로그인“คุณอีริคครับได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งนะครับอย่าพึ่งทำอะไรผมเลย ผมขอโอกาสครั้งสุดท้ายนะครับ”
“หึ เป็นหนี้ห้าสิบล้านมาบอกให้ให้โอกาสอีกครั้งมันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอคุณทรงพล สงสัยบริษัทกับบ้านของคุณผมคงต้องยึดขายทอดตลาดแล้วมั๊ง”
อีริคบอกทรงพลนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่ตอนนี้กำลังนั่งคุกเข่าตัวสั่นเทาก้มศีรษะให้เขาอยู่
“เอาอย่างนี้ได้มั้ยครับ ผมส่งลูกสาวไปขัดดอกให้คุณก่อนได้มั้ยครับ ขอเวลาผมแค่หนึ่งปีผมสัญญาจะหาเงินมาคืนคุณให้ครบเลยครับ”ทรงพลนิ่งคิดสักพักก่อนจะยื่นข้อเสนอที่แม้แต่อีริคเองก็ไม่อยากเชื่อว่าจะออกจากปากของคนเป็นพ่ออย่างเขา
“คุณเป็นพ่อประเภทไหนถึงยอมส่งลูกสาวให้ไปขัดดอก คุณรู้ใช้มั้ยว่าต้องเจออะไรบ้างหนี้เยอะขนาดนี้ผมคงไม่ได้ให้ลูกสาวคุณมานั่งกินนอนกินในบ้านผมเฉยๆหรอกนะ”
“ผมทราบครับ คุณจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นตามที่คุณอีริคต้องการเลยครับ ขอแค่ให้โอกาสผมอีกครั้งและอย่าทำอะไรครอบครัวเรา ผมสัญญาว่าจะรีบหาเงินมาคืนให้เร็วที่สุดเลยครับ”
“หึ ดี ในเมื่อคุณกล้าเสนอผมก็กล้ารับวันเสาร์นี้บอกลูกสาวคุณเตรียมตัวไว้เลยผมจะส่งคนไปรับ”
“ได้ครับ ขอบคุณครับๆๆ”
ทรงพลขอบคุณอีริคและรีบวิ่งออกจากห้องทำงานเขาทันที
“นายครับทำแบบนี้มันจะดีหรือครับ”มาร์คมือขวาของอีริคถามผู้เป็นนายด้วยความเป็นห่วง เพราะจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ที่เขาพึ่งปล่อยไปยังไงก็ไม่มีทางหาเงินมาคืนเขาแน่
“จัดการทีหลังก็ยังไม่สาย อยากจะรู้มันจะมาไม้ไหน”อีริคบอกลูกน้องเพราะเขาเองก็รู้อยู่แล้วว่าคนแบบนี้ที่ยอมขายได้แม้แต่ลูกสาวตัวเองไม่มีทางที่จะทำตามสัญญาที่พูดไว้แน่นอน ถ้าไม่เป็นเพราะลุงของเขาขอร้องในตอนนั้นไม่มีทางที่เขาจะให้คนแบบนี้ยืมเงินไปลงทุนเด็ดขาด เพราะทรงพลคือเพื่อนรักของลุง เขาจึงยอมให้เงินก้อนนี้ให้เขาไปลงทุนอีกอย่างเขาเองก็อยากให้ลุงได้เห็นธาตุแท้ของคนคนนี้ที่คอยแต่จะปอกลอกลุงเขา แต่น่าเสียดายที่คุณลุงเสียไปก่อนจึงไม่ได้เห็นธาตุแท้ของเพื่อนรักคนนี้
สามปีก่อนตั้งแต่ที่เขาให้เงินก้อนนี้ทรงพลไปลงทุน ทรงพลก็ไม่เคยทำตามคำพูดที่ให้ไว้สักอย่าง งานก็ไม่สำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน แต่กลับเอาเงินให้ลูกเมียใช้ชีวิตหรูหราในแวดวงไฮโซ เมื่อเขาบอกว่าจะส่งลูกสาวมาขัดดอกก็นึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยเพราะไฮโซอย่างลูกสาวเขาจะทำอะไรได้
