Share

ตอนที่ 10

Author: 橙花
last update Last Updated: 2025-08-23 17:00:13

งานเลี้ยงไหว้พระจันทร์

รถม้าจวนตระกูลอิงไปถึงหน้าวังหลวงก่อนเวลาหนึ่งชั่วยาม พวกเรารู้ดีว่าการมาสายจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าขุนนางอย่างไร หม่านเซียงที่ไม่ค่อยออกงานสักเท่าไหร่และยังมีเพื่อนเพียงไม่กี่คนกังวลไม่น้อย ครั้งนี้นางต้องคอยดูแลบุตรสาวอย่างอิงฮวาที่วันนี้แต่งกายเรียบง่ายเกินไป ทั้งที่นางอยากให้อิงฮวาสวมชุดหรูหรากว่านี้ น่าเสียดายที่บุตรสาวนางบอกว่างานเลี้ยงไหว้พระจันทร์ไม่จำเป็นต้องสวมชุดเช่นนั้น

ขุนนางที่มาในงานต่างมองครอบครัวขุนนางอิงเป็นตาเดียวกัน โดยเฉพาะบุตรีที่พวกเขาทราบข่าวมาสักพักแล้วว่าเพิ่งรับกลับมาจากชนบท บุตรีขุนนางคนอื่นต่างมองอิงฮวาอย่างเหยียดหยามที่เห็นนางสวมชุดขาวและปักปิ่นเพียงชิ้นเดียว ทุกคนต่างคิดว่าไม่น่าแปลกใจที่เหตุใดนางจึงมาจากชนบท งานของชนชั้นสูงเช่นนี้ไม่เหมาะกับคนชั้นต่ำเช่นนางสักนิดเดียว เพียงแต่พวกเขาไม่กล้าพูดเสียงดังนักด้วยกลัวว่าจะมีเรื่องก่อนงานเริ่มจึงได้แต่ซุบซิบกันเบา ๆ

“ฮวาเอ๋อ เจ้าอย่าไปสนใจเสียงนกเสียงกาเลยนะ ในเมื่อลูกอยากแต่งชุดเช่นนี้พ่อกับแม่ก็จะสนับสนุนเจ้า” อิงเต๋อเป็นห่วงความรู้สึกบุตรีจึงเอ่ยขึ้น

“ลูกสวมชุดธรรมดาเช่นนี้ก็ดูสวยบริสุทธิ์ไปอีกแบบ ท่านพี่อย่าคิดมากเลยเจ้าค่ะ”

“ขอบคุณท่านพ่อ ท่านแม่ที่เป็นห่วงเจ้าค่ะ ข้าไม่เป็นไร”

“อีกนานกว่างานจะเริ่ม เจ้าไปเดินเล่นก่อนก็ได้นะ พ่อกับแม่จะไปทักทายสหายในงานสักหน่อย หรือเจ้าจะให้แม่เจ้าไปเป็นเพื่อน” อิงเต๋อถามลูกสาว

“ข้าไปเองได้เจ้าค่ะ ท่านพ่อกับท่านแม่ไปพบสหายตามสบาย สักพักข้าจะมาหาพวกท่านในงานเองเจ้าค่ะ” อิงฮวายิ้มบางตอบ

“ลูกระวังตัวด้วยนะฮวาเอ๋อ อย่าไปนานนักเล่า แม่เป็นห่วง”

“เจ้าค่ะท่านแม่ ลูกขอตัวก่อน” อิงฮวาย่อกายคารวะทั้งสองก่อนเดินจากไป

ท่ามกลางค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวง สายลมพัดเอื่อย ๆ ทำให้ต้นไม้ในสวนไหวเอนไปตามแรงลมเบา ๆ อิงฮวายืนพิงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งในมุมมืดของสวนและเหม่อมองไปบนท้องฟ้าอย่างคิดถึงบิดาของนาง บุตรีขุนนางหลายคนที่จับกลุ่มสนทนากันอยู่ไม่ไกลต่างชี้ชวนกันมองอิงฮวาที่ดูสง่างามและสูงส่งโดยไม่ต้องใช้เสื้อผ้าหรูหราหรือเครื่องประดับล้ำค่าบนตัวเลยแม้แต่น้อย สายตาเย็นชาของนางที่ไม่ต้องการคบหาใครทำให้คนกลุ่มนั้นไม่กล้าเข้าไปทักทาย

