“พี่…คุยกับเพื่อนเหรอครับ?” เมื่อเห็นว่าบรรยากาศภายในห้องนั้นนอกจากเสียงฝนที่ยังกระหน่ำลงมาก็มีแต่ความเงียบกัญชาจึงเงยหน้าขึ้นไปถามเรย์
“อืม แล้วนายมีเพื่อนไหมที่โรงเรียน” “มีครับ ชื่อสมุทรกับมิกกี้” “คนที่ชื่อมิกกี้เป็นสาวประเภทสองใช่ไหม?” “ครับ” “มันชอบนายไหม?” “มันเป็นเพื่อนผมจะมาชอบผมได้ไง” บอกด้วยน้ำเสียงที่อยากจะหัวเราะให้กับคำถามของเรย์ ถึงแม้มิกกี้จะเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายผู้หญิงแต่เขาก็ไม่คิดจะชอบและตัวมิกกี้ก็เคยมาพูดกับเขาว่า ‘กูไม่อยากแย่งมึงจากคุณเรย์’ ดังนั้นเขาคิดว่ามิกกี้น่าจะไม่ชอบเขาหรอก “ยัยนั่นมีแค่ส่วนล่างที่เป็นผู้ชาย” เพราะตัวเธอเองก็เคยเจอมิกกี้ ซึ่งเป็นผู้ชายที่สวย สวยโดยที่ยังไม่ได้ศัลยกรรมเลยสักอย่าง ร่างกายภายนอกก็เหมือนผู้หญิงมีแค่เจ้าสิ่งที่อยู่ท่อนล่างเพียงอย่างเดียวที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้ชายน่ะ “มันบอกว่าไม่อยากแย่งผมมาจากพี่ มันคงไม่ชอบผมหรอก” “อืม หิวไหม?” “ไม่ครับ…” จ้อกกก~ก็เป็นแบบนี้ซะทุกครั้ง จะโกหกว่าไม่หิวทีไรท้องเจ้ากรรมก็ดันไม่ให้ความร่วมมือด้วยซะงั้น กัญชายกมือขึ้นมาเกาหัวเก้อเขินเล็กน้อย ส่วนเรย์เธอยกยิ้มมุมปากออกมาก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยังโซนครัวที่สามารถมองเห็นได้จากการนั่งอยู่บนโซฟา “กินสุกี้ไหม?” เมื่อค้นหาวัตถุดิบในตู้เย็นได้แล้วเรย์ก็ชะโงกหน้าไปถามกัญชาซึ่งเขาก็พยักหน้ารับพร้อมกับขยับไปนั่งบนโซฟาตัวเล็กเพื่อจะได้มองเรย์ทำสุกี้ให้ทาน ร่างเพรียวบางก็หยิบจับวัตถุดิบที่ต้องการออกมาวางบนโต๊ะ จากนั้นก็ยืนจ้องพวกมันเหล่านั้นด้วยหัวคิ้วที่ขมวดเป็นปม ขาเรียวเดินไปหยิบมีดกับเขียงมาวางแล้วกอดอกมองมันสลับกับผัก แล้วอยู่ๆ ก็เดินกลับมานั่งบนโซฟาตัวเดิมแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนหาเบอร์ของเลขา “เอ่อ มีธุระด่วนเหรอครับ?” กัญชาเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเรย์กำลังยกโทรศัพท์โทรหาใครสักคน “ฉันทำสุกี้ไม่เป็น” “แล้วพี่กำลังโทรหา…” “พี่ฝ้ายเลขาฉัน” “พี่รีบวางไปเลยครับ เดี๋ยวผมทำเองได้ครับ” ว่าพลางรีบเดินไปหยิบโทรศัพท์ของเรย์เพื่อกดวางสาย เรย์จึงเม้มปากตัวเองเล็กน้อยแล้วเดินนำไปที่โซนครัวซึ่งกัญชาก็เดินตามไป “ฉันช่วย” “ถ้างั้นพี่หั่นผักก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะล้างพวกหมูกุ้งหมึกเอง” “ฉันควรล้างมันก่อนหั่นหรือหั่นมันแล้วค่อยล้าง?” มือบางจับมีดขึ้นมาถือแต่ก็ยังคงไม่มั่นใจว่าควรทำอะไรก่อนจึงหันไปถามกัญชาที่กำลังเอาพวกเนื้อสัตว์ไปแช่น้ำในอ่างล้างจานเนื่องจากก่อนหน้านี้มันถูกแช่แข็ง “แล้วแต่พี่จะสะดวกครั้บ” “อืม นายทำในส่วนของนายไปเถอะ” จากนั้นเรย์ก็นำผักกาดขาวกับผักบุ้ง เห็ดเข็มทอง แครอท และข้าวโพออ่อนไปล้างจากนั้นก็นำมาหั่นแล้วแช่พวกมันรวมกันในกะละมังที่มีน้ำอยู่เต็มอีกที “ให้ฉันช่วยอะไรอีกมั้ย?” “ไม่มีแล้วครับ ปกติพี่ไม่ได้ทำอาหารกินเองเหรอผมเห็นในตู้เย็นมีวัตถุดิบเยอะนึกว่าพี่ทำเองซะอีก” “ฉันทำกินเอง แต่มันไม่อร่อยแต่ฉันกินได้และคิดว่ากินได้คนเดียวเลยไม่กล้าที่จะลงมือทำสุกี้เพราะกลัวว่านายจะกินไม่ได้” เรย์บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ แล้วเดินกลับไปนั่งลงบนโซฟาตามเดิม ส่วนกัญชาที่พอได้ยินคำตอบของเรย์ก็ไม่รู้จะตอบอะไรกลับได้แต่ยิ้มให้ @เล่ามาดิ ผับ (เล่าที่มาจากเหล้า เล่ามาดิ=เอาเหล้ามาดิ๊) ภายในห้องทำงานที่เงียบสงัดของเจ้าของผับใบหน้าคมเข้มจดจ้องไปยังสมุดบัญชีตรงหน้าแล้วตรวจสอบมันอย่างละเอียดถี่ถ้วน คร่อกก! ฟี้! เขาพยายามไม่สนใจเสียงนกเสียงที่ดังขึ้นมารบกวนสมาธิของเขา คร่อกกก! “เมจิ!!” จนมันดังเกินจะทนฟังได้เขาจึงหันไปเรียกเจ้าของเสียงกรนทำเอาเจ้าตัวเล็กที่นอนอยู่บนโซฟาถึงกับสะดุ้งตื่นและดีดตัวขึ้นนั่งอย่างทันที ‘เมจิ’ อายุ18ปี นักเรียนมัธยมปลายปีสุดท้ายน้องสาวของเรย์ ‘ภูเขา’ อายุ25ปี เพื่อนหนุ่มของเรย์และเป็นว่าที่คู่หมั้นของเมจิและเพิ่งเปลี่ยนจากว่าที่มาเป็นคู่หมั้นเมื่อหนึ่งเดือนก่อนเพราะได้ทำการจัดงานหมั้นกันเรียบร้อยแล้ว เมจิเป็นเด็กผู้หญิงที่ค่อนข้างจะดื้อ ชอบการพูดและการนอนเป็นที่สุด หัวถึงหมอนถึงที่นอนหรือถึงพื้นเมื่อไหร่เธอก็เข้าสู่ห้วงนิทราได้เมื่อนั้น นิสัยของเธอก็จะออกไปตามอายุเด็กๆ ของเธอ ซึ่งความเป็นเด็กของเธอก็ทำให้ภูเขาไม่ค่อยชอบ ไม่ใช่ไม่ชอบความเป็นเด็กแต่ไม่ชอบที่เธอเด็กกว่าเพราะเขาชอบคนรุ่นเดียวกันหรือคนที่อายุมากกว่า แต่เพราะพ่อกับแม่เขาเป็นเพื่อนพ่อแม่ของเมจิเขาจึงต้องยอมหมั้น “หนูตกใจนะ ทำไมเรียกซะดังเลย” เสียงหวานบอกพลางยกมือขึ้นมาขยี้ตาตัวเองแล้วยกขาลงมาวางบนพื้น