เธอพูดแบบนั้นนอกจากจะส่งสายตาอ่อยเหยื่อไปแล้วก็ยังเอามือมาคล้องคอชายหนุ่ม ทั้งยังออกแรงกดต้นคอให้เขาโน้มใบหน้ามาติดแนบชิดเนินเนื้อหน้าอกของเธออีก ทำเอาชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำเฮือกใหญ่
"แพง! มึงทำเชี้ยไร" "โอ้ย..แพงเจ็บนะพี่มาร์คกระชากแขนแพงทำไมคะ" "วันนี้กูเหมามึงแล้ว มึงไม่มีสิทธิรับงานเว้ย!" "หึ! ก็แค่ลูกค้า เสือกหวงก้างอย่างกะเป็นผัวเขาเลยนะ" "มึงเสือกเชี้ยไรด้วย" "พี่มาร์ค! หยุด!" เขาตั้งท่าจะเข้าไปหาเรื่องชายอีกคน ซึ่งฝั่งนั้นดูก็ตั้งท่าพร้อมปะทะด้วยเช่นกัน ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ต้องการให้มีปัญหา กะว่าจะแค่หาลูกค้าเท่านั้นเอง "พี่ปลั๊กค่อยทักไอจีแพงมาแล้วกันนะคะ ค่อยเจอกันค่ะ" "ครับ ไว้เจอกัน" พอเขาเห็นว่าชายแปลกหน้าเดินไปแล้วเขาก็หันมามองหน้าเธอพร้อมส่งสายตาคาดโทษให้เธอไป "แพง! ..ที่กูให้มึงไปมันไม่พอหรือไงวะ!" "ทำไมคะ ถ้าแพงบอกว่าไม่พอ พี่จะให้เพิ่มเหรอ" "มึงจะเอาเท่าไร" เธอมองจ้องไปยังแววตาเขาแม้ภายในใจเธอรู้อยู่เต็มอกว่าเขาพร้อมจะจ่ายให้เธอ แต่วันนี้เธอกลับรู้สึกว่าหัวใจเธออ่อนไหว กลัวจะคิดกับเขาเกินกว่าลูกค้า เธอจึงไม่อยากรับเงินพวกนั้นจากเขาอีก เธอจึงเลือกที่จะเดินหนีไปอีกทาง "มึงยังไม่ตอบกูเลยนะแพง มึงจะเอาเท่าไรมึงถึงจะเลิกไปเอากับคนอื่นสักที" "แพงยังไม่ได้มีความคิดที่จะหยุดค่ะ" "แล้วเมื่อไรมึงจะคิด" "พี่มาร์ค! พอเถอะ! แพงไม่อยากหมดอารมณ์เที่ยวตอนนี้ขอตัวนะคะ" "หึ! เดี๋ยวกูทำให้มึงมีอารมณ์เองไปกับกู" "ปล่อยค่ะ พี่มาร์ค! พี่จะลากแพงไปไหนอีกเนี่ย" ชายหนุ่มไม่ฟังเสียงทักท้วงของเธอ เขากับลากเธอขึ้นรถไปในทันทีเป็นจังหวะเดียวกันที่โต้ก็เดินมาทางพวกเขาพอดี “ปล่อยแพงเดี๋ยวนี้นะพี่มาร์ค! พี่จะพาแพงไปไหน ปล่อยแพงเดี๋ยวนี้” “ไอ้โต้! มึงเป็นแค่เพื่อน มึงไม่ต้องเสือกเรื่องของพวกกู” “ หึ ก็ผมเป็นเพื่อนของแพงไง ผมถึงต้องเสือก! ” ผัวะ! ตุบ “โอ้ย..หยุดนะ! พี่มาร์คหยุด! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เธอพยายามจะจับเพื่อนของเธอแยกออกจากเขา เขาไม่พอใจเพื่อนของเธอพูดแบบนั้นเขาก็พุ่งชกเข้าเต็มใบหน้าของโต้ โต้เองที่เห็นแบบนั้นก็สวนกลับขึ้นทันทีกลายเป็นว่าเธอต้องมาแยกทั้งสองออกจากกัน เธอเองก็ไม่เคยเห็นว่าเขาจะใจร้อนถึงขนาดลงไม้ลงมือแบบนี้จริง ๆ เพราะอะไรกันที่ทำให้เขาบ้าแบบนี้ ความอดทนสุดท้ายเธอได้ระเบิดออกมา “โอ๊ยยย..