Share

บทที่ 4

Author: เล่อเอิน
เสิ่นหมิงถังสีหน้าแข็งค้างไปทันที

เห็นรถคุ้นตาที่ด้านนอกแล้ว ในใจก็ลนลานขึ้นมา

ดวงตาคู่สวยของเธอจ้องถลึงใส่เวินซ่ง “เธอจงใจ? เธอจงใจใช่ไหม?!”

“พี่สะใภ้ใหญ่กำลังพูดอะไรกัน ทั้งที่เมื่อกี้นี้ฉันกำลังเตรียมของขวัญให้อวี้ชวนอยู่ข้างบนแท้ ๆ ทำไมเธอยังจะมาโทษฉันอีกล่ะ...”

ดวงตาทั้งสองข้างของเวินซ่งปกคลุมไปด้วยไอน้ำ

เห็นได้ชัดว่าได้รับความไม่เป็นธรรมไม่น้อย

ทันทีที่ลุงฉินผู้เป็นพ่อบ้านของบ้านใหญ่เข้ามา ก็ได้เห็นเหตุการณ์ฉากนี้เข้า

แล้วพอมองไปยังวิลล่าที่เละเทะจนไม่น่ามอง เขาก็ขมวดคิ้ว มองไปทางเสิ่นหมิงถัง “สะใภ้ใหญ่ คุณหญิงใหญ่ให้ผมมาแจ้งกับคุณว่า ในเมื่ออบรมสั่งสอนบุตรไม่ถูกวิธี คุณหญิงใหญ่ที่เป็นผู้อาวุโสมีแต่ต้องอบรมคุณก่อน”

เสิ่นหมิงถังเผยอปาก “อะไรนะ?”

ลุงฉินผายมือเป็นสัญลักษณ์ว่า ‘เชิญ’ “เชิญคุณไปที่สวน แล้วคุกเข่าสามชั่วโมง”

“ลุงฉิน...”

เวินซ่งเพิ่งเปล่งเสียง ลุงฉินก็ขัดคำพูดของเธอเอาไว้เสียก่อนอย่างเข้าใจแจ่มแจ้ง ด้วยการกล่าวน้ำเสียงอ่อนโยน “สะใภ้รอง คุณไม่ต้องพูดขอร้องอะไรทั้งนั้น ในพิธีศพของคุณชายใหญ่เมื่อหลายวันก่อน คุณเองก็ลำบากไม่น้อย ดูแลร่างกายเยอะ ๆ ดีกว่าครับ”

“...”

เปล่าเลย

เธอแค่อยากถามว่าสุขภาพร่างกายของคุณหญิงใหญ่ดีขึ้นมาบ้างหรือยัง

เธอจะได้เลือกเวลา เข้าไปพูดเรื่องหย่าสักหน่อย

โจวซื่อกรุ๊ปนั้น แม้ว่าโจวอวี้ชวนจะเป็นคนดูแลอยู่ ทว่าเรื่องในบ้านของตระกูลโจวนั้น ยังคงต้องทำตามสิ่งที่ทางบ้านใหญ่พูดเสมอมา

ต่อให้เสิ่นหมิงถังจะไม่เต็มใจอย่างไร ก็มีแต่ต้องไปคุกเข่าอยู่ที่สวนเท่านั้น

ในวันที่อากาศหนาวและพื้นเป็นหิมะ

คิด ๆ แล้วก็สมน้ำหน้า

เวินซ่งไม่เหลือบแลมองเธออีกแม้แต่น้อย เตรียมขึ้นไปชั้นบน

ป้าอู๋อดรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมาไม่ได้ “คุณนายคะ แล้วรูปวาดรูปนั้นจะทำยังไงดี?”

