Share

ตอนที่10

last update Last Updated: 2025-01-02 21:29:27

16:00น.

คาเฟ่A

ไอริส อันฤดี…..

“คุณแม่….สวัสดีค่ะ…”ฉันยกมือไหว้สวัสดีคุณแม่ของลูกหว้าด้วยท่าทางเคารพท่านที่ท่านยืนประจำตำแหน่งเคาน์เตอร์ของร้านแทนที่ของยัยลูกหว้าที่เธอจะต้องยืนประจำอยู่ทุกวัน

“อ้าว…หนูไอสวัสดีจ้า^_^”คุณแม่ของลูกหว้ารับไหว้ฉัน ฉันก็ยิ้มให้ท่าน ฉันสนิทกับท่านเพราะฉันจะมาหายัยลูกหว้าเป็นประจำแต่วันนี้กลับแปลกไปที่เธอหายไปไหนไม่ได้มาทำงานหน้าเคาน์เตอร์ของเธอเหมือนทุกที

“ยัยลูกหว้านอนอยู่บนห้องน่ะจ้ะ…หนูจะขึ้นไปหาไหม?”

“ลูกหว้าไม่สบายเหรอคะ?”

“น่าจะทำนองนั้นจ้ะ…หนูไอเดินขึ้นไปหาเลย…”

“ได้ค่ะแม่…ขอบคุณนะคะ…”

“จ้า^_^”ฉันยกมือไหว้ลาคุณแม่ของลูกหว้าและเดินหมุนทิศทางไปยังบันไดที่อยู้ด้านหลังของห้องครัวเพื่อจะขึ้นไปหายัยลูกหว้า

บ้านของเธอด้านล่างถูกเปิดเป็นคาเฟ่ส่วนด้านบนเป็นที่พักอาศัยของลูกหว้าและแม่ของเธอ ฉันที่มาบ้านของเธอบ่อยจึงรู้ว่าห้องของลูกหว้าอยู่ตรงไหนจึงรีบมุ่งเดินไปหาเธอด้วยความเป็นห่วง

ก๊อกกกกก

“ลูกหว้า”ฉันเคาะประตูและเอ่ยเรียกชื่อของเจ้าห้องไปด้วย แต่ก็ไร้การตอบกลับได้ยินแต่เสียงของโทรทัศน์ดังแว่วออกมา

“เราเข้าไปนะ…”ฉันเอ่ยบอกเธอและเอื้อมมือไปหมุดประตูลูกบิดและเปิดเข้าไปเลย ก็เห็นยัยลูกหว้ากำลังนั่งร้องห่มร้องไห้อยู่บนเตียงนอนสีขาวของเธอ สายตาของเธอจับจ้องไปที่หน้าจอโทรทัศน์จอแบนขนาดสามสิบเมตรที่กำลังฉายภาพการแสดงคอนเสิร์ตของวงอะไรสักวงและก็มีคนกำลังพูดว่าลาออกจากวงนั้นยิ่งทำให้ยัยลูกหว้าร้องไห้หนักมากขึ้นไปกว่าเดิมอีก มันเศร้าตั้งแต่เมื่อคืนที่ฉันโทรให้มันไปรับฉันที่สวนสาธารณะแล้ว

และนี่วันใหม่แล้ว ยังไม่เลิกเศร้าโศกเสียใจอีกเหรอ

“ฮืฮๆๆๆๆๆๆ”

“แกเป็นอะไรยัยลูกหว้า?”ฉันเอ่ยถามลูกหว้าไปอย่างตกใจและรีบร้อนไปจับร่างของเธอ

พรึบ

“ยัยไอ….ก็ท่านไดร์ฟของฉันน่ะสิ…อยู่ดีๆก็ประกาศลาออกจากวง…”

“ฮืฮๆๆๆๆเพราะอะไร….ใครทำอะไรไดร์ฟของฉัน!!”เธอเอ่ยออกมาเสียงเข้มแววตาดุดันอย่างไม่พอใจ ฉันก็มองไปยังในจอโทรทัศน์และมองหน้าคนที่ยืนอยู่ตรงกลางเวทีด้วย หน้าตาของเขาหล่อเหลาผิวขาวเปล่งออร่าแต่แววตาเศร้าสร้อยและการแต่งตัวที่เหมือนกันกับผู้ชายคนเมื่อคืนนี้

“เขาลบบัญชีไอจีของเขาทิ้ง…”

“ลบบัญชีทวิตเตอร์”

“ลบทุกอย่างที่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเขาได้….”

