3
ภารกิจแรก
จังหวะที่เจ้าของฉายาจักรพรรดิภาพยนตร์เดินเข้ามา เป็นช่วงที่ผู้ร่วมรายการทุกคนหยุดนิ่ง ต่างจากผู้ชมในไลฟ์สดที่ฟลัดข้อความกันรัวๆ ด้วยความบ้าคลั่ง
เหล่าแฟนคลับของแม่ทัพที่รู้ว่านักแสดงคนโปรดของตนมาปรากฏตัวที่รายการต่างก็พากันเข้ามาดูอย่างรวดเร็ว ทำให้รายการที่มีคนดูมากอยู่แล้วเพราะชื่อเสียงอันโด่งดังของผู้เข้าร่วมรายการทั้งสี่คน กลายเป็นรายการที่มีคนเข้าชมการถ่ายทอดสดมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
ผมสีดำของชายหนุ่มตัดสั้นดูสะอาดสะอ้าน ใบหน้ารูปไข่คมสัน ตาสีเทาเข้มคมกริบ รอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ที่ส่งให้กล้องชวนหลงใหล สัดส่วนของตาจมูกปากที่กูรูต่างคอนเฟิร์มว่าเป็นสัดส่วนทองคำ ส่งผลให้ใบหน้าของเขาดูหล่อเหลาชนิดที่คนมองต้องกลั้นหายใจ ก่อนจะถอนหายใจอย่างพึงพอใจกับความหล่อระดับโลกที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้
รูปร่างของเขาดูสูงโปร่งสง่างาม เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่กระดุมบนถูกเปิดออกสองเม็ด ทำให้เห็นกล้ามเนื้อกระชับได้สัดส่วน กางเกงยีนพอดีตัวจับคู่กับรองเท้าแบรนด์ที่เขาเป็นพรีเซนเตอร์และเป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันที่ทำมาเพื่อเขาเพียงคู่เดียวในโลก นาฬิกาสปอร์ตที่มีฟังก์ชันครบครันและไม่มีวันหยุดเดิน ส่งผลให้บรรยากาศรอบกายของเขาดูผ่อนคลาย
เมื่อดวงตาคมสบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของคนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาอย่างยาวนาน รอยยิ้มก็หุบลง ก่อนจะยกมุมปากขึ้นเพียงเล็กน้อย
...แสดงออกถึงความเป็นคู่อริกันอย่างชัดเจน
[เขามองกันแล้ว!]
[โอ้มายโกส เป็นครั้งแรกในชีวิตที่สองคนนี้อยู่ในเฟรมเดียวกัน]
[ฉันแคปไว้หมดแล้ว ฉากแห่งประวัติศาสตร์!]
[แม่เจ้า มองกันไฟลุกแบบนี้ ตบกันเลยมั้ย เปลี่ยนชื่อรายการเถอะ]
แน่นอนว่าผู้ร่วมรายการไม่มีโอกาสได้รู้ถึงความคิดของเหล่าคนดู สายตาของทุกคนต่างตกอยู่ที่แม่ทัพ มีเพียงช่วงท้ายที่รู้สึกถึงบรรยากาศที่เย็นขึ้นกะทันหัน ทำให้ต้องมองตามสายตาของชายหนุ่มไปเจอกับก้ามปูที่สีหน้าแสดงออกถึงความเป็นอริอย่างชัดเจน
“สวัสดีค่ะ พี่แม่ทัพ” เป็นเฟรินที่ช่วยทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดใจ เธอส่งยิ้มหวานสวยสมกับเป็นนางงามจักรวาลผู้มีกิริยามารยาทงดงามไปให้
“สวัสดีครับทุกคน”
ชายหนุ่มที่เข้ามาเป็นคนสุดท้ายเอ่ยทักทายทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ทำให้เฟรินแอบหน้าเจื่อน ส่วนก้ามปูก็สะบัดหน้าหนีคำทักทายพร้อมกับเบ้ปาก
