นวพรรษ ปรียานันท์ อายุ 24 ปี บัณฑิตหมาดๆเพิ่งจบปริญญาโทมจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งตั้งแต่อายุยังน้อยมาหมาดๆ เจ้าของใบหน้าขาวเนียนใสลุคโอปป้า ใบหน้าออกมาทางสวยหวานน่ามองมากกว่าหล่อเหลา พร้อมกับหุ่นบางสูงโปร่งด้วยความสูง180 ซ.ม. ร่างเค้าสูงโปร่งสมส่วน ไม่ได้บึกบึนแน่นด้วยกล้ามเนื้อ แต่ก็ไม่ได้ผอมแห้ง ตอนนี้เขาตื่นเต้นมาก เขาตื่นเเต่เช้าเพื่อเตรียมตัวมาทำงานวันแรก ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาท่านประธานกรรมการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ คนรุ่นใหม่หลายคนอยากจะเข้ามาทำงานเป็นพนักงานของบริษัทนี้ เพราะค่าตอบแทนสูงรวมถึงสวัสดิการต่างๆดีกว่าบริษัทอื่นในธุรกิจประเภทเดียวกัน นวพรรษเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้เข้ามาทำงานที่นี่และในตำแหน่งที่ทุกคนอิจฉา ตอนเรียนปริญญาตรีที่ต้องฝึกงานของมหาวิทยาลัยเขาก็มาฝึกที่นี่ตำแหน่งนี้ ผลงานของเขาเด่นจนท่านประธานบริษัทท่านมีเมตตาทาบทามให้มาเป็นเลขาหลังจากที่เรียนจบ แต่นวพรรษขอกลับไปเรียนต่อปริญญาโทก่อน ท่านประธานก็เมตตารอ อันที่จริง เจ้าสัวเวทิน โชติกุลวัฒนา ท่านประธานและเจ้าของบริษัทท่านมีเลขาอยู่แล้ว แต่ท่านให้รับนวพรรษมาเพิ่มอีกคน แค่ให้เหตุผลว่าอยากหาคนมาแบ่งเบาเลขาคนโปรดคนเดิม และเจ้าสัวก็เป็นเพื่อนรักกับท่านฑูตนวพล และคุณหญิงอัญพัชร์ ปรียานันท์บิดาและมารดาของนวพรรษอยู่เดิม ยิ่งทำให้เจ้าสัวเวทินเอ็นดูนวพรรษมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว และเอาตำแหน่งนี้ไว้ให้นวพรรษคนเดียวโดยเฉพาะ
ตอนนี้นวพรรษยืนอยู่หน้าของบริษัทแล้ว เขารอพี่ท้อปหรือธนศิลป์ เลขาของท่านประธาน ที่ชั้นหนึ่งแล้วรอขึ้นลิฟท์ไปพร้อมกัน เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่นวพรรษได้กลับเข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาอย่างเต็มตัว รอเพียงชั่วครู่ธนศิลป์กับเจ้าสัวเวทินก็เดินมาหาเขา “สวัสดีครับท่านประธาน สวัสดีครับพี่ท้อป” นวพรรษกล่าวสวัสดีพร้อมยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่าอย่างนอบน้อม “หวัดดีลูก”เจ้าสัวรับไหวพร้อมเอ่ยทักทาย “รอนานไหมครับน้องนิว” ธนศิลป์เอ่ยถามหนุ่มรุ่นน้องหน้าหวาน “ไม่นานครับ” “ป่ะเราขึ้นไปชั้นบนกันเถอะ” เจ้าของบริษัทบอกกับทั้งสองคนพร้อมเดินนำไปที่ลิฟต์ผู้บริหาร พอทั้งสามเดินมาถึงโต๊ะทำงานหน้าห้องประธานกรรมการบริษัท ที่ตอนนี้เพิ่มมาอีก1ชุดเพื่อให้นวพรรษได้เรียนรู้งานจากธนศิลป์อย่างเข้มข้นตามคำสั่งของเจ้าของบริษัท “น้องนิว เรียนรู้งานกับพี่ท้อป ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามพี่ท้อปได้นะ แต่ไม่ต้องเครียดนะค่อยๆเรียนรู้ไป ลุงเชื่อว่าน้องนิวทำได้ นิวเก่งอยู่แล้วเชื่อลุง ผมฝากหน่อยนะคุณท้อป” ท่านเจ้าสัวเอ่ยกับทั้งสองหนุ่มที่หน้าหวานทั้งคู่ ถ้าใครได้มาเห็นเลขาของท่านประธานบริษัทนี้ คงคิดว่าเค้าคัดหน้าตามาแน่เลย เพราะเลขาของท่านประธานทั้งสองคนหน้าตาดีถึงขั้นดีมาก หน้าหวานผิวเนียนลุคโอปป้าทั้งสองคน เพียงแต่ธนศิลป์ตัวบางและเล็กกว่านวพรรษเล็กน้อยเท่านั้น ตั้งแต่นั้นมานวพรรษก็ตั้งใจเรียนรู้งานทุกอย่างจากธนศิลป์และสามารถทำได้ดีเกือบเท่ากับคนสอน “ทำได้ดีมากน้องนิว ไม่เสียเเรงที่พี่สอนจริง”ธนศิลป์เอ่ยชมจากใจจริงเขาชอบเด็กคนนี้มาก ตั้งใจเรียนรู้ และขยันทำงาน โดยไม่คิดว่าตัวเองเป็นเด็กเส้นเป็นลูกของเพื่อนเจ้าของบริษัทเลย