นางสายสุนีย์ต้องนอนดูอาการอยู่ที่รพ.ถึงสามวัน กว่าหมอจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ วันนี้กิตติยศขับรถยนต์มารับป้าสะใภ้และน้องสาวกลับบ้าน เพราะสายป่านติดต่อพ่อไม่ได้อีกตามเคย เธอถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ ที่พ่อไม่เคยเห็นแม่อยู่ในสายตาบ้างเลย
เมื่อแม่กลับถึงบ้านแล้ว เธอก็ดูแลแม่เป็นอย่างดี ส่วนพ่อเธอ หลังจากกลับมาบ้านก็ไม่ได้ถามไถ่อะไรลูกเมียตัวเองเลยสักคำ เดินขึ้นห้องส่วนตัวที่แยกกันนอนกับแม่ตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อน ก่อนที่แม่จะป่วยนั่นแหละ ดังนั้นอาการป่วยของแม่เธอก็คงไม่พ้นจากอาการตรอมใจแบบที่ใคร ๆ เขาพูดกัน เพราะแม่เองก็รู้ดีถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งของพ่อกับผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้น แต่แม่เลือกที่จะเงียบ และไม่ตอบโต้อะไร สายป่านก็ย้ายไปนอนกับแม่ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
“แม่คะ ตอนนี้หนูปิดเทอมแล้วนะคะ เดี๋ยวก็จะได้เรียนมหาลัยแล้ว หนูจะเรียนคณะบริหารธุรกิจเหมือนแม่ ดีไหมคะ”
สายป่านนอนหนุนตักมารดา ในขณะที่นางสายสุนีย์ยิ้ม พลางลูบหัวบุตรสาว สายป่านเป็นเด็กเรียนดี และขยันตั้งแต่เด็ก ๆ ใครๆ ก็เอ็นดูเธอ ปีนี้เธอเป็นสาวเต็มตัวแล้ว แถมรูปร่างหน้าตายังสะสวย สูงโปร่ง อกเอวสะโพกกลมกลึงสมส่วน ผิวขาวอมชมพูเหมือนแม่ เธอยิ้มสวย และเป็นคนพูดเก่ง ใครเห็นใครก็รักทั้งนั้น จะติดอยู่หน่อยก็ตรงนิสัยห้าวหาญ และไม่ยอมใคร จนทำให้นางสายสุนีย์ต้องคอยปรามลูกสาวคนเดียวของเธอบ่อยๆ
วันนี้สายป่านนัดกับเพื่อน ๆ ไว้ว่าจะไปดูมหาลัยที่หมายตากันไว้ว่าจะไปเรียนต่อกันที่นั่น เธอจึงนัดกับกลุ่มเพื่อนไปพร้อมๆ กัน หลังจากที่ดูรายละเอียดคณะที่จะเรียนกันแล้ว เธอก็ขอตัวกลับทันทีเพราะเป็นห่วงแม่ที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว โดยพ่อบอกว่ามีธุระด่วนอีกตามเคย ช่วงหลัง ๆ นี้พ่อเธอมักจะไปค้างที่ปางไม้บ่อย ๆ โดยอ้างว่างานยุ่ง แต่สายป่านเองก็รู้เหตุผลที่แท้จริงนั้นดี เพราะคนที่ปางไม้หูตายังกับสัปปะรด แถมปากยื่นปากยาวเสียยิ่งกว่าอะไรซะอีก ไม่ว่าพ่อจะทำอะไรก็มักจะมีพวกปากสว่างคาบข่าวมาบอกเป็นประจำ แต่เธอก็ยังคงเก็บเงียบไว้ ไม่ได้บอกอะไรให้แม่รับรู้
ในขณะที่เธอกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เธอมองที่หน้าจอเห็นชื่อกิตติยศก็รีบกดรับทันที
“ว่าไงคะพี่ยศ โทรเช็คป่านอีกแล้วนะ กำลังจะกลับแล้วค่ะ ไม่เถลไถลที่ไหนหรอกน่า”สายป่านกรอกเสียงตอบกลับไปยังปลายสาย เพราะวันนี้เธอฝากให้กิตติยศช่วยดูแม่แทนให้ ในระหว่างที่เธอไม่อยู่
“ป่าน .. ป่านอยู่ไหนรีบมารพ. ด่วนเลยนะ ป้าณีอยู่รพ.” กิตติยศบอกกับน้องสาว สายป่านตกใจมาก เธอรีบไปที่รพ.ทันที
