สองเดือนต่อมา
ณ ไร่ชาไกรณรงค์บนดอยสูงบัวตองเดินตามหลังวินไปเงียบๆ พร้อมกับจดบันทึกสิ่งที่หัวหน้าคนงานหนุ่มอธิบายไปด้วย เธอเคยมาที่ไร่แห่งนี้หลายครั้งแล้วตอนที่ฝึกงาน แต่วันนี้เธอมาเพื่อศึกษาชนิดชาและการดูแลต่างๆ ตามที่เนตรนภาต้องการ เธอเดินตามหลังชายหนุ่มกับคนงานไปตามทางเดินในไร่ชาที่ปลูกเป็นแถวแนวยาวไปเรื่อยๆ จนอยู่ๆ เธอก็เกิดอาการหน้ามืดขึ้นมาจึงหยุดยืนนิ่งแล้วหลับตาลงอยู่กับที่สักพัก ระหว่างนั้นวินก็หันหลังไปเห็นเข้าก็แอบแปลกใจกับท่าทางของบัวเล็กน้อย แต่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย
บัวตองเริ่มอาการดีขึ้นเธอจึงเดินเข้าไปยืนข้างๆ ชายหนุ่มด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวเวียนศีรษะเพื่อจดบันทึกทุกอย่างที่หัวหน้าคนงานอธิบาย ยืนไปสักครู่ร่างบางก็มีอาการหน้ามืดขึ้นมาอีกครั้ง เธอจึงวูบล้มลงไปกองกับพื้นจนเกิดเสียงดังทางด้านหลังชายหนุ่ม วินที่กำลังคุยกับหัวหน้าคนงานจึงหันไปมองด้วยความตกใจ
"บ้าจริง! บัวเธอเป็นอะไร" วินรีบเดินเข้าไปเขย่าร่างบางที่เป็นลมนอนแน่นิ่งไปแรงๆ เพื่อปลุกให้เธอตื่นแต่กลับไม่เป็นผล
"ผมว่ารีบพาเข้าไปในบ้านพักก่อนเถอะครับ" หัวหน้าคนงานเอ่ยขึ้น
วินได้ยินอย่างนั้นก็รีบช้อนอุ้มร่างบางตามหลังคนงานเข้าไปในบ้านวางร่างบางลงบนเตียงอย่างเบามือ จากนั้นวินก็ให้หัวหน้าคนงานหนุ่มไปเรียกคนงานผู้หญิงมาช่วยดูแลบัวตองด้วยความร้อนใจ ระหว่างที่คนงานกำลังใช้ยาดมจ่อไปที่จมูกของคนที่นอนสลบอยู่ วินก็ยืนมองอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับใช้ความคิดหาสาเหตุที่ทำให้เธอเป็นลมล้มพับลงไปโดยไม่มีปี่มีหลุ่ย
ผ่านไปสักพักร่างบางที่สลบไปก็กะพริบลืมตาตื่นขึ้นช้าๆ คนงานที่กำลังเช็ดหน้าให้เธออยู่ก็ยิ้มออก พอร่างบางสติกลับมาก็ค่อยๆ ขยับยันตัวลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับหันไปมองหน้าคนงานที่ส่งยิ้มให้เธอเป็นคำถาม
"เป็นยังไงบ้าง ดื่มน้ำหน่อยไหมคะ" คนงานเอ่ยถามขึ้น
"ฉันเป็นอะไรเหรอคะ มาอยู่ในห้องนี่ได้ยังไง" ถามพลางรับแก้วน้ำดื่มมาถือเอาไว้
"คุณเป็นลมไปค่ะ คุณวินก็เลยอุ้มคุณเข้ามาพักในห้องนี้"
"เหรอคะ ฉันไม่เป็นไรแล้ว คุณออกไปเถอะ" จริงๆ แล้วเขาไม่จำเป็นต้องมาช่วยเธอหรอกคนอื่นๆ มีตั้งเยอะแยะทำไมเขาไม่ให้ช่วยบัวตองคิดในใจ
"คุณแน่ใจนะคะ"
"ค่ะ ฉันดีขึ้นแล้ว"
"ค่ะ งั้นฉันไปก่อนนะคะ"
"จ้ะ" บัวตองส่งยิ้มให้คนงาน