หยุดสักทีสิ!” เพี้ยะ! “มึงตบกูเหรอแพง” “ใช่ค่ะ แพงตบพี่เองพี่จะได้เลิกบ้าสักที” “มึงหมายความว่าไง..กูคงใจดีกับมึงมากไปใช่ไหมก่อนหน้านี้ มึงถึงเอาความกล้ามาตบหน้ากูแบบนี้ พอเห็นว่ากูไม่ทำร้ายผู้หญิงหน่อยเอาใหญ่เลยนะมึง” “พี่มาร์ค! พี่จะให้แพงไปกับพี่มั้ย ถ้ายังอยากจะให้ไปด้วย ขึ้นรถเดี๋ยวนี้ค่ะ! ที่เหลือค่อยคุยกัน” เธอคิดว่านี้คงเป็นทางออกเดียวที่จะทำให้เขาหยุดหายบ้าสักที ก่อนจะหันไปมองเพื่อนของเธอ โดยสายตาเพื่อนของเธอเขายังมีความอาลัยอาวรณ์ไม่อยากให้เธอไปกับเขา “ไม่เป็นไรโต้ เราโอเคจริง ๆ เราฝากนายดูแลน้ำค้างหน่อยนะ เราขอโทษนายแทนพี่มาร์คด้วยไว้ค่อยคุยกัน” “แพงแต่..” “เราไปก่อนนะ” ปึก! บรืนนน ทันทีที่เธอขึ้นรถเขาก็ขับรถออกจากบาร์แห่งนี้ด้วยความโกรธและโมโหเธอที่เธอชอบทำตัวหมางเมินเขาแบบนั้นครั้งนี้เธอยังกล้าตบหน้าเขาต่อหน้าผู้ชายคนอื่นอีก เขายิ่งโมโหขับรถเร็วเหยียบจนเข็มไมล์ขึ้นไปอยู่เกือบสองร้อย “พิ..พี่มาร์ค ขะ..ขับบะ เบาหน่อยคะ” เสียงขอร้องของเธอที่ทั้งเบาและติด ๆ ขัด ๆ ทำให้เขาต้องปลายตามองเธอ “ เชี่ยเป็นอะไรอีกเนี่ย! แพง! ” เอี๊ยดดด “แพง มึงเป็นไรวะ” ฮึ!.. “แพงมึงมองหน้ากูดิ!” เขาตกใจกับอาการของเธอที่ดูแล้วเหมือนหัวใจจะเต้นแรงทั้งยังดูหายใจไม่ออก เหงื่อก็ออกตามไรผมและหน้าของเธอ ทั้งเธอยังมีอาการตัวสั่นเทาด้วยความกลัว ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนจะหมดสติกลัวว่าตัวเองจะตายเพราะร่างกายควบคุมไม่ได้ เขาปลดสายนิรัดภัยก่อนจะโผล่เข้าไปกอดเธอเพื่อเป็นการปลอบใจ “กูขอโทษพะแพง กูขอโทษจริง ๆ ” “แพงกลัว..ฮื่อ กลัวแล้ว ฮึ ฮื่ออ..” น้ำตาเธอไหลไม่หยุด ราวกับคนขาดสติในตอนนี้ เขาลูบหัวเบา ๆ ทั้งกระซับกอดมากขึ้นให้เธอมั่นใจก่อนจะปลดสายคาดนิรัดภัยของเธอให้เธอไม่รู้สึกอึดอัด เขาพยายามปลอบใจเธอเป็นเวลานานพอสมควร กว่าเธอจะหายกลัวก็ทำเอาเขาซางเมาพอดี “แพง กูพามึงกลับห้องนะ” เขาหันมองหน้าเธอแต่สายตาเธอยังคงเย็นชาไม่มีความรู้สึกอะไรเพราะเธอยังตกใจกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้และเบี่ยงหน้าหนีเขา มองไปทางหน้าต่าง เขาที่เห็นแบบนั้นก็ขับรถออกไปอย่างช้า ๆ จนในที่สุดก็พาเธอมาที่คอนโดของเขา เธอลงรถไปและเดินไปที่ห้องเขาโดยยังคงไม่พูดคุยใด ๆ กับเขา ซึ่งเขาเองก็ยิ่งหงุดหงิดที่เธอทำแบบนั้น