“ตอนนี้ผู้ร่วมรายการก็มากันครบทุกคนแล้ว กิจกรรมแรกของเราในวันนี้คือแบ่งทีมทำความสะอาดและทำอาหาร ขอให้ผู้ร่วมรายการทุกคนขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อน” โปรดิวเซอร์หนุ่มเริ่มดำเนินรายการทันที
ก้ามปูเดินขึ้นไปยังชั้นสอง เข้าไปในห้องที่แปะป้ายชื่อของเธอไว้ ข้างในห้องมีกระเป๋าเดินทางที่ถูกทีมงานขนขึ้นมาไว้ให้ก่อนแล้ว
หลังจากเปลี่ยนเป็นชุดคล่องตัวสำหรับการทำงานอย่างเสื้อยืดกางเกงขาสั้นแล้ว หญิงสาวก็เดินลงไปชั้นหนึ่ง
“นี่มันรายการเดตจริงๆ ใช่มั้ย ทำไมพวกเราต้องมาทำงานพวกนี้ด้วยละคะ”
เฟรินถามโปรดิวเซอร์ ซึ่งเจ้าแม่ดราม่าก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย มาออกรายการนี้ทุกคนต้องแสดงออกอย่างเต็มที่เพื่อแย่งซีน จะมาคีปลุคเป็นคนดีคอยเห็นดีเห็นงามกับโปรดิวเซอร์หมดทุกอย่างไม่ได้หรอกนะ
“เพื่อเป็นการละลายพฤติกรรม เราก็ต้องเริ่มจากอะไรที่มันเบาๆ ก่อนสิครับ จะได้กระชับความสัมพันธ์กันสักหน่อย”
โปรดิวเซอร์อธิบาย จากนั้นก็แบ่งผู้ร่วมรายการออกเป็นสองทีมด้วยการจับไม้สั้นไม้ยาว
[ฉากนี้แหละที่ฉันรอคอย!]
[ระเบิดลงแน่ ทีมงานเตรียมพร้อมได้เลย]
นอกจากเหล่าแฟนคลับที่เข้ามาดูไลฟ์สดเพื่อเชียร์คนโปรดของตนแล้ว หัวข้อที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดเห็นจะเป็นการร่วมงานกันเป็นครั้งแรกของคู่อริคู่กัดระดับชาติอย่างจักรพรรดิภาพยนตร์และเจ้าแม่ดราม่า
ยิ่งเมื่อทั้งคู่จับไม้ได้อยู่ทีมเดียวกันด้วยแล้ว ช่องแชตก็แทบจะลุกเป็นไฟ
“ดีจังเลยครับที่เราได้อยู่ทีมเดียวกัน”
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าที่ก้ามปูเห็นภาพของอี้เฉินกลายเป็นหมาน้อยกระดิกหางระริกๆ อย่างดีใจที่ได้อยู่กับเจ้าของ
“ค่ะ พี่ก็ดีใจเหมือนกัน แต่ดีใจได้ไม่สุดเพราะมีอีกคนอยู่ด้วย”
ก้ามปูไม่คิดที่จะถนอมน้ำใจใครสักนิด เพราะสคริปต์รายการนี้บอกให้เธอเล่นเป็นตัวของตัวเองและเพิ่มความร้ายกาจความเป็นคุณหนูขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ ดังนั้นกับคนที่ยิ่งเป็นศัตรูด้วยแล้ว...เธอไม่คิดที่จะแยแส
ฝ่ายคนที่โดนเหน็บอย่างแม่ทัพไม่รู้ว่าไม่ได้ยินหรือแกล้งทำเป็นหูทวนลมกันแน่ เขายังคงตั้งหน้าตั้งตาฟังคำสั่งจากโปรดิวเซอร์ต่อ ปฏิกิริยานั้นทำให้ก้ามปูรู้สึกเซ็ง เหมือนเธอต่อยเข้ากับปุยนุ่น
“ทีมที่จับได้ไม้ยาวคือทีมที่ต้องทำอาหารเย็น ส่วนทีมที่จับได้ไม้สั้นต้องทำความสะอาดบ้านทั้งหลัง เย็นวันนี้เราจะมีปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำกัน ดังนั้นทุกอย่างจะต้องเสร็จก่อนห้าโมงเย็น...”
