7
Deep Talk
กิจกรรมหลังจากช่วงเวลาอิสระยามเช้าคือ Speed Dating หรือก็คือการจับคู่คุย
ผู้ร่วมรายการทั้งหกคนจะได้นั่งโต๊ะพูดคุยกันสองต่อสองเป็นเวลาห้านาที และเวียนไปจนได้คุยครบทุกคน
“จำเป็นต้องถามคำถามตามนี้ด้วยเหรอครับ” ภามถือกระดาษที่มีคำถามถูกพิมพ์ไว้อยู่
“เลือกมาแค่คำถามเดียวก็พอค่ะ ที่เหลืออยากคุยอะไรกันก็คุยเลย แต่ต้องเป็นเรื่องที่จะทำให้รู้จักอีกฝ่ายมากขึ้นนะคะ ห้ามคุยเรื่องงานเด็ดขาด” เสียงของผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ตอบ
“เอ่อ...คำถามมันไม่ลึกเกินไปหน่อยเหรอคะ” ปันปันถามหน้าเจื่อนเมื่อได้กวาดตาอ่านจนครบทุกคำถาม
คำถามที่เธอเห็นก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอของผู้ชมด้วยเช่นกัน
‘คุณชอบสกินชิฟหรือไม่ ถ้าชอบ ชอบทำอะไรมากที่สุด’
‘สิ่งที่คุณมองหาจากว่าที่คู่เดตของคุณ’
‘ระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ คุณให้ความสำคัญกับสิ่งไหนมากที่สุด’
‘คุณชอบมีเพศสัมพันธ์ที่สถานที่ใดมากที่สุด เช่น บนเตียง ในห้องน้ำ ระเบียง ในรถ’
‘คุณชอบเมคเลิฟที่ส่วนใดของร่างกายอีกฝ่าย’
‘อวัยวะส่วนใดคือจุดอ่อนไหวที่สุดในร่างกายคุณ’
[อื้อฮือ คำถามลึกมาก]
[คำถามพวกนี้เหมาะกับการนอนคุยกันมากกว่านะ]
[แฟนเก่าของบางคนยังไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้เลยมั้ง เล่นเผยแพร่ออกสื่อขนาดนี้ อายแย่เลย]
[แล้วคนที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อนจะตอบยังไงล่ะ?]
“ถ้าไม่ใช่ Deep talk แบบนี้ แล้วรายการของเราจะแตกต่างจากรายการอื่นได้ยังไงละคะ”
“น้ำเสียงของผู้ช่วยทำให้ฉันขนลุกยังไงก็ไม่รู้” ก้ามปูกระซิบกับปันปัน
ก่อนที่จะมาออกรายการนี้ เธอก็พอรู้อยู่ว่ามันไม่ใช่รายการเดตแบบทั่วไป แต่เป็นรายการที่จะเน้นความสัมพันธ์แบบร้อนฉ่า เน้นการแสดงออกถึงความรักและความใคร่อย่างร้อนแรง โดยมีภารกิจเข้ามาช่วย
แตกต่างจากรายการเดตวัยใสน่ารักๆ ที่มักจะมีดาราระดับหนึ่งถึงสองไปออก เนื่องจากรายการเหล่านั้นจะไม่ทำให้ศิลปินเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่ทำให้แฟนคลับลดลง
และก็แตกต่างจากรายการเดตร้อนแรงที่เน้นการถูกเนื้อต้องตัว โชว์การจูบ โชว์ให้เห็นถึงความใคร่ ความสัมพันธ์จนถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งมักจะมีนางแบบหรือเหล่าคนดังทางโลกออนไลน์ที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง แต่หน้าตางดงาม รูปร่างเป๊ะปังมาออก เพื่อสร้างกระแสให้กับตัวเอง คนเหล่านั้นจึงไม่กลัวการมีข่าวฉาว
