Share

บทที่ 6

Author: เล่อเอิน
ตอนที่เวินซ่งเดินออกจากบ้านใหญ่ตระกูลซางนั้น เธอเดินกะเผลกหนักยิ่งกว่าเก่า

สามปีนี้ ขอแค่โจวอวี้ชวนไม่ได้กลับมากับเธอ

มักจะต้องเจอเข้ากับกฎตระกูลแบบนี้

เธอไม่แปลกใจเลย

เพียงแต่โจวอวี้ชวนไม่รู้ก็เท่านั้น ว่าทุกครั้งที่เขาต้องไปพิสูจน์ใจจริงกับคนในใจ มักจะผลักเธอไปสู่ทางตันเสมอ

ตระกูลซางไม่ต้องการคุณหนูไร้ประโยชน์ที่คว้าหัวใจของสามีตนไว้ไม่อยู่

พ่อบ้านถอนหายใจออกมา “คุณไม่เห็นต้องพูดออกไปตามตรงขนาดนั้นเลย ต่อให้ปรุงแต่งเหตุผลที่ร้ายแรงสักหน่อยขึ้นมา หลอกคุณหญิงใหญ่ไปบ้าง มันก็คงไม่ต้องเจ็บถึงขนาดนี้”

“ลุงซาง”

บนดวงหน้าเล็ก ๆ สะอาดสะอ้านของเวินซ่งนั้นดูว่าง่ายจนมองความคับแค้นใจไม่ออกเลยสักนิด “คุณย่ามีบุญคุณเลี้ยงดูอบรมฉันมา ฉันจะหลอกใครก็ได้ แต่ไม่มีทางหลอกผู้อาวุโสอย่างคุณย่า”

“เฮ้อ”

ความอ่อนโยนในดวงตาลุงซางเจือไปด้วยความจริงใจสองส่วน เขามองมือที่ถูกตีจนแดงของเธอ “อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลยครับ รีบไปตรวจดูอาการที่โรงพยาบาลเถอะ”

“ค่ะ”

เวินซ่งพยักหน้า

ไม่ได้พูดอะไรอีก

ลุงเฉินถูกพวกเขาไล่กลับไปนานแล้ว

ทุกย่างก้าวของเวินซ่ง ล้วนเจ็บปวดอย่างรุนแรง

ตั้งแต่เด็กเธอก็สงสัยมาตลอด ว่าคุณหญิงใหญ่อาจจะเป็นหรงหมัวหมัวในเรื่ององค์หญิงกำมะลอกลับชาติมาเกิด

คุณนายใหญ่ตระกูลโจวอย่างมากก็แค่สั่งให้เสิ่นหมิงถังไปนั่งคุกเข่าอยู่ที่สวน

แต่ว่าตระกูลซางนั้น จะให้คนรับใช้พาเธอไปคุกเข่าอยู่บนทางที่ปูไปด้วยหิน

สภาพอากาศแบบนี้ ตอนที่เพิ่งจะคุกเข่าลงไปนั้น มันยังสบายอยู่

มีหิมะ

มันก็แค่หนาวเหน็บ แต่ไม่ได้เจ็บอะไรขนาดนั้น

ทว่าพอคุกเข่าไปนานเข้า หิมะเย็น ๆ ละลาย หลงเหลือเพียงก้อนหินแหลมตะปุ่มตะป่ำ

รอจนกระทั่งเธอหนาวเย็นไปทั้งตัว ก็จะมีคนรับใช้ถือไม้บรรทัดมาตีฝ่ามือของเธอ

ตีตอนนี่แหละ เจ็บที่สุด

จนผิวแตกเนื้อปลิ้น

บ้านใหญ่ตระกูลซางตั้งอยู่ริมถนนที่โอบล้อมภูเขา ทั้งใกล้ภูเขาและข้างแม่น้ำ ทิวทัศน์ดีเป็นอย่างยิ่ง

กว่าเวินซ่งจะเรียกรถ ที่บวกค่ารถเพิ่มเข้าไปแล้วได้นั้น ไม่ใช่ง่าย ๆ เพราะมันอยู่ในช่วงกลางดึก ทั้งหิมะก็ยังตก คนขับรถยอมรอเธออยู่ที่ตีนเขาเท่านั้น