“ฮืฮๆๆๆๆ”ยัยลูกหว้าพร่ำเพ้อพร้อมร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วง หน้าตาของเธอบวมแดงขอบตาแดงช้ำจนน่าสงสารฉันก็ทำได้เพียงแค่กอดปลอบโยนเธอและลูบแผ่นหลังของเธอไปอย่างทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว

ไดร์ฟแห่งTHE PRINCEคือผู้ชายคนเมื่อคืนเหรอ เจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้ใช่ไหมคือคนที่วิ่งชนฉันและทำโทรศัพท์ของฉันแตก ดูจากอาการของเขาแล้ว เขาน่าจะเป็นโรคซึมเศร้านะ

“ไดร์ฟ…เปลี่ยนไปจากเดิมใช่ไหม?”ฉันเอ่ยถามลูกหว้าไป เธอก็ค่อยๆดันร่างของเธอออกไปจากอ้อมกอดฉัน

“สูดดด…ใช่…หลังๆมาไดร์ฟออกสื่อน้อยมาก…พูดก็น้อยลง…”ลูกหว้าสูดขี้มูกเอามือเช็ดน้ำตาของเธอก่อนจะเอ่ยตอบฉันมา ฉันก็มองหน้าเธออย่างรอฟังคำพูดของเธอต่ออย่างตั้งใจฟัง

“ไม่โพสต์เพลง…หรืออะไรเลย…ซึ่งมันผิดแปลกไปจากเดิมของเขามาก”

“เขาอาจจะกำลังป่วยอยู่ก็ได้….”ฉันโผงออกไป ลูกหว้าก็จ้องฉันตาเขม่นอย่างไม่เชื่อในคำพูดของฉัน

“ไม่จริงหรอก….ถ้าไดร์ฟป่วย…ทางต้นสังกัดคงจะแจ้งข่าวไปแล้ว…”เธอเถียงฉันกลับอย่างมีเหตุผล นั่นน่ะสิ ถ้าเขาป่วยจริง ก็คงจะเป็นข่าวไปแล้วสิ แต่ฉันมั่นใจว่าอาการของเขา เป็นอาการของคนที่ป่วยเป็นซึมเศร้าแน่ๆ

“เมื่อกี้ฉันฟัง…เขาบอกว่ามันเป็นแค่คอนเท้นต์และเดี๋ยวเขาจะจัดคอนเสิร์ตให้กับผู้ที่ซื้อบัตรเมื่อวานนี้ได้เข้าชมอีกครั้ง…แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่….”เสียงของลูกหว้าเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าลงปะปนไปกับอาการโล่งใจ บางทีฉันไม่ควรจะพูดในสิ่งที่ฉันรู้ไม่จริงจะดีกว่า เดี๋ยวจะทำให้ไดร์ฟเสียชื่อเสียงไปมากกว่านี้

เพราะทางต้นสังกัดเขาแถลงข่าวแบบนั้น ก็คงจะมีเหตุผลอะไรบางอย่างแหละ ฉันไม่ควรเข้าไปยุ่งดีกว่าเพราะมันไม่ใช่เรื่องของฉันหนิเนอะ

“แกชอบไดร์ฟมากเลยเหรอ?”ฉันเอ่ยถามลูกหว้าไปพลางมองไปรอบๆห้องนอนของเธอที่มีรูปภาพของไดร์ฟติดอยู่ทั่วทุกมุมผนังของห้อง

รวมไปถึงกรอบรูปที่มีแต่รูปภาพของไดร์ฟวางอยู่ทั่วทุกมุมของห้องอีกด้วย ฉันก็ว่าแล้วว่าทำไมหน้าเขาดูคุ้นๆเหมือนฉันเคยเห็นที่ไหนก็จะไม่ให้ฉันเห็นบ่อยได้ไงก็ยัยลูกหว้าคลั่งไคล้ไดร์ฟมากขนาดไหนน่ะ

ถ้าฉันบอกเธอว่าเบอร์ที่ฉันใช่โทรหาเธอเมื่อคืน คือเบอร์โทรศัพท์ของไดร์ฟราชาแห่ง THE PRINCEน่ะมีหวังยัยลูกหว้าช็อคตายคาบ้านเธอแน่

“ใช่….”

