LOGIN“คุณอีริคครับได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งนะครับอย่าพึ่งทำอะไรผมเลย ผมขอโอกาสครั้งสุดท้ายนะครับ”
“หึ เป็นหนี้ห้าสิบล้านมาบอกให้ให้โอกาสอีกครั้งมันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอคุณทรงพล สงสัยบริษัทกับบ้านของคุณผมคงต้องยึดขายทอดตลาดแล้วมั๊ง”
อีริคบอกทรงพลนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่ตอนนี้กำลังนั่งคุกเข่าตัวสั่นเทาก้มศีรษะให้เขาอยู่
“เอาอย่างนี้ได้มั้ยครับ ผมส่งลูกสาวไปขัดดอกให้คุณก่อนได้มั้ยครับ ขอเวลาผมแค่หนึ่งปีผมสัญญาจะหาเงินมาคืนคุณให้ครบเลยครับ”ทรงพลนิ่งคิดสักพักก่อนจะยื่นข้อเสนอที่แม้แต่อีริคเองก็ไม่อยากเชื่อว่าจะออกจากปากของคนเป็นพ่ออย่างเขา
“คุณเป็นพ่อประเภทไหนถึงยอมส่งลูกสาวให้ไปขัดดอก คุณรู้ใช้มั้ยว่าต้องเจออะไรบ้างหนี้เยอะขนาดนี้ผมคงไม่ได้ให้ลูกสาวคุณมานั่งกินนอนกินในบ้านผมเฉยๆหรอกนะ”
“ผมทราบครับ คุณจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นตามที่คุณอีริคต้องการเลยครับ ขอแค่ให้โอกาสผมอีกครั้งและอย่าทำอะไรครอบครัวเรา ผมสัญญาว่าจะรีบหาเงินมาคืนให้เร็วที่สุดเลยครับ”
“หึ ดี ในเมื่อคุณกล้าเสนอผมก็กล้ารับวันเสาร์นี้บอกลูกสาวคุณเตรียมตัวไว้เลยผมจะส่งคนไปรับ”
“ได้ครับ ขอบคุณครับๆๆ”
ทรงพลขอบคุณอีริคและรีบวิ่งออกจากห้องทำงานเขาทันที
“นายครับทำแบบนี้มันจะดีหรือครับ”มาร์คมือขวาของอีริคถามผู้เป็นนายด้วยความเป็นห่วง เพราะจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ที่เขาพึ่งปล่อยไปยังไงก็ไม่มีทางหาเงินมาคืนเขาแน่
“จัดการทีหลังก็ยังไม่สาย อยากจะรู้มันจะมาไม้ไหน”อีริคบอกลูกน้องเพราะเขาเองก็รู้อยู่แล้วว่าคนแบบนี้ที่ยอมขายได้แม้แต่ลูกสาวตัวเองไม่มีทางที่จะทำตามสัญญาที่พูดไว้แน่นอน ถ้าไม่เป็นเพราะลุงของเขาขอร้องในตอนนั้นไม่มีทางที่เขาจะให้คนแบบนี้ยืมเงินไปลงทุนเด็ดขาด เพราะทรงพลคือเพื่อนรักของลุง เขาจึงยอมให้เงินก้อนนี้ให้เขาไปลงทุนอีกอย่างเขาเองก็อยากให้ลุงได้เห็นธาตุแท้ของคนคนนี้ที่คอยแต่จะปอกลอกลุงเขา แต่น่าเสียดายที่คุณลุงเสียไปก่อนจึงไม่ได้เห็นธาตุแท้ของเพื่อนรักคนนี้
สามปีก่อนตั้งแต่ที่เขาให้เงินก้อนนี้ทรงพลไปลงทุน ทรงพลก็ไม่เคยทำตามคำพูดที่ให้ไว้สักอย่าง งานก็ไม่สำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน แต่กลับเอาเงินให้ลูกเมียใช้ชีวิตหรูหราในแวดวงไฮโซ เมื่อเขาบอกว่าจะส่งลูกสาวมาขัดดอกก็นึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยเพราะไฮโซอย่างลูกสาวเขาจะทำอะไรได้