ทุกย่างก้าวที่เดินลงเขา เวินซ่งก้าวเดินอย่างยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งที่อากาศหนาวเหน็บ ทว่าแผ่นหลังของเธอกลับชื้นไปด้วยเหงื่อ

ห่างไกลออกไป วันที่หิมะตกนั้นท้องถนนมักลื่น เบนท์ลีย์สีดำคันยาวเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ

คนขับรถมีสายตาเฉียบไว เร่งความเร็วตามไปทันที “คุณชาย ข้างหน้าเหมือนจะเป็นคุณหนูนะครับ”

ที่เบาะด้านหลัง ชายหนุ่มกำลังนั่งพิงอยู่บนเก้าอี้ ยกขาเรียวยาวขึ้นมานั่งไขว่ห้างด้วยท่าทางสบาย ๆ ใบหน้าที่ซ่อนอยู่ในแสงราตรีอันสลัวนั้นดูสุขุมนุ่มลึกและได้สมมาตร ทั้งดุดันทั้งเคร่งขรึมเย็นชา

กลิ่นอายของผู้มีอำนาจเข้มรุนแรง

เมื่อได้ยินแบบนั้น เขาไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นไปมอง ทำเพียงแค่ตอบรับด้วยน้ำเสียงราบเรียบเป็นอย่างยิ่งว่า “อืม”

ทำให้จับอารมณ์ไม่ถูก

ผู้ช่วยที่นั่งอยู่ในที่นั่งข้างคนขับทนมองต่อไปไม่ไหว “คุณชาย เราจะไม่สนใจคุณหนูใช่ไหมครับ?”

“ดูนายอยากจะสนใจมากนะ?”

น้ำเสียงทุ้มนุ่มลึกของชายหนุ่มดังขึ้น มันแฝงไปด้วยความเย็นเยียบ

ผู้ช่วยไม่กล้าเปล่งเสียงอีก

ครู่ใหญ่ ในที่สุดชายหนุ่มก็มองผ่านกระจกกั้นลมออกไป เหลือบมองเงาหลังที่ซวนเซจวนจะล้ม หรี่ตาลงเล็กน้อย “ตรวจสอบดูหน่อย ว่าคืนนี้โจวอวี้ชวนไปทำอะไร?”

“ตรวจสอบแล้วครับ ตอนนี้มีความเป็นไปได้สูงว่ากำลังแนบชิดลึกซึ้งอยู่กับเสิ่นหมิงถัง”

ผู้ช่วยที่นั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับตอบกลับอย่างรวดเร็ว แล้วจึงเตือนอีกครั้งว่า “คุณชาย คุณหนูน่าจะต้องไปคุกเข่าอยู่บนพื้นหิมะหลายชั่วโมงอีกแล้วแน่ เกรงว่าใกล้จะทนไม่ไหวแล้วละครับ”

เขาเพิ่งพูดจบ เงาของคนด้านหน้าพลันล้มลงไปกองที่พื้น

“คุณชาย ผมว่า...”

“ปัง!”

ได้ยินเสียงประตูรถปิดดังลั่น ชายหนุ่มลงจากรถไปด้วยใบหน้าเย็นชา รวบตัวหญิงสาวที่อยู่บนพื้นหิมะเข้ามาในเสื้อคลุมกำมะหยี่แล้วอุ้มขึ้นมา

ผู้ช่วยรีบลงไปเปิดประตูรถด้านหลังให้ พลางเอ่ยถาม “พวกเราจะไปโรงพยาบาลหรือว่าที่ไหนดีครับ?”

“กลับไปที่คอนโดก่อน”

“ครับ”

“ให้หมอไปรอที่นั่นด้วย”

“ติดต่อเรียบร้อยครับ”

คนขับรถปรับอุณหภูมิแอร์ให้สูงขึ้นอย่างรู้หน้าที่

ภายในรถสว่างโร่ ยามที่ชายหนุ่มเลื่อนสายตามองไปที่หัวเข่าของเธอ ดวงตาดำขลับพลันประกายแววเย็นเยียบ น้ำเสียงยังคงไร้อารมณ์เช่นปกติ “ลงมือเหี้ยมไม่เบา”

ผู้ช่วยพึมพำ “มีตอนไหนบ้างที่คุณหญิงใหญ่ลงมือเบา ๆ ล่ะครับ...”

