ภายในโรงแรมหรูหราระดับห้าดาวของเมืองเชียงใหม่ บริเวณลานกว้างที่จัดตกแต่งอย่างงดงามอลังการเพื่อจัดงานนิทรรศการอาหารไทยพื้นเมืองและอาหารนานาชาติ คลาคล่ำด้วยผู้เข้าชมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งต่างให้ความสนใจในบู๊ทจัดงานต่างๆ ซึ่งมีอาหารมากมายหลากหลายสีสันและรสชาติให้ชมและชิม จับจ่ายเพื่อเป็นของฝากแก่พ่อแม่เพื่อนฝูง ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างอิ่มเอมมีความสุขทั้งเจ้าของร้านและลูกค้าบ่งบอกได้อย่างดีว่าการจัดงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเพียงใด
ด้านหลังเวทีสัมมนากลางลานจัดงาน หญิงสาวร่างระหงแต่งกายด้วยชุดไทยล้านนาซึ่งตัดเย็บอย่างประณีตงดงามสีงาช้างขับผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนให้ผุดผ่องน่ามอง ผมยาวสลวยเกล้ามวยสูงแซมดอกกล้วยไม้เผยใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลประกายวาวหวาน ขนตายาวงอนโดยไม่ต้องดัด จมูกโด่งเชิดสวยคม ริมฝีปากรูปกระจับอิ่มระเรื่อเคลือบสีชมพูอ่อนใสน่ามองความงดงามดูชดช้อยอ่อนหวานของหญิงสาวทำให้คนมองนึกถึงภาพของสาวเครือฟ้าขึ้นมาครามครันนั้น ร่างบางกำลังก้าวลงเวทีด้วยใบหน้าแย้มยิ้มอ่อนหวานให้กับผู้ร่วมงานอื่นที่ส่งยิ้มทักทาย
“ขอบคุณมากๆ เลยค่ะคุณอ้อนที่ให้เกียรติมาร่วมงานกับโรงแรมและยังมาบรรยายสร้างสีสันให้งานของเราผ่านไปได้ด้วยดีแบบนี้ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ”
แม่เลี้ยงเกศรา ภรรยาคนสวยของพ่อเลี้ยง อินคำ อภิปัญญา เจ้าของโรงแรมสุดหรูแห่งนี้ ทั้งสองสามีภรรยายังคงสง่างาม ภูมิฐานอย่างคนที่มีเชื้อเจ้านายทางเหนือทั้งยังเป็นที่รักเคารพนับถือจากคนที่นี่ด้วยอัธยาศัยไมตรี ไม่ถือตัว เป็นกันเองกับทุกๆ คนเสมอ ไม่มีทีท่าเจ้ายศเจ้าอย่างเหมือนผู้มียศศักดิ์บางคน
“แหม แม่เลี้ยงก็ชมเกินไปค่ะ ทีมงานที่จัดงานเขาจัดงานได้ดีมากต่างหากล่ะคะ อ้อนก็แค่มาพูดๆ แล้วก็สาธิตทำอาหารง่ายๆ แค่นั้นเองไม่ได้ทำอะไรเลย น่าจะยกความดีความชอบให้พี่ๆ และน้องๆ ทีมงานดีกว่าค่ะ” อโนมาเชฟสาวคนเก่งยิ้มด้วยไมตรีอ่อนน้อม เสียงหวานใสเอื้อนเอ่ยถ่อมตัวแด่ผู้คนทำให้คนที่ได้พบปะพูดคุยหลงเสน่ห์เธอได้ไม่ยาก
“ข่าวที่ว่าคุณอ้อนชอบถ่อมตัวและยิ้มหวานคงจะจริงนะน้องเกดดูสิ เห็นกับตาเจอกับตัวเลย”
“นั่นสิคะ คุณพี่ตัวจริงไม่ผิดกับที่ได้ยินมา แต่มีอย่างหนึ่งที่ผิดจากที่ฟังมามากๆ เลยนะคะคุณพี่”
“อะไรรึที่รัก” พ่อเลี้ยงเอ่ยถามพลางขมวดคิ้วสงสัย
“ก็คุณอ้อนตัวเป็นๆ ตรงหน้าเราเนี่ย สวยกว่าในหนังสือหรือคำบอกเล่าที่ได้ยินมาน่ะสิคะ”