“องค์หญิงใหญ่เสด็จ!!!” เสียงขันทีขานขึ้นก่อนที่องค์หญิงเซียงจู่จิวจะเดินมาพร้อมจูเค่อหลิงสหายสนิทเข้ามาทักทายสหายภายในสวนดอกไม้ด้านข้าง

“ถวายบังคมองค์หญิงใหญ่พะย่ะค่ะ/เพคะ” ทุกคนที่จับกลุ่มกันต่างย่อกายคารวะ

อิงฮวาที่หลบอยู่ในมุมมืดก็ย่อกายคารวะตามธรรมเนียมเช่นกัน นางมองจูเค่อหลิงอย่างเกลียดชังแว่บหนึ่ง ใช่ว่านางจะไม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดกับจวนตระกูลไช่ใครเป็นต้นเหตุทำให้เกิดขึ้น เพียงแต่นางยังไม่มีหลักฐานเอาผิดมหาเสนาบดีเท่านั้น

องค์หญิงใหญ่ทักทายสหายที่คุ้นหน้าคุ้นตาไม่นาน ก่อนที่จูเค่อหลิงจะกระซิบบอกองค์หญิงถึงการมีอยู่ของอิงฮวา นางนึกหมั่นไส้อิงฮวาที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้คนเดียวโดยไม่สนใจใครจึงอยากแสดงอำนาจให้ทุกคนเห็นว่าสตรีอันดับหนึ่งอย่างนางไม่ต้องการสหายบ้านนอกอย่างอิงฮวา

“เจ้าเป็นใคร?” เซียงจู่จิวหันไปตะโกนถามอิงฮวาที่ยืนเหม่อมองท้องฟ้าอยู่

“ถวายบังคมองค์หญิงใหญ่ หม่อมฉันอิงฮวา บุตรีของขุนนางอิงเต๋อเพคะ” อิงฮวาย่อกายคารวะเต็มพิธีการ นางแปลกใจไม่น้อยที่จู่ ๆ องค์หญิงใหญ่ก็ตรัสถาม

“อ้อ ได้ข่าวมาสักพักแล้วว่าขุนนางอิงไปรับบุตรีจากชนบทมาอยู่เมืองหลวง”

อิงฮวาไม่ได้ตอบกลับ นางเพียงแต่ยืดตัวขึ้นและพยักหน้ารับคำองค์หญิงที่กำลังมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเหยียดหยาม

“ไม่คิดว่าขุนนางอิงจะมีบุตรีที่ไม่รู้ความเช่นนี้ งานเลี้ยงในวังแต่บุตรีกลับแต่งกายไม่เหมาะสม องค์หญิงคิดเห็นเช่นไรเพคะ” จูเค่อหลิงกล่าวอย่างไม่ไว้หน้าอิงฮวา

“เจ้าเหตุใดจึงได้แต่งกายเช่นนี้? หรือเจ้าดูถูกว่างานเลี้ยงในวังเป็นเพียงงานรื่นเริงเหมือนในชนบทเท่านั้น” เซียงจู่จิวตรัสขึ้นอย่างต้องการหาเรื่องหญิงสาวตรงหน้าที่ดูอย่างไรก็ไม่สบอารมณ์ของพระองค์

“กราบทูลองค์หญิง วันนี้เป็นเพียงงานเลี้ยงไหว้พระจันทร์ หม่อมฉันแต่งกายเรียบง่ายเพื่อเฉลิมฉลองตามราชประเพณี และไม่คิดว่างานเลี้ยงวันนี้จะห้ามมิให้แต่งกายเช่นนี้เพื่อเข้าร่วมเพคะ อีกทั้งราชสำนักไม่ได้ต้องการให้ทุกคนอวยพรให้แคว้นและราษฎรอยู่เย็นเป็นสุข ไม่ฟุ่มเฟือยหรอกหรือเพคะ” อิงฮวาตอบกลับด้วยใบหน้าเฉยชา