ทำตัวเหมือนพนักงานธรรมดา ไม่ถืออภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ทั้งยั้งรู้จักมีสัมมาคารวะ รู้จักผู้ใหญ่ผู้น้อย นอบน้อมถ่อมตน ทำให้ทั้งธนศิลป์เองและท่านเจ้าสัวเอ็นดูเป็นอย่างมาก “นิวเองต่างหากที่ต้องขอบคุณพี่ท้อปมากๆ เลยนะครับ ที่ช่วยสอนและแนะนำนิวมาตลอด อดทนกับนิวจน นิวทำได้” นวพรรษกล่าวขอบคุณรุ่นพี่อย่างท้อปที่คอยสอนคอยแนะนำ จนเขาเข้าใจในงานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบมากขึ้น เขารู้สึกโชคดีที่ได้เจอกับเพื่อนร่วมงานที่ดีและเจ้านายที่ดีอย่างนี้ ตั้งแต่นวพรรษเข้ามาทำงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆของเมืองไทยของท่านเจ้าสัวเวทินผู้เป็นเพื่อนของบิดามารดา นอกจากเจ้าสัวและคู่รักอย่างธนศิลป์จะให้ความเอ็นดูแล้ว คนอัธยาศัยดี หน้าตาดีอย่างนวพรรษก็มีแฟนคลับในบริษัทมากมาย ไม่ว่าจะทั้งผู้หญิงหรือผู้ชาย แค่ได้เห็นหน้าหรือรอยยิ้มพิมพ์ใจของคุณเลขาหน้าหวานเท่านั้นแหละ ก็โดนเจ้าของใบหน้าหวานตกเอามาเป็นแฟนคลับหมด บางคนถึงขั้นเอาขนมหรือของกินไปดักรอให้นวพรรษถึงทางเดินเข้าบริษัท บางคนไม่กล้าเจอหน้าเพียงเพราะเขินอายไม่กล้าที่จะสบตาก็ฝากเอาไว้ที่แผนกต้อนรับของบริษัทแทน ซึ่งเรื่องนี้พี่ท้อปและท่านเจ้าสัวรู้ดี ยิ่งรู้มาว่าคุณเลขายังโสดยังไม่มีแฟน นวพรรษยิ่งกลายเป็นคนเนื้อหอมมีแฟนคลับอย่างกับดารา ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้เคยเกิดกับธนศิลป์เลขาหน้าหยกของท่านประธานมาก่อน แต่พอธนศิลป์โดนท่านประธานอย่างเจ้าสัวเวทินจับกินเสียเอง แฟนคลับเลยอกหักกันเป็นแถวๆ แต่ใช่ว่าแฟนคลับจะหมดไป ยังมีคนตั้งคลับสายวายมาให้อีก แต่พอมีนวพรรษเข้ามาในบริษัท เลขาหน้าหล่อออกไปทางหวานละมุน หุ่นสูงโปร่ง มาปรากฏตัวที่บริษัททำให้หัวใจแฟนคลับทั้งหลายกระชุ่มกระชวยขึ้นมาอีก ต่างพากันชื่นชมในหน้าตาและนิสัยกริยาของคุณเลขาคนใหม่ ที่ดีกรีไม่ธรรมดา เป็นถึงลูกท่านฑูต สิ่ยิ่งเพิ่มกระแสความฮ็อตเข้าไปอีก ท่านฑูตนวพล กับ คุณหญิงอัญพัชร์ ปรียานันท์ คุณป๊ากับม่าม๊าของนวพรรษ มีลูกชายแค่คนเดียวเลยรู้สึกรักเเละเป็นห่วงลูกชายมาก ให้ไปเรียน ไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก เจ้าลูกชายก็ไม่เอา ไม่ชอบเมืองนอก เลยจำใจต้องให้ลูกชายคนเดียวใช้ชีวิตที่เมืองไทยคนเดียว นานๆคุณป๊ากับคุณม๊าจะบินกลับมาหาลูกชายที ไม่อย่างนั้นก็ให้ลูกชายบินไปหา พอเรียนจบถึงเวลาต้องทำงาน ท่านฑูตเลยฝากลูกชายคนเดียวเข้าทำงานที่บริษัทของเพื่อนรักอย่างเจ้าสัวเวทิน ซึ่งตอนแรกที่นวพรรษมาฝึกงานท่านเจ้าสัวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นลูกชายของเพื่อนรัก แต่ก็ชอบและเอ็นดูในความเก่งของเด็กหนุ่มคนนี้อยู่แล้ว ยิ่งพอรู้ว่าเป็นลูกของเพื่อนรักยิ่งเอ็นดูเพิ่มขึ้นอีก และรับปากว่าจะดูแลให้อย่างดีจนเพื่อนรักอย่างท่านฑูตเบาใจ“น้องนิวเดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมง เตรียมตัวม เข้าประชุมกับลุงด้วยนะ ส่วนท้อปคุณอยู่ดูแลทางนี้แทนผมนะ” เสียงเจ้าสัวเวทิน สั่งการเลขาทั้งสอง “ครับ ท่านประธาน” นวพรรษกับธนศิลป์ตอบรับประธานบริษัท ถึงแม้เจ้าสัวเวทินจะเอ็นดูนวพรรษมากขนาดไหนแต่ในเวลางานเขารู้ตัวดีว่าต้องให้เกียรติในฐานะประธานบริษัทนวพรรษเดินหอบเอกสารเพื่อไปเตรียมการประชุมไว้ให้เรียบร้อย ระหว่างที่เดินไปทางเลี้ยวเข้าห้องประชุม “โอ๊ยยยย”เสียงนวพรรษร้องออกมาด้วยความเจ็บ เขารู้สึกเหมือนโดนอะไรชนหรือกระแทกที่ไหล่ด้านหน้าอย่างแรงจนทำให้ร่างสูงโปร่งล้มลง พร้อมกับเอกสารที่หอบมาด้วยหล่นกระจัดกระจาย ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองต้นเหตุที่ทำให้เขาเสียหลักล้ม ก็ได้เจอกับยักษ์ตัวใหญ่หน้าตาดียืนนิ่งอยู่ “แปล๊บนึงนะครับคุณพ่อ ทำไมเดินไม่มองทาง”เสียงยักษ์ร่างสูงเอ่ยออกมา พร้อมกับมือข้างที่กำลังถือโทรศัพท์คุยอยู่ลดลง แล้วจ้องหน้าคนที่ทำให้เค้าต้องหยุดบทสนทนากับปลายสาย ทำให้นวพรรษเริ่มจะมีน้ำโห ชนแล้วไม่ขอโทษไม่ช่วยเหลือไม่พอ ยังจะมีกล่าวหาว่าเค้าไม่มองทางเดินไม่ระวังอีก ทั้งที่มันเป็นตรงมุมพอดีและเขาก็เดินถูกต้องชิดขวามาตลอด แต่ตัวเองมัวแต่คุยโทร
“ผมชอบใจคุณมากเลย คุณเวทานนท์ รุ่นใหม่ไฟแรง เก่งเหมือนกับเจ้าสัวคุณเลย ผมยินดีมากเลยนะครับ ที่ร่วมโปรเจคนี้กับบริษัทของคุณ” คุณไกรสร คู่ค้าของเวทานนท์กล่าวขึ้นระหว่างการรับประทานอาหาร คุณไกรสร เป็นชายหน้าตาคมเข้มแบบไทยแท้ อายุ 45 ปี เป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ “ผมล่ะอิจฉาคุณเวทานนท์จริงๆ เลย นอกจากตัวคุณจะเก่งแล้ว คุณยังมีเลขาเก่งๆ หน้าตาดีอย่างคุณนวพรรษอยู่ข้างๆตัวด้วย” คุณไกรสรยิ้มพร้อมทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย มองนวพรรษ ด้วยสายตาเจ้าชู้อย่างไม่ปิดบัง เขาชอบผู้ชายขาวๆ ที่ไม่ได้ตัวเล็กตุ้งติ้งออกแนวแมนๆแบบนวพรรษเวลาควงไปไหนมาไหนเหมือนไปกับเพื่อนหรือน้องชายมากกว่าจะได้ไม่เป็นจุดเด่น สายตาและคำพูดของไกรสรชวนให้เวทานนท์หงุดหงิดไม่น้อย “ถ้าคุณเลขาเบื่องานแบบเดิมๆ อยากลองเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ บอกผมได้นะครับ ผมยินดีต้อนรับ มาเป็นเลขาส่วนตัว อยากได้เงินเดือนเท่าไรเรียกมาได้เลย ถ้าเป็นคุนนวพรรษผมทุ่มไม่อั้น” ไกรสรสายเปย์บอกนวพรรษ “ขอบคุณ คุณไกรสรมากเลยนะครับ ที่ให้โอกาสผม ผมยังไม่เก่งหรอกครับ ยังต้องเรียนรู้งานจากท่านประธานแล้วเจ้าสัวอีกมากครับ และผมก็ชอบทำงานกับท่านประธานครับ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ ขออนุญาตครับท่านประธาน” “เชิญครับ” สิ้นคำอนุญาต นวพรรษก็เปิดประตูห้องประธานเข้ามาพร้อมกาแฟดำแก้วโปรดของเจ้าของห้อง “กาแฟครับ” “โอเค ขอบคุณมาก งานผมวันนี้มีอะไรบ้าง” “ตอนเช้า มีแค่เซ็นเอกสารครับ ส่วนช่วงบ่ายตอนบ่ายโมงครึ่ง ประชุมหัวหน้าฝ่ายติดตามความคืบหน้าของงาน ตอนบ่ายสามโมงตัวแทนจากบริษัทดับเบิ้ลยูดี มาขอเข้าพบครับส่วนตอนหกโมงเย็นมีไปงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดของคุณขจรเจ้าของบริษัทเจเอสกับท่านเจ้าสัวครับ” นวพรรษทำหน้าที่เลขาได้อย่างคล่องแคล่ว “คุณก็ต้องไปกับผมด้วยหรือเปล่า” เวทานนท์ถามขึ้น “ไม่ได้ไปครับ งานน้ีเป็นงานเลี้ยงส่วนตัวครับ” เลขาหน้าหวานรีบปฏิเสธ “ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับประตูห้องทำงานของเวทานนท์โดนเปิดออกด้วยฝีมือของเจ้าสัวเวทินผู้เป็นพ่อ “คุณพ่อมีอะไรด่วนหรือเปล่าครับ มาหาเวย์ถึงห้อง” เวทานนท์เอ่ยถามผู้เป็นพ่อทันที “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก พ่อไม่ได้มาหาแก พ่อมาหาน้องนิวน่ะ แต่ไม่เห็นนั่งอยู่ข้างหน้า แค่จะมาบอกว่างานเลี้ยงวันเกิดคุณขจรตอนเย็นน่ะ น้องนิวก็ต้องไปด้วยนะลูกไปแทนคุณพ่อกับคุณแม่ของนิว” เจ้าสัวเวทินบอกกับนวพรรษ“เอ่อ ได้