“แหม แม่เลี้ยงคะ พูดเกินจริงๆ ไปแล้ว อ้อนไม่ได้สวยขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่พอดูได้เท่านั้นเอง”
“ค่ะ ไม่สวยก็ไม่สวย แหมไม่รู้ว่าจะกลัวสวยไปทำไม ถ้าเป็นฉันนะคะจะประกาศให้ทั้งบางให้รู้ไปเลยว่าฉันนี่แหละสวยตัวแม่สุดๆ ไปเลยค่ะ”
“พอเถอะครับน้องเกด นี่ขนาดสมัยสาวๆ น้องเกดไม่ค่อยประกาศว่าสวย หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั้งสี่ทิศก็แย่งกันขายขนมจีบจนพี่แทบไม่มีโอกาสเข้าใกล้น้องเกดเลย แล้วยังได้นิสัยห่ามๆ นี่อีก ไม่ต้องเอาไปใส่หัวคนอื่นเขาเลยที่รัก” พ่อเลี้ยงอินคำพูดพลางบีบจมูกเล็กโด่งรั้นของภรรยาอย่างมันเขี้ยว สองสามีภรรยาหยอกล้อกันอย่างน่ารักและหวานชื่นนั้นเป็นภาพที่ชินตาคนแถวนี้ไปเสียแล้ว เพราะประวัติความรักของพ่อเลี้ยงอินคำกับแม่เลี้ยงเกศรานั้นได้รับการบอกเล่ากันว่าโหดมัน ฮาเหลือหลายในความแสบซ่าของแม่เลี้ยงแสนแก่นแก้วกับพ่อเลี้ยงหนุ่มมาดเข้มขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ที่ต้องหัวหมุนกับยุทธการพิชิตใจแม่หญิงเกศรานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะความแก่นเซี้ยวของแม่หญิงคนงามเมื่อสิบกว่าปีก่อน
“แหมคุณพี่ก็ เอาล่ะค่ะคุณอ้อนคะ เราถือโอกาสเชิญคุณอ้อนไปทานข้าวเย็นที่คุ้มอินจำปาของเราเลยนะคะ และจะถือโอกาสเลี้ยงขอบคุณทุกๆ คนที่ร่วมกันช่วยทำให้งานในวันนี้สำเร็จด้วยดีด้วยนะคะ ทีมงานทุกๆ คนเลยนะคะ ใครไม่ไป แม่เลี้ยงจะโกรธไม่ยอมจริงๆ ด้วย” แม่เลี้ยงเกศราเอ่ยชวนทีมงานด้วย
“ค่ะ อ้อนไปแน่นอนค่ะแม่เลี้ยงให้โอกาสเชิญทั้งที ได้ข่าวว่าที่คุ้มมีกล้วยไม้สวยๆ เยอะด้วยนี่คะคราวนี้อ้อนจะไปขอขโมยไปปลูกที่บ้านบ้างนะคะ”
“ถ้างั้นยกให้ทั้งเรือนเลยครับคุณอ้อน เพราะตอนนี้ผมขี้เกียจจะดูแล เยอะมากจนรดน้ำจนจะไม่ไหวอยู่แล้ว”
“พี่อินคำ นี่กล้าขนาดบอกว่าขี้เกียจรดน้ำกล้วยไม้ของน้องหรือคะ” แม่เลี้ยงแสร้งทำเสียงขุ่นขวาง
“โอ๋ๆ พี่ล้อเล่นจ้ะ ใครจะกล้าไม่ดูแลกล้วยไม้สุดรักของน้องกันล่ะจ๊ะ ป่ะ เราไปกันเถอะนะจ๊ะ พี่จะรีบกลับไปดูแลรดน้ำให้หนำใจไปเลย ไปจ้ะ ไปนะครับคุณอ้อน เจอกันทุ่มตรงที่คุ้มอินจำปานะครับ คนของเราจะมารับไปที่คุ้มเอง” พ่อเลี้ยงอินคำไม่วายกำชับแทนภรรยาสุดที่รักซึ่งดูเหมือนจะเป็นปลื้มสาวสวยนัยน์ตาโศกซึ้งตรงหน้าเสียเหลือเกิน
“ค่ะ พ่อเลี้ยง แม่เลี้ยง สวัสดีค่ะ” เธอยิ้มให้คนทั้งคู่อย่างอ่อนโยนในไมตรีนั้น อโนมายิ้มกับภาพความน่ารักของสามีภรรยาที่เดินประคองกันออกไปด้วยความสุขแล้วยิ้มกับตัวเองพลางนึกถึงคนที่อยู่ไกลแสนไกลและไม่มีวันหวนกลับมาเพื่อมาฟังความในใจที่อยากจะบอกกล่าวแก่เขาคนนั้น
