5
Talent Show
ความเป็นศัตรูของคนทั้งคู่เริ่มชัดเจนเมื่อพวกเขาได้เจอกันที่วิทยาลัยภาพยนตร์ วิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านการแสดงเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาคเอเชีย
ก่อนหน้านี้พวกเธอไม่เคยเจอกันมาก่อน เพราะที่ใดมีคนในตระกูลธิปภควรรณ ที่นั่นย่อมไม่มีคนในตระกูลวรอนัญเดช
ด้วยความที่ครอบครัวของเธอทำธุรกิจมาสองชั่วอายุคน จึงมีทั้งมิตรและศัตรูมากมาย
ตระกูลวรอนัญเดชไม่ถือว่าเป็นศัตรูก็จริง แต่ก็ใกล้เคียง
เพราะการทำธุรกิจด้านอุตสาหกรรมการบันเทิงและสินค้าอุปโภคบริโภคที่ค่อนข้างจะทับซ้อนกัน มีการแย่งลูกค้ากัน ทำให้ทั้งสองตระกูลถือเป็นคู่แข่งที่คานอำนาจกันมาแต่ไหนแต่ไร แม้จะยังไม่มีกรณีที่สั่งคนมาฆ่าแกงกัน แต่ก็ห้ำหั่นกันด้วยผลประโยชน์
ตระกูลธิปภควรรณของก้ามปูทำธุรกิจนิตยสาร ละคร และสื่อบันเทิงทางโทรทัศน์... ส่วนตระกูลวรอนัญเดชของแม่ทัพทำธุรกิจโฆษณาและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างๆ
ธุรกิจอื่นของตระกูลธิปภควรรณคือศูนย์การค้าและร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ธุรกิจของวรอนัญเดชคือร้านสะดวกซื้อหลากหลายรูปแบบที่กระจายตัวอยู่ตามรถไฟฟ้าสนามบินและพื้นที่ทั่วประเทศ
ก้ามปูถูกสอนตั้งแต่เด็กว่าตระกูลไหนสามารถคบเป็นเพื่อนได้ ตระกูลไหนไม่ได้
เมื่อรู้ว่าแม่ทัพเรียนอยู่วิทยาลัยเดียวกัน เธอจึงไม่คิดที่จะปรายตามองหรือพูดคุยด้วย
แม้จะเรียนคนละสาขา แต่ความที่ทั้งคู่มีหน้าตาดี ฐานะดี และมีพรสวรรค์ทางด้านการแสดงเป็นเลิศ ทำให้เธอและเขาต่างก็ทำรางวัลและสร้างชื่อเสียงให้กับวิทยาลัยอย่างล้นหลาม
สาขาต่างๆ ต่างก็แข่งขันกันเองอยู่แล้ว ยิ่งสาขาการแสดงและการกำกับละครของก้ามปูโด่งดังขึ้นด้วยความสามารถและผลงานละครเรื่องแรกที่ดังเปรี้ยงปร้าง ก็ยิ่งกลายเป็นที่น่าหมั่นไส้ของนักศึกษาสาขาอื่น
ส่วนสาขาการแสดงและการกำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้กันด้วยความสามารถของแม่ทัพ ย่อมกลายเป็นคู่แข่งสำคัญที่สาขาของก้ามปูพยายามจะเอาชนะให้ได้ในทุกครั้ง และส่วนใหญ่ก็จบลงด้วยการเสมอ ไม่ก็ผลัดกันแพ้ชนะ
สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ก้ามปูรู้สึกไม่ถูกชะตาและเกลียดขี้หน้าแม่ทัพก็คือการที่เขาชอบใช้ความหล่อในการหลอกล่อแฟนคลับ