แต่พอนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เขาก็เปลี่ยนใจเดินตามเธอไปเงียบ ๆ ก่อนจะไขกุญแจห้องให้เธอเข้าไปข้างใน “หิวไหมให้กูสั่งอะไรให้กินไหม” “….” เธอไม่ตอบอะไรเขา ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาที่อยู่กลางห้องของเขา เธอกดมือถือและโทรหาใครบ้างคน “เราถึงห้องแล้วนะ ไม่ต้องห่วง” “เปล่าเราไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ แค่นี้ก่อนนะ อืม ๆ ” เขารู้ได้ทันทีว่าเธอโทรหาเพื่อนของเธอ จากนั้นเขาก็เดินไปหยิบกล่องยามาและวางที่โต๊ะพร้อมนั่งข้าง ๆ เธอ “มองอะไร ไม่เห็นเหรอว่ากูเจ็บอยู่มึงทายาให้กูสิ” “หึ! อยากเปิดก่อนเองไม่ใช่หรอคะ แผลแค่นี้พี่คงไม่ติดเชื้อหรอกค่ะ” “เห้ย! มือสกปรกแบบนั้นใครจะไปรู้ อีกอยากรอยฝ่ามือของมึงก็อยู่ที่หน้ากู ช่วยรับผิดชอบด้วย ทายาให้กูหน่อยนะ ๆ ” “ไม่ต้องอ้อนมากหรอกค่ะ แพงฟังแล้วมันแปลก ๆ ขนลุก ” “เหอะ! กูพูดดี ๆ ไม่ชอบใช่ไหมได้! ทายาให้แค่นี้มือมึงคงไม่ถึงขั้นใช้งานไมได้หรอก มึงทายาให้กูสักทีเถอะ กูเริ่มรำคาญและหงุดหงิดมึงแล้ว..ปกติพอไหม” “แบบนี้สิถึงจะเป็นพี่” เธอยิ้มออกมาบาง ๆ ก่อนจะเปิดขวดยาและใช้สำลีชุบยาทาที่มุมปากให้เขาอย่างเบามือ เขานั่งจ้องหน้าเธอไม่วางตา จู่ ๆ เขาก็มีคำถามขึ้นมาว่าเพราะอะไรเธอถึงกลัวความเร็วขนาดนั้น “ที่กูขับรถเร็ว ทำไมมึงต้องกลัวขนาดนั้นด้วย กลัวกูพามึงไปตายหรอ” “เรื่องมันยาวค่ะ พี่ไม่อยากฟังหรอก” “อยากสิ เล่ามาเถอะ มึงรู้ไหมว่าที่ผ่านมาตลอด 2 ปีกูไม่เคยเห็นมึงกลัวขนาดนั้นเลยนะ” เธอทำท่าลังเลไปครู่หนึ่ง สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจได้ “ วันนี้แพงเหนื่อยแล้วค่ะ แพงไม่มีอารมณ์“” “ หื้อ..อยากมีอารมณ์หรอ ได้สิ” “ พี่มาร์คพี่ทำบ้าอะไรเนี่ยปล่อยแพงนะคะ” “ มึงมาห้องกู มึงคิดว่ากูจะทำอะไรล่ะ รีบเอารีบนอนเถอะ กูเหนื่อยแล้วเหมือนกัน”3 ปีต่อมา “สวัสดีครับคุณทนายสุดหล่อ วันนี้มาฟังคำพิพากษาใช่ไหมครับ” “ สวัสดีครับ ใช่ครับผม พี่ครับพอดีว่ารบกวนพี่หน้าบัลลังช่วยเช็คให้หน่อยได้ไหมครับว่าท่านผู้พิพากษาจะลงบัลลังกี่โมง พอดีว่าผมจะขอแวะไปส่งเอกสารอีกคดีที่บัลลังก์ 7 ครับ ผมเลยไม่รู้ว่าคดีผมที่บัลลังก์ 5 ท่านจะเริ่มกี่โมง” “จะไปนานเหรอครับคุณทนาย ได้ครับ ๆ งั้นเดี๋ยวผมจะเอาคดีของคุณทนายไว้เป็นคดีสุดท้ายช่วงเช้าเลยนะครับ แต่มันจะมีคดีที่สืบพยานกันอยู่อีกหนึ่งคดี