“นนท์ นนท์จะรู้ไหมว่า อ้อนคิดถึงนนท์มากแค่ไหน” อโนมารำพึงเบาๆ ในใจนัยน์ตาโศกซึ้งหม่นเศร้าลงทันทีอย่างเห็นได้ชัด หญิงสาวถอนใจเบาๆ แล้วเดินกลับบ้านพักของตัวเอง ซึ่งเป็นบ้านพักแบบล้านนาหลังเล็กบริเวณด้านหลังโรงแรมที่จะเป็นโซนบ้านพักสำหรับผู้ที่มาเป็นครอบครัวและอยากมาพักผ่อนอย่างสงบ และเป็นส่วนตัวด้วยบรรยากาศของสวนสวยที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ดอกไม้ที่จัดแต่งอย่างสวยงามดั่งอยู่ในสวนสวรรค์ กรุ่นกลิ่นหอมรวยรื่นของดอกไม้ไทยทั้งราตรี ลีลาวดี โมกข์ตลอดจนดอกแก้วที่ตอนนี้ออกดอกสะพรั่งเต็มต้นหน้าบ้านพักของเธอ
อโนมาเดินทอดน่องไปยังศาลาริมน้ำที่มีน้ำพุพวยพุ่ง ละอองซ่านกระเซ็นต้องแสงแดดยามบ่ายคล้อยเป็นประกายวาววับจับตา มือเรียวหยิบดอกลีลาวดีสีขาวนวลที่ร่วงหล่นลงมาตรงหน้าขึ้นสูดดมพลางทรุดนั่งพับเพียบบนพื้นศาลาที่ขัดมันวาวแล้วเอนพิงระเบียงไม้เตี้ยๆ ฉลุลวดลายงดงาม ดวงตาสวยซึ้งที่ปนแววโศกยามเจ้าตัวอยู่ในภวังค์ความคิดทอดมองไปที่ท้องน้ำที่กว้างไกลราวจะปล่อยใจให้ลอยล่องไปไม่มีที่สิ้นสุดและยากจะคาดเดาว่าสาวเจ้าคิดถึงสิ่งใด ใบหน้านวลสวยซึ้งสงบนิ่งราวกับว่าโลกนี้มีเพียงเธออยู่เพียงลำพัง เธอมักจะมีโลกส่วนตัวที่เพื่อนรัก อรุณนารีและเนตรนาราเท่านั้นที่เข้าถึง เพราะอาการที่เธอเป็นอยู่นี้เพื่อนสาวทั้งสองจะรู้และเข้าใจเป็นอย่างดี และมันก็เป็นปมในใจของเธอที่ไม่อาจลบเลือนไปได้ ทุกวันนี้เธอยังเจ็บปวดและจมอยู่กับมันจนไม่มีช่องว่างใดๆ ให้ใครเข้ามาช่วยบรรเทาให้มันบางเบาลง
ภาพหญิงสาวที่แต่งกายด้วยชุดไทยล้านนาสีงาช้างยามนี้ต้องแสงแดดอ่อนของดวงตะวันที่คล้อยต่ำลงเป็นประกายสว่างนวลเรืองรอง ช่างเป็นภาพที่งดงามสะกดให้ชายหนุ่มร่างสูงสมาร์ตหยุดมองอย่างเลี่ยงไม่ได้ ร่างแกร่งนั้นสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ซึ่งปลดกระดุมลงมาสองเม็ดเพื่อระบายความอบร้อนของร่างกาย แขนเสื้อพับขึ้นมาที่ข้อศอกเผยให้เห็นท่อนแขนแกร่งขาวสะอาดประปรายด้วยขนอ่อนที่เรียงตัวเป็นระเบียบ เสื้อสูทสีดำเนื้อดีถูกพาดไว้ที่ท่อนแขนแข็งแรง เขาหยุดมองภาพหญิงสาวที่นั่งพับเพียบอยู่ในศาลาริมน้ำตรงหน้าดั่งต้องมนต์ สวยเหมือนนางในวรรณคดี คือคำนิยามที่สมองอันเฉลียวฉลาดของ อัคคี จงบริบูรณ์ไพศาล จะคิดออก
