Masukเพราะไม่รู้ว่าอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้าชีวิตเธอจะเป็นเช่นไร จะมีโอกาสได้ออกมาทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนหรือไม่ หรือจะมีแม้แต่โอกาสที่จะได้เรียนต่อจนจบหรือเปล่า มีนาจึงใช้เวลาหลังเลิกเรียนทำงานพิเศษมากขึ้นเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉินให้ได้เยอะที่สุด
เอี๊ยด!!! เสียงรถของอีริคเบรคดังลั่นเมื่อจู่ๆก็มีผู้หญิงเดินมาตัดหน้ารถเขา
"อ๊าย"มีนายืนกรีดร้องเสียงดังลั่นเมื่อเห็นแสงไฟจากหน้ารถสาดเข้ามาเต็มหน้าเธอ วินาทีนั้นเธอคิดว่ายังไงก็ต้องโดนรถชนแน่ๆจึงยืนหลับตาปี๋ยอมรับชะตากรรม เมื่อรถเบรคทันก่อนถึงตัวเธอเพียงคืบ มีนาถึงกับเข่าอ่อนทรุดนั่งลงกลางถนน
"ลงไปดูหน่อยว่าเป็นอะไรหรือเปล่า"อีริคสั่งมาร์คให้ลงไปดูคนที่ทรุดนั่งอยู่หน้ารถ
"คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ เจ็บตรงไหนมั้ยให้ผมพาไปหาหมอหรือเปล่า"มาร์คถามด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เป็นไรค่ะ หนูขอโทษนะคะที่เดินข้ามถนนโดยไม่ได้ดูรถให้ดีก่อน เกือบทำให้คุณลำบากแล้ว ขอโทษนะคะ"มีนารีบลุกขึ้นยกมือไหว้ขอโทษและเดินออกจากตรงนั้นทันที
อีริคที่นั่งอยู่ในรถเมื่อเห็นหน้าตาหญิงสาวที่เกือบโดนรถชนก็ตะลึงในความสวยของเธอ แม้จะไม่ได้แต่งหน้าก็ยังเห็นว่าเธอสวยมาก ดวงตากลมโต ใบหน้ารูปไข่ ปากเป็นกระจับ มีเสน่ห์แบบธรรมชาติจนทำให้เขาเผลอมองเธอเดินจากไปแบบไม่ละสายตา
"เป็นไงบ้าง"
"เธอบอกว่าไม่เป็นอะไรครับ"
"ขับรถตาม"อีริคสั่งให้ลูกน้องคนสนิทขับรถตามดูเธอ
มีนาที่ทำงานหนักมาหลายวันจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อนเดินไปก็ใจลอยไป ความเหนื่อยล้าความเพลียที่สะสมมาหลายวัน แถมเมื่อเย็นก็ยังไม่ได้ทานข้าว ประกอบกับความตกใจกับเหตุการณ์ที่เธอเกือบโดนรถชนเมื่อครู่ทำให้มีนาเริ่มเวียนศีรษะเดินเซ เอริคเห็นอาการของหญิงสาวตรงหน้ารีบสั่งมาร์คให้จอดรถและวิ่งลงไปประคองเธอทันที
เมื่อลืมตาขึ้นมีนามองไปรอบๆห้องเห็นว่าตอนนี้ตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพักผู้ป่วยของโรงพยาบาล สายตาเธอเห็นชายหนุ่มแปลกหน้านั่งอยู่บนโซฟาอีกมุมหนึ่งของห้อง
"คุณเป็นใครคะ เอ่อ แล้วมินมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ"
"จำไม่ได้?"อีริคเลิกคิ้วถามเธอ
"มินจำได้แค่ว่ากำลังเดินกลับบ้านแล้วก็เวียนหัว หลังจากนั้นก็จำไม่ได้แล้วค่ะ คุณคือคนที่ช่วยมินไว้หรอคะ ขอบคุณมากนะคะ"