ในขณะที่รายการ Melt Your Heart นี้ เป็นการผสมผสานระหว่างความร้อนแรงและดาราระดับหนึ่งที่ดังระดับประเทศ ระดับโลก ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมาออกรายการให้ขัดใจแฟนคลับและมีแววทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงได้แบบนี้
เพียงแค่เห็นรายชื่อผู้ร่วมรายการในตอนแรก ก้ามปูก็สามารถคาดเดากระแสของรายการนี้ได้
แม้จะต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวบ้าง แต่ด้วยวัยยี่สิบสี่ปีของเธอ...บทของสาวไร้เดียงสานั้นไม่จำเป็นอีกต่อไป
เธอจะโชว์ความเซ็กซี่ ความร้อนแรงของเธอออกมาให้มากขึ้น แสดงความเป็นตัวเองออกมาอย่างไม่กั๊ก
ไหนๆ เธอก็มีประสบการณ์ปาร์ตี้กับเหล่าเพื่อนสาวไฮโซ มีหนุ่มฮอตมาคอยปรนนิบัติ รวมทั้งลุยบาร์โฮสต์จนกลายเป็นสมาชิกระดับ VVVIP มาหลายที่แล้ว... การได้มาออกรายการนี้ เธอจึงไม่ได้คิดมากอะไร ถือซะว่ามาคั่วหนุ่มหล่อชื่อดังเล่นๆ ก็แล้วกัน
แต่สิ่งที่ผิดคาดก็คือคู่อริของเธอนี่สิ... คอยวนเวียนขัดหูขัดตาจนทำให้เธอเผลอแสดงอารมณ์ด้านลบออกไปบ่อย
น่ารำคาญเสียจริง
คนแรกที่ก้ามปูได้จับคู่ด้วยคือภาม
ภามเป็นดาราหนุ่มที่เธอเคยออกรายการวาไรตี้ด้วย แต่ไม่เคยมีโอกาสได้แสดงละครร่วมกัน เนื่องจากอยู่คนละช่องและคนละสังกัดกัน
“เลือกคำถามไหนดี” ภามเปรย
“พี่เลือกเลยค่ะ ใช้คำถามเดียวกันนี่แหละ จะได้ยุติธรรม”
“เอาเป็น... น้องก้ามปูมองหาอะไรจากคู่เดตของตน”
“ก็คงเป็นความเข้ากันได้ ทั้งบทสนทนา ไลฟ์สไตล์ แล้วก็เรื่องบนเตียง ส่วนเรื่องการครองคู่กัน อันนั้นต้องดูระยะยาว ตอนนี้ปูยังไม่ซีเรียสค่ะ”
“ส่วนของพี่ต้องเป็นคนที่สูงพอๆ กัน หน้าตาดี มีเซ็กแอพเพียลสูง ดึงดูดความสนใจของพี่ได้”
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พูดคุยกันด้วยเรื่องเกี่ยวกับความชอบส่วนตัวต่อจนครบห้านาที ไม่ได้สัมผัสถึงสายใยระหว่างชายหญิง ไม่ได้รู้สึกสปาร์คกันเลยสักนิด
ดาราสาวได้คุยกับปันปันที่เม้ามอยกันเหมือนเพื่อนสาว ต่อด้วยอี้เฉินที่ยิ่งคุยก็ยิ่งรู้สึกสบายใจ เขาเลือกคำถามที่ไม่ทำให้เธอลำบากใจ แต่เธอนึกอยากจะแกล้งคนเด็กกว่า ก็เลยถามคำถามหนึ่งออกไป
“อี้เฉินชอบสกินชิฟหรือเปล่า”
“ชอบมากเลยครับ” นัยน์ตาสีดำส่งประกายเจิดจ้า ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาดูมีออร่าพุ่งยิ่งกว่าเดิม
“เหรอ แล้วชอบทำอะไรมากที่สุดล่ะ”
“เลือกยากมากเลยครับ ถ้าเป็นกับคนที่ผมชอบ ผมก็อยากทำทั้งหมดแหละ อย่างเช่นจับมือ...” ชายหนุ่มเลื่อนมือที่วางอยู่บนโต๊ะล้ำเข้ามายังฝั่งของเธออย่างอ่อยๆ “เดินโอบเอว กอดจากข้างหลัง นอนหนุนตัก ทำอะไรก็ทำด้วยกัน”