“ป่ะ คุณเลขา เตรียมตัวไปงานเลี้ยงกับผมได้แล้ว” ท่านประธานหนุ่มเดินออกมาจากห้องของตัวเอง แล้วเอ่ยปากสั่งเลขาของตน “เอ่อ ท่านประธานเดินทางไปก่อนผมได้ไหมครับ เดี๋ยวผมว่าจะขับรถไปเอง” เสียงนุ่มน่าฟังจากนวพรรษบอกเจ้านายไปและที่สำคัญเข้าไม่อยากเดินทางไปพร้อมเจ้านายตอนนี้ ขอทำสมาธิ ทำใจของตัวเองให้เต้นให้เป็นจังหวะปกตินิดนึงก่อน “เอารถคุณจอดไว้ที่บริษัทนี่แหละ ไปทางเดียวกันจะขับรถไปให้เปลืองน้ำมันทำไมหลายคัน ไม่ช่วยโลกเลยนะคุณเนี่ย” คนร่างสูงหรือจะยอม “เอ่อ แต่ว่า ผมว่าจะไปอาบน้ำที่คอนโดก่อนครับ ท่านประธานไปก่อนได้เลยครับ” “ไม่ต้องไปอาบหรอก ไปอาบที่บ้านผมก็ได้ ได้ยินว่าที่บ้านผมท่านเจ้าสัวจัดห้องส่วนตัวไว้ให้คุณด้วยนี่ จะถึงเวลางานแล้ว ไปพร้อมกันนี่แหละ เดี๋ยวเสียวเวลา เอ๊ะ รู้แล้ว คุณไม่อยากไปพร้อมผม เพราะคุณเขินผมใช่ไหม หรือคุณกลัวหวั่นไหว อดใจไม่ไหวที่อยู่ใกล้ผม คุณคิดอะไรกับผมหรือเปล่าเนี่ย” เวทานนท์พูดดักอีกคนไว้ “ผมไม่ได้คิดอะไรกับท่านประธานทั้งน้ันแหละครับ ผมไม่ได้กลัวหรือเขินอายอะไรด้วย โอเค ผมไปพร้อมท่านประธานก็ได้ครับ ขับรถตามกันไป เพราะเสร็จงานแล้วผมจะได้ขับกลั
“สวัสดีดีครับคุณลุงขจร สุขสันต์วันเกิด ขอให้คุณลุงสุขภาพแข็งแรงนะครับ” เวทานนท์เอ่ยกับคุณขจรเจ้าของงานที่ยืนอยู่พร้อมภรรยาและลูกสาว “หวัดดี หลานชายแล้วนี่เจ้าสัวไม่ได้มาเหรอ” “คุณพ่อติดธุระด่วนครับ เลยส่งผมกับเลขามาแทน นี่คุณนวพรรษเลขาผมครับคุณลุง” คนร่างโปร่งที่ยืนอยู่ข้างชายหนุ่มยกมือไว้เจ้าของงานทันที “สวัสดีครับท่าน สวัสดีครับคุณหญิง ” “หวัดดีหลานชาย ตามสบายเลยนะ น้องนิวน่ะลุงรู้จักดี ลูกชายเจ้านุเพื่อนลุงเอง พ่อกับแม่สบายดีนะน้องนิว เมื่อไหร่จะมาเมืองไทยล่ะ” “ท่านทั้งสองสบายดีครับ เห็นว่าสิ้นปีถึงจะกลับครับ” “ เข้าไปในงานกันเลยนะ อ่อ นี่น้องเฟิร์นลูกลาวคนเล็กของลุงเอง รู้จักกันไว้ จะได้สนิทกัน เฟิร์นลูกหนูดูแลพี่เวย์กับพี่นิวเขาแทนพ่อกับแม่หน่อยนะลูก พาพี่เขาไปนั่งก่อนไป” “ได้ค่ะคุณพ่อ เดี๋ยวเชิญพี่เวย์กับพี่นิวตามเฟิร์นมาเข้าไปข้างในกันค่ะ” เฟิร์นหรือกมลวรรณลูกสาวคนเล็กของคุณขจรเจ้าของรูปร่างสวยหุ่นดีทรงโต หน้าเฉี่ยวตามสมัยนิยมกล่าวกับชายหนุ่มทั้งสอง ทั้งสองหนุ่มหล่อถูกใจเธอ อีกคนหล่อคมแบบลูกครึ่งที่สำคัญรวยมาก ส่วนอีกคนหล่อแบบโอปป้าถึงจะเป็นเลขาแต่คุณพ่อเธอบอกว่ารวยไม่
“คุณนิว คุณให้ผมไปส่งที่บ้านเลยหรือเปล่า” เวทานนท์หันมาถามกับเลขาหนุ่มหลังจากที่ทั้งคู่ขึ้นมานั่งบนรถคันหรูด้วยกันแล้วแล้ว กว่าจะเอาตัวหลุดออกมาจาก กมลวรรณและไกรสรแทบตาย นึกว่าจะเสร็จกมลวรรณซะแล้ว พอถามแล้วไม่ได้คำตอบท่านประธานหนุ่มก็เลยต้องหันไปมองอีกคนก็เจอนวพรรษในลุคที่ดูยังงงๆ ทำตาลอยๆ เหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ซึ่งผิดวิสัยเจ้าตัวมาก “งั้น เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บ้านผมก่อนแล้วกันนะ คุณนอนที่นั่นก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับนะ” เวทานนท์เลยตัดสินใจเอง เพราะให้ไปอยู่บ้านเขาร่างบางน่าจะปลอดภัยสุด ส่วนตัวเขาจะรีบไปส่งคุณเลขาแล้วจะรีบกลับมาคอนโดแล้วเรียกเด็กบริการมาปลดปล่อยความต้องการของตัวเอง “ไปส่งที่บ้านผมดีกว่าครับ พรุ่งนี้จะได้นอนตื่นสายๆ จะได้ไม่ต้องรีบ” นวพรรษหนุ่มตอบเจ้านายออกไป ตอนนี้เขาพยายามตั้งสติ และกดอารมณ์บางอย่างไว้อย่างสุดความสามารถ ทำไมแม้แต่่เสียงนุ่มๆของเจ้านายวันนี้ฟังแล้วเซ็กซี่ ดูมีเสน่ห์จัง นั่งมาได้สักพักตัวของนวพรรษเองรู้สึกร้อนวูบวาบ รู้สึกมีอารมณ์ความต้องการอยากปลดปล่อย“แอร์รถท่านประธานเสียหรือเปล่าครับ ผมว่ามันร้อนเกินไป ผมขออนุญาติเร่งแอร์อีกนิดได้ไหม