"อย่าถามเยอะนอนพักได้แล้ว"
"มินอยากกลับบ้านแล้วค่ะ"
"รีบ?น้ำเกลือยังไม่หมดขวดเลยนอนพักหนึ่งคืนก่อนพรุ่งนี้ค่อยกลับ"
"คือมินไม่มีเงินมากพอจ่ายค่ารักษาค่ะ นอนคืนนึงน่าจะเท่ากับรายได้ที่มินหามาทั้งเดือน ขอมินกลับเถอะนะคะ รบกวนคุณไปตามหมอให้ได้มั้ยคะ"เธอบอกเขาตามตรงเพราะมองไปรอบๆห้องแล้วเห็นว่าทุกอย่างดูหรูหราไปหมดจนเธอคิดว่าน่าจะไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล อีกอย่างพรุ่งนี้เช้าเธอยังมีเรียนและต้องไปทำงานต่ออีก
"เลิกคิดเรื่องนั้นได้แล้ว ชีวิตของคุณนี่ยังไงหายใจเข้าหายใจออกก็เป็นเงินหรอ ชีวิตตัวเองไม่สำคัญรึไง"อีริคดุสาวน้อยที่พยายามลงจากเตียง
เขาเดินเข้าไปจับเธอนอนลงบนเตียงเหมือนเดิมและกระซิบที่ข้างหูเธอ
"ถ้ายังดื้ออยู่ผมไม่รับปากว่าจะโดนอะไรนะ หลับตา"
มีนาเมื่อได้ยินชายหนุ่มกระซิบข้างหูตัวเองก็ใจเต้นแรงรีบหลับตาปี๋ตามคำสั่งของเขา ใช้เวลาเพียงไม่นานมีนาก็หลับไปด้วยความเหนื่อยล้า อีริคที่นั่งมองเธออยู่เมื่อเห็นว่าเธอหลับแล้วก็เดินออกไปสั่งมาร์คที่ยืนรออยู่หน้าห้องให้ไปสืบประวัติของผู้หญิงคนนี้โดยละเอียด
เช้าวันใหม่มีนาตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ดูสดใสขึ้น เธอมองดูเวลาเห็นว่าเจ็ดโมงเช้าแล้วจึงรีบลุกออกจากเตียงเพื่อไปเรียน เป็นจังหวะเดียวกันกับที่อีริคผลักประตูเข้าห้องมาพอดี
"จะไปไหน"
"มินต้องรีบไปเรียนค่ะ เอ่อจะไปคุยเรื่องค่ารักษาพยาบาลด้วยค่ะ"
"ไม่ต้องจ่ายให้แล้ว"
"คะ คุณจ่ายให้แล้ว"มีนาทวนคำเขาด้วยความงงเพราะไม่คิดว่านอกจากเขาจะนอนเฝ้าเธอทั้งคืนแล้วยังจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เธออีก
"คุณจ่ายไปเท่าไหร่คะ เดี๋ยวมินจ่ายคืนให้ค่ะ"
"มีเงิน?"เขาเลิกคิ้วถามเธอ
"ไม่มีค่ะ แต่มินค่อยๆผ่อนจ่ายคุณได้มั้ยคะวันนี้มินมีเท่านี้"เธอรีบยื่นเงินให้เขาสองพันบาท
อีริคมองเงินที่หญิงสาวยื่นให้ก่อนจะยิ้มมุมปากและผลักเงินกลับคืนไปให้เธอ
"เก็บเงินของคุณไว้เถอะ เมื่อคืนคุณจ่ายเป็นอย่างอื่นแทนแล้ว"อีริคนึกถึงเมื่อคืนตอนที่มีนาหลับไปแล้วเขายืนมองใบหน้าของคนสวยตรงหน้าชัดๆอยู่นานก่อนจะก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากเธอด้วยความเสน่หา เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าแค่เห็นหน้าเธอก็ทำให้ใจเขาสั่นได้
"จ่ายเป็นอย่างอื่น คุณหมายความว่ายังไงคะ"เธอถามเขาด้วยความสงสัย
"ไม่มีอะไร รีบกลับไม่ใช่หรอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ เดี๋ยวไปส่ง"
