกอดกันอยู่ " นี่เธอ!! " " ทำไมคะ ถ้าไม่พอใจจะยกเลิกงานแต่งก็ได้นะคะ " " ไม่มีทาง เราได้เห็นดีกันแน่เนยหวาน เธอกล้ามากนะที่ท้าทายฉันแบบนี้ " ร่างสูงคาดโทษเธอเอาไว้พร้อมกับจับมือของเธอเอาไว้แน่นแล้วเดินเข้าไปในงานเพื่อให้แขกผู้ใหญ่ถ่ายรูป ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังถ่ายรูปกับผู้คนที่มาร่วมงานอยู่นั้นก็ได้ปรากฏหญิงสาวร่างอวบอั๋นแต่งตัวเซ็กซี่ด้วยชุดเดรสสีแดงเพลิงปากสีแดงเดินเข้ามาภายในงาน พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากของมาร์ตินที่ฉายแววให้เธอเห็นเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น " สวัสดีค่ะคุณมาร์ติน " ผู้หญิงคนนี้เนยหวานจำได้ดีเพราะเธอเห็นเมื่อวันก่อนตอนที่อยู่ในผับ ตอนนี้เนยหวานได้แต่มองหน้าเขาสลับกับผู้หญิงคนนี้พร้อมกับคิดในใจว่าเธอคนนี้ใช่แฟนของมาร์ตินหรือเปล่า แล้วถ้าใช่เธอกำลังจะมาทวงของของเธอคืนอย่างนั้นหรอ หรือแค่จะมาเพื่อแค่ขายหน้าเธอเท่านั้น " นีน่า " มาร์ตินยกยิ้มมุมปากพร้อมกับเดินเข้าไปหานีน่า แล้วกอดเอวเธอไว้หลวมๆปล่อยให้เนยหวานยืนอยู่คนเดียวอยู่แบบนั้น ทั้งที่ยืนอยู่ใกล้กันแค่นี้แต่ทำไมเธอรู้สึกเหมือนเธอเป็นส่วนเกินแบบนี้ล่ะ " นีน่าแค่จะมาแสดงความยินดีกับคุณน่ะค่ะคุณมาร์ติน เห็นเมื่อคืนคุณบอกว่าไม่อยากมาแต่ก็ต้องจำใจมา นีน่าเป็นห่วงค่ะก็เลยกะว่าจะมารอรับคุณกลับคอนโดด้วยกัน " นีน่าพูดอย่างถือสิทธิ์เน้นคำว่าเมื่อคืนอย่างชัดๆให้กับเนยหวานได้ฟังเพื่อให้เธอรู้ว่ามาร์ตินอยู่กับเธอ ในขณะที่เนยหวานได้แต่ยืนตัวชาดิกเพราะไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อ ผู้คนที่มาแสดงความยินดีต่างก็เริ่มมองมาที่เธอและเขาเป็นตาเดียวโดยพร้อมเพรียง ในเวลานี้เธอรู้ได้ทันทีเลยว่าเขากำลังอยากให้เธอหายหน้า เธอไม่รู้หรอกว่าเขานัดกันมาที่นี่หรือเปล่า แต่ที่เธอรู้แน่ๆก็คือเขาต้องการให้เธออับอายซึ่งเขาก็ทำมันสำเร็จ " เกิดอะไรขึ้นตามาร์ติน หนูเนยหวาน " คุณหญิงฤทัยที่รีบออกมาจากในงานเพื่อมาดูว่าเขามุงดูอะไรกันก็เห็นว่าลูกชายของตัวเองกำลังยืนอยู่กับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ แต่งตัวก็ไม่รู้จักกาละเทศะไม่ให้เกียรติสถานที่ มิหนำซ้ำลูกชายของเธอยังดูจะปกป้องแม่สาวปากแดงคนนี้ด้วยทำให้เธออดสงสารเนยหวานไม่ไหว " ตามาร์ตินทำอะไรของแก เจ้าสาวแกอยู่นี่มองไม่เห็นหรือไงแล้วแม่นี่เป็นใคร "" อื้อ....