แม้ว่าเธอจะพยายามไม่สนใจเขาเพียงใด แต่ข่าวลือและเรื่องราวเกี่ยวกับเขาก็มักจะลอยมาถึงหูของเธอเสมอ
ทั้งความเฟรนลี่ ไม่ถือตัว เข้ากันได้ดีกับแฟนคลับ
...และการหลอกใช้ประโยชน์จากแฟนคลับ กำจัดคู่แข่งของตัวเองไปอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้เงินสักบาท
ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังได้ยินข่าวลือเรื่องที่เขาพาแฟนคลับสวยๆ เข้าโรงแรมอีกด้วย
ข่าวนี้เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ เธอก็ไม่คิดจะเสียเวลาไปพิสูจน์หรอกนะ แต่การที่เธอได้เห็นเขาเดินเข้าโรงแรมไปกับสาวแว่นหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่ดูคลั่งไคล้เขาเอามากๆ ตอนที่เรียนอยู่ปีสอง ก็ทำให้เธอรู้เช่นเห็นชาติเขามากขึ้น
หึ ต่อหน้าทำตัวดี แต่ลับหลังกลับเป็นแค่ผู้ชายเจ้าชู้ หลอกฟันผู้หญิงไปทั่ว
“อันนี้อร่อยดี ลองกินดูสิ”
ปันปันวางซี่โครงเนื้อบาร์บีคิวลงบนจานของก้ามปู
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาอาหารเย็น หลังจากที่ผ่านการทำความสะอาดบ้าน และภารกิจเซอร์ไพรส์มาแล้ว พวกเธอก็มีเวลาพักผ่อนอย่างผาสุกริมสระว่ายน้ำ
ทุกคนต่างอาบน้ำเปลี่ยนชุดกันเป็นที่เรียบร้อย ทำให้เปลี่ยนสภาพจากนังแจ๋วไฮโซกลายมาเป็นเหล่าดาราดังที่พร้อมปาร์ตี้
นอกจากดนตรีจังหวะหนักๆ ที่เพิ่มบรรยากาศเร้าใจแล้ว ยังมีเทียนหอมที่ถูกวางกระจายอยู่ทุกทิศทาง เพิ่มบรรยากาศแสนโรแมนติกให้กับหนุ่มสาว
“อื้อฮือ~ อร่อยจริงๆ ด้วย ย่างมาได้กำลังดีเลย” ก้ามปูตาเป็นประกาย
ตั้งแต่ได้ดื่มน้ำปั่นฝีมือปันปันและการเข้ามาพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาของเธอ ปันปันก็กลายเป็นคนที่ก้ามปูสะดวกใจที่จะคุยด้วยมากที่สุดรองลงมาจากอี้เฉิน
ความหัวก้าวหน้าและนิสัยที่ติดมาจากต่างประเทศของปันปัน ทำให้ดาราสาวรู้สึกถูกโฉลก
“ถึงเวลาของกิจกรรม Talent Show แล้วค่ะ กติกามีอยู่ว่าจะแสดงความสามารถด้านใดก็ได้ แต่ห้ามทำในสิ่งที่เป็นอาชีพของตนเด็ดขาด กิจกรรมนี้จะให้คนดูเป็นผู้โหวต ชื่อของใครถูกพิมพ์ออกมาในช่องแชตในช่วงการแสดงห้านาทีมากที่สุด คนนั้นจะชนะและได้สิทธิพิเศษไว้ใช้ในเทปถัดไป ส่วนผู้แพ้จะต้องทำอาหารเช้าของวันพรุ่งนี้ให้ทุกคนได้กินกัน”
“คนแพ้ต้องทำอาหารคนเดียวเลยเหรอครับ” ภามถาม
“ใช่แล้ว”
ได้ยินผู้ช่วยโปรดิวเซอร์บอกดังนั้น คนที่สีหน้าย่ำแย่ที่สุดก็คือปันปัน