ตอนที่ 140. อวสาน“มันผ่านไปแล้วริต้าตอนนี้เธอมีชีวิตที่สดใส และมีพวกเราอยู่ข้างๆ และตอนนี้เธอก็ได้ชดใช้มันแล้ว ไม่เอาไม่พูดถึงเรื่องเก่าๆ แบบนั้นอีก” เนตรนาราปลอบ“นั่นสิริต้า ตอนนี้พวกเราผ่านพ้นเรื่องร้ายนั้นมาแล้วอย่าคิดมากนะยังไงเราก็ยังคงอยู่ด้วยกันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ปล่อยวางความเจ็บปวด ความอาฆาตพยาบาทที่มันไม่เคยให้คุณแก่ใคร” อโนมากุมมือผอมบางนั้นอย่างจริงใจทั้งน้ำเสียงและแววตาจนภูริต้าน้ำตาซึมด้วยความตื้นตันใจที่เธอโชคดีเหลือเกินที่พบเจอและได้หญิงสาวทั้งสามคนนี้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาจิตใจที่กระเจิดกระเจิงและเคยสกปรกของเธอด้วยความรักและจริงใจอย่างสม่ำเสมอ“ริต้าดีใจจัง”“พวกเราก็ดีใจที่ริต้ามีความสุขและหายดีแล้ว แล้วนี่ริต้าอยากจะออกไปอยู่กับพวกเราไหม” อโนมาถามด้วยความเป็นห่วงเธออยากให้ภูริตาไปอยู่ที่บ้านด้วยเพราะเห็นว่าภูริตาหายดีแล้ว“ไม่หรอกอ้อนขอบใจมากนะ ริต้าอยากอยู่ที่นี่ อยากช่วยเหลืออยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นบ้าง ที่นี่ต้องการริต้า ริต้ารู้สึกอย่างนั้น เพราะมีหลายๆ คนที่เคยเป็นเหมือนริต้าหรือบางคนอาจเป็นมากกว่าด้วยซ้ำไป และบางทีเคยมีคนที่เคยเข้ารับการรัก
ตอนที่ 139.ไอรดาพูดยิ้มๆ และหัวเราะออกมาอย่างขบขันสามีที่ทำท่าราวน้องเก้าลูกชายชอบทำเวลาที่งอนง้อเธอ ไอ้ท่าชูนิ้วก้อยดุ๊กดิ๊ก ทำหน้าตาให้ดูเด็กและน่ารักอย่างที่สุด ถ้าน้องเก้าทำเธอคิดว่ามันก็น่ารักดี แต่พอสามีทำมันเหมือนตัวตลก แต่ก็น่ารักดีเหมือนกัน“นี่น้ำแข็งแกล้งพี่กันต์เหรอ” ชายหนุ่มร้องออกมาอย่างงอนๆ บ้างและทำหน้าบึ้งตึงจนดูตลก“โถๆๆ ก็สามีสุดหล่อน่ารักขนาดนี้น้ำแข็งจะใจร้ายแกล้ง หรือโกรธได้ยังไงล่ะคะ” ไอรดาหัวเราะท่าทางของสามีอย่างไม่เก็บอาการ“ว้าย! พี่กันต์บ้าทำอะไรคะ”แล้วเธอก็ต้องร้องเสียงดังอย่างตื่นตระหนกเมื่อร่างอวบอิ่มด้วยอายุครรภ์สี่เดือนในตอนนี้ถูกสามีอุ้มจนตัวลอย จนเธอเองต้องรีบโอบลำคอหนาด้วยกลัวตกแล้วหันมามองหน้าสามีอย่างตื่นตกใจ“พี่กันต์จะทำโทษคนเจ้าเล่ห์ขี้เกรงให้สามีน้อยใจ เสียใจ เพราะฉะนั้นเมียจ๋าต้องโดนทำโทษ หนักๆ”ชายหนุ่มเอ่ยชิดใบหน้างามที่ขึ้นสีเรื่ออย่างมีความหมาย ดวงตาคมกล้าเป็นประกายเต็มไปด้วยความต้องการปิดไม่มิด และคนที่จะถูกทำโทษรู้ดีว่าการลงโทษของสามีนั้นหวานฉ่ำและเร่าร้อนเพียงใด“บ้า คนหื่น ปล่อยน้ำแข็งเลยนะ น้ำแข็งจะไปดูน้องเก้า”“ไม่ต้องแล้วที่รัก
