Share

บทที่ 5

Author: เล่อเอิน
โจวอวี้ชวนรับกล่องของขวัญไป ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกรีดลงบนหัวใจอย่างรวดเร็ว

บอกไม่ได้ว่ามันเจ็บปวด เพียงแต่หายใจไม่ค่อยสะดวกเท่าไร

โบบนกล่องของขวัญชิ้นนั้นผูกไว้อย่างตั้งใจและประณีต

เห็นได้ชัดว่าเพื่อของขวัญชิ้นนี้แล้ว เธอใส่ใจไปมาก ทั้งยังตระเตรียมไว้นานไม่น้อย

ทว่าตัวเขาเองกลับเป็นไอ้ระยำครบสูตร ซุกซ่อนความเห็นแก่ตัวที่ไม่อาจเปิดเผยเอาไว้

ยังไม่ทันให้เขารับคำอะไร เวินซ่งก็เดินไปที่บริเวณโถงทางเดิน ใส่เสื้อคลุมผ้าขนสัตว์สีแอปริคอต แล้วก็พันผ้าพันคอไว้ จนปิดดวงหน้ารูปไข่ขนาดเท่าฝ่ามือจนหลงเหลือเพียงแค่ดวงตาที่แยกสีดำขาวชัดเจนคู่หนึ่ง

จากนั้นก็ออกจากบ้านไป

เพียงแต่ ท่าทางการเดินของเธอนั้น ดูไม่ค่อยปกติเท่าไรนัก

ขณะที่โจวอวี้ชวนกำลังจะถามนั้น ก็ได้ได้ยินเสียงของเสิ่นหมิงถังที่อยู่ข้าง ๆ ร้องเสียงหลง “ซี๊ด เจ็บจัง!”

เขาดึงความคิดกลับมาทันที แล้วประคองเธอให้นั่งใหม่ “เจ็บหัวเข่ามากเลยเหรอ? เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาล”

“ฉันไม่อยากไป”

เสิ่นหมิงถังเม้มปาก เหลือบมองกล่องในมือเขา พลางพึมพำว่า “ยังจะกล้าพูดอีกว่าคุณไม่หวั่นไหวกับเธอ ทั้งที่แม้แต่ของที่เธอให้ คุณก็มองมันราวกับสมบัติล้ำค่าขนาดนี้”

“...”

โจวอวี้ชวนขมวดคิ้ว “หมิงถัง ฉันติดค้างเขาไว้มากนะ”

เสิ่นหมิงถังเบิกตากว้างทั้งสองข้าง ปล่อยให้หยาดน้ำตาหลั่งริน “แล้วฉันล่ะ? อวี้ชวน คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ คุณจะปล่อยให้เธอรังแกฉันกับคั่วคั่วงั้นเหรอ?”

“ฉันบอกแล้วนี่ ว่าเสี่ยวซ่งไม่ใช่คนแบบนั้น

“พอแล้ว! โจวอวี้ชวน คุณไม่รู้ตัวเลยหรือไง ว่าตอนนี้คำพูดทุกคำทุกประโยคของคุณน่ะกำลังเป็นการปกป้องเธอ!”

พูดจบ เสิ่งหมิงถังก็ร้องไห้น่าสงสารพลางลุกขึ้นยืน จูงโจวสือคั่วให้ขึ้นไปยังชั้นบน

โจวอวี้ชวนชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วค่อย ๆ ถอนหายใจออกมาอย่างช้า ๆ

เขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่กับแน่

เขาก็แค่ไม่อยากได้ยินคนข้างกายพูดถึงเธอไม่ดีก็เท่านั้น

...