"ไม่เป็นไรค่ะมินกลับเองได้ ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับเมื่อคืน เอ่อ มินขอเบอร์ติดต่อคุณได้มั้ยคะ ถ้าเก็บเงินได้มากพอมินจะเอาไปใช้หนี้คุณค่ะ"
"ไม่ต้อง ผมไม่ได้ต้องการสิ่งตอบแทน ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่าพูดมาก"เขาบอกเธอพลางยื่นเสื้อผ้าชุดใหม่ให้เธอ
มีนารับเสื้อผ้ามาและรีบเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เพราะหนุ่มหล่อตรงหน้าเล่นก้มหน้าลงมาจนจมูกเกือบชนจมูกของเธอ ทันทีที่ประตูห้องน้ำปิดลงมีนาถอนหายใจยาวมองหน้าตัวเองในกระจกก็เห็นว่าหน้าตัวเองแดงก่ำ ใจเต้นรัว เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไรรู้แต่ว่าความรู้สึกแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองมาก่อน
"ให้ไปส่งที่ไหน"อีริคถามมีนาเมื่อขับรถออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว
"มหาวิทยาลัยค่ะ"
"เรียนปีไหนแล้ว"
"ปีสี่ค่ะ"
"เป็นนักศึกษาไปเที่ยวกลางคืนคนเดียวดึกๆดื่นๆแบบนั้นพ่อแม่ไม่ว่า?"
มีนาสะอึกกับคำพูดของชายหนุ่มถึงกับต้องพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา เพราะขนาดเธอหายไปทั้งคืนยังไม่มีเบอร์โทรเข้าจากคนเป็นพ่อและแม่เลยแม้แต่สายเดียว ไม่ว่าเธอจะไปทำอะไรกลับบ้านเวลาไหนพวกท่านก็ไม่เคยสนใจเธอเลยสักครั้ง
"มินไปทำงานค่ะ พึ่งเลิกงานกำลังกลับบ้าน แต่เป็นลมไปก่อนค่ะ"เธอตอบเขาเลี่ยงๆเพราะไม่อยากให้เขาถามเธอเรื่องครอบครัวต่อ
เมื่อรถเคลื่อนมาใกล้ถึงมหาวิทยาลัยมีนาจึงขอให้เขาจอดตรงนี้เพราะไม่อยากเป็นจุดสนใจของคนอื่น จึงขอเดินต่อเองอีกนิดหน่อยแต่อีริคไม่ฟังขับรถไปส่งเธอถึงหน้าประตูทางเข้า
"ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะ ถ้ามีโอกาสมินคงได้ตอบแทนบุญคุณของคุณนะคะ"มีนากล่าวขอบคุณเขาด้วยใจจริง เพราะตั้งแต่เธอโตมาเขาน่าจะเป็นคนแปลกหน้าคนแรกที่ทำดีกับเธอมากขนาดนี้ มากกว่าพ่อแม่ของเธอเสียอีก
เช้าวันใหม่ บริษัท RIC electronics"พี่สาเอมได้ข่าวว่าวันนี้ภรรยาบอสจะมาเลี้ยงขนมหวานเราหรอ"เอมถามรสาด้วยความอยากรู้"เห็นคุณมาร์คพูดแบบนั้น พี่ก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย""ว่าแต่ภรรยาของบอสจะหน้าตาเป็นแบบไหนนะ เอมไม่เคยได้ยินข่าวว่าบอสมีแฟนมาก่อนเลย"พนักงานในบริษัทต่างเดากันไปต่างๆนาๆว่าภรรยาของบอสเป็นใครมาจากไหน