“นี่มันกิจกรรมเช็กฐานแฟนคลับชัดๆ” ก้ามปูพึมพำ ใครดังกว่า มีแฟนคลับแอคทีฟกว่าก็ชนะไป
“เฮ้อ... ลางแพ้ลอยมาแต่ไกล” ปันปันถอนหายใจ
เธอเป็นซูเปอร์โมเดลที่โด่งดังในต่างประเทศและมีผลงานในประเทศนิดหน่อย จะสู้กับเหล่าคนดังอีกห้าคนได้ยังไงกัน
“พี่ก้ามปู แสดงคู่กับผมมั้ยครับ” โปรเพลเยอร์หนุ่มเดินเข้ามาชวนอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวสิ มันควรจะเป็นการแสดงเดี่ยวไม่ใช่เหรอคะ” เฟรินรีบแย้ง
“กติกาไม่ได้บอกนี่ครับว่าต้องแสดงกี่คน บอกแค่ว่ามีการโหวตแยกตามรายคนเฉยๆ” อี้เฉินว่า
“ทำได้จริงๆ เหรอคะโปรดิวเซอร์” เฟรินถาม
“ได้ครับ”
“ถ้าอย่างนั้นพี่แม่ทัพช่วยแสดงคู่กับหนูได้ไหมคะ หนูจำได้ว่าพี่เล่นระนาดเอกเก่งมาก เดี๋ยวหนูจะร้องเพลงเอง”
นางงามจักรวาลรีบหันไปทำน้ำเสียงออดอ้อนจักรพรรดิภาพยนตร์ทันที ชายหนุ่มมองไปทางก้ามปูกับอี้เฉินที่เดินเคียงคู่กันออกไปหาสถานที่เตรียมการแสดงกันเงียบๆ นัยน์ตาสีเทาเข้มกลายเป็นสีดำสนิท ก่อนที่เขาจะพยักหน้าตกลง
หลังจากที่หมดเวลาเตรียมตัวห้านาที ปันปันก็ขอแสดงเป็นคนแรก เพราะเธอไม่อยากโดนคนอื่นกดดัน
เธอแสดงบทบาทสมมติเป็นหญิงสาวที่เพิ่งเสียคนรักไปในสนามรบทั้งที่เพิ่งอายุยี่สิบสองปี มีลูกสาวหนึ่งคน และลูกอีกหนึ่งคนในท้อง... เป็นการเลียนแบบฉากฉากหนึ่งในภาพยนตร์ย้อนยุคชื่อดัง
จากนั้นจึงเป็นการแสดงศิลปะการต่อสู้ผสมผสานของดาราหนุ่มอย่างภาม
[กรี๊ดดด พี่ภามเท่มากค่าาา]
[ไม่เคยรู้มาก่อนว่าภามเก่งศิลปะการต่อสู้ด้วย]
[ละครหลายเรื่องที่ผ่านมา เขาไม่เคยใช้สตั๊นท์แมนเลยนะ สมแล้วที่เป็นไอดอลของฉัน เขาทุ่มเทให้กับการทำงานมากกก]
การแสดงของเขาเน้นการวาดลวดลายงดงาม แสดงความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย เผยให้เห็นความเซ็กซี่ของกล้ามแขนและขาที่โผล่พ้นร่มผ้า ก่อนจะปิดท้ายด้วยการใช้ฝ่ามือกระแทกท่อนไม้ที่ขอให้ทีมงานเตรียมให้แตกออกอย่างง่ายดาย
บรรดาผู้ร่วมรายการสาวต่างจ้องภาพตรงหน้านิ่งงัน และเสียงปรบมือก็เริ่มดังขึ้นจากก้ามปู
รายการนี้เป็นรายการเดต การสร้างความประทับใจให้กับเพศตรงข้ามจึงเป็นเรื่องที่ควรทำ และเหล่าสาวๆ ก็ต้องแสดงออกให้มากหน่อย รายการจะได้ไม่น่าเบื่อนัก
จากนั้นก็เป็นตาของก้ามปูและอี้เฉิน
พวกเธอเลือกที่จะร้องเพลงคู่ แม้ว่าเฟรินก็เลือกที่จะร้องเพลงเช่นกัน แต่ก้ามปูก็มั่นใจในเสียงร้องของตัวเองเป็นอย่างมาก