“ไม่ต้องสนใจ อีกเดี๋ยวก็มีคนมาเก็บไปเอง ไว้ซ่อมเรียบร้อยแล้วก็น่าจะส่งกลับมา”

เวินซ่งตอบง่าย ๆ

แน่นอนว่าเธอไม่มีทางบอกคนอื่นหรอกว่า รูปที่แขวนอยู่ในบ้านรูปนี้เป็นของปลอม

รูปของจริงถูกเธอนำไปจัดแสดงไว้ที่แกลเลอรี่ของเพื่อนแล้ว

สภาพสมบูรณ์ไร้รอยขีดข่วน

ถึงอย่างไร ความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก่อนตายของคุณท่าน ก็คือการที่มีผู้คนมากมายได้เห็นผลงานภาพวาดของตนเอง

เอาไว้ในบ้านก็ออกจะน่าเสียดายเกินไป

“ยัยผู้หญิงนิสัยไม่ดี!”

เวินซ่งเพิ่งจะก้าวเดินขึ้นไปชั้นบน โจวสือคั่วก็เอ่ยปากด้วยความโกรธเกรี้ยวเสียแล้ว “ฉันโทรไปหาคุณอาเล็กแล้ว ไว้คุณอากลับมา เธอได้ตายแน่!”

“งั้นอาก็จะรอ”

“คุณอาจะต้องหย่ากับเธอแน่! ต่อไปเธอจะกลายเป็นแค่รองเท้าขาด ๆ ที่ไม่มีใครอยากได้!”

เวินซ่งหัวเราะ “เขาไม่ฟังเธอหรอก”

ระหว่างเขากับเสิ่นหมิงถังนั้น ยังต้องการตัวช่วยอำพรางอย่างเธออยู่

ทันทีที่หย่ากับเธอ คุณอาเล็กกับพี่สะใภ้ใหญ่ ชายโสดหญิงม่ายต้องอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน

ชื่อเสียงของเสิ่นหมิงถังได้พังป่นปี้แน่

โจวอวี้ชวนไม่มีทางยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

...

โจวอวี้ชวนกลับมาอย่างรวดเร็ว

เสิ่นหมิงถังคุกเข่ายังไม่ทันถึงยี่สิบนาที เขาก็โผล่มาแล้ว

เสื้อคลุมสีดำผ้าสักหลาดตลอดทั้งตัว ช่วยขับให้เขาดูร่างกายสูงใหญ่ บุคลิกก็ยิ่งดูใจเย็นและสง่า

ทันทีที่ลงจากรถ ก็แทบจะวิ่งเข้าไปถึงตัวของเสิ่นหมิงถัง อุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน แล้วสาวเท้ายาว ๆ ก้าวเขามาในบ้าน

วางเจ้าตัวลงบนโซฟา ตอนที่โจวอวี้ชวนทายาลงบนหัวเข่าที่ถูกความเย็นกัดจนแดงของเธอนั้น ไม่อาจปกปิดความเจ็บปวดในดวงตาได้เลย “เธอโง่หรือไง ให้เธอไปคุกเข่าก็ไปคุกเข่า”

“คุณย่าสั่งลงมาแล้ว ฉันจะไปทำอะไรได้”

เสิ่นหมิงถังดึงแขนเสื้อเขาไว้อย่างเบามือ ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ น้ำเสียงก็สั่นเครือ “อาชวน คุณหย่ากับเธอได้ไหม? เธอน่ากลัวเกินไป...”

โจวอวี้ชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย “เธอหมายถึงเวินซ่ง?”

“ใช่”

เสิ่นหมิงถังกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อย “คุณรู้ไหมว่าทำไมคั่วคั่วถึงทำผลงานรูปนั้นของคุณปู่พัง ก็เพราะว่าเธอจงใจชักนำ”

“คุณแม่พูดถูก!”

โจวสือคั่วเบะปาก บนขนตาประดับไปด้วยหยาดน้ำตา “คุณอาเล็ก วันนี้คุณอาผู้หญิงจงใจทำให้ผมกลัวอีกแล้ว บอกว่าสัตว์ประหลาดที่จะกินแขนของผมตัวนั้น ซ่อนอยู่ในรูปนั่น ผมก็เลย...”

