แชร์

ตอนที่ 12

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-01 17:55:32

หออี้เฉิงหลัน...

เยว่อันหนิงใช้เวลาเดินทางด้วยม้าเร็วเพียงสองชั่วยามก็มาถึงเมืองเทียนติ่ง

เก้าปีที่นางกลายเป็นนักฆ่าของหุบเขาไร้เงา นางเข้าออกบ้านเกิดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หากแต่เป็นการมาเพื่อทำภารกิจสาส์นจากปรโลก ทำให้ไม่เคยมีโอกาสได้แวะเวียนเฉียดเข้าใกล้จวนสกุลเยว่ของตนสักหน

หากแต่วันนี้ภารกิจคือจวนสกุลซุยที่ห่างจากจวนสกุลเยว่เพียงไม่กี่รั้วบ้าน ทำให้นางต้องปักหลักที่หออี้เฉิงหลัน หอชื่อดังแหล่งรวมความรื่นรมย์ของเหล่าขุนนางและผู้มีเงินหนาถึงจะเข้าพักกินดื่มชมการแสดงในนี้ได้

"เชิญแม่นาง"

เยว่อันหนิงเดินตามหลังสตรีนางหนึ่งที่เป็นคนดูแลหอแห่งนี้เพื่อเข้าสู่ห้องพักในชั้นสอง

"หากต้องการสิ่งใดเพิ่ม สั่นกระดิ่งทองนี้ได้ทุกเมื่อเจ้าค่ะ"

สตรีโฉมสะครวญนางนี้ภายนอกดูเหมือนเถ้าแก่เนี๊ยเจ้าของกิจการทั่วไป หากแต่เบื้องหลังนางเป็นหนึ่งในสายลับของหุบเขาไร้เงา ทำให้เยว่อันหนิงได้รับการต้อนรับค่อนข้างพิเศษกว่าผู้อื่น

"ส่วนนี่คือทั้งหมดที่ผู้น้อยจัดเตรียมเอื้อความสะดวกให้แก่แม่นาง"

สายลับนามว่าอี้หลันหยิบกล่องไม้ขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อยออกมาวางลงตรงหน้าโฉมงามอาภรณ์แดง

เยว่อันหนิงทำเพียงก้มหน้าเล็กน้อยแทนการกล่าวขอบคุณ จากนั้นห้องทั้งห้องก็เหลือเพียงนางคนเดียว

"รับสินบน ปล้นคนจน โกงกินบ้านเมือง"

เยว่อันหนิงอ่านคำร้องทุกข์จากรายงานในกล่องไม้ที่อี้หลันรวบรวมจากชาวบ้านที่เดือดร้อนเพราะสกุลซุยลับ ๆ เสร็จถึงกับกำมือแน่งน้อยแน่น ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความขุ่นเคือง

เหตุใดขุนนางโฉดชั่ว โกงบ้านกินเมืองเช่นนี้ถึงอยู่ดีผาสุข ผิดกับสกุลเยว่ของนางที่ภักดีแม้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายกลับตกตายอนาถเพราะคนชั่วป้ายสีสาดโคลนใส่

ฟ้าดินไม่ยุติธรรมบีบให้นางเลือกทางเดินนักฆ่านี้เพื่อสานปณิธานความแค้นวงศ์ตระกูลให้ลุล่วง

"ซุยฉีเฉียน"

กระดาษเปื้อนหมึกแดงที่มีชื่อของเป้าหมายในครั้งนี้ถูกนำไปจ่อที่เปลวไฟบนแท่งเทียนตรงหน้า ปล่อยให้ไฟร้อนค่อย ๆ เผาไหม้สาส์นสั่งตายนี้ให้กลายเป็นผุยผงเพื่อทำลายหลักฐาน

ร่างบางเดินไปยังหน้าต่างที่ปิดสนิท ค่อย ๆ แง้มออกพอมองลอดช่องเห็นจวนหลังใหญ่ที่ห่างจากหอแห่งนี้ไม่ถึงลี้

เยว่อันหนิงวางแผนในการลงมือในหัวคร่าว ๆ คืนนี้ปลายยามจื่อ(23.00 - 24.59 น.) นับว่าเป็นเวลาเหมาะ ทหารลาดตระเวนกำลังบางเบา นางจะสำเร็จโทษคนโฉดชั่วแทนกฎหมายที่ไปไม่ถึงนี้เอง