หยาดหิมะโปรยปรายลงมาอยู่สองวัน

ตอนเช้าเวินซ่งไปนั่งตรวจคนไข้อยู่ที่คลินิกแพทย์แผนจีน ตอนบ่ายมีเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันที่มาจากต่างประเทศมาหารุ่นพี่เพื่อเรียนการฝังเข็ม

เนื่องจากรุ่นพี่มีธุระ เลยมอบเรื่องนี้ให้เธอเป็นการชั่วคราว

เมื่อเลิกงานตอนห้าโมงเย็น เธอก็รีบกลับบ้านมาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหน้าแต่งตาให้ตัวเอง

เวินซ่งมีพื้นฐานดีอยู่แล้ว ดวงตากระจ่างใส ฟันขาวสะอาด แค่จัดแต่งเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้เจ้าตัวสวยขึ้นไม่เบา

ตอนที่ลงมาชั้นล่างถึงได้สังเกตเห็น ตั้งแต่เธอกลับบ้านจนถึงตอนนี้ ในบ้านก็เงียบสงบเสียจนแปลกพิกล

แม่ลูกคู่นั้น วันนี้เหมือนจะสงบเสงี่ยมดี

“เวินซ่ง”

เธอเพิ่งเปลี่ยนมาใส่รองเท้าบูทเสร็จ เสียงของเสิ่นหมิงถังที่เจือไปด้วยรอยยิ้มก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง “เธอว่า เขาจะเลือกเธอ หรือเลือกฉัน?”

เวินซ่งชะงักไป แล้วทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา “พี่สะใภ้ใหญ่พูดอะไรน่ะ ฉันไม่เห็นจะเข้าใจ”

“ความหมายของเธอก็คือ เธออยากจะเล่นละครพี่สะใภ้ยั่วคุณอาเล็กอยู่ที่ตระกูลโจวงั้นสิ?”

“เวินซ่ง!!”

เธอพูดออกมาอย่างโจ๋งครึ่มเกินไป เสิ่นหมิงถังถึงกับต้องกัดฟันเลยทีเดียว

เธอสวมเสื้อคลุมผ้ากำมะหยี่ด้วยท่าทางสุขุม หัวเราะเล็กน้อย “ไม่พูดกับเธอละ อวี้ชวนมารอฉันแล้ว”

เสิ่นหมิงถังมองตามสายตาของเวินซ่ง มองผ่านหน้าต่างกระจกออกไป รถของโจวอวี้ชวนมาจอดอยู่ที่สวนแล้ว

เธอแค้นใจจนแทบจะกระอักเลือดออกมาเลยทีเดียว

ตอนแรกที่ยอมให้โจวอวี้ชวนแต่งงานกับนังชั้นต่ำนี่ ก็เพราะเห็นว่าเธออ่อนแอและบีบคั้นได้ง่ายเท่านั้น ทว่าตอนนี้เจ้าตัวกลับกลายเป็นกระต่ายที่เที่ยวไล่กัดคนไปทั่วเสียแล้ว!”

เวินซ่งสอดตัวเข้าไปด้านในรถ แล้วมองอวี้ชวน “รอไม่นานใช่ไหม?”

“ไม่หรอก ฉันก็เพิ่งมาถึง”

โจวอวี้ชวนคลึงฝ่ามือของเธอ หลุบตาลง มองเห็นใต้ชายกระโปรงของเธอ มันอวดเรียวขางามได้สัดส่วน ทั้งยังขาวนวล ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ทำไมถึงได้ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นขนาดนี้?”

เธอแย้มยิ้มเล็กน้อย “ถึงอย่างไรถ้าไม่ได้อยู่ในรถ ก็อยู่ในบ้านของคุณหญิงใหญ่ อบอุ่นทุกที่”

ตอนที่นั่งตรวจอยู่ที่คลินิกแพทย์นั้น เธอไม่เบื่อที่จะกำชับผู้ป่วยให้ทำร่างกายให้อบอุ่น

พอถึงคราวตัวเอง กลับไม่ได้สนใจเสียอย่างนั้น

โจวอวี้ชวนบังคับกะเกณฑ์เธอไม่ได้ “ถ้าไม่สบายเป็นไข้ขึ้นมา ดูซิเธอจะทำยังไง”

“งั้นก็กินยา”

ไม่สบายเพราะลมหนาวนั้นรักษาง่ายที่สุดแล้ว ทันทีที่กินยาก็ดีขึ้นตั้งครึ่งหนึ่ง และเธอก็มีประสบการณ์ไม่น้อย