“อีกสองวันซางเยี่ยนสิงก็จะกลับประเทศแล้วใช่ไหม?”

“ครับ”

“นายไปจัดการที”

“ให้จัดการถึงขั้นไหนครับ?”

ชายหนุ่มเหลือบมองไปอย่างไม่ยี่หระ ดวงตาแฝงไปด้วยความร้ายกาจ “นายว่ายังไงล่ะ?”

...

ตอนที่เวินซ่งได้สติ ร่างกายก็อ่อนปวกเปียกเสียจนไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรง

แต่ไม่ได้รู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวเท่าไรนัก

ฝ่ามือกับหัวเข่าที่เดิมทีควรจะบวมปวดร้าวจนยากจะทานทนนั้น ไม่ได้เจ็บอะไรขนาดนั้นแล้ว แค่เห็นแล้วดูน่าตกใจเท่านั้น

ก้นกบที่เจ็บอยู่สองวัน ตอนนี้ก็สบายขึ้นไม่น้อย

ทว่า เธอไม่ควรมาอยู่ที่นี่ต่างหากถึงจะถูก

เวินซ่งขมวดคิ้ว ขณะที่กำลังจะโทรศัพท์ไปถามต้นสายปลายเหตุกับรีเซฟชั่นของโรงแรมให้เข้าใจนั้น ทว่าในระหว่างที่เคลื่อนไหวนั้น พลันได้กลิ่นหอมไม้กฤษณาจาง ๆ เข้า

เธอตื่นตระหนกไม่น้อย

หลังได้สติ เธอก็เม้มปากเหยียดตรง คว้าครีมสั่งทำพิเศษที่คุ้นเคยหนึ่งหลอดบนหัวเตียง แล้วเช็คเอ้าท์จากไป

เมื่อกลับถึงบ้าน บรรยากาศก็สงบเป็นพิเศษ

ราวกับว่า ความผิดปกติเมื่อสองวันก่อน มันเป็นเพราะคนอย่างเธอที่ปรากฏตัวเกินมาหนึ่งคน

“เสี่ยวซ่ง เธอกลับมาแล้ว”

เสิ่นหมิงถังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พลางทักทายเธอ

เห็นได้ชัดว่า เมื่อคืนนี้โจวอวี้ชวนง้อจนเธอพอใจแล้ว

เวินซ่งไม่มีอารมณ์มาสนใจเธอ

เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ยินยอมให้จบลงทั้งแบบนี้ ก้าวมาข้างหน้าสองสามก้าว ทัดผมไว้หลังหู เผยให้เห็นต่างหูเพชรสีชมพูที่สวยจนลานตา

เป็นเพชรสีชมพูหายากน่าสะสม

เป็นชุดเครื่องเพชรที่เวินซ่งชมชอบมานานแล้วชุดหนึ่ง

ไม่ใช่ง่าย ๆ เลยกว่ามันจะมาตกทอดมาถึงงานประมูลอีกครั้ง โจวอวี้ชวนเคยรับปากไว้ว่าจะประมูลมาให้เธอ

เขาว่า เธอเข้ากับสีชมพูอ่อน ๆ แบบนี้เป็นที่สุด พอใส่แล้วต้องสวยมากแน่นอน

ตอนที่เขามอบมันให้เสิ่นหมิงถัง ก็น่าจะพูดแบบนี้เหมือนกัน

ความท้อแท้บนดวงหน้าของเธอไม่มีมีทางเล็ดลอดไปจากเสิ่นหมิงถัง เจ้าตัวเชิดดวงแก้มสวยประณีตขึ้น “ฉันเคยได้ยินจากคุณย่าว่า เธอรู้เรื่องเครื่องเพชรอยู่บ้าง รีบมาดูให้ฉันหน่อยสิ ว่าต่างหูคู่นี้เป็นยังไง? อาชวนน่ะประมูลมาในราคาห้าสิบกว่าล้านเชียวนะ คุ้มดีไหม?”

