เพราะข้อมูลที่ได้รับจากวสันต์เมื่อวานทำให้ริคาโด้ต้องตัดสินใจเริ่มแผนจีบมนัญชญาก่อนที่เรื่องมันจะบานปลายไปมากกว่านี้
วันนี้ยังไม่ถึงกำหนดที่เขาจะต้องไปเรียนกับคุณครูมนัญชญาตามที่นัดกับเธอไว้แต่ชายหนุ่มก็ตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาหญิงสาวเพื่ออยากจะนัดทานข้าวและพูดคุยกันก่อนที่จะเริ่มเรียนอย่างจริงจังในวันรุ่งขึ้น
ริคาโด้รอจนกระทั่งถึงเวลาเลิกงานตามที่เคยบอกเธอไว้เขากดโทรตามเบอร์โทรศัพท์ที่ได้มาเมื่อครั้งก่อน ชายหนุ่มรอสายไม่นานปลายสายก็กด
“สวัสดีค่ะครูขิมพูดค่ะ”
เสียงตอบรับที่สดใสของมนัญชญาทำให้คนฟังรู้สึกดีได้อย่างประหลาด
“สวัสดีครับครูขิมผมริคนะครับ”
“สวัสดีค่ะคุณริม วันนี้เรายังไม่ได้เริ่มเรียนกันใช่ไหมคะ หรือว่าขิมจำวันผิด”
“คุณขิมจำไม่ผิดรอครับ แต่พอดีวันนี้ผมอยากจะชวนคุณมาทานข้าวด้วยกันหน่อยน่ะครัย คุณขิมเลิกงานแล้วใช่ไหมครับ”
“ขิมยังไม่กลับจากโรงเรียนเลยค่ะ”
“คุณเคยบอกว่าเลิกงานประมาณห้าโมงเย็นนี่ครับ นี่มันก็ห้าโมงครึ่งแล้วทำไมยังอยู่ที่โรงเรียนอีกล่ะครับ” ริคาโด้ถามด้วยความแปลกใจ
“วันนี้มีผู้ปกครองติดธุระค่ะ ขิมก็เลยต้องรอจนกว่าผู้ปกครองของเด็กจะมารับค่ะ”
“ต้องรอถึงกี่โมงครับ ให้ผมไปอยู่เป็นเพื่อนดีไหม”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณริค ผู้ปกครองบอกว่าจะมารับตอนหกโมงค่ะ”
“งั้นผมไปรับคุณขิมที่บ้านสักทุ่มหนึ่งนะครับ”
“ขิมเกรงใจค่ะ”
“จะเกรงใจทำไมล่ะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็จะเป็นครูกับนักเรียนกันแล้ว วันนี้ผมอยากจะคุยกับคุณครูก่อนเผื่อมีอะไรที่ผมจะต้องเตรียมตัว แล้วผมก็กำลังหาเพื่อนทานข้าวด้วย”
“ขิมนึกว่าวันนี้คุณริคจะไปทานที่บ้านคุณเอเลน”
“วันนี้ครอบครัวนั้นพากันออกมาทานข้าวข้างนอก ผมก็เลยไม่มีที่ไปคุณครูไม่ว่าอะไรนะครับถ้าผมจะไปรับคุณที่บ้าน”
“ก็ได้ค่ะคุณริค ถ้าขิมเสร็จธุระแล้วขิมจะโทรบอกคุณริคนะคะ”
“ได้ครับคุณครู”
“คุณริคไม่ต้องเรียกคุณครูหรอกนะคะ ขิมรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ” มนัญชญาเคยมีแต่ลูกศิษย์ที่เป็นเด็กพอริคามาเรียกแบบนี้ก็รู้สึกแปลกๆ
“ก็ครูขิมกำลังจะเป็นครูของผมจริงๆ นี่ครับ”
“ขิมอยากให้คุณริคคิดว่าขิมสอนคุณในฐานะเพื่อนดีกว่านะคะ ขิมจะได้ไม่เกร็งเวลาสอนด้วยค่ะ”
“เอางั้นก็ได้ครับ”
