Share

บทที่ 0010

Author: อันอี่หราน
ไม่กี่วันต่อมา ไทเฮาก็เสด็จกลับวัง  ฮ่องเต้ต้าฉู่ทรงนำนางสนมกลุ่มหนึ่งมารอที่ประตูพระราชวังแต่เช้า ราชรถอันวิจิตรงดงามค่อยๆ สะท้อนสู่สายตาของทุกคนอย่างช้าๆ

อีกด้านของราชรถ เป็นปกติที่จะมีนางข้าหลวงข้างกายและขันทีคอยรับใช้ไทเฮา

อีกด้านหนึ่งคือองค์ชายรองลู่จินหยู่ที่ร่วมเดินทางกับไทเฮาไปวัดหมิงจิ้งเพื่อขอพร รวมถึงเผยฉู่เยี่ยนซื่อจื่อน้อยของจวนอันกั๋วกง

ไทเฮานั้นมีแม่นมซูผู้เป็นแม่นมข้างกายคอนปรนนิบัติตอนลงจากราชรถ ฮ่องเต้ต้าฉู่รีบก้าวเดินมาด้านหน้าอย่างรวดเร็วและช่วยประคองไทเฮา “เสด็จแม่ เสด็จไปวัดหมิงจิ้งงลำบากพระองค์แล้วล่ะพ่ะย่ะค่ะ”

เนื่องจากภัยแล้งรุนแรงในแคว้นต้าฉู่เป็นเวลาหลายเดือนติดต่อกัน เป็นผลให้ในฤดูใบไม้ผลิประชาชนไม่สามารถเก็บเกี่ยวพืชผลได้ แค่มองก็รู้ว่าผู้คนตกอยู่ในความทุกข์ยาก เป็นสถานการณ์ที่น่าเศร้ามีความอดอยากในทุกหนทุกแห่ง

อีกทั้งในวังหลังก็ไม่มีฮองเฮานั่งบัญชาการ ไทเฮาจึงเสด็จไปที่วัดหมิงจิ้งงวัดประจำแคว้นต้าฉู่เป็นการส่วนตัวเพื่ออธิษฐานขอพรแก่แคว้น เหล่าสนมไม่จำเป็นต้องไปด้วย จึงแค่เลือกองค์ชายรองติดตามไปด้วยเท่านั้น

ไทเฮาตบไปที่มือฮ่องเต้ต้าฉู่ กล่าวอย่างชื่นใจว่า “ข้าก็แค่ไปอธิษฐานขอพรเอง ฝ่าบาทต่างหากที่นั่งบัญชาการในท้องพระโรงนั้นเหนื่อยกว่าอีก ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับข้ามากนักหรอก”

ท้ายที่สุดยังไงก็เป็นเทพเจ้าสัมผัสได้ถึงความจริงใจของเสด็จแม่ ฝนจึงตกลงมาสองครั้งนี้ แคว้นต้าฉู่ของเราได้รับการช่วยเหลือแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ได้ยินคำพูดของฮ่องเต้ต้าฉู่ ไทเฮารีบเงยหน้าขึ้นเพื่อค้นหาและมองไปที่พระสนมเฉินกุ้ยเฟย “เฉินเฟยคลอดแล้วหรือ? แล้วเต็มเดือนหรือยัง? รีบอุ้มมาให้ข้าดูเร็วสิ”

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยรีบรับลู่ซิงหว่านจากมือแม่นม แล้วเดินไปหาไทเฮา

[ว้าว เป็นไทเฮา ไทเฮาคนที่รักและเมตตามากที่สุด ดีที่พระองค์ทรงปกป้ององค์รัชทายาทพี่ชายตลอดหลายปีที่ผ่านมา น่าเสียดายที่สุดท้ายนางก็ถูกหรงอ๋องกักบริเวณในตำหนัก เป็นโรคตรอมใจจนสิ้นพระชนม์]

[มองดูลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองฆ่าพี่ชายแท้ ๆ ของเขาเพื่อบัลลังก์ ในใจคงรับไม่ได้สินะ?]