ผ่านมาสามปีแล้ว มีครั้งไหนบ้างที่ไม่เป็นแบบนี้

เธอคงไม่อาจคาดหวังให้โจวอวี้ชวนมาดูแลตัวเองได้หรอก

คาดหวังไม่ได้หรอก

ไม่ว่าเธอหรือใครก็คาดหวังไม่ได้หรอก

โจวอวี้ชวนเห็นว่าเธอไม่ใส่ใจร่างกายของตัวเองขนาดนี้ ในใจพลันอึดอัดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด “ดูเธอพูดเข้า มันเหมือนกับว่าฉันที่เป็นสามีไม่เป็นห่วงเธอเลย”

เธอชะงักไปเล็กน้อย “ของขวัญที่ให้นายเมื่อวาน นายยังไม่ได้เปิดใช่ไหม?”

“ยัง”

โจวอวี้ชวนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “มันคือของขวัญวันเกิดไม่ใช่หรือไง ไว้ค่อยเปิดตอนวันเกิด”

“...”

ก็ได้

แบบนี้เธอก็มีเวลาให้เตรียมตัวมากพอ

เรื่องที่คุยกันระหว่างเธอกับโจวอวี้ชวนนั้น ไม่ได้มีมากมายอะไร การเดินทางต่อจากนั้นจึงไร้สุ้มเสียง

เมื่อโจวอวี้ชวนหันหน้าไป ก็เห็นเวินซ่งทำเพียงแค่ดูรถที่วิ่งสวนกันไปมาไม่ขาดสายอยู่นอกหน้าต่างอย่างเงียบเชียบ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่ดูโดยรวมแล้วดูว่าง่าย

ไร้พิษสงและอ่อนโยน

ไม่รู้ว่าทำไมหมิงถังถึงได้ไม่ชอบเธอขนานนั้น

โจวอวี้ชวนเผยอปากเล็กน้อย ตอนที่กำลังจะหาเรื่องมาพูดคุยนั้น จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“ประธานโจว คุณเสิ่นไปดูตัวแล้วครับ”

น้ำเสียงของอีกฝ่ายไม่ดังไม่เบา

เวินซ่งก็ได้ยินเข้าพอดี

บรรยากาศในรถอึดอัดขึ้นมาในชั่วพริบตา เวินซ่งสัมผัสได้ชัดเจนว่าโจวอวี้ชวนกำลังข่มความโกรธเคืองไว้อย่างสุดความสามารถ

เขารู้รุกรู้จักถอยได้อย่างเหมาะสมเสมอมา เดือดดาลน้อยครั้งมาก

“ส่งตำแหน่งมาให้ฉัน”

สีหน้าของโจวอวี้ชวนมืดครึ้ม

กดวางสาย ตอนที่มองเวินซ่งนั้นก็กลับมานุ่มนวลอีกครั้ง ทว่าคำพูดที่ออกมานั้นกลับไม่ได้หลงเหลือวี่แววขอคำปรึกษาเลยสักนิด “เสี่ยวซ่ง พอดีเกิดเรื่องด่วน ฉันไปร่วมงานเลี้ยงครอบครัวกับเธอไม่ได้แล้ว”

เกิดเรื่องด่วนอะไรขึ้นนั้น

เวินซ่งไม่มีกะจิตกะใจจะไปเปิดโปง

ไม่อย่างนั้น จะมีแต่ทำให้ตนเองยิ่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“เข้าใจแล้ว”

เธอหลุบตาลงเล็กน้อย “ลุงเฉิน จอดเทียบข้างทางด้านหน้าหน่อยนะคะ”

รถค่อย ๆ หยุดตัว

ทว่าโจวอวี้ชวนกลับไม่ขยับเขยื้อน เวินซ่งหันไปมองอย่างงุนงง “อวี้ชวน นายรีบลงไปเถอะ จะจอดรถนานไม่ได้หรอกนะ”

“...ได้”