บ้านตระกูลอภิวัฒน์
“เป็นยังไงบ้างคะคุณ”ดารณีรีบตรงเข้ามาถามทรงพลทันทีที่เห็นสามีเดินเข้ามาในบ้าน
“ยังดีที่มันยังให้โอกาสไม่อย่างนั้นแม้แต่บ้านหลังนี้เราก็จะไม่มีให้อยู่แล้ว แต่มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”
“เงื่อนไขอะไรคะ”ดารณีถามสามีด้วยความสงสัย
“เราต้องส่งลูกสาวเราไปขัดดอก”
“ห๊ะ คุณว่าอะไรนะคะ จะให้ส่งลูกสาวเราไปขัดดอก นี่คุณบ้าไปแล้วเหรอคะ”
“คุณใจเย็นๆสิฟังผมก่อน ลูกสาวเราไม่ได้มีแค่เมษาคนเดียวสักหน่อย คุณลืมไปแล้วหรือว่ายังมีมีนาอีกคน”สองสามีภรรยามองหน้ากันด้วยรอยยิ้มร้าย
เย็นวันนั้นขณะที่ทั้งสี่คนนั่งทานข้าวเย็นกันอยู่ทรงพลก็แจ้งทุกคนเรื่องสถานการณ์ในบ้านตอนนี้
“พ่อมีเรื่องจะบอกลูกๆทั้งสองคนว่าช่วงนี้บ้านเรากำลังเจอวิกฤติพ่ออยากขอความร่วมมือจากทั้งสองคนให้ช่วยพ่อหน่อย”ทรงพลตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องหนี้สินให้ลูกสาวฟัง
“เมษาไม่เอาด้วยหรอกนะคะ หนี้คุณพ่อเป็นคนก่อก็ต้องหาทางใช้เองสิคะ”เมษาบอกผู้เป็นพ่อโดยที่ไม่สนใจใยดีผู้เป็นพ่อเลยแม้แต่น้อย
“มีนาล่ะลูก”ดารณีเป็นฝ่ายถามบ้าง
“เอ่อ ถ้าจะให้หนูช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านบ้างก็น่าจะพอได้อยู่ค่ะ เดี๋ยวหนูหางานพิเศษทำเพิ่มหลังเลิกเรียนค่ะ”มีนาบอกทุกคนเพราะอยากช่วยพ่อจริงๆ ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ค่าเล่าเรียน ค่ากินค่าอยู่ของเธอจะเป็นเงินที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แต่ถ้าครอบครัวของเธอลำบากเธอก็พร้อมจะทำงานหนักขึ้นเพื่อช่วยเหลือครอบครัว
“โถ ลูกสาวแม่กตัญญูอะไรขนาดนี้”ดารณีแสร้งทำเป็นลูบหัวมีนาด้วยความสงสารและเห็นใจ
“พ่อมีทางที่ง่ายกว่านั้นโดยที่ลูกไม่ต้องลำบากมาก คือลูกแค่ไปอยู่บ้านคุณอีริคคอยช่วยงานเขาเล็กๆน้อยๆแค่นั้นก็พอแล้ว”
“อะไรนะคะ นี่พ่อจะให้หนูไปอยู่บ้านเจ้าหนี้ พ่อจะให้หนูไปขัดดอกหรอคะ”มีนาถามพ่อด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าพ่อจะยอมให้ลูกสาวตัวเองไปอยู่บ้านใครก็ไม่รู้ โดยเฉพาะผู้ชายคนนี้ที่ใครๆก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่โหดมาก
“มีนาใจเย็นๆฟังพ่อก่อนนะ ถ้าพ่อไม่ทำแบบนี้บ้านหลังนี้รวมทั้งบริษัทก็จะถูกเขายึดไปจนหมด ถึงตอนนั้นครอบครัวเราก็จะไม่มีอะไรเหลือเลยนะ พ่อสัญญาไปอยู่แค่ไม่นานไม่เกินหนึ่งปีพ่อต้องหาเงินไปคืนเขาได้แน่นอน”ทรงพลพยายามหว่านล้อมลูกสาวโดยมีดารณีนั่งตีหน้าเศร้าอยู่ข้างๆ