คล้อยหลังคนงานออกไปจากห้อง วินก็เดินตรงเข้ามาในห้อง พอเห็นบัวตองนั่งเหม่ออยู่บนเตียงชายก็เหยียดยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันคนตรงหน้า เขาอุตส่าห์ตั้งใจให้เธอตามมาดูงานในไร่เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม ตามที่คุณแม่ต้องการ แต่เธอกลับอ่อนแอเป็นลมไปต่อหน้าทั้งๆ ที่งานมันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรเลย
"ฉันใช้งานเธอหนักเกินไปเหรอ ถึงได้ประท้วงฉันด้วยการเป็นลมไป"
"พี่วิน" บัวตองหลุดออกจากภวังค์หันไปตามเสียง
"ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง"
"พี่วินว่าอะไรนะคะ"
"เธออย่ามากวนประสาทฉันนะ!" วินคว้าดึงกระชากแขนเรียวแรงๆ
"บัวเปล่านะคะ พี่ปล่อยเถอะบัวเจ็บ" นิ่วหน้าจับแขนตนเอง
"อย่ามาทำสำออยหน่อยเลย " พูดพลางสะบัดแขนเรียวออกจากมือ
"บัวขอโทษค่ะ ที่ไม่ดูแลตัวเองจนพี่ต้องลำบากมาเสียเวลากับบัว บัวดีขึ้นแล้วพี่จะให้บัวทำอะไรก็บอกได้เลยค่ะ"
"หึ หมดสภาพขนาดนี้ ยังจะอวดเก่งอีก"
"บัวเปล่านะคะ แต่บัวทำไหวค่ะ" พูดพลางค่อยๆ ขยับลุกลงจากเตียง
ร่างบางยืนขึ้นด้วยอาการวิงเวียนศรีษะ เธอจึงพยายามประคองตัวเองยืนให้หมั่น วินเห็นอย่างนั้นก็หันหน้าหนีไปอีกทาง จริงๆ แล้วเขาจะรีบพาเธอกลับเลยก็ได้เพราะสภาพเธอตอนนี้มันไม่น่ามองเลย แต่ด้วยอยากจะทดสอบคนปากเก่ง เขาก็สนองให้ตามที่ขอ
"งั้นก็ตามฉันมา" พูดพลางเดินนำออกไป
บัวตองเดินตามหลังชายหนุ่มไปจนถึงในไร่ชา คนงานที่กำลังช่วยกันเก็บยอดชาอยู่ต่างก็พากันหันมาทางเธอและวิน วินหันไปหยิบตะกร้าเปล่าสำหรับใส่ยอดชาที่พื้นยื่นให้เธอ บัวตองจึงรับมาถือไว้ในมือแต่โดยดีพร้อมกับรอรับคำสั่งจากชายหนุ่ม
"ไปช่วยคนงานเก็บชาสิ" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
"ค่ะ" รับคำอย่างว่าง่าย
"เก็บไปเรื่อยๆ จนกว่าฉันจะมาตามกลับนะ "
"ค่ะ" รับคำแล้วก้มหน้าทำงานทันที
วินเห็นอย่างนั้นก็ส่ายหน้าให้กับความอวดดีของหญิงสาวแล้วเดินตรงไปยังห้องเก็บชาเพื่อตรวจดูความเรียบร้อย ระหว่างเดินตรวจความเรียบร้อย เขาก็อดนึกถึงเรื่องระหว่างเขากับบัวในคืนนั้นไม่ได้ จะให้โทษใครได้ล่ะถ้าไม่ใช่บัวตอง ถ้าเธอไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับเขาในขณะที่เมาเรื่องก็คงจะไม่เกิด อีกสามเดือนข้างหน้าเขากับษาก็จะแต่งงานกันแล้ว เขาไม่ควรมาคิดถึงบ้าๆ นี่อีกแล้วชายหนุ่มสลัดความคิดทิ้งไป