“บังอาจ!!! นี่เจ้ากล้าต่อว่าองค์หญิงใหญ่หรือ?” จูเค่อหลิงอาศัยโอกาสเพื่อจะให้อิงฮวาถูกองค์หญิงลงโทษให้ได้

“หม่อมฉันมิกล้า ขอองค์หญิงใหญ่โปรดพิจารณาเพคะ” อิงฮวาย่อกายลงอีกครั้ง

“ฮึ! ข้าว่าเจ้ากล้ามากนะอิงฮวา ข้าเป็นถึงองค์หญิงใหญ่จึงต้องแต่งกายให้เหมาะสมกับตำแหน่ง แต่เจ้ากลับหาว่าข้าฟุ่มเฟือยเช่นนั้นหรือ?”

“เจ้าคงคิดว่าเป็นบุตรีขุนนางแล้วจะสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงของชนชั้นสูงเช่นนี้ได้ง่าย ๆ สินะอิงฮวา ข้าจะทำให้เจ้าดูว่าการอยู่ในสังคมของชนชั้นสูงเป็นอย่างไร”

จูเค่อหลิงเดินไปหยิบถ้วยชาจากนางกำนัลที่รอถวายให้องค์หญิง จากนั้นจึงเดินไปทางที่อิงฮวากำลังยืนมองนางอย่างเย็นชา แต่ก่อนที่จูเค่อหลิงจะสาดชาใส่อิงฮวา เสียงชายหนุ่มผู้หนึ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน

“เจ้าจะทำอะไรคุณหนูจูเค่อ!!!” เซียงเซียวที่ยืนดูเหตุการณ์ไกล ๆ ร่วมกับสหายอย่างไป๋จิ่นหลินรีบเข้ามาปกป้องอิงฮวาที่พระองค์รู้สึกคุ้นเคยแปลก ๆ

“ถวายบังคมองค์ชายรอง/เสด็จพี่รอง เพคะ/พะย่ะค่ะ” ทุกคนในบริเวณนั้นรีบย่อกายทำความเคารพเซียงเซียวด้วยความหวาดกลัว ใครไม่รู้บ้างว่าองค์ชายรองเกลียดความอยุติธรรมมากแค่ไหน หากใครกล้าก่อเรื่องต่อหน้าพระพักตร์ องค์ชายรองไม่เคยปล่อยไปสักครั้งเดียว ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นบุตรหลานของใคร

“พวกเจ้าตามสบาย เราถามว่าเจ้าจะทำอะไรคุณหนูจูเค่อ!!!” เซียงเซียวตวาดว่า

“หม่อม… หม่อมฉันเปล่าเพคะองค์ชายรอง” จูเค่อหลิงที่แอบชอบองค์ชายรองได้แต่ก้มหน้าลงอย่างไม่กล้าสบสายพระเนตร นางเจ็บใจที่ไม่ได้สร้างความอับอายให้อิงฮวาที่ยังคงยืนมองนางด้วยสายตานิ่งเรียบ

“ฮึ! อย่าให้เรารู้ว่าพวกเจ้ารังแกคนก็แล้วกัน ไม่เช่นนั้นเราไม่ปล่อยพวกเจ้าไว้แน่”

“พวกกระหม่อมทราบแล้วเพคะ/พะย่ะค่ะ” ทุกคนรีบตอบรับคำองค์ชายรอง

“แม่นางเป็นอะไรหรือไม่?” เซียงเซียวหันไปถามอิงฮวา

“หม่อมฉันสบายดีเพคะ ขอบพระทัยองค์ชายที่ช่วยเหลือ”

“น้องสาว เจ้าชื่ออะไร?” ไป๋จิ่นหลินยิ้มบางพร้อมเอ่ยถามขึ้น เขาเป็นสหายสนิทขององค์ชายรองจึงได้รับเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วย

“ข้าชื่ออิงฮวาเจ้าค่ะ ไม่ทราบคุณชายมีนามว่าอะไร?” อิงฮวาตอบกลับอย่างมีมารยาท

“เรียกข้าพี่ชายไป๋ก็ได้ ข้าไป๋จิ่นหลิน สหายสนิทขององค์ชายรอง”