“ก็พอได้”

เวินซ่งกดความรู้สึกเย้ยหยันนั้นไว้ในใจ แย้มยิ้มเรียบเฉย “ใช่แล้ว ฉันกับเขายังเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ ต่างหูราคาห้าสิบกว่าล้านคู่นี้นับเป็นทรัพย์สินร่วมกันระหว่างสามีภรรยากึ่งหนึ่งนะ”

“ถ้าฉันจำไม่ผิด ราคาเต็ม ๆ น่าจะหกสิบล้าน”.

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด ๆ “พี่สะใภ้ใหญ่ คืนนี้ก่อนเที่ยงคืนต้องโอนเงินสามสิบล้านเข้ามาที่บัญชีนี้ด้วยนะ ไม่งั้นฉันจะไปเอาเงินก้อนนี้จากคุณย่า”

เพิ่งพูดจบ ข้อความไลน์ก็เด้งเข้ามาในโทรศัพท์ของเสิ่นหมิงถัง

เมื่อเธอมอง มันเป็นเลขบัญชีธนาคาร

เธอโมโหจนดวงตาสองข้างดำทมิฬ!

นังคนชั้นต่ำ!!

เอาแต่ยกยัยแก่นั่นมาขู่เธอได้ทั้งวัน!

สามสิบล้าน!

ตระกูลโจวยังไม่ได้แยกครอบครัว หลังโจวหวายอันจากไป เธอคิดคำนวณหมดทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เพิ่งจะได้มรดกมาแค่ยี่สิบห้าล้านเอง!!

เวินซ่งคร้านจะสนใจว่าเธอมีหรือไม่

หลังอาบน้ำอาบท่า เธอก็เริ่มทำการตัด ปล่อย จาก อย่างเอ้อระเหย

จัดการของที่ไม่จำเป็นทิ้งไปล่วงหน้า

พอถึงคราวที่ต้องจากไป จะได้ลดขั้นตอนไปได้มาก

เวินซ่งคว้าถังขยะมา ทิ้งของลงไปดังตึงตัง แต่ไหนแต่ไรมาเธอก็ไม่ใช่คนที่ละล้าละลังตัดสินใจไม่ได้

กระทั่งชุดแต่งงานที่ใช้ตอนแต่งงาน เธอก็เก็บเรียบร้อย แล้วให้ป้าอู๋ช่วยยกลงไปทิ้งที่ชั้นล่าง

โจวอวี้ชวนกลับมาก็เจอเข้าพอดี

เขากวาดสายตามองชุดแต่งงานที่ถูกห่อไว้อย่างลวก ๆ ในใจว้าวุ่นขึ้นมาไม่น้อย “เอาชุดแต่งงานออกมาทำไมน่ะ?”

เวินซ่งไม่หลบเลี่ยงสายตา น้ำเสียงก็สงบนิ่ง “ทิ้งน่ะสิ”

ของที่มันไม่มีประโยชน์ ก็สมควรทิ้งไปให้หมด
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 64

    “ถึงตอนนั้น พวกเราคงต้องไปที่ซางซื่อกรุ๊ปบ่อย ๆ…”เขาพูดพลางชำเลืองมองสีหน้าของเวินซ่งอย่างลังเลกลุ่มบริษัทซางซื่อกรุ๊ปมีอาคารอยู่สองหลัง ห้องทดลองและสถาบันวิจัยล้วนอยู่ในอาคารนั้น แม้โอกาสที่จะเจอซางอวี้นั้นมีไม่มากนัก แต่ก็ยังมีอยู่ดีเวินซ่งเผยรอยยิ้มจนใจ “ทำไมพี่ถึงเหมือนอาจารย์จัง?”เธอก็วางตะเกียบลง แล้วเอ่ยอย่างจริงจัง “พี่สวินมู่ พี่วางใจได้ ฉันแยกแยะออก จะไม่ให้เรื่องส่วนตัวมากระทบงานเด็ดขาด…”ชั้นสองของร้านอาหาร ประตูห้องส่วนตัวบานหนึ่งเปิดอยู่ ชายหนุ่มหน้าประตูเอามือใหญ่ที่มีกระดูกนิ้วชัดเจนเท้าลงบนราวบันได ดวงตาดำมืดคู่นั้นจ้องเขม็งไปยังชายหญิงคู่หนึ่งที่อยู่ชั้นล่างหญิงสาวที่ต่อหน้าเขาจะทำสีหน้าห่างเหิน เวลานี้กลับดูเชื่อฟังเรียบร้อย ไม่รู้ว่ารับปากอะไรกับผู้ชายอีกคน“ซางอวี้ นายมองอะไรอยู่น่ะ? ไม่เข้ามาสักที”ชายหนุ่มคนหนึ่งที่อายุไล่เลี่ยกันเดินออกมา ชำเลืองมองลงไปตามสายตาของเขา แล้วพูดโดยไม่สำรวม “อ๋อ ดูน้องสาวนายอยู่นี่เอง”“...ไปให้พ้น”ซางอวี้เหล่มองเขา พลางล้วงกระเป๋ากางเกงเดินลงชั้นล่างอย่างไม่ใส่ใจ “ที่เหลือพวกนายก็คุยกันต่อเถอะ ฉันไปก่อนนะ”“ได้ งั้น