หากว่าเมื่อวางแผนทุกอย่างไว้เสร็จสรรพแล้ว มือเรียวดั่งแท่งเทียนกำลังจะปิดหน้าต่างของชั้นสอง กับปรากฎกองทัพม้าขบวนหนึ่งควบผ่านไป

แม้จะเป็นเพียงเสี้ยวเวลาสั้น ๆ ที่เยว่อันหนิงมองเห็นใบหน้าของบุรุษผู้หนึ่งที่นั่งอยู่บนหลังม้า หากแต่นางกลับเหมือนตกอยู่ในห้วงของกาลเวลาที่หยุดนิ่ง

ใบหน้าด้านข้างที่คมคร้ามสะดุดตา ช่างเป็นบุรุษที่เห็นเพียงเสี้ยวหน้าก็ทำให้สตรีอย่างนางหวั่นไหวได้แม้จะเป็นความรู้สึกเพียงชั่ววูบ

เคร้ง!

หากแต่เสียงดังด้านนอกทำให้คนที่ตกในภวังค์ได้สติ เยว่อันหนิงรีบเดินออกมาจากห้องเมื่อเสียงเมื่อครู่ดังอยู่หน้าห้องพักของนาง

"บ่าวขออภัยเจ้าค่ะคุณหนู บ่าวไม่ได้ตั้งใจ"

สาวใช้นางหนึ่งกำลังนั่งกับพื้นโขกศีรษะจนหน้าผากแดง ตรงหน้าสาวใช้ผู้นั้นมีสตรีสูงศักดิ์สวมอาภรณ์เนื้อดีหรูหรา เต็มไปด้วยเครื่องประดับทั้งหยกและอัญมณีมากมายหากแต่ใบหน้าของนางกำลังเหมือนปีศาจร้ายจ้องฉีกร่างผู้ที่นั่งสำนึกผิดอยู่ที่ปลายเท้านาง

"ขอโทษรึ เจ้ารู้หรือไม่ข้าแพ้ถั่ว เมื่อครู่หากข้ากลืนขนมที่เจ้าสับเพร่าจัดวางให้ ป่านนี้คงได้นอนหายใจรวยรินทรมานไปแล้ว!"

เสียงเล็กแหลมดังกึกก้องไปทั้งหออี้เฉิงหลัน ทำเอาบรรดาแขกเหรื่อห้องอื่น ๆ ที่เข้ามาพักผ่อนเริงรมย์ต่างพากันออกมามุงดู

"บ่าวไม่ทราบจริง ๆ เจ้าค่ะว่าขนมถั่วนั่นมาได้เช่นไร คุณหนูเจ้าคะ บ่าวอยู่ข้างกายคุณหนูมาหลายปีเหตุใดบ่าวจะเลอะเลือนนำอาหารที่คุณหนูแพ้มาให้เจ้าคะ"

หากใช้ความเป็นกลางฟังสิ่งที่สาวใช้ผู้นี้กล่าวก็มีเหตุผล

หากนางรับใช้คุณหนูผู้นี้มานานขนาดนั้นจะสับเพร่าได้เช่นไร

"เจ้าหวังจะทำร้ายข้าเพราะท่านพ่อหักเบี้ยหวัดครอบครัวเจ้าใช่หรือไม่!"

หากแต่เสียงตวาดกลับฟังมีแรงจูงใจ สาวใช้ที่นั่งอยู่ที่พื้นเหมือนสำนึกผิดถึงกับสะดุ้งตัวสั่นเล็กน้อย

เยว่อันหนิงมองเห็นความผิดปกติของสาวใช้นางนั้น มือของนางกำแน่นภายใต้ชายแขนเสื้อราวกำลังข่มใจไม่ให้กระทำการบางอย่าง

"บ่าว... บ่าวจะกล้าทำร้ายคุณหนูของจวนซุยได้อย่างไรเจ้าคะ หากใต้เท้าซุยรู้เข้า บ่าวกับครอบครัวจะอยู่รอดได้เช่นไร คุณหนูโปรดเมตตา เห็นแก่ที่บ่าวรับใช้คุณหนูมานาน นำความดีหักล้างความผิดพลาดครั้งนี้ด้วยเถิดเจ้าค่ะ"

นางคือบุตรีสกุลซุยงั้นหรือ?

บิดาโกงกิน รับสินบนว่าชั่วแล้ว บุตรีผู้นี้แววตาไร้เมตตา ใจคอเราะร้ายไร้การผ่อนปรน

สมแล้วที่มีผู้คนร้องเรียนถึงความชั่วสกุลซุยมากถึงเพียงนั้น

"โอ้ย! คุณหนูบ่าวไม่ได้ทำ บ่าวถูกใส่ร้ายเจ้าค่ะ"

เยว่อันหนิงละความสนใจเพียงแค่ชั่วครู่ ผู้ที่วิวาทกันด้านหน้าถึงกับลงไม้ลงมือกัน

สาวใช้นางนั้นกลิ้งลงนอนกับพื้นด้วยการถูกฝ่าเท้าเหยียบย่ำบนใบหน้าอย่างหยามเกียรติ

เยว่อันหนิงหยิบหมวกคลุมปิดหน้าสีขาวสะอาดตาขึ้นมาสวม ทำท่าทีเหมือนเดินออกจากห้องไปปกติ หากแต่ในมือกลับมีหินเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งกำไว้ นางใช้แรงเพียงปลายนิ้วดีดหินก้อนนั้นใส่ขาอีกข้างที่เหยียบบนพื้นของคุณหนูซุย ทำเอาคนที่ไม่มีวรยุทธ์ถึงกับแผดเสียงร้องเสียหลักล้มก้นกระแทกพื้นเรียกเสียงขบขันให้กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์

"ใคร! ใครลอบทำร้ายข้า!"

เสียงแหลมเล็กของคุณหนูซุยดังก้องไปทั้งชั้นสองของหออี้เฉิงหลัน หากแต่กลับไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าใครคือคนดีที่ยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างลับ ๆ ในครั้งนี้

ผิดกับสายตาเฉี่ยวคมของบุรุษผู้หนึ่งที่แวะเข้ามาชมความวุ่นวายยามผ่านทางที่มองเห็นการกระทำของสตรีลึกลับสวมหมวกสานปกปิดใบหน้าผู้นั้นที่ช่วยเหลือสาวใช้นางนั้นไว้จากการตั้งศาลเตี้ยพอดี

"เราควรยื่นมือไปช่วยหรือไม่"

ซ่างฮ้วนถามแม่ทัพน้อยของเขาเสียงหยอกล้อ

"ละครจบแล้ว อยากเป็นบุรุษขี่ม้าขาวช่วยสตรีก็เชิญ"

เขาก็แค่ชวนคุย เหตุใดต้องทำหน้าเย็นชาใส่เช่นนี้ด้วย

"เดี๋ยว! แม่ทัพน้อยรอข้าด้วย!"

เสียงตะโกนเรียกของซ่างฮ้วนสะดุดหูของเยว่อันหนิงที่เพิ่งเดินสวนออกจากหออี้เฉิงหลันพอดี

นางชะงักเท้าเล็กน้อยก่อนหันไปมองครู่หนึ่ง บุรุษสวมชุดสีดำสองนายพร้อมป้ายห้อยที่นางเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่งยืนอยู่ห่างนางไม่ถึงผิง

สายตาของนางและแม่ทัพน้อยผู้นั้นประสานกันชั่วขณะ

แม้อีกคนจะมองเห็นแววตาภายใต้ผ้าขาวบางนั้นไม่ชัดเจน หากแต่เฉินเจียนหลางกลับตกอยู่ในภวังค์ครู่หนึ่งเช่นกัน

เยว่อันหนิงรับรู้ได้ถึงสายตาไม่ปลอดภัยของคนผู้นี้จริงรีบถอนตัวออกมา

'บุรุษผู้นี้หรือ แม่ทัพน้อยแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่า'