ชายหนุ่มตะลึงไปเล็กน้อย เห็นเธอยังมีสายตาอ่อนโยน เลยพูดอะไรอื่นไม่ออกอีก

มีแต่ต้องลงรถไปเอง

ตระกูลซางจัดงานเลี้ยงครอบครัวเดือนละครั้ง มีความครึกครื้นและกลมเกลียวกันต่างจากตระกูลอื่น

ตระกูลซาง รวมแล้วมีอยู่ด้วยกันห้าคน นี่ขนาดนับรวมโจวอวี้ชวนไปแล้วด้วยนะ

จะว่ายังไงดีล่ะ มันสงบเงียบไม่น้อย

สงบเงียบจนเทียบได้กับป่าช้าเลยทีเดียว

บรรยากาศก็เหมือนกัน

ทันทีที่เวินซ่งเข้าไปในบ้านใหญ่ พ่อบ้านก็พาเธอเดินไปยังห้องทานอาหาร

“คุณซ่ง คุณหญิงใหญ่รอคุณอยู่นานแล้ว เฝ้ารอคุณกลับมาตั้งแต่เช้าแล้วครับ”

“อืม”

เวินซ่งเม้มปากพลางพยักหน้า ทว่ามือทั้งสองข้างกลับกำแน่นอย่างไม่สบายใจนัก

ในห้องทานอาหาร

คุณนายใหญ่ซางนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ที่นั่งรองลงมาทางด้านซ้ายนั้นมีลูกสาวคนโตและคนรองของเธอนั่งอยู่

เวินซ่งเดินเข้าไป แล้วเรียกขานทุกคนตามลำดับ “คุณย่า ป้าใหญ่ ป้ารอง”

จากนั้นเธอก็เรียกขานคนตระกูลซางที่อยู่ในรุ่นเดียวกัน

คุณป้าทั้งสองรับคำอย่างเฉยเมย คุณนายใหญ่ซางเอาแต่มองไปยังด้านหลังเธอ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอื่นอีก ก็อดขมวดคิ้วจนเป็นรอยย่นลึกไม่ได้ “โจวอวี้ชวนล่ะ?”

เวินซ่งตอบตามความจริง “เขามีธุระด่วนกะทันหัน เลยขอตัวไปก่อน”

วินาทีถัดมา เสียงตวาดก็พุ่งใส่เข้ามาอย่างจัง พร้อม ๆ กับ ถ้วยชาที่ถูกขว้างลงไป

“ออกไปคุกเข่าซะ!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 64

    “ถึงตอนนั้น พวกเราคงต้องไปที่ซางซื่อกรุ๊ปบ่อย ๆ…”เขาพูดพลางชำเลืองมองสีหน้าของเวินซ่งอย่างลังเลกลุ่มบริษัทซางซื่อกรุ๊ปมีอาคารอยู่สองหลัง ห้องทดลองและสถาบันวิจัยล้วนอยู่ในอาคารนั้น แม้โอกาสที่จะเจอซางอวี้นั้นมีไม่มากนัก แต่ก็ยังมีอยู่ดีเวินซ่งเผยรอยยิ้มจนใจ “ทำไมพี่ถึงเหมือนอาจารย์จัง?”เธอก็วางตะเกียบลง แล้วเอ่ยอย่างจริงจัง “พี่สวินมู่ พี่วางใจได้ ฉันแยกแยะออก จะไม่ให้เรื่องส่วนตัวมากระทบงานเด็ดขาด…”ชั้นสองของร้านอาหาร ประตูห้องส่วนตัวบานหนึ่งเปิดอยู่ ชายหนุ่มหน้าประตูเอามือใหญ่ที่มีกระดูกนิ้วชัดเจนเท้าลงบนราวบันได ดวงตาดำมืดคู่นั้นจ้องเขม็งไปยังชายหญิงคู่หนึ่งที่อยู่ชั้นล่างหญิงสาวที่ต่อหน้าเขาจะทำสีหน้าห่างเหิน เวลานี้กลับดูเชื่อฟังเรียบร้อย ไม่รู้ว่ารับปากอะไรกับผู้ชายอีกคน“ซางอวี้ นายมองอะไรอยู่น่ะ? ไม่เข้ามาสักที”ชายหนุ่มคนหนึ่งที่อายุไล่เลี่ยกันเดินออกมา ชำเลืองมองลงไปตามสายตาของเขา แล้วพูดโดยไม่สำรวม “อ๋อ ดูน้องสาวนายอยู่นี่เอง”“...ไปให้พ้น”ซางอวี้เหล่มองเขา พลางล้วงกระเป๋ากางเกงเดินลงชั้นล่างอย่างไม่ใส่ใจ “ที่เหลือพวกนายก็คุยกันต่อเถอะ ฉันไปก่อนนะ”“ได้ งั้น