ก่อนจะลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงแล้วเดินไปนั่งตรงข้ามกับภูเขาที่มองเธอด้วยสีหน้าเข้มๆ “เธอกรนดังมากเลยนะ” “เพราะไหมคะ?” “แล้วเธอคิดว่าในโลกนี้มีคนกรนเพราะไหม?” “คงไม่มี” ตอบด้วยรอยยิ้มหวานๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรมาดื่มให้ตัวเองได้ตื่นตัวสักนิด ทว่าด้านในตู้เย็นของภูเขากลับมีเพียงเบียร์ เหล้าและโซดา ปึง! เธอจึงปิดตู้เย็นแล้วเดินกลับมานั่งกอดอกตัวเองบนโซฟา “จะกินอะไร” “อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เหล้าเบียร์” “โซดา?” “หนูไม่ตลก พี่ดื่มทุกวันเหรอ?” “เปล่า” “แล้วทำไมแช่ไว้เต็มตู้แบบนี้?” แช่ไว้อย่างกับว่าในห้องทำงานเป็นร้านขายเหล้าขายเบียร์ซะงั้นแหละ “เพื่อนมันชอบขึ้นมากินชั้นบนเลยขี้เกียจเดินขึ้นเดินลงไปหยิบ” “อ่อ” “เธอชอบกินอะไร?” “น้ำส้ม น้ำอัดลม โยเกิร์ต ถามนี่จะซื้อมาใส่ไว้ให้ใช่ไหมคะ?” เอียงคอถามพร้อมกับฉีกยิ้มหวานให้เขาที่ละสายตาจากงานแล้วเงยขึ้นมามองหน้าเธอ เขาไม่ตอบเพียงแต่พยักหน้าให้ก่อนจะเก็บสมุดบัญชีกับงานที่ทำเสร็จแล้วนั้นใส่ลิ้นชักโต๊ะ “เธอไม่คิดจะไปเที่ยวไหนบ้างเหรอ?” ภูเขาเดินมานั่งตรงข้ามเมจิพร้อมกับเอ่ยถามเธอ เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดของนักเรียนวัยมัธยม เด็กคนอื่นหากไม่ทำการบ้านก็คงออกเที่ยว แต่แม่สาวน้อยคนนี้ตื่นมาก็สิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว จากนั้นก็ขอตามติดเขาไปทำงานเสียทุกที่จนมาที่สุดท้ายก็คือผับเขานี่แหละกลับมาจากบ้านของข้าวแกง เรย์ก็ขอแยกกับกัญชาไปที่ร้านนัตตี้ ส่วนกัญชานั้นคุณรินนะให้ไปเป็นเพื่อนเดินห้าง“มาเล่าให้ฟังหน่อย ทั้งเรื่องพี่ชายมึงกับลาร์สเลย” ทันทีที่เรย์หย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ เพื่อนสาวอย่างนัตตี้ก็รีบเดินมานั่งตรงข้ามพร้อมถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อนทันทีเรย์จึงเล่าเรื่องราวพวกนั้นให้นัตตี้ฟังแบบคร่าวๆ“แล้วแบบนี้ฟ้ามันจะไม่โกรธมึงใช่ไหม?”“ถ้าจะโกรธกูเพราะกูมีส่วนทำให้ผัวมันถูกจับก็เรื่องของมันสิ ลาร์สมันไม่ได้แค่เข้ามายุ่งกับกัญหรือเพิ่งเข้ามายุ่งกับกู มันสองแม่ลูกสร้างปัญหาให้กูมาเยอะมึงก็รู้” แต่ทุกครั้งเธอไม่ได้สนใจและพยายามหลีกเลี่ยงสองแม่ลูกนั่นมาตลอดเพราะไม่อยากมีปัญหาแต่ครั้งนี้รู้สึกว่ามันเกินไป หากปล่อยไว้สองคนนั้นก็ต้องวางแผนเล่นงานเธออีก และอาจจะเล่นงานในเรื่องที่ใหญ่กว่าเรื่องพวกนี้ขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ได้“กูเข้าใจมึง แล้วตอนนี้ลาร์สกับแม่มันโดนตำรวจจับไปแล้วเหรอ?”