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 63

    เธอไม่ได้คิดจะให้โจวอวี้ชวนมารับเธอหลังเลิกงานเลยแต่พอเห็นภาพนี้ ก็อดรู้สึกเยาะเย้ยเล็ก ๆ ไม่ได้โจวอวี้ชวนค่อย ๆ ผลักผู้หญิงในอ้อมแขนออก ขณะที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เพื่อนร่วมงานสายตาดีสองสามคนก็หัวเราะล้อเลียนขึ้นมา“พี่หมิงถัง นี่แฟนพี่ใช่ไหม?”ตอนกลางวันทำงาน เสิ่นหมิงถังก็แอบอวดทั้งโดยตรงและโดยอ้อมอยู่ตลอดทั้งวันแล้วว่ามีแฟนที่สูงใหญ่ หล่อเหลา อ่อนโยน แถมยังรวยมากรถสปอร์ตคันนั้นเมื่อเช้า ก็เป็นแฟนหนุ่มที่มอบให้ตอนนี้ดูแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะไม่ได้โป้ปดเลยสักนิด เป็นหนุ่มสูงหล่อรวยอย่างแท้จริงเอ่อไม่สิ ไม่ใช่ระดับเดียวกับหนุ่มสูงหล่อรวยทั่วไป บุคลิกก็ดีมากเช่นกัน ทั้งสง่างามและสูงส่งเสิ่นหมิงถังปัดผมไปไว้หลังใบหูด้วยความเคอะเขินเล็กน้อย ก่อนมองไปยังโจวอวี้ชวน “อวี้ชวน พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงานของฉันเอง”โจวอวี้ชวนขมวดคิ้วแน่น พอเงยหน้ามองไปอีกที เวินซ่งก็เดินออกไปไกลแล้ว!เขาไม่ได้ตอบอะไร ทุกคนคิดว่าเขามีนิสัยเก็บตัวอีกอย่าง เจ้าพ่อที่ร่ำรวยขนาดนี้ ไม่ชอบคุยกับคนอื่นก็เป็นเรื่องปกติพอเสิ่นหมิงถังกับโจวอวี้ชวนขึ้นรถไปแล้ว เพื่อนร่วมงานหญิงหลายคนก็อิจฉาแทบบ้า“

