Share

ตอนที่ 9

Author: 橙花
last update Last Updated: 2025-08-23 12:00:36

“คารวะนายท่าน ฮูหยิน คุณหนูขอรับ/เจ้าค่ะ” บ่าวไพร่ทั้งหมดกล่าวพร้อมกับพ่อบ้านใหญ่เสียงดังไปทั่วทั้งจวน

“พวกเจ้าอย่าทำให้ลูกสาวข้าตกใจสิ นางอยู่ในชนบทมานาน ไม่คุ้นชินกับคนเยอะ ๆ อิงฮวาตามพ่อกับแม่ไปดูเรือนของเจ้ากัน พ่อสั่งคนให้จัดการเอาไว้อย่างดีเลย”

“ใช่แล้วล่ะ พวกเจ้ากลับไปทำงานกันเถอะ ข้าจะพาลูกไปดูห้องของนางเอง ของที่ซื้อมาบนรถม้าก็นำไปให้คุณหนูที่เรือนด้วยเล่า” หม่านเซียงบอกทุกคนที่มาต้อนรับด้วยรอยยิ้มเปี่ยมเมตตา

“ขอรับ/เจ้าค่ะ นายท่าน ฮูหยิน” ทุกคนยิ้มรับคำ ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงาน

อิงฮวาเดินตามหลังท่านอาทั้งสองที่ตอนนี้กลายเป็นพ่อแม่ของนางไปอย่างช้า ๆ นางมองดูจวนขนาดกลางที่ไม่ได้หรูหราอะไรตรงหน้าก็ได้แต่ถอนหายใจ ไม่คิดว่าหลังจากอยู่หมู่บ้านเปียนจิ่วมานาน นางจะมีโอกาสได้เข้ามาอยู่ในจวนที่สุขสบายไม่ต่างจากครั้งยังเด็กอีกครั้ง

เรือนของอิงฮวาอยู่ติดกับเรือนหลัก ขนาดเรือนหลังนี้ใหญ่กว่าบ้านที่นางเพิ่งจากมาถึงสองเท่า บ่าวสองคนที่หม่านเซียงเตรียมเอาไว้ให้คอยดูแลอิงฮวายืนรออยู่ที่ประตูเรือนพร้อมรอยยิ้ม

“คารวะนายท่าน ฮูหยิน คุณหนูเจ้าค่ะ” กงซิ่วและกงเซียนย่อกายคำนับ

“พวกเจ้าดูแลคุณหนูให้ดี เสื้อผ้ากับเครื่องประดับที่อาไจ่กับอาจงกำลังยกมาก็นำไปเก็บให้คุณหนูด้วยเล่า” หม่านเซียงเอ่ยบอกทั้งสองก่อนจะจูงมืออิงฮวาเข้าไปในเรือน

“เจ้าค่ะฮูหยิน” ทั้งสองรับคำพร้อมกัน

อิงฮวาไม่ได้กล่าวสิ่งใดนอกจากยิ้มบางให้บ่าวทั้งสอง นางไม่อยากสนิทกับใครง่าย ๆ ด้วยเพราะภารกิจการสืบหาความจริงในครั้งนี้เป็นความลับ ทุกสิ่งที่นางกำลังจะทำจึงต้องระมัดระวังให้มาก มีเพียงท่านอาทั้งสองเท่านั้นที่นางสนิทใจ

“ชอบเรือนหลังนี้หรือไม่ลูก พ่อนำตำราที่น่าสนใจมาไว้ในเรือนให้เจ้าด้วย เวลาว่างเจ้าจะได้นั่งอ่านเพื่อเพิ่มความรู้”

“ชอบเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านพ่อ ลูกจะตั้งใจศึกษาตำราให้ดี”

“ท่านพี่นี่ก็กระไร ลูกเพิ่งมาถึงเหนื่อย ๆ ยังจะให้นางอ่านตำราอีก” หม่านเซียงเอ็ดสามีอย่างหมั่นไส้ นางรู้ดีว่าเขาอยากให้บุตรีเก่งกาจที่สุดในเมืองหลวงเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้ตระกูลอิง นางเองก็เช่นกันที่อยากให้อิงฮวากลายเป็นสตรีอันดับหนึ่งในเมืองหลวงแทนที่จูเค่อหลิงที่หน้าไหว้หลังหลอกผู้นั้น