“คุณริคคะ ขิมขอวางสายก่อนนะคะพอดีผู้ปกครองของเด็กมารับแล้วค่ะ”
“ได้ครับ”
เมื่อวางสายจากริคาโด้แล้วมนัญชญาก็พานักเรียนไปส่งให้ผู้ปกครองที่รถจากนั้นก็ขับรถกลับมาที่บ้านของตนเอง
บ้านหลังเล็กเปิดไฟสว่างไสวบริเวณหน้าบ้านมีรถคันหนึ่งจอดอยู่ มนัญชญาเห็นทะเบียนก็เดาออกว่าตอนนี้ด้านในบ้านคงไม่มีแค่คุณยายของเธอคนเดียวเหมือนกับทุกวัน เธอจำได้ดีว่ารถคันนี้เป็นของใคร
“เลิกงานแล้วเหรอขิม”
“สวัสดีค่ะน้ารัตน์ มาตั้งแต่เมื่อไร” มนัญชญายกมือไว้น้ารัตนาน้องสาวของมารดา
“น้ามาถึงเมื่อตอนบ่ายจ้ะ”
“มาเยี่ยมคุณยายเหรอคะ”
“จ้ะ มาเยี่ยมคุณยายแล้วก็ว่าจะพาคุณยายกลับไปบ้านที่หนองคายด้วยจ้ะ”
“อะไรนะคะ” มนัญชญาตกใจเพราะคุณยายไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเธอมากก่อน
“คืออย่างนี้นะ น้างานยุ่งมากๆ บางวันก็กลับบ้านน้าดึกเลยอยากให้คุณยายกลับไปอยู่กับน้าสักพักน่ะ เพราะจะให้น้องมายด์อยู่คนเดียวก็เป็นห่วงอีกอย่างมันก็ใกล้ช่วงเข้าพรรษาคุณยายจะได้ไปทำบุญด้วยจ้ะ”
“แล้วจะไปกันเมื่อไหร่ล่ะคะ”
“พรุ่งนี้จะ”
“ทำไมมันเร็วจังคะ”
“น้าว่างแค่สองวันน่ะก็เลยรับมารับ ตอนแรกจะให้ยายนั่งเครื่องไปลงใกล้ๆ แล้วค่อยมารับแค่คุณยายก็ไม่ยอมน้าเลยมารับด้วยตัวเอง”
“หนูขิมอยู่คนเดียวได้ใช่ไหมลูก” คุณยายศรีนวลถามด้วยความเป็นห่วง
“อยู่ได้ค่ะคุณยาย คุณยายไม่ต้องห่วงนะคะ”
“น้าขอโทษนะหนูขิมที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า”
“ไม่เป็นไรค่ะน้ารัตน์ แล้วน้ารัตน์กับคุณยายทานอะไรกันหรือยังคะ”
“เราสองคนเรียบร้อยแล้วจ้ะ กับข้าวที่เหลืออยู่ในตู้หนูขิมอุ่นกินได้เลยนะ”
“ขอบคุณค่ะน้ารัตน์ พอดีว่าเพื่อนขิมจะมารับไปทานข้าวข้างนอกค่ะ”
“เพื่อนคนไหนเหรอลูก”
“คุณริคค่ะคุณยาย พอดีว่าเขาจะคุยรายละเอียดเรื่องเรียนด้วยค่ะ ขิมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะเดี๋ยวเขาคงมารับแล้ว”
“อย่ากลับดึกมากนะลูก”
“ไม่ดึกหรอกค่ะคุณยาย”
มนัญชญากลับเข้ามาในห้องละรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็วแต่หญิงสาวไม่รู้ว่าริคาโด้จะพอไปทานอาหารที่ร้านไหน เธอจึงโทรศัพท์ไปถามเพื่อจะได้แต่งตัวให้เหมาะสมกับร้านที่ชายหนุ่มจะพาไป
“คุณริคคะ”
“ครับ คุณขิมพร้อมแล้วใช่ไหมครับรอผมอีกสักสิบนาทีนะครับผมใกล้จะถึงบ้านคุณขิมแล้ว” ริคาโด้รีบเหยียบคันเร่งเพราะกลัวหญิงสาวจะรอนาน