บัวตองก้มหน้าก้มตาเก็บยอดชาไปเรื่อยๆ พลางกับนึกหาสาเหตุของอาการที่เธอเป็นอยู่ในหัวไปด้วย เท่าที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยมีอาการผิดปกติอะไรเลย แต่อยู่ๆ วันนี้เธอก็มีอาการวิงเวียนศีรษะหน้ามืดแล้วเป็นลมไปเสียดื้อๆ หญิงสาวคิดไปคิดมาก็นึกอะไรบางอย่างออก เมื่อนึกขึ้นได้ว่าร่างกายของเธอมีความผิดปกติก็อดที่จะเป็นกังวลใจไม่ได้ แต่เธอคงจะไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอกเธอคิดปลอบใจตนเอง
เวลาล่วงเลยไปนานหลายชั่วโมงวินก็เข้าไปเรียกบัวตองกลับ ระหว่างทางกลับบ้านบัวตองก็เผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย วินเห็นอย่างนั้นก็อดแปลกใจกับอาการของหญิงสาวที่เป็นอยู่ไม่ได้ เพราะเธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย หรือว่าเขาใช้งานเธอหนักไปถึงได้ป่วย แต่ทำไมป่วยแล้วไม่ยอมบอกใครเลย ชายหนุ่มวุ่นคิดอยู่ในใจ
ระหว่างทางกลับวินก็เลี้ยวรถเข้าไปในปั๊มน้ำมันเพื่อเข้าห้องน้ำ ประจวบเหมาะกับที่บัวตองสะดุ้งตื่นพอดี ทันทีที่วินลงจากรถไปสายตาเธอก็ไปสะดุดเข้ากับร้านขายยาเธอจึงไม่รอช้ารีบลงจากรถตรงเข้าไปในร้านทันที พอได้สิ่งที่ต้องการแล้วเธอก็เก็บใส่กระเป๋าไว้เป็นอย่างดี จากนั้นก็ตรงไปที่รถ วินที่นั่งรออยู่ในรถพอเห็นเธอกลับมาก็ชักสีหน้าไม่พอใจใส่
"เธอเข้าไปในร้านขายยาทำไม" เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น
"ไปซื้อยาแก้เวียนหัวค่ะ" ตอบออกไปทันทีเพื่อไม่ให้มีพิรุท
"ตกลงเธอป่วยหรือเป็นอะไรกันแน่"
"ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ"
"หึ ไม่ได้เป็นอะไร แล้วที่เป็นลมในไร่ล่ะ นั่นเหรอที่เรียกว่าไม่ได้เป็นอะไร"
"แต่หลังจากนั้นบัวก็ไปช่วยคนงานเก็บยอดชาได้นานตั้งหลายชั่วโมงเลยนะคะ บัวไม่ได้เป็นอะไรแล้วค่ะ"
"ให้มันจริงเถอะ อย่าให้ฉันเห็นเธอเป็นลมอีกรอบก็แล้วกัน"
บัวตองได้ยินอย่างนั้นก็นิ่งเงียบไปด้วยความน้อยใจชายหนุ่ม ไม่ว่าเธอจะทำอะไรมันก็ดูจะขัดหูขัดตาชายหนุ่มไปหมดเลย แม้กระทั่งเธอเป็นลมแทนที่เขาจะเป็นห่วงเธอแต่กลับพูดจากระแนะกระแหนเธออยู่ตลอดเวลา เธอรู้ว่าการพลาดมีอะไรกับชายหนุ่มมันเป็นสิ่งที่ผิดและไม่สมควรเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง แต่เขากลับโทษเธอแต่ฝ่ายเดียวทั้งๆ ที่ชายหนุ่มเป็นคนเริ่มก่อนแท้ๆ
เวลาล่วงเลยไปนานพอสมควรรถก็แล่นเข้าไปจอดในบ้าน ทันทีที่รถจอดสนิทบัวตองก็รีบลงจากรถตรงเข้าไปในบ้านขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองด้วยความรวดเร็ว วินเห็นอย่างนั้นก็เอาแต่ส่ายหน้าให้หญิงสาวที่มีท่าทางรีบร้อนแปลกๆ แถมยังมีท่าทีบึ้งตึงใส่เขาอีก เขาไม่สนใจหรอกว่าเธอจะคิดยังไงกับเขา แต่ที่แน่ๆ เขาไม่มีทางทำใจให้รักและเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวในไส้ได้หรอก เพราะเธอทำให้เขาทำผิดต่อคนที่เขารักที่สุด ถึงจะไม่มีใครรู้เรื่องเลยก็ตามแต่เขาก็ยังรู้สึกละอายใจอยู่ดี