“ฮ่า ฮ่า พ่อขอโทษนะลูก เอาไว้เจ้าว่างค่อยอ่านก็แล้วกัน รอบ่าวนำเสื้อผ้ากับเครื่องประดับมาให้เจ้าก่อน เจ้าค่อยอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วไปกินข้าวกับพ่อแม่ที่เรือนใหญ่”

“ลูกทราบแล้วเจ้าค่ะ ท่านพ่อกับท่านแม่ไปพักก่อนเถิด ประเดี๋ยวข้าจะให้บ่าวนำทางไปที่ห้องอาหารเจ้าค่ะ”

อิงเต๋อกับหม่านเซียงแนะนำเรือนอีกเล็กน้อยก่อนพากันเดินออกจากเรือนไปเพื่อรออิงฮวามาทานมื้อค่ำด้วยกัน ระหว่างทางทั้งสองยังวางแผนการให้บุตรีที่เพิ่งได้รับมาหลายอย่าง พวกเขาไม่มีทายาทเพราะร่างกายหม่านเซียงอ่อนแอ อิงเต๋อที่รักฮูหยินมากจึงไม่บังคับให้นางตั้งครรภ์ พวกเขาพบไช่เหมยฮวาตอนไปเยี่ยมหม่าซูเมื่อสิบกว่าปีก่อน สองครอบครัวจึงสาบานกันว่าจะให้ไช่เหมยฮวามาเป็นบุตรบุญธรรมตระกูลอิงเพื่อสืบทอดในอนาคต

กงซิ่วกับกงเซียนช่วยกันจัดเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ได้รับมาจากบ่าวชายทั้งสองทันที จากนั้นพวกนางก็เตรียมอ่างอาบน้ำให้คุณหนู

“พวกเจ้าไม่ต้องช่วยข้าอาบหรอก ข้าเคยชินกับการอาบน้ำเอง”

“เจ้าค่ะคุณหนู” ทั้งสองรับคำก่อนออกจากห้องอาบน้ำไปรอแต่งตัวให้นางด้านนอก

ไช่เหมยฮวาใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน จากนั้นบ่าวทั้งสองก็ช่วยกันแต่งตัวและใส่เครื่องประดับให้นางไม่น้อย

“พวกเจ้าไม่ต้องปักปิ่นให้ข้าเยอะปานนี้หรอก เราอยู่ในจวน ไม่ได้ไปข้างนอกเสียหน่อยนะ” อิงฮวาหันไปบอกบ่าวทั้งสองให้นำปิ่นออกอีกหลายอัน

“ได้เจ้าค่ะคุณหนู คราวหน้าพวกเราจะจำเอาไว้เจ้าค่ะ”

“ขอบใจพวกเจ้ามาก เสร็จแล้วก็พาข้าไปหาท่านพ่อท่านแม่ที่ห้องอาหารเถอะ ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกท่านจะหิวกันหรือยัง”

“อีกสองก้านธูปจะถึงเวลาอาหารค่ำเจ้าค่ะ นายท่านกับฮูหยินน่าจะยังไม่หิว”

“อืม พวกเจ้านำทางเถอะ” อิงฮวาลุกขึ้นจากโต๊ะเครื่องแป้งและเดินตามหลังบ่าวไป

ห้องอาหารในเรือนหลักอยู่ไม่ไกลจากเรือนของอิงฮวานัก พวกนางใช้เวลาเดินไม่ถึงหนึ่งก้านธูปเสียด้วยซ้ำ

“ถึงแล้วเจ้าค่ะคุณหนู พวกเราจะกลับมารอคุณหนูหลังทานเสร็จที่นี่นะเจ้าคะ”

