แชร์

บทที่ 4 สุขสมอีกครา

ผู้เขียน: องค์หญิงโนเนม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-14 13:05:53

เมื่อขึ้นคล่อมบนตัวของชายหนุ่มได้ เจียงมู่ตานก็โน้มใบหน้าไปจูบไซ้ซอกคอของเขาทันที นางขบเม้มเบาๆ ที่ลำคอของเขา อ๋าวเยว่ถึงกับส่งเสียงครางออกมาด้วยความเสียวกระสัน หญิงสาวตรงหน้าเหมือนต้องการหยอกเย้าเขา

นางแลบลิ้นเลียลำคอของเขาก่อนจะลากปลายลิ้นโลมเลียลงมาที่เม็ดทับทิมสีแดงที่แข็งเป็นไตทั้งสองข้างบนแผงอกของเขา นางม้วนปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดเลียมันอย่างดูดดื่ม

"ซี๊ด"

อ๋าวเยว่ส่งเสียงครางออกมา เมื่อถูกมือน้อยกุมลำแท่งเอ็นร้อนและชักรูดขึ้นลงอย่างถี่ระรัว ในขณะที่ลิ้นของนางก็โลมเลียไปทั่วทั้งร่างกายของเขา

เจียงมู่ตานเลื่อนใบหน้าลงมาที่หว่างขาของชายหนุ่ม ก่อนจะครอบริมฝีปากกลืนกินท่อนเอ็นลำมังกรของเขาจนมิดลำ หญิงสาวขยับศีรษะขึ้นลงอย่างถี่ระรัว ในขณะที่มือก็สาวชักลำแท่งไม่หยุดไม่หย่อน อ๋าวเยว่ร้องครางไม่หยุด พร้อมกับยื่นมือมากดศีรษะของนางเอาไว้ก่อนจะเด้งเอวสวนขึ้นไปจนเกิดเสียงดังอ๊อกอ๊อก

เจียงมู่ตานเองก็ไม่ยอมแพ้ เขายิ่งเด้งเอวสวนนางก็ยิ่งขยับศีรษะขึ้นลงให้เร็วแรงมากขึ้น เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว นางก็เลื่อนริมปากมาดูดที่ปลายหัวหยักของเขาอย่างแรงพร้อมกับออกแรงสาวชักท่อนลำไผ่ใหญ่ยาวให้เร็วมากยิ่งขึ้น

ร่างของอ๋าวเยว่กระตุกเกร็ง ก่อนจะปล่อยน้ำรักออกมา เจียงมู่ตานรีบกลืนมันลงคอไปอย่างไม่นึกรังเกียจ

ยังไม่ทันที่นางจะได้พักหายใจให้คล่องคอ ก็ถูกเขารวบเอวบางกดลงไปกับเตียงเสียแล้ว เขาโน้มใบหน้าเข้ามาจูบนางอย่างดูดดื่ม มือหนาใหญ่ก็ซุกซนไม่น้อยเลย เขาลูบไล้เรือนกายขาวเนียนของนางอย่างชอบใจ ก่อนจะเลื่อนใบหน้ามาที่หน้าอกหน้าใจที่แสนใหญ่โตของนาง มือสากบีบเคล้นคลึงยอดดอกบัวงามจนเกิดเป็นรอยแดง ในขณะที่ลิ้นก็ตวัดแลบเลียปลายยอดถันสีหวานและดูดดึงขบเม้มมันจนเกิดเสียงดังจ๊วบๆ

"อ๊า"

เจียงมู่ตานเมื่อถูกปลายลิ้นร้ายโลมเลีย นางแอ่นอกให้เขาเชยชมอย่างไม่คิดขัดขืน พร้อมกับส่งเสียงแว่วหวานครางกระเซ่าด้วยความสุขสม

เหล่าสาวใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูไม่กล้าแม่แต่จะเข้าไปห้ามปราม เพราะเกรงว่าจะถูกเจ้านายลงโทษ ทำได้เพียงมองไปที่หน้าประตูใหญ่คอยดูต้นทางให้เจ้านาย

อ๋าวเยว่รู้สึกว่าร่างกายนี้ช่างยั่วยวนยิ่งนัก เขาอยากจะทรมาณนางให้มากเสียหน่อย หยอกเย้านางอยู่เช่นนี้ตลอดทั้งคืน