บ้านตระกูลอภิวัฒน์
“เป็นยังไงบ้างคะคุณ”ดารณีรีบตรงเข้ามาถามทรงพลทันทีที่เห็นสามีเดินเข้ามาในบ้าน
“ยังดีที่มันยังให้โอกาสไม่อย่างนั้นแม้แต่บ้านหลังนี้เราก็จะไม่มีให้อยู่แล้ว แต่มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”
“เงื่อนไขอะไรคะ”ดารณีถามสามีด้วยความสงสัย
“เราต้องส่งลูกสาวเราไปขัดดอก”
“ห๊ะ คุณว่าอะไรนะคะ จะให้ส่งลูกสาวเราไปขัดดอก นี่คุณบ้าไปแล้วเหรอคะ”
“คุณใจเย็นๆสิฟังผมก่อน ลูกสาวเราไม่ได้มีแค่เมษาคนเดียวสักหน่อย คุณลืมไปแล้วหรือว่ายังมีมีนาอีกคน”สองสามีภรรยามองหน้ากันด้วยรอยยิ้มร้าย
เย็นวันนั้นขณะที่ทั้งสี่คนนั่งทานข้าวเย็นกันอยู่ทรงพลก็แจ้งทุกคนเรื่องสถานการณ์ในบ้านตอนนี้
“พ่อมีเรื่องจะบอกลูกๆทั้งสองคนว่าช่วงนี้บ้านเรากำลังเจอวิกฤติพ่ออยากขอความร่วมมือจากทั้งสองคนให้ช่วยพ่อหน่อย”ทรงพลตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องหนี้สินให้ลูกสาวฟัง
“เมษาไม่เอาด้วยหรอกนะคะ หนี้คุณพ่อเป็นคนก่อก็ต้องหาทางใช้เองสิคะ”เมษาบอกผู้เป็นพ่อโดยที่ไม่สนใจใยดีผู้เป็นพ่อเลยแม้แต่น้อย
“มีนาล่ะลูก”ดารณีเป็นฝ่ายถามบ้าง
“เอ่อ ถ้าจะให้หนูช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านบ้างก็น่าจะพอได้อยู่ค่ะ เดี๋ยวหนูหางานพิเศษทำเพิ่มหลังเลิกเรียนค่ะ”มีนาบอกทุกคนเพราะอยากช่วยพ่อจริงๆ ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ค่าเล่าเรียน ค่ากินค่าอยู่ของเธอจะเป็นเงินที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แต่ถ้าครอบครัวของเธอลำบากเธอก็พร้อมจะทำงานหนักขึ้นเพื่อช่วยเหลือครอบครัว
“โถ ลูกสาวแม่กตัญญูอะไรขนาดนี้”ดารณีแสร้งทำเป็นลูบหัวมีนาด้วยความสงสารและเห็นใจ
“พ่อมีทางที่ง่ายกว่านั้นโดยที่ลูกไม่ต้องลำบากมาก คือลูกแค่ไปอยู่บ้านคุณอีริคคอยช่วยงานเขาเล็กๆน้อยๆแค่นั้นก็พอแล้ว”
“อะไรนะคะ นี่พ่อจะให้หนูไปอยู่บ้านเจ้าหนี้ พ่อจะให้หนูไปขัดดอกหรอคะ”มีนาถามพ่อด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าพ่อจะยอมให้ลูกสาวตัวเองไปอยู่บ้านใครก็ไม่รู้ โดยเฉพาะผู้ชายคนนี้ที่ใครๆก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่โหดมาก
“มีนาใจเย็นๆฟังพ่อก่อนนะ ถ้าพ่อไม่ทำแบบนี้บ้านหลังนี้รวมทั้งบริษัทก็จะถูกเขายึดไปจนหมด ถึงตอนนั้นครอบครัวเราก็จะไม่มีอะไรเหลือเลยนะ พ่อสัญญาไปอยู่แค่ไม่นานไม่เกินหนึ่งปีพ่อต้องหาเงินไปคืนเขาได้แน่นอน”ทรงพลพยายามหว่านล้อมลูกสาวโดยมีดารณีนั่งตีหน้าเศร้าอยู่ข้างๆ