“ได้ ขอบใจพวกเจ้ามาก” อิงฮวาพยักหน้ารับคำบ่าวคนสนิทที่หม่านเซียงจัดให้

ในห้องอาหารตอนนี้อิงเต๋อกับหม่านเซียงกำลังนั่งคุยกันหลังจากเปลี่ยนชุดสบาย ๆ สำหรับทานอาหารค่ำกับลูกสาวคนใหม่ของพวกเขา เมื่อเห็นอิงฮวามาถึง ทั้งสองกวักมือเรียกนางพร้อมรอยยิ้ม

“รีบมานั่งนี่สิลูก แม่ให้คนทำอาหารหลายอย่างที่เจ้าชอบไว้ให้”

“ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ ความจริงพวกท่านไม่ต้องลำบาก ข้ากินอะไรก็ได้เจ้าค่ะ”

“เพ้ย! ลูกสาวพ่อต้องกินของที่เจ้าชอบสิ อย่าขัดใจพ่อกับแม่เลยน่า มา ๆ ลองชิมนี่ดู”

ด้วยความเห่อบุตรีคนใหม่ ทำให้อิงฮวาได้แต่ยิ้มแหยและยอมรับการดูแลจากท่านอาทั้งสอง นางไม่คิดว่าพวกท่านจะเห็นนางเป็นลูกสาวตัวเองจริง ๆ ถึงแม้เมื่อตอนนางยังเด็ก นางจะรู้ว่าพวกท่านรักนางมากแค่ไหนก็เถอะ แต่ในเมื่อพวกท่านเมตตานางเช่นนี้ อิงฮวาก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำให้พวกท่านขายหน้าที่มีบุตรีอย่างนางมาอยู่ในตระกูล

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

ข่าวเรื่องบุตรีขุนนางอาลักษณ์อย่างอิงเต๋อแพร่ไปทั่วเมืองหลวง มีหลายคนอยากพบหน้าบุตรีลึกลับผู้นี้ของเขา เพียงแต่อิงเต๋ออ้างว่าบุตรสาวยังไม่คุ้นเคยกับคนในเมืองหลวง เขาจึงไม่ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับบุตรสาว

“ขุนนางอิง งานเลี้ยงไหว้พระจันทร์อีกไม่กี่วันที่จะถึง ท่านจะพาบุตรสาวเข้าร่วมงานด้วยหรือไม่เล่า” ขุนนางในกรมอาลักษณ์ผู้หนึ่งถามสหาย

“แน่นอนสิ พวกเจ้าจะได้เห็นบุตรีคนดีของข้าเสียที ข้าเบื่อฟังพวกเจ้ามาหลายวันแล้ว”

“ชิ ใครใช้ให้ท่านปิดบังนางเล่า แม้แต่หน้าตาก็ไม่แพร่งพรายให้พวกเรารู้เลยสักนิด”

“ฮ่า ฮ่า ใครใช้ให้ลูกสาวข้าน่ารักกันเล่า ข้าก็หวงน่ะสิ” อิงเต๋อกล่าวอย่างอวดโอ่ ยิ่งทำให้สหายในกรมหมั่นไส้เขาไม่น้อย พวกเขาอยากรู้ว่านางจะน่ารักจริงหรือไม่

อิงเต๋อลาสหายหลังเลิกงานกลับจวนอย่างอารมณ์ดี หม่านเซียงจึงซักถามเขาจนได้ความว่าอีกสามวันพวกนางจะต้องเข้าร่วมงานไหว้พระจันทร์ที่วังหลวงจัดขึ้นทุกปีตามราชประเพณี

“ท่านพี่ไปบอกพวกเขาทำไมว่าลูกเราน่ารัก หากพวกเขาคิดจะเกี่ยวดองกับเราจะทำอย่างไรกันเล่าเจ้าคะ” หม่านเซียงบ่นสามี

“เฮอะ! บุตรสาวข้าเสียอย่าง ข้าไม่ยอมให้บุรุษใดเข้าใกล้นางได้ง่าย ๆ หรอกน่า”

“ท่านพี่ก็พูดไป อย่าลืมว่างานนี้เป็นงานใหญ่ของราชวงศ์ พวกเราจะทำอะไรผิดพลาดไม่ได้นะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นลูกเราจะลำบาก”