“เขาหล่อหนิเนอะ…”ฉันว่าต่อ

“ความหล่อของไดร์ฟก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ฉันชอบเขามาก….แต่ที่ตกหลุมรักแบบถอนตัวไม่ขึ้น…”

“คือไดร์ฟมีความสามารถและความขยันความอดทนมากเขาแข่งขันและทุ่มเทกับเพลงแร็พและเพลงร็อคจนสามารถชนะและได้เดบิวต์มาเป็นสมาชิกหนึ่งในวง THE PRINCE…ได้….”ลูกหว้าว่าไปพลางยิ้มกว้างไปด้วยแววตาที่เธอพูดถึงไดร์ฟดูเป็นประกายแวววาวเหมือนเด็กสาวที่ตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่ง นี่ฉันได้พล็อตนิยายอีกแล้วเหรอเนี่ย ศิลปินกับแฟนคลับของเขาอิอิ^^

“แกยิ้มแบบมีเลศนัยแบบนี้?”ยัยลูกหว้าหรี่ตามองหน้าฉันอย่างจับผิด

“อะไรยะ?”ฉันถามยัยลูกหว้ากลับทีี่เธอชี้หน้าฉันและจับทางฉันได้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่

พรึบ

“ฉันนึกขึ้นได้ว่าต้องเข้าไปที่สำนักพิมพ์…ฉันไปก่อนนะ…”

“ไว้เจอกัน….”ฉันเอ่ยออกมาอย่างรีบร้อนและลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเป้ของฉันเพื่อจะหนีจากแววตาจับผิดของยัยลูกหว้า มีหวังยัยลูกหว้ารู้ว่าฉันกำลังจะเอาเรื่องราวของเธอที่ตกหลุมเมนตัวเองไปเขียนเป็นนิยายน่ะมีหวังมันเอาฉันตายแน่

“บ๊ายยยยย”ฉันโบกมือลายัยลูกหว้าและรีบวิ่งออกจากห้องของเธอมาอย่างไว ฉันสวัสดีคุณแม่ของลูกหว้าและรีบวิ่งออกมาจากร้านคาเฟ่ของยัยลูกหว้าทันทีเพื่อจะไปหาสถานที่เงียบๆเพื่อนำจินตนาการของฉันเป็นตัวอักษร^_^

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อรักเดินทางมาเจอกัน   ตอนที่50

    เซฟเฮ้าส์ของไดร์ฟ…. 20:30น.ไอริส อันฤดี…..พรึบเพลี๊ย“โอ้ย!”ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บและคันขาทั้งสองข้างของตัวเองไปหมด นี่ฉันนั่งตบยุงที่มาดูดเลือดฉันตายไปกี่พันตัวแล้วหนิ!และที่ฉันเจ็บเพราะฉันตบขาตัวเองตรงที่โดนยุงกัดแรงไปน่ะสิ เวรกรรมๆแท้ๆๆเลย“เมื่อไหร่ไดร์ฟจะกลับมานะ….?”ฉันพึมพำขึ้นอย่างสงสัยและค่อยๆชะโงกหน้าเข้าไปมองในกระจกห้องนอนของไดร์ฟที่ตอนนี้ไปในห้องมืดมิดและดูเหมือนจะไม่มีคนอยู่เลย การ์ดชุดดำที่เคยเฝ้าตามจุดต่างๆตอนที่ฉันมาอยู่ที่นี่ครั้งแรกก็ไม่มีแล้ว “หรือ….ไดร์ฟจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วนะ…”ฉันพึมพำอีกครั้งอย่างคนที่ใจเสียเพราะมันเงียบเกินไป ถ้าไดร์ฟอยู่ที่นี่มันต้องมีคนเดินไปเดินมาบ้างแหละ ป้าแม่บ้านไง“เอ่อใช่!”ฉันว่าอย่างนึกขึ้นได้ก่อนลุกขึ้นยืนทันที ฉันมานั่งโง่ให้ยุงกินเลือดอยู่ได้ไงเนี่ยตั้งนานสองนานตึกๆๆๆๆออดดดดดดดดดดเมื่อฉันนึกได้ว่าฉันพอจะรู้จักป้าแม่บ้านและป้าแม่บ้านก็พอจะรู้จักฉันอยู่บ้าง ฉันก็เดินมากดกริ่งหน้าประตูทางเข้าเซฟเฮ้าส์ทันที ตอนนี้ฉันอยู่ในตัวของบ้านหลังใหญ่นี้แล้วนะ ฉันแอบปีนรั้วเข้ามาก่อนน่ะ นึกว่ามีการ์ดชุดดำอยู่เยอะเหมือนเมื่อก่อนที่ไหนกล