เพราะมาร์คเล่นปล่อยข่าวไปทั่วว่าอีริคมีภรรยาแล้วและวันนี้เธอก็จะมาเลี้ยงขนมและเครื่องดื่มทุกคนด้วยทำให้ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอนายหญิงจนไม่เป็นอันทำการทำงาน"บอส คุณมินสวัสดีครับ""สวัสดีค่ะคุณมาร์ค""วันนี้ทุกคนในบริษัทต่างเฝ้ารอการปรากฏตัวของภรรยาบอสนะครับ"มาร์คบอกมีนายิ้มๆ"ทำไมทุกคนถึงรู้ล่ะคะ""ผมบอกเองครับ ก็คุณอีริคบอกให้ผมแจ้งทุกคนว่าวันนี้ภรรยาของคุณอีริคจะแวะเอาขนมมาฝากทุกคน""ทุกคนหรอคะ"มีนาถามทั้งสองคนด้วยความงง เพราะเดิมทีเธอตั้งใจจะแวะมาเยี่ยมพี่ๆในแผนกที่เธอฝึกงานอยู่เท่านั้น แต่อีริคกลับให้มาร์คแจ้งทุกคนว่าภรรยาเขาจะเลี้ยงของหวาน จริงๆเป็นแผนของอีริคที่อยากเปิดตัวภรรยาสาวกลายๆ"เป็นแผนของพี่ใช่มั้ยคะ""พี่แค่อยากบอกทุกคนว่ามีเมียแล้วมันผิดตรงไหน"อีริคตอบเมียรักหน้าตาย
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง"รอแป๊บนึงนะคะ"มีนารีบวิ่งออกมาจากบ้านเมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะพี่สาว""เมย์มาได้ยังไง"มีนาตกใจที่คนหน้าประตูบ้านเป็นเมษาอดีตน้องสาว"ก็คิดถึงพี่ไงเลยลองมาหาไม่คิดว่าพี่จะยังอยู่ที่บ้านของคุณอีริค หนี้ก็ไม่ต้องใช้แล้วไม่ใช่หรอทำไมถึงยังอยู่ที่นี่อีก""เรื่องนี้พี่ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้เมย์รู้ ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่ขอตัวเข้าบ้านก่อนนะ เมย์ก็กลับไปเถอะ"มีนาไม่รอฟังเมษาพูดรีบเดินเข้าบ้านไปทันที ตอนนี้เธอรู้สึกไม่สบายใจนักเพราะไม่รู้ว่าที่เมษามาในวันนี้มีจุดประสงค์อะไร ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้จักนิสัยของเมษาที่เธอมาในวันนี้ต้องมีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงแน่นอน แต่เมื่อเธอตัดขาดจากครอบครัวนี้แล้วก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีกจึงพยายามหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด"นังมิน แกทำให้ชีวิตของชั้นต้องตกอับแบบนี้ แต่ตัวเองกลับมีชีวิตที่สุขสบาย อย่าหวังว่าชีวิตแกจะดีกว่าชั้นได้เลย"เมษาได้ข่าวว่างานประมูลการกุศลที่กำลังจะจัดขึ้นอีริคจะไปร่วมงานด้วย เธอคิดว่าถ้ามีนาเป็นคนสำคัญของอีริคจริงเขาต้องพาเธอไปด้วยแน่นอน จึงตั้งใจจะไปร่วมงานนี้ด้วยเพื่อแฉให้มีนาต้องอับอาย"สวยม