“ไม่มีทาง”

ครั้นโจวอวี้ชวนปฏิเสธจบ มือใหญ่ก็วางลงบนศีรษะเขาด้วยความเอ็นดู “คั่วคั่วฟังผิดไปหรือเปล่า? นิสัยของคุณอาผู้หญิงน่ะดีที่สุดในบ้านเราแล้ว เมื่อคืนคุณอาเขาก็บอกแล้วว่าไม่ได้โกรธคั่วคั่ว ไม่มีทางทำให้คั่วคั่วตกใจกลัวอีกแน่”

“อีกอย่าง ก่อนที่คุณท่านจะเสียก็รักคุณอาผู้หญิงที่สุด คุณอาเขาไม่มีทางเอาเรื่องรูปวาดของคุณท่านมาล้อเล่นหรอกนะ”

คำพูดนี้ คือกำลังพูดกับเสิ่นหมิงถัง

เสิ่นหมิงถังไม่อยากจะเชื่อ “นี่คุณกำลังบอกว่าฉันกับคั่วคั่วจงใจใส่ร้ายเธองั้นเหรอ?”

“โจวอวี้ชวน!”

“คุณเปลี่ยนไปมากเลยนะ!”

คำกล่าวโทษนี้ ทำให้ในใจของโจวอวี้ชวนโมโหขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ทว่าเมื่อเผชิญกับสายตาผิดหวังของเธอแล้ว โจวอวี้ชวนทำได้เพียงกดความเดือดดาลนั้นลงไป “หมิงถัง ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ฉันไม่เคยเปลี่ยนไปเลย”

เสิ่นหมิงถังจ้องเขา “คุณกล้าพูดไหมล่ะ ว่าคุณไม่รู้สึกหวั่นไหวกับเวินซ่งเลยแม้แต่เศษเสี้ยว คุณไม่เคยแตะต้องเธอเลยสักครั้ง?”

โจวอวี้ชวนเชื่อมั่นมาตลอด ว่าไม่มีอะไรให้ต้องรู้สึกละอายเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ

ทว่าเมื่อได้ยินคำถามนี้ เขาถึงกับตอบไม่ออก

แผ่นหลังของชายหนุ่มแข็งทื่อไปเล็กน้อย ขนตาปิดลงมา “ฉันไม่เคยแตะต้องเธอ”

เป็นเขาเองโจวอวี้ชวนคนนี้ ที่ทำไม่ดีกับเวินซ่ง

... “ฉันไม่เคยแตะต้องเธอ”

เวินซ่งมือหนึ่งจับหลังเอวไว้ มือหนึ่งถือกล่องของขวัญลงไปชั้นล่าง และได้ยินประโยคนี้เข้าพอดี

เป็นคำพูดที่ไม่อ้อมค้อมเลยสักนิด

เวินซ่งกระตุกมุมปากเย้ยหยัน ก้าวเท้าเดินเข้าไป “อวี้ชวน งานเลี้ยงครอบครัวตระกูลซางคืนพรุ่งนี้ คุณย่าให้ฉันมาถามคุณว่ามีเวลาว่างกลับไปหรือเปล่า”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลซางกับพ่อแม่ของเวินซ่งนั้นรู้จักกันมานาน

หลังจากที่พวกเขาตายไปด้วยอุบัติเหตุ เวินซ่งก็ได้คุณหญิงใหญ่ตระกูลซางรับไปดูแลที่ตระกูลซาง

ในสายตาของคนภายนอก เวินซ่งถือว่าเป็นคนตระกูลซางครึ่งหนึ่ง

หลังจากที่เธอแต่งงานมาอยู่ในตระกูลโจว ตระกูลซางและตระกูลโจวทั้งสองตระกูลก็ไปมาหาสู่ทางธุรกิจกันเสมอ และไม่เคยขาดช่วง