ชายหนุ่มลากเลียปลายลิ้นมาจนถึงหว่างขาของนาง ก่อนจะค่อยๆ สอดนื้วร้อนเข้าไปในรูรักของหญิงสาวทีละนิ้ว แล้วจึงค่อยๆ ขยับเข้าออกช้าๆ และเร่งจังหวะให้ถี่ระรัวมากยิ่งขึ้น

"อ๊า อื้อ"

เจียงมู่ตานเริ่มส่งเสียงครางดังมากขึ้น นางเสียวเสียจนร่างกายบิดเร่า สองมือกำผ้าปูเตียงเอาไว้แน่น เมื่อเขาเห็นว่านางใกล้จะสุขสมแล้วก็เร่งจังหวะนิ้วมือให้รัวแรงมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ริมฝีปากหนาใหญ่ก็ดูดหน้าอกหน้าใจของนางไม่ยอมหยุด

เจียงมู่ตานร่างกายกระตุกเกร็งหลายครั้ง น้ำหวานสีใสไหลออกมาจากรู้สวยจนเปียกชุ่มไปทั่วทั้งมือของเขา ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาก่อนจะใช้ปากดูดน้ำหวานจากนิ้วมือของตนอย่างเอร็ดอร่อย

ไม่รอให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ เขาแทรกกายเขามาที่หว่างขาของนาง ก่อนจะบดเบียดท่อนเอ็นลำมังกรเข้ามาจนมิดลำ เจียงมู่ตานเบ้หน้าเพราะรู้สึกคับแน่นและเสียวกระสัน 

อ๋าวเยว่ค่อยๆ ขยับร่างกายช้าๆ ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วยิ่งขึ้น เขารู้สึกสบายตัวเป็นอย่างมาก

เขาจับเรียวขางามของนางแยกออกจากกันจนกว้าง

ก่อนจะขยับสะโพกสอบกระแทกกระทั้นเข้าออกไม่หยุดจนเกิดเสียงดังลามก เจียงมู่ตานเสียวจนร้องครางออกมาไม่หยุด มันลึกมาก ลึกเสียจนนางจุกท้องน้อยจนหายใจไม่ออก

"ซี๊ด แน่น"

"อ๊า เสียว"

คนทั้งสองส่งเสียงครางออกมาไม่หยุด เตียงไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าดตามจังหวที่พวกเขาขยับร่างกาย

อ๋าวเยว่ประคองร่างบางให้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงเจียงมู่ตานยื่นสองแขนไปโอบรอบลำคอของเขาอย่างไม่ขัดขืน ก่อนที่คนทั้งสองจะจูบกันอย่างดูดดื่ม ชายหนุ่มนอนราบลงไปบนเตียง โดยให้หญิงสาวนั่งคล่อมอยู่บนกาย เจียงมู่ตานเองก็รู้งาน นางขยับท่าทางให้เข้าที่ ก่อนจะเริ่มร่อนเอวขยับขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ ท่าทางของนางงดงามราวกับวิหกกำลังถลาเล่นลม เสียงครางก็เหมือนกับเสียงพิณที่แสนไพเราะ นั่นยิ่งทำให้อ๋าวเยว่สติล่องลอยเสียวสะท้านจะไม่อาจยับยั้งชั่งใจได้อีกต่อ

เขายื่นสองมือไปจับรั้งเอวบางของนางเอาไว้ ก่อนจะเด้งเอวกระแทกขึ้นไป เจียงมู่ตานทั้งจุกทั้งเสียว จึงส่งเสียงร้องครางลั่นห้องจนเสียงดังไปถึงข้างนอก

ร่างบางกระตุกเกร็ง นางแตะแดนสวรรค์อีกแล้ว นางเริ่มหายใจเหนื่อยหอบเพราะความสุขสมที่มากจนแทบล้นทะลัก

อ๋าวเยว่พลิกร่างของเจียงมู่ตานให้หันหลังและนั่งคุกเข่าโน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมกับเยียดขาข้างหนึ่งมาข้างหลัง ก่อนที่เขาจะคุกเข้าคล่อมขาข้างที่นางเหยียดเอาไว้และบดเบียดความเป็นชายเข้าไปในช่องทางรักของนางจนมิดด้าม