  • เมื่อรักเดินทางมาเจอกัน   ตอนที่49

    2วันต่อมา…. คาเฟ่Aไอริส อันฤดี….พรึบ“ไอ….”“ยัยไอ…”“ไอริส!!!”“ห๊ะ!”ฉันร้องเสียงหลงพร้อมกับสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆยัยลูกหว้าก็มาตะโกนใส่หูของฉัน พรึบ“มีอะไรลูกหว้า…?”ฉันหันไปถามเธอพลางยกมือขึ้นมาจับหูตัวเองไปด้วยเพราะฉันรู้สึกแสบเเก้วหูเหลือเกินก็ยัยลูกหว้าเล่นตะโกนใส่หูฉันซะเสียงดังขนาดนั้น“แกนั้นแหละ…เป็นไร….เห็นนั่งเหม่อมาสองวันแล้ว..?”ลูกหว้าทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับฉันพลางมองหน้าฉันและเอ่ยถามฉันด้วยความเป็นห่วง ฉันก็มองหน้าเธอด้วยแววตาสั่นไหวและเศร้านิดๆ ก็ตั้งแต่วันนั้นที่ไดร์ฟมาหาฉันที่คาเฟ่ลูกหว้าเขาก็ไม่เคยโทรหาฉันอีกเลย ฉันทักไลน์ไปก็อ่านแต่ไม่ตอบอะไรกลับมา โทรไปไดร์ฟก็ตัดสายฉันทิ้ง“ทำอย่างกับคนอกหัก…”ลูกหว้าว่าพลางดูดน้ำส้มในแก้วของเธอด้วยท่าทางมีจริต ฉันก็ไว้อาลัยให้กับชุดของเธอวันนี้ ฉันไม่รู้ว่าเป็นชุดหรือผ้าสีที่เขาใช้ผูกกันตามต้นไม้เพื่อขอเลขเด็ดกันแน่ หลายสีซะ“นี่…ตกลงแกกับท่านไดร์ฟเป็นอะไรกัน?”ลูกหว้าเอ่ยถามฉันเสียงเเข็งอย่างคาดคั้นเอาคำตอบจากฉันหลังจากที่เธอดื่มน้ำส้มในแก้วของเธอหมดไปครึ่งแก้วแล้ว ฉันก็มองหน้าลูกหว้าพร้อมกับถอนหายใจ