“เราไม่ต้องมีบ้านหลังใหญ่ ไม่ต้องมีบริษัทก็ได้นี่คะ เราขายทั้งหมดเพื่อใช้หนี้เขาก็ได้แล้วไปหาซื้อบ้านหลังเล็กๆอยู่กันไม่ดีกว่าหรอคะ”มีนาเสนอ
“ไม่ได้เมษาไม่ยอม ทำแบบนั้นเมษาก็อายเพื่อนแย่ พี่มีนาไปอยู่บ้านเขาน่ะดีแล้ว คนอื่นจะได้ไม่ต้องลำบากด้วย”
“นะลูกถือว่าช่วยพ่อสักครั้ง”
ทั้งทรงพลและดารณีพยายามเกลี้ยกล่อมมีนาจนสุดท้ายเธอก็ยอมใจอ่อนตอบตกลง ถึงแม้ว่าภายในใจตอนนี้จะเจ็บปวดมากและมีคำถามมากมายเข้ามาในหัว เธอได้แต่เก็บความเจ็บปวดและความน้อยใจเอาไว้ในใจไม่แสดงออกมาให้ใครเห็น
ทุกครั้งที่ต้องเสียสละก็จะเป็นเธอตลอดที่ต้องเป็นฝ่ายยอมแม้แต่ตอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเธอก็เลือกเรียนมหาวิทยาลัยรัฐเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ตอนที่พ่อแม่บอกว่าค่าใช้จ่ายในบ้านไม่พอเธอก็อาสาจะหาเงินส่งตัวเองเรียนจนถึงปีสี่อีกแค่ไม่ถึงปีเธอก็จะเรียนจบแล้ว ผิดกับน้องสาวเธอที่อยากได้อะไรพ่อแม่ก็หาให้ทั้งหมดไม่เคยต้องลำบากอะไร ครั้งนี้ก็เหมือนกันคนที่ถูกกดดันให้ไปทำงานขัดดอกก็คือเธอ จนบางครั้งเธอเองก็คิดสงสัยว่าเธอใช่ลูกของพ่อกับแม่จริงๆหรือเปล่า แต่เพราะความรักครอบครัวทำให้เธอเก็บความเจ็บช้ำน้ำใจนั้นเอาไว้ในใจ
“มินตกลงก็ได้ค่ะ แต่พ่อต้องสัญญานะคะว่าจะไม่ให้มินอยู่ที่นั่นนาน”
“พ่อสัญญาลูกพ่อสัญญา ลูกนี่เป็นลูกที่ดีจริงๆ เตรียมตัวไว้นะวันเสาร์นี้จะมีคนมารับลูกที่บ้าน”
“เร็วขนาดนี้เลยหรอคะ มินยังไม่…”
“จะช้าจะเร็วก็ต้องไปอยู่ดีนั่นแหละพี่มินจะเล่นตัวทำไม น่ารำคาญ”เมษาบ่นมีนาด้วยท่าทางโมโห
คืนนั้นมีนาได้แต่นอนคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นช่วงค่ำ เธอถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะไหวจริงๆใช่ไหม คิดไปน้ำตาก็ไหลไปจนเพลียหลับไปทั้งน้ำตา
เช้าวันใหม่ บริษัท RIC electronics"พี่สาเอมได้ข่าวว่าวันนี้ภรรยาบอสจะมาเลี้ยงขนมหวานเราหรอ"เอมถามรสาด้วยความอยากรู้"เห็นคุณมาร์คพูดแบบนั้น พี่ก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย""ว่าแต่ภรรยาของบอสจะหน้าตาเป็นแบบไหนนะ เอมไม่เคยได้ยินข่าวว่าบอสมีแฟนมาก่อนเลย"พนักงานในบริษัทต่างเดากันไปต่างๆนาๆว่าภรรยาของบอสเป็นใครมาจากไหน เพราะมาร์คเล่นปล่อยข่าวไปทั่วว่าอีริคมีภรรยาแล้วและวันนี้เธอก็จะมาเลี้ยงขนมและเครื่องดื่มทุกคนด้วยทำให้ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอนายหญิงจนไม่เป็นอันทำการทำงาน"บอส