“เราไม่ต้องมีบ้านหลังใหญ่ ไม่ต้องมีบริษัทก็ได้นี่คะ เราขายทั้งหมดเพื่อใช้หนี้เขาก็ได้แล้วไปหาซื้อบ้านหลังเล็กๆอยู่กันไม่ดีกว่าหรอคะ”มีนาเสนอ
“ไม่ได้เมษาไม่ยอม ทำแบบนั้นเมษาก็อายเพื่อนแย่ พี่มีนาไปอยู่บ้านเขาน่ะดีแล้ว คนอื่นจะได้ไม่ต้องลำบากด้วย”
“นะลูกถือว่าช่วยพ่อสักครั้ง”
ทั้งทรงพลและดารณีพยายามเกลี้ยกล่อมมีนาจนสุดท้ายเธอก็ยอมใจอ่อนตอบตกลง ถึงแม้ว่าภายในใจตอนนี้จะเจ็บปวดมากและมีคำถามมากมายเข้ามาในหัว เธอได้แต่เก็บความเจ็บปวดและความน้อยใจเอาไว้ในใจไม่แสดงออกมาให้ใครเห็น
ทุกครั้งที่ต้องเสียสละก็จะเป็นเธอตลอดที่ต้องเป็นฝ่ายยอมแม้แต่ตอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเธอก็เลือกเรียนมหาวิทยาลัยรัฐเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ตอนที่พ่อแม่บอกว่าค่าใช้จ่ายในบ้านไม่พอเธอก็อาสาจะหาเงินส่งตัวเองเรียนจนถึงปีสี่อีกแค่ไม่ถึงปีเธอก็จะเรียนจบแล้ว ผิดกับน้องสาวเธอที่อยากได้อะไรพ่อแม่ก็หาให้ทั้งหมดไม่เคยต้องลำบากอะไร ครั้งนี้ก็เหมือนกันคนที่ถูกกดดันให้ไปทำงานขัดดอกก็คือเธอ จนบางครั้งเธอเองก็คิดสงสัยว่าเธอใช่ลูกของพ่อกับแม่จริงๆหรือเปล่า แต่เพราะความรักครอบครัวทำให้เธอเก็บความเจ็บช้ำน้ำใจนั้นเอาไว้ในใจ
“มินตกลงก็ได้ค่ะ แต่พ่อต้องสัญญานะคะว่าจะไม่ให้มินอยู่ที่นั่นนาน”
“พ่อสัญญาลูกพ่อสัญญา ลูกนี่เป็นลูกที่ดีจริงๆ เตรียมตัวไว้นะวันเสาร์นี้จะมีคนมารับลูกที่บ้าน”
“เร็วขนาดนี้เลยหรอคะ มินยังไม่…”
“จะช้าจะเร็วก็ต้องไปอยู่ดีนั่นแหละพี่มินจะเล่นตัวทำไม น่ารำคาญ”เมษาบ่นมีนาด้วยท่าทางโมโห
คืนนั้นมีนาได้แต่นอนคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นช่วงค่ำ เธอถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะไหวจริงๆใช่ไหม คิดไปน้ำตาก็ไหลไปจนเพลียหลับไปทั้งน้ำตา
เวลาผ่านไปสองอาทิตย์แล้วที่มีนาย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของอีริค ตอนนี้ทั้งคู่เริ่มปรับตัวได้เริ่มคุ้นชินกับการมีใครบางคนอยู่ด้วย เริ่มชินกับการทานข้าวเช้าและข้าวเย็นพร้อมกัน จนทำให้บางครั้งมีนาแอบรู้สึกว่าตัวเองดูมีตัวตนมากกว่าตอนอยู่กับคนในครอบครัวเสียอีก ความรู้สึกอบอุ่นที่เธอไม่เคยได้รับจากครอบครัวกลับได้รับจากเขาคนที่เป็นเจ้าหนี้ แม้จะโดนเขาพูดจาประชดประชันบ้างในบางครั้งก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกแย่เหมือนตอนที่ครอบครัวไม่สนใจเธอ“จะเริ่มฝึกงานแล้วใช่มั้ย”“ค่ะ”“ไปฝึกที่ไหน”“ยังไม่รู้เลยค่ะ”“งั้นก็ไปฝึกที่บริษัท