น้ำเสียงทุ้มเป็นจังหวะจะโคนทำให้หญิงสาวรู้สึกแก้มร้อนขึ้นมา
เฮ้อ... ถูกออดอ้อนจากเหล่าโฮสต์หนุ่มมาตั้งเท่าไหร่ สุดท้ายก็สู้พวกคนดังที่มีออร่าเป็นเอกลักษณ์ไม่ได้อยู่ดีสินะ ไม่นึกว่าเกมเมอร์คนหนึ่งจะมีเสน่ห์ได้มากขนาดนี้
[ฉันชิปคู่นี้มาก ไม่ไหวแล้ว]
[อ๊ายยย เขินนน อยากไปอยู่ตรงนั้นแทน]
โอเค เธอพลาดเอง ไม่น่าถามอะไรที่เสี่ยงให้ตัวเองโดนเต๊าะเลย
รู้ถึงไหนอายถึงนั่น สาวมั่นอย่างเธอ ดันโดนคนที่อายุน้อยกว่าเต๊าะซะได้
ก้ามปูวางมือลงบนหลังมือของอี้เฉินเบาๆ สัมผัสเพียงเล็กน้อย ก่อนจะผละออกอย่างมีชั้นเชิง ปล่อยให้อี้เฉินยังคงยิ้มค้างอย่างมีความสุข
จากนั้นก็เวียนมาถึงคิวของเฟริน คนที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอดเวลาสมเป็นพลังบวกให้คนในโลกโซเชียล ถ้าให้เธอไปไลฟ์สดขายของสู้ เธอก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้
“พอเป็นผู้หญิงด้วยกัน จะให้ถามเรื่องพวกนี้มันก็ยังไงๆ อยู่นะคะ” เฟรินยิ้มเอียงอาย
“นั่นสินะ น้องเฟรินชอบผู้ชายแบบไหนเหรอคะ”
“จะให้อธิบายก็ยากอยู่ ถ้ายกตัวอย่างก็คงจะเป็นคนอย่างพี่แม่ทัพละมั้งคะ”
[อุ้ยยย มีคนเล็งจักรพรรดิภาพยนตร์แล้ว]
[ถ้าเป็นน้องเฟริน ฉันยอมนะ คุณสมบัติเหมาะสมกับแม่ทัพมาก]
[เปิดเผยตั้งแต่ต้นแบบนี้ ไม่กลัวโดนแฟนคลับของแม่ทัพด่าหรือไง]
เนื่องจากการสปีดเดตติ้งเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน คนที่เลือกฟังห้องถ่ายทอดสดระหว่างก้ามปูกับเฟรินในตอนนี้จึงไม่มีแฟนคลับของนักแสดงหนุ่ม เนื้อหาในแชตจึงเป็นไปในแนวทางเชียร์ให้เฟรินได้คู่กับแม่ทัพเสียมากกว่า
“น้องนี่ก็เป็นคนตรงดีนะคะ” ก้ามปูหัวเราะแห้งๆ
อยากจะบอกข้อเสียมากมายของอีตานั่นออกไปและให้หญิงสาวเปลี่ยนความคิดซะเหลือเกิน แต่เธอไม่ได้สนิทกับเฟรินมากนัก พูดไปจะกลายเป็นว่าเธอหวงก้างอยากแย่งแม่ทัพมาซะเปล่าๆ ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ขอให้เข้ากันได้ก็แล้วกัน
อย่าเป็นผีเน่ากับโลงผุก็พอ
“แล้วพี่ก้ามปูละคะ ถูกใจใครในที่นี้บ้าง”
“ก็หลายคนอยู่นะ” คิดว่าคำถามแค่นี้จะทำให้เธอชะงักละก็...คิดผิดแล้วน้อง นังก้ามปูคนนี้ไม่เคยตายไมค์จ้า “อี้เฉินก็ไทป์หมาเด็ก ภามก็หล่อนิสัยดีสมเป็นพระเอก ส่วนอีกคนก็รู้ๆ กันอยู่ว่าไม่ถูกกัน อ้อ... ถ้าฉันชอบผู้หญิงก็คงจะอยากเดตกับคนอย่างปันปันเหมือนกัน”
“พี่ก้ามปูนี่ใจง่าย เอ้อ...ใจหวั่นไหวง่ายดีนะคะ อย่างนี้คงจะเลือกยากแหงๆ”
“อย่างพี่ก็คงต้องเลือกจริงๆ นั่นแหละ เพราะมีหลายคนมาให้เลือก แต่อย่างน้องนี่...ไม่รู้จะมีโอกาสได้เลือกบ้างหรือเปล่า” เพราะไม่มีใครเอา หึ!