“คุณริคไม่ต้องรีบหรอกค่ะ ขิมไม่ได้โทรมาเร่งนะคะแต่ที่ขิมโทรมาคือขิมจะถามว่าคุณจะพาขิมไปทานข้าวที่ไหนคะ ขิมจะได้แต่งตัวให้เหมาะสม”
“คุณขิมอยากทานอะไรล่ะครับ”
“ขิมทานได้ทุกอย่างค่ะ คุณริคล่ะคะอยากทานอะไร”
“เอางี้ไหมครับถ้ายังไม่รู้จะทานอะไรผมไปรับคุณขิมมาที่โรงแรมก่อนแล้วค่อยเลือกอีกทีว่าจะทานร้านไหน”
“แต่ขิมว่าเราทานร้านธรรมดาก็ได้นะคะไม่ต้องไปทานร้านในโรงแรมหรอกค่ะขิมเกรงใจ”
“แต่ที่นั่นเป็นโรงแรมของผมเองนะครับคุณขิมไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ นี่ผมก็ใกล้จะถึงบ้านของคุณแล้วนะ”
“เหรอคะ ถ้างั้นขิมขอวางก่อนนะจะรีบแต่งตัวค่ะ”
“ไม่ต้องรีบนะครับ ยังไงผมก็รอได้”
เมื่อวางสายแล้วมนัญชญาก็รีบหาชุดที่จะใส่ไปทานอาหารกับริคาโด้ โชคดีว่าเธอมีชุดที่สิรภพซื้อให้หลายชุด หญิงสาวเลือกเดรสแขนกุดสีฟ้าอ่อนแต่งกระดุมด้านหน้าความยาวคลุมเข่า เธอมัดผมทรงหางม้าใบหน้าแต่งแต้มสีสันอ่อนๆ ทำให้ดูเด็กกว่าอายุมาก
เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วหญิงสาวก็โทรศัพท์ไปบอกริคาโด้แต่เขาบอกว่าตอนนี้เขาจอดรถรออยู่ที่หน้าบ้านเธอจึงรีบเดินออกมาอย่างรวดเร็ว
ริคาโด้เห็นเธอเดินออกมาจากรั้วก็รีบเดินไปเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่ง
“ขอบคุณค่ะ รอขิมนานไหมคะ”
“ไม่นานหรอกผมว่าคุณใช้เวลาแต่งตัวเร็วมากแต่ก็ออกมาสวยมากด้วยนะครับ”
“ไม่ต้องแกล้งชมหรอกค่ะ”
“ผมชมจริงครับ คุณขิมสวยหน้าสวยและหุ่นดีอยู่แล้วไม่ต้องแต่งตัวหรือแต่งหน้ามากก็สวยดูเป็นธรรมชาติมาก” ริคาโด้หยอดคำหวานแต่ในใจก็รู้สึกว่ามนัญชญาสวยและดูเป็นธรรมชาติมากกว่าผู้หญิงคนอื่นที่ผ่านมาของเขาจริงๆ
“ถ้างั้นขิมก็ขอบคุณค่ะ”
ครบหนึ่งหกเดือนแล้วที่ริคาโด้ประสบอุบัติเหตุตอนนี้เขากลับมาเดินได้ตามปกติแต่คุณหมอยังไม่อนุญาตให้วิ่งหรือออกแรงขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บมากจนเกินไปวันนี้เป็นโอกาสที่ที่เขาได้มาร่วมงานแต่งงานของน้องชายต่างมารดาที่อิตาลี การมาครั้งนี้นอกจากตัวเอาเองแล้วครอบครัวของเอเลน่ารวมถึงมนัญชญาก็มาร่วมงานแต่งงานด้วยหลังจากงานแต่งงานของน้องชายเสร็จเรียบร้อยแล้วริคาโด้ก็มาคุยกับบิดาและพามนัญชญามากับเขาด้วย“ฉันดีใจจะที่ความรักของนายยังไปได้สวย”“แน่นอนครับ เราสองคนยังรักกันดี”“น้องของแกก็แต่งงานไปแล้ว