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 62

    “ก็ได้”เจียงสวินมู่เห็นว่าเธอยังอารมณ์ดีอยู่ ก็อดยิ้มไม่ได้พลางกล่าวว่า “พวกเธอบอกว่า แทบไม่เคยเห็นหมอเวินทำหน้าไม่พอใจใส่ใคร เลยสงสัยกันว่า เธอกับเสิ่นหมิงถังมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า”เวินซ่งไม่ได้พูดอะไร จ้องมองของในมือเขา “เอามาให้ฉันเหรอคะ?”“อืม”เจียงสวินมู่วางปิ่นโตเก็บอุณหภูมิลงตรงหน้าเธอ “เป็ดอบเบียร์ ปลาผัดมะเขือยาว แล้วก็ผักกาดขาวผัดน้ำส้มสายชู อาจารย์หญิงกำชับให้เอามาให้เธอโดยเฉพาะเลย”พอเวินซ่งเปิดฝาออก กลิ่นหอมก็ลอยมาแตะจมูก จึงลองชิมมะเขือยาวอย่างอดใจไม่ไหว “พี่ไปบ้านอาจารย์มาเหรอ?”“ใช่ ไปคุยกับอาจารย์เรื่องโปรเจกต์นั้นของซางซื่อกรุ๊ป”เจียงสวินมู่นั่งลงตรงข้ามเธอ “รสชาติเป็นไงบ้าง?”“ต้องดีมากอยู่แล้ว”เวินซ่งยิ้ม “แล้วพี่กินหรือยังคะ?”“ฉัน…”เสียงเจียงสวินมู่ชะงักไปนิดหนึ่ง สายตาอันอ่อนโยนหยุดอยู่ที่แก้มเธอ เจือด้วยรอยยิ้ม “ยังเลย”“งั้นก็กินด้วยกันสิคะ”เวินซ่งหยิบตะเกียบใช้แล้วทิ้งจากลิ้นชักส่งให้เขา พลางถามต่อ “โปรเจกต์ของซางซื่อกรุ๊ปเป็นยังไงเหรอ? เมื่อไหร่จะเริ่มล่ะ?”“กินข้าวก่อนเถอะ”เจียงสวินมู่ชำเลืองมองเวลา “เรื่องโปรเจกต์ ไว้เธอเลิกงานคืนนี้

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 61

    ป้าอู๋ที่ยังนอนหลับฝันอยู่ ก็ถูกเสียงเคาะประตูอันเร่งรีบปลุกให้ตื่นพอเปิดประตูออก ก็เผชิญหน้ากับสีหน้าไม่สู้ดีของโจวอวี้ชวน ในใจพลันเกิดสัญญาณเตือนภัยขึ้นอย่างไม่รู้ตัว “คุณชาย เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”สายตาโจวอวี้ชวนแฝงความคมกริบ “คุณนายรองกลับมาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่?”เสิ่นหมิงถังที่อยู่ข้าง ๆ ใช้ปลายเล็บอันแหลมคมจิกลงไปในฝ่ามือนังชั้นต่ำนั่นย้ายออกไปแล้วเธอยากลำบากแทบตายกว่าจะได้เป็นคุณนายหญิงอยู่ไม่กี่วัน ไม่อยากเห็นเงาของเวินซ่งในบ้านอีกต่อไป!“คุณนายรอง เธอกลับมาทุกวันนะคะ…”ป้าอู๋ทำท่าเหมือนสงสัย แต่ตอบสนองได้เร็วมาก “เอ๊ะ ไม่ใช่สิ คืนนี้ไม่กลับ คุณนายใหญ่จะอายุครบแปดสิบแล้ว คุณนายเลยเรียกเธอกลับไปที่บ้านใหญ่ให้ช่วยออกความเห็นน่ะเจ้าค่ะ”แววตาของเสิ่นหมิงถังฉายความประหลาดใจ ในใจก็เต็มไปด้วยคำถามทำไมป้าอู๋ต้องช่วยปิดบังเรื่องที่เวินซ่งย้ายออกไปด้วยหรือว่า ป้าอู๋เองก็คิดว่าเมื่อเทียบกับเวินซ่งแล้ว เธอเหมาะที่จะเป็นคุณนายหญิงของบ้านนี้มากกว่าเมื่อคิดถึงตรงนี้ เธออดไม่ได้ที่จะแย้มมุมปากขึ้น พลางมองไปยังโจวอวี้ชวน “เอาน่ะ เวินซ่งแค่ไม่กลับมาคืนเดียวเอง คุณจะระแวงไปทำไมกัน