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 79

    "แม่นางเยว่มิได้คิดอันใดข้าพอทราบ แต่บุรุษหากปักใจรักแล้วยากจะตัดใจ"เยว่อันหนิงลอบมองใบหน้ารูปงามของแม่ทัพน้อยที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา"หากศิษย์พี่มาที่นี่ ฝากเจ้าหออี้ส่งข่าวว่าข้าต้องการพบ""ข้าน้อยทราบแล้ว""เช่นนั้นพวกเราขอตัว""เรื่องที่ฝากฝังไว้ ข้าจะรีบส่งข่าวอีกที""ขอบคุณเจ้าหออี้"เยว่อันหนิงส่งสัญญาณตาให้บุรุษเพียงคนเดียวในห้องเดินตามนางออกจากหอเริงรมย์ เฉินเจียนหลางว่าง่ายเขาเดินตามนางออกมาจากในนั้นเงียบ ๆ ราวคนลืมเอาปากมาด้วย"ท่านคงไม่ได้หึงหวงข้ากับศิษย์พี่ใหญ่ใช่หรือไม่"ครั้นออกมาจากหออี้เฉิงหลันแล้ว เยว่อันหนิงรู้สึกถึงความเงียบที่มีไอเย็นยะเยือกตามหลังมาเลยหยุดเท้าแล้วหันมาเผชิญหน้าถามคนที่เดินตามหลังมาติด ๆ"หากข้าบอกว่าหึงเล่า"คนที่ไม่เคยหวั่นไหวกับความรักหรือคำหวานถึงกับสะอึก หัวใจที่ไม่คิดจะหวั่นไหวกับเรื่องเช่นนี้กลับแกว่งแปลก ๆ จนต้องปั้นหน้าหันหลบตาไปอีกทาง"ข้ากับต้วนอี้เราเติบโตมาด้วยกัน ไม่เคยมีเรื่องชู้สาวในหัว""ถึงเจ้าจะคิด ข้าก็ไม่ยอม""ท่านหมายความเช่นไร""ตอนนี้เจ้าเป็นภรรยาข้าแล้ว ต่อให้หัวใจเจ้าจะอยู่กับผู้อื่นข้าก็ไม่ยอมปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด"วาจาหน

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 78

    หลังจากเข้ามาในห้องประจำที่อี้หลันจัดเจรียมไว้แล้ว เจ้าหออี้ก็พาเยว่อันหนิงปลีกออกมาอีกฝั่งของห้องสี่เหลี่ยมเพื่อไถ่ถามความเป็นมาในวันนี้"เหตุใดท่านถึงมากับแม่ทัพน้อยเฉินได้"การกระซิบถามไม่ได้อยู่นอกสายตาของเฉินเจียนหลางสักนิด หากแต่เขากลับทำเป็นไม่สนใจเพื่อไม่ให้สตรีสองนางอึดอัดเท่านั้น"เขารู้ตัวตนของข้าหมดแล้ว"อี้หลันถึงกับตกใจกับความจริงที่ได้ยินคราแรกตอนที่นางเห็นทั้งสองคนเดินเข้ามาในหอเริงรมย์แห่งนี้ด้วยกันอี้หลันคิดเพียงแค่ว่าเฉินเจียนหลางคงหลงเสน่ห์นางรำจวี๋จื่อเข้าให้ แต่ไม่นึกว่าที่แม่ทัพน้อยเฉินเดินตามก้นนางมาอย่างไม่ให้ห่างกายเช่นนี้เป็นเพราะเขาล่วงรู้ความลับของเยว่อันหนิงเสียแล้ว"เช่นนั้นคงไม่มีอะไรปิดบังเขาอีกแล้ว"เยว่อันหนิงพยักหน้าแทนคำตอบให้อี้หลันจากนั้นทั้งสองจึงเดินกลับไปนั่งร่วมโต๊ะกับแม่ทัพน้อยเฉินที่นั่งจิบน้ำชารอเงียบ ๆ"วันนี้ท่านมาที่นี่ต้องการข่าวอันใดจากหออี้เฉิงหลันของข้า"เจ้าหออี้ที่นับว่าเป็นสตรีงดงามผู้หนึ่งแห่งเมืองเทียนติ่งเอ่ยถามขึ้น"ข้าต้องการให้ท่านดูสิ่งนี้"เยว่อันหนิงยื่นผ้าเช็ดหน้าที่เก็บเศษผงบนตัวสายลับเงาของเฉินเจียนหลางยื่นให้อี้หลั