เมื่อไหร่แกจะแต่งล่ะ”“คงอีกไม่นานหรอกครับพ่อ”“ฉันขอถามเธออีกครั้งและมันจะเป็นครั้งสุดท้ายนะ” อัลแบโต้มองหน้าคนรักของลูกชายด้วยสายตาที่ยังคงเป็นกังวล“ได้ค่ะคุณอัลแบโต้”“เธอจะไม่เปลี่ยนใจจากลูกชายของฉันแน่ใช่ไหม”“แน่ค่ะ คำตอบของฉันก็ยังคงเหมือนเดิม”“พ่อจะถามเพื่ออะไรครับ หรือยังไม่เลิกคิดจะให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นอีก”“เรื่องนั้นฉันเลิกคิดไปแล้ว”“พ่อเลิกคิดเองหรือเพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนยอมแต่งงานกับผมล่ะครับ ผมรู้ว่าเรื่องของผมที่นี่มันไม่เป็นความลับ” ริคาโด้รู้จากคนของเขาว่าโซเฟียเอาเรื่องของเ
ผ่านมาหนึ่งเดือนหลังจากเกิดอุบัติเหตุตอนนี้ริคาโด้ออกจากโรงพยาบาลและกลับมาอยู่ที่บ้านของเอเลน่าซึ่งแต่ก่อนเขาก็เคยอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้แต่พอน้องสาวแต่งงานชายหนุ่มจึงย้ายออกไปอยู่ที่คอนโดมิเนียมเหตุผลที่ริคาโด้ต้องกลับมาอยู่ที่บ้านของเอเลน่าก็เพราะถ้าเขาไปอยู่ที่คอนโดมนัญชญาจะไม่ยอมตามไปดูแลเขาที่นั่นเพราะหญิงสาวเป็นห่วงและกลัวว่าช่วงที่เธอไปทำงานริคาโด้จะไม่มีคนคอยดูแลตอนนี้ชายหนุ่มยังต้องใช้ไม้เท้าเวลาเดินและนั่งรถเข็นเวลาไปทำงานที่โรงแรมในบางวันที่เขามีประชุม ส่วนวันอื่นๆ ก็เอางานกลับมาทำที่บ้านโดยมีวสันต์และคนของเขาคอยประสานงาน“วันนี้เหนื่อยหรือเปล่าคะ” มนัญชญาถามหลังจากคนของเขาไปรับเธอมาจากโรงเรียน“ไม่เท่าไหร่ครับวันนี้ผมไปประชุมแค่ครึ่งวัน เสร็จแล้วก็รีบกลับมาพัก”“ดีมากค่ะ แบบนี้จะได้หายไวๆ นะคะ เราไปทานข้าวกันนะคะหนูอันนาน่าจะหิวแล้ว” หญิงสาวช่วยพยุงเขาลุกขึ้นจากนั้นก็ส่งไม้เท้าให้เขา ในตอนแรกเธอก็คอยช่วยประคองเวลาเขาเดิน แต่นักกายภาพบำบัดแนะนำว่าควรให้เขาเดินเองเพราะจะได้รู้จังหวะในการเดินและลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุซ้ำได้“ลุงริคขา วันเสาร์คุณพ่อคุณแม่จะพาอันนาไปเที่ยวทะ
มนัญชญาพูดกับอัลแบโต้เพราะอยากให้เขามั่นใจว่าจากนี้ลูกชายของเขาจะมีเธอเป็นคนดูแลอย่างดี“แล้วเธอจะได้อะไรกับการทำแบบนี้” อัลแบโต้ถามไปตามตรงเพราะถ้าหากลูกชายเขารักษาไม่หายผู้หญิงคนนี้ก็คงจะเป็นทุกข์มาก เขารู้ว่าหญิงชายวัยนี้เรื่องบนเตียงมันก็เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต แล้วจะมีใครยอมเอาตัวเองมาจบอยู่กับผู้ชายที่ให้ความสุขไม่ได้แบบนี้“นั่นสิ เธอจะทนอยู่กับเขาได้ยังไง