เสียงของเธอไพเราะไม่แพ้นักร้องคนไหน เพียงแต่เธอเลือกที่จะเดินบนเส้นทางของนักแสดง ก็เลยไม่ได้ฝึกร้องมากนัก หากได้ทำการฝึกดีๆ ก็คงจะสู้นักร้องระดับประเทศได้
“อยู่ข้ามปีด้วยกันกับฉันไปนานๆ
อยู่ด้วยกันอย่างนี้ไปทุกเทศกาล
และถึงแม้เวลาผ่านไป
อยากจะขอให้เธอมั่นใจ
และไม่ว่าต้องเจอกับอะไร
เธอจะมีฉันเรื่อยไปทุกปี”*
ก้ามปูแสดงออกถึงสายตาหวานซึ้งเหมือนคนตกหลุมรักอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับแววตาของอี้เฉินที่ทอประกายอ่อนโยน... เหมือนโลกทั้งโลกมีเพียงพวกเขาแค่สองคน
* เพลงอยู่ข้ามปีด้วยกันกับฉันไปนานๆ Artist: Bow Kanyarat x marr team
[หูท้องได้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ก้ามปู]
[ตอนแรกฉันมองคู่นี้เป็นแค่พี่สาวน้องชาย แต่พอได้เห็นภาพนี้แล้ว ขอเปลี่ยนความคิด หมาเด็กมันกร๊าวใจมากกก]
[ก้ามปู ก้ามปู ก้ามปู]
[เหมือนคู่รักกันเลย ประทับใจสุด ก้ามปู อี้เฉิน]
[ไม่นึกว่าเกมเมอร์อย่างอี้เฉินก็ร้องเพลงเพราะเหมือนกัน]
[ให้ตายสิ คราวหลังเวลาสตรีมเกมก็ช่วยร้องเพลงให้เราฟังบ้างนะอี้เฉิน]
แชตข้อความปะปนไปด้วยแชตที่รัวชื่อของคนทั้งคู่เพื่อโหวตให้
ข้อความที่ปรากฏอยู่ไม่ถึงหนึ่งวินาทีดีต่างก็ถูกข้อความใหม่ๆ ฟลัดหายไป บ่งบอกว่าคู่นี้ได้รับคะแนนโหวตอย่างล้นหลาม เหล่าคนที่ไม่เคยจิ้นคู่นี้มาก่อนก็เริ่มมองเห็นความเป็นไปได้มากขึ้น
“สองคนนี้ก็ดูเหมาะสมกันดีนะคะ” เฟรินทำเสียงกระซิบกระซาบกับแม่ทัพ
เธอสนับสนุนให้ก้ามปูจับคู่กับอี้เฉิน เพราะเธอไม่คิดจะชายตามองพวกเกมเมอร์อย่างชายหนุ่ม เขารวยก็จริง แต่ก็มีช่วงเวลาให้กอบโกยได้เพียงไม่กี่ปี ถ้าเกิดฟอร์มตกขึ้นมา ก็จะไม่ได้ต่อสัญญา ไหนจะกรณีที่ทีมแพ้ตกอันดับ ไม่มีสปอนเซอร์เข้าอีก ชีวิตของคนพวกนี้ที่โฟกัสแต่การเล่นเกม จะไปทำมาหากินอย่างอื่นอะไรได้
สู้จักรพรรดิภาพยนตร์ก็ไม่ได้ ทั้งหล่อรวยชาติตระกูลดี ไม่จำเป็นต้องเล่นหนังก็มีเงินใช้ไปทั้งชาติ รวยชนิดที่ว่าหากใครได้เป็นภรรยาละก็...คงจะสบาย ขออะไรก็ได้ทุกอย่าง อยากซื้อเกาะส่วนตัวกี่เกาะ อยากได้ของลิมิเต็ดอิดิชันกี่อย่างก็ย่อมได้ ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ ได้เชิดหน้าชูตาไปตลอดชีวิต
“ยัยนั่นไม่เหมาะกับใครทั้งนั้นแหละ” เสียงทุ้มเอ่ย
“หมายความว่ายังไงคะ?”