เขายกมือขึ้นฟาดบั้นท้ายของนางจนเกิดรอยแดง ในขณะที่เอวหนาใหญ่กระแทกกระทั้นเข้าออกไม่หยุด เจียงมู่ตานเสียวสะท้านจนอยากกรีดร้องออกมา ร่างของนางขยับขึ้นลงเป็นจังหวะเร็วแรง เขาทำนางเสียวสะท้านเสียจนแทบทนไม่ไหวแล้ว

"โอว"

"อร๊าย"

เจียงมู่ตานเสร็จสมอารมณ์หมายอีกรอบแล้ว ยามนี้นางเริ่มอ่อนแรงอยากจะผลักเขาออก แต่คนตรงหน้าดูเหมือนจะมีเรี่ยวแรงมหาศาลไม่ยอมปล่อยให้นางหลุดออกไปจากพันธนาการของเขาได้ 

อ๋าวเยว่พลิกร่างบางให้นอนหงายบนเตียง ก่อนและดันท่อนเนื้อท่อนเอ็นใหญ่ยาวเข้ามาอีกหน เขาจับรั้งเอวบางของนางเอาไว้ ก่อนจะเพิ่มแรงกระแทกกระทั้นเข้าสุดลำออกสุดลำอย่างไม่ออมแรง

"อ๊า ไม่ไหวแล้ว อื้อ"

"โอว จะเสร็จแล้ว"

เจียงมู่ตานร้องครวญครางแว่วหวานด้วยความสุขสม ร่างบางกระตุกถี่ๆ หลายครั้ง ในขณะที่อ๋าวเยว่ก็ร่างกายกระตุกเกร็ง เขาปล่อยน้ำรักเข้าไปในรูสวยของนางจนชุ่มฉ่ำ ก่อนจะทิ้งกายลงนอนข้างกายของนางพลางหายใจเหนื่อยหอบ

กิจกรรมแห่งความเสียวสยิวผ่านไปรวดเร็วนัก เจียงมู่ตานยกมือขึ้นเช็ดบนหน้าของตน พลางมองไปทางชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างกาย

เขาเองก็เสียวแทบบ้าเช่นกัน ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาก่อนจะเอ่ยกับนางโดยที่ไม่ยอมมองหน้าอีกฝ่าย

"สาแก่ใจเจ้าแล้วหรือยัง"

เจียงมู่ตานหันไปมองเขา ก่อนจะยิ้มตาหยี

"สาแก่ใจมากเลย"

นางเอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้านทำเอาอ๋าวเยว่ถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก คนทั้งสองรีบสวมใส่เสื้อผ้า เขาเองก็ไม่อยากอยู่ที่นานนัก เพราะเกรงว่ามันอาจจะมีครั้งที่สามตามมา ในขณะที่กำลังจะก้าวออกจากเรือนของนาง เจียงมู่ตานก็คว้ามือของเขาเอาไว้ เมื่อเขาหันกลับไปมองก็พบว่านางเอาตั๋วเงินปึกหนึ่ง

ยัดใส่มือของเขา อ๋าวเยว่พยายามจะคืนให้แต่นางกลับไม่ยอม

"ข้าไม่ต้องการ"

"เอาไปเถอะน่า วันนี้ลำบากเจ้าอีกแล้ว ข้าเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น เอาเป็นว่านี่คือค่าตัวของเจ้า ครั้งนี้ข้าเพิ่มเงินให้ หากเจ้าร้อนเงินก็มาหาข้าได้ทุกเมื่อ ไม่ต้องเอาตัวมาบำเรอข้าก็ได้ ข้ายินดีช่วย"

เอ่ยจบนางก็เดินกลับเข้าไปในห้องพลางร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี 

เมื่อออกมาจากจวนตระกูลเจียง องค์รักษ์ก็มองเห็นรอยแดงที่ลำคอของเจ้านายตน แต่กลับไม่กล้าเอ่ยปากถาม อ๋าวเยว่ที่เห็นว่าองค์รักษ์ข้างกายเอาแต่มองเขาไม่หยุด จึงเอ่ยถามอย่างไม่ชอบใจ

"มองอันใดนักหนา"

องค์รักษ์ยิ้มแห้งก่อนจะขยับเข้ามาใกล้และกระซิบถามเขา

"ฝ่าบาท ท่านถูกคุณหนูเจียงทำมิดีมิร้ายอีกแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ"

อ๋าวเยว่ถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก เขามององค์รักษ์ด้วยแววตาเย็นชา จนคนถูกมองขนลุกขนชัน

"คนเช่นข้า นางสามารถทำมิดีมิร้ายได้หรือ!"

"พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมผิดไปแล้ว"

"เหอะ"

เอ่ยจบอ๋าวเยว่ก็รีบกลับวังหลวงในทันที เมื่อกลับมาถึงเขายังคงได้กลิ่นหอมอ่อนจากกายของนาง จิตใจของชายหนุ่มเริ่มสั่นไหวขึ้นมา 

ในขณะที่จิตใจของเขาไม่ค่อยสงบ ก็มีขันทีเข้ามารายงานว่า ไทเฮาต้องการพบเขา

เมื่อเข้ามาที่ตำหนักของไทเฮาก็พบว่าตอนนี้เสด็จพ่อของเขาก็อยู่ด้วย

อวิ๋นไทเฮาคือมารดาเแท้ๆ ของเขา หลังจากเสด็จพ่อมอบบัลลังก์ให้กับเขา สองสามีภรรยาก็ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสุขสงบ 

อวิ๋นไทเฮาที่เห็นว่าลูกชายมาแล้ว ก็รีบสั่งให้คนยกชาชั้นดีเข้ามา ก่อนจะเอ่ยกับลูกชาย

"อาเยว่ เจ้ามาพอดีเลย แม่กำลังปรึกษากับเสด็จพ่อของเจ้าว่าจะจัดงานชมบุปผา เชิญเหล่าคุณหนูจากตระกูลใหญ่มาร่วมงาน อีกทั้งยังถือโอกาศนี้เลือกฮองเอาและพระสนมให้

เจ้าด้วย"

อ๋าวเยว่เพียงยิ้งเล็กน้อย อย่างไรเรื่องนี้ขาย่อมหนีไม่พ้น ฮ่องเต้มีภาระหน้าที่ที่ควรทำ การแต่งตั้งฮองเฮาและสนมก็ถือเป็นภาระหน้าที่หนึ่งเช่นเดียวกัน

อยู่ๆ เขาก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ งานชมบุปผาครั้งนี้ แน่นอนว่าเจียงมู่ตานจะต้องมาร่วมงานด้วย หากนางรู้ว่าเขาเป็นฮ่องเต้นางจะทำหน้าเช่นไรกันนะ?

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   ตอนจบ

    คืนนี้อ๋าวเยว่พักที่บ้านสวนเกษตรของจวนตระกูลเจียง แต่พักอยู่อีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกับห้องของเจียงมู่ตาน นางไม่ยอมให้เขาเข้าไปนอนด้วย อ๋าวเยว่เองก็ไม่ได้ดึงกันใด แต่ในใจกลับลอบวางแผนเขารอจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงกลางดึก รอจนเจียงมู่ตานหลับสนิทแล้ว จึงแอบเข้ามาในห้องนอนของนางเจียงมู่ตานหลับสนิทลมหายใจสม่ำเสมอ นางหลับลึกยิ่งนักเพราะเดินทางมาเหน็ดเหนื่อย อีกทั้งวันนี้ยังดื่มสมุนไพรที่ช่วยให้นอนหลับสบายเข้าไป นางจึงหลับไม่รู้เนื้อรู้ตัวเมื่อเห็นว่านางหลับสนิทอ๋าวเยว่ก็นึกสนุก เขาค่อยๆถอดเสื้อผ้าของนางและของตนเองออกจนหมด เจียงมู่ตานขยับร่างกายเล็กน้อยแต่ยังไม่ได้บืมตาตื่นขึ้นมา อ๋าวเยว่ยกเรียวขางามของนางให้อ้าออก แสงเทียนภายในห้องส่องแสงสว่างให้เห็นกลีบกุหลาบสีแกงสดที่แย้มบานรอให้เขาเชยชม ชายหนุ่มโน้มใบหน้าเข้าไป ก่อนจะใช้ปลายลิ้นกระดกแลบเลียติ่งเกสรเม็ดงามของนางอย่างถี่ระรัวสตรีน้อยร่างบางส่งเสียงครางพลางย่นหัวคิ้ว อ๋าวเยว่ช้อนสายตาขึ้นมองนางเห็นว่ายังหลับสนิมก็รู้สึกพึงพอใจมากเขารู้สึกตื่นเต้นจริงๆ ที่ได้ทำเช่นนี้ชายหนุ่มแลบลิ้นเลียไปทั่วทุกซอกทุกมุมในร่องกลีบสวาทจนเปียกชุ่ม ก่อนจะส

