Beranda / โรแมนติก / เล่ห์หวนรัก / บทที่ 4 เรื่องที่พูดไม่ได้ - 25%

Share

บทที่ 4 เรื่องที่พูดไม่ได้ - 25%

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-16 11:00:21

ชินดนัยลอบมองไปทางจันทร์เจ้า เห็นหญิงสาวกำลังปิดสมุดบันทึกแล้วลุกขึ้นยืนโดยไม่มองหน้าเขาแม้แต่หางตาก็ได้แต่ลอบถอนหายใจด้วยความเสียดายและกลัดกลุ้ม อุตส่าห์ได้โอกาสคุยกับเธอดี ๆ แล้วแต่ก็มีเหตุให้ต้องล้มเหลวอีกจนได้

"คุณผู้หญิงจะรับกาแฟไหมคะ" จันทร์เจ้าถามหญิงสาวผู้มาใหม่อย่างนอบน้อม

"ไม่ดีกว่าค่ะ ขอแค่น้ำเปล่าก็พอ ขอบคุณนะคะ" รมิดายิ้มกว้างพลางเอนหลังพิงพนักโซฟา

"รอสักครู่นะคะ" จันทร์เจ้ายิ้มตอบแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเอมิกา เมื่อประตูห้องปิดลงแล้ว ชินดนัยก็หันไปหาคนที่นั่งข้างกายทันที

"คุณกำลังทำให้ลูกน้องของผมแตกตื่นนะดาด้า"

"แหม...ไม่เห็นเป็นอะไรเลยค่ะ ว่าแต่ผู้หญิงที่นั่งกับคุณเมื่อกี้คือใครคะ"

"คุณจันทร์เจ้า เลขาฯ ใหม่ของผมเองแหละ มาแทนคุณพรีมน่ะ"

เขาตอบเสร็จก็ถอนหายใจแผ่วอีกครั้ง ป่านนี้ไม่รู้ว่าจันทร์เจ้าจะคิดเลยเถิดไปไหนต่อไหนแล้ว

รมิดาพยักหน้าขึ้นลงช้า ๆ "อืม คนนี้ดูนิ่งดีนะ ท่าทางเป็นมืออาชีพแล้วก็ดูมีรสนิยมดีด้วย"

ชินดนัยยิ้มเมื่อได้ยินรมิดาเอ่ยชมจันทร์เจ้า เพราะกับพรีมหรือพริมา เลขานุการคนเก่าของเขานั้น ทันทีที่เจอหน้ากันครั้งแรก คนที่รสนิยมสูงลิบอย่างรมิดาเห็นแล้วไม่ชอบหน้าเอาเสียเลย

เสียงเคาะประตูดังขึ้นทั้งสองคนจึงหยุดคุยกัน เป็นจันทร์เจ้าที่เดินเข้ามาพร้อมกับน้ำเปล่าสองแก้ววางไว้ให้บนโต๊ะ

"ขอบคุณค่ะคุณจันทร์เจ้า" รมิดายิ้มให้อย่างเป็นมิตร

"ยินดีค่ะ" จันทร์เจ้าค้อมศีรษะและยิ้มให้เช่นกัน จากนั้นก็หันหลังกลับแล้วเดินออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูไว้ให้ตามเดิม

หลังจากที่ได้อยู่ตามลำพังกันอีกครั้ง ชายหนุ่มก็เข้าเรื่องสำคัญทันทีเพราะรู้ดีว่าการที่รมิดามาหาเขาถึงที่ทำงานวันนี้เพราะเรื่องอะไร

"ตกลงว่าไง ได้เรื่องอะไรบ้างไหม" เขายกกาแฟขึ้นมาดื่มหนึ่งอึก จากนั้นก็ตามด้วยน้ำเปล่า ส่วนคนถูกถามนั้นหลังจากที่ดื่มน้ำลงคอแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางมองหน้าเขาแล้วพูดว่า

"คุณรู้ไหมว่าเธอไม่ได้กินยามาเกือบสองอาทิตย์แล้ว"

ได้ยินอย่างนั้นชินดนัยก็เอนหลังพิงโซฟาราวกับคนหมดแรง เขายกมือขึ้นนวดขมับ สีหน้าแววตาบอกถึงความกลัดกลุ้มอย่างเห็นได้ชัด