“เจ้าไม่ต้องกังวลไปน่า พี่จะดูแลพวกเจ้าให้ดี ว่าแต่วันนี้เจ้ากับลูกทำสิ่งใดกัน”

“ข้าพาลูกจัดดอกไม้เจ้าค่ะ นางทำได้ดีมากเลยทีเดียว ข้าสอนนางไม่กี่วันเองนะเจ้าคะ”

สองสามีภรรยาพูดถึงอิงฮวากันอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะออกไปรอบุตรสาวที่ห้องอาหารเพื่อทานอาหารค่ำร่วมกันเหมือนทุกวัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 10

    งานเลี้ยงไหว้พระจันทร์รถม้าจวนตระกูลอิงไปถึงหน้าวังหลวงก่อนเวลาหนึ่งชั่วยาม พวกเรารู้ดีว่าการมาสายจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าขุนนางอย่างไร หม่านเซียงที่ไม่ค่อยออกงานสักเท่าไหร่และยังมีเพื่อนเพียงไม่กี่คนกังวลไม่น้อย ครั้งนี้นางต้องคอยดูแลบุตรสาวอย่างอิงฮวาที่วันนี้แต่งกายเรียบง่ายเกินไป ทั้งที่นางอยากให้อิงฮวาสวมชุดหรูหรากว่านี้ น่าเสียดายที่บุตรสาวนางบอกว่างานเลี้ยงไหว้พระจันทร์ไม่จำเป็นต้องสวมชุดเช่นนั้นขุนนางที่มาในงานต่างมองครอบครัวขุนนางอิงเป็นตาเดียวกัน โดยเฉพาะบุตรีที่พวกเขาทราบข่าวมาสักพักแล้วว่าเพิ่งรับกลับมาจากชนบท บุตรีขุนนางคนอื่นต่างมองอิงฮวาอย่างเหยียดหยามที่เห็นนางสวมชุดขาวและปักปิ่นเพียงชิ้นเดียว ทุกคนต่างคิดว่าไม่น่าแปลกใจที่เหตุใดนางจึงมาจากชนบท งานของชนชั้นสูงเช่นนี้ไม่เหมาะกับคนชั้นต่ำเช่นนางสักนิดเดียว เพียงแต่พวกเขาไม่กล้าพูดเสียงดังนักด้วยกลัวว่าจะมีเรื่องก่อนงานเริ่มจึงได้แต่ซุบซิบกันเบา ๆ“ฮวาเอ๋อ เจ้าอย่าไปสนใจเสียงนกเสียงกาเลยนะ

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 9

    “คารวะนายท่าน ฮูหยิน คุณหนูขอรับ/เจ้าค่ะ” บ่าวไพร่ทั้งหมดกล่าวพร้อมกับพ่อบ้านใหญ่เสียงดังไปทั่วทั้งจวน“พวกเจ้าอย่าทำให้ลูกสาวข้าตกใจสิ นางอยู่ในชนบทมานาน ไม่คุ้นชินกับคนเยอะ ๆ อิงฮวาตามพ่อกับแม่ไปดูเรือนของเจ้ากัน พ่อสั่งคนให้จัดการเอาไว้อย่างดีเลย”“ใช่แล้วล่ะ พวกเจ้ากลับไปทำงานกันเถอะ ข้าจะพาลูกไปดูห้องของนางเอง ของที่ซื้อมาบนรถม้าก็นำไปให้คุณหนูที่เรือนด้วยเล่า” หม่านเซียงบอกทุกคนที่มาต้อนรับด้วยรอยยิ้มเปี่ยมเมตตา“ขอรับ/เจ้าค่ะ นายท่าน ฮูหยิน” ทุกคนยิ้มรับคำ ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานอิงฮวาเดินตามหลังท่านอาทั้งสองที่ตอนนี้กลายเป็นพ่อแม่ของนางไปอย่างช้า ๆ นางมองดูจวนขนาดกลางที่ไม่ได้หรูหราอะไรตรงหน้าก็ได้แต่ถอนหายใจ ไม่คิดว่าหลังจากอยู่หมู่บ้านเปียนจิ่วมานาน นางจะมีโอกาสได้เข้ามาอยู่ในจวนที่สุขสบายไม่ต่างจากครั้งยังเด็กอีกครั้งเรือนของอิงฮวาอยู่ติดกับเรือนหลัก ขนาดเรือนหลังนี