ฮ่องเต้ต้าฉู่กับพระสนมเฉินกุ้ยเฟยปรับตัวเขากับความคิดเรื่อยเปื่อยของลู่ชิงหว่านได้ตั้งนานแล้ว ตอนนี้ได้เรียนรู้แล้วว่าต่อหน้าใครจะรักจะชังก็ช่าง กลับวังไปแล้งค่อยไปแยกแยะ

“ลูกได้แต่งตั้งชิงเหยียนเป็นพระสนมขั้นกุ้ยเฟยแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ต้าฉู่กระซิบเบา ๆ ข้างหูไทเฮา

“ดี ดี สมควรแล้ว” ไทเฮาชื่นชอบสนมเฉินผู้วางตัวถ่อมตนมาโดยตลอด “สมควรแล้วล่ะ ได้ยินมาว่าเด็กคนนี้ตอนเกิดก็มีฝนตกห่าใหญ่ ในวันครบเดือนก็มีฝนหน้าแล้งตกลงมาอีก ข้าว่านางคงเป็นดาวนำโชคของแคว้นพวกเราสินะ!”

ไทเฮารับลู่ชิงหว่านมาอย่างอ่อนโยน มองนางใกล้ยิ่งขึ้น

[ไทเฮาฉลาดหลักแหลมที่สุดเลย แน่นอนว่าเซียนเช่นข้าต้องเป็นดาวนำโชคอยู่แล้ว!]

“ลูกได้แต่งตั้งยศให้หวานหว่านแล้วว่า หย่งอัน” ฮ่องเต้ต้าฉู่กล่าวพร้อมกับจับมือเล็ก ๆ ของลู่ซิงหว่านและแสดงปานดอกบัวพุทธบูชาบนแขนของนางให้ไทเฮาดู “เสด็จแม่ดูสิพ่ะย่ะค่ะ”

“มันคือบัวพุทธบูชาจริงๆ” ไทเฮาศรัทธาในพุทธศาสนามาตลอดและเมื่อนางเห็นเช่นนี้ นางก็อุทานว่า “เอาล่ะ เฉินเฟย อ่า ไม่ใช่สิ เฉินกุ้ยเฟยได้ให้กำเนิดบุตรสาวที่ดีจริง ๆ เลยนะ”

คนกลุ่มนี้คุยกันอย่างมีความสุข องค์ชายรองเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ก้าวเข้ามาทักทายเช่นกัน

“กระหม่อมถวายบังคมเสด็จพ่อ และขอแสดงความยินดีกับพระสนมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ต้าฉู่เมื่อเห็นเขาก็รีบหันกลับมามองเขา “ลุกขึ้นเร็วเข้า เจ้าทำงานหนักมาตลอดทางแล้ว”

“สามารถทำให้ไทเฮามีความสุขได้ เป็นบุญวาสนาของกระหม่อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เผยฉู่เยี่ยนที่ติดตามเขาก้าวไปข้างหน้า แสดงความเคารพต่อฮ่องเต้ต้าฉู่และเหล่านางสนม

เผยฉู่เยี่ยนเดิมทีเป็นบุตรชายคนเดียวของจวนอันกั๋วกง เมื่อปีที่แล้วระหว่างสงครามที่แคว้นเยว่เฟิง จวนอันกั๋วกงแม้จะประสบความสูญเสียแต่ก็แทบไม่ถึงหนึ่งในสิบของจวนอันกั๋วกง อันกั๋วกงเดินลุยเข้าไปในกองทัพของศัตรูเพียงคนเดียวและเข้าไปเด็ดหัวนายพลของศัตรู แต่เขาก็ถูกศัตรูยิงเข้าที่ตรงกลางหัวใจด้วย ถูกฆ่าตายคาสนามรบ

หลังจากได้รับข่าวกลับมา ฮูหยินของอันกั๋วกงรับไม่ได้ และล้มป่วยลงทันที จากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีวิธีรักษา และในที่สุดฮูหยินของอันกั๋วกงผอันกั๋วกงก็สิ้นใจเมื่อปลายปีที่แล้ว

อดีตอันกั๋วกงก็เสียชีวิตในสนามรบเมื่อหลายปีก่อนเช่นกัน

ทั้งครอบครัวเหลือเพียงลูกชายคนเล็กเผยฉู่เยี่ยนซึ่งอายุเพียงแปดขวบ ทำได้เพียงให้ไทเฮาเลี้ยงดูไว้ข้างกายก่อน รอให้เขาโตแล้วค่อยสืบทอดตำแหน่ง

[ว้าว ๆ ๆ เจอพระเอกแล้ว! ให้ข้าดูพี่รองคนนี้ของข้าหน่อย หล่อเหล่าใจกว้างจริงๆ แต่ว่าอายุเพิ่งจะสิบกว่าปีก็โดดเด่นขนาดนี้แล้ว งั้นหลังจากนี้คงไม่เลวเลยสินะ?]