  • เมื่อรักเดินทางมาเจอกัน   ตอนที่48

    “มาได้ไงเนี่ย?”ฉันถามไดร์ฟไปอย่างสงสัยในขณะที่เราทั้งคู่กำลังเดินตามหลังของธามไฟท์เพื่อนของไดร์ฟที่อุ้มร่างที่ไร้สติของยัยลูกหว้าด้วยท่าเจ้าหญิงเพื่อพาเธอไปนอนพักยังที่ห้องนอนของเธอ “ตามเสียงหัวใจมา…หาจนเจอ^_^”ไดร์ฟตอบเสียงสดใสพร้อมยิ้มกว้าง ฉันก็ส่ายศีรษะไปมากับความทะเล้นของไดร์ฟ“ฉันถามจริงๆ!”“อ่ะๆๆไม่เห็นต้องอารมณ์เสียเลย^_^”ไดร์ฟว่าพร้อมกับยื่นมือมาลูบต้นแขนของฉันให้ฉันใจเย็นลง“ฉันตามจีพีเอสโทรศัพท์เธอมา^_^”ไดร์ฟตอบเสียงใสพร้อมกับยกหน้าจอโทรศัพท์ของเขาที่มีรูปหน้าของฉันกับรูปหน้าของไดร์ฟปรากฏอยู่บนหน้าจอสาร์ทโฟนเครื่องหรู โดยบอกที่ตั้งตำแหน่งเสร็จสรรพพร้อม“นี่นายแอบเอาโทรศัพท์ฉันไปเชื่อมกับโทรศัพท์ของนายหรือไง?”ฉันถามเสียงเเข็งอย่างไม่ค่อยพอใจไดร์ฟเท่าไหร่ ที่เขาแอบแชร์โลเคชั่นและแอบตามติดว่าโทรศัพท์ฉันอยู่ที่ไหน นั่นก็หมายความว่าไม่ว่าฉันจะไปที่ไหน ไดร์ฟก็สามารถรู้หมดเลย“ก็ฉันเอาไว้ดูเวลาคิดถึงเธอ…จะได้ตามมาหาถูกไง^_^”คำตอบของไดร์ฟทำให้ฉันถึงกับต้องเปลี่ยนสีหน้าทันที หัวใจก็พองโตเต้นตึกตักมาดื้อๆซะอย่างงั้น ความโกรธก่อนหน้านี้หายไปหมดเลย“^_^”ไดร์ฟยิ้มให้ฉันก่อนจะเอื้อมมือมา

  • เมื่อรักเดินทางมาเจอกัน   ตอนที่47

    16:30น. คาเฟ่Aไอริส อันฤดี……..พรึบ“นี่แก….”“ว่า?”ฉันขานรับพร้อมกับหันไปมองหน้าลูกหว้าที่ตอนนี้เธอกำลังง่วนอยู่กับการเก็บของตรงหน้าเคาน์เตอร์ที่ประจำของเธอเพราะเวลานี้เป็นเวลาเย็นแล้ว ลูกค้าก็ไม่มีแล้วและอีกสักพักก็ถึงเวลาปิดร้านของลูกหว้าแล้วด้วย วันนี้คุณแม่ของลูกหว้าและลูกน้องในร้านไปเปิดบูธที่ห้าง เลยเหลือแค่ยัยลูกหน้าเฝ้าร้านคนเดียว โดยมีฉันมาอยู่เป็นเพื่อนเธอและยังคอยเป็นเด็กเสิร์ฟให้เธออีกด้วย ในตอนที่ลูกค้าเยอะๆน่ะ“แกไม่สบายเหรอ?”ลูกหว้าเดินดุ่มๆมานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับฉันพร้อมกับใบหน้าที่สงสัยและจับผิดฉันสุดๆที่ฉันใส่ผ้าปิดปากสีชมพูเพราะปกปิดริมฝีปากที่บวมเจ่อของฉันที่โดนไดร์ฟจูบไม่พักไปเมื่อคืนน่ะสิพูดแล้วโมโห!!!“อืม…แค่เจ็บคอน่ะ…ฉันกลัวว่าแกจะติดไปด้วย…”“เลยใส่แมสกันไว้เพื่อความปลอดภัย^_^”“จริงเหรอ?”ลูกหว้ามองหน้าฉันด้วยสายตาไม่เชื่อ เอาแล้วไง ฉันยิ่งเป็นคนที่โกหกไม่เนียนอยู่ด้วย“ก็อีกไม่กี่วันจะคอนเสิร์ตแล้ว….กลัวแกเจ็บคอและไม่มีเสียงกรี๊ดอ่ะ…”ฉันเลยหาข้ออ้างโดยใช้งานคอนเสิร์ตของวงเดอะปรินซ์ที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี่มาเพื่อแสดงความเป็นห่วงเป็นใย

