Home / รักโบราณ / เล่ห์ปีศาจ / ตอนที่ 5 ต่อปากต่อคำ

Share

ตอนที่ 5 ต่อปากต่อคำ

Author: JIeC
last update Last Updated: 2025-02-28 19:30:00

ตอนแรกเสียนเปาคิดว่างานเลี้ยงที่อู่หางพูดถึงจะเป็นดั่งเช่นที่นางได้ยินมาจากพี่สาวปีศาจตอนยังเด็ก ซึ่งทุกอย่างถูกประดับตกแต่งอย่างหรูหรา ทว่าผิดคาดไปนิด เมื่อมาถึงสถานที่จัดงานเลี้ยงนางกลับเห็นเป็นเพียงแค่งานเลี้ยงรอบกองไฟธรรมดาเท่านั้น เหล่าชายฉกรรจ์ต่างพากันนั่งร่ำสุรา ดูจากสีหน้าของพวกเขาที่แดงเพราะฤทธิ์สุราก็รู้ว่างานเลี้ยงเริ่มมานานพอสมควร ชายฉกรรจ์เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดวาบหวิวเดินเข้ามา สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องอยู่ที่ตัวนางไม่ห่าง พลางนึกถึงค่ำคืนอันเร่าร้อนที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน สายตาเหล่านั้นทำให้เสียนเปาน้อยรู้สึกรำคาญเล็กน้อย ฉับพลันสองหูก็ได้ยินเสียงหัวเราะเสียงดังของบุรุษดังมาจากภายในกระโจมใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่ที่นางยืนอยู่ สายลมพัดกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งมาปะทะจมูกจนสาวน้อยต้องหันหน้าหนี จู่ ๆ นางก็ถูกผลักให้เดินเข้าไปข้างในกระโจมนั้นโดยไม่บอกไม่กล่าว

พอมีสาวงามปรากฏตัวขึ้นภายในกระโจม สายตาหลายคู่ก็เพ่งมายังตัวนาง ส่วนมากคงจับจ้องอยู่ที่เนินอกอวบอิ่มซึ่งโผล่พ้นเศษผ้าเสียมากกว่า แม้จะถูกมองมาหลายต่อหลายครั้งเสียนเปาก็อดประหม่าไม่ได้เพราะครานี้จำนวนคงช่างมากเกินไป มือน้อยรีบดึงกระโปรงบางที่แหวกกว้างเกือบจะเห็นโหนกขาวเข้าไว้ด้วยกัน วินาทีนั้นเองที่ดวงตาคู่งามสบเข้ากับดวงตาของบุรุษผู้หนึ่งที่มองมาด้วยความเย้ยหยันเจือแววขบขันอยู่นิดหน่อย ราวกับเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเรื่องสนุกที่เขาจะพลาดไม่ได้

หวังเหว่ยกระตุกยิ้มขึ้นเมื่อสบตากับนาง หลังจากนั้นเขาจึงทำทีเป็นไม่สนใจโดยการแกล้งเมินแล้วปล่อยให้หญิงสาวยืนอยู่ท่ามกลางสายตาหื่นกระหายของบรรดาลูกน้องตน

ฉับพลันก็มีชายผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น "พี่ใหญ่ไม่น่าให้นางใส่เสื้อผ้าเช่นนี้เลย"

"จริงด้วย ข้าอยากเห็นนางเปลือยกายเสียมากกว่า"เมื่อมีคนหนึ่งเริ่มเปิดปาก ชายฉกรรจ์คนอื่นก็เริ่มพูดจาแทะโลมร่างบางอย่างเปิดเผย

หวังเหว่ยได้ยินก็เพียงกระตุกยิ้มทว่าไม่ได้เอ่ยสิ่งใดตอบกลับ เมื่อไม่ได้รับอนุญาตคนอื่นก็ทำเพียงพูดจาแทะโลมและมองนางด้วยตาเปล่า แต่ไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปกระชากเสื้อที่ปกปิดเรือนกายน้อยชิ้นนั้นออกให้พ้นสายตา เพราะยังมีความเกรงใจต่อบุรุษได้ขึ้นชื่อว่าหัวหน้าตนอยู่