"แต่ผมเห็นแผงยามันก็พร่องลงไปนะ เพราะทุกคืนถ้าไม่ได้กลับดึกผมจะเข้าไปหาเขาในห้องก่อน ทุกครั้งที่ถามว่ากินยารึยัง เขาก็ตอบว่ากินแล้วผมก็เลยไม่ได้เอะใจอะไร"

"เธอแกะยาไปจากแผงจริง แต่ไม่ได้กิน เธอแกะไปทิ้ง" รมิดาบอกไปตามตรง

"ผมก็ว่าอยู่แล้วเชียวว่าทำไมกินยาแล้วถึงอาการไม่ดีขึ้นเลย ผมถึงได้โทร. บอกให้คุณเข้าไปคุยกับน้องผมหน่อย" ชายหนุ่มก้มมองมือตัวเองที่ถูกันไปมาก่อนพูดต่อ

"ทำไมยายนุชถึงไม่ยอมกินยา ทำไมเขาถึงไม่อยากรักษาอาการของตัวเอง"

"เท่าที่ไปคุยมาฉันคิดว่าน้องสาวคุณรู้สึกสิ้นหวัง เธอบอกว่าเหนื่อยกับการใช้ชีวิต เบื่อทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว เธอหมดแรงใจในการอยู่ต่อ ฉันเลยต้องพยายามใช้ความรักของคนในครอบครัวมาคุยกับเธอ"

"ทุกคนในบ้านรักยายนุชกันทั้งนั้น เป็นห่วงจนแทบไม่อยากให้คลาดสายตาเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรโง่ ๆ แบบคราวนั้นอีก" ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม เขาส่ายหน้าช้า ๆ ก่อนพูดต่อ

"บางทีผมก็ทำตัวไม่ถูกนะ ผมไม่รู้ว่าจะดูแลเขายังไงให้เขากลับมาเป็นปกติ เวลาจะพูดหรือเล่าเรื่องอะไรให้ฟังแต่ละครั้งก็ต้องคิดแล้วคิดอีกว่าควรพูดรึเปล่า เล่าไปแล้วอาการของเขาจะ...เขาเรียกว่าอะไรนะเวลาอาการกำเริบน่ะ" เขาหันไปถามรมิดา หญิงสาวจึงตอบให้

"ดิ่ง"

"ใช่ นั่นแหละ ผมกลัวว่าเวลาพูดอะไรให้เขาฟังแล้วเขาจะยิ่งดิ่งลงไปมากกว่าเดิมไหม เฮ้อ...บอกตามตรงนะว่าผมรู้สึกเหมือนเข้าไม่ถึงตัวเขา ผมเป็นพี่ชายเขาแท้ ๆ แต่เขากลับไม่ค่อยยอมเล่าหรือระบายปัญหาอะไรให้ผมฟังบ้างเลย"

"นั่นเพราะว่าคุณยังทำให้เขารู้สึกไว้วางใจไม่มากพอ คุณชินคะ การรับมือผู้ป่วยโรคซึมเศร้าน่ะ สิ่งแรกที่คุณกับสมาชิกในบ้านจะต้องมีคือความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้นะ น้องสาวคุณเป็นคนป่วยที่ต้องได้รับการรักษา ฉันขอถามคุณหน่อยว่ามีใครในบ้านที่คิดว่าคนป่วยโรคซึมเศร้าเป็นคนบ้าหรือโรคจิตรึเปล่า ใครในที่นี้ฉันหมายถึงเพื่อนบ้านหรือญาติ ๆ ด้วยนะ"

พอได้ยินคำถามนั้นจากรมิดา ชินดนัยก็ขมวดคิ้วมุ่นแล้วหันไปถามอีกฝ่ายทันที

"คุณหมายความว่ามีคนไปพูดให้ยายนุชได้ยินหรือว่าน้องสาวผมเป็นบ้า"