“ถ้าตัดสินใจแล้วก็ไปนั่งรอผมที่เตียงเลย” เสียงเข้มสั่งร่างเพรียวทันทีที่อีกฝ่ายเดินตามแรงจูงเข้ามาในห้องนอน “ผมเอ่อ ผมไม่เคยมาก่อน ผมไม่รู้ว่าต้องเริ่มตรงไหนก่อน” เสียงพูดเคอะเขินของเลขาหนุ่มเอ่ยบอกเจ้านายตัวหนาแล้วก็ยืนนิ่งไม่ยอมเดินไปที่เตียงตามที่คนตัวสูงบอก“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจัดการเอง ทำตามที่ผมบอกก็พอ” เวทานนท์บอกพลางรีบเอื้อมมือมาดึงมือนุ่มเรียวของนวพรรษให้เข้ามาหาตนเอง เมื่ออีกฝ่ายเดินเข้าใกล้ ก็รีบแนบริมฝีปากหยักมาประกบริมฝีปากบางเรียวกว่าของตน จากนั้นก็หมุนตัวให้นวพรรษนอนหงายลงบนเตียง ส่วนตัวเขาเองเป็นฝ่ายทิ้งตัวมาคล่อมร่างบางกว่าเอาไว้ ริมฝีปากยังคงประกบปากบางอยู่ พร้อมใช้ลิ้นดุนเพื่อให้อีกฝ่ายเปิดริมฝีปากเพื่อที่จะสอดลิ้นเข้าไปในโปรงปาก พอลิ้นหนาเข้ามาถึงโพรงปากตามต้องการแล้วก็ใช้ล้ินหนาเกี่ยวตวัดเอาลิ้นนุ่มมาดูดดึงเอาความหวาน ทำให้ตอนนี้เลขาเคลิบเคลิ้มหนักมาก ถึงแม้จะเป็นจูบครั้งที่สามของพวกเขาทั้งสองคน แต่เจ้าของปากบางยังจูบตอบเงะๆ งะๆ ยังเป็นเหมือนเด็กอนุบาลสำหรับเรื่องแบบนี้อยู่ สร้างความเอ็นดูให้ร่างสูงเป็นอย่างมาก มือหนาไม่รอช้ารีบถอดเสื้อและกางเกงทั้งนอกและในออ
“ดี อือ.. งั้นให้พี่ใส่เอ็น ของพี่เข้าไปในตัวนิวนะครับ ได้ไหม ให้พี่เป็นผัวนิวนะครับ” “ได้ครับ พี่เวย์ช่วยเอาลำเอ็นของพี่ใส่มาในตัวนิวด้วยครับ นิวอยากมากไม่ไหวแล้ว” สิ้นคำอนุญาตของเจ้าของร่างบางเพรียว นิ้วยาวใหญ่ทั้งสามนิ้วของเวทานนท์ก็ขยับเข้าออกรูเล็กอย่างรัวเร็ว ปากและลิ้นก็ดูดลำยาวนั่นเพื่อส่งอีกคนขึ้นสวรรค์ไปก่อน “อ๊าก …อ๊าก…จะแตกกก..แล้ว พี่เวย์ อือ ซี๊ดอดด นิวจะแตกกก แตกแล้ววว อ๊ากกก…” สิ้นเสียงครางน้ำสีขาวข้นก็พุ่งทะลักเข้าโพรงปากหนาของประธานหนุ่มทันที ส่วนอีกคนที่ไปเยือนสวรรค์แห่งความเสียวมาแล้ว ถึงกับเกร็งค้าง หน้าแดง นอนหายใจหอบระรัว ไม่เคยเสร็จสมแล้วรู้สึกดีอย่างนี้มาก่อน หลังจากส่งให้เลขาหน้าสวยไปเยือนสรรค์แล้ว ท่านประธานหนุ่มก็ลุกขึ้นนั่งคุกเข่าทันที พร้อมกับคายน้ำขาวขุ่นจากการเสร็จสมของอีกคนที่ตัวเองอมไว้ ออกมาใส่อุ้งมือหนา แล้วป้ายไปที่รูเล็กนั่นเพื่อเป็นการช่วยหล่อลื่น จากนั้นก็กางขาเรียวสองข้างแยกออกจากกัน ให้ก้นของอีกฝ่ายลอยขึ้น “ถึงตาพี่บ้างแล้วนะคนดี ซีดดดด แน่นจังวะ อย่าเพิ่งขมิบสินิว อย่าเกร็งปล่อยตัวตามสบาย เจ็บนิดนึง ที่เหลือมันจะค่อยๆดีเอง ซีดดด” เ
วันนี้คุณแม่ท้องแก่ใกล้คลอดอยู่บ้านคนเดียวกับเหล่าบรรดาคนรับใช้ เพราะคุณสามีมีประชุมบอร์ดบริหารที่ไม่สามารถเลี่ยงได้จำเป็นต้องไปเอง แต่กว่าจะไปได้ก็อิดออดไม่อยากไป ย้ำคิดย้ำทำสั่งเสียเมียรักไม่ให้เดินเยอะ ให้แม่บ้านคอยอยู่ใกล้ชิด มีอะไรให้โทรหาทันที จนเจ้าสัวเวทินผู้เป็นพ่อซึ่งล่วงหน้าไปทำงานก่อนหน้าโทรมาตามคุณประธานถึงได้จำใจห่างเมียรักไปทำงาน เวลาผ่านไปล่วงเข้าช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันหลังทานของว่างมื้อบ่ายเสร็จนวพรรษก็เดินมาเพื่อที่จะเอนหลังพักผ่อนโดยมีป้าใจหัวหน้าแม่บ้านคอยพยุงมานั่ง แต่รู้สึกว่าปวดหน่วงๆ ที่เอวและที่ท้อง “ซี๊ดดดด ถีบม่ามี๊แรงจังเลยลูก คิดถึงแด็ดดี้เหรอครับ เดี๋ยวแด็ดดี๊ก็กลับมาแล้วครับ เรามานอนรอดีกว่านะครับ” ยังไม่ได้ทันได้นั่งลงที่โซฟาเลย จู่ๆ นวพรรษก็รู้สึกว่ามีน้ำไหลลงระหว่างขา พร้อมปวดท้องมากขึ้น“อ๊ะ ป้าใจ มีน้ำอะไรไหลลงมาที่ขานิวไม่รู้ อูยยย นิวปวดหน่วงท้องจัง ” ป้าใจแม่บ้านก็ตกใจกับสิ่งที่คนเป็นนายบอก“คุณนิวจะคลอดคุณหนูแน่เลยค่ะป้าว่า เดี๋ยวเรารีบไปโรงพยาบาลกันก่อนดีกว่านะคะ นังรุ้งวิ่งแกไปบอกคนรถเอารถออกพาคุณนิวไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ป่ะ ยัยหวีแกไปเอากระเป๋าท