เสียนเปายืนฟังพวกผู้ชายพูดจาแทะโลมตนอย่างหน้าตาเฉย คนพวกนี้วัน ๆ มีแต่เรื่องอย่างว่า มิน่าถึงเป็นได้แค่โจรไร้ประโยชน์ ในจังหวะที่นางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยกลับเห็นหวังเหว่ยกวักมือเรียกนาง ร่างบางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจแต่นางก็เดินฝ่าฝูงชนเข้าไปตรงหน้าอีกฝ่ายโดยไม่หวั่นเกรง

หวังเหว่ยกวาดสายตามองร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้งเงียบ ๆ  ผิวขาวกระจ่างเกือบจะทำเอาใจของเขาหวั่นไหว วินาทีนั้นเองที่ชายหนุ่มเหลือบไปเห็นมือขาวบางกำชายกระโปรงที่แหวกกว้างเข้าไว้ด้วยกันเพื่อปกปิดส่วนสงวนมากที่สุดเอาไว้ คิ้วหนาเลิกขึ้นอย่างสงสัย แต่เสียนเปากลับรับรู้ได้ถึงความกวนประสาท

"จะปิดทำไม ไม่ใช่ว่าปกติเจ้าชอบโชว์หรือ" พอชายหนุ่มพูดจบก็สมทบด้วยเสียงหัวเราะยียวน จนดรุณีน้อยรู้สึกหนังตากระตุกขึ้นมา นางทำเพียงยิ้มรับแต่กลับไม่ตอบคำถาม กระนั้นอีกฝ่ายก็ยังไม่หยุดที่จะกลั่นแกล้งนางอยู่ดี

"คนพวกนี้ก็เคยเห็นเจ้าเปลือยกันหมดแล้วทั้งนั้น เปิด ๆ ให้พวกเขาเห็นอีกสักครั้งไม่ดีหรือ"

แววตาของหญิงสาวทอประกายขึ้นมาเล็กน้อย ในหัวเกิดความคิดประหลาดขึ้น นางรีบเยื่อย่างเข้าไปใกล้บุรุษตรงหน้าก่อนจะย้ายสะโพกกลมลงไปนั่งบนตักของอีกฝ่าย สองแขนโอบรอบลำคอแกร่งพลางเอ่ยกระซิบข้างใบหูของหวังเหว่ยด้วยเสียงหวานฉ่ำ "พวกเขาเห็นข้า แล้วท่านอย่างเห็นบ้างหรือไม่"

น้ำเสียงทรงเสน่ห์พร้อมแววตาออดอ้อนที่มองมาราวกับลูกแมวน้อยนั้นทำให้หวังเหว่ยสะท้านไปครู่หนึ่ง ต่อมาหัวคิ้วขอชายหนุ่มก็ขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจ "ออกไป"

"ไม่"

ครั้นเห็นว่าอีกฝ่ายปฏิเสธโดยไม่หยุดคิด ดวงตาของหวังเหว่ยก็หรี่เล็กลงอย่างอันตราย แต่คนตัวน้อยหาได้สะทกสะท้านไม่ ชายหนุ่มจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด เขาใช้มือดันไหล่ของดรุณีออกให้ห่าง ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยินยอมเริ่มใช้สองแขนโอบรอบคอเขาแน่นจนอกอวบอิ่มเสียดสีกับแผงอกกำยำ หวังเหว่ยได้แต่ขบกรามแน่นอย่างเดือดดาลกับความดื้อด้านของหญิงผู้นี้ เสียงที่เปล่งออกมาในลำคอเยือกเย็นจนลูกน้องของเขาที่นั่งอยู่ได้ยินเริ่มตัวสั่น "เจ้าคงไม่อยากใส่เสื้อผ้าแล้วจริง ๆ ใช่หรือไม่"