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 8

    สามวันต่อมาวันนี้มีรถม้าคันหนึ่งมาที่บ้านตระกูลไช่ในหมู่บ้าน ภายในเป็นอิงเต๋อและฮูหยินของเขาอย่างหม่านเซียงเดินทางมาด้วย พวกเขาพอได้รับจดหมายจากไช่เหมยฮวาเมื่อสามวันก่อนต่างดีใจมาก ยิ่งรู้ว่าพวกนางยังอยู่ดีมีสุข พวกเขาก็อยากรีบรับนางกลับจวนและทำตามแผนการในจดหมายที่ไช่เหมยฮวาบอกเอาไว้ ไม่ว่าวันหน้าจะเกิดสิ่งใดขึ้นกับตระกูลของพวกเขา ทั้งสองที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อไช่ไท่ฟู่อย่างลับ ๆ มาตลอดตั้งแต่อยู่ในราชสำนักก็คิดจะช่วยไช่เหมยฮวาอย่างเต็มกำลัง“คารวะท่านอาอิงทั้งสองเจ้าค่ะ/ขอรับ” ไช่เหมยฮวาและไช่ซิวค้อมกายคำนับ“พวกเจ้าไม่ต้องมากพิธี ไม่เจอกันไม่กี่ปี พวกเจ้าต่างเป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้ว” อิงเต๋อตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม“น้องอิงเต๋อกับน้องหม่านเซียงรีบนั่งลงก่อนเถอะ” หม่าซูเรียกทั้งสองให้นั่งคุยกันก่อนที่พวกเขาจะรับบุตรสาวของนางเข้าไปในเมืองหลวง“ขอรับ/เจ้าค่ะ พี่หญิงหม่า&r

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 7

    10 ปีต่อมาไช่เหมยฮวาที่โตเป็นสาวแล้วเตรียมตัวเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมมารดาและน้องชายที่เคยตัวเล็กแต่ตอนนี้สูงกว่านางไปแล้วในเวลาเพียงไม่กี่ปี สุขภาพของน้องชายนางก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่เขาอายุครบ 10 ขวบ ทำให้พวกนางไม่ต้องเสียเงินหาซื้อยามาบำรุงเขาอีก ด้วยความสามารถของไช่เหมยฮวาและไช่ซิว ทำให้ตอนนี้ครอบครัวพวกนางมีเงินมากพอที่จะหาซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ ในเมืองหลวงอดีตพ่อบ้านอย่างซู่หยงกับคนอื่น ๆ ก็เก็บหอมรอมริบมาตลอดเช่นกัน พวกเขายืนยันที่จะติดตามไปรับใช้ไช่เหมยฮวาที่เมืองหลวง ถึงแม้พวกเขาจะเคยเป็นนักโทษที่ถูกเนรเทศมาก่อน แต่ด้วยหลายปีมานี้ฮ่องเต้มีราชโองการยกเว้นโทษของคนที่เคยถูกเนรเทศอย่างพวกเขาแล้ว ทุกคนจึงตั้งใจจะกลับไปช่วยเหลือคุณหนูทวงความยุติธรรมคืนให้นายท่านอย่างไช่ไท่ฟู่ พวกเขารู้ดีว่าการไปครั้งนี้อันตรายไม่น้อย แต่พวกเขาก็ไม่คิดจะทอดทิ้งเจ้านาย หากคุณหนูทำสำเร็จ พวกเขาก็จะลืมตาอ้าปากและสามารถเดินยืดอกอย่างสง่าผ่าเผยเหมือนในอดีตได้ซู่หยงทำหน้าที่หารถม้าให