เมื่อได้ยินแบบนั้น บางทีอาจเป็นเพราะโจวอวี้ชวนเพิ่งพูดคำพูดน่าละอายใจออกไป จึงรับคำทันที “ได้ คืนพรุ่งนี้ฉันจะกลับมารับเธอ แล้วกลับไปด้วยกัน”

“อืม”

เวินซ่งหลุบตามองกล่องของขวัญเล็กน้อย แล้วมองสองแม่ลูกคู่นั้นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา จึงไม่ได้พูดอะไรอีกอย่างรู้จักกาลเทศะ

หมุนตัวแล้วกำลังจะเดินออกประตูไป

วันนี้ถงอู้ได้รับชัยชนะในการทำคดี เลยนัดเธอออกมาเดินช็อปปิ้ง

ได้ยินว่าเธอขากะเผลก จึงทำได้แค่เปลี่ยนไปกินข้าวเพียงอย่างเดียว

“เสี่ยวซ่ง”

โจวอวี้ชวนเรียกเธอไว้โดยไม่รู้ตัว “เธอถืออะไรมาน่ะ?”

เวินซ่งหันกลับไปมอง พลางโบกกล่องของขวัญในมือ “ของขวัญน่ะ”

“ของขวัญ? มีเพื่อนเธอที่เกิดวันนี้ด้วยเหรอ?”

“ของขวัญวันครบรอบแต่งงานปีที่สาม เตรียมไว้ให้นาย”

“เสี่ยวซ่ง ขอโทษนะ...”

“ไม่เป็นไร นายงานยุ่ง จะลืมก็เรื่องธรรมดา”

เวินซ่งยังคงเป็นเหมือนดังเช่นที่ผ่ามา จ้องมองเขาด้วยดวงตากระจ่างใส ถือโอกาสยื่นกล่องของขวัญไปให้ กล่าวด้วยน้ำเสียงว่าง่ายอ่อนหวาน “ถึงยังไงอีกครึ่งเดือนก็จะถึงวันเกิดนายแล้ว ถือเป็นของขวัญวันเกิดก็ได้”

“พี่อวี้ชวน สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้านะ!”

...แล้วก็ขอให้ฉัน สุขสัตว์วันหย่า
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 64

    “ถึงตอนนั้น พวกเราคงต้องไปที่ซางซื่อกรุ๊ปบ่อย ๆ…”เขาพูดพลางชำเลืองมองสีหน้าของเวินซ่งอย่างลังเลกลุ่มบริษัทซางซื่อกรุ๊ปมีอาคารอยู่สองหลัง ห้องทดลองและสถาบันวิจัยล้วนอยู่ในอาคารนั้น แม้โอกาสที่จะเจอซางอวี้นั้นมีไม่มากนัก แต่ก็ยังมีอยู่ดีเวินซ่งเผยรอยยิ้มจนใจ “ทำไมพี่ถึงเหมือนอาจารย์จัง?”เธอก็วางตะเกียบลง แล้วเอ่ยอย่างจริงจัง “พี่สวินมู่ พี่วางใจได้ ฉันแยกแยะออก จะไม่ให้เรื่องส่วนตัวมากระทบงานเด็ดขาด…”ชั้นสองของร้านอาหาร ประตูห้องส่วนตัวบานหนึ่งเปิดอยู่ ชายหนุ่มหน้าประตูเอามือใหญ่ที่มีกระดูกนิ้วชัดเจนเท้าลงบนราวบันได ดวงตาดำมืดคู่นั้นจ้องเขม็งไปยังชายหญิงคู่หนึ่งที่อยู่ชั้นล่างหญิงสาวที่ต่อหน้าเขาจะทำสีหน้าห่างเหิน เวลานี้กลับดูเชื่อฟังเรียบร้อย ไม่รู้ว่ารับปากอะไรกับผู้ชายอีกคน“ซางอวี้ นายมองอะไรอยู่น่ะ? ไม่เข้ามาสักที”ชายหนุ่มคนหนึ่งที่อายุไล่เลี่ยกันเดินออกมา ชำเลืองมองลงไปตามสายตาของเขา แล้วพูดโดยไม่สำรวม “อ๋อ ดูน้องสาวนายอยู่นี่เอง”“...ไปให้พ้น”ซางอวี้เหล่มองเขา พลางล้วงกระเป๋ากางเกงเดินลงชั้นล่างอย่างไม่ใส่ใจ “ที่เหลือพวกนายก็คุยกันต่อเถอะ ฉันไปก่อนนะ”“ได้ งั้น