ยังไงผมจะแจ้งผู้พิพากษาเจ้าของคดีให้ทราบนะครับ” “ขอบคุณมากครับพี่ ผมจะรีบกลับมานะครับ” “ได้ครับ” ไมค์ยิ้มให้กับเจ้าหน้าที่ศาลก่อนที่จะเดินไปอีกห้องเพราะตอนนี้เขากลายเป็นทนายหนุ่มไฟแรงสุดฮอตที่กำลังเร่งทำงานอย่างตั้งใจ เขาพยายามค้นหาตัวเองและก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตให้ผ่านไป ขณะที่เขาจบคดีที่บัลลังก์ 7 ก็รีบเดินกลับมาที่บัลลังก์ 5 ซึ่งภาพที่เห็นตรงหน้า คือผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยรักอย่างสุดหัวใจ กำลังนั่งอยู่คอกพยาน “พยานกำลังจะอ้างว่าภาพถ่ายที่พยานโอบกอดสามีของโจทก์อยู่นั้นไม่ใช่พยานอย่างนั้นเหรอครับ” “ค่ะ” “งั้นผมขอถามว่าพยานกั
บนโต๊ะอาหารตอนนี้ต่างก็ดูวุ่นวายเพราะไมค์ที่เริ่มได้ที่ก็พูดไม่หยุดเดินไปชวนคนนั้นคนนี้มาชนแก้วกับเขา ทุกคนที่จากตอนแรกจะทานข้าวกลายเป็นว่าตอนนี้ต่างก็ดื่มเป็นเพื่อนไมค์กันแต่เช้า หากมีเพียงแมธที่นั่งทานข้าวเสร็จก็กลับไปนั่งทำงานมองดูสถานการณ์ห่าง ๆ กับภาพครอบครัวที่ต้องบอกว่าหาดูได้ยากที่จะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาและเมากันได้ที่ขนาดนี้ 3 ปีต่อมา “มาร์คยังไม่มารับแพงอีกเหรอ” “ยังค่ะพี่แมธ พอดีเท้าแพงบวมมาก แพงเลยให้พี่มาร์คไปเอารองเท้าคู่ใหม่มาให้แพงค่ะ” “ท้องดูโตขึ้นเยอะแล้วนะ” “ค่ะ ไปนั่งที่ห้องพี่ก่อนไหม จะได้นั่งโซฟ่าสบายขึ้น” “ไม่เป็นไรค่ะ แพงนั่งทำงานที่นี้ทั้งวันอยู่แล้วเดี๋ยวพี่มาร์คก็มาค่ะ” “ถ้างั้นเข้าไปดูเอกสารให้พี่หน่อยแล้วกันนะ” “ก็ได้ค่ะ” แม้ว่าเธอจะรู้ว่าจุดประสงค์ของแมธคืออยากให้เธอไปได้พักมากกว่าที่จะอยู่ห้องทำงานในแผนกนิติกรของบริษัท พอย้อนอดีตตอนที่เธอเข้ามาฝึกงานอยู่ที่นี้จนครบกำหนดและหลังเรียนจบที่มหาลัยเธอก็เปลี่ยนเป้าหมายเข้ามาสมัครงานเป็นพนักงานที่นี้อย่างเต็มตัว ซึ่งปัจจุบันเธอก็ตั้งท้องลูกของมาร์คได้ 4 เดือนพอพวกเขารู้ว่าเธอท้องทุกคนในครอ
เธอได้แต่ยิ้มและรู้สึกได้ถึงไออุ่นของครอบครัวเขา ที่มันอาจจะเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คนที่ปรารถนาครอบครัวแบบนี้ หากแต่ชีวิตของเธอและใครหลายคนที่เลือกเกิดไม่ได้คงไม่ได้โชคดีแบบนี้สักเท่าไร หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จเธอก็นั่งรอเขาที่เตียงนอนไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงมีคนเปิดประตู แกร๊ก “ยังไม่นอนเหรอคะ” “แพงกำลังรอพี่อยู่ค่ะ เป็นไงบ้างคะเรียบร้อยดีไหม” “ครับ งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนนะคะ” “ค่ะ” ขณะที่เธอยังไถมือถือเล่นระหว่างรอเขา พอเขาอาบน้ำเสร็จเขาก็รีบกระโดดขึ้นเตียงมานอนหนุนตักเธอ พร้อมกับเอาหน้าซุกพุ่งน้อย ๆ ของเธอทั้งยังทำหน้าอ้อน ๆ ให้เธออีก “พี่มาร์คง่วงนอนหรือยังคะ เรานอนกันเลยไหมคะ” “เราทำอย่างอื่นไม่ได้เหรอ” “ หื้อ แพงว่า..อย่าเลยดีกว่าค่ะ แพงอายคนอื่นเขาผู้ใหญ่ก็อยู่ในบ้านด้วย แพงไม่อยากให้คนอื่นมองเราไม่ดีเลยค่ะ รอบก่อนก็อายพี่แมธจะตายอยู่แล้ว” “หื้อ..อายทำไมเรื่องธรรมชาติไหมคะ” “ไม่ต้องเลยค่ะเรานอนกันได้แล้ว” “ขอนอนหนุนตักนุ่ม ๆ นี้ก่อนได้ไหมครับ” “เอ้..มาลูบท้องแพงแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ” “พี่แค่คิดว่าถ้าเรามีลูกด้วยกันเขาจะหน้าตาหล่อสวยเหมือนพี่ไหมนะ”
“พวกเราทุกคนรู้ดีว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ พี่แมธและมาร์คเองก็เล่าเรื่องของหนูมาให้น้าฟังเยอะพอสมควร ถ้าหนูยังไม่พร้อมหรือขาดเหลืออะไรก็บอกน้าได้เลยนะลูก ให้น้าไปขอกับพ่อกับแม่เราเถอะนะทุกอย่างจะถูกต้อง” “อันที่จริง ครอบครัวของแพงก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนครอบครัวคนอื่นเท่าไร ถ้าคุณน้าทั้งสองจะคุยกับครอบครัวแพง แพงก็ไม่ได้ติดขัดอะไรค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่แพงอยากจะบอกคือแพงไม่ได้ต้องการให้ครอบครัวแพงได้เงินจากครอบครัวของคุณน้าแม้แต่บาดเดียว เงินที่จะสร้างครอบครัวแพงขอให้มาจากพี่มาร์คและแพงเท่านั้นนะคะ” “แพง..เอาจริงดิ ตอนนี้เงินติดบัญชีพี่มันแทบไม่เหลือแล้วนะ แถมโดนเจ้าไมค์ปล้นไปอีก” “ค่ะพี่มาร์ค คุณน้าทั้งสองอาจจะมองว่าแพงอวดดี แต่แพงไม่ได้มีเจตนานะคะ มันคือความตั้งใจของแพงว่าถ้าแพงจะสร้างครอบครัวจริง ๆ แพงก็อยากจะสร้างความทรงจำและสร้างอนาคตกับคนที่แพงรักด้วยตัวของพวกเราเองค่ะ” “เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าไหมคะ เงินพ่อกับแม่ก็มีจะเสียเวลาทำไมคะ” เขาพยายามจะต่อรองกับเธอเพื่อให้เธอเปลี่ยนใจ แต่ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้เธอก็ต้องการจะสารภาพความในใจให้หมดเลย “เอาสิลูก น้องแพงมาใก