บัวตองรีบเปิดกระเป๋าสะพายหยิบกล่องตรวจการตั้งครรภ์สองกล่องออกมา เพราะประจำเดือนเธอขาดหายไปประมาณหนึ่งเดือนบวกกับอาการเวียนหัวอ่อนเพลียร่วมด้วย จึงทำให้เธอตัดสินใจซื้อที่ตรวจครรภ์มาทดลองตรวจดูเพื่อความสบายใจของตนเอง และเธอหวังว่าแค่ครั้งเดียวจะไม่ทำให้เธอตั้งครรภ์ได้
ร่างบางถือกล่องตรวจครรภ์เข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับอ่านขั้นตอนการตรวจอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อไม่ให้ผลการตรวจคาดเคลื่อนและออกมาแม่นยำที่สุด จากนั้นเธอก็ทำการตรวจทุกอย่างตามขั้นตอนทันที
บัวตองยืนจ้องแท่งตรวจครรภ์อันแรกอย่างใจจดใจจ่อ จนผ่านไปสักพักแถบสีแดงสองขีดก็ปรากฏขึ้นบนแท่งตรวจ ร่างบางส่ายหน้าน้ำตาคลอเบ้าไม่เชื่อผลที่ปรากฏออกมาเธอจึงตรวจซ้ำอีกครั้งและผลที่ปรากฏออกมาก็เหมือนเดิม แถบสีแดงสองขีดตอกย้ำว่าเธอกำลังตั้งครรภ์นั่นคือสิ่งที่เธอไม่คาดคิดและจะเกิดขึ้นกับเธอได้
"ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย" ร่างบางทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมกับปล่อยน้ำตาแห่งความเสียใจไหลอาบแก้ม
"ทำไมหนูต้องมาตอนนี้ด้วย พ่อหนูกำลังจะแต่งงานกับคนที่เขารัก รู้ไหม" ยกมือบางขึ้นมาลูบท้องของตนเองด้วยความเจ็บปวด
"แม่จะทำยังไงดี แม่ไม่อยากจะทำร้ายความรักของใคร"
"แต่ยังไง พ่อของลูกก็ต้องรับรู้" เพราะอย่างน้อยๆ ลูกในท้องก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ถึงจะเกิดมาจากความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวก็ตาม บัวตองคิดวุ่นอยู่ในหัวจนมันแทบจะระเบิดออกมา
บัวตองพยายามรวบรวมสติประคองตัวเองลุกขึ้นยืนพร้อมกับเช็ดน้ำตาทิ้ง แต่มันกลับยิ่งพรั่งพรูออกมาไม่ยอมขาดสาย ในหัวเอาแต่คิดฟุ้งซ่านไปต่างๆ นานา ทุกคนจะต้องผิดหวังในตัวเธออย่างแน่นอน ถ้าหากทุกคนรู้เรื่องนี้ โดยเฉพาะตากับยายจะต้องเสียใจมากที่หลานรักเพียงคนเดียวทำตัวเหลวไหล สร้างความปัญหาและอับอายให้กับทุกคนได้ขายหน้า
ถึงเวลาอาหารเย็นบัวตองเข้าไปที่โต๊ะอาหารเป็นคนสุดท้าย เนตรนภากับวินที่กำลังนั่งทานอยู่ก่อนแล้ว จึงหันไปมองหญิงสาวโดยพร้อมเพรียงกัน
"บัวขอโทษนะคะ ที่มาช้า" พูดพลางนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกันกับวิน
"ไม่เป็นไรจ้ะ ดูท่าทางหนูดูเหนื่อยๆ นะ ไปหาหมอไหม" เนตรนภาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"บัวไม่เป็นไรค่ะ" ส่งยิ้มให้เนตรนภา
"ถ้าหนูไม่ได้เป็นอะไร ทำไมถึงไปเป็นลมอยู่ที่ไร่ล่ะลูก"
"คุณแม่รู้" บัวตองขมวดคิ้วเข้าหากัน
"รู้สิจ๊ะ วินเขาเป็นคนบอกแม่เมื่อกี้ ตอนที่แม่เพิ่งกลับมาจากทำธุระเอง"
"บัวไม่ได้เป็นอะไรแล้วค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ"
"จ้ะ แต่ถ้าบัวรู้สึกไม่ดี หรือเหมือนจะป่วย บอกแม่ได้เลยนะ แม่จะพาไปหาหมอเอง อย่าปล่อยทิ้งไว้รู้ไหม"
"ค่ะ" รับคำพร้อมกับก้มหน้าลง
บัวตองทานไปแค่คำสองคำเธอก็ขอตัวลุกเดินออกไปเงียบๆ เนตรนภาเห็นอย่างนั้นก็หันไปมองหน้าลูกชายที่นั่งทานอาหารตรงหน้าด้วยความเอร็ดอร่อยเป็นเชิงถาม แต่วินกลับทำหน้านิ่งไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ท่าทางหมางเมินของลูกชายที่มีต่อบัวตองยิ่งทำให้เนตรนภามั่นใจยิ่งขึ้นว่าทั้งคู่กำลังมีปัญหากันอยู่อย่างแน่นอน จากที่แอบสงสัยแต่ไม่ค่อยแน่ใจ แต่ตอนนี้มันเป็นอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ เรื่องอะไรกันที่ทำให้ทั้งสองคนเฉยเมยใส่กันแบบนี้ เนตรนภาวุ่นคิดอยู่ในใจ
"วินแม่ขอถามอะไรหน่อยสิ" เนตรนภาเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
"ได้สิครับ คุณแม่มีอะไรก็ว่ามาเลย"
"วินกับบัวกำลังมีปัญหากันอยู่ใช่ไหม"
"คุณแม่เอาอะไรมาพูดครับ" วินทำเป็นไขสือไม่รู้เรื่อง
"เมื่อก่อนแม่เห็นวินกับบัวสนิทและพูดคุยกันมากกว่านี้นะ ถ้าไม่ปัญหาอะไรกัน ทำไมถึงไม่ค่อยพูดค่อยจากันเลย"
"ผมว่าคุณแม่คิดมากไปเองแล้วล่ะครับ คุณแม่ก็เห็นว่าผมกับบัวนั่งรถไปทำงานด้วยกันทุกวัน แต่ที่คุยกันน้อยลงผมยอมรับครับ เพราะผมกำลังจะแต่งงานกับษา จะให้พูดคุยสนิทกันมากผมว่ามันจะไม่ดีนะครับ คุณแม่ก็รู้ว่าบัวตองไม่ใช่น้องสาวของผมแท้ๆ "
"มันก็จริงของวินนะ แต่ทำไมวินถึงได้เปลี่ยนใจไม่ชอบทานน้ำพริกปลาทูฝีมือบัวล่ะ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนวินชอบทานมันแทบจะทุกวัน" เนตรนภายังคงถามสิ่งที่ค้างคาใจ
"โธ่ คุณแม่ครับ การที่เราเคยชอบอะไรไม่ได้แปรว่าเราจะต้องชอบแบบนั้นตลอดไปนะครับ คุณแม่ไม่คิดบ้างเหรอครับ ว่าผมจะเบื่อทานอะไรซ้ำซากทุกวัน" วินยักไหล่
"อืม แม่เข้าใจแล้ว แม่คงจะคิดมากไปเอง" เนตรนภาพยักหน้ารับ แต่ยังคงไม่เชื่อคำพูดของลูกชายร้อยเปอร์เซ็นต์
บัวตองที่ยืนแอบฟังบทสนทนาระหว่างสองแม่ลูกตั้งแต่แรกอยู่ตรงข้างประตู พอได้ฟังคำพูดทั้งหมดออกมาจากปากของชายหนุ่ม เธอก็ยืนนิ่งปล่อยน้ำตาเอ่อไหลอาบแก้มทั้งสองข้างด้วยความอัดอั้นในใจที่ไม่สามารถระบายหรือบอกใครให้รับรู้เรื่องที่กำลังเกิดขึ้นได้เลย มือบางยกขึ้นลูบหน้าท้องราบแบนแล้วพาร่างกายอันอ่อนล้าเดินขึ้นห้องไป