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 60 

    เวินซ่งกลับไม่ได้คิดมากขนาดนั้น “งั้นก็ต้องวิจัยสำเร็จให้ได้”“ด้วยความสามารถของเธอ ฉันเชื่อว่าจะสำเร็จแน่”อวี๋เฉิงอั้นรู้จักความสามารถของเธอกว่าใครหลังจากวางสายโทรศัพท์ เขาก็อดมองไปทางภรรยาที่อยู่ข้าง ๆ อย่างซาบซึ้งใจไม่ได้ “ไม่คิดเลยนะว่า เธอจะเข้าใจนิสัยของเด็กคนนี้ดีกว่าฉันอีก”“นั่นสิ”ซุนจิ้งหลันยิ้ม “เด็กคนนี้น่ะ โครงการอื่น ๆ เก้าในสิบเธอก็ปฏิเสธหมด แต่เรื่องที่สามารถรักษาโรคช่วยชีวิตคนได้ จะไม่ลังเลเลย”-เมืองไห่ห่างจากเมืองจิ่งไม่ถึงสองร้อยกิโลเมตร ตอนเช้าวันถัดไป โจวอวี้ชวนมีประชุมผู้ถือหุ้น ก็เลยไม่ได้ค้างคืนที่เมืองไห่เขากับเสิ่นหมิงถังสองคนกลับเมืองจิ่งในคืนนั้นเลยเมืองจิ่งในช่วงเวลานี้ ยังคงมีรถสัญจรไม่ขาดสาย911 รุ่นลิมิเต็ดสีแดงคำรามผ่านไป เมื่อจอดอยู่ที่สี่แยกไฟแดง ก็ดึงดูดให้คนบนถนนไม่น้อยหยิบมือถือถ่ายรูปความหยิ่งทะนงของเสิ่นหมิงถังถูกเติมเต็มอย่างเต็มที่“อวี้ชวน วันนี้ฉันมีความสุขมาก ขอบคุณนะ…”เธอเอียงหน้าหันมองทางที่นั่งข้างคนขับ พบว่าชายหนุ่มดูเหมือนเหม่อลอยผ่านไปราว ๆ สองสามวินาที โจวอวี้ชวนถึงเพิ่งจะรู้สึกตัวแล้วหันมามองเธอ “เธอว่าอะไรนะ?

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 59

    ไม่ใช่แค่เสิ่นหมิงถังที่ตกใจเวินซ่งก็อึ้งเช่นกันเธอเงยหน้าขึ้น พยายามให้ตัวเองพูดอย่างนิ่งสงบที่สุด “นายจะอธิบายให้พวกเขาเข้าใจชัดเจนก่อน หรือไม่ก็ไปรับรถเป็นเพื่อนเสิ่นหมิงถังต่อ”เธอยอมรับที่เขานอกใจ แล้วก็ยอมเคลียร์แทนพวกเขาแต่ไม่ยอมรับความคลุมเครือถ้าก็ไปกับเสิ่นหมิงถังแบบนี้แล้ว ในสายตาคนนอก เสิ่นหมิงถังคือคุณนายโจวแล้วเธอเป็นอะไร แน่นอนว่าเป็นมือที่สามที่ทำลายการแต่งงานคนอื่นโจวอวี้ชวนเม้มริมฝีปากบางเบา ๆ “เสี่ยวเวินซ่ง……”“ประธานโจว ฉันยังมีธุระ ขอตัวไปก่อน”เวินซ่งมองความลังเลของเขาออก จึงทำการตัดสินใจแทนเขาเสียงไม่ดังและไม่เบาเกินไป เพียงพอที่คนรอบ ๆ จะได้ยินอย่างชัดเจน“ประธานโจว” คำเดียว ก็ขีดเส้นกั้นได้อย่างชัดเจนผู้จัดการฝ่ายขายเป็นคนหัวหมอ จึงพูดกับโจวอวี้ชวนด้วยรอยยิ้ม “ประธานโจว ที่แท้คุณผู้หญิงท่านนี้เป็นเพื่อนของคุณนี่เอง คุณก็ไม่บอกก่อน ไม่งั้นยังไงผมก็ต้องลดราคาให้อยู่แล้ว”“……อืม” วินาทีที่โจวอวี้ชวนตอบรับ เวินซ่งก็ปิดประตูรถอย่างแรง แล้วขับออกไปทันทีเสิ่นหมิงถังยิ้มหวานแล้วคล้องแขนของโจวอวี้ชวน “ฉันเกือบคิดว่า คุณลืมว่ารับรถเสร็จ ต้องไปเดิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status