อย่าคิดว่าเธอไม่รู้ทันเชียวนะว่าหล่อนหลอกด่า อุตส่าห์เรียกว่าน้อง ต่อให้เป็นสคริปต์รายการที่ทำให้เฟรินต้องพูดขัดขาเธอ เธอก็รู้สึกหมั่นไส้อยู่ดี
ถ้ารายการอยากให้พวกเธอตบกัน เธอก็พร้อมสนองเต็มที่
...แต่จะเป็นการกระโดดถีบขาคู่โชว์พลังกล้ามเนื้อขาที่เธอเข้าฟิตเนสมาอย่างดีแทน ตบทำไมให้เจ็บมือ ไว้ทำแค่ในละครก็พอ แค่ตบหน้ามันหน่อมแน้มเกินไป
สุดท้ายคนที่ก้ามปูต้องมาประจันหน้าด้วยก็คือคู่อริเพียงหนึ่งเดียว
“นายชอบมีเพศสัมพันธ์ที่ไหนมากที่สุด” หญิงสาวชิงเปิดด้วยคำถามที่ยากที่สุดทันที
[กรี๊ด ทำดีมาก ฉันอยากรู้เรื่องนี้อยู่พอดี]
[รายการต้องการคนมั่นๆ แบบนี้แหละ ฉันขอเป็นแฟนคลับก้ามปูเลยแล้วกัน]
“ก่อนที่จะถามคนอื่น ก็ควรต้องบอกของตัวเองมาก่อนหรือเปล่า”
“กับคนอื่นน่ะใช่ แต่กับนายคงไม่ต้อง ฉันจำเป็นต้องมีมารยาทกับคนอย่างนายด้วยรึไง”
“ฉันจะตอบให้ก็แล้วกัน ขยับเข้ามาฟังใกล้ๆ สิ” ยามนี้ใบหน้าที่มักจะยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลาของชายหนุ่มกลับนิ่งเรียบ ทำให้ดวงตาคมดุจเหยี่ยวดูดุดันน่ากลัว แต่คนที่ชินกับสายตานี้อย่างก้ามปูไม่เคยคิดที่จะกลัวมันเลยสักนิด เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้อย่างท้าทาย
“รีบๆ บอกมาสิ”
“ฉันชอบตามใจคู่เดต... ถ้าเขาชอบแบบเบสิกในห้องนอน ฉันก็ทำให้ แต่ถ้าเขาชอบแบบตื่นเต้น จะระเบียง ในรถ ในโรงหนัง หรือริมทะเล ฉันก็จัดให้ได้หมดนั่นแหละ”
น้ำเสียงเซ็กซี่ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาดูล่อลวงชวนลุ่มหลง หากเป็นหญิงสาวคนอื่นที่ได้ฟังเสียงกระซิบปนกระเส่าจากเขาก็คงจะหลอมละลายไปกับโต๊ะ แต่กับเธอ...คนที่รู้ไส้รู้พุงเขาหมดแล้วนั้น ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิด!