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 12 ตามรัก

    เจียงมู่ตานนั่งรถม้ากลับจวนตระกูลเจียงในทันที เมื่อมาถึงนางก็สั่งห้ามไม่ให้สาวใช้เข้ามารบกวน แม้กระทั่งเจ้าหมานหมานเองก็ยังรับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่ไม่มั่นคงของเจ้านายตนเองเมื่อนั่งอยู่ในห้องเพียงลำพังแล้ว เจียงมู่ตานก็ยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว ในใจของนางยามนี้สับสนจนไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดอย่างไรดีที่ผ่านมาเขาหลอกลวงนางมาตลอดไม่ได้บอกความจริงกับนาง ทั้งที่เขารู้ว่านางไม่อยากเข้าวังหลวงแต่กลับยังหาทางมาผูกพันธ์กับนางไม่หยุดไม่หย่อนไม่ยอมตีตัวออกห่างแต่เมื่อคิดอีกมุมหนึ่งก็เป็นนางเองไม่ใช่หรือที่ไม่ถามไถ่เรื่องราวของเขาให้ดีเอง ปล่อยให้ความหลงใหลปิดบังดวงตาของตน ทั้งที่ควรจะสงสัยในตัวเขานานแล้ว แต่ไหนแต่ไรอาเยว่ของนางชอบทำตัวลึกลับ นางสืบหาต้นตอของเขาเท่าใดก็ไม่พบ นับเป็นเรื่องน่าแปลกเจียงมู่ตานถอนหายใจออกมา ในเมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว นางคงเลือกที่จะตัดความสัมพันธ์กับเขานางชอบเขามาก ชอบอย่างที่ไม่เคยชอบบุรุษใดมาก่อน แต่นางไม่อยากถูกผูกมัดเอาไว้ในวังหลวงไปชั่วขีวิต นางไม่อยากใช้ชีวิตเหมือนอยู่ในกรงขังตลอดเวลามิสู้ตัดใจเสียแล้วเดินหน้าต่อไป นางจะไม่ผูกกับบุรุษใดอีกและจะไม่แต่งงานชั

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 11 รู้ตัวตน

    เมื่อส่งนางกลับถึงจวนตระกูลเจียงแล้วเขาก็จูบที่หน้าผากของนางอีกครา ก่อนจะบอกลามุ่งหน้ากลับวังหลวงในทันทีอีกไม่กี่วันก็ใกล้จะถึงวันพระราชสมภพของอ๋าวเยว่แล้ว ยามนี้ในวังหลวงกำลังตระเตรียมงานอย่างคึกครื้น อวิ๋นไทเฮาถึงกับสั่งให้นางกำนัลขันทีเตรียมทุกอย่างให้ยิ่งใหญ่อลังการ แต่ว่าอ๋าวเยว่กลับไม่ได้สนใจเท่าใดนัก ด้านเจียงมู่ตานนั้นนางมีเวลาว่างอยู่ไม่น้อย จึงนั่งมองดูเครื่องประดับที่อาเยว่มอบให้ เมื่อเช้านี้บิดาส่งคนมาแจ้งนางว่าครั้งนี้จะต้องไปร่วมงานวันพระราชสมภพของฮ่องเต้ จะบิดพริ้วไม่ได้อีกเป็นอันขาด ครั้งก่อนตอนที่รู้ว่าบุตรสาวแกล้งล้มป่วยเพราะไม่อยากไปร่วมงานเลี้ยงชมบุปผาเขาก็โมโหแทบตาย เจียงมู่ตานเกือบจะหาเรื่องให้ตระกูลเจียงหัวขาดทั้งจวนโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูงเมื่อเห็นว่าปฎิเสธไม่ได้ นางเองก็ไม่คัดค้าน ครั้งนี้จึงเลือกแต่งกายธรรมดาสีสันเรียบง่ายไม่ฉูดฉาด ไม่ต้องแต่งกายงดงามไปแข่งกับสตรีน้อยเหล่านั้น ใครอยากจะเป็นฮองเฮาหรือนางสนมก็เรื่องของเขาเถอะ แต่นางไม่อยากเป็นสามวันต่อมาก็ถึงเวลาที่จะต้องไปเข้าร่วมงานวันพระราชสมภพของฝ่าบาทแล้วครั้งนี้มีเหล่าขุนนางและเหล่าฮูหยินรวมไปถึงคุณหนูแ