การทำภารกิจครั้งนี้กินเวลายาวตั้งแต่สิบเอ็ดโมงถึงสี่โมงเย็น อาหารเที่ยงมีทางทีมงานเตรียมไว้ให้แล้ว จะมากินเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนอาหารเย็นที่ต้องทำเตรียมเป็นจำนวนมากสำหรับงานปาร์ตี้ริมสระจะเป็นหน้าที่ของผู้ร่วมรายการ
ที่ต้องให้ทุกอย่างเสร็จก่อนห้าโมงเย็นเพราะจะมีกิจกรรม Talent Show ให้ทุกคนได้เข้าร่วม แต่โปรดิวเซอร์ยังไม่ได้บอกกติกาของกิจกรรมนี้
“ไปเช็ดไกลๆ หน่อยได้มั้ย รำคาญลูกตา”
เริ่มงานได้ไม่เท่าไหร่ หญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มอย่างก้ามปูก็รู้สึกรำคาญหูรำคาญตาที่ต้องทำงานร่วมกับแม่ทัพจนต้องแหวเข้าใส่
ทีมของเธอซึ่งประกอบไปด้วยเธอ อี้เฉิน และแม่ทัพ ตอนนี้กำลังทำความสะอาดห้องสะสมของเก่าของเจ้าของบ้านอยู่เป็นจุดแรก
“แม่ก็ไม่ใช่ เมียก็ไม่ใช่ เรื่องอะไรฉันจะต้องฟังคำของเธอด้วย”
“ก็ได้ งั้นฉันไปเอง”
ก้ามปูเดินกระแทกไหล่หนาออกไปยังประตูห้อง ทำให้อี้เฉินหันมองคนทั้งคู่สลับกันไปมา ก่อนจะตัดสินใจเดินตามหญิงสาวออกไป
“ฝากห้องนี้ด้วยนะครับพี่แม่ทัพ เดี๋ยวผมไปช่วยพี่ก้ามปูก่อน”
[รายการเดตจะกลายเป็นรายการเดือดแล้ว]
[เชื่อแล้วว่าสองคนนี้ไม่ถูกกันจริงๆ]
[ชัดเจนมากว่ายังไงสองคนนี้ก็ไม่ได้เดตกันชัวร์]
อี้เฉินเดินตามนักแสดงสาวไปยังห้องหนังสือโดยไม่ลืมที่จะหิ้วอุปกรณ์ทำความสะอาดตามมาด้วย
“ขอโทษทีที่ทำให้นายต้องอึดอัด แต่พี่คงไม่สามารถแสดงละครแกล้งทำเป็นญาติดีกับคนแบบนั้นได้หรอกนะ” เธอรับไม้ขนไก่มาจากเด็กหนุ่ม ก่อนจะเริ่มปัดฝุ่นชั้นหนังสือ
“ผมเข้าใจครับ พวกพี่ไม่ถูกกัน จะให้ญาติดีกันก็คงจะแปลกๆ”
หญิงสาวยิ้มรับ รู้สึกดีที่มีคนเข้าใจตน “ถามอะไรหน่อยสิ นายเข้าร่วมนี้รายการนี้ได้ยังไง แล้วทำไมถึงไม่มีการเปิดเผยรายชื่อของนายออกมาล่ะ โปรดิวเซอร์ต้องการอะไรกันแน่”
“ผมได้รับการติดต่อมาตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อนแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมรายการไม่ยอมเปิดเผยชื่อผมนี่ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน คงอยากจะเซอร์ไพรส์ผู้ชมละมั้งครับ แต่ไม่รู้ว่าคนดูจะชอบเซอร์ไพรส์นี้มั้ย มีใครอยากดูผมบ้างมั้ยก็ไม่รู้” ชายหนุ่มวัยยี่สิบสองปียกมือลูบท้ายทอยอย่างเขินๆ ปฏิกิริยานี้ทำให้ได้รับเสียงกรีดร้องของแฟนคลับอย่างล้นหลาม
[เซอร์ไพรส์สิ พวกเรารักนายนะอี้เฉิน]
[ถึงฉันจะไม่ใช่แฟนคลับ แต่ก็รู้สึกเหมือนโดนหมาเด็กตกเข้าแล้วสิ]