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 63

    เธอไม่ได้คิดจะให้โจวอวี้ชวนมารับเธอหลังเลิกงานเลยแต่พอเห็นภาพนี้ ก็อดรู้สึกเยาะเย้ยเล็ก ๆ ไม่ได้โจวอวี้ชวนค่อย ๆ ผลักผู้หญิงในอ้อมแขนออก ขณะที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เพื่อนร่วมงานสายตาดีสองสามคนก็หัวเราะล้อเลียนขึ้นมา“พี่หมิงถัง นี่แฟนพี่ใช่ไหม?”ตอนกลางวันทำงาน เสิ่นหมิงถังก็แอบอวดทั้งโดยตรงและโดยอ้อมอยู่ตลอดทั้งวันแล้วว่ามีแฟนที่สูงใหญ่ หล่อเหลา อ่อนโยน แถมยังรวยมากรถสปอร์ตคันนั้นเมื่อเช้า ก็เป็นแฟนหนุ่มที่มอบให้ตอนนี้ดูแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะไม่ได้โป้ปดเลยสักนิด เป็นหนุ่มสูงหล่อรวยอย่างแท้จริงเอ่อไม่สิ ไม่ใช่ระดับเดียวกับหนุ่มสูงหล่อรวยทั่วไป บุคลิกก็ดีมากเช่นกัน ทั้งสง่างามและสูงส่งเสิ่นหมิงถังปัดผมไปไว้หลังใบหูด้วยความเคอะเขินเล็กน้อย ก่อนมองไปยังโจวอวี้ชวน “อวี้ชวน พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงานของฉันเอง”โจวอวี้ชวนขมวดคิ้วแน่น พอเงยหน้ามองไปอีกที เวินซ่งก็เดินออกไปไกลแล้ว!เขาไม่ได้ตอบอะไร ทุกคนคิดว่าเขามีนิสัยเก็บตัวอีกอย่าง เจ้าพ่อที่ร่ำรวยขนาดนี้ ไม่ชอบคุยกับคนอื่นก็เป็นเรื่องปกติพอเสิ่นหมิงถังกับโจวอวี้ชวนขึ้นรถไปแล้ว เพื่อนร่วมงานหญิงหลายคนก็อิจฉาแทบบ้า“

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 62

    “ก็ได้”เจียงสวินมู่เห็นว่าเธอยังอารมณ์ดีอยู่ ก็อดยิ้มไม่ได้พลางกล่าวว่า “พวกเธอบอกว่า แทบไม่เคยเห็นหมอเวินทำหน้าไม่พอใจใส่ใคร เลยสงสัยกันว่า เธอกับเสิ่นหมิงถังมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า”เวินซ่งไม่ได้พูดอะไร จ้องมองของในมือเขา “เอามาให้ฉันเหรอคะ?”“อืม”เจียงสวินมู่วางปิ่นโตเก็บอุณหภูมิลงตรงหน้าเธอ “เป็ดอบเบียร์ ปลาผัดมะเขือยาว แล้วก็ผักกาดขาวผัดน้ำส้มสายชู อาจารย์หญิงกำชับให้เอามาให้เธอโดยเฉพาะเลย”พอเวินซ่งเปิดฝาออก กลิ่นหอมก็ลอยมาแตะจมูก จึงลองชิมมะเขือยาวอย่างอดใจไม่ไหว “พี่ไปบ้านอาจารย์มาเหรอ?”“ใช่ ไปคุยกับอาจารย์เรื่องโปรเจกต์นั้นของซางซื่อกรุ๊ป”เจียงสวินมู่นั่งลงตรงข้ามเธอ “รสชาติเป็นไงบ้าง?”“ต้องดีมากอยู่แล้ว”เวินซ่งยิ้ม “แล้วพี่กินหรือยังคะ?”“ฉัน…”เสียงเจียงสวินมู่ชะงักไปนิดหนึ่ง สายตาอันอ่อนโยนหยุดอยู่ที่แก้มเธอ เจือด้วยรอยยิ้ม “ยังเลย”“งั้นก็กินด้วยกันสิคะ”เวินซ่งหยิบตะเกียบใช้แล้วทิ้งจากลิ้นชักส่งให้เขา พลางถามต่อ “โปรเจกต์ของซางซื่อกรุ๊ปเป็นยังไงเหรอ? เมื่อไหร่จะเริ่มล่ะ?”“กินข้าวก่อนเถอะ”เจียงสวินมู่ชำเลืองมองเวลา “เรื่องโปรเจกต์ ไว้เธอเลิกงานคืนนี้