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 63

    เธอไม่ได้คิดจะให้โจวอวี้ชวนมารับเธอหลังเลิกงานเลยแต่พอเห็นภาพนี้ ก็อดรู้สึกเยาะเย้ยเล็ก ๆ ไม่ได้โจวอวี้ชวนค่อย ๆ ผลักผู้หญิงในอ้อมแขนออก ขณะที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เพื่อนร่วมงานสายตาดีสองสามคนก็หัวเราะล้อเลียนขึ้นมา“พี่หมิงถัง นี่แฟนพี่ใช่ไหม?”ตอนกลางวันทำงาน เสิ่นหมิงถังก็แอบอวดทั้งโดยตรงและโดยอ้อมอยู่ตลอดทั้งวันแล้วว่ามีแฟนที่สูงใหญ่ หล่อเหลา อ่อนโยน แถมยังรวยมากรถสปอร์ตคันนั้นเมื่อเช้า ก็เป็นแฟนหนุ่มที่มอบให้ตอนนี้ดูแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะไม่ได้โป้ปดเลยสักนิด เป็นหนุ่มสูงหล่อรวยอย่างแท้จริงเอ่อไม่สิ ไม่ใช่ระดับเดียวกับหนุ่มสูงหล่อรวยทั่วไป บุคลิกก็ดีมากเช่นกัน ทั้งสง่างามและสูงส่งเสิ่นหมิงถังปัดผมไปไว้หลังใบหูด้วยความเคอะเขินเล็กน้อย ก่อนมองไปยังโจวอวี้ชวน “อวี้ชวน พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงานของฉันเอง”โจวอวี้ชวนขมวดคิ้วแน่น พอเงยหน้ามองไปอีกที เวินซ่งก็เดินออกไปไกลแล้ว!เขาไม่ได้ตอบอะไร ทุกคนคิดว่าเขามีนิสัยเก็บตัวอีกอย่าง เจ้าพ่อที่ร่ำรวยขนาดนี้ ไม่ชอบคุยกับคนอื่นก็เป็นเรื่องปกติพอเสิ่นหมิงถังกับโจวอวี้ชวนขึ้นรถไปแล้ว เพื่อนร่วมงานหญิงหลายคนก็อิจฉาแทบบ้า“