[อย่าพูดอย่างนั้นสิ พี่ดังมากๆ เลยนะ ผมดีใจมากที่ได้เห็นไอดอลของผมได้ออกรายการร่วมกับคนดังคนอื่น]
“มีสิ มีเยอะแยะมากมายเลยล่ะ” ก้ามปูให้กำลังใจ
“แค่มีแฟนคลับมาดู ผมก็ดีใจแล้วครับ แต่แปลกใจนิดหน่อย ไม่นึกว่าโปรดิวเซอร์จะเล่นอย่างนี้ แล้วพี่ล่ะ รู้เรื่องที่พี่แม่ทัพมาเข้าร่วมรายการไหมครับ”
“ฉันก็รู้เท่าๆ กับที่คนดูรู้นั่นแหละ”
ก้ามปูตอบสั้นๆ ก่อนจะจมอยู่กับความคิดของตน
เหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำ หลังจากที่ออกจากโรงแรมในตอนเช้า เธอก็ปรึกษาเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพี่ลินผู้จัดการของเธอทันที
ในคืนนั้น เธอร้องคาราโอเกะกับเหล่าสาวๆ เพื่อนร่วมวงการอย่างเพลิดเพลินจนดึก กินดื่มอย่างเต็มที่เพราะเป็นร้านประจำและเป็นสถานที่ที่มีความปลอดภัยสูง
ปกติแล้วเธอรู้ลิมิตของตัวเองทุกครั้ง ไม่เคยดื่มจนเมามายไม่ได้สติ ในคืนนั้นเธอดื่มไปเพียงไม่กี่แก้ว จำได้แค่ว่าง่วงมากจนโทรสั่งให้คนขับรถที่รออยู่เข้ามารับ
ระหว่างรอ เธอก็นั่งพักสายตาบนโซฟาไปพลางๆ
และหลังจากที่เธอเผลอหลับไปในตอนนั้น ก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยจนกระทั่งตื่นมาบนเตียงเดียวกับแม่ทัพ
ไม่รู้ว่าคนที่ทำเรื่องแบบนั้นมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ เพราะตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ไม่มีรูปหลุดของพวกเธอออกมา และไม่มีภาพหลุดจากปาปารัสซี่ที่น่าจะแอบถ่ายตอนเธอเดินออกจากห้องเลยสักรูป
ส่วนคนขับรถที่เธอเรียกหานั้น ปรากฏว่านอนสลบอยู่ในรถจนถึงเช้า และไม่รู้เช่นกันว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
พี่ลินเลยได้จัดการเปลี่ยนคนขับรถส่วนตัวให้เธอใหม่ พร้อมกับจ้างบอดี้การ์ดมาคุ้มกันชั่วคราว และให้เธองดออกไปสังสรรค์ที่ไหนอีก
การสังสรรค์เดียวที่เธอทำได้ในตอนนี้เห็นจะเป็นในรายการ Melt Your Heart เท่านั้น
“ปิ้งป่อง~ ภารกิจเซอร์ไพรส์มาแล้ว... ในเมื่อเป็นทีมเดียวกันก็ต้องมีความสามัคคีกัน พวกคุณจะต้องช่วยกันทำความสะอาดห้องน้ำโดยห้ามอยู่ห่างกันเกินหนึ่งเมตรจนกว่าจะทำความสะอาดเสร็จ และในระหว่างนั้นจะต้องทำท่าทางตามการ์ดที่ส่งให้ให้ครบทุกท่า”
ทันใดนั้นเสียงร่าเริงสดใสของผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ก็ถูกประกาศออกมาจากลำโพง
ให้ตายเถอะ คิดจะบังคับให้เธอกับแม่ทัพตีกันตายหรือไงกัน!