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 10 ชมจันทร์

    เมื่อออกจากเขตประตูเมืองหลวงได้แล้ว อ๋าวเยว่และเจียงมู่ตานก็ควบม้ามาตามทางเรื่อยๆ อย่างไม่รีบไม่ร้อน คนทั้งสองนั่งม้าตัวเดียวกันพลางใช้แสงจันทร์นำทางในคืนที่มืดมิดใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึงทะเลสาปแถวชายเมืองตามที่นางบอก อ๋าวเยว่กระโดดลงจากหลังม้าก่อนจะยื่นมือไปอุ้มนางลงมายืนบนพื้น คนทั้งสองเดินจับมือกันมาที่ริมทะเลสาป เดินมาไม่นานก็พบกับโขดหินก้อนใหญ่ที่สามารถนั่งชมพระจันทร์ได้ เจียงมู่ตานพาอ๋าวเยว่มานั่งที่โขดหิน ก่อนจะเงยหน้าไปมองพระจันทร์ที่แสนงดงามบนท้องฟ้าชาติก่อนนั้นตอนที่นางยังไม่ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของสตรีนางนี้ นางชอบมองดูพระจันทร์มาก ในโลกปัจจุบันมีสถานที่แสนงดงามมากมายที่สามารถนั่งชมพระจันทร์ได้ แต่เมืองโบราณแห่งนี้กลับมีน้อยยิ่งนัก จนกระทั่งนางได้มาเจอกับทะเลสาปแห่งนี้ ทุกคราที่มีเวลานางจะชอบมาที่นี่ "เจ้าชอบชมพระจันทร์หรือ"อ๋าวเยว่หันมาเอ่ยถามเจียงมู่ตาน หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบ"ใช่ ยามที่ได้มองดูพระจันทร์เช่นนี้ เหมือนกับได้ชมความงามที่แสนห่างไกล มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก แต่ข้ารู้สึกชอบมาก"นางยิ้มตาหยีพร้อมเอ่ยอย่างอารมณ์ดี รอยยิ้มของน

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 9 มาเยี่ยม

    เมื่อเจียงมู่ตานตื่นขึ้นมาในยามเช้าของอีกวันก็พบว่าอาเยว่ของนางได้หายไปเสียแล้ว หญิงสาวชินชาเสียแล้วกับการที่เขามักจะหายไปเช่นนี้ นางลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะบิดกายไปมาแล้วจึงรับไปล้างหน้าล้างตาและอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ ก่อนจะมารับมื้อเช้าที่ห้องโถง ตอนนี้สายมากแล้ว คาดว่าบิดาของนางออกไปจัดการงานธุระที่ค่ายทหารตั้งแต่เช้าตรู่แล้วหลังจากที่นางกินมื้อเช้าอิ่มแล้วก็รู้สึกเบื่อหน่าย จึงอุ้มหมานหมานเจ้าห่านคู่ใจออกไปเดินเล่นที่ด้านนอกด้วยกัน นางเดินเข้าออกร้านนั้นร้านนี้จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ร้านเครื่องประดับร้านหนึ่งเถ้าแก่ร้านเมื่อเห็นว่านางข้าเดินเข้ามาก็รีบออกมาต้อนรับขับสู้ด้วยความยินดี เจียงมู่ตานอุ้มห่านมองไปโดยรอบ พบว่าตอนนี้มีหญิงสาวหลายนางกำลังเลือกเครื่องประดับ เถ้าแก่ร้านบอกว่าช่วงนี้ร้านค้าค่อนข้างคึกคักไม่น้อยเลย เพราะว่าเหล่าสตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวงกำลังมาเลือกเครื่องประดับเพื่อเตรียมไปร่วมงานเลี้ยงวันพระราชสมภพของฝ่าบาทในอีกสามวันข้างหน้าเจียงมู่ตานเพียงพยักหน้ารับไม่ได้เอ่ยสิ่งใดมากนัก ฮ่องเต้จะเกิดวันใดวันไหนไม่ใช่เรื่องที่นางจะใส่ใจ หญิงสาวเดินไปเลือกเครื่องประดับก่อนจะ

