Share

บทที่ 0012

Author: อันอี่หราน
ขณะที่พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยกำลังจะยื่นมือไปรับลู่ซิงหว่านมานั้น ทันใดนั้นลู่ซิงหว่านก็ร้องไห้เสียงดังขึ้นมา

[ไม่นะท่านแม่ ข้าไม่อยากให้ผู้หญิงร้ายอุ้ม ไม่เอา ไม่เอา]

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยแสร้งทำเป็นตำหนิจิ่นอวี้ "ยังไม่รีบอุ้มองค์หญิงไปอีก หากทำชุดของพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยเปื้อนข้าลงโทษเจ้าแน่"

พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยได้ยินก็เข้าใจการปฏิเสธของพระสนมเต๋อกุ้ยเฟย เมื่อเห็นว่าได้เวลาแล้ว บัดนี้จิ่นเฉินคงจะอยู่ในห้องกับหรงเหวินเมี่ยวสองต่อสองแล้ว ถ้าหากให้พระสนมเฉินกุ้ยเฟยไปบังเอิญเจอเข้าพอดีคงจะช่วยลดปัญหาของตนได้มากทีเดียว

นางจึงยิ้มบาง ๆ แล้วเอ่ยปาก "ถ้าเช่นนั้นน้องหญิงเฉินก็รีบไปเถิด"

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเห็นท่าทางเมินเฉยของนาง ในใจก็ยิ่งเป็นกังวล รีบสาวเท้าก้าวใหญ่เดินไปทันทีโดยไม่สนใจระเบียบมารยาทวังหลวงอะไรแล้ว

ลู่ซิงหว่านที่ยังอยู่ในอ้อมอกของจิ่นอวี้ก็ดีใจไปด้วย

[ท่านแม่รีบวิ่งเร็วเข้า ท่านแม่สู้ ๆ ต้องช่วยพี่สาวตระกูลหรงให้ได้นะ!]

เมื่อพระสนมเฉินเฟยไปถึงก็เห็นสาวใช้นางหนึ่งถูกผลักล้มลงกับพื้นที่หน้าประตูห้อง ประตูห้องถูกเปิดกว้าง

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยมองจากที่ไกล ๆ ในใจก็ยิ่งตะลึงใจจึงรีบเอ่ยปากถาม "นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"

เมื่อสาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ เห็นว่ามีคนมาสักทีก็รีบลุกขึ้น "พลุบ" คุกเข่าลงบนพื้น "ขอพระสนมโปรดช่วยตรวจสอบให้แน่ชัดด้วยเพคะ คุณหนูของข้ากำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ข้างใน แต่องค์ชายสามรั้นจะเข้าไปให้ได้"

เมื่อได้ยินว่ามีคนมา องค์ชายสามก็รีบออกมาจากในห้องอย่างประหม่า เมื่อเห็นว่าเป็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยก็พูดจาอ้ำอึ้งเหมือนทำความผิดมา "พระสนมเฉินอย่าได้เข้าใจผิดไป ในวังหลวงแห่งนี้ นางสาวใช้คนนี้พูดจากำกวม ข้ออ้างสารพัด คิดว่าน่าจะกำลังปิดบังอะไรอยู่แน่ กระหม่อมก็เลย..."

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเห็นเหมยหยิ่งที่อยู่หน้าประตูของอีกห้องพยักหน้าให้นาง ถึงค่อยวางใจลงแล้วจึงตอบองค์ชายสามเสียงเบา "องค์ชายสามบุ่มบ่ามเกินไปแล้ว ต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ควรหาแม่นมเข้าไปตรวจดู หากแม่นางหรงอยู่ในห้อง..."

นางยังไม่ทันพูดจบพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยก็นำคนกลุ่มหนึ่งเดินมาอย่างยิ่งใหญ่

[ท่านแม่ดูผู้หญิงคนนี้สิ คงคิดว่าเรื่องสำเร็จแล้วเลยนำคนมาจับคนประพฤติผิดชู้สาวล่ะสิ หน้าไม่อายจริง ๆ หึ!]