ที่หน้าห้องฉุกเฉินของรพ. BKK สายป่านรีบวิ่งเข้ามาหากิตติยศที่นั่งรออย่างกระวนกระวายใจ เธอวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายแล้วถามถึงอาการของแม่ทันที
“เมื่อตอนกลางวันพี่เอาข้าวไปให้ป้าณี แกก็กินข้าวปกติ หลังจากนั้นพี่ก็เลยเก็บจานชามไปล้างในครัว อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงป้าณีร้องเรียกเลยวิ่งไปดู เห็นแกนอนอยู่ที่พื้นแล้วก็หมดสติไป พี่เลยรีบพาแกมารพ.นี่แหละป่าน” กิตติยศบอกน้องสาว
ในขณะที่ทั้งสองรออย่างใจจดใจจ่ออยู่นั้น สักพักหนึ่ง คุณหมอก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน สองพี่น้องรีบตรงเข้าไปหาหมอทันที
“ญาติคุณสายสุนีย์ใช่ไหมคะ” สองพี่น้องพยักหน้ารับคำ คุณหมอทำหน้าไม่สู้ดีนัก ทำให้สายป่านถึงกับใจหาย
“หมอไม่อยากต้องมาแจ้งข่าวแบบนี้เลย แต่ก็ต้องบอกญาติตามความเป็นจริงนะคะ คนไข้มีอาการหัวใจวายเฉียบพลันและหยุดหายใจก่อนหน้าที่จะมาถึงรพ.แล้วค่ะ หมอพยายามปั๊มหัวใจและช็อตไฟฟ้าช่วยแล้ว แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตคนไข้ให้กลับมาได้ หมอพยายามจนถึงที่สุดแล้วค่ะ เสียใจด้วยนะคะ ”
สายป่านยืนนิ่งไม่ไหวติง หัวสมองรู้สึกมันอื้ออึงและดูงง ๆ จับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก รู้แต่ว่าน้ำตาไหลออกมามากมาย สักพักเธอก็ร้องไห้โฮ แล้วล้มตัวลงนั่งร้องไห้อยู่กับพื้นทางเดินนั่น โดยมีกิตติยศกอดปลอบอยู่ไม่ห่าง
สายป่านพยายามติดต่อพ่อเพื่อทำเรื่องรับศพแม่กลับไปบำเพ็ญกุศล แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เธอจึงขอให้กิตติยศขับรถพาเธอไปที่ปางไม้ เพราะมั่นใจเหลือเกินว่าพ่อของเธอจะต้องอยู่ที่นั่นแน่นอน เมื่อรถขับมาจอดยังปางไม้ สายป่านก็เห็นรถของพ่อจอดอยู่ที่นั่นจริง ๆ เธอรีบเปิดประตูรถ และเดินดุ่ม ๆ ไปที่บ้านพักของปางไม้ทันที โดยมีกิตติยศกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามไป เมื่อถึงบ้านพัก เธอเห็นพ่อกับวิไลรัมภากำลังนั่งคุยกันอยู่ โดยที่ผู้หญิงหิวเงินคนนั้นกำลังนั่งตักของพ่อเธอ เมื่อหล่อนเห็นสายป่านเดินเข้ามาก็แกล้งทำเป็นไม่เห็น และออดอ้อนพ่อของเธอต่อไป สายป่านเดินเข้าไปกระชากผมของวิไลรัมภาอย่างแรง จนร่างนั้นเซถลาลงพื้น นายปิยะเวชผู้เป็นพ่อรีบถลันเข้าไปช่วยประคองชู้รัก และต่อว่าลูกสาวทันที
“แกเป็นบ้าอะไรฮะ !! ยัยป่าน”
พ่อตะคอกเธอเสียงดัง พลางประคองชู้รักยืนขึ้น วิไลรัมภาแกล้งทำเป็นเจ็บเพื่อเรียกร้องความสนใจ จนสายป่านถลันเข้าไปทำท่าจะตบอีกฝ่าย จนกิตติยศต้องเข้าไปรวบตัวน้องสาวเอาไว้
“พ่อ .. พ่อรักมัน ปกป้องมัน พ่อรู้ไหม แม่ตายแล้ว แม่ตายแล้วได้ยินไหม สมใจพ่อรึยัง ฮือๆๆๆ”
สายป่านทิ้งตัวลงร้องไห้ที่พื้นอย่างหมดแรง หัวใจเธอเจ็บเหมือนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เธอก้มหน้าร้องไห้สะอื้นไม่หยุด นายปิยะเวชเข้ามากอดปลอบลูกสาวไว้ด้วยความสงสาร โดยมีวิไลรัมภายืนยิ้มอย่างสะใจอยู่ข้าง ๆ