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 61

    ป้าอู๋ที่ยังนอนหลับฝันอยู่ ก็ถูกเสียงเคาะประตูอันเร่งรีบปลุกให้ตื่นพอเปิดประตูออก ก็เผชิญหน้ากับสีหน้าไม่สู้ดีของโจวอวี้ชวน ในใจพลันเกิดสัญญาณเตือนภัยขึ้นอย่างไม่รู้ตัว “คุณชาย เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”สายตาโจวอวี้ชวนแฝงความคมกริบ “คุณนายรองกลับมาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่?”เสิ่นหมิงถังที่อยู่ข้าง ๆ ใช้ปลายเล็บอันแหลมคมจิกลงไปในฝ่ามือนังชั้นต่ำนั่นย้ายออกไปแล้วเธอยากลำบากแทบตายกว่าจะได้เป็นคุณนายหญิงอยู่ไม่กี่วัน ไม่อยากเห็นเงาของเวินซ่งในบ้านอีกต่อไป!“คุณนายรอง เธอกลับมาทุกวันนะคะ…”ป้าอู๋ทำท่าเหมือนสงสัย แต่ตอบสนองได้เร็วมาก “เอ๊ะ ไม่ใช่สิ คืนนี้ไม่กลับ คุณนายใหญ่จะอายุครบแปดสิบแล้ว คุณนายเลยเรียกเธอกลับไปที่บ้านใหญ่ให้ช่วยออกความเห็นน่ะเจ้าค่ะ”แววตาของเสิ่นหมิงถังฉายความประหลาดใจ ในใจก็เต็มไปด้วยคำถามทำไมป้าอู๋ต้องช่วยปิดบังเรื่องที่เวินซ่งย้ายออกไปด้วยหรือว่า ป้าอู๋เองก็คิดว่าเมื่อเทียบกับเวินซ่งแล้ว เธอเหมาะที่จะเป็นคุณนายหญิงของบ้านนี้มากกว่าเมื่อคิดถึงตรงนี้ เธออดไม่ได้ที่จะแย้มมุมปากขึ้น พลางมองไปยังโจวอวี้ชวน “เอาน่ะ เวินซ่งแค่ไม่กลับมาคืนเดียวเอง คุณจะระแวงไปทำไมกัน