แต่ไม่คิดลู่ซิงหว่านจะแค่นหัวเราะ "หึ" ออกมาจริง ๆ ทำให้จิ่นอวี้ที่อุ้มนางอยู่ตกใจจนพระสนมเฉินกุ้ยเฟยอดไม่ได้ที่จะมองนางแล้วแค่นหัวเราะเสียงเบา

"นี่มันอะไรกัน หรือว่าจิ่นเฉินไม่ระวังละเมิดแม่นางหรงหรือ?" พระสนมเต๋อเฟยแค่ปริปากก็มัดรวมองค์ชายสามกับแม่นางหรงเข้าด้วยกัน และนางยังตั้งใจพาคนมามากขนาดนี้อีกคงจะตั้งใจยืนยันเรื่องนี้เป็นแน่

"เสด็จแม่..." องค์ชายสามกำลังจะอ้าปากพูดอะไรก็ถูกหญิงสาวคนหนึ่งข้างหลังตัดบท

"ถวายบังคมพระสนมเพคะ คารวะฮูหยินทุกท่านเจ้าค่ะ" หรงเหวินเมี่ยวออกมาจากห้องข้าง ๆ ที่สาวใช้คนเมื่อครู่เฝ้าไว้พอดี เมื่อหันไปมองเห็นสาวใช้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นกำลังร้องห่มร้องไห้ก็รีบเข้าไปถาม "จื่ออี เป็นอะไรหรือ?"

สาวใช้ที่ชื่อจื่ออีกคุกเข่าลงไปอีกครั้ง "คุณหนู เมื่อครู่บ่าวอยู่เฝ้าหน้าประตู องค์ชายสามรั้นจะบุกเข้าไปให้ได้ บ่าวรั้งเอาไว้ไม่ได้จริง ๆ ถ้าคุณหนูไม่ได้เปลี่ยนห้องกะทันหันล่ะก็..."

จื่ออียังไม่ได้พูดประโยคหลังจนจบแต่ทุกคนล้วนเข้าใจกันหมด

[ว้าว นี่สินะนางเอก แม้แต่สาวใช้ข้างกายนางยังกล้าหาญขนาดนี้]

ร่างเล็ก ๆ ของลู่ซิงหว่านบิดไปมาในอ้อมอกของจิ่นอวี้ อยากเห็นใบหน้าของหรงเหวินเมี่ยวชัด ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็มองไม่เห็น

ลู่ซิงหว่านร้องเสียงหลงออกมา

[เมื่อไหร่ข้าจะโตสักที วัน ๆ ถูกห่ออยู่แต่ในผ้าห่อตัวเด็ก ทรมาณจริง ๆ เลย ]

พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยตาขวางใส่องค์ชายสาม เมื่อเห็นความไม่เอาไหนของเขาก็รีบเข้าไปจูงมือหรงเหวินเมี่ยวไว้

"คุณหนูหรงอย่าได้ประหม่าไป หากจิ่นเฉินทำอะไรเจ้าจริง ๆ ข้าจะทาวงความยุติธรรมให้เจ้าแน่นอน"

หรงฮูหยินที่ปกติเป็นคนขี้กลัวรีบพุ่งออกไปขว้างไว้ข้างหน้าหรงเหวินเมี่ยว "พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยมิต้องเป็นกังวลเพคะ เมี่ยวเมี่ยวนั้นมิเคยพบหน้ากับองค์ชายสาม คงไม่มีอะไรเป็นแน่เพคะ"

พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยตาขวางใส่นาง กำลังจะอ้าปากพูดอะไรก็ถูกตัดบทด้วยเสียงของเมิ่งฉวนเต๋อ

"ฮ่องเต้เสด็จมา" เสียงดังตะโกนหยุดความวุ่นวายทั้งหมดของที่นี้ พวกนางต่างรีบคุกเข่าทำความเคารพทันที

"นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"

[เสด็จพ่อ เสด็จพ่อ ท่านมาสักที! ข้าจะบอกท่านเองว่าเกิดอะไรขึ้น คือว่าพระสนมเต๋อเฟยอยากใช้องค์ชายสามเป็นข้ออ้างให้อยู่ในห้องสองต่อสองกับแม่นางหรง เพื่อทำลายชื่อเสียงของนาง]

[นังผู้หญิงคนนี้ร้ายมาก!]