“น่าสงสารคนที่ต้องทำตามใจคู่เดตจังเลยนะ ไม่เหมือนฉันที่ทำตามใจตัวเองได้ทุกอย่าง”
“ก็ถ้าเธอเป็นคู่เดตฉัน ฉันก็จะได้ตามใจเธอทุกอย่างไง จะบนเครื่องบินหรือบนบอลลูนฉันก็จัดให้ได้หมดแหละ กลัวว่าเธอจะทนรับไม่ไหว หมดแรงเอาเสียก่อนนี่สิ...”
“...”
“...แต่คงไม่มีวันนั้นหรอกนะ... วันที่ฉันจะเอาเธอน่ะ”
41ถอยคนละก้าว หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป... แม้จะผ่านไปเพียงไม่กี่วันที่แม่ทัพไม่ได้เจอกับก้ามปู แต่ก็มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย หนึ่ง... แม่ทัพทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับพ่อแม่ได้สำเร็จ ทำให้เขาสามารถคบกับก้ามปูอย่างเปิดเผยได้ และข้อตกลงนั้นก็คือการแก้ปัญหาภายในของบอร์ดบริหารที่ไม่ยอมให้ตระกูลของก้ามปูได้เข้ามายุ่งเกี่ยวและได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ใดๆ จากพวกเขา ความหัวแข็งของเหล่าบอร์ดบริหารถูกชายหนุ่มที่วางแผนมายาวนานหลายปีเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ พวกเขายอมยกเลิกการขัดแข้งขัดขา และอนุญาตให้แม่ทัพเป็นตัวแทนไปเจรจาธุรกิจกับทางตระกูลธิปภควรรณได้ เมื่อแม่ทัพสามารถจัดการปัญหาใต้พรมอันค้างคามานานได้สำเร็จ ข้อตกลงที่ว่าโยธินและขวัญรัตน์จะอนุญาตให้เขาคบและแต่งงานกับหญิงสาวจากตระกูลคู่แข่งได้ก็เป็นอันบรรลุผล สอง... สืบเนื่องมาจากการกระทำของแม่ทัพ กระแสต่อต้านไม่ยอมแม้แต่จะพูดคุยด้วยของทางฝั่งตระกูลธิปภควรรณเริ่มอ่อนลง พ่อแม่ของก้ามปูยอมรับฟังข้อเสนอของชายหนุ่มและนำเรื่องเข้าบอร์ดบริหาร ส่วนหนึ่งก็เพราะการโน้มน้าวจากตระกูลเทียนศักดิ์ ตระกูลของนีน่าเพื่
40อย่าทำให้ฉันผิดหวัง แล้ววันนั้นโปรดิวเซอร์ก็ได้เข้าใจว่าทำไมนักลงทุนที่ร้อยวันพันปีไม่คิดจะมาเหยียบกองถ่าย ไม่เคยออกคำสั่งอะไรให้เขาต้องลำบากใจ กลับมาสังเกตการณ์ที่กองถ่ายทั้งที่ลูกชายของตนก็ไม่ได้ต้องถ่ายทำรายการแล้ว มันเป็นเพราะว่าเธอมาจ้องจับผิดปฏิกิริยาของลูกชายตนที่มีต่อว่าที่ลูกสะใภ้นี่เอง ถึงแม้จะตกใจนิดหน่อยที่เห็นหนุ่มสาวเดินออกมาจากห้องเดียวกันในยามเช้า แต่โปรดิวเซอร์กลับรู้สึกภาคภูมิใจเสียมากกว่าที่รายการของเขาทำให้คู่กัดกลายเป็นคู่รักได้... ทำให้คู่ที่ไม่น่าเป็นไปได้ได้ลงเอยกัน เมื่อถ่ายรายการมาถึงตอนเลือกคู่ และก้ามปูดันไปเลือกปันปัน ทำให้ถูกปฏิเสธออกมา โปรดิวเซอร์ก็เลยตัดสินใจได้ว่าคนที่ควรจะถูกคัดออกจากรายการคือก้ามปู เจตนาของเธอดูชัดเจนขนาดนี้ หากเขาไม่คัดเธอออกจากรายการ แม่ทัพและก้ามปูจะต้องไม่พอใจ และคุณขวัญรัตน์ก็จะต้องไม่พอใจที่เขาทำให้ลูกชายไม่พอใจด้วยแน่ๆ [ก้ามปูทำอะไรอยู่น่ะ หลอกลวงคนดูชัดๆ] [บ้าไปแล้ว เลือกแบบนี้ได้ไง คิดว่าคนดูโง่งั้นเหรอ ก้ามปูมีรสนิยมชอบผู้หญิงที่ไหนกัน] [แต่ฉันว่าก้า