อ๊ะ " ท่อนเนื้อลำใหญ่ถูกกระแทกเข้ามาโดยร่างสูงทีเดียวจนมิดลำหลังจาดจบคำพูดของเขา เขาไม่แม้แต่แช่แก่นกายเอาไว้ด้วยซ้ำ จับเธอกระแทกอย่างรุนแรงเพราะอารมณ์สวาทของเขาตอนนี้อดทนรอกับอะไรไม่ไหวอีกแล้ว ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก! " อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ เบาหน่อยค่ะเนยจุกไปหมดแล้ว " ร่างบอบบางที่ส่งมือเรียวเล็กทั้งสองข้างดันไว้กับเอวหนา สัมผัสของมือเรียวเล็กที่อยู่ตรงบริเวณซิกแพคของเขา ทำเอาร่างสูงสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่าน ไม่คิดว่าเพียงแค่มือน้อยๆของเธอสัมผัสมันกลับทำให้อารมณ์ของเขาพุ่งพล่านอย่างห้ามไม่ได้ " อ่าาส์ ดีชะมัด ของเธอตอดพี่แน่นจนพี่แทบจะไม่ไหวแล้ว " เขายังคงตอกอัดท่อนเนื้อเข้าไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อย ส่วนร่างบอบบางเองก็ทำได้แค่ผลักหน้าท้องของเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาโจนจ้วงเข้ามาลึกจนเกินไป เพราะแค่นี้เธอก็จุกจนพูดไม่ออกแล้ว ตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ!เสียงท่อนเนื้อกระทบกับร่องรักของร่างบอบบาง เรียกเสียงครางต่ำๆจากมาร์ตินได้ไม่น้อย เขาจับขาเธอยกออกจากการพาดไว้บนไหล่กว้าง แล้วเปลี่ยนให้เธอนอนตะแคงข้างพร้อมกับจับขาข้างหนึ่งของเธอยกขึ้นพาดไว้กับลำแขนแกร่งพร้อมกับตัวเขาที่เข้าไ
เมื่อเดินขึ้นมาถึงจนถึงหน้าห้องนอนของเนยหวานแล้ว มาร์ตินก็ใช้ให้เธอเปิดประตูและตัวเขาก็อุ้มเธอไปวางที่เตียงอย่างเบามือ ความอ่อนโยนบวกกับสายตาที่ส่งมาของเขาทำเอาเธอใจสั่นเข้าให้แล้ว" นอนเฉยๆได้ไหมคะ คืนนี้เนยไม่ไหวเมื่อคืนก็ยังระบมไปทั้งตัวไม่หาย พี่มาร์ตินไม่อ่อนโยนกับเนยเลยสักนิด " ร่างบอบบางทำสายตาอ้อนๆกระพริบตาปริบๆ หวังให้อีกฝ่ายเห็นใจ แต่ไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอมันเหมือนเป็นการกระตุ้นให้เขาเกิดอารมณ์สวาทมากยิ่งขึ้น สายตาเอยท่าทางเอย น่าฟัดชัดมัด " คืนนี้ฉันจะทำเบาๆ " เขายังคงหลอกล่อให้เธอเชื่อคนอย่าง มาร์ติน ไมโลเวอร์ ไม่เคยอ่อนโยนเรื่องบนเตียงอยู่แล้ว " ไม่เอาเนยไม่เชื่อ " " เอา! " เขาพูดเพียงแค่นั้นก็ก้มลงมาประกบจูบปากของเธออย่างเร่าร้อน โดยไม่ปล่อยให้เธอได้ต่อต้านอีกต่อไป เขายอมรับว่าทีแรกคิดถึงเธอจนนอนไม่หลับ เลยกะว่าจะลงไปเดินเล่นดับความฟุ้งซ่านของตัวเองสักหน่อย พร้อมกับหาอะไรดื่มแต่โชคดันเข้าข้างที่เห็นเธอยังไม่หลับไปเสียก่อนเขาจึงหาทางเข้ามานอนกอดเธอแบบนี้ " อื้อ...เนยยังปวดท้องอยู่เลยไว้วันหลังได้ไหมคะ " ส่วนร่างสูงที่พอผละจูบออกมาแล้ว เนยหวานก็รีบใช้โอกาสนี้บอ