“ฮึ! พวกเจ้าจะคุยกันอีกนานหรือไม่ รีบเข้าไปในงานได้แล้ว” องค์ชายรองที่ถูกอิงฮวาเมินเฉยได้แต่ฮึดฮัดและเรียกสหายเข้าไปในงานอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

“โอ้ พระองค์จะรีบร้อนไปใย กระหม่อมอยากคุยกับน้องสาวอิงต่อ” ไป๋จิ่นหลินชอบกลั่นแกล้งองค์ชายรอง เขาเห็นแต่แรกว่าองค์ชายรองสนใจสตรีนางนี้ ไม่เช่นนั้นพระองค์คงไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยนางเป็นแน่ ถึงแม้ไป๋จิ่นหลินจะรู้ดีว่าอิงฮวาเป็นใครจากสายข่าวที่เขาให้คอยติดตามนางมาตลอดตั้งแต่นางเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ในยามที่เดินทางไปค้าขายเมื่อหลายปีก่อน ไป๋จิ่นหลินรู้ว่านางคงจำเขาไม่ได้แล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 10

    งานเลี้ยงไหว้พระจันทร์รถม้าจวนตระกูลอิงไปถึงหน้าวังหลวงก่อนเวลาหนึ่งชั่วยาม พวกเรารู้ดีว่าการมาสายจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าขุนนางอย่างไร หม่านเซียงที่ไม่ค่อยออกงานสักเท่าไหร่และยังมีเพื่อนเพียงไม่กี่คนกังวลไม่น้อย ครั้งนี้นางต้องคอยดูแลบุตรสาวอย่างอิงฮวาที่วันนี้แต่งกายเรียบง่ายเกินไป ทั้งที่นางอยากให้อิงฮวาสวมชุดหรูหรากว่านี้ น่าเสียดายที่บุตรสาวนางบอกว่างานเลี้ยงไหว้พระจันทร์ไม่จำเป็นต้องสวมชุดเช่นนั้นขุนนางที่มาในงานต่างมองครอบครัวขุนนางอิงเป็นตาเดียวกัน โดยเฉพาะบุตรีที่พวกเขาทราบข่าวมาสักพักแล้วว่าเพิ่งรับกลับมาจากชนบท บุตรีขุนนางคนอื่นต่างมองอิงฮวาอย่างเหยียดหยามที่เห็นนางสวมชุดขาวและปักปิ่นเพียงชิ้นเดียว ทุกคนต่างคิดว่าไม่น่าแปลกใจที่เหตุใดนางจึงมาจากชนบท งานของชนชั้นสูงเช่นนี้ไม่เหมาะกับคนชั้นต่ำเช่นนางสักนิดเดียว เพียงแต่พวกเขาไม่กล้าพูดเสียงดังนักด้วยกลัวว่าจะมีเรื่องก่อนงานเริ่มจึงได้แต่ซุบซิบกันเบา ๆ“ฮวาเอ๋อ เจ้าอย่าไปสนใจเสียงนกเสียงกาเลยนะ

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 9

    “คารวะนายท่าน ฮูหยิน คุณหนูขอรับ/เจ้าค่ะ” บ่าวไพร่ทั้งหมดกล่าวพร้อมกับพ่อบ้านใหญ่เสียงดังไปทั่วทั้งจวน“พวกเจ้าอย่าทำให้ลูกสาวข้าตกใจสิ นางอยู่ในชนบทมานาน ไม่คุ้นชินกับคนเยอะ ๆ อิงฮวาตามพ่อกับแม่ไปดูเรือนของเจ้ากัน พ่อสั่งคนให้จัดการเอาไว้อย่างดีเลย”“ใช่แล้วล่ะ พวกเจ้ากลับไปทำงานกันเถอะ ข้าจะพาลูกไปดูห้องของนางเอง ของที่ซื้อมาบนรถม้าก็นำไปให้คุณหนูที่เรือนด้วยเล่า” หม่านเซียงบอกทุกคนที่มาต้อนรับด้วยรอยยิ้มเปี่ยมเมตตา“ขอรับ/เจ้าค่ะ นายท่าน ฮูหยิน” ทุกคนยิ้มรับคำ ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานอิงฮวาเดินตามหลังท่านอาทั้งสองที่ตอนนี้กลายเป็นพ่อแม่ของนางไปอย่างช้า ๆ นางมองดูจวนขนาดกลางที่ไม่ได้หรูหราอะไรตรงหน้าก็ได้แต่ถอนหายใจ ไม่คิดว่าหลังจากอยู่หมู่บ้านเปียนจิ่วมานาน นางจะมีโอกาสได้เข้ามาอยู่ในจวนที่สุขสบายไม่ต่างจากครั้งยังเด็กอีกครั้งเรือนของอิงฮวาอยู่ติดกับเรือนหลัก ขนาดเรือนหลังนี