"ฉันก็ไม่แน่ใจนักค่ะเพราะเธอไม่ได้บอก เป็นแค่การคาดเดาของฉันเท่านั้น การที่น้องสาวคุณไม่ยอมกินยาต้านเศร้า สาเหตุส่วนใหญ่ฉันคิดว่ามาจากความสิ้นหวังและหมดศรัทธาในตัวเอง ยิ่งถ้าไปได้ยินหรือได้ฟังอะไรที่เกี่ยวกับตัวเองในแง่ลบมา ความรู้สึกก็จะยิ่งดิ่งลงไป เธอจะคิดว่าตัวเองไม่มีทางหาย เธอเป็นภาระให้คนอื่นต้องมาคอยดูแล และเมื่อไรที่ความคิดในแง่ลบสุมเข้ามาในหัวมากเข้า ก็มีโอกาสมากทีเดียวที่เธอจะหาทางฆ่าตัวตายอีกครั้ง"

"ผมต้องทำยังไงยายนุชถึงจะยอมเปิดใจเล่าทุกอย่างให้ฟังเหมือนที่เขาคุยกับคุณบ้างน่ะดาด้า บอกผมทีเถอะ"

รมิดามองอีกฝ่ายอย่างเห็นใจพลางเอื้อมมือไปตบบ่าเขาเบา ๆ

"อย่างที่บอกไปค่ะ คุณต้องเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเป็นอยู่ บางทีการเป็นผู้ฟังที่ดีก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นอย่างหนึ่ง คุณต้องอย่าพยายามไปสั่งสอนให้เธอคิดถึงคนนั้นคนนี้ อย่าเอาเรื่องบุญบาปอะไรพวกนั้นมาพูดกับเธอ คนป่วยโรคซึมเศร้าน่ะความคิดเขาเลยจุดที่เรียกว่าบาปบุญคุณโทษไปแล้ว อย่าบังคับขู่เข็ญให้เธอกินยา แต่ให้ใช้วิธีตะล่อมอย่างนุ่มนวล"

หญิงสาวหยุดพูดเพื่อยกแก้วน้ำขึ้นดื่มดับกระหายก่อนพูดต่อ

"การที่เธอยอมพูดกับฉันมากกว่าคุณซึ่งเป็นพี่ชายแท้ ๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าฉันเป็นจิตแพทย์ ฉันคือคนอื่น ไม่ใช่คนในครอบครัว เธอถึงได้กล้าพูดกล้าระบายเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง และที่สำคัญเลยก็คืออาจเพราะฉันกับน้องสาวคุณเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เวลาคุยก็เลยง่ายกว่าคุยกับคุณซึ่งเป็นผู้ชายน่ะ"

"คุณแม่ก็พยายามคุยกับเขานะ พยายามชวนทำกิจกรรมนั่นนี่ แต่เขาก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง ผมชวนออกไปเที่ยวไหนก็ไม่ยอมไป เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านท่าเดียว"

"เป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นโรคนี้ที่จะไม่อยากออกไปพบเจอผู้คน ส่วนใหญ่มักอยากจะนอนอยู่บนเตียงทั้งวัน นอนหลับไม่ต้องตื่นมาอีกเลยยิ่งดี นั่นคือสิ่งที่วิ่งอยู่ในหัว ลองเปลี่ยนจากการชวนเป็นการขอร้องดู อย่างเช่นว่าคุณไม่มีสาวให้ควงไปดูหนังเลย พี่ขอควงนุชแทนได้ไหม อะไรแบบนี้น่ะ" รมิดายักไหล่พลางยิ้มอย่างขี้เล่น

"อ้อ จริงสิ สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือคนในบ้านต้องทำตัวให้เป็นปกติที่สุด คุยเล่นไปกับเธอแต่ห้ามมองเธออย่างสงสาร สมเพช หรือเวทนา เรื่องนี้สำคัญนะคุณชิน ถามไถ่ทุกข์สุขกันธรรมดาได้ อย่าเพิกเฉยทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน แต่ก็อย่าปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นคนป่วยติดเตียงที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เพราะมันจะทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวประหลาด"

ชายหนุ่มนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้ารับรู้ช้า ๆ

"มีโอกาสจะพัฒนาไปเป็นไบโพลาร์ไหม"