"ต่อให้ท่านคิดจะแก้ผ้าข้า ข้าก็ไม่ปล่อย" ดรุณีน้อยยิ้มหน้าแป้นตอบกลับ ราวกับคำขู่ของอีกฝ่ายใช้ไม่ได้ผลกับนางเลยสักนิด ฝ่ามือนุ่มนิ่มเริ่มลูบไล้ใบหน้าที่อยู่ในระยะประชิดอย่างหลงใหล จะว่าไปถ้าไม่นับเรื่องนิสัยกับปากเน่า ๆ ของคนผู้นี้ เขาก็หล่อเหลาไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ยังไม่ทันที่ร่างบางจะได้ชื่นชมให้หนำใจกลับโดนมือของอีกฝ่ายหยุดยั้งไว้เสียก่อน ตามมาด้วยถ้อยคำบาดหูเสียจนร่างเล็กแทบรับไม่ได้

"ออกไป ข้าหนัก"

"หนักบ้าบออะไรของท่าน!" นางล่ะอยากจะเอาแขนรัดคอเขาให้ตายเสียตอนนี้

"เหอะ..." หวังเหว่ยเค้นเสียงพร้อมกลอกตามองบน จนหญิงสาวเห็นต้องจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

งานเลี้ยงยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ ในขณะที่มีหวังเหว่ยเหมือนจะเลือกอะไรไม่ค่อยได้จึงได้แต่ปล่อยให้สาวน้อยนั่งอยู่บนตักไปนิ่ง ๆ แต่เมื่อไหร่ที่สบโอกาสเหมาะเขาก็พร้อมจะดันนางออกไป น่าเสียดายที่ทั้งมือทั้งแขนของนางเกาะแน่นเสียยิ่งกว่าอะไรจนคนตัวใหญ่เริ่มถอดใจขึ้นมา สุดท้ายชายหนุ่มจึงหันมายกจอกสุรากระดกเข้าปากหลายจอก ดรุณีน้อยที่นั่งเงียบอยู่จู่ ๆ ก็เอ่ยขึ้นพร้อมสีหน้าบิดเบี้ยว

"เหม็น"

"เหม็นก็ออกไป"

เสียนเปาน้อยเบะปาก สองแขนกระชับกอดบุรุษตรงหน้าแน่น ก่อนจะซุกไซร้ใบหน้าลงกับซอกคอของเขาด้วยท่าทีราวกับลูกแมวออดอ้อน "ไม่เอา"

ชายฉกรรจ์ที่เหลือในกระโจมต่างร่ำสุรากันไปหลายจอกจนนานเข้าก็เริ่มเกิดอาการเมามาย ยิ่งเมาแต่ละคนก็ยิ่งใช้สายตาหื่นกระหายจ้องมองสตรีเพียงหนึ่งเดียวในกระโจมนี้ ต่อให้รู้ว่านางกำลังนั่งอยู่บนตักลูกพี่ของตนก็ไม่มีใครอดใจได้ไหว แต่ละคนแทบจะรอไม่ได้ที่จะได้ลิ้มลองรสบุปผาในคืนนี้อีกครั้ง บางคนถึงกับเอ่ยชวนหวังเหว่ยอย่างใจกล้าทั้งที่ปกติเขาไม่คิดทำ

"เสียงครางของนางช่างหวานนัก มิสู้คืนนี้พี่ใหญ่ลองฟังกับพวกข้าดีหรือไม่"

หวังเหว่ยเองที่เริ่มจะเมาเพราะสุรา เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เผลอใช้แขนโอบรอบเอวบาง พลางก้มลงกระซิบกับร่างน้อย "พวกเขาบอกว่าเสียงครางเจ้าหวาน ไหนลองครางให้ข้าฟังหน่อย"

ดรุณีน้อยรีบเงยหน้าขึ้นมองสบตากับหวังเหว่ย ก่อนจะแยกเขี้ยวใส่เขา นางตวัดสายตามองชายที่เอ่ยชวนหวังเหว่ยอย่างหงุดหงิด ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปมีหวังนางคงต้องโดนชายพวกนั้นปู้ยี่ปู้ยำจนไม่ได้พักอีกคืนเป็นแน่ เมื่อคิดได้ดังนั้นสองแขนก็เริ่มกระชับกอดพร้อมซุกใบหน้าลงกับแผงอกของหวังเหว่ยอีกที

"คืนนี้ข้าจะนอนกับท่าน"

เนื่องจากใบหน้าของนางซุกอยู่กับแผงอกกำยำในขณะเอ่ย จึงทำให้เสียงที่หวังเหว่ยได้ยินนั้นอู้อี้ แต่เขาก็พอจับใจความได้ว่าคืนนี้นางจะมานอนกับเขา ชายหนุ่มปฏิเสธโดยไม่คิดว่าจะเป็นการหักหน้าคนตัวน้อย "ไม่เอา"

"ข้าไม่ฟัง"

เหมือนจะกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อคำพูดของตน สาวน้อยจึงรีบยกมือขึ้นปิดหูตนราวกับเด็กน้อยไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ ก่อนจะกลับไปสวมกอดเอวแกร่งของเขาอีกครั้งไม่ยอมปล่อย เพราะกลัวว่าเขาจะใช้โอกาสนี้ผลักนาง

หวังเหว่ยเห็นท่าทีเช่นนั้นก็พ้นล้มหายใจออกมา เขาพยายามใช้มือแกะแขนที่โอบแน่นราวกับปลิงนั้นออกอย่างไม่ยอม จนเสียนเปาต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของมือแกร่งอย่างขัดใจ "ท่านอย่าขัดขืนข้า!"

หวังเหว่ยจ้องดวงหน้าน้อยที่บัดนี้แก้มพองเป็นลูกซาลาเปาตาเขม็ง ก่อนจะเริ่มเถียงกับนาง "เจ้าก็ไปนอนกับเจ้าพวกนั้นสิ มายุ่งอะไรกับข้า"

"ไม่เอา ข้าเจ็บอยู่" เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ใจอ่อน ร่างบางก็รีบซุกหน้าลงกับแผงอกแกร่งอย่างเด็กเอาแต่ใจ หากคืนนี้ยังโดนพวกนั้นทารุณอีก พรุ่งนี้นางต้องลุกไม่ได้เป็นแน่ แล้วนางหนียังไง!

"แล้วมันเกี่ยวอะไร" หวังเหว่ยก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

"ก็เจ็บไง เจ้านี่...!"

ขณะที่ภายในงานเลี้ยงต่างคนต่างสนุกสนานร่ำสุรากัน แต่ในมุมเล็ก ๆ ของกระโจมยังคงมีคนคู่หนึ่งต่อปากต่อคำกันจนใกล้จบงานเลี้ยง

หวังเหว่ยมองคนที่ซุกหน้าอยู่กับแผงอกแกร่งอย่างทอดถอนใจ แม้จะไม่พอใจแต่ครั้งนี้เขากลับขี้เกียจจะพูดอะไรอีก ใบหน้ายังคงบูดบึ้งเนื่องจากอารมณ์เสียไปจนกระทั่งงานเลี้ยงจบ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 21 เดินทางไกล