41ถอยคนละก้าว หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป... แม้จะผ่านไปเพียงไม่กี่วันที่แม่ทัพไม่ได้เจอกับก้ามปู แต่ก็มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย หนึ่ง... แม่ทัพทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับพ่อแม่ได้สำเร็จ ทำให้เขาสามารถคบกับก้ามปูอย่างเปิดเผยได้ และข้อตกลงนั้นก็คือการแก้ปัญหาภายในของบอร์ดบริหารที่ไม่ยอมให้ตระกูลของก้ามปูได้เข้ามายุ่งเกี่ยวและได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ใดๆ จากพวกเขา ความหัวแข็งของเหล่าบอร์ดบริหารถูกชายหนุ่มที่วางแผนมายาวนานหลายปีเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ พวกเขายอมยกเลิกการขัดแข้งขัดขา และอนุญาตให้แม่ทัพเป็นตัวแทนไปเจรจาธุรกิจกับทางตระกูลธิปภควรรณได้ เมื่อแม่ทัพสามารถจัดการปัญหาใต้พรมอันค้างคามานานได้สำเร็จ ข้อตกลงที่ว่าโยธินและขวัญรัตน์จะอนุญาตให้เขาคบและแต่งงานกับหญิงสาวจากตระกูลคู่แข่งได้ก็เป็นอันบรรลุผล สอง... สืบเนื่องมาจากการกระทำของแม่ทัพ กระแสต่อต้านไม่ยอมแม้แต่จะพูดคุยด้วยของทางฝั่งตระกูลธิปภควรรณเริ่มอ่อนลง พ่อแม่ของก้ามปูยอมรับฟังข้อเสนอของชายหนุ่มและนำเรื่องเข้าบอร์ดบริหาร ส่วนหนึ่งก็เพราะการโน้มน้าวจากตระกูลเทียนศักดิ์ ตระกูลของนีน่าเพื่
40อย่าทำให้ฉันผิดหวัง แล้ววันนั้นโปรดิวเซอร์ก็ได้เข้าใจว่าทำไมนักลงทุนที่ร้อยวันพันปีไม่คิดจะมาเหยียบกองถ่าย ไม่เคยออกคำสั่งอะไรให้เขาต้องลำบากใจ กลับมาสังเกตการณ์ที่กองถ่ายทั้งที่ลูกชายของตนก็ไม่ได้ต้องถ่ายทำรายการแล้ว มันเป็นเพราะว่าเธอมาจ้องจับผิดปฏิกิริยาของลูกชายตนที่มีต่อว่าที่ลูกสะใภ้นี่เอง ถึงแม้จะตกใจนิดหน่อยที่เห็นหนุ่มสาวเดินออกมาจากห้องเดียวกันในยามเช้า แต่โปรดิวเซอร์กลับรู้สึกภาคภูมิใจเสียมากกว่าที่รายการของเขาทำให้คู่กัดกลายเป็นคู่รักได้... ทำให้คู่ที่ไม่น่าเป็นไปได้ได้ลงเอยกัน เมื่อถ่ายรายการมาถึงตอนเลือกคู่ และก้ามปูดันไปเลือกปันปัน ทำให้ถูกปฏิเสธออกมา โปรดิวเซอร์ก็เลยตัดสินใจได้ว่าคนที่ควรจะถูกคัดออกจากรายการคือก้ามปู เจตนาของเธอดูชัดเจนขนาดนี้ หากเขาไม่คัดเธอออกจากรายการ แม่ทัพและก้ามปูจะต้องไม่พอใจ และคุณขวัญรัตน์ก็จะต้องไม่พอใจที่เขาทำให้ลูกชายไม่พอใจด้วยแน่ๆ [ก้ามปูทำอะไรอยู่น่ะ หลอกลวงคนดูชัดๆ] [บ้าไปแล้ว เลือกแบบนี้ได้ไง คิดว่าคนดูโง่งั้นเหรอ ก้ามปูมีรสนิยมชอบผู้หญิงที่ไหนกัน] [แต่ฉันว่าก้า