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ ของขวัญวันเกิด - 100%

    "อ้าว แล้วพี่ออกมาก่อนแบบนี้พวกพี่ ๆ เขาไม่ว่ากันหรือคะ""ไม่ว่าหรอกน่า พวกพี่จะนัดกันเมื่อไรก็ได้ ต่อให้ไม่มีพี่ มันสองคนก็นัดชนแก้วกันเป็นประจำอยู่แล้ว อีกอย่างนะ พวกมันก็เข้าใจดีว่าเคสของหนูจันทร์เป็นเคสที่พี่ต้องจัดให้เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง"ชินดนัยยิ้มพลางหยิบขวดไวน์มารินใส่แก้วให้หญิงสาวอีกครั้ง จันทร์เจ้าเบิกตากว้างเพราะตนเพิ่งดื่มเข้าไปแค่ไม่กี่จิบเท่านั้น ไวน์ยังเหลือในแก้วตั้งเยอะแต่เขากลับรินให้จนเลยครึ่งแก้วขึ้นมา"พอแล้วค่ะ จะมอมกันหรือไง พี่ก็รู้ว่าจันทร์ดื่มไม่เก่ง"ชินดนัยมองเธอด้วยสายตาร้อนแรงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงต่ำพร่าว่า"พี่รู้ว่าจันทร์ดื่มไวน์ไม่เก่ง แต่เวลาที่จันทร์เมาจันทร์จะดูดน้ำอย่างอื่นได้เก่งมากเลย เพราะฉะนั้นพี่ก็ต้องมอมสักหน่อย"จันทร์เจ้าหน้าแดงขึ้นมาทันทีเพราะรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไร หญิงสาวจึงปิดปากเงียบไม่พูดอะไรที่จะเป็นการเข้าเนื้อตัวเองอีกชายหนุ่มมองสีหน้าขัดเขินของเธอแล้วก็นึกอยากพรมจูบไปให้ทั่วใบหน้า แต่เพราะเกรงว่าตนอาจจะไม่จบลงแค่จูบจึงได้แต่สะกดกลั้นความต้องการของตัวเองไว้ พลางหาเรื่องอื่นมา

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ ของขวัญวันเกิด - 75%

    มือของเขาเลื่อนขึ้นมาจนสัมผัสได้กับเส้นเล็ก ๆ บาง ๆ ของกางเกงชั้นใน จากนั้นเขาก็จับเอวของเธอไว้แล้วผละออกห่างเล็กน้อยเพื่อมองภาพความสวยงามที่หาได้ยากแบบนี้ให้เต็มตา"เซ็กซี่มากที่รัก พี่ชอบมากเลย"สายตาร้อนแรงของเขาราวกับจะแผดเผาเธอได้ ยอมรับว่าอายแสนอายจนรู้สึกได้ถึงความร้อนที่พุ่งขึ้นมากระจุกอยู่บนใบหน้า แต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเป้ากางเกงของเขาก็ฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะยังไม่ถึงหนึ่งนาทีเลยด้วยซ้ำ แต่ความพรักพร้อมของเขานั้นปูดโปนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดจันทร์เจ้าเอาแขนออกจากคอของชินดนัยแล้วดึงกระโปรงลง จากนั้นก็ใช้นิ้วเกี่ยวหูกางเกงของเขาพลางดึงเบา ๆ แล้วพูดว่า"ไปที่โต๊ะกันดีกว่าค่ะ จันทร์เพิ่งอุ่นเสร็จเมื่อกี้เอง ไวน์ก็เพิ่งเอามาแช่ใหม่ ถ้าไม่ดื่มตอนนี้เดี๋ยวน้ำแข็งจะละลายเสียก่อน"เธอดึงหูกางเกงของเขาเพื่อให้ชายหนุ่มเดินตามมาที่โต๊ะอาหาร ชินดนัยเดินตามอย่างว่าง่ายจนกระทั่งมาถึงโต๊ะจึงกดบ่าของเขาให้นั่งลงบนเก้าอี้"เดี๋ยวจันทร์รินไวน์ให้นะคะ"หญิงสาวยิ้มหวานให้ก่อนหันหลังให้เขาแล้วเอื้อมหยิบขวดไวน์ที่อยู่อีกฝั่งของโต๊ะ แต่เพราะชุ