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 8 สาสมใจยิ่งนัก

    เอ่ยจบเขาก็ให้นางนอนหงายลงไปบนเตียง ก่อนจะจับเรียวขางามให้อ้าออกจนกว้าง แล้วบดเบียดท่อนเนื้อท่อนเอ็นใหญ่ยาวเข้าไปในรูสวยจนมิดลำ เจียงมู่ตานส่งเสียงครางออกมาด้วยความเสียวสะท้านยามนี้นางทั้งเสียวและจุกแน่นเป็นอย่างมาก"อ๊ะ" "เป็นเช่นไร ซี๊ด ใหญ่คับรูเจ้าหรือไม่"เขาเอ่ยถามนางด้วยความเสียวสะท้าน เจียงมู่ตานเม้มริมฝีปาก ก่อนจะเอ่ยยั่วโทสะ"ก็ไม่เท่าใดนี่"ประโยคนี้เหมือนจุดไฟแห่งความบ้าคลั่งในใจของอ๋าวเยว่ให้รุนแรงขึ้น เขาส่งเสียงเหอะก่อนจะจับเรียวขางามขึ้นพาดบ่า และขยับสะโพกสอบกระแทกกระทั้นเข้าออกรูรักของนางอย่างรัวแรงตับตับตับ"อร๊าย เสียว""โอว แน่น"เขายื่นสองมือมาบีบขยำสองเต้างามของนางจนเกิดเป็นรอยแดงห้านิ้ว ในขณะที่ช่วงล่างก็ขยับไหวเร็วแรงไม่หยุดพักจนร่างบางระหงหัวสั้นหัวคลอน เตียงไม้โยกไหวจนเกิดเสียงลามก ภายในห้องนอนร้อนแรงไปด้วยไฟแห่งราคะ อ๋าวเยว่อุ้มเจียงมู่ตานมาที่โต๊ะอาหารซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง ก่อนจะให้นางนอนคว่ำหน้าไปบนโต๊ะ เจียงมู่ตานถูกปิดตานางจึงใช้สองมือปัดป่ายไปจับขอบโต๊ะเอาไว้แน่น อ๋าวเยว่สอดแทรกความเป็นชายเข้ามาในรูสวยก่อนจะจับรั้งเอวบางของนางเอาไว้แน่น พร้อมกับกระแทก

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 7 ลงโทษ

    หลังจากที่เจียงมู่ตานกินดื่มหาความสำราญจนหนำใจแล้ว นางก็อุ้มห่านคู่ใจเดินกลับมายังจวนจระกูลเจียงทันที ยามนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว แม่ทัพใหญ่เจียงที่เห็นบุตรสาวมีท่าทางคล้ายคนเมาก็ส่ายหน้าไปมาด้วยความเอือมระอา เขาจนปัญญาจะสั่งสอนเจียงมู่ตานแล้ว จึงสั่งให้คนทำน้ำแกงสร่างเมาไปมอบให้นางดื่มหนึ่งถ้วยหลังจากดื่มน้ำแกงสร่างเมาแล้ว เจียงมู่ตานก็ไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ วันนี้สุราที่นางดื่มเข้าไปค่อนข้างแรงทำให้หญิงสาวปวดหัวไม่น้อยเลยนางทิ้งกายลงนอนบนเตียงก่อนจะสั่งให้สาวใช้ออกไปด้านนอกให้หมด เมื่ออยู่คนเดียวแล้ว นางก็เงยหน้ามองหลังคาเตียงนอนอย่างเหม่อลอย อยู่ๆ ในใจก็คิดถึงอาเยว่ขึ้นมาหลายวันแล้วที่าเยว่ไม่มาหานาง คนของนางก็สืบหาที่อยู่ของเขาไม่พบและไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนนางคงจะบ้าไปแล้วจริงๆ ที่ไปหลงรักบุรุษที่ขายเรือนกายเพื่อหาเลี้ยงชีพ คนเช่นเขาจะมารักใครจริง เขารักเงินมากกว่าน่ะสิไม่ว่า"คนบัดซบ หายไปหลายวันแล้ว ข้าคิดถึงรู้หรือไม่อาเยว่"นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ก่อนจะลุกขึ้นมาเดินเล่นรอบๆ ห้องเบื่อแก้เหงา อยู่ๆ ก็มีเงาดำสายหนึ่งพุ่งเข้ามาทางหน้าต่างแลคว้าตัวนางไปกอดเอาไว้ จากนั้นก็จับนา