[ในนิทานบอกว่า พระสนมเต๋อเฟยอยากผูกองค์ชายสามเข้ากับตระกูลหรง แบบนี้จะได้ดึงใต้เท้าหรงเป็นพวกด้วย]

[เสด็จพ่อท่านต้องมีสตินะ คุณหนูหรงเป็นนางเอก เป็นคู่พระนางตัวหลักกับองค์ชายสองนะ!]

ฮ่องเต้ต้าฉู่ฟังความคิดของลู่ซิงหว่านจบ ยังไม่ทันรอให้คนอื่นได้เอ่ยปากหรงเหวินเมี่ยวก็ก้าวขึ้นมาคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้ "ขอฝ่าบาทช่วยทวงความยุติธรรมให้หม่อมฉันด้วยเพคะ องค์ชายสามคิดจะบุกเข้ามาในห้องที่หม่อมฉันเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำร้ายสาวใช้ข้างกายของหม่อมฉัน พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยก็พาเหล่าแขกหญิงกลุ่มใหญ่มาอีก หากจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า ใครจะเชื่อกันเพคะ?"

พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยเห็นหรงเหวินเมี่ยวพูดแบบนี้ก็รีบแก้ตัว "คุณหนูหรงอย่าได้พูดจาเหลวเหลว หลินฮูหยินเป็นคนบอกว่าจะมาเที่ยวชม ข้าเลย..."

หรงเหวินเมี่ยวไม่เกรงกลัวสักนิด สบตาพระสนมเต๋อกุ้ยเฟย "พระสนมกล้าพูดไหมเพคะว่าสาวใช้ที่ใส่ร้ายข้านั้นไม่ใช่คนของท่าน?"

"เอ่อ..." เมื่อพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยเห็นว่าแก้ตัวไม่ได้ก็เลยคุกเข่าลงไป และร่ำไห้กับฮ่องเต้ต้าฉู่ "คุณหนูหรงใส่ร้ายหม่อมฉันเช่นนี้ ขอฝ่าบาทโปรดตรวจสอบให้แน่ชัดเพคะ!"

"ฝ่าบาท บิดาของหม่อมฉันซื่อสัตย์เที่ยงธรรมมาโดยตลอด ภักดีแต่ฝ่าบาทเพียงผู้เดียว เสนาบดีชุยดึงให้เป็นพรรคพวกเดียวกันด้วยหลายครั้งก็ไม่เป็นผล แต่พระสนมกลับใช้วิธีสกปรกเช่นนี้" หรงเหวินเมี่ยวมองฮ่องเต้ต้าฉู่อย่างไม่เกรงกลัว

"หากหม่อมฉันไม่ได้เปลี่ยนห้องกะทันหัน ก็คงติดกับของพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยแล้วใช่ไหมเพคะ?"

[กล้าหาญมาก เก่งมาก สมเป็นนางเอกในนิยายจริง ๆ มีทั้งแผนวิธีและความกล้าหาญ ในโลกแห่งการบําเพ็ญเพียรของพวกข้าคนแบบนี้ก็หาได้ยากเหมือนกัน]

[เสด็จพ่อ ท่านต้องเบิกตาทั้งสองดูให้ดี ๆ นะ!]

ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินสิ่งที่หรงเหวินเมี่ยวพูด และเปิดโปงเรื่องที่เสนาบดีชุยเล่นพรรคเล่นพวกกับเหล่าขุนนางก็โมโห สะบัดแขนเสื้อทันที และสะบัดพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยที่ดึงแขนเสื้อของตนไว้ลงกับพื้น "เต๋อกุ้ยเฟย ประพฤติไม่ดี ไม่คู่ควรแก่ตำแหน่ง ถอดยศเต๋อ และลดตำแหน่งเป็นพระสนมขั้นเฟย"

"กักบริเวณองค์ชายสามหนึ่งเดือน สำนึกผิดในตำหนักซะ!"

"เมิ่งฉวนเต๋อ เรียกกรมสอบสวนมาห้องทรงอักษร!" พูดจบก็ไม่สนพิธีแต่งตั้งอะไรแล้ว หมุนตัวออกไปและตรงไปยังห้องทรงอักษรทันที

บัดนี้หรงเหวินเมี่ยวยื่นโอกาสนี้มา ตนย่อมต้องใช้ประโยชน์ให้ดี หว่านหว่านพูดถูก สมเป็นนางเอกจริง ๆ มีโอกาสนี้แล้ว ต่อให้ตนนั้นจัดการเสนาบดีชุยไม่ได้แต่ก็สามารถถลกหนังของเขาได้

[ว้าว เสด็จพ่อเท่ห์สุด ๆ ไปเลย !]

เหลือแค่เพียงพระสนมชุยเฟยที่หน้าตาเคียดแค้นมองหรงเหวินเมี่ยวอย่างชั่วร้าย

วันนี้พระสนมชุยเฟยอับอายขายขี้หน้ายิ่งนัก เดิมทีเป็นพิธีแต่งตั้งของพระสนมเฉินกุ้ยเฟยและพระสนมเต๋อกุ้ยเฟย แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ทำให้พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยถูกลดขั้นเหลือแค่พระสนมชุยเฟย
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0640

    พูดถึงตรงนี้องครักษ์เงามังกรก็ถอนหายใจ “เพียงแต่อีกฝ่ายล้วนเป็นนักรบที่ตายแล้ว ไม่ได้เหลือผู้รอดชีวิตไว้”[แม่เจ้าโว้ย ทหารพลีชีพหนึ่งร้อยคน นี่มันฐานะอะไรเนี่ย][ดูเหมือนว่าชีวิตของเสด็จพ่อมีค่ามากจริงๆ สามารถทําให้อีกฝ่ายส่งทหารพลีชีพได้หนึ่งร้อยคน]เรื่องนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมไม่ตําหนิองครักษ์เงามังกร จึงออกคําสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางต่อไป ต้องไปถึงสถานที่ปลอดภัยถึงจะดําเนินการต่อได้ภายในรถม้าก็เงียบกริบเช่นกันในที่สุดสนมเยว่กุ้ยเหรินก็ลองเอ่ยปาก “ฝ่า...นายท่าน ฮูหยิน คือว่า...”ซ่งชิงเหยียนเหมือนเพิ่งนึกถึงสนมเยว่กุ้ยเหรินที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ดึงนางขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าเล่าสนมเยว่กุ้ยเหรินถึงอยู่ในวังมาเจ็ดแปดปีก็ไม่มีทายาทสักคน เกรงว่าโอกาสที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานนางก็มีน้อยมากในรถม้าคันเดียวมีกันแค่สี่คน ตัวเองยังสามารถลืมนางได้อย่างสนิทใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จัดเสื้อผ้าให้ตนเอง แล้วอุ้มลู่ซิงหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตน หยอกล้อนางว่า “หวานหว่าน ตกใจหรือเปล่า?”ลู่ซิงหว่านเอื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0639