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 62

    “ก็ได้”เจียงสวินมู่เห็นว่าเธอยังอารมณ์ดีอยู่ ก็อดยิ้มไม่ได้พลางกล่าวว่า “พวกเธอบอกว่า แทบไม่เคยเห็นหมอเวินทำหน้าไม่พอใจใส่ใคร เลยสงสัยกันว่า เธอกับเสิ่นหมิงถังมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า”เวินซ่งไม่ได้พูดอะไร จ้องมองของในมือเขา “เอามาให้ฉันเหรอคะ?”“อืม”เจียงสวินมู่วางปิ่นโตเก็บอุณหภูมิลงตรงหน้าเธอ “เป็ดอบเบียร์ ปลาผัดมะเขือยาว แล้วก็ผักกาดขาวผัดน้ำส้มสายชู อาจารย์หญิงกำชับให้เอามาให้เธอโดยเฉพาะเลย”พอเวินซ่งเปิดฝาออก กลิ่นหอมก็ลอยมาแตะจมูก จึงลองชิมมะเขือยาวอย่างอดใจไม่ไหว “พี่ไปบ้านอาจารย์มาเหรอ?”“ใช่ ไปคุยกับอาจารย์เรื่องโปรเจกต์นั้นของซางซื่อกรุ๊ป”เจียงสวินมู่นั่งลงตรงข้ามเธอ “รสชาติเป็นไงบ้าง?”“ต้องดีมากอยู่แล้ว”เวินซ่งยิ้ม “แล้วพี่กินหรือยังคะ?”“ฉัน…”เสียงเจียงสวินมู่ชะงักไปนิดหนึ่ง สายตาอันอ่อนโยนหยุดอยู่ที่แก้มเธอ เจือด้วยรอยยิ้ม “ยังเลย”“งั้นก็กินด้วยกันสิคะ”เวินซ่งหยิบตะเกียบใช้แล้วทิ้งจากลิ้นชักส่งให้เขา พลางถามต่อ “โปรเจกต์ของซางซื่อกรุ๊ปเป็นยังไงเหรอ? เมื่อไหร่จะเริ่มล่ะ?”“กินข้าวก่อนเถอะ”เจียงสวินมู่ชำเลืองมองเวลา “เรื่องโปรเจกต์ ไว้เธอเลิกงานคืนนี้

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 61

    ป้าอู๋ที่ยังนอนหลับฝันอยู่ ก็ถูกเสียงเคาะประตูอันเร่งรีบปลุกให้ตื่นพอเปิดประตูออก ก็เผชิญหน้ากับสีหน้าไม่สู้ดีของโจวอวี้ชวน ในใจพลันเกิดสัญญาณเตือนภัยขึ้นอย่างไม่รู้ตัว “คุณชาย เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”สายตาโจวอวี้ชวนแฝงความคมกริบ “คุณนายรองกลับมาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่?”เสิ่นหมิงถังที่อยู่ข้าง ๆ ใช้ปลายเล็บอันแหลมคมจิกลงไปในฝ่ามือนังชั้นต่ำนั่นย้ายออกไปแล้วเธอยากลำบากแทบตายกว่าจะได้เป็นคุณนายหญิงอยู่ไม่กี่วัน ไม่อยากเห็นเงาของเวินซ่งในบ้านอีกต่อไป!“คุณนายรอง เธอกลับมาทุกวันนะคะ…”ป้าอู๋ทำท่าเหมือนสงสัย แต่ตอบสนองได้เร็วมาก “เอ๊ะ ไม่ใช่สิ คืนนี้ไม่กลับ คุณนายใหญ่จะอายุครบแปดสิบแล้ว คุณนายเลยเรียกเธอกลับไปที่บ้านใหญ่ให้ช่วยออกความเห็นน่ะเจ้าค่ะ”แววตาของเสิ่นหมิงถังฉายความประหลาดใจ ในใจก็เต็มไปด้วยคำถามทำไมป้าอู๋ต้องช่วยปิดบังเรื่องที่เวินซ่งย้ายออกไปด้วยหรือว่า ป้าอู๋เองก็คิดว่าเมื่อเทียบกับเวินซ่งแล้ว เธอเหมาะที่จะเป็นคุณนายหญิงของบ้านนี้มากกว่าเมื่อคิดถึงตรงนี้ เธออดไม่ได้ที่จะแย้มมุมปากขึ้น พลางมองไปยังโจวอวี้ชวน “เอาน่ะ เวินซ่งแค่ไม่กลับมาคืนเดียวเอง คุณจะระแวงไปทำไมกัน

