เสียงเครื่องมือทางการแพทย์ ดัง ปี้ป ปี้ป เป็นจังหวะ มือเหี่ยวย่นของหญิงชรา มีเข็มเจาะ อยู่หลายจุด ด้านข้างมีสายห้อย ระโยงระยาง ทั้งยา น้ำเกลือ
ใบหน้าขาวซีดเซียวจนแทบไม่มีสีเลือด นอนหลับตาอยู่ไม่ได้สติ พยาบาลในห้องฉุกเฉิน มองดู อาการ แล้วจดบันทึก ตลอดทุกชั่วโมง
" สวัสดีค่ะ คุณน้ำตาล "
พยาบาลหน้าห้อง ทักทายญาติคนไข้ ที่คุ้นหน้าคุ้นตา กันมา หลายเดือน แล้วรับ ของฝาก ที่เจ้าตัว ติดมือมาเสมอ เป็นสินน้ำใจ
" รบกวนพี่ๆ มาตลอดเลย น้ำตาลเกรงใจมากเลยค่ะ " เจ้าหน้าที่พยาบาล ส่ายหน้า แล้วจับมือบาง ของคนตรงหน้าเอาไว้
" อดทนนะคะ น้องน้ำตาล คุณยายสู้ น้องน้ำตาลก็ต้องสู้ "
หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตา แล้วยืนเกาะกระจก มอง คุณยาย ที่ตอนนี้ หลับไม่ได้สติ อาการเส้นเลือดในสมองที่ตีบ ทำให้คุณยายวัยหกสิบกว่าปี น็อคไปกระทันหัน
" สวัสดีครับ ญาติคนไข้ " เสียงทักทาย ทำให้เธอต้องหันมามอง
ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาแพทย์ เดินตรงเข้ามาหา
" เข้าไปไหม เดี๋ยวเราพาเข้าไป "
เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย ที่บังเอิญมาเจอกันที่นี่ ช่วยมาดูแล คุณยายให้เสมอ ใบหน้าหล่อเหลา ยิ้มอย่างสุภาพ อ่อนโยน และ ให้กำลังใจเธอ ในยามท้อแท้
" หมอโอ้ต "
" เรียกโอ้ต ก็ได้มั้ง ยังไม่จบหมอเลย " เจ้าตัวบอกเขินๆ แล้วช่วยสวมชุด คลีน ให้เธอ ก่อนจะเดินนำเข้าไป
" อาการโดยรวมทรงตัว ไม่แย่ลง ตอนนี้ ต้องประคับประคอง รักษากันไปทีละสเตป แต่น้ำตาล ไม่ต้องห่วงนะ ถ้ามีอะไร เราจะรีบมาเลย "
นักศึกษาแพทย์ที่อยู่เวรโรงพยาบาล แทบจะทุกวัน บอกกับหญิงสาวตรงหน้า สองยายหลานมีกัน เพียงสองคนเท่านั้น และตอนนี้ เธอไม่เหลือใครแล้ว
" รบกวนด้วยนะโอ้ต " คนที่เกรงใจ บอกเสียงสั่น
" ถ้าเกรงใจ เลี้ยงข้าวเราสักจานได้ไหม ที่โรงอาหารโรงพยาบาลก็ได้ " ว่าที่คุณหมอหนุ่ม บอกกับหญิงสาวที่ตัวเอง แอบชอบ
" ทานที่ไหนก็ได้ ตามใจหมอโอ้ตเลย วันไหนที่ว่าง เรายินดีนะ "
" น้ำตาลพูดแล้ว ห้ามคืนคำเด็ดขาด เราจำแม่นนะ "
คุณหมอหนุ่มบอก ระหว่างที่เดินออกมาส่งเธอที่หน้าตึก มองหญิงสาวตัวบาง เดินกลับออกไป จนลับสายตา
สองยายหลาน
" รับ พายลูกเกด เพิ่มไหมคะ " พนักงานสาวถามลูกค้า ที่นำถาดขนมมาวาง เพื่อชำระเงิน