หรือคิดว่าเขาจะรักษาหาย” โซเฟียมองมนัญชญาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยว่าเธอจะยอมอยู่กับริคาโด้ได้ยังไงเพราะถ้าเป็นตัวเธอเองคงไม่อยู่กับเขาแน่“เพราะคุณริคคือคนรักของฉันไงคะ เขาจะรักษาหายหรือไม่หายมันก็ไม่สำคัญหรอกนะ”“เธอจะทนอยู่ได้แน่เหรอ ฉันไม่เชื่อหรอกนะ”“ฉันไม่สนใจว่าคุณหรือใครจะเชื่อหรือไม่ ฉันสนใจแค่คุณริคคนเดียว”“ขอบใจนะขิม แต่ที่โซเฟียพูดก็ถูกนะ ผมคงไม่เห็นแก่ตัวแบบนั้นหรอก”“เรื่องของเราเอาไว้คุยกันสองคนดีกว่านะคุณริค” มนัญชญาไม่อยากให้ริคาโด้ต้องลำบากใจไปมากกว่านี้“ก็ได้ครับ”“ฉันว่าเรื่องนี้คงต้องคุยกันยาวๆ” อัลแบโต้ยังไม่แน่ใจว่ามนัญชญาจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่าและเขาก็จะลองให้โอกาสเธอดูสักครั้งถ้าหากเว
ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัยไม่มีใครรู้ว่าริคาโด้กับคุณหมอพูดเรื่องอะไรกัน“ถ้าคุณตัดสินใจแล้วผมก็จะบอกความจริงทั้งหมดให้กับทุกคนรู้”คุณหมอวัยกลางคนมองหน้าริคาโด้และทุกคนในห้องแล้วถอนหายใจก่อนจะบอกถึงอาการของริคาโด้ให้กับทุกคนรู้“เท่าที่เราทุกคนทราบว่าคุณริคาโด้ประสบอุบัติเหตุจนกระดูกหักแต่ที่ทุกคนไม่รู้ก็คือระหว่างเกิดอุบัติเหตุนี้ร่างกายของคุณริคาโด้ถูกกระแทกตรงบริเวณหน้าอก ช่องท้องรวมถึงอุ้งเชิงกรานของเขาด้วย แรงกระแทกไม่ได้ส่งผลให้อวัยวะเสียหายอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็มีอวัยวะและเส้นประสาทบางส่วนเสียหายจากแรงกระแทกนี้” คุณหมออธิบายด้วยภาษาอังกฤษช้าๆ เพื่อให้ทุกคนในห้องเข้าใจอย่างชัดเจน“หมอคะ หมอกำลังจะบอกอะไรก็บอกมาเลยค่ะไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาว” โซเฟียไม่เข้าใจสิ่งที่คุณหมอพูดและเธอก็คิดว่าคนอื่นก็คงไม่มีใครเข้าใจเหมือนกันเพียงแต่ไม่มีใครกล้าถามคุณหมอยังคงมีท่าทางอึดอัดที่จะพูดออกมาตรงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนไข้ของเขา“ผมไม่อายหรอกครับหมอบอกทุกคนไปเลย” ริคาโด้พูดขึ้นเพราะเห็นทุกคนมีสีหน้าสงสัยและอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่“เส้นประสาทบางส่วนของคุณริคาโด้ได้รับค