ช่วงหัวค่ำระหว่างที่บัวตองกำลังนั่งมองแท่งตรวจครรภ์ขึ้นแถบสีแดงสองขีดที่เธอเก็บเอาไว้ทั้งน้ำตาเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น เธอจึงรีบปาดน้ำตาทิ้งพร้อมกับซ่อนที่ตรวจครรภ์ไว้ในลิ้นชักแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู ทันทีที่เธอเห็นเนตรนภาเธอก็แอบตกใจเล็กน้อยแต่ยังคงเก็บอาการไว้
"แม่ขอเข้าไปหน่อยนะ"
"ค่ะ"
"บัวมีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจหรือเปล่าลูก" เนตรนภาถามพลางนั่งลงบนเตียง
"ไม่มีค่ะ" นั่งลงข้างๆ เนตรนภา
"แต่แม่ว่าไม่นะ บัวรู้ตัวไหมว่าตัวเองเปลี่ยนไป"
"บัวไม่เคยเปลี่ยนค่ะ คุณแม่"บัวตองปฏิเสธทันควัน
"บัวรู้ไหมว่าตัวเองเงียบผิดปกติพูดจาก็น้อยลง แถมยังชอบเก็บตัวอยู่ในห้องนานๆ อีก"
"คือ บัวเครียดเรื่องงานค่ะ"
"แน่ใจนะ ว่าเป็นเรื่องงานจริงๆ "
"ค่ะ"
"บัวไม่ได้มีปัญหากับวินเขาใช่ไหมลูก"
"ไม่มีค่ะ"
"ในเมื่อลูกยืนยันว่าไม่มีก็ไม่มีจ๊ะ แม่ไม่กวนแล้วดีกว่า ลูกจะได้พักผ่อน"
"ค่ะ คุณแม่ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วงบัวเสมอ" พูดพลางเดินไปส่งเนตรนภาที่หน้าประตูห้อง
หลายวันต่อมา
ณ บริษัทชาไทยจำกัด บัวตองเดินหอบแฟ้มเอกสารไปวางลงบนโต๊ะเลขาหน้าห้องประธานบริษัท ระหว่างที่เธอกำลังพูดคุยกับเลขาหน้าห้องอยู่ วินกับษาก็เดินเคียงคู่กันออกมาจากในห้องด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มพูดคุยกันอย่างมีความสุข
"ท่านประธานค่ะ มีเอกสารสำคัญที่ต้องเซ็นต์ด่วนค่ะ" เลขาสาวเอ่ยขึ้น
"ษารอผมแป๊บนะ" วินหันไปบอกคนรักแล้วเดินเข้าไปที่โต๊ะ ลงมือเซ็นต์เอกสารที่เลขาเปิดรอไว้ทันที
"บัวทำงานเป็นยังไงบ้าง" ษาเอ่ยถามบัวตองที่เอาแต่ยืนก้มหน้า
"ก็สนุกดีค่ะ" บัวตองเอ่ยตอบทันควัน
"ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมหน้าดูซีดๆ"
"บัวไม่เป็นไรค่ะ อุ๊บ" อยู่ๆ เธอก็เกิดอาการคลื่นไส้ขึ้นมา เธอรีบยกมือขึ้นปิดปากตนเองทันที
"ขอตัวก่อนนะคะ" บัวตองรีบตรงไปยังห้องน้ำทันที
"บัวเธอเป็นอะไร" ษาตะโกนตามหลังร่างบาง
"ช่างเถอะ ษาอย่าไปสนใจเลย" วินหันมาหาหญิงสาวพร้อมกับมองตามหลังบัวตองไปหายลับไป
"แต่บัวท่าทางไม่ค่อยจะดีเลยนะคะ"
"โตๆ กันแล้ว ถ้าเป็นอะไรก็ไปหาหมอเองแหละ เราไปกันเถอะ ผมหิวแล้ว"
"ค่ะ"