“คนที่ดังเพราะเกาะกระแสคู่จิ้นกับพระเอกละครเรื่องที่ตนแสดง เที่ยวผู้ชายไปวันๆ ไม่รู้จะเคยมีความรักจริงๆ บ้างหรือเปล่า ไม่เหมาะกับการมีคู่หรอกนะ”
คำพูดของแม่ทัพบ่งบอกถึงความดูถูกเหยียดหยามอย่างชัดเจน...จนเฟรินยิ้มออกมาอย่างมีความสุขที่คนที่เธอชอบไม่คิดจะปรายตามองคนที่รกหูรกตาเธออย่างก้ามปู
41ถอยคนละก้าว หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป... แม้จะผ่านไปเพียงไม่กี่วันที่แม่ทัพไม่ได้เจอกับก้ามปู แต่ก็มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย หนึ่ง... แม่ทัพทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับพ่อแม่ได้สำเร็จ ทำให้เขาสามารถคบกับก้ามปูอย่างเปิดเผยได้ และข้อตกลงนั้นก็คือการแก้ปัญหาภายในของบอร์ดบริหารที่ไม่ยอมให้ตระกูลของก้ามปูได้เข้ามายุ่งเกี่ยวและได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ใดๆ จากพวกเขา ความหัวแข็งของเหล่าบอร์ดบริหารถูกชายหนุ่มที่วางแผนมายาวนานหลายปีเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ พวกเขายอมยกเลิกการขัดแข้งขัดขา และอนุญาตให้แม่ทัพเป็นตัวแทนไปเจรจาธุรกิจกับทางตระกูลธิปภควรรณได้ เมื่อแม่ทัพสามารถจัดการปัญหาใต้พรมอันค้างคามานานได้สำเร็จ ข้อตกลงที่ว่าโยธินและขวัญรัตน์จะอนุญาตให้เขาคบและแต่งงานกับหญิงสาวจากตระกูลคู่แข่งได้ก็เป็นอันบรรลุผล สอง... สืบเนื่องมาจากการกระทำของแม่ทัพ กระแสต่อต้านไม่ยอมแม้แต่จะพูดคุยด้วยของทางฝั่งตระกูลธิปภควรรณเริ่มอ่อนลง พ่อแม่ของก้ามปูยอมรับฟังข้อเสนอของชายหนุ่มและนำเรื่องเข้าบอร์ดบริหาร ส่วนหนึ่งก็เพราะการโน้มน้าวจากตระกูลเทียนศักดิ์ ตระกูลของนีน่าเพื่
40อย่าทำให้ฉันผิดหวัง แล้ววันนั้นโปรดิวเซอร์ก็ได้เข้าใจว่าทำไมนักลงทุนที่ร้อยวันพันปีไม่คิดจะมาเหยียบกองถ่าย ไม่เคยออกคำสั่งอะไรให้เขาต้องลำบากใจ กลับมาสังเกตการณ์ที่กองถ่ายทั้งที่ลูกชายของตนก็ไม่ได้ต้องถ่ายทำรายการแล้ว มันเป็นเพราะว่าเธอมาจ้องจับผิดปฏิกิริยาของลูกชายตนที่มีต่อว่าที่ลูกสะใภ้นี่เอง ถึงแม้จะตกใจนิดหน่อยที่เห็นหนุ่มสาวเดินออกมาจากห้องเดียวกันในยามเช้า แต่โปรดิวเซอร์กลับรู้สึกภาคภูมิใจเสียมากกว่าที่รายการของเขาทำให้คู่กัดกลายเป็นคู่รักได้... ทำให้คู่ที่ไม่น่าเป็นไปได้ได้ลงเอยกัน เมื่อถ่ายรายการมาถึงตอนเลือกคู่ และก้ามปูดันไปเลือกปันปัน ทำให้ถูกปฏิเสธออกมา โปรดิวเซอร์ก็เลยตัดสินใจได้ว่าคนที่ควรจะถูกคัดออกจากรายการคือก้ามปู เจตนาของเธอดูชัดเจนขนาดนี้ หากเขาไม่คัดเธอออกจากรายการ แม่ทัพและก้ามปูจะต้องไม่พอใจ และคุณขวัญรัตน์ก็จะต้องไม่พอใจที่เขาทำให้ลูกชายไม่พอใจด้วยแน่ๆ [ก้ามปูทำอะไรอยู่น่ะ หลอกลวงคนดูชัดๆ] [บ้าไปแล้ว เลือกแบบนี้ได้ไง คิดว่าคนดูโง่งั้นเหรอ ก้ามปูมีรสนิยมชอบผู้หญิงที่ไหนกัน] [แต่ฉันว่าก้า