เผื่อจบไปต้องทำงานใช้หนี้จะได้ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่”“คะ เอ่อ ค่ะ”มีนามองหน้าเขาด้วยความสับสนเพราะไม่คิดว่าเธอจะมีโอกาสได้ไปฝึกงานในบริษัทที่ใหญ่ขนาดนั้นอีริครับช่วงดูแลกิจการบริษัทต่อจากพ่อแม่ บริษัทนี้เป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมานานหลายสิบปี ตั้งแต่เรียนจบอีริคก็เข้ามารับช่วงต่อเพราะพ่อแม่อยากเกษียณเพื่อออกท่องเที่ยวพักผ่อน ตั้งแต่นั้นมาหน้าที่ดูแลบริษัทก็อยู่ภายใต้การดูแลของอีริค ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง เพราะตั้งแต่เขาเข้ามาทำงานผลประกอบกา
"คุณอีริคคะ มินมีเรื่องอยากขอร้องได้มั้ยคะ คือมินรู้ว่าในฐานะลูกหนี้มินไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร แต่ถ้าเป็นไปได้คือมินอยากขอไปเรียนต่อให้จบขอเวลาอีกแค่เทอมเดียวค่ะ และถ้ามินทำงานให้คุณเรียบร้อยแล้วจะขอไปทำงานข้างนอกเพิ่มได้มั้ยคะ"มีนาตัดสินใจขอร้องเขาหลังจากที่นั่งนิ่งอยู่นาน"เรื่องเรียนผมอนุญาตส่วนเรื่องงานผมไม่อนุญาต""ถ้าเป็นงานที่มินสามารถทำที่บ้านได้หลังมีเวลาว่างได้มั้ยคะ""คุณรู้แล้วเหรอว่างานของคุณคืออะไรบ้าง""ไม่รู้ค่ะ""หึ แล้วยังกล้าขอ งานหลักของคุณคือทำงานบ้านทั้งหมด รวมถึงการทำอาหารเช้าและเย็นให้ผมด้วย นอกจากนั้นก็ทำงานอื่นๆตามที่ผมต้องการ ให้จำไว้ว่าชีวิตของคุณต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับผม แต่ผมก็ไม่ได้ให้คุณทำงานฟรีๆหรอกนะผมให้ค่าจ้างเดือนละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท มีอะไรสงสัยมั้ย""ไม่มีค่ะ""ถ้าไม่มีก็เริ่มงานได้ เริ่มจากทำอาหารเย็นให้ผมเย็นนี้เลย""เอ่อ คุณอีริคมีอะไรที่ไม่ทานบ้างมั้ยคะ""ไม่มี เงินสำหรับเบิกค่าใช้จ่ายภายในบ้านคุณสามารถมาเบิกกับผมได้""ค่ะ มินขอตัวไปเตรียมอาหารก่อนนะคะ"อีริคไม่ตอบแต่หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ทำให้มีนาลุกเดินออกไปจากตรงนั้นเงียบๆ เมื่อเดินเข้ามาในค
"นายครับเรื่องที่ให้ไปสืบเรียบร้อยแล้วครับ"มาร์คยื่นเอกสารในมือส่งให้อีริค"มีนา อภิวัฒน์"เขาอ่านชื่อของผู้หญิงที่พึ่งช่วยไว้เมื่อคืนและหันไปมองมาร์คด้วยความสงสัย"ครับ เธอเป็นลูกสาวคนโตของคุณทรงพลครับ""ลูกสาวคนโต ทำไมคนที่ออกงานสังคมถึงมีแค่คนเดียว ลูกสาวคนนี้นายทรงพลไม่เคยพูดถึงเลย