39จะทำให้ร้องขอชีวิต “ฉันอยากเสร็จในตัวเธอมากกว่า” “งั้นก็รีบเข้ามาสิ” เธอบอกความต้องการของตัวเองด้วยใบหน้าแดงก่ำ ขยับตัวขึ้นมานั่งระดับเดียวกับเขาเพื่อประกบปากจูบ แม่ทัพดันร่างบางให้นอนราบลงไปอย่างรวดเร็ว ความปวดหนึบทรมานอยากปลดปล่อยทำให้เขารั้งสติของตนไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ขณะที่จูบปากแลกลมหายใจกันอย่างตะกละตะกลาม ปลายท่อนเอ็นก็ถูไถเข้ากับปากทางที่เริ่มแฉะขึ้นอีกครั้งเพราะแรงปลุกเร้าจากเขา ก้ามปูรู้สึกถึงความคับแน่นที่ชำแรกเข้ามาภายในตัวของเธออย่างช้าๆ แต่ถึงจะอ่อนโยนเพียงใด ความใหญ่ของเขาก็ทำให้เธอที่ไม่ได้มีอะไรกับใครมานานมากเจ็บหนึบจนน้ำตาซึม ต้องระบายอารมณ์โดยการกัดริมฝีปากหนาของเขาจนห้อเลือด มือหนาจับต้นขาของเธอให้แหวกออกกว้างขึ้นเพื่อที่จะดันส่วนปลายให้หลุดเข้าไปได้ “ฮื้อ!” หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อแก่นกายของเขาดันเข้ามาในตัวเธอพรวดเดียว “รัดแน่นเชียว” ปากของเขาเลื่อนไปจูบซับน้ำตา ไล่ไปข้างขมับและใบหูอย่างปลอบประโลม ฝ่ามือบีบนวดสะกิดยอดอกสล้างให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย “ก็ของนายนั่นแหละ ฮื้อออ ใหญ่จนเจ็บไปห
38พิสูจน์สิ เธอไม่มีวันเชื่อคำพูดจากปากคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าตัวเด็ดขาด พยายามย้ำเตือนตัวเองด้วยประโยคนี้อยู่ตลอด แต่ก้ามปูก็ไม่มีกระจิตกระใจจะทำกิจกรรมยามค่ำคืนเลยสักนิด และผลก็ออกมาว่าการแสดงโชว์ในคราวนี้เธอไม่ชนะอีกตามเคย พอถึงเวลาแยกย้ายเข้านอนในโรงแรมขนาดกลางที่ทางรายการจัดไว้ให้ ซันก็เป็นฝ่ายเดินเข้ามาขอคุยด้วย “วันนี้ได้เที่ยวกับก้ามปูสนุกมากเลย ถ้าพรุ่งนี้มีโอกาสได้เดตกันอีก ก้ามปูยังอยากจะเดตกับเรามั้ย” “เอาสิ อยู่กับซันแล้วสบายใจดี” ตอนถ่ายแบบด้วยกัน ซันมีความเป็นมืออาชีพแต่ก็ไม่เคยกดดันหรือดูถูกเธอที่ไม่ถนัดด้านนั้น แถมยังช่วยให้คำแนะนำดีๆ มากมายกับเธออีกด้วย ดังนั้นหญิงสาวจึงรู้สึกสะดวกใจที่ได้ทำงานร่วมกับเขา “ก้ามปูพอจะบอกได้มั้ยว่าได้สคริปต์มายังไงบ้าง” พวกเขาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเธอ “ถ้าของสัปดาห์นี้ก็ไม่มีนะ ของนายยังมีสคริปต์อยู่เหรอ เรานึกว่าจะไม่มีกันหมดทุกคนแล้วซะอีก” “ของเราก็ไม่มีหรอก แค่สงสัยว่าทำไมก้ามปูถึงดูยังไม่ค่อยถูกใจใครน่ะ นึกว่ามีสคริปต์ให้เธอไม่เลือกใครซะอีก”