คุณมินสวัสดีครับ""สวัสดีค่ะคุณมาร์ค""วันนี้ทุกคนในบริษัทต่างเฝ้ารอการปรากฏตัวของภรรยาบอสนะครับ"มาร์คบอกมีนายิ้มๆ"ทำไมทุกคนถึงรู้ล่ะคะ""ผมบอกเองครับ ก็คุณอีริคบอกให้ผมแจ้งทุกคนว่าวันนี้ภรรยาของคุณอีริคจะแวะเอาขนมมาฝากทุกคน""ทุกคนหรอคะ"มีนาถามทั้งสองคนด้วยความงง เพราะเดิมทีเธอตั้งใจจะแวะมาเยี่ยมพี่ๆในแผนกที่เธอฝึกงานอยู่เท่านั้น แต่อีริคกลับให้มาร์คแจ้งทุกคนว่าภรรยาเขาจะเลี้ยงของหวาน จริงๆเป็นแผนของอีริคที่อยากเปิดตัวภรรยาสาวกลายๆ"เป็นแผนของพี่ใช่มั้ยคะ""พี่แค่อยากบอกทุกคนว่ามีเมียแล้วมันผิดตรงไหน"อีริคตอบเมียรักหน้าตาย
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง"รอแป๊บนึงนะคะ"มีนารีบวิ่งออกมาจากบ้านเมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะพี่สาว""เมย์มาได้ยังไง"มีนาตกใจที่คนหน้าประตูบ้านเป็นเมษาอดีตน้องสาว"ก็คิดถึงพี่ไงเลยลองมาหาไม่คิดว่าพี่จะยังอยู่ที่บ้านของคุณอีริค หนี้ก็ไม่ต้องใช้แล้วไม่ใช่หรอทำไมถึงยังอยู่ที่นี่อีก""เรื่องนี้พี่ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้เมย์รู้ ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่ขอตัวเข้าบ้านก่อนนะ เมย์ก็กลับไปเถอะ"มีนาไม่รอฟังเมษาพูดรีบเดินเข้าบ้านไปทันที ตอนนี้เธอรู้สึกไม่สบายใจนักเพราะไม่รู้ว่าที่เมษามาในวันนี้มีจุดประสงค์อะไร ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้จักนิสัยของเมษาที่เธอมาในวันนี้ต้องมีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงแน่นอน แต่เมื่อเธอตัดขาดจากครอบครัวนี้แล้วก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีกจึงพยายามหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด"นังมิน แกทำให้ชีวิตของชั้นต้องตกอับแบบนี้ แต่ตัวเองกลับมีชีวิตที่สุขสบาย อย่าหวังว่าชีวิตแกจะดีกว่าชั้นได้เลย"เมษาได้ข่าวว่างานประมูลการกุศลที่กำลังจะจัดขึ้นอีริคจะไปร่วมงานด้วย เธอคิดว่าถ้ามีนาเป็นคนสำคัญของอีริคจริงเขาต้องพาเธอไปด้วยแน่นอน จึงตั้งใจจะไปร่วมงานนี้ด้วยเพื่อแฉให้มีนาต้องอับอาย"สวยม