จนคนอื่นเข้าใจว่าเขามีลูกสาวคนเดียว"อีริคพูดด้วยความสงสัยก่อนก้มลงอ่านประวัติส่วนตัวของเธอต่อยิ่งประหลาดใจเมื่อเห็นว่าตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยเธอทำงานพาร์ทไทม์มาโดยตลอด แปลกจนเขาไม่อยากเชื่อว่าเธอเป็นลูกสาวของตระกูลอภิวัฒน์จริงๆเพราะที่ผ่านมาแม่และน้องสาวของเธอใช้ชีวิตอู้ฟู่ฟุ่มเฟือยและติดหรูมาก"ลูกสาวคนนี้เขาไม่เคยพูดถึงเลยจริงๆครับ ไม่เคยออกงานสังคมที่ไหน ไม่มีรูปที่ถ่ายพร้อมครอบครัวตอนออกงานเลยครับ"มาร์คให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้านายอีริคนิ่งและคิดว่าลูกสาวที่ทรงพลยอมส่งมาขัดดอกให้เขาคงหนีไม่พ้นมีนาลูกสาวนอกสายตาที่ครอบครัวไม่เคยเห็นค่า ถึงว่าทำไมเขาถึงยื่นข้อเสนอที่พ่อแม่ทั่วไปไม่ทำกันบ่ายวันเสาร์รถตู้สีดำวิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านของทรงพล วันนี้เป็นวันที่มีนาต้องเดินทางไปทำงานขัดดอกที่บ้านของอีริค เมื่อร
เพราะไม่รู้ว่าอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้าชีวิตเธอจะเป็นเช่นไร จะมีโอกาสได้ออกมาทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนหรือไม่ หรือจะมีแม้แต่โอกาสที่จะได้เรียนต่อจนจบหรือเปล่า มีนาจึงใช้เวลาหลังเลิกเรียนทำงานพิเศษมากขึ้นเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉินให้ได้เยอะที่สุดเอี๊ยด!!! เสียงรถของอีริคเบรคดังลั่นเมื่อจู่ๆก็มีผู้หญิงเดินมาตัดหน้ารถเขา"อ๊าย"มีนายืนกรีดร้องเสียงดังลั่นเมื่อเห็นแสงไฟจากหน้ารถสาดเข้ามาเต็มหน้าเธอ วินาทีนั้นเธอคิดว่ายังไงก็ต้องโดนรถชนแน่ๆจึงยืนหลับตาปี๋ยอมรับชะตากรรม เมื่อรถเบรคทันก่อนถึงตัวเธอเพียงคืบ มีนาถึงกับเข่าอ่อนทรุดนั่งลงกลางถนน"ลงไปดูหน่อยว่าเป็นอะไรหรือเปล่า"อีริคสั่งมาร์คให้ลงไปดูคนที่ทรุดนั่งอยู่หน้ารถ"คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ เจ็บตรงไหนมั้ยให้ผมพาไปหาหมอหรือเปล่า"มาร์คถามด้วยความเป็นห่วง"ไม่เป็นไรค่ะ หนูขอโทษนะคะที่เดินข้ามถนนโดยไม่ได้ดูรถให้ดีก่อน เกือบทำให้คุณลำบากแล้ว ขอโทษนะคะ"มีนารีบลุกขึ้นยกมือไหว้ขอโทษและเดินออกจากตรงนั้นทันทีอีริคที่นั่งอยู่ในรถเมื่อเห็นหน้าตาหญิงสาวที่เกือบโดนรถชนก็ตะลึงในความสวยของเธอ แม้จะไม่ได้แต่งหน้าก็ยังเห็นว่าเธอสวยมาก ดวงตากลมโต ใบหน้า