งานศพของนางสายสุนีย์ได้ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สายป่านเองยังคงทำใจไม่ได้กับการสูญเสียในครั้งนี้ เมื่อไม่มีแม่แล้ว เธอก็เหมือนอยู่ตัวเดียว ในช่วงแรกตอนที่แม่เสียใหม่ ๆ พ่อก็ยังอยู่ที่บ้านกับเธอทุกวัน และนอนที่บ้านทุกคืน แต่พอเวลาผ่านไปได้ราว ๆ สักสองสัปดาห์ พ่อก็เริ่มไม่กลับบ้าน แต่สายป่านไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะอย่างน้อยเธอก็ยังมีกิตติยศ ที่ยังคอยมาดูแลเธออยู่เสมอ
16 ปีผ่านไป@มาร์ตินกรุ๊ป ประเทศไทยก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นก่อนที่จะถูกเปิดออกโดยหญิงสาวลูกครึ่งหน้าตาสะสวย เธอก้าวเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูลง ร่างสูงหุ่นดีในชุดนักศึกษาเดินตรงเข้ามาหาชายหนุ่มรูปหล่อที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน"เฮียฟาขาาาาา" เสียงหวานของเธอเอ่ยเรียกชายหนุ่มพร้อมกับทิ้งสะโพกลงนั่งตักแกร่งของเขาทันที"แอลลี่ เฮียบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำแบบนี้ ตอนนี้เธอโตเป็นสาวอายุยี่สิบสองแล้ว ไม่ใช่เด็กสองขวบเหมือนเมื่อก่อนนี้นะ" ฟาเบียนบอกแอลลี่พร้อมกับจับเอวคอดให้ลุกขึ้นจากตักแกร่ง"เฮียฟาดุอีกแล้ว แอลลี่น้อยใจนะคะ" หญิงสาวลุกขึ้นยืนทำหน้ายู่ใส่ชายหนุ่ม"เฮียไม่ได้ดุแอลลี่นะ แต่มันไม่เหมาะจริงๆ" ฟาเบียนถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน แอลลี่ติดเขาแจตั้งแต่ตอนเป็นเด็กจนตอนนี้เธอเป็นสาวอายุยี่สิบสองปี ส่วนเขาอายุจะยี่สิบห้าปีแล้ว แต่เธอก็ยังติดเขาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน"แหม!!! เด็กมันยั่วขนาดนี้ เฮียก็น่าจะสงเคราะห์สักหน่อย จะได้สมใจ" เสียงฟาบริซเอ่ยขึ้นหลังจากที่เมื่อสักครู่เขาคุยงานกับพี่ชายและขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แต่พอออกมาก็เห็นคู่ปรับตลอดกาลอย่างแอลลี่ กำลังออดอ้อนพี่ชายของ
สามปีต่อมา ณ.คฤหาสน์แอลตันวันนี้เป็นวันเกิดอายุครบสามขวบของน้องไอด้า ลูกสาวคนที่สองของแด๊ดแอลตันกับมัมป่าน ทั้งสองครอบครัวจึงตกลงกันไว้ว่าจะจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดพร้อมกับเป็นวันรวมญาติของทั้งสองครอบครัวไปด้วยกันเลย เพราะนานๆ ทีจึงจะมีโอกาสได้พบเจอกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาสักที โดยงานนี้คุณปู่ปิแอร์บินมาจากฝรั่งเศส คุณตาเวทย์ และคุณลุงกิตติยศของน้องไอด้าก็ได้มาร่วมงานด้วยส่วนครอบครัวมาร์ติน นอกจากแด๊ดเซดริกกับมัมรินทร์แล้วก็ยังมี คุณปู่โนแอลคุณย่ามาริสา พร้อมกับเออเนสและปฏิญญาที่พาน้องเอเรสลูกชายวัยขวบครึ่ง บินมาจากฝรั่งเศสด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนคุณยายวิมาลา คุณยายปทุมมาศ และน้าปริญ ก็เดินทางมาร่วมงานนี้ด้วยครบทุกคนสายป่านเลือกจัดงานที่บริเวณสวนหย่อมขนาดใหญ่ด้านหลังของคฤหาสน์ เพราะเด็กๆ จะได้วิ่งเล่นกันได้โดยไม่อึดอัด ส่วนอาหารถูกสั่งมาจากโรงแรมทั้งหมดเพื่อความสะดวกสบาย เพราะตอนนี้สายป่านตั้งท้องลูกคนที่สาม อายุครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว โดยท้องนี้แด๊ดแอลตันได้ลูกชายสมใจ ซึ่งทำให้มัมป่านพลอยโล่งอกโล่งใจไปด้วย เพราะไม่อย่างนั้นเธออาจจะต้องรับหน้าที่เป็นแม่พันธุ์ให้สามีจนกว่าจะได้ลูกชาย นับว่า
3 ปีต่อมาณ.คฤหาสน์มาร์ติน "หิวกันมั้ยคะเด็กๆ มาเร็ว มาทานขนมกับน้ำหวานกันก่อนลูก" เสียงมัมรินทร์เรียกลูกๆ ทั้งสามคนของเธอเอง พร้อมกับอุ้มน้องแอลลิต้าหรือน้องแอลลี่วัยสองขวบครึ่ง ลูกสาวของแด๊ดแอลตันกับมัมสายป่าน เข้ามาทานขนมกับพี่ๆวันนี้เป็นวันนัดตรวจครรภ์ของสายป่าน อีกไม่ถึงสองเดือนสายป่านก็จะครบกำหนดคลอดลูกคนที่สองแล้ว แอลตันจึงพาสายป่านไปหาหมอ มัมรินทร์กับแด๊ดเซดริกจึงต้องรับหน้าที่เลี้ยงหลานสาวตัวน้อยให้ในทุกครั้งที่คุณหมอนัดตรวจครรภ์ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะน้องแอลลี่เลี้ยงง่ายมากๆแด๊ดเซดริกเดินจูงมือน้องเซลีนวัยสามขวบครึ่ง มาที่โต๊ะยาว ที่มีทั้งขนมและน้ำหวานคอยท่าอยู่ โดยมีเด็กชายฟาเบียนวัยห้าขวบและเด็กชายฟาบริซ วัยสี่ขวบ กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหลังมาติดๆ"หาเฮียฟา"เสียงน้องแอลลี่พูดอ้อแอ้พร้อมกับขยับมือไหวๆ จะลงจากอ้อมกอดไปหาฟาเบียนเสียให้ได้ จนมาลารินทร์ต้องรีบวางน้องแอลลี่ลง เด็กน้อยจึงรีบเดินเข้าไปหาฟาเบียนหรือ "เฮียฟา" ของเธอทันทีฟาเบียนอุ้มน้องแอลลี่ขึ้นนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับจุ๊บพวงแก้มยุ้ยนั้นอย่างรักใคร่"มาๆ ขอพี่หอมแก้มบ้าง" ฟาบริซเดินเข้าไปหาเด็กสาวตัวกลมแต่เธอกลับดิ้
สองเดือนต่อมา สายป่านกับแอลตันมาที่เวดดิ้งสตูดิโอตั้งแต่เก้าโมงเช้า เพราะวันนี้มีนัดลองชุดแต่งงานเพื่อใช้ สำหรับวันแต่งงานที่ถูกกำหนดไว้ในเดือนหน้า และนัดลองชุดที่จะต้องใช้ในการใส่ถ่ายพรีเวดดิ้งที่จะเริ่มถ่ายในอีกสามวันข้างหน้าด้วย ซึ่งทั้งสองคนเลือกถ่ายรูปนอกสถานที่ทั้งหมดสามที่ ซึ่งสายป่านเป็นคนเลือกธีมและสถานที่เองทั้งหมดโดยแอลตันนั้นก็ตามใจเมียรักของเขาทุกอย่างสายป่านเลือกธีมแรกเป็นเจ้าหญิงแอเรียลกับเจ้าชายอีริคโดยเธอลือกใช้โลเคชั่นชายทะเลที่รีสอร์ตสวยของมิกกี้ที่เกาะสีชัง ส่วนธีมที่สองเป็นธีมหนุ่มสาวล้านนาโดยเลือกใช้โลเคชั่นสวนดอกไม้สวยที่เชียงใหม่ และธีมสุดท้ายคือธีมของหนุ่มสาวชาวสวนที่ใช้โลเคชั่นที่ปางไม้ของเธอและสวนผลไม้ของกิตติยศกว่าจะลองชุดเสร็จเรียบร้อยก็เป็นเวลาเกือบบ่ายโมง สายป่านชวนแอลตันแวะที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อหาซื้อของสดเข้าบ้าน เพราะวันนี้ครอบครัวเธอมีนัดทานอาหารเย็นกับครอบครัวของมาลารินทร์ที่คฤหาสน์แอลตัน หลังจากที่ซื้อของเสร็จแล้วทั้งสองหนุ่มสาวก็เดินทางกลับคฤหาสน์แอลตันทันทีสายป่านจัดเตรียมของเข้าครัวเพื่อเตรียมไว้สำหรับอาหารเย็นของพวกเธอและหลานๆ ส่วนแอลตันไม