39จะทำให้ร้องขอชีวิต “ฉันอยากเสร็จในตัวเธอมากกว่า” “งั้นก็รีบเข้ามาสิ” เธอบอกความต้องการของตัวเองด้วยใบหน้าแดงก่ำ ขยับตัวขึ้นมานั่งระดับเดียวกับเขาเพื่อประกบปากจูบ แม่ทัพดันร่างบางให้นอนราบลงไปอย่างรวดเร็ว ความปวดหนึบทรมานอยากปลดปล่อยทำให้เขารั้งสติของตนไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ขณะที่จูบปากแลกลมหายใจกันอย่างตะกละตะกลาม ปลายท่อนเอ็นก็ถูไถเข้ากับปากทางที่เริ่มแฉะขึ้นอีกครั้งเพราะแรงปลุกเร้าจากเขา ก้ามปูรู้สึกถึงความคับแน่นที่ชำแรกเข้ามาภายในตัวของเธออย่างช้าๆ แต่ถึงจะอ่อนโยนเพียงใด ความใหญ่ของเขาก็ทำให้เธอที่ไม่ได้มีอะไรกับใครมานานมากเจ็บหนึบจนน้ำตาซึม ต้องระบายอารมณ์โดยการกัดริมฝีปากหนาของเขาจนห้อเลือด มือหนาจับต้นขาของเธอให้แหวกออกกว้างขึ้นเพื่อที่จะดันส่วนปลายให้หลุดเข้าไปได้ “ฮื้อ!” หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อแก่นกายของเขาดันเข้ามาในตัวเธอพรวดเดียว “รัดแน่นเชียว” ปากของเขาเลื่อนไปจูบซับน้ำตา ไล่ไปข้างขมับและใบหูอย่างปลอบประโลม ฝ่ามือบีบนวดสะกิดยอดอกสล้างให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย “ก็ของนายนั่นแหละ ฮื้อออ ใหญ่จนเจ็บไปห
38พิสูจน์สิ เธอไม่มีวันเชื่อคำพูดจากปากคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าตัวเด็ดขาด พยายามย้ำเตือนตัวเองด้วยประโยคนี้อยู่ตลอด แต่ก้ามปูก็ไม่มีกระจิตกระใจจะทำกิจกรรมยามค่ำคืนเลยสักนิด และผลก็ออกมาว่าการแสดงโชว์ในคราวนี้เธอไม่ชนะอีกตามเคย พอถึงเวลาแยกย้ายเข้านอนในโรงแรมขนาดกลางที่ทางรายการจัดไว้ให้ ซันก็เป็นฝ่ายเดินเข้ามาขอคุยด้วย “วันนี้ได้เที่ยวกับก้ามปูสนุกมากเลย ถ้าพรุ่งนี้มีโอกาสได้เดตกันอีก ก้ามปูยังอยากจะเดตกับเรามั้ย” “เอาสิ อยู่กับซันแล้วสบายใจดี” ตอนถ่ายแบบด้วยกัน ซันมีความเป็นมืออาชีพแต่ก็ไม่เคยกดดันหรือดูถูกเธอที่ไม่ถนัดด้านนั้น แถมยังช่วยให้คำแนะนำดีๆ มากมายกับเธออีกด้วย ดังนั้นหญิงสาวจึงรู้สึกสะดวกใจที่ได้ทำงานร่วมกับเขา “ก้ามปูพอจะบอกได้มั้ยว่าได้สคริปต์มายังไงบ้าง” พวกเขาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเธอ “ถ้าของสัปดาห์นี้ก็ไม่มีนะ ของนายยังมีสคริปต์อยู่เหรอ เรานึกว่าจะไม่มีกันหมดทุกคนแล้วซะอีก” “ของเราก็ไม่มีหรอก แค่สงสัยว่าทำไมก้ามปูถึงดูยังไม่ค่อยถูกใจใครน่ะ นึกว่ามีสคริปต์ให้เธอไม่เลือกใครซะอีก”