[เสด็จพ่อมีองค์ชายมากขนาดนี้ มีเพียงพี่รองเท่านั้นที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นฮ่องเต้ น่าเสียดาย น่าเสียดายจริงๆ พี่รองต้องผ่านเรื่องพลิกผันมามากมายถึงจะได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้]

[ประชาชนที่ถูกหรงอ๋องและองค์ชายสามตรงหน้าทำให้ลำบากไม่ต้องพูดถึงความโกรธ ต้องใช้ความพยายามเสียเปล่ามากจริง ๆ!]

หลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินลู่ซิงหว่านพูดในใจอยู่คนเดียว อดไม่ได้ที่จะมองดูองค์ชายรองอีกครั้ง นึกไม่ถึงว่าโอรสคนที่สองที่ตนเองไม่ได้ให้ความสนใจ จริง ๆ แล้วเป็นคนที่เหมาะสมกับการเลือกองค์รัชทายาทที่สุด แต่ตอนนี้รัชทายาท...

ฮ่องเต้ต้าฉู่มองไปที่พระสนมเฉินกุ้ยเฟย แต่เห็นเพียงท่าทีนางดูสงบ

[องค์ชายเผยก็อยู่เหรอ ดูเขาตอนนี้สิ ดูเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ใครจะไปคิดว่าเด็กน้อยคนนี้จะกลายเป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังที่สุดขององค์ชายรองในอนาคตกัน! ]

ในใจฮ่องเต้ต้าฉู่อดไม่ได้ที่จะกุมหน้าผากในใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ หวานหว่าน เจ้ายังเป็นแค่เด็กทารกอยู่นะ!

“น้องเก้าว่านอนสอนง่ายจริง ๆ” องค์ชายรองก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว เข้าใกล้กับไทเฮาที่ด้านหน้า มองที่ลู่ซิงหว่าน “งดงามพอ ๆกับพระสนมเลยนะพ่ะย่ะค่ะ!”

เต๋อเฟยและหลานเฟยก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อถวายบังคม

“วันนี้พอแค่นี้แหละ ไทเฮายังต้องกลับวังไปพักผ่อน พวกเจ้ากลับตำหนักตัวเองก่อนเถอะ” ฮ่องเต้ต้าฉู่เห็นว่าไทเฮาดูเหนื่อยเล็กน้อย จึงรีบกล่าวขึ้น

เมื่อเสด็จถึงพระตำหนักไทเฮา ฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งให้ข้ารับใช้ถอยออกไป แล้วค่อยกล่าวว่า “เสด็จแม่ เสนาบดีชุยเกรงว่าจะคิดไม่ซื่อพ่ะย่ะค่ะ”

เรื่องนี้ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องพูดกับไทเฮา เพียงแต่เกี่ยวข้องกับองค์ชายสาม เป็นการดีกว่าที่ให้ไทเฮาทราบไว้

เมื่อเห็นความสงบของฮ่องเต้ “มีหลักฐานแล้วหรือ?”

ได้มีการสอบสวนอย่างละเอียดแล้ว แต่ยังไม่ได้จับกุมใคร จริงๆ แล้วเสนาบดีชุยเป็นขุนนางมาหลายปีแล้ว กลัวว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นพ่ะย่ะค่ะ” การวิเคราะห์ของฮ่องเต้ฉู่มีความชัดเจนและรัดกุม

ความกังวลของฝ่าบาทถูกแล้ว เสนาบดีชุยหยั่งรากลึก เต๋อเฟยยังให้กำเนิดบุตรชายสองคนด้วย เกรงว่าจะไม่ง่ายที่จะเอาชนะ” แม้ว่าไทเฮาจะไม่ได้ทรงมีส่วนร่วมในการว่าราชการก็ตาม แต่ในช่วงปีแรก ๆ นั้นนางก็ได้ประสบกับสิ่งต่างๆ มากมายกับอดีตฮ่องเต้ ดังนั้นนางจึงรู้เรื่องการเมืองบ้าง

เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ต้าฉู่ยังคงครุ่นคิดอยู่ จึงเปิดปากกล่าวว่า "เรื่องนี้ต้องพิจารณากันในระยะยาว"