" ไม่รับ " เสียงที่ตอบกลับมา ดุดัน ไม่มีคำสร้อย มือบางใช้ตะเกียบคีบขนมใส่กล่อง แล้วนำกล่องขนม ใส่ถุงกระดาษ ยื่นให้ลูกค้า
" ขอบคุณค่ะ ขอให้ทานขนมอย่างมีความสุขนะคะ "
พนักงานสาว บอกกับลูกค้า อย่างสุภาพ แล้วรับออร์เดอร์ต่อไป ตลอดสี่ชั่วโมง ที่ยืนทำงานพาร์ทไทม์ ได้เงินค่าแรง กลับมา เพียงสองร้อยกว่าบาทเท่านั้น
" เฮ้อ" เสียงถอนหายใจ ดังออกมา ระหว่างปิดร้าน กับ รุ่นพี่ที่เป็นพนักงานประจำ
" ทำงานเอาเงินเค้า มันก็เหนื่อยแบบนี้ ถ้าอยากได้เงินดี ไม่เหนื่อย ก็ต้องมีคนเลี้ยง "
เสียงพูดไม่ได้ประชดประชันอะไร แต่เป็นการบอก อย่างตรงไปตรงมา
" ขนมเหลือ เอาไปกินสิน้ำตาล "
ขนมปังที่เหลือ ส่วนมาก จะมีไม่กี่ชิ้น พี่ๆที่ทำงานประจำ จะแบ่งให้เธอเสมอ
" ขอบคุณนะคะ "
มือบางรับถุงขนมมา แล้วเดินออกจากห้างสรรพสินค้า ในช่วงดึก รถรายังคงวิ่งขวักไขว่ อยู่บนถนน นักศึกษาสาว นั่งบนรถเมล์ แล้วมองดูรอบๆ สองข้างทาง มีคลับ มีบาร์ มีร้านอาหาร ที่มีผู้คนจำนวนมาก ไปใช้บริการ
" ชาตินี้คงได้แต่มองแหละ น้ำตาล วาสนาคงไม่ถึง จะได้นั่งรถแพงๆ ได้กินอาหารหรูๆ แบบนั้น "
คนที่น้อยใจในโชคชะตา บ่นกับตัวเอง เด็กหญิงที่เกิดมา มีเพียงยายคนเดียวเท่านั้น พ่อกับแม่ ทิ้งเธอเอาไว้ให้ยาย แล้วหนีหายไป ไม่เคยติดต่อกลับมา ชั่วชีวิตของเธอ จนอายุยี่สิบสองปี ไม่เคยจับเงินหมื่น เงินแสน เงินหลักพัน ที่หาได้ ในแต่ละเดือน ถูกจ่ายเป็นค่าเช่าบ้าน ค่าไปโรงเรียน และ ตอนนี้ มีค่าใช้จ่ายของยาย ที่โรงพยาบาล เพิ่มขึ้นมาอีก
น้ำเต้าหู้ถุงละสิบบาท ที่ซื้อติดมือมา เป็นอาหารมื้อดึก ทานพร้อมกับขนมปังของเหลือของที่ร้าน บ้านไม้หลังเก่า ที่อาศัยอยู่มานานนับสิบปี ผุพัง จนดูไม่ได้ น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ ถูกปลดปล่อยออกมา เมื่ออยู่ที่ที่ของตัวเอง เสียงร้องไห้ แผ่วเบา พร้อมกับ ใบหน้าที่เปียกปอนไปด้วยน้ำตา เธอจะทำยังไงต่อไป
หัวใจไร้เดียงสา-พ่อขาวิตารักพ่อเด็กหญิงยิ้มกว้างแล้วอ้าแขนให้พ่ออุ้ม ความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย โอบล้อมตัวของเด็กหญิงที่เพิ่งจะมีพ่อ ได้ไม่นาน ความอบอุ่นและความมั่นใจ ว่าพ่อจะปกป้องลูกเอาไว้ ด้วยอ้อมกอดนี้ ทำให้ ใบหน้าเล็กๆ ยิ้มกว้าง แล้วกระซิบเสียงเบา"พ่อขาวิตารักพ่อ ""พ่อก็รักวิตาค่ะ รักที่สุดเลย "ใบหน้าที่ซุกอยู่ที่บ่า มองดูลิฟต์ที่กำลังขึ้นไป ข้างบนทีละชั้น เมื่อตอนเย็น ระหว่างทางกลับมาบ้าน คุณย่าถามว่า วิตาเป็นอะไรเรื่องของเพื่อนวัยอนุบาล ถูกถ่ายทอดให้ย่าฟังช้าๆ แม้จะไม่เข้าใจ มากนัก แต่ย่าก็พยายามตั้งใจฟังที่หลาน ตั้งใจจะบอกเมื่อลูกชายมาถึงบ้าน ย่าจึงเล่าให้พ่อภาคย์ ฟังทันที"เพื่อนสนิทวิตาเขาครับ เขาเล่นด้วยกันทุกวัน คงจะเหงา เดี๋ยววันนี้ เราไปกินข้าวที่บ้านโน้น ชวนกัปตันมาด้วย ดีไหม "ไม่ต้องถึงแม่เลย คุณย่ากับพ่อ ก็พร้อมจะช่วยให้วิตา ได้ยิ้มอย่างมีความสุขอีกครั้ง"แม่กัปตัน อยู่บนฟ้า ลงมาไม่ได้อีกแล้ว แต่วิตามีพ่อที่เลิกจากงานกลับมาหาวิตา "พ่อน้ำตาคลอกับคำพูดของลูก เด็กคือ ผ้าขาวที่ผู้ใหญ่พาออกไปแต้มสีลงไป ทีละสี ดังนั้น บทเรียนและเรื่องราวของแต่ละครอบครัว ก็เป็นเรื่องซั
สุภาพสตรีวัยห้าสิบปีหรืออาจจะไม่ถึง สวมป้ายคล้องคอ ที่เขียน ว่าผู้ปกครองเอาไว้ แล้วเดินมาที่ห้องเรียน ของนักเรียนชั้นอนุบาล1 ใบหน้าเล็กๆ ที่รอคอย คุณย่า ยิ้มกว้าง เมื่อเห็นว่า ใครมา"คุณย่าขา " เสียงหวานเรียกคุณย่า แล้ว ลุกขึ้น มองเพื่อนสนิทที่นั่งหน้าเจื่อน อยู่ข้างๆ"วิตาไปก่อนนะ กัปตัน แล้ววิตา จะไปบอกคุณแม่ให้ " เด็กชายพยักหน้า แล้วมองเพื่อน ที่ถือกระเป๋า เดินออกไปที่หน้าประตู"สวัสดีค่ะ คุณย่า "คุณครูมองหน้ากันทันที ที่ได้ยิน คำที่หลานสาวเรียก"คุณย่าเหรอคะ ""ค่ะ คุณย่าแล้ว " สุภาพสตรีที่สวทชุดกระโปรงตัวหลวม สีดำ ลายดอกเมรีเมกโกะ กับรองเท้าแฟลตสีครีม ที่ข้อมือมีกำไลเป็นสแตก 3วงเพราะมีลูกตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้ กลายเป็นคุณย่า ในวัยไม่ถึงหกสิบเลย ร่างบอบบางและผิวพรรณที่ขาวผ่อง ยิ่งทำให้ดูอ่อนวัย"สวัสดีค่ะ ท่าน " ผู้ปกครอง ที่มารับลูกที่นี่ และเป็นอดีตพนักงานของเจทาวเวอร์ ยกมือไหว้ ภรรยาท่านประธาน"มารับหลานสาวเหรอคะ " ข่าววงใน ทราบเพียงว่า คุณเพิร์ล มีลูกชาย แล้วทำไม คนนี้"หลานสาวค่ะ ลูกของลูกชาย " เสียงนุ่มนวล อ่อนโยน บอกออกมา แล้วรับถุงขนม จากร้านเค้ก คัพเค้กบายบัว จากมือพี