“หมดเรื่องซะทีนะเจ้าตัวดี อยู่ๆ พ่อก็ต้องเสียเงินฟรีกับขาดรายได้จากโรงแรมซะงั้น แต่ไม่เป็นไรแลกกับความสบายใจของน้องนิวลูกสะใภ้พ่อ” เจ้าสัวเอ่ยขึ้นกับลูกชายตัวดีหลังจากพากันส่งอิงจันทร์ขึ้นรถที่หน้าบ้านแล้วให้คนขับรถไปส่งเข้าที่พักที่โรงแรมอีกที่ “โธ่พ่อเงินแค่น้ี แต่ยังไงเวย์ต้องขอบคุณพ่อด้วยนะครับที่จัดการให้ เพราะถ้าพ่อมาไม่ทันเวย์ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงกลัวเมียงอนก็กลัว ตอนนี้เวย์ไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้ว” เวทานนท์ถือโอกาสขอบคุณผู้เป็นพ่อที่ช่วยเหลือจัดการไม่ให้ทางโน้นบอบช้ำมากและไม่ให้เค้ามีปัญหากับเมียรัก “เอ่อไม่เป็นไร แล้วนี่น้องนิวลูกสะใภ้ของพ่อไปไหนแล้วล่ะ ต้ังแต่มายังไม่เห็นหน้าเลย คงไม่โกรธแกจนหนีไปบ้านแม่เค้าแล้วนะ” เจ้าสัวถามหาลูกสะใภ้คนโปรดเพราะตั้งแต่เข้าบ้านมายังไม่เห็นหน้าอีกฝ่ายเลย “พ่ออย่ามาชี้โพรงให้กระรอกเดี๋ยวเกิดมาได้ยินเก็บไปเป็นไอเดียเอาไปใช้ตอนงอนเวย์จริงๆ แย่เลย ขึ้นไปพักตั้งแต่อิงจันทร์มาแล้วครับ เดี๋ยวเวย์ไปหาก่อนนะครับ คงต้องง้อนานหน่อยเจอกันตอนทานข้าวเย็นเลยนะครับ พ่อก็รีบขึ้นไปเถอะเมียพ่อรอนานแล้วเดี๋ยวนึกว่าติดใจอิงจันทร์นะครับเห็นเปย์ทั้งเงินท
เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนตอนนี้อายุครรภ์ของนวพรรษได้ 8 เดือน ท้องเริ่มโตขึ้นนูนเด่นชัดเจน เจ้าตัวเล็กในท้องก็ขยันดิ้นเคลื่อนไหวร่างกายให้คุณพ่อกับคุณแม่ตื่นเต้นตลอด หลังๆ เวลาขยับดิ้นคุณแม่เริ่มมีอาการเจ็บเล็กน้อย พอคุณพ่อเอามือลูบปลอบเจ้าตัวเล็กในครรภ์ก็เหมือนจะเชื่อฟังคุณพ่อหยุดดิ้นเพื่อให้คุณแม่คลายเจ็บ จนบางทีคุณแม่นึกน้อยใจที่ลูกน้อยในครรภ์ดูจะรักและเชื่อฟังคุณพ่อมากกว่าคนอุ้มท้องเสียอีก ช่วงหลังๆ เวทานนท์ไม่ยอมให้คุณแม่ท้องโตตามตัวเองไปทำงานที่บริษัทเพราะท้องเริ่มโต เริ่มเดินเหินลำบาก และเป็นตะคริวบ่อยๆ จนตอนนี้ตัวเวทานนท์เองเลยต้องเอางานมานั่งทำที่บ้านแล้วเฝ้าคุณแม่ท้องโตแทน ส่วนที่บริษัทก็ให้เจ้าสัวกับธนศิลป์ดูแลไป ตอนนี้คุณพ่อกำลังนวดเท้าให้คุณแม่ท้องโตเพราะเท้าบวมโดยให้คุณแม่นอนบนโซฟาตัวใหญ่แล้ววางขาบนตักของคุณพ่อ “เท้าบวมมากเลยที่รัก แต่ก็ดูอวบๆ น่ารักดี สบายขึ้นไหม ฮืมม ฟอดดดดด” เวทานนท์ก้มลงหอมเท้าบวมน่ารักของคุณภรรยาอย่างหมั่นเขี้ยว “พี่เวย์ ไม่เอาครับมันสกปรก” คุณแม่รีบถดขาถอยหนี คุณพ่อคว้าขาเรียวกลับมาวางบนตักอีก “สกปรกที่ไหน น่ารักและหอมขนาดนี้ ” พูดไปมือก็ลูบคลึงเท้า
“เป็นยังไงบ้างเบบี๋ นิทานของแด็ดดี้สนุกไหมครับ”เวทานนท์ทำเสียงเล็กเสียงน้อยอ่านนิทานให้ลูกน้อยในท้องของภรรยาฟัง ตอนนี้นวพรรษอายุครรภ์ได้ 5 เดือนแล้ว หลังจากทำอัลตร้าซาวน์ดูเพศเด็กแล้วปรากฏว่าทั้งสองได้ลูกชาย สร้างความยินดีให้กับทุกคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก ถึงแม้อายุครรภ์จะได้ 5 เดือน แต่กระนั้นเป็นท้องแรกของคุณแม่เลยดูยังไม่โตมากเท่าไรแค่เหมือนคนอ้วนลงพุง ทุกคืนเวทานนท์จะต้องมานอนเล่านิทานให้ลูกน้อยในท้องฟังก่อนนอนเสมอ ตามด้วยการไปเยี่ยมทักทายลูกชายในครรภ์ อายุครรภ์เลยช่วงการมีความเสี่ยงต่อการแท้งแล้ว ทำให้คนพ่อจอมหื่นเลยขยันไปเยี่ยมลูกน้อยเป็นพิเศษอ้างว่าลูกบอกเหงาอยากคุยกับแด็ดดี้ และแด็ดดี้ก็อยากต่อแขนต่อขาให้เบบี๋แข็งแรง วันนี้หลังอ่านนิทานเสร็จมีหรือคนหื่นจะพลาด จากตอนนี้ที่เวทานนท์นอนตะแคงซ้อนอยู่ด้านหลังคนร่างเพรียวที่ดูอวบขึ้นนิดหน่อยให้น้องน้อยนอนตะแคงหันหลังหนุนแขวนตัวเองฟังนิทานอยู่ พอนิทานจบคนเจ้าเล่ห์ก็วางหนังสือลงบนโต๊ะข้างเตียง พอชะโงกมาดูหน้าคนในอ้อมกอดพบว่าตอนนี้คุณแม่เริ่มตาปรือแล้ว ทำท่าจะหลับมิหลับแหล่ จะโดนลักหลับยังไม่รู้ตัวอีกเมียตู“ที่รักอย่าเพิ่งหลับซิ เบบี
พอมาถึงบ้านว่าที่คุณพ่อก็รีบแจ้งข่าวดีให้ทั้งฝั่งเจ้าสัวและคุณป๊าคุณม๊าของนวพรรษให้ทุกคนได้ทราบด้วยความตื่นเต้นและดีใจ แม้กระทั่งคนรับใช้ในบ้านต่างก็รับทราบและยินดีกันถ้วนหน้า ว่าที่คุณพ่อไม่ค่อยจะเห่อเลย คอยประคบประหงม ประครองเวลาคุณแม่จะเดินไปไหนมาไหนก็ไปด้วย ทำตัวติดร่างเพรียวตลอดเวลา“ค่อยๆ ลุก ค่อยๆ เดินครับเมีย มานั่งพักตรงนี้ก่อนมา ระหว่างรอทานข้าว ” นวพรรษแอบมองบนสามีขี้เห่อ ไม่ว่านวพรรษจะขยับตัวทางไปไหน ร่างสูงของสามีก็จะคอยเข้ามาประครองตลอด จนตอนนี้ตัวแทบจะสิงร่างเพรียวอยู่แล้ว “พี่เวย์ครับ นิวแค่ท้องไม่ได้เป็นง่อยหรือพิการนะครับ นิวเดินเองได้” พอโดนเมียห้ามคุณพ่อขี้เห่อก็ทำหน้าหงอยทันที นึกน้อยใจที่ภรรยาหน้าหวานมองไม่เห็นความหวังดีหรือคงรำคาญตัวเขา เวทานนท์เลยแทบจะปล่อยมือจากเอวบางทันที“พี่ขอโทษนะครับ ที่พี่เป็นห่วงหนูมากไปหน่อยจนทำให้หนูรำคาญ” พอได้เห็นสีหน้าและน้ำเสียงของสามีเลยทำให้นวพรรษรู้เลยว่าทำให้อีกคนน้อยใจเสียแล้ว ลำบากคุณแม่ต้องง้อแล้วสิ “ฟอดดดดด พี่เวย์ไม่งอนนะครับคนดีของเมีย นิวแค่กลัวพี่เวย์ลำบาก กลัวพี่เวย์เหนื่อย คอยทำโน่นทำนี่ให้นิวตลอดเวลา ตัวเล็กช่ว
โอ๊ก อ๊วก อ๊วก แว่ะเสียงในห้องน้ำตอนเช้าทำเอานวพรรษตื่นจากนิทรารมณ์แสนหวาน เมื่อคืนกว่าจะได้นอนผ่านศึกรักกับคุณสามีถึงค่อนคืนจึงค่อนข้างเพลีย ว่าแต่ตัวต้นเรื่องหายไปแสดงว่าเสียงในห้องน้ำเป็นเสียงของพี่เวย์แน่ๆ แล้วพี่เวย์เป็นอะไรล่ะ คิดได้ดังนั้นจึงลุกจากที่นอนไปหาคนที่อยู่ในห้องน้ำด้วยความเป็นห่วง“ก๊อก ก๊อก ก๊อก พี่เวย์ครับเป็นอะไรหรือเปล่า นิวเข้าไปนะ” พอเปิดประตูเข้าไม่รู้จะขำหรือจะสงสารดีที่เห็นท่านประธานบริษัทหมื่นล้านมานั่งกอดชักโครกอาเจียนจนหมดสภาพ“เป็นยังไงบ้าง ทำไมอยู่ๆ ก็อาเจียนล่ะครับ อาหารเป็นพิษหรือเปล่า” นวพรรษถามคนไม่สบายอย่างเป็นห่วงพร้อมกับคิดหาสาเหตุที่ทำให้คนที่สุขภาพดีมาตลอด ไม่สบายได้“เมียจ๋า ผัวไม่ไหวแล้ว เวียนหัว คลื่นไส้ อยากอ๊วก ฮือ ฮือ ” นวพรรษอึ้งเลยพอเห็นสามีพูดไปร้องไห้ไป อารมณ์ไหนของคุณเค้าเนี่ย สงสัยจะอาการหนัก “โอ๋ โอ๋ พี่เวย์มีแรงลุกไหม มาเดี๋ยวนิวช่วยพยุง เดี๋ยวเราไปหาหมอกันนะครับ” คนเป็นเมียเข้าไปพยุงคนป่วยให้ลุกขึ้นแล้วไปล้างหน้าบ้วนปากที่อ่างล้างหน้า “อาบน้ำไหวไหม ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวนิวอาบให้” คนตัวหนารีบส่ายหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาทันที อยากใ