    เพราะว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ทุกคนต่างก็เปลี่ยนคําเรียกขานกัน จึงสามารถปกป้องฝ่าบาทได้อย่างทั่วถึง“ปกป้องนายท่าน!” เว่ยเฉิงดึงกระบี่ออกจากฝักกระบี่ของตัวเอง แล้วพูดกับฮ่องเต้ต้าฉู่ที่อยู่บนรถม้า “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนขอวเราข้าล้วนเลือกคนที่มีวรยุทธ์สูงทั้งนั้น ต้องสามารถปกป้องนายท่านและฮูหยินให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอนขอรับ”“ได้” เสียงทุ้มต่ำของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น ทําให้เว่ยเฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นหลายส่วนซ่งชิงเหยียนก็กุมมือของสนมเยว่กุ้ยเหรินในเวลานี้ และพยักหน้าให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่านางสบายใจได้ลู่ซิงหว่านกลับไม่กลัวอย่างที่สนมเยว่กุ้ยเหรินคิดแม้กระทั่งนางยังตบแขนสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ ปากก็พึมพําว่า “ไม่กลัว”สนมเยว่กุ้ยเหรินรู้สึกอับอายขายหน้าจริงๆ [ว้าว ทําไมมันน่าตื่นเต้นจัง][เสด็จพ่อและท่านแม่ต้องสู้ๆ นะ! เสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิทานหรอกหรือ! โชว์ฝีมือให้หวานหว่านดูหน่อย ให้หวานหว่านดูบ้าง!]ซ่งชิงเหยียนกุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออกโชคดีที่เป็นเสียงในใจ ฝ่าบาทจึงไม่ได้ยิน หวานหว่านเอ๋ย เจ้ามีกี่หัวให้ถูกตัดกันล่ะเนี่ย!แม้แต่ฮ่องเต้ต้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0638

    ฮ่องเต้ต้าฉู่และคณะเดินทางลงใต้ต่อ แล้วเลือกที่พักต่อไปก่อนออกเดินทาง อัครมหาเสนาบดีและคนอื่นๆ ได้กําหนดสถานที่ตั้งหลักสําหรับฝ่าบาทตามทางแล้ว ล้วนเป็นอำเภอที่เจริญรุ่งเรืองแต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้รูปแบบการเดินทางแล้ว ตอนนี้เป็นการเยี่ยมเยือนส่วนตัวแล้วประการที่สองคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในอําเภอไถจินซึ่งจําเป็นต้องป้องกันดังนั้นฮ่องเต้ต้าฉู่จึงปรึกษากับเว่ยเฉิงและซ่งชิงเหยียน เปลี่ยนเส้นทางและเลือกเมืองอื่นๆ เพื่อพักระหว่างทาง เพื่อสํารวจประเพณีท้องถิ่นดูว่าสถานที่อื่นๆ ก็มีพฤติกรรมที่หลอกลวงและปกปิดเช่นเดียวกับอําเภอไถจินหรือไม่ดังที่หวานหว่านกล่าวไว้ อําเภอไถจินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วอําเภออื่นๆ ล่ะซ่งชิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ซิงหว่านก็พูดก่อน[ได้สิ ๆ ! ออกมาเที่ยวเล่นก็ต้องเที่ยวเล่นไปทั่วอยู่แล้ว ถ้าทุกที่ถูกคนจับตามองอยู่ จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ][ทําไมไม่ให้ผู้บัญชาการเว่ยเลือกสถานที่เล็กๆ หน่อย พวกเราไปเดินเล่นกัน ยังไงก็ต้องรับรองความปลอดภัยของเสด็จพ่อนะ!][ออกมาห้าวันแล้ว แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่ เดิมคิดว่าจะถูกลอบสังหารในวันแรกท