เข้าวันที่สี่แล้วในการนอนโรงพยาบาลของริคาโด้ ตอนนี้อาการปวดบริเวณแผลผ่าตัดของชายหนุ่มแทบไม่มีแล้วแต่หมอก็ยังไม่อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้เพราะแผลยังไม่หายดีเท่าไหร่แต่เขาก็ไม่ได้อยากออกจากโรงพยาบาลเพราะรู้สึกดีที่มนัญชญามานอนเฝ้าเขาทุกคืนวันนี้หลังจากเลิกมนัญชญาแล้วก็กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่บ้านก่อนจะกลับมานอนเฝ้าริคาโด้ที่โรงพยาบาลเหมือนกับสามคืนก่อนหน้านี้“เป็นยังไงบ้างคะปวดแผลหรือเปล่า” หญิงสาวถามคนรักก่อนจะเดินมานั่งข้างเตียง“ปวดครับแต่ไม่เยอะเท่าไหร่ วันนี้ผมเลยไม่ขอยาแก้ปวดจากพยาบาลเลยครับ”“คุณริคเก่งมากและฟื้นตัวได้ดีมากๆ เลยนะคะ”“เพราะผมได้กำลังใจดีจากขิมไงล่ะครับ แล้วขิมเหนื่อยไหมที่ต้องมานอนเฝ้าผมทุกคืนแบบนี้ อดทนอีกนิดนะครับถ้าผมหายดีแล้วผมจะทำหน้าที่แฟนให้ดีที่สุดเลย”“ตอนนี้คงริคก็ดีที่สุดสำหรับขิมแล้วนะคะ”“ขิมของผมน่ารักที่สุดเลย” ริคาโด้จับมือเธอแล้วยกขึ้นมาจูบ ไปบนหลังมือด้วยความรักตั้งแต่เขานอนอยู่ที่โรงพยาบาลมนัญชญาก็คอยดูแลมาตลอดเธอไม่เคยชักสีหน้าไม่พอใจหรือทำท่าทางเบื่อหน่ายที่ต้องมานอนเฝ้าเขาที่โรงพยาบาลเลย มันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกรักเธอมากขึ้นอีกและคิดว่าค
วันรุ่งขึ้นมนัญชญาก็แวะมาโรงพยาบาลตั้งแต่เช้าเพื่อสอบถามอาการของริคาโด้จากพยาบาลประจำห้องไอซียูก่อนไปทำงานและพอเลิกงานหญิงสาวก็แวะมาหาเขาอีกครั้งก็เลยได้เจอกับสิรภพและเอเลน่าพอดีหลังจากคุยกับพยาบาลแล้วทั้งสามคนก็แยกย้ายกันกลับก่อนจะนัดกันมาเยี่ยมริคาโด้อีกครั้งในเช้าวันเสาร์ซึ่งพยาบาลบอกว่าจะย้ายชายหนุ่มไปยังห้องพักฟื้นเช้าวันเสาร์มนัญชญารีบออกมาจากบ้านเมื่อได้ยินเสียงรถของสิรภพมาจอด ทั้งสามคนพากันมายังห้องพักผู้ป่วยวีไอพีที่เอเลน่าจองไว้ให้กับพี่ชาย พอประตูห้องเปิดเข้าไปก็เห็นริคาโด้นอนอยู่บนเตียงโดยมีวสันต์ผู้ช่วยของเขายืนอยู่ข้างๆ“อะไรคะพี่ริคเจ็บหนักขนาดนี้ยังจะทำงานอีกเหรอคะ” เอเลน่าต่อว่าพี่ชาย“พี่แค่สั่งงานนิดหน่อยเอง” เขารีบส่งแฟ้มคืนให้วสันต์แล้วยิ้มให้กับน้องสาวและคนรัก“เจ็บมากมั้ยคะ” หญิงสาวมองขาของคนรักมีผ้าพันแผลแล้วถามด้วยความเป็นห่วงอันที่จริงมนัญชญาได้คุยกับริคาโด้แล้วตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแต่ยังไม่ได้มาเยี่ยมเพราะหมอยังไม่อนุญาต“ตอนนี้ไม่เจ็บเพราะพยาบาลเพิ่งฉีดยาให้แต่ถ้าหมดฤทธิ์ยาก็เจ็บเอาการอยู่”“พี่ริคคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุแน่นะคะ”“ทำไมถามแบบนั้นล่ะเอเลน