บัวตองโก่งคออาเจียนอยู่ตรงชักโครกแต่กลับไม่มีอะไรออกมาเลย พออาการดีขึ้นเธอก็รีบลุกขึ้นเช็ดปากตนเองพร้อมกับจ้องมองตนเองในกระจก ยกมือขึ้นลูบท้องตนเองเบาๆ ปล่อยน้ำตาเอ่อไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง เพราะเธอเองจะโทษใครได้ ถ้าคืนนั้นเธอไม่เผลอไผลไปกับสัมผัสของชายหนุ่มที่เมาขาดสติ เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
บัวตองเดินเข้าไปรับเอกสารที่วินเซ็นต์เสร็จเรียบร้อยแล้วด้วยดวงตาแดงก่ำเพราะผ่านการร้องไห้มาหมาดๆ เลขาสาวเห็นอย่างนั้นก็อดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้
"บัวเป็นอะไรหรือเปล่า เห็นรีบวิ่งไปทางห้องน้ำเมื่อกี้"
"พอดี บัวไม่ค่อยสบายนิดหน่อยค่ะ"
"ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ ยิ่งช่วงนี้งานยิ่งเยอะๆ อยู่"
"ค่ะ" รับเอกสารแล้วเดินออกไป
เวลาพลบค่ำภายในห้องครัวบัวตองกำลังดื่มน้ำเพื่อคลายกระหาย แต่อยู่ๆ เธอก็หน้ามืดขึ้นมาทำให้เธอโอนเอนจะล้มลง ประจวบเหมาะกับที่ป้าศรีเดินเข้ามาเห็นเข้าพอดี จึงรีบเข้าไปประคองตัวเธอไว้ด้วยความเป็นห่วง
"บัวเป็นอะไรลูก" ป้าศรีเอ่ยถามพลางพาไปนั่งลงบนเก้าอี้
"หน้ามืดนิดหน่อยค่ะ"
"นั่งรออยู่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวป้าเอายาดมยาหอมมาให้"
"ค่ะ"
ป้าศรีจัดการเอายาหอมผสมน้ำยื่นให้บัวตองแต่เธอกลับยกมือขึ้นมาปิดจมูกของตนเองทำท่าจะอาเจียนออกมา ป้าศรีเห็นอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย
"บัวเป็นอะไร เหม็นเหรอ"
"ค่ะ บัวไม่เป็นไรแล้วขอตัวก่อนนะคะ" ลุกขึ้นยืนทันที
"ท่าทางหนูไม่ดีเลย ป้าไปส่งที่ห้องดีกว่านะ"
"ก็ได้ค่ะ"
ป้าศรีเดินเข้าไปประคองร่างบางออกไปจากห้องครัวตรงขึ้นบันไดเพื่อไปยังห้องนองของเธอ เป็นจังหวะเดียวกับที่วินเดินเข้ามาในบ้านเห็นเข้าพอดี คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความแปลกใจสงสัยในอาการที่หญิงสาวตรงหน้ากำลังเป็นอยู่ ถึงขนาดให้คนช่วยพยุงขึ้นบันไดไปอย่างนี้มันต้องมีอะไรแน่ๆ เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าตกลงเธอเป็นอะไรกันแน่
วินรอให้ป้าศรีออกมาจากห้องเธอก่อนจากนั้นเขาก็เปิดประตูเดินเข้าไปในห้องเห็นบัวตองกำลังนั่งพิงหัวเตียงอยู่ด้วยใบหน้าที่ซีดเผือก ทันทีที่บัวตองเห็นวินมายืนตรงหน้าเธอก็ตกใจ เพราะไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มจะเข้ามาเงียบๆ แถมยังส่งสายตาจ้องมองเธอไม่วางตาอีก
"พี่เข้ามาทำไมคะ"
"เธอเป็นอะไร" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
"บัวไม่ได้เป็นอะไรค่ะ"