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 60 

    เวินซ่งกลับไม่ได้คิดมากขนาดนั้น “งั้นก็ต้องวิจัยสำเร็จให้ได้”“ด้วยความสามารถของเธอ ฉันเชื่อว่าจะสำเร็จแน่”อวี๋เฉิงอั้นรู้จักความสามารถของเธอกว่าใครหลังจากวางสายโทรศัพท์ เขาก็อดมองไปทางภรรยาที่อยู่ข้าง ๆ อย่างซาบซึ้งใจไม่ได้ “ไม่คิดเลยนะว่า เธอจะเข้าใจนิสัยของเด็กคนนี้ดีกว่าฉันอีก”“นั่นสิ”ซุนจิ้งหลันยิ้ม “เด็กคนนี้น่ะ โครงการอื่น ๆ เก้าในสิบเธอก็ปฏิเสธหมด แต่เรื่องที่สามารถรักษาโรคช่วยชีวิตคนได้ จะไม่ลังเลเลย”-เมืองไห่ห่างจากเมืองจิ่งไม่ถึงสองร้อยกิโลเมตร ตอนเช้าวันถัดไป โจวอวี้ชวนมีประชุมผู้ถือหุ้น ก็เลยไม่ได้ค้างคืนที่เมืองไห่เขากับเสิ่นหมิงถังสองคนกลับเมืองจิ่งในคืนนั้นเลยเมืองจิ่งในช่วงเวลานี้ ยังคงมีรถสัญจรไม่ขาดสาย911 รุ่นลิมิเต็ดสีแดงคำรามผ่านไป เมื่อจอดอยู่ที่สี่แยกไฟแดง ก็ดึงดูดให้คนบนถนนไม่น้อยหยิบมือถือถ่ายรูปความหยิ่งทะนงของเสิ่นหมิงถังถูกเติมเต็มอย่างเต็มที่“อวี้ชวน วันนี้ฉันมีความสุขมาก ขอบคุณนะ…”เธอเอียงหน้าหันมองทางที่นั่งข้างคนขับ พบว่าชายหนุ่มดูเหมือนเหม่อลอยผ่านไปราว ๆ สองสามวินาที โจวอวี้ชวนถึงเพิ่งจะรู้สึกตัวแล้วหันมามองเธอ “เธอว่าอะไรนะ?

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 59

    ไม่ใช่แค่เสิ่นหมิงถังที่ตกใจเวินซ่งก็อึ้งเช่นกันเธอเงยหน้าขึ้น พยายามให้ตัวเองพูดอย่างนิ่งสงบที่สุด “นายจะอธิบายให้พวกเขาเข้าใจชัดเจนก่อน หรือไม่ก็ไปรับรถเป็นเพื่อนเสิ่นหมิงถังต่อ”เธอยอมรับที่เขานอกใจ แล้วก็ยอมเคลียร์แทนพวกเขาแต่ไม่ยอมรับความคลุมเครือถ้าก็ไปกับเสิ่นหมิงถังแบบนี้แล้ว ในสายตาคนนอก เสิ่นหมิงถังคือคุณนายโจวแล้วเธอเป็นอะไร แน่นอนว่าเป็นมือที่สามที่ทำลายการแต่งงานคนอื่นโจวอวี้ชวนเม้มริมฝีปากบางเบา ๆ “เสี่ยวเวินซ่ง……”“ประธานโจว ฉันยังมีธุระ ขอตัวไปก่อน”เวินซ่งมองความลังเลของเขาออก จึงทำการตัดสินใจแทนเขาเสียงไม่ดังและไม่เบาเกินไป เพียงพอที่คนรอบ ๆ จะได้ยินอย่างชัดเจน“ประธานโจว” คำเดียว ก็ขีดเส้นกั้นได้อย่างชัดเจนผู้จัดการฝ่ายขายเป็นคนหัวหมอ จึงพูดกับโจวอวี้ชวนด้วยรอยยิ้ม “ประธานโจว ที่แท้คุณผู้หญิงท่านนี้เป็นเพื่อนของคุณนี่เอง คุณก็ไม่บอกก่อน ไม่งั้นยังไงผมก็ต้องลดราคาให้อยู่แล้ว”“……อืม” วินาทีที่โจวอวี้ชวนตอบรับ เวินซ่งก็ปิดประตูรถอย่างแรง แล้วขับออกไปทันทีเสิ่นหมิงถังยิ้มหวานแล้วคล้องแขนของโจวอวี้ชวน “ฉันเกือบคิดว่า คุณลืมว่ารับรถเสร็จ ต้องไปเดิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status