  • เมื่อรักเดินทางมาเจอกัน   ตอนที่46

    วันต่อมาห้องประชุม ค่ายTEชั้นที่20ไดร์ฟ ดรัณภพ….พรึบ“วันนี้ที่เรียกพวกเรามาประชุม…เพื่อจะจับฉลากกันเหรอครับ?”เอพริ้วที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผมเอ่ยขึ้นหลังจากที่สายตาของเขาเพิ่งจะละมาจากหน้าจอสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของเขาเอง“ใช่….”คุณมิตรหรือผู้จัดการประจำวงและมีหน้าที่คอยดูแลพวกเราทั้งห้าคนเอ่ยขึ้น ผมที่นั่งอยู่คนสุดท้ายในโต๊ะประชุมก็มองไปที่หน้าตาของเพื่อนร่วมวงแต่ละคน ทุกคนมีสีหน้าที่ตื่นเต้นและรอลุ้นกันอย่างใจจดใจจ่อตอนนี้ผมกลับไปเป็นปกติเหมือนเดิมแล้ว ไม่ใช่เอาแต่เก็บตัวเงียบและปลีกตัวไปอยู่คนเดียวเหมือนเมื่อก่อน“ตื่นเต้น…จังเลยครับ…ที่ผมจะได้จับฉลาก…”“ว่าแต่….นางเอกของเราเป็นใครกันเหรอครับ?”ธามไฟท์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแววตาเป็นประกาย คุณมิตรก็ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นมาอย่างมีเลศนัย“เธอคนนี้กำลังโด่งดังอยู่ในตอนนี้….”คุณมิตรเอ่ยต่อพร้อมกับกดเปิดจอมอนิเตอร์จ่อใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงกลางของห้องประชุมด้านหน้าของพวกเราขึ้นมาด้วย ผมก็จ้องมองอย่างไม่ค่อยใส่ใจ เพราะผมคงไม่ร่วมจับฉลากเหมือนเช่นทุกทีนั่นแหละครับ…“ว้าวววววววววว”เสียงของเพื่อนร่วมวงของผมต่างร้องออกมาด้วยความตกใจและตื่น

  • เมื่อรักเดินทางมาเจอกัน   ตอนที่45

    มีผู้คนอยู่มากมายแต่หัวใจมันกลับเหงาขึ้นทุกทีแต่เมื่อฉันได้พบกับเธอสิ่งที่เธอให้ฉันไม่รู้มันคืออะไรโลกใบใหญ่ใบเดิมกลับไม่เคยต้องเหงาใจแค่ฉันนั้นยังมีเธออยู่ตรงนี้เธอเป็นมากกว่ารักเพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิตฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหาและรอคอยเธอมาแสนนานและสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่างที่เติมเต็มหัวใจจากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ….ไดร์ฟหันมายิ้มและมองหน้าฉันตลอดเวลาเสียงของเขาที่ขับร้องเพลงนี้ มันช่างเต็มไปด้วยความละมุนนุ่มนวลและความรักที่เขาต้องการจะสื่อความหมายและความรู้สึกที่อยู่ในหัวใจของเขาเพื่อขับร้องออกมาเป็นเนื้อเพลงจริงๆหากว่าเธอนั้นคือความรักก็เป็นรักที่ดีจนไม่มีคำบรรยายฉันโชคดีเหลือเกินที่มีเธอเดินข้างกายชีวิตนั้นได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายเสียงของเพลงได้เงียบลงไปแต่ไดร์ฟกลับยิ้มให้ฉันและร้องเพลงด้วยเสียงที่ไร้ดนตรีและท่วงทำนองให้ฉันฟังแบบสดๆ“เธอเป็นมากกว่า…เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต…”“ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อรอ…เพื่อตามหาและรอคอยเธอมาแสนนาน”“และสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่างที่เติมเต็มหัวใจ”“จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ….”ไดร์ฟร้องจบก็ขยับใบหน้าของเขาเข้ามาหาฉันจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status