"ไม่ได้เป็นอะไร แต่ขนาดให้คนหิ้วปีกขึ้นมาบนห้องเลยเนี่ยนะ ใครเชื่อก็บ้าแล้ว บอกมาเธอเป็นอะไรกันแน่ ฉันเห็นเธอแปลกๆ มาหลายวันแล้ว"
"พี่อยากจะรู้จริงๆ เหรอคะ" บัวตองมองใบหน้าสากน้ำตาคลอเบ้า
"ก็บอกมาสิ"
บัวตองได้ยินอย่างนั้นก็ตัดสินใจลุกลงจากเตียงเดินไปเปิดลิ้นชักหยิบแท่งตรวจครรภ์สองอันออกมา เดินเข้าไปหาชายหนุ่มแล้วยื่นส่งให้ชายหนุ่มดู วินรับที่ตรวจครรภ์ที่แสดงแถบสีแดงสองขีดทั้งสองอันมาจากมือของบัวตองพร้อมกับมองดูด้วยความไม่เข้าใจ
"มันคืออะไร เธอเอามาให้ฉันดูทำไม"
"สิ่งที่อยู่ในมือพี่มันคือสิ่งที่ยืนยันว่าบัวกำลังท้องค่ะ"
"อะไรนะ! เธอว่าอะไรนะ!" วินตกใจไม่อยากจะเชื่อหูของตนเอง
"บัวกำลังท้องลูกของพี่อยู่ค่ะ" พูดพลางน้ำตาเอ่อไหลอาบแก้ม
"ไม่จริง! เธออย่ามาสร้างเรื่องโกหกฉันนะ! พูดใหม่สิว่ามันไม่จริง!" วินเข้าไปจับร่างบางเขย่าแรงๆเหมือนคนขาดสติ
"มันคือเรื่องจริงค่ะ!" บัวตองเอ่ยย้ำเสียงดังเรียกสติชายหนุ่ม
วินได้ยินอย่างนั้นก็นิ่งชะงักไปพร้อมกับปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออก จะเป็นไปได้ยังไงเขามีอะไรกับบัวตองแค่ครั้งเดียวเธอจะท้องได้ยังไงกัน แต่ไม่ว่าจะยังไงใครจะรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะคุณแม่กับษาหญิงสาวที่เขารักและกำลังจะแต่งงานด้วย
"เธอแน่ใจนะ ว่าเธอท้องกับฉัน"
"ค่ะ บัวไม่เคยมีอะไรกับใครเลย นอกจากพี่คนเดียว"
"ยาคุมฉุกเฉินก็มีเธอทำไมไม่รู้จักกิน!" วินตวาดเสียงดัง
"บัวไม่ทันคิดค่ะ อีกอย่างบัวไม่คิดว่าแค่ครั้งเดียวจะท้องได้"
"ไปเอาเด็กออกซะ! อย่าให้มันมาสร้างปัญหาให้ฉันเด็ดขาด!" พูดพลางหันหลังให้หญิงสาว
"อะไรนะคะ ลูกของพี่ทั้งคน ทำไมพี่ถึงได้ใจร้ายเลือดเย็นแบบนี้คะ"
"ใจร้ายงั้นเหรอ ไม่ใช่เพราะเธอเหรอ เรื่องมันถึงได้เป็นแบบนี้!"
"บัวจะไม่มีทางฆ่าลูกของตัวเองเด็ดขาด" บัวส่ายหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นน้ำตานองหน้า
"เธอก็รู้ว่าฉันกำลังจะแต่งงานกับษา ไปเอาเด็กออกซะ! ไม่อย่างนั้นเธอก็ออกจากบ้านหลังนี้ไป!"
"บัวทำไม่ได้ค่ะ"
"เธอก็รู้ว่ามันเกิดจากความผิดพลาด เธอมีทางเลือกไม่มากหรอกนะ ถ้าไม่อยากอับอายหรือขึ้นชื่อว่าเป็นคนทำลายความรักระหว่างฉันกับษา ก็ไปเอาเด็กออกซะ!"
แอ๊ด! เสียงประตูห้องถูกเปิดออก วินกับบัวตองจึงหันไปมองด้วยความตกใจเบิกตากว้างด้วยกันทั้งคู่เมื่อเห็นคนตรงหน้า
"คุณแม่!" วินเอ่ยขึ้น
"อธิบายมาว่าสิ่งที่แม่ได้ยิน มันไม่เป็นความจริง"เนตรนภามองหน้าวินกับบัวตองสลับกันไปมา
โปรดติดตามตอนต่อไป....