    ต้นไม้ของป่าซิงเฉียงกินพื้นที่ไปหลายร้อยลี้ เสียงสายลมเย็นและเสียงนกกระจิบกำลังสอดผสานและขับขานกลายเป็นท่วงทำนองดนตรี กลิ่นหอมของหญ้าอ่อนลอยโชยไปทั่วทุกสารทิศ แสงแดดจากตะวันยามสายสาดส่องเข้ามาผ่านทางปากถ้ำจนกระทบใบหน้างดงามของดรุณีที่กำลังหลับใหล แสงนั้นแยงตาจนร่างบางที่กำลังฝันหวานถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา นางขมวดคิ้วมองไปรอบ ๆ อย่างขัดใจ ทว่าความเหนื่อยล้าจากศึกหนักที่ผ่านทำให้ร่างน้อยลุกขึ้นไม่ไหว เสียนเปาทำได้เพียงหันหลังให้กับแสงแดดนั้นแล้วนอนขดตัวหลับตาอีกครั้งฉับพลันเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งก็ดังมาจากด้านหลังหน้าปากถ้ำ พร้อมกับเสียงที่นางรู้สึกคุ้นเคย "ยังไม่ตื่นอีกหรือ"ดรุณีน้อยรู้สึกเหนื่อยล้าเกินจะตอบอีกฝ่าย นางหลับตาพริ้มแสร้งทำว่าไม่ได้ยินที่เขาพูดหวังเหว่ยมองร่างเล็กที่ขดตัวอยู่บนเสื้อคลุมตัวใหญ่ของตนอย่างจำนน ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายตื่นอยู่แต่กลับเลือกที่จะไม่ตอบเขา ก็ทำใจกล้าโกรธนางไม่ลงเหมือนเก่า ฉับพลันร่างสูงก็สาวเท้าตรงเข้าไปนั่งข้างอีกฝ่าย พลางใช้มือลูบหัวน้อย ๆ เพื่อปลอบประโลมนางเสียนเปาสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่ส่งผ่านฝ่ามือนั้น เพียงไ

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 20 เอาคืน (18+)

    เสียนเปารู้สึกเหมือนโดนท้าทายอำนาจ นางจึงก้มลงกัดอีกฝ่ายจนจมเขี้ยวทันที คราวนี้หวังเหว่ยเหมือนจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว ใบหน้าของเขาจึงไม่เปลี่ยนสีหรือแสดงความรู้สึกเจ็บปวดออกมาอีก มีเพียงมุมปากที่ปรากฏรอยยิ้มแปลกประหลาด เป็นเวลานานกว่าเสียนเปาจะรู้สึกพอใจแล้วจึงถอนเขี้ยวออกจากลำแขนของชายที่พยายามกักขังนาง ดวงหน้างดงามเชิดใส่อีกฝ่ายอย่างดื้อรั้นไม่ยอมพ่าย หวังเหว่ยมองท่าทีลำพองใจของร่างบางก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "คราวนี้ตาข้ากัดเจ้าบ้างแล้ว" "ว่ายังไงนะ...?" ยังไม่ได้ทันจะสิ้นเสียงของร่างบาง เบื้องหน้าของเสียนเปาพลันมีเงาดำโถมเข้ามาอย่างรวดเร็วจนนางตั้งตัวไม่ทัน ดวงตาคู่งามเบิกกว้างทั้งยังสั่นระริกเมื่อริมฝีปากบางถูกครอบงำด้วยริมฝีปากอุ่นร้อน ตอนนั้นเองที่รับรู้ได้ว่าจูบนี้ของหวังเหว่ยไม่มีความปรานีเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย มันเต็มไปด้วยความรู้สึกต้องการและความกระหายอยาก ยามที่ลิ้นร้อนสอดเข้ามาในโพรงปากเพื่อควานหาความหวานและไล่ต้อนลิ้นน้อยจนหมดทางถอย ทำเอาเสียนเปารู้สึกวูบวาบบริเวณท้องน้อยจนต้องหนีบเรียวขาเ