เด็กชายตัวอ้วนกลม เดินสะพายกระเป๋าเข้ามาในห้องเรียน แล้วมองไปด้านนอก มองเพื่อนๆ ที่กำลังมาโรงเรียน แล้วก็ยิ้ม เมื่อเห็นเด็กหญิงภวิตาเพื่อนรัก มาพร้อมกับ ร่างสูงใหญ่ ที่อุ้มวิตาเอาไว้อยู่ในอ้อมกอด แล้วก็ใช้เวลา นานหลายนาที กว่าที่วิตาจะเดินเข้ามาในห้องเด็กหญิงมองเก้าอี้ ที่เพื่อน เลื่อนให้ แล้วนั่งลง ส่งรอยยิ้มหวานๆไปให้ แต่ไร้การตอบกลับมา"กัปตัน เป็นอะไร งอนวิตาเหรอ "วันหยุดที่ผ่านมา วิตามาบ้านคุณพ่อ แล้วมาเจอ คุณปู่คุณย่า ป้าเพิร์ล ทำอะไรหลายอย่าง มีเรื่องสนุกหลายเรื่อง อยากจะเล่าให้กัปตันฟัง"วิตา ไม่ได้ไปหากัปตัน วิตาไปบ้านคุณพ่อมา "เด็กชาย มองด้วยความตกใจอีกครั้ง แล้วเด็กหญิง ก็ยิ้ม อย่างมีความสุข"คุณพ่อไปทำงาน ทำที่ไกลๆ มากๆ แต่ไม่ได้ขึ้นไปบนฟ้า เหมือนแม่กัปตัน คุณพ่อของวิตา ทำงานเยอะ เลยไม่ได้มาหาวิตา "เด็กชายก้มหน้าลง แล้วก็มองไปที่ ด้านนอก"กัปตัน งอนวิตาเหรอ วิตามีขนมมาฝากกัปตันด้วย แต่วันนี้ลืม พรุ่งนี้ วิตาจะเอามาให้นะ "เด็กชายส่ายหน้า ทำหน้าไม่ค่อยดีนัก มือของวิตา จึงไปจับที่มือของกัปตัน แล้วยิ้มให้"วันนี้ ตอนนอนกลางวัน วิตาไม่หลับก่อนก็ได้ ให้กัปตันหลับก่อน "เด็ก
ญาติพี่น้องหลายคน ที่เห็นรูปของเด็กหญิงตัวน้อยที่นั่งอยู่ตรงกลาง ระหว่างคุณทรงพลและคุณน้ำตาล ที่ตอนนี้ เป็นคุณตาคุณยาย ของน้องไพรส์ คนเดียว เท่านั้น ในความเข้าใจ ของคนในตระกูล ความเก็บเนื้อเก็บตัวของทั้งคู่ หลังจากที่เพิร์ลป่วย ก็ทำให้ไม่มีใครได้พบเจอกับ สมาชิกในครอบครัวนี้ บ่อยนัก เพราะ คุณแพท ไม่อยากให้ใคร มาพูดจากระทบกระเทือนจิตใจลูกสาว ความหวังดี ที่ไม่ได้ต้องการ มันคือความ อึดอัด เหมือนกัน แต่มาช่วงหลัง ที่เพิร์ลกลับเข้ามาทำงาน ทุกอย่างก็เหมือนจะดีขึ้น*หลานใคร ทำไมน่าเอ็นดู **บอกน้องเพิร์ล มีหลานสาวทันที **น่ารักเหลือเกิน ลูกใคร *ญาติที่อยู่ในไลน์กลุ่ม ถามไถ่กันเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นตายาย ที่ว่างงานกันแล้วทั้งนั้น ถึงได้มีเวลาใส่ใจ*หลานสาวผม ลูกสาวภาคย์ *คำตอบคำนี้ ทำเอาญาติที่ได้อ่าน ขึ้นข้อความอ่านแล้ว อ่านแล้ว รัวๆ จนเกือบครบ สมาชิกในตระกูล*อยากเจอก็มาเจอ ที่บ้าน *รถวีไอพี หลายคันที่ขับเข้ามา ทีละคันสองคัน จนเต็มลานจอดรถ สำหรับเจ้าของบ้าน ที่ตามปกติรองรับ รถได้เกือบยี่สิบคัน แต่วันนี้ไม่พออาหารว่างและผลไม้ที่นำมาวางเรียงรายเอาไว้ นับสิบอย่าง ถูกเสิร์ฟไม่ขาดมือ"จริง