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 8

    สามวันต่อมาวันนี้มีรถม้าคันหนึ่งมาที่บ้านตระกูลไช่ในหมู่บ้าน ภายในเป็นอิงเต๋อและฮูหยินของเขาอย่างหม่านเซียงเดินทางมาด้วย พวกเขาพอได้รับจดหมายจากไช่เหมยฮวาเมื่อสามวันก่อนต่างดีใจมาก ยิ่งรู้ว่าพวกนางยังอยู่ดีมีสุข พวกเขาก็อยากรีบรับนางกลับจวนและทำตามแผนการในจดหมายที่ไช่เหมยฮวาบอกเอาไว้ ไม่ว่าวันหน้าจะเกิดสิ่งใดขึ้นกับตระกูลของพวกเขา ทั้งสองที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อไช่ไท่ฟู่อย่างลับ ๆ มาตลอดตั้งแต่อยู่ในราชสำนักก็คิดจะช่วยไช่เหมยฮวาอย่างเต็มกำลัง“คารวะท่านอาอิงทั้งสองเจ้าค่ะ/ขอรับ” ไช่เหมยฮวาและไช่ซิวค้อมกายคำนับ“พวกเจ้าไม่ต้องมากพิธี ไม่เจอกันไม่กี่ปี พวกเจ้าต่างเป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้ว” อิงเต๋อตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม“น้องอิงเต๋อกับน้องหม่านเซียงรีบนั่งลงก่อนเถอะ” หม่าซูเรียกทั้งสองให้นั่งคุยกันก่อนที่พวกเขาจะรับบุตรสาวของนางเข้าไปในเมืองหลวง“ขอรับ/เจ้าค่ะ พี่หญิงหม่า&r

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 7

    10 ปีต่อมาไช่เหมยฮวาที่โตเป็นสาวแล้วเตรียมตัวเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมมารดาและน้องชายที่เคยตัวเล็กแต่ตอนนี้สูงกว่านางไปแล้วในเวลาเพียงไม่กี่ปี สุขภาพของน้องชายนางก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่เขาอายุครบ 10 ขวบ ทำให้พวกนางไม่ต้องเสียเงินหาซื้อยามาบำรุงเขาอีก ด้วยความสามารถของไช่เหมยฮวาและไช่ซิว ทำให้ตอนนี้ครอบครัวพวกนางมีเงินมากพอที่จะหาซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ ในเมืองหลวงอดีตพ่อบ้านอย่างซู่หยงกับคนอื่น ๆ ก็เก็บหอมรอมริบมาตลอดเช่นกัน พวกเขายืนยันที่จะติดตามไปรับใช้ไช่เหมยฮวาที่เมืองหลวง ถึงแม้พวกเขาจะเคยเป็นนักโทษที่ถูกเนรเทศมาก่อน แต่ด้วยหลายปีมานี้ฮ่องเต้มีราชโองการยกเว้นโทษของคนที่เคยถูกเนรเทศอย่างพวกเขาแล้ว ทุกคนจึงตั้งใจจะกลับไปช่วยเหลือคุณหนูทวงความยุติธรรมคืนให้นายท่านอย่างไช่ไท่ฟู่ พวกเขารู้ดีว่าการไปครั้งนี้อันตรายไม่น้อย แต่พวกเขาก็ไม่คิดจะทอดทิ้งเจ้านาย หากคุณหนูทำสำเร็จ พวกเขาก็จะลืมตาอ้าปากและสามารถเดินยืดอกอย่างสง่าผ่าเผยเหมือนในอดีตได้ซู่หยงทำหน้าที่หารถม้าให