“ยัง ขอสู้คดีมั้ง”“สู้ไปก็เสียเงินเปล่าๆ”“ช่างเถอะ แล้วนี่ได้คุยกับฟ้าบ้างไหม?” ถามพร้อมกับหยิบใบเมนูมาสั่งอาหารกับพนักงานที่เธอกวักมือเรียกมาให้รับออเดอร์“คุยเมื่อคืน มันแค่ทักมาบอ
หลายวันต่อมา ณ บ้านข้าวแกง“อีข้าวแกง! น้องมึงอยู่ไหนห้ะ!!” เสียงของภาคภูมิโวยวายเข้ามาในบ้านพร้อมกับร่างสูงท้วมของเจ้าตัว ทุกคนที่นั่งอยู่ภายในบ้านที่นอกจากข้าวแกงและคุณกัญญาก็ยังมีเรย์ กัญชาและคุณรินนะอีกด้วย สายตาหลายคู่กำลังจับจ้องไปยังเขาเป็นตาเดียว“อยู่กันพร้อมหน้ากันก็ดีแล้ว ไอ้กัญไอ้ลูกอกตัญญู!!”“พ่อครับ…”“มีอะไร?” เรย์กดหน้าตักของกัญชาที่กำลังจะลุกขึ้นไว้แล้วเธอก็หันไปถามภาคภูมิแทน“มีอะไรเหรอ! พวกมึงไงที่ทำให้ธุรกิจริต้าล้มละลาย!!”“แต่ถ้าจำไม่ผิดคุณริต้าของคุณโกงเงินจากบริษัทสามีเก่ามาเกือบร้อยล้านเลยนะ”“มึงอย่ามารู้ดี!!”“รอบที่แล้วคุณคงเจ็บตัวไม่พอสินะ” ร่างบางหยัดกายลุกขึ้นยืนพร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำลง เรย์ชายตามองคนตรงหน้าก่อนจะแสยะยิ้มมุมปาก“มึงอย่าคิดว่าแค่นั้นแล้วกูจะกลัวมึงนะ”“ทางทีดีคุณควรจะออกมาจากสองแม่ลูกนั่นก่อนที่ตัวคุณจะลงแหไปด้วย”“ใช่ พ่อควรจะออกมาจากสองแม่ลูกนั่นนะ”“มึงไม่ต้องมาเสือกกับชีวิตกูอีข้าวแกง!!” จากที่ว่าเรย์เมื่อข้าวแกงพูดบ้างภาคภูมิก็หันไปชี้นิ้วใส่ข้าวแกงเรย์กับคุณรินนะในตอนนี้ไม่ต่างกันคือพยายามกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองไว้ให้ได้ม
“ทำไปเพื่ออะไรครับ?”“อยากรู้ก็ถามสิ” เรย์พูดพร้อมยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาลาร์สที่ไม่กี่นามีหมอนั่นก็รับสาย เรย์จึงเปิดเสียงแล้ววางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะเพื่อให้ทุกคนได้ฟัง(ว้าว! ครั้งแรกเลยมั้งที่คุณเรย์โทรหาผม ไม่ทราบว่ามีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ?)“นายเป็นคนตั้งกล้องถ่ายคลิปไว้เหรอ?”(จะไปรู้ได้ไงล่ะครับ?)