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 77

    "เดิมทีหญ้าเกสรห้าสีเป็นสมุนไพรบำรุงหัวใจ หาได้ยากนักเพราะมักเกิดอยู่บนเขาลึกที่หนทางซับซ้อนอันตรายรอบด้าน"เฉินเจียนหลางตั้งใจฟังเพื่อเพิ่มพูนความรู้และรอไขคดีคนร้าย"แต่หากนำมาทาอาบไว้บนไม้แก่นกำยานจะกลายเป็นพิษร้ายที่สามารถทำให้คนสิ้นใจอย่างไม่รู้ตัว""เช่นนั้นตอนที่เจ้าถูกพิษที่มีดสั้นวันนั้นเหตุใดถึงยังรอดมาได้"เยว่อันหนิงค่อย ๆ ยืนขึ้นแล้วเอ่ย"เพราะข้ามียาของหมอเทวดาของหุบเขาช่วยชีวิตไว้"พอคิดถึงเรื่องในอดีต เยว่อันหนิงกลับรู้สึกขนชันขึ้นมาทันที หากยามนั้นนางไม่ได้พกยาถอนพิษที่ขจัดพิษได้ทุกชนิดของผู้เฒ่าฝูหนาน ป่านนี้นางคงได้ไปพบบิดาที่ปรโลกแล้ว"เจ้ากำลังจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของนักฆ่ากลุ่มเดียวกันในวันนั้น"'ไม่ใช่นักฆ่ากลุ่มเดียวกัน หากแต่เป็น 'นาง' เท่านั้น'"ในจวนของท่านมีเกลือเป็นหนอน ตอนนี้ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไว้ก่อน"เยว่อันหนิงเลือกเก็บความจริงในใจเอาไว้ ปล่อยให้เฉินเจียนหลางคิดว่าเป็นกลุ่มนักฆ่าเดียวกันกับในงานเลือกคู่ของมู่อานจิ่ว"เจ้ามีแผนล่องู่โผล่หางหรือไม่"แววตาชื่นชมในความเฉลียวฉลาดของคนรักที่จ้องมองนางนั้นช่างปกปิดไม่มิดเอาเสียเลย ทำให้คนที่ซ่อน

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 76

    ทั้งสองเร่งฝีเท้ากลับมายังเรือนต้นสนเพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งจิบชาก็พบกับห้องของเยว่อันหนิงที่ถูกรื้อค้นจนเละไปหมด หน้าประตูห้องพบสาวใช้นางหนึ่งถูกปาดคอนอนสิ้นใจอย่างน่าสงสาร"มีใครอยู่แถวนี้บ้าง!"นายน้อยของสกุลเฉินตะโกนเรียกหาบ่าวไพร่เสียงเกรี้ยวกราด จวนแม่ทัพแท้ ๆ คนร้ายยังกล้าอุกอาจบุกเข้ามาแถมยังเป็นตอนกลางวันแสก ๆ อีก ไม่ให้แม่ทัพน้อยแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่าอย่างเขากรุ่นโกรธได้เยี่ยงไร"น...นายน้อย เกิดอะไรขึ้นขอรับ""กรี๊ด! เสี่ยวหยา"เสียงบ่าวคนหนึ่งที่อยู่บริเวณนั้นและได้ยินนายน้อยของจวนตะโกนเรียกจึงวิ่งตามเสียงมาและถามสาเหตุขึ้นส่วนสาวใช้ที่ตามมาติด ๆ พอเห็นศพของสาวใช้ในเรือนด้วยกันถึงกับกรีดร้องด้วยความตกใจ"เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นที่เรือนต้นสน"เฉินเจียนหลางเริ่มซักไซ้เอาความ"ม...เมื่อครู่ เมื่อครู่จู่ ๆ พวกข้าก็เหมือนจะง่วงขึ้นมากะทันหัน จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้จนได้ยินเสียงนายน้อยตะโกนเรียกขอรับ"เฉินเจียนหลางขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะมองไปรอบ ๆ บริเวณเรือนต้นสนที่กว้างใหญ่นี้"วี้ด!!"เสียงเป่าสัญญาณจากปี่ไม้เรียกสายลับเงาดังขึ้น หากแต่ไม่มีแม้เงาของสายลับที่เขาซ่อนสุมกำลังไว้ตามที่ต่าง