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 6

    ลุงปันกับคนอื่น ๆ มาถึงในเวลาต่อมา พวกเขาเห็นเสี่ยวเฉากำลังขุดกลางลำธารแห้งขอดอยู่ก็พากันสงสัย“คุณหนู เหตุใดมาที่นี่เล่าขอรับ” ลุงปันรีบถามด้วยความเป็นห่วง“ข้ามาหาแหล่งน้ำให้พวกเราตักกลับบ้านเจ้าค่ะ พวกท่านไปช่วยพี่เฉาขุดได้หรือไม่”“หืม? เหตุใดต้องขุดลำธารแห้งนี่เล่าขอรับ” เสี่ยวเหอถามอย่างสงสัย“พี่เหอเห็นหรือไม่ว่ามีน้ำผุดออกมาจากหลุมที่พี่เฉากำลังขุดอยู่น่ะเจ้าค่ะ นั่นเป็นตาน้ำในลำธารนี้ ถ้าเราขุดลึกลงไป อาจจะมีน้ำให้พวกเราเอาไว้กินใช้ได้สักพัก”“ทุกคนวางตะกร้าลงก่อนแล้วไปช่วยเสี่ยวเฉาขุด จะได้เร็วขึ้น เสี่ยวโจ เสี่ยวฉู่ ไปหาไม้มาทำกระบอกใส่น้ำให้ทุกคนเร็ว ประเดี๋ยวหากกลับช้า ทุกคนจะเป็นห่วง”สิ้นเสียงลุงปัน ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ทันที ส่วนลุงปันก็ไปหาไม้มาทำถังน้ำขนาดย่อมเช่นกัน ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าน้ำจะมีมากพอให้ใส่หรือไม่ อ

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 5

    “เจ้าดูต้นไม้เหล่านี้สิ ข้าว่าบนภูเขาลูกนี้คงไม่มีสิ่งใดให้พวกเรานำไปเป็นอาหารได้แน่เลย ไม่เช่นนั้นชาวบ้านในหมู่บ้านคงขึ้นเขากันมาไม่ต่างกับเรา” เสี่ยวซางที่มากับกลุ่มคุณหนูเอ่ยขึ้นกับสหายข้าง ๆ“ไหน ๆ ก็ขึ้นมาแล้ว อย่างไรก็ลองติดตามคุณหนูดูก่อนเถอะ” เสี่ยวเหอหันไปบอกสหายของตน“พวกเจ้าอย่าได้พูดมาก ในเมื่อคุณหนูต้องการขึ้นมาที่นี่ พวกเรามีหน้าที่ปกป้องคุณหนูให้ดีก็พอแล้ว ส่วนอาหารจะหาได้หรือไม่ก็คงต้องแล้วแต่วาสนา” ลุงปันหันไปเอ็ดเด็กหนุ่มทั้งสองซึ่งพูดคุยกันอย่างไม่ระวัง เขากลัวว่าคุณหนูจะหมดกำลังใจไช่เหมยฮวาที่ได้ยินเสียงพวกเขาไม่ได้กล่าวว่าอะไร นางเข้าใจดีว่าสภาพพื้นที่แห้งแล้งย่อมยากต่อการหาอาหาร เพียงแต่นางยังคงจำได้ดีว่าในตำรานั้นเคยบอกเอาไว้ว่าที่ใต้พื้นดินแห้งแล้งอาจมีหัวเผือก หัวมันใช้ประทังความหิวได้ แม้ว่าต้นมันจะแห้งเหี่ยวตายไปบนดิน แต่ใต้ดินยังมีหัวของพวกมันให้กินได้อยู่ นางจึงตั้งใจดูว่าบริเวณใดน่าจะมีหัวเผือก หัวมันอยู่บ้าง ไช่เหมยฮวาจำรูปใบของหัวพวกนี้ได้อย่างขึ้นใจ นางเดินขึ้นเขาไปได้ไกลพอสมควร ก่อนจะพบเห็นว่าพื้นที่ป่าด้านซ้ายดูจะมีความชื้นจนนางรับรู้ได้อยู่บ้าง“พว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status