“นายก็รู้นะลาร์สว่าถ้าฉันเอาจริงกับนายเมื่อไหร่ ครอบครัวนายจะไม่ได้อยู่กันอย่างมีความสุขแน่ ฉันเห็นแก่หน้าพ่อกัญอยู่นะ”(อ่า ฉันทำเองล่ะทำไม ที่จริงฉันวางแผนไว้ให้คนที่ไปนอนในห้องนั้นเป็นแฟนเธอ แต่ก็นะ…พี่ชายเธอเสือกเข้ามาเองนี่นา ไหนๆ ฉันก็ตั้งกล้องไว้แล้วเลยส่งไปน้องข้าวคนสวยอยู่สักหน่อย แค่นั้นเอง) ลาร์สพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนเป็นผู้ชนะกับเกมส์นี้“มึงต้องการอะไรกันแน่!!” เป็นเรียวที่ตะโกนถามลาร์สไปด้วยน้ำเสียงที่ดังลั่นห้อง(อ้าว คุณเรียวก็อยู่ด้วย…ฉันก็แค่ต้องการเอาชนะน้องสาวนายแค่นั้นเอง)“แล้วมาดูกันว่าใครจะชนะ!” เรย์ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเช่นเดิม จากนั้นก็กดวางสายไปแล้วหันไปมองเรียวที่กำลังใส่เสื้อผ้าของตัวเองอยู่“ฉันรู้ว่าเธอทำอาชีพนี้และคงไม่รู้ว่าเขามีแฟนแล้ว และฉันไ
“คุณคะ..” วีร่าเอื้อมมือไปแตะแขนของเรียวแล้วเอ่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ไม่เพียงแค่นั้นยังขยับใบหน้าเข้าไปหาชายหนุ่มข้างกายจนตัวแทบติดกันและเมื่อเรียวหันมามองเธอก็ขยับใบหน้าขึ้นไปประกบปากเขา“ทำอะไรของเธอ!!” เรียวรีบผลักตัวของวีร่าออกแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ“ฉัน ฉันต้องการให้คุณช่วยฉัน ช่วยฉันหน่อยได้ไหม?” เสียงแหบพร่าบอกพลางนั่งบิดตัวไปมาเมื่อภายในตัวเธอตอนนี้มันร้อนลุ่มไปหมด เธอมีความต้องการในเรื่องอย่าว่าเป็นอย่างมาก มากจนแทบจะหักห้ามตัวไว้ไม่อยู่เริ่มที่จะล้วงมือเข้าไปด้านในเสื้อของเรียวที่ก็นั่งหน้าแดงก่ำไม่ต่างจากเธอ“อืม ปวดหัวจางเลย อย่าเสียงดังกันด้ายม้าย~” กัญชาที่นอนอยู่บนโซฟาเอ่บอกด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาแต่ยานคล้อย เปลือกตาบางนั้นปิดสนิทไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยสักนิด“นะคะ คุณช่วยฉันหน่อยนะ ฉันมะ ไม่ไหวแล้ว” วีร่าพูดแล้วก็ขยับใบหน้าไปบดจูบปากเรียวอีกครั้ง และครั้งนี้เขาไม่ได้ผลักออกแถมยังจูบตอบเธอกลับไปอีก ฝ่ามือหนาล้วงเข้าไปใต้กระโปรงเดรสของวีร่าแล้วขยี้ลงบนกลีบเนื้อผ่านกางเกงชั้นในของหล่อน“ไปในห้องไหมคะ?” เมื่อผล่ะจูบออกแล้ววีร่าก็เอ่ยถามเรียว เขาไม่ตอบเพียงแต่ช้