“จะพามินไปไหนคะ”“จดทะเบียนสมรส”“ห๊ะ พี่อีริคมินว่ามันเร็วไปหน่อยนะคะ”“เร็วอะไรเอากันขนาดนี้แล้ว ท้องป่องก่อนจะว่าไง อย่าลืมนะว่าพี่ไม่เคยป้องกันเลย”อีริคกระซิบข้างหูมีนา“คนบ้า”มีนาตีแขนเขาและก้มหน้างุดด้วยความเขิน คนอะไรทะลึ่งได้ตลอดเวลา“ต่อจากนี้ไปฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับคุณภรรยา”อีริคยิ้มบอกมีนาหลังจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้ว“ทำแบบนี้พ่อแม่พี่จะไม่ว่าอะไรหรอคะ”แม้จะจดทะเบียนสมรสกันแล้วมีนาก็ยังไม่ค่อยสบายใจนักเพราะกลัวพ่อแม่ของอีริคจะรับไม่ได้“พี่โตแล้วนะ พ่อแม่พี่ไม่ว่าอะไรหรอก”อีริค ดึงมือภรรยาป้ายแดงมากุมไว้และขับรถตรงกลับบ้าน“เอ๊ะ รถใครคะพี่ชวนใครมาบ้านคะ”มีนาถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นรถตู้สีดำจอดอยู่“เข้าบ้านกันเดี๋ยวมินก็รู้เอง”อีริคยิ้มอย่างมีเลศนัย“เซอร์ไพรส์”ทันทีที่ทั้งสองคนเดินเข้าบ้านมาแม่ของอีริคก็ออกมาเซอร์ไพรส์ทั้งสองคน จะว่า เซอร์ไพรส์ทั้งคู่ก็ไม่ได้เพราะอีริครู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว มีเพียงมีนาที่ไม่รู้อยู่คนเดียว“นี่มันอะไรกันคะ”มีนาถามอีริคด้วยความงง“เจ้าลูกชายคนนี้ชอบเล่นอะไรแผลงๆเห็นมั้ยลูกสะใภ้แม่ตกใจหมดแล้ว โอ๋ มานี่มาลูกมาให้แม่กอดหน่อย แม่ขอโทษน
"พรุ่งนี้พี่พามินไปเปลี่ยนนามสกุลใหม่นะ ว่าแต่ไม่สนใจจะเปลี่ยนมาใช้นามสกุลพี่หรอ"อีริคถามมีนาขณะที่ทั้งคู่นอนกอดกันอยู่บนเตียง"มินอยากใช้นามสกุลของคุณพ่อก่อนค่ะ เอ่อ พี่อีริคไม่ว่าอะไรใช่มั้ยคะ""พี่รู้พี่ก็แค่พูดหยอกมินแค่นั้นแหละ มินใช้นามสกุลของพ่อไปก่อนเถอะอยากเปลี่ยนเมื่อไหร่ค่อยเปลี่ยน แต่ลูกของเราต้องใช้นามสกุลพี่นะ""พี่อีริคพูดอะไรคะ ใครจะไปมีลูกกับพี่กัน""ก็มินไง คืนนี้เราเริ่มทำการบ้านอย่างจริงจังกันเลยนะ"อีริคไม่รอช้าขึ้นคร่อมไปอยู่บนตัวมีนาและก้มลงจูบเธออย่างดูดดื่ม สองมือเลื่อนไปกอบกุมมือของคนรักเอาไว้ คืนนี้มีนาเองก็จูบตอบอีริคอย่างหวานชื่นเช่นกัน“คืนนี้กินไส้กรอกให้พี่หน่อยได้มั้ย”อีริคกระซิบข้างหูมีนาหลังทั้งคู่คลายจูบออกจากกันเมื่อได้ยินคำขอของเขาแทนที่มีนาจะเอียงหน้าหนีและบ่นว่าเขาลามก เธอกลับยกสองแขนขึ้นมาคล้องคอเขาเอาไว้พลางส่งสายตาหวานเยิ้มยั่วยวนเขาและดึงเขาลงมาจูบ“อยากให้กินก็นอนลงสิคะ”มีนาได้ทีกระซิบข้างหูเอาคืนเขาบ้าง“อื้ม มินยั่วแบบนี้พี่จะอดใจไหวได้ยังไง ถ้าคืนนี้ไม่ได้นอนจะโทษพี่ไม่ได้นะ”“พูดมากจัง”มีนาบ่นเขาก่อนจะผลักคนตัวโตให้นอนราบลงบนที่นอนเธอ