“คุณอีริคครับได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งนะครับอย่าพึ่งทำอะไรผมเลย ผมขอโอกาสครั้งสุดท้ายนะครับ”“หึ เป็นหนี้ห้าสิบล้านมาบอกให้ให้โอกาสอีกครั้งมันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอคุณทรงพล สงสัยบริษัทกับบ้านของคุณผมคงต้องยึดขายทอดตลาดแล้วมั๊ง”อีริคบอกทรงพลนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่ตอนนี้กำลังนั่งคุกเข่าตัวสั่นเทาก้มศีรษะให้เขาอยู่“เอาอย่างนี้ได้มั้ยครับ ผมส่งลูกสาวไปขัดดอกให้คุณก่อนได้มั้ยครับ ขอเวลาผมแค่หนึ่งปีผมสัญญาจะหาเงินมาคืนคุณให้ครบเลยครับ”ทรงพลนิ่งคิดสักพักก่อนจะยื่นข้อเสนอที่แม้แต่อีริคเองก็ไม่อยากเชื่อว่าจะออกจากปากของคนเป็นพ่ออย่างเขา“คุณเป็นพ่อประเภทไหนถึงยอมส่งลูกสาวให้ไปขัดดอก คุณรู้ใช้มั้ยว่าต้องเจออะไรบ้างหนี้เยอะขนาดนี้ผมคงไม่ได้ให้ลูกสาวคุณมานั่งกินนอนกินในบ้านผมเฉยๆหรอกนะ”“ผมทราบครับ คุณจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นตามที่คุณอีริคต้องการเลยครับ ขอแค่ให้โอกาสผมอีกครั้งและอย่าทำอะไรครอบครัวเรา ผมสัญญาว่าจะรีบหาเงินมาคืนให้เร็วที่สุดเลยครับ”“หึ ดี ในเมื่อคุณกล้าเสนอผมก็กล้ารับวันเสาร์นี้บอกลูกสาวคุณเตรียมตัวไว้เลยผมจะส่งคนไปรับ”“ได้ครับ ขอบคุณครับๆๆ”ทรงพลขอบคุณอีริคและรีบวิ่งออกจากห้องทำงานเขาทั
แนะนำตัวละครอีริค : นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อ ภายนอกดู เคร่งขรึม เย็นชาแต่รักเธอหมดหัวใจมีนา(มิน) : สาวน้อยผู้เสียสละทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวมาร์ค : ผู้ช่วยของอีริคที่รู้ใจเจ้านายทุกอย่างกรวิช : เจ้าหน้าที่ของกรมอุทยาน เพื่อนรักของ อีริกเมษา : น้องสาวของมีนา เธอเป็นคนเห็นแก่ตัว เอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรก็ต้องได้**นิยายแนวโรแมนติกดราม่า ไม่มีนอกกายนอกใจ เศร้าบ้างในช่วงแรกแต่พอพระเอกได้รักแล้วคลั่งรักสุดๆ ฝากติดตามกันด้วยน๊า**เรื่องย่ออีริคนักธุรกิจหนุ่มหล่อที่สุดแสนจะเย็นชาไม่เคยคบผู้หญิงคนไหนจริงจังมาก่อนกลับถูกใจสาวน้อยที่เจอกันตั้งแต่ครั้งแรก แต่เธอคนนี้คือลูกสาวของลูกหนี้รายใหญ่เขาและเธอคือคนที่พ่อส่งมาทำงานที่บ้านของเขาเพื่อขัดดอก ความรักของทั้งคู่จึงค่อยๆเริ่มก่อตัวขึ้นทีละนิดจากความใกล้ชิด และความดีของเธอตัวอย่างความฟิน"คุณจะจีบใครก็แค่ใช้ความจริงใจเองค่ะ ไม่เห็นต้องเอามินมาเป็นคู่ซ้อมให้เลย"เธอก้มหน้าหลบตาเขา น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ไหลลงมาอาบสองแก้มอีริคเชยคางมีนาให้ขึ้นมามองหน้าตนก่อนจะลงก้มลงจูบหน้าผากเธอ"ร้องไห้ทำไม ไม่ร้องนะครับคนดี""คุณหยุดทำแบบนี้กับมินได้แล้วค