“แม่งคนเยอะฉิบหายรอกูอยู่ตรงนี้นะ” มิกกี้บ่นก่อนจะหันไปบอกกัญชาแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ กัญชาจึงขยับมายืนรอด้านหน้าห้องน้ำเพื่อจะได้ไม่รบกวนคนอื่นที่ต้องการเข้าห้องน้ำจริงๆ“ไง ไม่ได้เจอกันหลายวันเลยนะ”“ลาร์ส…” กัญชาเอ่ยเรียกคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาเมื่อลาร์สกำลังเดินตรงมาทางเขา“ใช่ ฉันเอง”“มีอะไรกับผมหรือเปล่า?”“มีสิ อยากชวนนายไปนั่งด้วยสักหน่อย” ไม่เพียงแต่พูดลาร์สยังจับแขนของกัญชาให้เดินตามเขาออกไปจากห้องน้ำด้วย“พี่จะพาผมไปไหน!?” กัญชาสะบัดแขนออกจากมือของลาร์สแล้วหยุดเดินทำให้ลาร์สหันมามองเขาด้วยสายตาเรียบนิ่งแล้วเอื้อมมือมาจับแขนของกัญชาอีกครั้ง“แค่ให้ไปเป็นเพื่อนนั่งดื่ม” แล้วก็ลากมือของกัญชาพาขึ้นยังไปชั้นสองของผับซึ่งมีห้องสำหรับแขกวีไอพีที่ต้องการสนุกสนานเป็นการส่วนตัว ภายในห้องขนาดกว้างมีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งดื่ม และมีห้องนอนกับน้ำในตัวด้วย กัญชามัวแต่ยืนสำรวจห้องจนไม่ได้สนใจว่าเขากำลังถูกลาร์สดึงเข้ามาในนี้“ชอบไหมแบบนี้”“พูดอะไรของพี่!?”“อืม ฉันแค่อยากทำความรู้จักกับน้องชายของฉัน” “ผมไม่อยากทำความรู้จักกับพี่” กัญชาตะโกนใส่หน้าของลาร์สแล้วตั้งท่าจะเดินออกจากห
@บ้านคุณเคนจิ“สวัสดีครับคุณแม่รินนะ” เสียงทุ้มของเรียวเอ่ยทักทายคุณรินนะทันทีที่หล่อนก้าวเข้ามาในตัวบ้านที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ หล่อนพยักหน้าให้เบาๆ ก่อนจะปรายตาไปมองหญิงสาวที่นั่งข้างเรียว“คนนี้เหรอแฟนนาย” พร้อมเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม ข้าวแกงจึงยกมือขึ้นมาไหว้โดยที่ยังไม่รู้ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นใคร คุณรินนะรับไหว้แล้วก็เดินไปนั่งตรงข้ามกับข้าวแกง“ใช่ครับ สวยไหม?”“น้อยกว่าฉัน”“อ่า หลงตัวเองชะมัด” เรียวหันไปว่าคุณรินนะอย่างไม่จริงจังนัก“มาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ?” คุณเอมิที่กำลังเดินถือถ้วยขนมหวานออกมาเอ่ยถามพร้อมวางจานลงบนโต๊ะตรงหน้าของข้าวแกง ส่วนตัวเธอก็เดินไปนั่งข้างสามี“เพิ่งมา แวะไปหาเรย์มาก่อนเห็นเรย์บอกว่าเรียวพาลูกสะใภ้มาที่นี่เลยแวะมาทำความรู้จักสักหน่อย”“อ่อ นั่นแม่ของข้าวนะ” คุณเอมิตอบรับพร้อมชี้นิ้วไปยังคุณกัญญาที่กำลังเดินออกมาจากทางครัว หล่อนจึงยิ้มหวานให้คุณรินนะแล้วเดินมานั่งข้างลูกสาวคนสวยที่กำลังตักขนามหวานที่เธอกับคุณเอมิเข้าไปช่วยกันทำมาอย่างบัวลอย“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันรินนะแม่ของเรย์แฟนลูกชายคุณ”“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” คุณกัญญาตอบกลับด้วยรอยยิ้มแล้วม