39จะทำให้ร้องขอชีวิต “ฉันอยากเสร็จในตัวเธอมากกว่า” “งั้นก็รีบเข้ามาสิ” เธอบอกความต้องการของตัวเองด้วยใบหน้าแดงก่ำ ขยับตัวขึ้นมานั่งระดับเดียวกับเขาเพื่อประกบปากจูบ แม่ทัพดันร่างบางให้นอนราบลงไปอย่างรวดเร็ว ความปวดหนึบทรมานอยากปลดปล่อยทำให้เขารั้งสติของตนไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ขณะที่จูบปากแลกลมหายใจกันอย่างตะกละตะกลาม ปลายท่อนเอ็นก็ถูไถเข้ากับปากทางที่เริ่มแฉะขึ้นอีกครั้งเพราะแรงปลุกเร้าจากเขา ก้ามปูรู้สึกถึงความคับแน่นที่ชำแรกเข้ามาภายในตัวของเธออย่างช้าๆ แต่ถึงจะอ่อนโยนเพียงใด ความใหญ่ของเขาก็ทำให้เธอที่ไม่ได้มีอะไรกับใครมานานมากเจ็บหนึบจนน้ำตาซึม ต้องระบายอารมณ์โดยการกัดริมฝีปากหนาของเขาจนห้อเลือด มือหนาจับต้นขาของเธอให้แหวกออกกว้างขึ้นเพื่อที่จะดันส่วนปลายให้หลุดเข้าไปได้ “ฮื้อ!” หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อแก่นกายของเขาดันเข้ามาในตัวเธอพรวดเดียว “รัดแน่นเชียว” ปากของเขาเลื่อนไปจูบซับน้ำตา ไล่ไปข้างขมับและใบหูอย่างปลอบประโลม ฝ่ามือบีบนวดสะกิดยอดอกสล้างให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย “ก็ของนายนั่นแหละ ฮื้อออ ใหญ่จนเจ็บไปห
38พิสูจน์สิ เธอไม่มีวันเชื่อคำพูดจากปากคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าตัวเด็ดขาด พยายามย้ำเตือนตัวเองด้วยประโยคนี้อยู่ตลอด แต่ก้ามปูก็ไม่มีกระจิตกระใจจะทำกิจกรรมยามค่ำคืนเลยสักนิด และผลก็ออกมาว่าการแสดงโชว์ในคราวนี้เธอไม่ชนะอีกตามเคย พอถึงเวลาแยกย้ายเข้านอนในโรงแรมขนาดกลางที่ทางรายการจัดไว้ให้ ซันก็เป็นฝ่ายเดินเข้ามาขอคุยด้วย “วันนี้ได้เที่ยวกับก้ามปูสนุกมากเลย ถ้าพรุ่งนี้มีโอกาสได้เดตกันอีก ก้ามปูยังอยากจะเดตกับเรามั้ย” “เอาสิ อยู่กับซันแล้วสบายใจดี” ตอนถ่ายแบบด้วยกัน ซันมีความเป็นมืออาชีพแต่ก็ไม่เคยกดดันหรือดูถูกเธอที่ไม่ถนัดด้านนั้น แถมยังช่วยให้คำแนะนำดีๆ มากมายกับเธออีกด้วย ดังนั้นหญิงสาวจึงรู้สึกสะดวกใจที่ได้ทำงานร่วมกับเขา “ก้ามปูพอจะบอกได้มั้ยว่าได้สคริปต์มายังไงบ้าง” พวกเขาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเธอ “ถ้าของสัปดาห์นี้ก็ไม่มีนะ ของนายยังมีสคริปต์อยู่เหรอ เรานึกว่าจะไม่มีกันหมดทุกคนแล้วซะอีก” “ของเราก็ไม่มีหรอก แค่สงสัยว่าทำไมก้ามปูถึงดูยังไม่ค่อยถูกใจใครน่ะ นึกว่ามีสคริปต์ให้เธอไม่เลือกใครซะอีก”