เวลาผ่านไปค่อนคืน ร่างบอบบางที่นอนไม่หลับเพราะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ท้องไปหมดแล้ว เธอนอนปวดอยู่อย่างนี้ตั้งแต่หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้ว พอขึ้นมาข้างบนเธอก็ปวดท้องจนไม่เป็นอันทำอะไร ปกติเธอก็จะไม่ปวดมากขนาดนี้สงสัยคงเพราะไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้าแล้วตอนเย็นดันมากินเผ็ดมากๆอีก ร่างกายก็เลยเริ่มไม่ไหว " หิวชะมัดเมื่อไหร่จะเช้านะ " ร่างบอบบางเริ่มกำลังบ่นพึมพำกับตัวเองหลังจากที่คิดว่าจะอดทนจนถึงตอนเช้า ถึงจะไปทำข้าวต้มกินสักชาม แต่ดูเวลาตอนนี้ห้าทุ่มกว่าๆทุกคนคงจะเข้านอนกันหมดแล้วมั๊ง แล้วเธอก็ทนความหิวไม่ไหวอีกต่อไปจึงลงมาข้างล่าง พอเธอเปิดประตูห้องนอนก็มองซ้ายมองขวาปรากฏว่าห้องนอนของสามีหมาดๆของเธอนั้นปิดสนิท เขาอาจจะกำลังจู๋จี๋กับแฟนข้างในก็ได้ แต่ใครจะสนกันล่ะตอนนี้เธอสนใจแค่ท้องน้อยๆของเธอต้องอิ่มเท่านั้น คิดได้ดังนั้นก็รีบดิ่งลงไปที่ห้องครัวพร้อมกับเปิดตู้เย็นดูของสดตรงหน้าว่ามีอะไรพอจะทำกินได้บ้าง พอเห็นผักต่างๆยังคงเหลือจึงรีบเอามาทำผัดผักรวมมิตรใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีเธอก็ทำทุกอย่างจนเสร็จได้ผัดผักรวมมิตรพร้อมกับไข่เจียวหอมๆ เธอรีบตักข้าวแล้วนั่งกินในครัวนั่นเลย โดยไม่ได้สนใจ
เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนเย็น โดยที่เนยหวานไม่รู้เลยว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่ตอนไหน ตื่นขึ้นมาอีกทีท้องฟ้าข้างนอกก็มืดเสียแล้ว เธอรีบมองดูนาฬิกาในโทรศัพท์มือถือก็พบว่าตอนนี้ทุ่มกว่าแล้วจึงรีบล้างหน้าแล้วเดินลงมาข้างล่าง แต่เมื่อมาถึงก็เจอกับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่คาดคิด " เมียของคุณมาโน่นแล้วค่ะ " ผู้หญิงที่ชื่อนีน่าคนที่มาป่วนงานแต่งของเธอเมื่อคืนหนิ เธอจำได้ดี ว่าแต่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เนยหวานรีบเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างเงียบๆเพราะหากจะเดินหนีไปก็คงไม่ทันแล้ว มาร์ตินมองเห็นเธอเข้าแล้ว " นี่เธอกะจะนอนกินบ้านกินเมืองเลยหรือไงเนยหวาน งานบ้านก็มีไม่คิดจะมาทำช่วยนิ่มหน่อยหรอ " เขาดุเธอต่อหน้าของนีน่าทำให้เธอได้แต่ก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด เพราะเธอเผลอหลับไปนานมากจริงๆ แต่จะให้ทำไงได้ก็เธอเพลียมาก ส่วนนีน่าก็ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจที่มาร์ตินดุยัยนี่ต่อหน้าเธอ " ขอโทษค่ะต่อไปเนยจะไม่ทำอีก พี่นิ่มเนยขอโทษนะคะที่ไม่ได้ลงมาช่วย " " อุ๊ยไม่เป็นไรเลยค่ะคุณเนย งานบ้านไม่ได้มีอะไรมากนิ่มทำคนเดียวได้ค่ะ " นิ่มรีบปฏิเสธเป็นพัลวันเพราะความเกรงใจจะมาให้เจ้านายช่วยงานลูกน้องแบบนี้ได้ยังไง เธอทำค