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 6

    ลุงปันกับคนอื่น ๆ มาถึงในเวลาต่อมา พวกเขาเห็นเสี่ยวเฉากำลังขุดกลางลำธารแห้งขอดอยู่ก็พากันสงสัย“คุณหนู เหตุใดมาที่นี่เล่าขอรับ” ลุงปันรีบถามด้วยความเป็นห่วง“ข้ามาหาแหล่งน้ำให้พวกเราตักกลับบ้านเจ้าค่ะ พวกท่านไปช่วยพี่เฉาขุดได้หรือไม่”“หืม? เหตุใดต้องขุดลำธารแห้งนี่เล่าขอรับ” เสี่ยวเหอถามอย่างสงสัย“พี่เหอเห็นหรือไม่ว่ามีน้ำผุดออกมาจากหลุมที่พี่เฉากำลังขุดอยู่น่ะเจ้าค่ะ นั่นเป็นตาน้ำในลำธารนี้ ถ้าเราขุดลึกลงไป อาจจะมีน้ำให้พวกเราเอาไว้กินใช้ได้สักพัก”“ทุกคนวางตะกร้าลงก่อนแล้วไปช่วยเสี่ยวเฉาขุด จะได้เร็วขึ้น เสี่ยวโจ เสี่ยวฉู่ ไปหาไม้มาทำกระบอกใส่น้ำให้ทุกคนเร็ว ประเดี๋ยวหากกลับช้า ทุกคนจะเป็นห่วง”สิ้นเสียงลุงปัน ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ทันที ส่วนลุงปันก็ไปหาไม้มาทำถังน้ำขนาดย่อมเช่นกัน ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าน้ำจะมีมากพอให้ใส่หรือไม่ อ

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 5

    “เจ้าดูต้นไม้เหล่านี้สิ ข้าว่าบนภูเขาลูกนี้คงไม่มีสิ่งใดให้พวกเรานำไปเป็นอาหารได้แน่เลย ไม่เช่นนั้นชาวบ้านในหมู่บ้านคงขึ้นเขากันมาไม่ต่างกับเรา” เสี่ยวซางที่มากับกลุ่มคุณหนูเอ่ยขึ้นกับสหายข้าง ๆ“ไหน ๆ ก็ขึ้นมาแล้ว อย่างไรก็ลองติดตามคุณหนูดูก่อนเถอะ” เสี่ยวเหอหันไปบอกสหายของตน“พวกเจ้าอย่าได้พูดมาก ในเมื่อคุณหนูต้องการขึ้นมาที่นี่ พวกเรามีหน้าที่ปกป้องคุณหนูให้ดีก็พอแล้ว ส่วนอาหารจะหาได้หรือไม่ก็คงต้องแล้วแต่วาสนา” ลุงปันหันไปเอ็ดเด็กหนุ่มทั้งสองซึ่งพูดคุยกันอย่างไม่ระวัง เขากลัวว่าคุณหนูจะหมดกำลังใจไช่เหมยฮวาที่ได้ยินเสียงพวกเขาไม่ได้กล่าวว่าอะไร นางเข้าใจดีว่าสภาพพื้นที่แห้งแล้งย่อมยากต่อการหาอาหาร เพียงแต่นางยังคงจำได้ดีว่าในตำรานั้นเคยบอกเอาไว้ว่าที่ใต้พื้นดินแห้งแล้งอาจมีหัวเผือก หัวมันใช้ประทังความหิวได้ แม้ว่าต้นมันจะแห้งเหี่ยวตายไปบนดิน แต่ใต้ดินยังมีหัวของพวกมันให้กินได้อยู่ นางจึงตั้งใจดูว่าบริเวณใดน่าจะมีหัวเผือก หัวมันอยู่บ้าง ไช่เหมยฮวาจำรูปใบของหัวพวกนี้ได้อย่างขึ้นใจ นางเดินขึ้นเขาไปได้ไกลพอสมควร ก่อนจะพบเห็นว่าพื้นที่ป่าด้านซ้ายดูจะมีความชื้นจนนางรับรู้ได้อยู่บ้าง“พว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status