“จะพามินไปไหนคะ”“จดทะเบียนสมรส”“ห๊ะ พี่อีริคมินว่ามันเร็วไปหน่อยนะคะ”“เร็วอะไรเอากันขนาดนี้แล้ว ท้องป่องก่อนจะว่าไง อย่าลืมนะว่าพี่ไม่เคยป้องกันเลย”อีริคกระซิบข้างหูมีนา“คนบ้า”มีนาตีแขนเขาและก้มหน้างุดด้วยความเขิน คนอะไรทะลึ่งได้ตลอดเวลา“ต่อจากนี้ไปฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับคุณภรรยา”อีริคยิ้มบอกมีนาหลังจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้ว“ทำแบบนี้พ่อแม่พี่จะไม่ว่าอะไรหรอคะ”แม้จะจดทะเบียนสมรสกันแล้วมีนาก็ยังไม่ค่อยสบายใจนักเพราะกลัวพ่อแม่ของอีริคจะรับไม่ได้“พี่โตแล้วนะ พ่อแม่พี่ไม่ว่าอะไรหรอก”อีริค ดึงมือภรรยาป้ายแดงมากุมไว้และขับรถตรงกลับบ้าน“เอ๊ะ รถใครคะพี่ชวนใครมาบ้านคะ”มีนาถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นรถตู้สีดำจอดอยู่“เข้าบ้านกันเดี๋ยวมินก็รู้เอง”อีริคยิ้มอย่างมีเลศนัย“เซอร์ไพรส์”ทันทีที่ทั้งสองคนเดินเข้าบ้านมาแม่ของอีริคก็ออกมาเซอร์ไพรส์ทั้งสองคน จะว่า เซอร์ไพรส์ทั้งคู่ก็ไม่ได้เพราะอีริครู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว มีเพียงมีนาที่ไม่รู้อยู่คนเดียว“นี่มันอะไรกันคะ”มีนาถามอีริคด้วยความงง“เจ้าลูกชายคนนี้ชอบเล่นอะไรแผลงๆเห็นมั้ยลูกสะใภ้แม่ตกใจหมดแล้ว โอ๋ มานี่มาลูกมาให้แม่กอดหน่อย แม่ขอโทษน
"พรุ่งนี้พี่พามินไปเปลี่ยนนามสกุลใหม่นะ ว่าแต่ไม่สนใจจะเปลี่ยนมาใช้นามสกุลพี่หรอ"อีริคถามมีนาขณะที่ทั้งคู่นอนกอดกันอยู่บนเตียง"มินอยากใช้นามสกุลของคุณพ่อก่อนค่ะ เอ่อ พี่อีริคไม่ว่าอะไรใช่มั้ยคะ""พี่รู้พี่ก็แค่พูดหยอกมินแค่นั้นแหละ มินใช้นามสกุลของพ่อไปก่อนเถอะอยากเปลี่ยนเมื่อไหร่ค่อยเปลี่ยน แต่ลูกของเราต้องใช้นามสกุลพี่นะ""พี่อีริคพูดอะไรคะ ใครจะไปมีลูกกับพี่กัน""ก็มินไง คืนนี้เราเริ่มทำการบ้านอย่างจริงจังกันเลยนะ"อีริคไม่รอช้าขึ้นคร่อมไปอยู่บนตัวมีนาและก้มลงจูบเธออย่างดูดดื่ม สองมือเลื่อนไปกอบกุมมือของคนรักเอาไว้ คืนนี้มีนาเองก็จูบตอบอีริคอย่างหวานชื่นเช่นกัน“คืนนี้กินไส้กรอกให้พี่หน่อยได้มั้ย”อีริคกระซิบข้างหูมีนาหลังทั้งคู่คลายจูบออกจากกันเมื่อได้ยินคำขอของเขาแทนที่มีนาจะเอียงหน้าหนีและบ่นว่าเขาลามก เธอกลับยกสองแขนขึ้นมาคล้องคอเขาเอาไว้พลางส่งสายตาหวานเยิ้มยั่วยวนเขาและดึงเขาลงมาจูบ“อยากให้กินก็นอนลงสิคะ”มีนาได้ทีกระซิบข้างหูเอาคืนเขาบ้าง“อื้ม มินยั่วแบบนี้พี่จะอดใจไหวได้ยังไง ถ้าคืนนี้ไม่ได้นอนจะโทษพี่ไม่ได้นะ”“พูดมากจัง”มีนาบ่นเขาก่อนจะผลักคนตัวโตให้นอนราบลงบนที่นอนเธอ