“เปล่า.. ” “ตาแดงขนาดนั้นยังจะโกหกอีกนะคะ” หมับ เขากอดเธอไว้แน่นเพื่อไม่เธอหันมาเห็นน้ำตาที่ไหลออกมา ก่อนจะเอามือปาดน้ำตาตัวเอง “แพงอย่าพูดแบบนี้กับพี่ได้ไหม พี่ไม่ชอบเลย” “แพงพูดแบบไหนคะ” “ก็ที่บอกว่าจะไม่อยู่กับพี่แล้วไง พี่ขอโทษ ขอโทษกับทุก ๆ การกระทำของตัวเองเลย แพงอย่าโกรธพี่เลยนะ” “ก็ได้ค่ะ ไหนหันหน้ามาให้แพงดูหน่อย โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะคะครั้งนี้แพงจะไม่โกรธพี่ก็ได้ค่ะ พี่มาร์คก็ปล่อยแพงได้แล้วแพงอายคนอื่นเขา อีกอย่างคนที่พี่ควรจะขอโทษก็คือน้องไมค์ พี่พูดแบบนั้นออกมาได้ไงคะ น้องเขารักพี่ขนาดไหนพี่รู้ไหม พี่มาร์คไม่คิดว่าไมค์จะเสียใจบ้างเหรอคะอย่าลืมไปขอโทษน้องนะคะ” “ครับ” “อีกเรื่องนะคะ แพงเองก็ไม่ได้ชอบเพลงขวัญแต่ที่พี่ทำแบบนั้นกับผู้หญิงมันจะกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวพี่ไป คนที่โดนพี่ทำร้ายร่างกายสักวันมันอาจจะเป็นแพงก็ได้ฉะนั้นช่วยเลิกใจร้อนมือเร็วแบบนั้นด้วยนะคะ” “ครับ ปกติพี่ก็ไม่ได้ทำร้ายผู้หญิงหรอกนะ แต่เด็กนั้นมันน่าโดนนิ แม่พี่เดินมาแล้วเราหายงอนกันได้แล้วใช่ไหม” โอ้ยยย.. “มี้ครับผมเจ็บ ปล่อยมือก่อนครับ หูผมจะหลุดแล้วเนี้ย” “ยังจะกล้าบอกว่าเจ็บอีกเหร
คำพูดที่แสนจะธรรมดาของแม่มาร์คมันเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงใจเธอจนเธอรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาและชาไปทั้งใจ เธอเองก็ไม่เคยนึกถึงอนาคตตัวเองเลยด้วยซ้ำตั้งแต่สูญเสียน้องชายเธอไป เป้าหมายในชีวิตที่เคยคิดไว้มันพังทลายไปแล้วจริง ๆ เธอจึงไม่มาสามารถตอบคำถามใด ๆ ได้เลย เขาหันหน้าไปมองเธอก็เห็นถึงแววตาที่ไร้จุดหมายและปนเศร้าอยู่หน่อย ๆ เขาเอื้อมมือไปจับมือเธอเพื่อให้กำลังใจ “ถ้าแพงยังไม่มีเป้าหมายในชีวิต พี่จะสร้างเป้าหมายในชีวิตให้แพงเอง แพงอย่าเศร้าไปเลยนะ” พรวด! แค่ก แค่ก “เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมมาร์ค นายเองก็ยังไร้จุดหมายในชีวิตเหมือนกันเท่าที่ฉันเห็นแกหนักกว่าน้องแพงเยอะเลยนะ” “ผมก็ช่วยงานพี่อยู่นี้ไง” “มองดูก็รู้ว่าที่ทำอยู่เนี่ยทำเพราะไม่มีอะไรทำ หึ!” “พ่อว่าหนูแพงไปเรียนต่อโทที่ฝรั่งเศสไหมหรือเยอรมันก็ดีนะ เผื่อเจ้าไมค์จะไปเรียนต่อน้องจะได้มีเพื่อนด้วย เรื่องค่าใช้จ่ายหรือค่าเทอมพ่อดูแลเอง” “ผมไม่อนุญาตครับ” “ถามน้องแพงยัง แม่ว่าน้องอาจจะอยากไปเรียนต่อก็ได้” “งืออ” “แพงขอบคุณคุณน้าทั้งสองคนมาก ๆ นะคะที่เอ็นดูแพงแต่เรื่องนี้แพงขอยังไม่รับน้ำใจนะคะ แพงอยากลองพึ่งพาตัวเองก่