37ตัวขัดขวาง โปรดิวเซอร์รายการเมลย์ยัวฮาร์ตนั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์คอยออกคำสั่งกับผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ที่อยู่ห่างออกไป เขามองภาพของเบลอย่างสนใจ อย่างนี้เองสินะ... เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมจู่ๆ แม่ทัพถึงอยากให้พิธีกรสาวคนนี้ได้เข้าร่วมรายการ ตอนแรกที่แม่ทัพเสนอมา เขาก็นึกว่าพิธีกรคนนี้มีความสัมพันธ์อันซับซ้อนกับอีกฝ่าย ความสัมพันธ์ที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน อาจจะต้องการดันให้พิธีกรสาวดังมากขึ้น แต่พอได้เห็นการกระทำของเบลแล้ว เขาก็พอจะเดาได้ว่าจุดประสงค์ของหญิงสาวคืออะไร เธอต้องถูกไหว้วานให้มากีดกันผู้ชายคนอื่นออกจากก้ามปูแน่ๆ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ทัพถึงเข้ามาแทรกแซงกิจกรรมบางอย่างที่ทางรายการออกแบบไว้ทั้งที่แม้จะถือหุ้นอยู่ แต่รายการของเขาก็เป็นเพียงรายการเล็กๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนใหญ่ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ตระกูลวรอนัญเดชไม่เคยลงมายุ่งวุ่นวายหรือใส่ใจเลยสักครั้ง ทำกำไรน้อยหรือขาดทุนก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาได้กำไรจากธุรกิจอื่นอีกตั้งมากมาย “โปรดิวเซอร์ทำหน้าทำตาอย่างกับพวกนักสืบเวลาได้เบาะแส รายก
36เพราะความใคร่? ตั้งแต่ที่ได้รู้ที่มาที่ไปอันสลับซับซ้อนของการตั้งตัวเป็นศัตรูกันระหว่างสองตระกูล แม่ทัพก็เริ่มมองเห็นถึงความเป็นไปได้ในการแก้ไข เขาเริ่มแทรกซึมเข้าไปในบอร์ดบริหารด้วยเหล่าลูกน้องที่เลือกเองกับมือตอนอายุสิบแปดปี ก่อนหน้านั้นเขาได้ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของคนในทุกอย่าง จ้างนักสืบให้ติดตามมาโดยตลอด ทุกการเคลื่อนไหวของคนเหล่านั้นไม่อาจหลุดรอดจากสายตาของเขาได้ ด้วยความที่ธุรกิจของตระกูลวรอนัญเดชนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าคนคนเดียวจะควบคุมได้ ธุรกิจหลายอย่างจึงถูกกระจายไปให้ญาติๆ ในตระกูล แต่แน่นอนว่าคนคุมหลักยังเป็นพ่อของเขา ตระกูลของเขาไม่มีคนทรยศก็จริง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่มีคนเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน นอกเหนือจากญาติๆ ที่เข้ามาบริหารธุรกิจแล้ว ยังมีบอร์ดบริหารที่เป็นปัญหา คนพวกนี้ไม่ได้จัดการง่าย ชายหนุ่มที่ยังมีประสบการณ์น้อยอยู่จึงต้องระมัดระวัง เขาเฝ้าระวังทุกอย่างรอคอยให้วันของเขามาถึง... และมันก็ใกล้จะมาถึงแล้ว “พักหน่อยเถอะ” ชลนำผ้าอุ่นมาให้เจ้านายได้ประคบตา ตั้งแต่ถ่ายทำรายการเสร็จ แม่ทัพก็โหมทำงานหนักม