มีนาใช้เวลาทบทวนสิ่งต่างๆร่วมอาทิตย์ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้จึงบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการให้อีริคฟัง"มินอยากออกมาจากครอบครัวนี้ค่ะ อยากกลับมาใช้นามสกุลของพ่อแม่ อยากมีชีวิตเป็นของตัวเองค่ะ""ได้สิ เรื่องแค่นี้พี่จัดการให้สบายมาก""แต่มินมีเรื่องที่อยากขอพี่เหมือนกัน ถ้าพี่ไม่ว่าอะไรมินอยากให้พี่ยกหนี้ให้พวกเขา เงินมินจะพยายามหามาคืนพี่เท่าที่มินทำได้เพราะถึงยังไงพวกเขาก็เลี้ยงมินมาแม้จะไม่ได้ดีนักแต่ก็ไม่ได้อดอยาก มินอยากแยกจากกันด้วยดีค่ะ""ได้สิ เงินแค่นี้แลกกับอิสรภาพของแฟนพี่พี่ไม่ติดใจเอาเรื่องอะไรหรอกคนพวกนั้นหรอก""ขอบคุณนะคะที่เข้าใจมิน"ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะเอาเรื่องอะไรกับทรงพลแต่เพราะเขาเข้าใจความรู้สึกและนิสัยของมีนาดีเขาจึงไม่อยากทำให้เธอคิดมากและไม่สบายใจจึงเลือกที่จะสนับสนุนสิ่งที่เธอเลือก แต่คนอย่างเขาก็ไม่มีทางยอมให้แฟนตัวเองเสียเปรียบจิ้งจอกเฒ่าอย่างทรงพลแน่นอน เขาเตรียมวิธีจัดการกับเรื่องนี้ตั้งแต่รู้ว่ามีนาไม่ใช่ลูกของครอบครัวนี้แล้วบริษัท RIC electronicsห้องทำงานของอีริค“นายครับคุณทรงพลมาแล้วครับ”“เชิญเขาเข้ามา เอกสารทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้วใช่ไหม”อีริคถามมาร์
ตลอดเช้าวันนั้นมีนามีสีหน้าเป็นกังวลตลอดเวลาจนอีริคสังเกตได้ว่าเธอมีเรื่องไม่สบายใจอยู่"เป็นอะไรทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นระวังจะแก่เร็วนะ"อีริคเดินเข้าไปนั่งบนโซฟาข้างๆเธอและดึงเธอเข้าไปกอด"เรื่องที่พี่คุยโทรศัพท์เมื่อเช้ามินได้ยินหมดแล้วนะคะ"มีนานั่งครุ่นคิดอยู่นานก่อนตัดสินใจเอ่ยปากบอกเขา"ที่ทำหน้าเครียดทั้งเช้าเพราะเรื่องนี้เองหรอ""ก็เพราะครอบครัวมินก่อเรื่องให้พี่อีกแล้ว""เด็กน้อยเรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องกังวลเลย"อีริคขยี้ผมเธอเบาๆเพื่อให้เธอผ่อนคลายขึ้น"ถึงยังไงมินก็ไม่สบายใจอยู่ดี เรื่องของเรา เอ่อ พี่ลองคิดดูอีกทีมั้ยคะ"มีนาตัดสินใจถามเขาเพราะไม่อยากเอาเปรียบเขามากไปกว่านี้เมื่อได้ฟังสิ่งที่มีนาพูดแล้วอีริคก้มลงจูบปิดปากเธอเพื่อไม่ให้เธอพูดอะไรอีก เดิมทีเขาคิดว่าจะรอจัดการเรื่องของทรงพลให้เรียบร้อยก่อนเขาถึงจะบอกความจริงกับเธอ แต่เห็นเธอไม่สบายใจแบบนี้เขาจึงตัดสินใจที่จะบอกความจริงกับเธอ แม้ภายในใจจะกลัวว่าอาจจะต้องเสียเธอไปก็ตาม"พี่อยากพามินไปที่ๆหนึ่งไปแต่งตัวนะ"มีนาได้แต่นึกสงสัยอยู่ในใจว่าทำไมเขาถึงพาเธอมาที่วัดเพราะปกติไม่เห็นเขาจะเคยชวนเธอมาทำบุญที่วัดเลยแต่ก็ไม่ได้ถ





![เจ้าสาวจัดดอก [PWP] + [NC30+]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

![จิรัติพันประดับ [เซตเกี่ยวรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)