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 19 ลองดู

    รัตติกาลล่วงเลยผ่านไปไวราวกับสายน้ำ หลังจากที่วุ่นอยู่กับการถอนพิษครึ่งค่อนคืนนั้นเวลาก็ล่วงเข้าสู่ยามโฉ่ว เสียนเปานั่งมองใบหน้าของหวังเหว่ยซึ่งในเวลานี้เจ้าตัวกำลังหลับสนิทอยู่ ตามหน้าผากมีเหงื่อซึมออกมาจนชุ่มบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังมีไข้ นางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อก่อนจะบรรจงซับเหงื่อให้อีกฝ่ายอย่างเบามือ ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมา เสียนเปาสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากร่างกายของหวังเหว่ย นางชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนถอนหายใจออกมาตอนหลับเจ้าก็ดูจะไม่มีพิษมีภัย เหตุใดพอตื่นขึ้นมาถึงได้ชอบกวนประสาทข้านักเสียนเปาคิดพลางเอานิ้วจิ้มแก้มของอีกฝ่ายอย่างเงียบ ๆ ฉับพลันนางก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปที่ปากถ้ำเพื่อนำผ้าเช็ดหน้าไปรองน้ำฝนที่ไหลลงมาตามหิน ก่อนจะเดินย้อนกลับมาเช็ดตัวที่ร้อนผ่าวให้อีกฝ่ายในทันทีไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดจนหวังเหว่ยที่หมดแรงแล้วหลับไปพลันลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาคมคู่หนึ่งเหลือบมองฝ่ามือเนียนนุ่มที่กอบกุมมือของตนเองไว้แน่น พร้อมสัมผัสเย็นชื้นจากผ้าเช็ดหน้าปักลายดอกเหมย ดูเหมือนคนตัวน้อยจะเหม่อลอยจนไม่รู้สึกตัวเลยว่าหวังเหว่ยได้สติ

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 18 พิษ

    "เจ้าเป็นอะไร!" เสียนเปารีบเข้าไปพยุงอีกฝ่ายขึ้นมาดูอาการ สีหน้าของชายหนุ่มในตอนนี้แลดูเจ็บปวดนักทั้งที่ตามเนื้อตัวของเขาไม่ปรากฏบาดแผลใด ๆ แต่เพียงไม่นานนางก็รู้ต้นต่อที่สร้างความทรมานให้อีกฝ่าย"กู่พิษ"สีหน้าของเสียนเปายิ่งดูไม่ดีเมื่อเห็นบางสิ่งกำลังชอนไชอยู่ใต้ผิวหนังของอีกฝ่าย วินาทีนั้นเองที่นางรับรู้ได้ว่าหวังเหว่ยกำลังเจ็บปวดเป็นที่สุด ตามกรอบหน้าอาบย้อมไปด้วยเม็ดเหงื่อจนเปียกชื้น ริมฝีปากที่เปรอะเปื้อนเลือดขบเม้มเข้าหากันเพื่ออดกลั้นความเจ็บปวดที่ปะทุขึ้นมาจนแทบรับไม่ไหวตั้งแต่ตอนไหนกัน...อี้จางหมิ่นเมื่อนึกถึงตัวการที่วางพิษ เสียนเปาก็ขบกรามแน่นด้วยความรู้สึกโกรธอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่เมื่อรู้สึกตัวว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดเริ่มกระอักโลหิตขึ้นมาอีกครั้ง ความโกรธชั่ววูบของนางพลันมลายหายไปเหลือเพียงแค่ความห่วงใยปรากฏในสายตา"เจ้าทนไหวหรือไม่ เราเข้าไปหลบในถ้ำข้างหน้าก่อน"แม้หวังเหว่ยจะเจ็บแต่ก็ยังมีสติอยู่ เขาพยักหน้ารับคำร่างบางก่อนจะปล่อยให้นางพยุงร่างเขาเข้าไปในถ้ำที่อยู่ไม่ไกลเสียงน้ำหยดลงมาจากหินย้