ฮ่องเต้ต้าฉู่พยักหน้าไม่ได้พูดอะไร

และแล้วเมื่อคิดถึงเรื่องของหรงอ๋อง ไตร่ตรองไปมาแล้ว ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พูดกับไทเฮา เมื่อสักครู่หวานหว่านพูดว่าไทเฮาสิ้นพระชนม์ด้วยอาการตรอมใจเนื่องจากการยึดบัลลังก์ของหรงอ๋อง อย่าเพิ่งทำให้ไทเฮากังวลใจเรื่องนี้ก่อนจะดีกว่า

พอออกจากตำหนักหรงเล่อของไทเฮา ฮ่องเต้ต้าฉู่ที่กำลังจะกลับไปห้องอักษรต่อ จู่ ๆ ก็เปลี่ยนทิศทางไปยังตำหนักฉางชิวของเต๋อเฟยแทน

อวี่ฉี คราวนี้เลื่อนตำแหน่งเฉินเฟยให้เป็นกุ้ยเฟย เจ้ารู้สึกไม่พอใจหรือเปล่า?” ฮ่องเต้ต้าฉู่ต้องการทดสอบเต๋อเฟย

“ฝ่าบาท ทรงกำลังพูดอะไรน่ะเพคะ เฉินกุ้ยเฟยให้กำเนิดองค์หญิงหย่งอันมีคุณงามความดี หลายปีมานี้ดูแลเอาใจใส่องค์รัชทายาทด้วยใจจริง เป็นคนที่ทำประโยชน์ให้กับแคว้น หม่อมฉันไหนเลยจะอิจฉาเพคะ”

เต๋อเฟยตอบอย่างน่าพอใจ แต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ตื่นตกใจ

เกรงว่าเรื่องการสอบสวนเสนาบดีชุยคงจะถูกรู้เข้าแล้วสินะ เต๋อเฟยเป็นคนอิจฉาริษยามาโดยตลอด เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเต๋อเฟยคิดถึงตำแหน่งฮองเฮามาโดยตลอด ฉลาดตอบเช่นนี้ เกรงว่าเสนาบดีชุยคงได้แจ้งให้นางทราบแล้ว

ขณะนั้นเอง ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็มีความคิดปรากฏขึ้นในใจ “ให้คนไปเรียกองค์ชายสามมา ข้าไม่ได้เจอเขามาหลายวันแล้ว”

ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ค่อยใส่ใจต่อองค์ชาย องค์หญิงมาโดยตลอด จู่ ๆ ก็จะพบองค์ชายสาม แม้ว่าเต๋อเฟยจะตกใจก็ตาม แต่ก็รีบออกคำสั่ง
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0640

    พูดถึงตรงนี้องครักษ์เงามังกรก็ถอนหายใจ “เพียงแต่อีกฝ่ายล้วนเป็นนักรบที่ตายแล้ว ไม่ได้เหลือผู้รอดชีวิตไว้”[แม่เจ้าโว้ย ทหารพลีชีพหนึ่งร้อยคน นี่มันฐานะอะไรเนี่ย][ดูเหมือนว่าชีวิตของเสด็จพ่อมีค่ามากจริงๆ สามารถทําให้อีกฝ่ายส่งทหารพลีชีพได้หนึ่งร้อยคน]เรื่องนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมไม่ตําหนิองครักษ์เงามังกร จึงออกคําสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางต่อไป ต้องไปถึงสถานที่ปลอดภัยถึงจะดําเนินการต่อได้ภายในรถม้าก็เงียบกริบเช่นกันในที่สุดสนมเยว่กุ้ยเหรินก็ลองเอ่ยปาก “ฝ่า...นายท่าน ฮูหยิน คือว่า...”ซ่งชิงเหยียนเหมือนเพิ่งนึกถึงสนมเยว่กุ้ยเหรินที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ดึงนางขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าเล่าสนมเยว่กุ้ยเหรินถึงอยู่ในวังมาเจ็ดแปดปีก็ไม่มีทายาทสักคน เกรงว่าโอกาสที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานนางก็มีน้อยมากในรถม้าคันเดียวมีกันแค่สี่คน ตัวเองยังสามารถลืมนางได้อย่างสนิทใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จัดเสื้อผ้าให้ตนเอง แล้วอุ้มลู่ซิงหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตน หยอกล้อนางว่า “หวานหว่าน ตกใจหรือเปล่า?”ลู่ซิงหว่านเอื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0639