มีนาใช้เวลาทบทวนสิ่งต่างๆร่วมอาทิตย์ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้จึงบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการให้อีริคฟัง"มินอยากออกมาจากครอบครัวนี้ค่ะ อยากกลับมาใช้นามสกุลของพ่อแม่ อยากมีชีวิตเป็นของตัวเองค่ะ""ได้สิ เรื่องแค่นี้พี่จัดการให้สบายมาก""แต่มินมีเรื่องที่อยากขอพี่เหมือนกัน ถ้าพี่ไม่ว่าอะไรมินอยากให้พี่ยกหนี้ให้พวกเขา เงินมินจะพยายามหามาคืนพี่เท่าที่มินทำได้เพราะถึงยังไงพวกเขาก็เลี้ยงมินมาแม้จะไม่ได้ดีนักแต่ก็ไม่ได้อดอยาก มินอยากแยกจากกันด้วยดีค่ะ""ได้สิ เงินแค่นี้แลกกับอิสรภาพของแฟนพี่พี่ไม่ติดใจเอาเรื่องอะไรหรอกคนพวกนั้นหรอก""ขอบคุณนะคะที่เข้าใจมิน"ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะเอาเรื่องอะไรกับทรงพลแต่เพราะเขาเข้าใจความรู้สึกและนิสัยของมีนาดีเขาจึงไม่อยากทำให้เธอคิดมากและไม่สบายใจจึงเลือกที่จะสนับสนุนสิ่งที่เธอเลือก แต่คนอย่างเขาก็ไม่มีทางยอมให้แฟนตัวเองเสียเปรียบจิ้งจอกเฒ่าอย่างทรงพลแน่นอน เขาเตรียมวิธีจัดการกับเรื่องนี้ตั้งแต่รู้ว่ามีนาไม่ใช่ลูกของครอบครัวนี้แล้วบริษัท RIC electronicsห้องทำงานของอีริค“นายครับคุณทรงพลมาแล้วครับ”“เชิญเขาเข้ามา เอกสารทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้วใช่ไหม”อีริคถามมาร์
ตลอดเช้าวันนั้นมีนามีสีหน้าเป็นกังวลตลอดเวลาจนอีริคสังเกตได้ว่าเธอมีเรื่องไม่สบายใจอยู่"เป็นอะไรทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นระวังจะแก่เร็วนะ"อีริคเดินเข้าไปนั่งบนโซฟาข้างๆเธอและดึงเธอเข้าไปกอด"เรื่องที่พี่คุยโทรศัพท์เมื่อเช้ามินได้ยินหมดแล้วนะคะ"มีนานั่งครุ่นคิดอยู่นานก่อนตัดสินใจเอ่ยปากบอกเขา"ที่ทำหน้าเครียดทั้งเช้าเพราะเรื่องนี้เองหรอ""ก็เพราะครอบครัวมินก่อเรื่องให้พี่อีกแล้ว""เด็กน้อยเรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องกังวลเลย"อีริคขยี้ผมเธอเบาๆเพื่อให้เธอผ่อนคลายขึ้น"ถึงยังไงมินก็ไม่สบายใจอยู่ดี เรื่องของเรา เอ่อ พี่ลองคิดดูอีกทีมั้ยคะ"มีนาตัดสินใจถามเขาเพราะไม่อยากเอาเปรียบเขามากไปกว่านี้เมื่อได้ฟังสิ่งที่มีนาพูดแล้วอีริคก้มลงจูบปิดปากเธอเพื่อไม่ให้เธอพูดอะไรอีก เดิมทีเขาคิดว่าจะรอจัดการเรื่องของทรงพลให้เรียบร้อยก่อนเขาถึงจะบอกความจริงกับเธอ แต่เห็นเธอไม่สบายใจแบบนี้เขาจึงตัดสินใจที่จะบอกความจริงกับเธอ แม้ภายในใจจะกลัวว่าอาจจะต้องเสียเธอไปก็ตาม"พี่อยากพามินไปที่ๆหนึ่งไปแต่งตัวนะ"มีนาได้แต่นึกสงสัยอยู่ในใจว่าทำไมเขาถึงพาเธอมาที่วัดเพราะปกติไม่เห็นเขาจะเคยชวนเธอมาทำบุญที่วัดเลยแต่ก็ไม่ได้ถ