ตอนที่ 138.“ดูสิสองคนนี่ไม่รู้จักโตเล่นเป็นเด็กๆ ไปได้” อัคคีบ่นเบาๆ กับอโนมาอย่างระอาในความซุกซนและเล่นกันเหมือนเด็กของเนตรนารา ที่ในสายตาของผู้เป็นพี่ เนตรนาราไม่เคยโตเลยสักครั้ง“โธ่ยัยเนตรกับแมงปอน่ะเขาก็เล่นกันแบบนี้มานานแล้วล่ะคะพี่อัคคี”“ถึงว่าสิหาแฟนไม่ได้สักที เฮ้อนี่แล้วเมื่อไหร่สองคนนี่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กๆ เสียที” กันต์พลอยบ่นไปด้วย“เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะพี่กันต์ ดูสิลูกตัวเองนั่นแหละเชียร์เขาเหย็งๆ อยู่นั่นๆ แล้วยังเอานวมมาให้อาน้ำเล่นชกมวยด้วยดูสิซนจริงๆ”“แล้วนั่นน้องกระต่ายก็เอากับเขาด้วย ดูสิคะพี่อินคำลูกสาวเราน่าตีจริงๆ เลย” แม่เลี้ยงเกศราบ่นเหมือนไอรดาเมื่อทั้งน้องกระต่ายและน้องเก้าล้อมหน้าล้อมหลังเนตรนาราและเล่นชกกันที่สนามหญ้านุ่มอย่างสนุกสนาน “แม่ครับ พ่อครับ เมียผมไปไหน” กันต์วิ่งหน้าตื่นเข้ามาคุณการันกับคุณกานติมาซึ่งกำลังนั่งดูหลานชายสุดที่รักวาดรูประบายสีอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างเพลิดเพลิน“อะไรของแกอีกล่ะกันต์” คุณกานติมาเงยหน้าขึ้นมองลูกชายที่หน้าตาตื่น เหงื่อแตกพลั่กอยู่ด้วยความระอา นับวันจะรักจะหวงภรรยาคนสวยจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอน“ก็น้ำแข็งน่ะสิ หายไป
ตอนที่ 137.“ใช่ น่าเบื่อโดยเฉพาะยัยเด็กปลายฝนต้นหนาวนั่นน่าเบื่อมากๆ วันๆ ไม่พูดไม่จาเกาะแม่อ้อนแจ ประจบประแจงน่าดู ฉันไม่ชอบหน้าแม่นี่เลยนิสัยไม่ดี” อัคราเสริมคำพูดของสิงหราชเพื่อนรักที่ตอนนี้เขาทั้งสองกำลังจะไปเรียนเมืองนอกด้วยกัน อัคราเรียกอโนมาว่าแม่อ้อนตามน้องอิ่มอุ่นนับแต่อโนมาเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะของภรรยาของอัคคีอย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจอาจเป็นเพราะเขาต้องการใครสักคนและยิ่งเมื่อแม่ของเขามาตายจากไปเมื่อหลายปีก่อนเขายิ่งต้องการความรักและความอบอุ่น และแม่อ้อนของเขาก็คือคนที่เติมเต็มความรักความอบอุ่นนั้นให้เขาแม้มันจะไม่เต็มร้อยเสียทีเดียวแต่ความรักและความเอาใจใส่ที่อโนมามีให้เขาก็ชดเชยสิ่งที่เขาขาดได้มากพอที่จะทำให้ใจที่ว่างเปล่าของเขาไม่ไร้ที่ยึดเหนี่ยวและไม่รู้สึกว่าเขาขาดความอบอุ่น“นายก็ว่าน้องฝนเขาเกินไป ฉันไม่เห็นว่าเขาจะเป็นอย่างที่นายว่า น้องฝนออกจะน่ารักและเรียบร้อยนิสัยดี พูดก็เพราะไม่เหมือนน้องอิ่มอุ่นเลยพูดก็ไม่เพราะซ้ำยังอวบระยะสุดท้ายด้วยโตขึ้นมีหวังเป็นโอ่งมังกรแหงๆ เลยฮ่าๆ”สิงหราชหนุ่มน้อยวัยสิบห้าตั้งใจเอ่ยเสียงดังให้สาวน้อยวัยเก้าขวบเศษตัวอ้วนกลมซึ่งนั่งหวีผมใ