ผ่านพ้นงานแต่งไปได้อาทิตย์กว่า สองสามีภรรยาก็กลับมาทำงานปกติในฐานะท่านประธานกับเลขาส่วนตัวเพราะตอนนี้โต๊ะทำงานเดิมของนวพรรษมีหญิงวัยกลางคนมาทำหน้าที่เลขามานั่งแทนที่ ส่วนที่นั่งใหม่สามีให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันในห้องเดียวกัน มีหรือสามีของนวพรรษจะให้มานั่งเฉยๆ ตอนนี้คอยหาเศษหาเลยหาทางเอาเปรียบภรรยา ตอดเล็กตอดน้อยอยู่ตลอดเวลา พอให้ชื่นใจ “พี่เวย์ปล่อยนิวก่อน เดี๋ยวทำงานไม่ทันนะ วันนี้มีประชุมบอร์ดบริหารด้วย ปล่อยก่อนนะครับคุณสามี” เสียงออดอ้อนให้ท่านประธานจอมหื่นปล่อยตัวเองที่ตอนนี้โดนสามีจับให้มานั่งบนตักหลังเอากาแฟมาเสิร์ฟ โดนสามีจับมาจูบจับมาหอมแก้มจนไม่ได้ทำงาน ร่างเพรียวเริ่มเหนื่อยใจกับสามีที่งอแงบ่อยช่วงนี้ “ขอผัวหอมหน่อย เวียนหัวอ่ะตอนนี้ พอได้กลิ่นเมียแล้วมันสดชื่น มีแรงทำงานหาเงินเลี้ยงเมียขึ้นเยอะเลย ฟอดดดด ถ้าไม่อยากเสียเปรียบหอมพี่คืนได้นะ” “กริ้ง กริ้ง กริ้ง ” เสียงโทรศัพท์ติดต่อภายในจากเลขาหน้าห้องดังขึ้นขัดจังหวะสวีทหวานกับเมียทำเอาท่านประธานหัวเสียทันที “มีอะไรครับ คุณมาลีวรรณ” เวทานนท์ถามเลขาหน้าห้องเสียงเข้มปนหงุดหงิด“เอ่อ ขอประทานโทษค่ะท่านประธาน พอดีดิฉันจะแจ้งท่าน
จากวันที่ผู้ใหญ่คุยตกลงกันจนกระทั่งวันนี้ก็ผ่านไป 3 สัปดาห์ วันนี้เป็นฤกษ์ดีที่คุณม๊าไปหามาจากพระอาจารย์ที่นับถือ จึงได้เป็นวันหมั้นกับวันแต่งงานของเวทานนท์กับนวพรรษ เมื่อเช้าเพิ่งผ่านงานหมั้นมา ช่วงเย็นนี้เลยเป็นงานแต่งที่จัดขึ้นที่โรงแรมชื่อดังระดับ 6 ดาว ซึ่งเจ้าสัวเวทินเป็นเจ้าของ งานแต่งนี้ตั้งใจจัดเป็นการส่วนตัวภายในเชิญแต่เครือญาติ แต่คู่แต่งงานทั้งสองเป็นลูกคนดัง จึงเป็นงานที่สื่อมวนชลให้ความสนใจขออนุญาตเจ้าสัวเข้ามาเก็บรูปทำข่าว ซึ่งเจ้าสัวอนุญาตแค่ไม่กี่สำนักข่าวเท่านั้น กว่าจะเสร็จสิ้นงานพิธีการจนตอนนี้ถึงขั้นส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอเล่นเอาทั้งคู่เหนื่อยเลย แต่ก็เป็นการเหนื่อยแบบอิ่มเอมใจ เจ้าบ่าวยืนยิ้มกริ่มตลอดงาน พอผู้หลักผู้ใหญ่เข้ามาอวยพรในห้องหอที่จัดไว้ที่ห้องพักพิเศษสมฐานะเจ้าของโรงแรมแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาส่วนตัวของทั้งคู่ เวทนนท์รีบเดินไปล็อคประตูทันทีแล้วกลับมาสวมกอดนวพรรษที่หันหลังกำลังเช็ดหน้าเพื่อที่จะอาบน้ำ “ฟอดดด ขอบคุณนะครับ ที่ไว้ใจพี่ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพี่ รักนะครับ” นวพรรษหันกลับมาหาอีกคนพร้อมสวมกอดตอบและหอมแก้มคนพี่“ขอบคุณพี่เวย์เช่นกันนะครับ ที่ให
“พ่อกับพี่ท้อป จะออกไปข้างนอกเหรอครับ” หลังจากที่ไปส่งคนรักขึ้นรถที่ท่านฑูตนวพลส่งให้มารับลูกชายกลับบ้านแล้วจากนั้น เวทานนท์ก็ขับรถกลับมายังบ้านเพื่อมารอรับโทรศัพท์จากคนตัวหอมที่เขาแสนจะคิดถึง ขณะที่กำลังเดินเข้าบ้านมาถึงรับแขกของบ้านก็เจอเจ้าสัวเวทินกับธนศิลป์นั่งคุยกันอยู่ที่โซฟาแต่ดูการแต่งตัวแล้วเหมือนจะออกไปข้างนอก จึงเอ่ยถามบิดาขึ้น “แกถามทำไม จะไปกับพวกฉันเหรอ” ได้ทีเจ้าสัวเลยตอบกวนๆ ลูกชาย กลับไป “ไม่ไปด้วยหรอก เวย์ก็แค่ถามเฉยๆ เห็นพ่อแต่งตัวหล่อ จะพาเมียไปดินเนอร์เหรอครับ เวย์ไม่ไปเป็น กขค หรอก งั้นเวย์ขอตัวก่อนนะครับ จะไปรอรับโทรศัพท์เมียเหมือนกัน” เอ่ยแซวพ่อกับพี่ท้อปเสร็จก็หันหลังก้าวขายาวๆ แยกออกไปเพื่อจะเดินขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเอง “นึกว่าจะไปกินข้าวที่บ้านปรียานันท์กับพ่อซะอีก ตอนแรกอุตส่าห์รอ งั้นพ่อกับพี่ท้อปไปก่อนล่ะนะ” ขายาวที่ก้าวแยกออกไปได้ไม่กี่ก้าวถึงกับหยุดชะงักทันที เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้เป็นพ่อพูด “เดี๋ยวครับพ่อ พ่อจะไปไหนนะครับ ” เวทานนท์รีบถามผู้เป็นพ่ออย่างดีใจ เหมือนเด็กที่จะได้ไปเที่ยวนอกบ้าน เจ้าสัวเวทินอดขำลูกชายไม่ได้ ก่อนที่จะหันมาตอบล