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 60 

    เวินซ่งกลับไม่ได้คิดมากขนาดนั้น “งั้นก็ต้องวิจัยสำเร็จให้ได้”“ด้วยความสามารถของเธอ ฉันเชื่อว่าจะสำเร็จแน่”อวี๋เฉิงอั้นรู้จักความสามารถของเธอกว่าใครหลังจากวางสายโทรศัพท์ เขาก็อดมองไปทางภรรยาที่อยู่ข้าง ๆ อย่างซาบซึ้งใจไม่ได้ “ไม่คิดเลยนะว่า เธอจะเข้าใจนิสัยของเด็กคนนี้ดีกว่าฉันอีก”“นั่นสิ”ซุนจิ้งหลันยิ้ม “เด็กคนนี้น่ะ โครงการอื่น ๆ เก้าในสิบเธอก็ปฏิเสธหมด แต่เรื่องที่สามารถรักษาโรคช่วยชีวิตคนได้ จะไม่ลังเลเลย”-เมืองไห่ห่างจากเมืองจิ่งไม่ถึงสองร้อยกิโลเมตร ตอนเช้าวันถัดไป โจวอวี้ชวนมีประชุมผู้ถือหุ้น ก็เลยไม่ได้ค้างคืนที่เมืองไห่เขากับเสิ่นหมิงถังสองคนกลับเมืองจิ่งในคืนนั้นเลยเมืองจิ่งในช่วงเวลานี้ ยังคงมีรถสัญจรไม่ขาดสาย911 รุ่นลิมิเต็ดสีแดงคำรามผ่านไป เมื่อจอดอยู่ที่สี่แยกไฟแดง ก็ดึงดูดให้คนบนถนนไม่น้อยหยิบมือถือถ่ายรูปความหยิ่งทะนงของเสิ่นหมิงถังถูกเติมเต็มอย่างเต็มที่“อวี้ชวน วันนี้ฉันมีความสุขมาก ขอบคุณนะ…”เธอเอียงหน้าหันมองทางที่นั่งข้างคนขับ พบว่าชายหนุ่มดูเหมือนเหม่อลอยผ่านไปราว ๆ สองสามวินาที โจวอวี้ชวนถึงเพิ่งจะรู้สึกตัวแล้วหันมามองเธอ “เธอว่าอะไรนะ?

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 59

    ไม่ใช่แค่เสิ่นหมิงถังที่ตกใจเวินซ่งก็อึ้งเช่นกันเธอเงยหน้าขึ้น พยายามให้ตัวเองพูดอย่างนิ่งสงบที่สุด “นายจะอธิบายให้พวกเขาเข้าใจชัดเจนก่อน หรือไม่ก็ไปรับรถเป็นเพื่อนเสิ่นหมิงถังต่อ”เธอยอมรับที่เขานอกใจ แล้วก็ยอมเคลียร์แทนพวกเขาแต่ไม่ยอมรับความคลุมเครือถ้าก็ไปกับเสิ่นหมิงถังแบบนี้แล้ว ในสายตาคนนอก เสิ่นหมิงถังคือคุณนายโจวแล้วเธอเป็นอะไร แน่นอนว่าเป็นมือที่สามที่ทำลายการแต่งงานคนอื่นโจวอวี้ชวนเม้มริมฝีปากบางเบา ๆ “เสี่ยวเวินซ่ง……”“ประธานโจว ฉันยังมีธุระ ขอตัวไปก่อน”เวินซ่งมองความลังเลของเขาออก จึงทำการตัดสินใจแทนเขาเสียงไม่ดังและไม่เบาเกินไป เพียงพอที่คนรอบ ๆ จะได้ยินอย่างชัดเจน“ประธานโจว” คำเดียว ก็ขีดเส้นกั้นได้อย่างชัดเจนผู้จัดการฝ่ายขายเป็นคนหัวหมอ จึงพูดกับโจวอวี้ชวนด้วยรอยยิ้ม “ประธานโจว ที่แท้คุณผู้หญิงท่านนี้เป็นเพื่อนของคุณนี่เอง คุณก็ไม่บอกก่อน ไม่งั้นยังไงผมก็ต้องลดราคาให้อยู่แล้ว”“……อืม” วินาทีที่โจวอวี้ชวนตอบรับ เวินซ่งก็ปิดประตูรถอย่างแรง แล้วขับออกไปทันทีเสิ่นหมิงถังยิ้มหวานแล้วคล้องแขนของโจวอวี้ชวน “ฉันเกือบคิดว่า คุณลืมว่ารับรถเสร็จ ต้องไปเดิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status