ห้องนอนที่มืดสนิทในยามค่ำคืน มีเพียงแสงไฟในโคมอันเล็กที่เปิดเอาไว้ ให้ความสว่าง ใบหน้าสวยหวานที่แดงก่ำด้วยความอาย เมื่อมองเห็นร่างเปลือยเปล่า ของคนตรงหน้า ที่ขยับเข้ามาแนบชิด"ตัวแดง หน้าแดงไปหมด เมียพี่ " เขายังหยอกเธอด้วยคำพูดคำจาที่ทำเอาเธอ แทบจะต้านทานไม่ไหว"พอหรือยังคะ " คืนนี้ เขาจัดการเธอรอบที่สองเข้าไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่า จะยังไม่พอ"พอแล้ว พรุ่งนี้แหวนไปทำงาน พี่ไปทำงาน หยุดมาหลายวัน จะลาอีก เดี๋ยวโดน "เธอพยักหน้า แล้วลูบแก้มเขาเบาๆ"อายไหม ที่แหวนทำงาน "เขาส่ายหน้า แล้วจับมือเธอ มาจูบ"แหวนทำงานอะไร พี่ก็ไม่อายสักนิด แหวนเลี้ยงลูกมาอย่างดี ด้วยเงินเดือน ด้วยหยาดเหงื่อของแหวน พี่ต่างหากที่น่าอาย ที่ไม่ได้ดูแลลูกเลย "เธอกอดเขา แล้วลูบผมของเขาเบาๆ"แหวนสัญญาว่า แหวนจะเป็นแม่ เป็นเมีย และเป็นสะใภ้ที่ดีที่สุด "เขาพยักหน้า กับอกนุ่มนิ่มของเธอ แล้วจูบลงไป ก่อนจะค่อยๆ เลาะเล็มไปที่ละนิด ขยับร่างกายช้าๆ แล้วสุดท้าย เธอก็ตกหลุมพรางเขาอีกครั้ง จนได้วันจันทร์ที่แสนสดใสหรือแสนวุ่นวาย อันนี้ก็ไม่แน่ใจ พ่อกับลูกที่แต่งตัวเตรียมพร้อมจะไปทำงานและไปโรงเรียน เรียกหาแม่ ทั้งที่มีคนในบ้านหล
เตียงนอนกว้างที่ใหญ่เพียงพอที่จะนอนด้วยกันสามคน พ่อ แม่ ลูก แต่คนเป็นพ่อกลับพาลูกสาวไปนอนที่ห้องนอนสีชมพูหวาน ที่ป้าเพิร์ล ทำให้ใหม่เพื่อเป็นของขวัญ ต้อนรับหลานสาว"วิตานอนได้ค่ะ ไม่ร้องไห้แน่ๆ " แม่ที่ค้านหัวชนฝา กลัวว่าลูกสาวตื่นมาในเวลากลางคืน แล้วจะตกใจ แต่ลูกสาวกลับส่ายหน้า อยากจะนอนที่ห้องนี้"พ่อมีลำโพงสำหรับวิตาด้วย ถ้าวิตาตื่นขึ้นมา เรียกพ่อเบาๆ พ่อกับแม่จะรีบมาเลย "ความรอบคอบนี้ ต้องยกเครดิตให้พี่ไนท์ ที่ช่วยจัดการให้ทุกอย่าง"ลองสิครับ เดี๋ยววิตาไปอยู่ห้องพ่อ แล้วพ่อจะให้แม่ เรียกวิตา ดีไหม " สองพ่อลูกพากันเดินเข้าออก ทดสอบระบบลำโพงกันหลายรอบ จนเหงื่อซึม ที่ไรผม เด็กหญิงที่ล้มตัวนอน บนเตียงนอน แล้วพ่อก็เปิดไฟสำหรับเด็กเอาไว้ แล้วลูกสาวก็หลับไปในที่สุด"ไปครับ ลูกหลับ ก็ไปนอนกันบ้าง " เขาทำหน้าตาเรียบเฉย แล้วจับแขนเธอ เดินมาที่ห้องนอนของเขา ปิดประตูห้องแล้ว เดินมาที่เธอ ก่อนจะดันตัวเธอ ให้นอนลงบนเตียง"พี่ขอชื่นใจ สักนิด " ชื่นใจอะไรของเขา เราผ่านอะไรพวกนี้มามากมาย และตอนนี้ ก็ไม่คิดว่า"นะครับ แหวน ให้พี่ได้ไหม " แล้วเธอจะเอาอะไร ไปต้านทานเขาได้มือหนาถอดเสื้อผ้าของตัวเองอ