    เพราะว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ทุกคนต่างก็เปลี่ยนคําเรียกขานกัน จึงสามารถปกป้องฝ่าบาทได้อย่างทั่วถึง“ปกป้องนายท่าน!” เว่ยเฉิงดึงกระบี่ออกจากฝักกระบี่ของตัวเอง แล้วพูดกับฮ่องเต้ต้าฉู่ที่อยู่บนรถม้า “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนขอวเราข้าล้วนเลือกคนที่มีวรยุทธ์สูงทั้งนั้น ต้องสามารถปกป้องนายท่านและฮูหยินให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอนขอรับ”“ได้” เสียงทุ้มต่ำของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น ทําให้เว่ยเฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นหลายส่วนซ่งชิงเหยียนก็กุมมือของสนมเยว่กุ้ยเหรินในเวลานี้ และพยักหน้าให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่านางสบายใจได้ลู่ซิงหว่านกลับไม่กลัวอย่างที่สนมเยว่กุ้ยเหรินคิดแม้กระทั่งนางยังตบแขนสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ ปากก็พึมพําว่า “ไม่กลัว”สนมเยว่กุ้ยเหรินรู้สึกอับอายขายหน้าจริงๆ [ว้าว ทําไมมันน่าตื่นเต้นจัง][เสด็จพ่อและท่านแม่ต้องสู้ๆ นะ! เสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิทานหรอกหรือ! โชว์ฝีมือให้หวานหว่านดูหน่อย ให้หวานหว่านดูบ้าง!]ซ่งชิงเหยียนกุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออกโชคดีที่เป็นเสียงในใจ ฝ่าบาทจึงไม่ได้ยิน หวานหว่านเอ๋ย เจ้ามีกี่หัวให้ถูกตัดกันล่ะเนี่ย!แม้แต่ฮ่องเต้ต้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0638

    ฮ่องเต้ต้าฉู่และคณะเดินทางลงใต้ต่อ แล้วเลือกที่พักต่อไปก่อนออกเดินทาง อัครมหาเสนาบดีและคนอื่นๆ ได้กําหนดสถานที่ตั้งหลักสําหรับฝ่าบาทตามทางแล้ว ล้วนเป็นอำเภอที่เจริญรุ่งเรืองแต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้รูปแบบการเดินทางแล้ว ตอนนี้เป็นการเยี่ยมเยือนส่วนตัวแล้วประการที่สองคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในอําเภอไถจินซึ่งจําเป็นต้องป้องกันดังนั้นฮ่องเต้ต้าฉู่จึงปรึกษากับเว่ยเฉิงและซ่งชิงเหยียน เปลี่ยนเส้นทางและเลือกเมืองอื่นๆ เพื่อพักระหว่างทาง เพื่อสํารวจประเพณีท้องถิ่นดูว่าสถานที่อื่นๆ ก็มีพฤติกรรมที่หลอกลวงและปกปิดเช่นเดียวกับอําเภอไถจินหรือไม่ดังที่หวานหว่านกล่าวไว้ อําเภอไถจินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วอําเภออื่นๆ ล่ะซ่งชิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ซิงหว่านก็พูดก่อน[ได้สิ ๆ ! ออกมาเที่ยวเล่นก็ต้องเที่ยวเล่นไปทั่วอยู่แล้ว ถ้าทุกที่ถูกคนจับตามองอยู่ จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ][ทําไมไม่ให้ผู้บัญชาการเว่ยเลือกสถานที่เล็กๆ หน่อย พวกเราไปเดินเล่นกัน ยังไงก็ต้องรับรองความปลอดภัยของเสด็จพ่อนะ!][ออกมาห้าวันแล้ว แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่ เดิมคิดว่าจะถูกลอบสังหารในวันแรกท