37ตัวขัดขวาง โปรดิวเซอร์รายการเมลย์ยัวฮาร์ตนั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์คอยออกคำสั่งกับผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ที่อยู่ห่างออกไป เขามองภาพของเบลอย่างสนใจ อย่างนี้เองสินะ... เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมจู่ๆ แม่ทัพถึงอยากให้พิธีกรสาวคนนี้ได้เข้าร่วมรายการ ตอนแรกที่แม่ทัพเสนอมา เขาก็นึกว่าพิธีกรคนนี้มีความสัมพันธ์อันซับซ้อนกับอีกฝ่าย ความสัมพันธ์ที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน อาจจะต้องการดันให้พิธีกรสาวดังมากขึ้น แต่พอได้เห็นการกระทำของเบลแล้ว เขาก็พอจะเดาได้ว่าจุดประสงค์ของหญิงสาวคืออะไร เธอต้องถูกไหว้วานให้มากีดกันผู้ชายคนอื่นออกจากก้ามปูแน่ๆ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ทัพถึงเข้ามาแทรกแซงกิจกรรมบางอย่างที่ทางรายการออกแบบไว้ทั้งที่แม้จะถือหุ้นอยู่ แต่รายการของเขาก็เป็นเพียงรายการเล็กๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนใหญ่ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ตระกูลวรอนัญเดชไม่เคยลงมายุ่งวุ่นวายหรือใส่ใจเลยสักครั้ง ทำกำไรน้อยหรือขาดทุนก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาได้กำไรจากธุรกิจอื่นอีกตั้งมากมาย “โปรดิวเซอร์ทำหน้าทำตาอย่างกับพวกนักสืบเวลาได้เบาะแส รายก
36เพราะความใคร่? ตั้งแต่ที่ได้รู้ที่มาที่ไปอันสลับซับซ้อนของการตั้งตัวเป็นศัตรูกันระหว่างสองตระกูล แม่ทัพก็เริ่มมองเห็นถึงความเป็นไปได้ในการแก้ไข เขาเริ่มแทรกซึมเข้าไปในบอร์ดบริหารด้วยเหล่าลูกน้องที่เลือกเองกับมือตอนอายุสิบแปดปี ก่อนหน้านั้นเขาได้ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของคนในทุกอย่าง จ้างนักสืบให้ติดตามมาโดยตลอด ทุกการเคลื่อนไหวของคนเหล่านั้นไม่อาจหลุดรอดจากสายตาของเขาได้ ด้วยความที่ธุรกิจของตระกูลวรอนัญเดชนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าคนคนเดียวจะควบคุมได้ ธุรกิจหลายอย่างจึงถูกกระจายไปให้ญาติๆ ในตระกูล แต่แน่นอนว่าคนคุมหลักยังเป็นพ่อของเขา ตระกูลของเขาไม่มีคนทรยศก็จริง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่มีคนเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน นอกเหนือจากญาติๆ ที่เข้ามาบริหารธุรกิจแล้ว ยังมีบอร์ดบริหารที่เป็นปัญหา คนพวกนี้ไม่ได้จัดการง่าย ชายหนุ่มที่ยังมีประสบการณ์น้อยอยู่จึงต้องระมัดระวัง เขาเฝ้าระวังทุกอย่างรอคอยให้วันของเขามาถึง... และมันก็ใกล้จะมาถึงแล้ว “พักหน่อยเถอะ” ชลนำผ้าอุ่นมาให้เจ้านายได้ประคบตา ตั้งแต่ถ่ายทำรายการเสร็จ แม่ทัพก็โหมทำงานหนักม