ในเช้าวันใหม่บรรยากาศภายในห้องสวีทที่ถูกจัดเอาไว้เป็นห้องหอสำหรับคู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามัน ตอนนี้มาร์ตินได้ตื่นขึ้นมาแล้วพร้อมกับนอนมองหน้าของเธออยู่แบบนั้น เขาจัดท่าทางให้เธออยู่ในอ้อมกอดของเขาตั้งแต่เมื่อคืน เธอก็นอนหลับแบบไม่ไหวติง คงจะเพราะเหนื่อยล้ามาทั้งวัน พร้อมกับทบทวนกับตัวเองว่าควรจะเอายังไงต่อไปดี แต่ความคิดทางฝ่ายอาธรรมก็เอาชนะไปจนได้ เพราะแผนการที่เขากำลังจะทำเขายังคิดจะทำมันต่อ แม้ว่าเธอจะเป็นเมียของเขาโดยสมบูรณ์แล้วทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยความรัก ต่อจากนี้เขาจะทำให้เธอเจ็บทุกทางและขออย่าจากเขาไปเอง และแน่นอนการที่เธอเข้ามาหาเขาเป็นเพราะผลประโยชน์เพราะฉะนั้นช่วงเวลาหลังจากที่หย่ากันเธอจะไม่ได้อะไรจากเขาไปเลย ร่างบอบบางลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบกับเขาที่นอนมองเธออยู่ก่อนแล้ว " ตื่นแล้วหรอ ลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าซะสิเราจะต้องออกจากที่นี่กันแล้ว ฉันจะพาเธอไปอยู่ที่บ้านหลังนึงที่ฉันซื้อเอาไว้ " ร่างบอบบางคิดตามด้วยความงุนงง เมื่อคืนเขายังพูดกับเธอดีๆอยู่เลย แต่พอมาเช้านี้กลับทำเสียงแข็งพร้อมกับพูดอะไรก็ไม่รู้ " พี่มาร์ตินหมายความว่ายังไงคะ เราไม่ไ
ร่างบอบบางใบหน้าแดงซ่านไปด้วยความเขินอาย ก็เล่นมาถามเธอแบบนี้จะให้เธอตอบไปแบบไหนกันเล่า เขาไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เธอเขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ตาบ้านี่แพรวพราวชะมัด " ถ้าไม่ตอบฉันจะถือว่าเธอเสียวนะ " " อื้อ... " จบคำพูดของเขาก็ตามมาด้วยเสียงร้องครางระงมของร่างบอบบางเพราะเขาเล่นสอดนิ้วมือเข้าไปถึงสามนิ้วเพื่อเปิดทางให้เขาเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และชักเข้าชักออกแบบนั้นอยู่สักพักร่างบอบบางก็เริ่มกระตุก " เนยไม่ไหวแล้วค่ะ จะเสร็จ " เธอบอกเขาไปตามตรง เพราะตอนนี้มองเห็นสวรรค์รำไรอยู่ตรงหน้าแล้ว มีแค่เขาเท่านั้นที่จะช่วยเธอปลดปล่อยได้ " ปล่อยมันออกมาตามความต้องการเลยสาวน้อย แล้วเธอจะมีความสุข " กรี๊ดดด!!!เขารัวนิ้วมือเข้าออกจนเธอต้านทานไม่ไหวกรีดร้องออกมาอย่างสุขสม พร้อมกับปลดปล่อยน้ำหวานอาบนิ้วของเขามากมาย แล้วมาร์ตินแทนที่ผละออก แต่เขากลับก้มลงไปปาดเลียน้ำหวานของเธอดื่มกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ถ้าถามว่าเขาเคยทำแบบนี้กับใครไหม ตอบได้เลยว่าไม่ แล้วก็ไม่เคยคิดที่จะทำด้วย แต่พอเห็นน้ำหวานของร่างบอบบางตรงหน้านี้แล้วมันทำให้เขาอดใจไม่ไหวต้องลงไปฉกชิมจนหมดทุกอยาดหยดแบบนี้ " อื้อ...อย่