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 17 ติดตาม

    จู่ ๆ ความเงียบเข้ากลืนกินบรรยากาศภายในคุกอีกครั้ง เสียนเปาทำได้เพียงเงียบเพราะไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไรกับเจ้าของคำถามดี นางรู้สึกประหม่าเมื่อหวังเหว่ยหรี่ตามองมาอย่างจับผิด ดวงตาคู่นั้นราวกับจะมองทะลุเข้าไปถึงข้างในจนนางไม่รู้จะทำตัวอย่างไร แต่เป็นหวังเหว่ยเองเอ่ยตัดบทไปเอง "ไปกันเถอะ ตอนนี้พวกนั้นยังไม่รู้ตัว" สิ้นคำร่างสูงก็เดินนำออกไป เสียนเปาเห็นเช่นนั้นจึงเดินตามหลังอีกฝ่าย ระหว่างทางทั้งคู่ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดต่อกันตอนนี้ทั้งคู่หลบหนีออกมาจากจวนสกุลอี้ได้อย่างไม่ลำบาก และทั้งสองกำลังเดินเรียบไปตามตอกมืดเล็ก ๆ มุมหนึ่งของเมือง ระหว่างทางเดินหวังเหว่ยเองก็เหลือบมองคนตัวเล็กที่อยู่ด้านหลังเป็นระยะ เห็นเพียงอีกฝ่ายเอาแต่เงียบและเดินก้มหน้าราวกับไม่อยากสบตากับเขา หวังเหว่ยรู้สึกว่ามันเงียบเกินไปจึงทำลายความเงียบลงด้วยการเปิดหัวข้อสนทนา "หลังออกจากหั่งโจวแล้วเจ้าจะไปที่ใด""ตูเถา"เสียนเปามิได้คิดปิดบังจุดหมายของตนกับอีกฝ่าย แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้หวังเหว่ยขมวดคิ้ว "ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน"หากเจ้าเคยได้ยินน่ะสิแปลก เพราะตูเถาที่นางเพิ่งพูดถึ

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 16 ออกไปจากเมืองนี้

    หลังจากคืนนั้นที่หวังเหว่ยและเสียนเปาถูกจับมาขังในคุกใต้ดินวันเวลาก็ผ่านมาถึงสามวันเศษ ตกดึกในคืนที่เมืองหั่งโจวมีลมพายุแรง สายลมกรรโชกราวกับจะพัดบ้านเรือนลอยหายไปทั้งหลัง ไม่ว่าจะเป็นตามตรอกซอกซอยใดล้วนตกอยู่ในความเงียบ ถนนหนทางไร้ผู้คนเดินเที่ยวเล่นเหมือนอย่างเคย แม้กระทั่งย่านที่เคยคึกคักบัดนี้หลงเหลือแค่เพียงไม่กี่ชีวิตที่ยังคงทำงานหาเลี้ยงชีพอยู่ สาเหตุที่ทั้งเมืองตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เป็นเพราะพายุที่ไม่ทราบที่มาลูกนี้กำลังรุนแรงขึ้น ทั้งที่สองสามวันก่อนท้องฟ้ายังแจ่มใสอยู่เลยแท้ ๆ ทว่าในคุกที่มืดและชื้นแฉะ กลับไม่รู้ถึงภัยธรรมชาติร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นข้างนอก นักโทษที่โดนทารุณต่างเหน็ดเหนื่อยจนนอนหลับสนิท ในคุกมีเพียงเสียงน้ำหยดจากบนเพดานหินและเสียงลมที่พัดผ่านช่องระบายอากาศ ความเงียบผิดจากปกติธรรมดาช่วยเสริมบรรยากาศทำให้คุกนี้ดูน่าวังเวง มันเงียบสงัดราวกับที่แห่งนี้ไร้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ทว่าในส่วนที่ลึกสุดของคุกแห่งนี้ หากลองเงียหูฟังให้ดีจะพบว่ามีเสียงของคนสองคนกำลังคุยกันด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย ราวกับการที่พวกเขาถูกจับมาขังที่นี่ไม่ได้สร้างความหวาด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status