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0637

    “ตอนนี้เกรงว่าพระมเหสีคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสส่งองค์หญิงหกออกจากตําหนักจิ่นซิ่ว” สนมหลานพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งพระสนมหลานเฟยพูดได้ไม่ผิด เดิมทีเสิ่นหนิงก็ไม่ยอมรับองค์หญิงหกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนออกปากเอง นางจึงปฏิเสธไม่ได้ไม่สู้ครั้งนี้วางแผนซ้อนแผน ส่งองค์หญิงหกออกไปก็แล้วกันพระสนมหลานเฟยพาจิ่นซินไปที่ตําหนักหรงเล่อแม้แต่ไทเฮาที่อาศัยอยู่ในวังหลังมานานขนาดนี้ เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของจิ่นซิน ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน“จิ่นซิน” ไทเฮาจับมือจิ่นซินปลอบ “พระสนมของเจ้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเจ้าก็บอกแม่นมซูได้เลย ข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”จิ่นซินกลับมีสมองอย่างหาได้ยาก เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ไทเฮาเพคะ จิ่นซินเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดี จะตีจะด่าสักหน่อยก็สมควรแล้วเพคะ”แม้ว่าไทเฮารู้ว่าคําพูดของจิ่นซินเป็นคําพูดที่สุภาพ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของนาง บวกกับบาดแผลบนใบหน้าของนาง ก็เห็นถึงความอดทนและความคับข้องใจอย่างชัดเจนจึงหันไปมองพระสนมหลานเฟย “ในเมื่อชิงเหยียนไม่อยู่ ช่วงนี้ให้จิ่นซินอยู่ในวังของเจ้าเถอะ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0636

    เมื่อได้ยินจิ่นซินกล้าที่จะเถียงตนเอง องค์หญิงหกก็โกรธทันที“เจ้าคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” องค์หญิงหกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจิ่นซินย่อมคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย แต่ร่างกายยังคงตั้งตรงตอนนี้นางจึงอยู่ในระดับเดียวกันกับองค์หญิงหกองค์หญิงหกรีบก้าวเท้าไปข้างหน้าและตบหน้าจิ่นซินหนึ่งฉาด “เจ้าบ่าวรับใช้บังอาจนัก แม้แต่นายของเจ้ายังไม่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ?”พูดถึงตรงนี้ ราวกับไม่คลายความโกรธ หันไปมองอิงหงที่อยู่ข้างๆ อีกครั้ง “ตบปากนางให้ข้าที!”อิงหงกลับขดตัวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าถึงอย่างไรจิ่นซินก็เป็นคนข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟย แม้ว่านายของนางจะเป็นองค์หญิงหก แต่ว่า...เมื่อเห็นอิงหงไม่ขยับตัว องค์หญิงหกก็ยื่นขาออกไปเตะที่ขาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”อิงหงกัดฟัน ในที่สุดก็เดินมาตรงหน้าจิ่นซินแล้วเริ่มลงมือเมื่อเห็นใบหน้าของจิ่นซินแดงและบวมขึ้นในที่สุด องค์หญิงหกจึงเอ่ยปากให้อิงหงหยุดมือ แต่ยังคงไม่คลายความโกรธ “เจ้าคุกเข่าตรงนี้ให้ข้าสองชั่วยาม หากคุกเข่าไม่ถึงสองชั่วยาม ข้าจะตบเจ้าอีก!”พูดจบก็พาอิงหงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองในเวลานี้อวิ๋นหลานที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0635

    พูดจบก็ยิ้มให้เสิ่นผิงอีก “การสอบระดับกลางปีหน้า ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่เมืองหลวง”ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ แต่คนนี้ ในเมื่อหวานหว่านบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจไม่ยุ่งได้พูดจบก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปเสิ่นผิงเพิ่งได้สติหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่จากไปแล้ว “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ทําเรื่องใหญ่อีกครั้ง ในใจย่อมมีความสุขมากคนทั้งกลุ่มจึงเก็บสัมภาระอีกครั้งและเดินทางต่อฮ่องเต้ต้าฉู่เดินเที่ยวชมวิวตลอดทาง มีความสุขมากแต่หลังจากที่เขาจากไป ในวังก็มีคนก่อความวุ่นวายขึ้นคนแรกที่ก่อความวุ่นวายขึ้นก็คือองค์หญิงหกที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในวังจิ่นซิ่วจิ่นซินอยู่ในตําหนักชิงอวิ๋นเพียงลําพัง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา ทั้งวันจึงไม่มีอะไรทําดังนั้นวันนี้ ตําหนักชิงอวิ๋นกลับมีคนที่จิ่นซินคาดไม่ถึงคนหนึ่งมา อวิ๋นหลานเมื่อเห็นอวิ๋นหลานมา จิ่นซินก็รีบเข้าไปต้อนรับ “พี่หญิงอวิ๋นหลานมาได้อย่างไรกัน?”จะว่าไปตําหนักจิ่นซิ่วกับตําหนักชิงอวิ๋นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งต่อหน้าอะไรกันแต่จิ่นซินและจินอวี้ในตําหนักชิงอวิ๋นต่างก็รู้ว่าเมื่อฮองเฮายังเป็นพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status