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 6 หึงหวง

    ต้นยามเหม่า ภายในห้องนอนของเจียงมู่ตานยังคงมีเสียงครางกระเซ่าดังลอดออกมาเป็นระยะ ตอนนี้นางกำลังนั่งคล่อมอยู่บนตัวเขา พร้อมกับขยับโยกกายขึ้นลงด้วยความเมามันส์ จวบจนฟ้าเกือบสางนางจึงล้มตัวลงนอนหลับไป อ๋าวเยว่ลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้าก่อนจะมองดูสตรีที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่นเตียงนอน เขายื่นมือไปดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้นางอย่างเบามือ แล้วจึงเร้นกายหายไปทางหน้าต่าง มุ่งหน้ากลับสู่วังหลวงทันทีเมื่อกลับมาถึงวังหลวง เขาก็เอาแต่ครุ่นคิดถึงประโยคที่นางเอ่ยกับเขานางบอกว่าไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ในวังหลวง ไม่ต้องการให้กฎระเบียบมากมายมาผูกมัดตัวนางเอาไว้ และนางไม่ต้องการเป็นสตรีของเขา แต่นางกลับชอบอาเยว่ที่เป็นชายงามในหอคณิกาชายมากกว่าดูเหมือนจะหาได้ยากยิ่งนักที่จะพบเจอสตรีที่ไม่สนใจในอำนาจที่เขามี นางเพียงอยากใช้ชีวิตราบเรียบกับคนที่นางรัก ครองรักกันไปจนแก่เฒ่าแล้วถ้าหากนางรู่ว่าเขาเป็นฮ่องเต้เล่านางจะไปจากเขาหรือไม่อยู่ๆ ความคิดสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของอ๋าวเยว่ เขากลัวว่านางจะหายไปจากเขา เขากลัวว่านางจะไม่กลับมาหาเขาอีกตลอดกาลไม่รู้ว่าความรู้สึกแปลกประหลาดมากมายนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ยามใด รู้ตัวอี

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 5 งานเลี้ยง

    ผ่านมาร่วมหลายวัน วังหลวงก็จัดงานเลี้ยงชมบุปผาขึ้น งานเลี้ยงครั้งนี้เหล่าคุณหนูจากตระกูลใหญ่ต่างตั้งตารอคอยที่จะได้เข้าร่วม พวกนางอยากจะมีอำนาจ มียศฐาบรรดาศักดิ์ แม้บางคนจะไม่หวังได้เป็นถึงฮองเฮามารดาของแผนดิน แต่ขอเพียงได้เป็นพระสนมที่ฝ่าบาททรงโปรดปราณก็นับว่าสุขสบายมากแล้วได้ยินผู้คนเล่าลือกันว่าฮ่องเต้องค์ใหม่รูปงามเหนือสามัญ พวกนางที่เป็นเพียงสตรีน้อยในห้องหอยังไม่เคยเห็นพระพักตร์ของเขาเลยสักครา ครั้งนี้หากได้พบหน้ากัน ก็อยากจะยลโฉมของเขาให้มากหน่อยงานเลี้ยงวันนี้จัดอย่างหรูหรางดงาม มีเหล่าคุณหนูจากจวนตระกูลสูงศักดิ์มากมายมาเข้าร่วม อวิ๋นไทเฮาและอดีตฮองเต้เมื่อได้เห็นสาวงามมากความสามารถก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก พวหเขาย่อมต้องช่วยบุตรชายคัดเลือกฮองเอาและสนมที่งามเพรียบพร้อมไม่นานนักอ๋าวเยว่ก็ปรากฏตัวในงานเลี้ยง ทันทีที่เขาปรากฏตัว เหล่าคุณหนูทุกคนก็ถึงกับตกตะลึงราวกับถูกตรึงเอาไว้ไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้ใบหน้าของเขาหล่อเหลาคมคาย แววตาฉายล้ำลึกชวนค้นหา ท่วงท่าดูองอาจสง่างามเหนือสามัญเหล่าสตรีน้อยต่างขวยเขินเอียงอายไม่กล้าสบตากับฮ่องเต้หนุ่มตรงๆ บางคนถึงกับวางแผนในใจว่าวันนี้จะ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status