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 75

    ผ่านมาครึ่งก้านธูป เฉินเจียนหลางก็พาสตรีในดวงใจมายังศาลาสงบใจที่อยู่ด้านหลังเรือนต้นสนแห่งนี้"เหตุใดที่นี่ถึงได้เงียบสงบเช่นนี้"อย่าว่าแต่คนเลย แม้แต่มดแมลงสักตัวยังไม่มี"ที่แห่งนี้เป็นเขตหวงห้าม ข้าเอาไว้ใช้ฝึกสมาธิปรับลมปราณ"เยว่อันหนิงได้ฟังจึงพยักหน้าเข้าใจพร้อมเอ่ยต่อ"ท่านเรียกข้ามาที่แห่งนี้เพราะมีความลับที่จะหารือใช่หรือไม่"หากไม่ใช่เรื่องสำคัญและเป็นความลับ เฉินเจียนหลางคงไม่พานางมายังเขตหวงห้ามที่คนนอกเข้าออกไม่ได้เช่นนี้ร่างกำยำสวมชุดสีดำแถบแดงล้วงเอาของสำคัญออกมาวางไว้"นี่คือสิ่งใด"เยว่อันหนิงมองกล่องไม้ตรงหน้าอย่างใคร่สงสัย"นี่คือของที่อดีตแม่ทัพใหญ่เยว่ส่งมอบมันให้กับท่านพ่อก่อนที่สกุลเยว่จะถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎ"เยว่อันหนิงใจหล่นวูบเมื่อได้ยินสิ่งที่เฉินเจียนหลางบอกมือแน่งน้อยเอื้อมไปสัมผัสกล่องไม้ตรงหน้าด้วยความสั่นเทา ในหัวของนางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวันวานจึงเอ่ย"คงเป็นวันที่พี่ใหญ่กับพี่รองกำลังซ้อมกระบี่กันในวันนั้น"เฉินเจียนหลางพยักหน้าเบา ๆเยว่อันหนิงใจกล้า ๆ กลัว ๆ ตอนสัมผัสกล่องไม้ที่ว่า เมื่อฝากล่องไม้ถูกเปิดออก ม้วนภาพวาดผืนหนึ่งก็ปรากฏแก่สายตาของนา

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 74

    หลังจากทั้งหมดกลับมายังจวนสกุลเฉินแล้ว เยว่อันหนิงก็เอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องที่เรือนต้นสน นางให้เหตุผลกับเฉินเจียนหลางว่าต้องการรื้อฟื้นความทรงจำในวัยเด็กดูเผื่อว่าที่ผ่านมานางตกหล่นชิ้นส่วนความทรงจำใดไป"แม่นางจวี๋เจ้าคะ ข้าน้อยนำอาหารมาให้เจ้าค่ะ"สาวใช้นางหนึ่งตะโกนขึ้นที่หน้าห้องพักก่อนจะเปิดประตูเข้ามาพร้อมถาดอาหารจำนวนหนึ่ง"นายน้อยเล่า"เสียงใสถามขึ้น นางขังตัวเองอยู่ในห้องนี้มาแล้วเกือบสองชั่วยามจึงอยากรู้ความเคลื่อนไหวภายในจวนสกุลเฉิน"นายน้อยไปส่งนายท่านออกนอกเมืองเจ้าค่ะ"คิ้วสวยขมวดย่นเล็กน้อย แววตานางมีความครุ่นคิดฉายขึ้น สาวใช้ตรงหน้าคงสังเกตเห็นจึงเล่าต่อ"วันนี้นายน้อยต้องกลับค่ายทหาร หากแต่ยังมีเรื่องสำคัญต้องสะสาง นายท่านจึงอาสากลับไปคุมค่ายทหารให้ก่อนชั่วคราวเจ้าค่ะ"สาวใช้ตรงหน้ารายงานอย่างที่เฉินเจียนหลางสั่งไว้ไม่ขาดตกบกพร่องสักคำ"เจ้ากลับไปทำงานเถิด ข้าอยากอยู่คนเดียว""เจ้าค่ะ หากแม่นางจวี๋ต้องการสิ่งใด เรียกใช้ข้ารับใช้ในเรือนได้ทุกเมื่อ"เยว่อันหนิงคลี่ยิ้มบางเป็นการขอบคุณ จากนั้นก็ปล่อยให้สาวใช้นางนั้นออกจากห้องไปดวงตาคู่สวยเหลือบมองอาหารที่น่าทานบนโต๊ะเพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status