ตอนที่ 136.“อ้าวไหงมาแขวะฉันได้ล่ะนี่เดี๋ยวไม่เป็นคนขับรถให้เลยนี่” เนตรนาราร้อนตัวทันทีสร้างความขบขันให้กับสองสามีภรรยาที่นั่งกอดกันกลมอยู่เบาะหลังปล่อยให้เธอทำหน้าที่คนขับรถ หญิงสาวมองภาพความสุขของเพื่อนรักกับพี่ชายคนเดียวของเธอด้วยความสุขเธอรู้สึกดีใจและปลื้มใจมากที่วันนี้คนที่เธอรักทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขซึ่งเธอเองก็ไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าพี่ชายกับเพื่อนของเธอจะมาลงเอยด้วยการรักกันและใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้อย่างในวันนี้ วันนี้ฟ้าใสแล้วไม่มืดมัวและเจ็บปวดอย่างที่ผ่านมา เนตรนาราขับรถไปด้วยรอยยิ้ม“อุ้ย พี่อัคคีคะอ้อนปวดท้อง” อยู่ๆ อโนมาก็รู้สึกปวดหน่วงๆ ที่ท้องและรู้สึกเหมือนมีน้ำคร่ำไหลซึมออกมาเล็กน้อย“จริงหรืออ้อน แล้วพี่จะทำไงดีล่ะ ยัยน้ำๆ” อัคคีตื่นเต้นและทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการเป็นพ่อมาก่อน และตอนนี้เขาก็อยู่กลางถนนที่การจราจรคับคั่งเสียด้วย“ใจเย็นๆ เฮียไม่ต้องตื่นเต้น แหมไอ้ที่บวชๆ มาศึกษามากระเจิงเลยนะเฮียแค่เจอเมียเจ็บท้องเนี่ย” เนตรนาราไม่วายมีอารมณ์ขันแต่เธอก็พยายามหลบหลีกหาทางไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด“ยัยน้ำเรานี่มันจริงๆ เลยนะ เอ้ารีบเ
ตอนที่ 135.“ขอรับท่านประธานคนสวย เชิญขอรับกระผม...” เนตรนาราล้อเลียนเพื่อนรักด้วยรอยยิ้มทะเล้นอโนมายิ้มรับด้วยความสุข หญิงสาวตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว หลังจากที่อัคคีได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุและจำพรรษาอยู่ที่วัดประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอที่เชียงรายเธอก็ได้แต่เพียงส่งข่าวผ่านเนตรนาราซึ่งขึ้นเหนือไปทุกๆ เดือนเพื่อไปทำบุญและดูความเป็นอยู่ของพระอัคคีและเณรอัคราด้วย แต่สิ่งที่อโนมาบอกเพื่อนรักให้ปกปิดไว้คือเรื่องที่เธอตั้งครรภ์เพราะไม่อยากให้ผู้ที่ครองผ้าไตรจีวรนั้นเกิดความวิตกหรืออาจจะทำให้เสียสมาธิหรือเสียความตั้งใจที่ตั้งใจในคราแรกสายลมหนาวที่พัดโบกโบยหอบเอาความแห้งและเย็นมาสู่มหานครอันแสนวุ่นวายคลาคล่ำด้วยผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ หลากหลายจากที่มา และสาขาอาชีพ ผู้คนที่พเนจรร่อนเร่หรือแม้แต่เศรษฐีผู้มีสมบัติมากมายว่ายวนวุ่นวายอยู่ในเมืองแห่งนี้ บางชีวิตสุขสบายหรูหราแต่ในอีกมุมหนึ่งก็ยากไร้และแสนรำเค็ญ สถานที่บางแห่งสนุกสนานและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุขสม แต่ในอีกสถานที่หนึ่งเต็มไปด้วยอาชญากรรมและความขมขื่น แต่ไฉนหลายชีวิตจึงดั้นด้นมาที่เมืองแห่งนี้“วันนี้หนาวจ