37ตัวขัดขวาง โปรดิวเซอร์รายการเมลย์ยัวฮาร์ตนั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์คอยออกคำสั่งกับผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ที่อยู่ห่างออกไป เขามองภาพของเบลอย่างสนใจ อย่างนี้เองสินะ... เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมจู่ๆ แม่ทัพถึงอยากให้พิธีกรสาวคนนี้ได้เข้าร่วมรายการ ตอนแรกที่แม่ทัพเสนอมา เขาก็นึกว่าพิธีกรคนนี้มีความสัมพันธ์อันซับซ้อนกับอีกฝ่าย ความสัมพันธ์ที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน อาจจะต้องการดันให้พิธีกรสาวดังมากขึ้น แต่พอได้เห็นการกระทำของเบลแล้ว เขาก็พอจะเดาได้ว่าจุดประสงค์ของหญิงสาวคืออะไร เธอต้องถูกไหว้วานให้มากีดกันผู้ชายคนอื่นออกจากก้ามปูแน่ๆ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ทัพถึงเข้ามาแทรกแซงกิจกรรมบางอย่างที่ทางรายการออกแบบไว้ทั้งที่แม้จะถือหุ้นอยู่ แต่รายการของเขาก็เป็นเพียงรายการเล็กๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนใหญ่ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ตระกูลวรอนัญเดชไม่เคยลงมายุ่งวุ่นวายหรือใส่ใจเลยสักครั้ง ทำกำไรน้อยหรือขาดทุนก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาได้กำไรจากธุรกิจอื่นอีกตั้งมากมาย “โปรดิวเซอร์ทำหน้าทำตาอย่างกับพวกนักสืบเวลาได้เบาะแส รายก
36เพราะความใคร่? ตั้งแต่ที่ได้รู้ที่มาที่ไปอันสลับซับซ้อนของการตั้งตัวเป็นศัตรูกันระหว่างสองตระกูล แม่ทัพก็เริ่มมองเห็นถึงความเป็นไปได้ในการแก้ไข เขาเริ่มแทรกซึมเข้าไปในบอร์ดบริหารด้วยเหล่าลูกน้องที่เลือกเองกับมือตอนอายุสิบแปดปี ก่อนหน้านั้นเขาได้ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของคนในทุกอย่าง จ้างนักสืบให้ติดตามมาโดยตลอด ทุกการเคลื่อนไหวของคนเหล่านั้นไม่อาจหลุดรอดจากสายตาของเขาได้ ด้วยความที่ธุรกิจของตระกูลวรอนัญเดชนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าคนคนเดียวจะควบคุมได้ ธุรกิจหลายอย่างจึงถูกกระจายไปให้ญาติๆ ในตระกูล แต่แน่นอนว่าคนคุมหลักยังเป็นพ่อของเขา ตระกูลของเขาไม่มีคนทรยศก็จริง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่มีคนเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน นอกเหนือจากญาติๆ ที่เข้ามาบริหารธุรกิจแล้ว ยังมีบอร์ดบริหารที่เป็นปัญหา คนพวกนี้ไม่ได้จัดการง่าย ชายหนุ่มที่ยังมีประสบการณ์น้อยอยู่จึงต้องระมัดระวัง เขาเฝ้าระวังทุกอย่างรอคอยให้วันของเขามาถึง... และมันก็ใกล้จะมาถึงแล้ว “พักหน่อยเถอะ” ชลนำผ้าอุ่นมาให้เจ้านายได้ประคบตา ตั้งแต่ถ่ายทำรายการเสร็จ แม่ทัพก็โหมทำงานหนักม