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ ของขวัญวันเกิด - 50%

    เมื่อเดินเข้าไปด้านใน แค่แจ้งชื่อของปกเกล้าก็จะมีพนักงานสาวสวยพาเขาไปยังโต๊ะที่จองเอาไว้ทันที"อ้าว ไอ้ปกยังไม่มาหรือ" ชินดนัยเห็นภาวินนั่งอยู่เพียงลำพังจึงถามถึงเพื่อนอีกคน"คงกำลังมาแหละมั้ง เห็นว่ามีเรื่องด่วนนิดหน่อย...ของพี่คนนี้โซดาอย่างเดียวนะจ๊ะ" ภาวินตอบพลางหันไปบอกกับบันนี่สาวที่มีหน้าที่ผสมเหล้าอยู่ข้างโต๊ะ"เฮ้ย...เรื่องด่วนที่ว่าหมายถึงเรื่องนี้เองหรือวะ" ชินดนัยยิ้มเจ้าเล่ห์พลางบุ้ยหน้าไปทางชั้นล่าง ภาวินจึงมองลงไปบ้างก็เห็นปกเกล้ากำลังจูงมือหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาในคลับด้วยจะว่าไปแล้วน่าจะเรียกว่าฉุดลากกันมากกว่า เพราะดูจากท่าทางไม่เต็มใจของผู้หญิงที่ปกเกล้าพามาด้วยกันนั้นก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายถูกบังคับให้มาที่นี่"น่ารักดีว่ะ อย่างกับเด็กมหาลัย ไอ้ปกไปหามาจากไหนวะเนี่ย"ภาวินอดสงสัยไม่ได้เพราะปกติแล้วเวลานัดสังสรรค์กันในหมู่เพื่อนสนิท จะไม่มีใครพาผู้หญิงมาด้วยเด็ดขาดเพราะกลัวงานกร่อย และกฎนี้ปกเกล้าก็เป็นคนตั้งขึ้นเองด้วยซ้ำแต่เจ้าตัวกลับทำผิดกฎเสียเอง"กูว่าคนนี้คงไม่ธรรมดาเว้ย มึงดูสิไอ้ปกเคยเป็นแบบนี้ที่ไหน ทำอย่างกับจับ

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ ของขวัญวันเกิด - 25%

    สุดท้ายแล้วจันทร์เจ้าก็ไม่ได้ซื้อของขวัญวันเกิดให้ชินดนัย ดังนั้นหลังจากที่รับประทานมื้อเที่ยงกับภัทรพลเสร็จแล้วเธอจึงกลับขึ้นไปบนออฟฟิศตามเดิม ทว่านั่งทำงานไปได้ไม่เท่าไร หญิงสาวก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงเดินเข้าไปหาผู้เป็นทั้งเจ้านายและคนรักในห้องทำงานของเขา"จันทร์ขอลางานครึ่งวันนะคะพี่ชิน คุณแม่ติดธุระก็เลยไปรับหนูพราวที่โรงเรียนไม่ได้ค่ะ จันทร์เลยต้องไปรับแทน""งั้นหรือ...อืม งั้นก็ไปเถอะ ถึงบ้านแล้วโทร. หาพี่ละกัน พี่จะได้ไม่เป็นห่วง" เขายิ้มพลางกางแขนออกกว้าง หญิงสาวจึงอดค้อนให้เขาไม่ได้ แต่กระนั้นก็ยังเดินเข้าไปก้มตัวลงเล็กน้อยแล้วโผไปซุกในอ้อมอกของเขาชินดนัยหอมขมับของเธออย่างแสนรัก หากแต่มือเจ้ากรรมก็ยังไม่วายซุกซน บีบบั้นท้ายของหญิงสาวเล่นอย่างเคยตัว ผลลัพธ์ที่ตามมาคือถูกเจ้าของบั้นท้ายหยิกเข้าที่เอวเต็มแรง"นิสัยไม่ดีตลอดเลยพี่ชินเนี่ย เผลอเป็นไม่ได้"จันทร์เจ้าบ่นให้เขาพลางผละออกห่างแล้วยืนเต็มความสูงตามเดิม จากนั้นก็เดินไปที่ประตูห้องทำงาน"จันทร์ไปก่อนนะคะ ถึงบ้านแล้วจะโทร. หาค่ะ" พูดจบก็เปิดประตูเดินออกไปจึงไม่ทันเห็นว่าใบ