แอลตันคลายอ้อมกอดออกจากแฟนสาว แล้วใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาออกจากใบหน้าของสายป่าน เขากุมมือของเธอไว้บนตัก"พี่มีของขวัญแต่งงานให้หนูด้วยนะ" แอลตันบอกกับสายป่าน"ของขวัญแต่งงาน? เรายังไม่ได้แต่งงานเลย มีของขวัญให้แล้วเหรอคะคุณสามีสายเปย์" สายป่านเอ่ยแซว"ของขวัญแต่งงานล่วงหน้าไงครับ" แอลตันตอบยิ้มๆ"ตัวเล็กว่าคฤหาสน์หลังนี้เป็นยังงัยบ้างครับ""สวยมากเลยค่ะ""แล้วชอบไหมล่ะ""ก็ชอบค่ะ""พี่ดีใจที่ตัวเล็กชอบนะ ถ้าอย่างนั้นเราย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่กันเลยไหม?" สายป่านทำหน้างง เมื่อได้ยินคำถามนี้จากเขา"หมายความว่ายังงัยคะพี่แอล""ก็หมายความว่าคฤหาสน์นี้เป็นของเราไง พี่ตั้งใจสร้างไว้ใกล้กับคฤหาสน์มาร์ติน หนูกับน้องรินทร์จะได้อยู่ใกล้ๆ กัน แล้วพี่ก็ตั้งใจจะใช้เป็นเรือนหอของเราด้วยครับ""พี่แอลพูดจริงเหรอคะ" สายป่านถามพร้อมกับน้ำตาที่รื้นขึ้นมาอีกครั้ง"จริงสิครับ ความจริงพี่อยากขอหนูแต่งงานนานแล้ว แต่อยากหาที่อยู่ให้มั่นคงก่อน เพราะพี่เพิ่งบินมาอยู่ไทยได้ไม่กี่ปี ก่อนมีหนูพี่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องที่อยู่มากนัก แต่พอเราจะแต่งงาน จะมีลูกก็ต้องเตรียมพร้อมล่วงหน้าสักหน่อย พี่ขอโทษนะครับที่ขอแต่งงานช้าไป ทำให้ห
@คฤหาสน์มาร์ติน แอลตันลงจากรถหรูแล้วเดินเข้ามายังคฤหาสน์ เขาเดินตรงมายังห้องอาหารทันที เพราะรู้ดีว่าเวลานี้เป็นเวลาอาหารเช้าของที่นี่"แด๊ดแอวววค้าบบบ" เสียงฟาบริซร้องตะโกนอย่างดังพลางวิ่งเตาะแตะมาหาแอลตันทันที ใบหน้าของเด็กน้อยเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม แอลตันอุ้มร่างเล็กของหลานชายแล้วหอมแก้มตุ่ยฟอดใหญ่ เขาอุ้มฟาบริซเดินไปยังโต๊ะอาหารที่ทุกคนกำลังนั่งกันอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา"อ้าว..ไอ้แอล มาๆ กินข้าวด้วยกัน" เซดริกเอ่ยชวนเพื่อนรัก แอลตันนั่งลงทานข้าวต้มและป้อนข้าวต้มให้หนูน้อยฟาบริซที่นั่งอยู่บนตัก จนฟาบริซกับฟาเบียนทานอาหารเสร็จแล้ว พี่เลี้ยงก็พาเด็กๆ ไปห้องนั่งเล่น เพื่อให้พวกผู้ใหญ่ได้คุยกันโดยสะดวก"วันนี้เป็นวันหยุด มึงมีอะไรด่วนถึงได้มาแต่เช้าวะ""กูมาดูบ้านกูไง เมื่อไรจะตกแต่งเสร็จวะ มึงเร่งให้กูรึยัง" แอลตันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง"กูเร่งให้มึงแล้ว ทางช่างเขาก็บอกอยู่ว่าไม่เกินสองอาทิตย์ คฤหาสน์มึงอย่างใหญ่เลยนะ แถมเฟอร์นิเจอร์ก็นำเข้าเกือบทั้งหมดอีก มึงจะไม่ให้เวลาเขาหน่อยรึไง"เซดริกตอบเพื่อนพลางส่ายหัวให้กับความใจร้อนของแอลตัน เพราะอยู่ๆ เมื่อกลางปีที่ผ่านมาแอลตันมาขอซื้อที่ดิ