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ คนนั้นคือใคร - 100%

    ชายหนุ่มไม่แสดงท่าทีเอาอกเอาใจมากจนเกินไปอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งปฏิบัติต่อหญิงสาวที่ตนมีใจให้เพราะไม่ต้องการให้เธอรู้สึกอึดอัด ซึ่งนับว่าเป็นผลดีกับเขามากเพราะจันทร์เจ้าพูดกับเขาอย่างที่คุยกับคนรู้จักทั่วไป ไม่มีท่าทีปิดกั้นหรือระแวงจนเขาไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เธอทั้งคู่สั่งกับข้าวมาสามอย่าง หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อยแล้วโทรศัพท์ของภัทรพลก็มีสายเรียกเข้า ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นสายจากเลขานุการของตนเขาจึงต้องกดรับเพราะหากไม่ใช่เรื่องสำคัญ เลขาฯ ของเขาจะไม่โทร. มาในเวลาพักเที่ยงอย่างนี้เป็นแน่"ผมขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์สักครู่นะครับ" เขาพูดกับจันทร์เจ้าแล้วรีบลุกขึ้นก้าวเร็ว ๆ ออกจากร้านอาหารทันที จากนั้นก็เดินห่างออกไปจากหน้าร้านโดยเดินไปทางห้องน้ำเพราะตั้งใจจะเข้าไปทำธุระส่วนตัวด้วยชินดนัยเห็นผู้ชายที่อยู่กับแฟนสาวของตนกำลังเดินคุยโทรศัพท์ไปทางห้องน้ำ เขาจึงเดินอ้อมจากอีกด้านตามไปทันทีชายหนุ่มคนนั้นคุยโทรศัพท์เสร็จก็จัดการทำธุระส่วนตัว ส่วนชินดนัยก็ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์อ่างล้างมือเพื่อรออีกฝ่ายอย่างใจเย็น จนกระทั่งผู้ชายคนนั้นเดินมาล้างมือในอ่างท

  • เล่ห์หวนรัก   ตอนพิเศษ คนนั้นคือใคร - 70%

    จันทร์เจ้ากลอกตามองเพดาน ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ อย่างหยอกเย้าจากเลขาฯ รุ่นพี่ที่นั่งอยู่ใกล้กัน เธอก็ได้แต่ยิ้มอย่างจนใจ"ไม่รีบเข้าไป เดี๋ยวท่านประธานก็ออกมาตามด้วยตัวเองอีกหรอก"นันทิดาพูดจบก็หัวเราะคิกคัก เพราะท่านประธานหนุ่มไม่เคยปิดบังความรู้สึกที่ตนมีต่อเลขาฯ ส่วนตัวคนนี้สักนิด ช่วงแรกที่จันทร์เจ้าคบหากับท่านประธานก็มีเพียงคนกันเองอย่างพวกตนที่เป็นเลขานุการด้วยกันเท่านั้นที่รู้แต่หลังจากที่มีโปรแกรมเมอร์หนุ่มคนใหม่เข้ามาทำงานที่บริษัทแล้วแสดงออกว่าสนใจเลขาฯ ของท่านประธานจนถึงขนาดเอ่ยปากชวนไปเลี้ยงข้าวกลางวัน ซึ่งพอเรื่องนี้เข้าหูผู้เป็นเจ้านายอย่างชินดนัย ท่านประธานหนุ่มก็แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอย่างออกนอกหน้าทันทีโดยไม่สนใจว่าพนักงานคนอื่นจะมองอย่างไรทั้งเดินจูงมือจันทร์เจ้า บางคราวก็โอบไหล่โอบเอว แม้ว่าหญิงสาวจะพยายามเอ่ยปากเตือนหลายครั้งแต่ท่านประธานก็ยังคงทำตามใจตัวเองเรื่องนี้ผ่านมาหลายเดือนแล้ว และพนักงานทุกคนก็รับรู้กันถ้วนหน้าว่าท่านประธานกับเลขาฯ ส่วนตัวนั้นกำลังคบหาดูใจกันอยู่ นานวันเข้าจากที่ทุกคนเคยตื่นเต้นกับเรื่องนี้ก็เร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status