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0637

    “ตอนนี้เกรงว่าพระมเหสีคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสส่งองค์หญิงหกออกจากตําหนักจิ่นซิ่ว” สนมหลานพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งพระสนมหลานเฟยพูดได้ไม่ผิด เดิมทีเสิ่นหนิงก็ไม่ยอมรับองค์หญิงหกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนออกปากเอง นางจึงปฏิเสธไม่ได้ไม่สู้ครั้งนี้วางแผนซ้อนแผน ส่งองค์หญิงหกออกไปก็แล้วกันพระสนมหลานเฟยพาจิ่นซินไปที่ตําหนักหรงเล่อแม้แต่ไทเฮาที่อาศัยอยู่ในวังหลังมานานขนาดนี้ เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของจิ่นซิน ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน“จิ่นซิน” ไทเฮาจับมือจิ่นซินปลอบ “พระสนมของเจ้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเจ้าก็บอกแม่นมซูได้เลย ข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”จิ่นซินกลับมีสมองอย่างหาได้ยาก เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ไทเฮาเพคะ จิ่นซินเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดี จะตีจะด่าสักหน่อยก็สมควรแล้วเพคะ”แม้ว่าไทเฮารู้ว่าคําพูดของจิ่นซินเป็นคําพูดที่สุภาพ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของนาง บวกกับบาดแผลบนใบหน้าของนาง ก็เห็นถึงความอดทนและความคับข้องใจอย่างชัดเจนจึงหันไปมองพระสนมหลานเฟย “ในเมื่อชิงเหยียนไม่อยู่ ช่วงนี้ให้จิ่นซินอยู่ในวังของเจ้าเถอะ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0636

    เมื่อได้ยินจิ่นซินกล้าที่จะเถียงตนเอง องค์หญิงหกก็โกรธทันที“เจ้าคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” องค์หญิงหกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจิ่นซินย่อมคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย แต่ร่างกายยังคงตั้งตรงตอนนี้นางจึงอยู่ในระดับเดียวกันกับองค์หญิงหกองค์หญิงหกรีบก้าวเท้าไปข้างหน้าและตบหน้าจิ่นซินหนึ่งฉาด “เจ้าบ่าวรับใช้บังอาจนัก แม้แต่นายของเจ้ายังไม่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ?”พูดถึงตรงนี้ ราวกับไม่คลายความโกรธ หันไปมองอิงหงที่อยู่ข้างๆ อีกครั้ง “ตบปากนางให้ข้าที!”อิงหงกลับขดตัวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าถึงอย่างไรจิ่นซินก็เป็นคนข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟย แม้ว่านายของนางจะเป็นองค์หญิงหก แต่ว่า...เมื่อเห็นอิงหงไม่ขยับตัว องค์หญิงหกก็ยื่นขาออกไปเตะที่ขาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”อิงหงกัดฟัน ในที่สุดก็เดินมาตรงหน้าจิ่นซินแล้วเริ่มลงมือเมื่อเห็นใบหน้าของจิ่นซินแดงและบวมขึ้นในที่สุด องค์หญิงหกจึงเอ่ยปากให้อิงหงหยุดมือ แต่ยังคงไม่คลายความโกรธ “เจ้าคุกเข่าตรงนี้ให้ข้าสองชั่วยาม หากคุกเข่าไม่ถึงสองชั่วยาม ข้าจะตบเจ้าอีก!”พูดจบก็พาอิงหงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองในเวลานี้อวิ๋นหลานที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0635

    พูดจบก็ยิ้มให้เสิ่นผิงอีก “การสอบระดับกลางปีหน้า ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่เมืองหลวง”ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ แต่คนนี้ ในเมื่อหวานหว่านบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจไม่ยุ่งได้พูดจบก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปเสิ่นผิงเพิ่งได้สติหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่จากไปแล้ว “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ทําเรื่องใหญ่อีกครั้ง ในใจย่อมมีความสุขมากคนทั้งกลุ่มจึงเก็บสัมภาระอีกครั้งและเดินทางต่อฮ่องเต้ต้าฉู่เดินเที่ยวชมวิวตลอดทาง มีความสุขมากแต่หลังจากที่เขาจากไป ในวังก็มีคนก่อความวุ่นวายขึ้นคนแรกที่ก่อความวุ่นวายขึ้นก็คือองค์หญิงหกที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในวังจิ่นซิ่วจิ่นซินอยู่ในตําหนักชิงอวิ๋นเพียงลําพัง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา ทั้งวันจึงไม่มีอะไรทําดังนั้นวันนี้ ตําหนักชิงอวิ๋นกลับมีคนที่จิ่นซินคาดไม่ถึงคนหนึ่งมา อวิ๋นหลานเมื่อเห็นอวิ๋นหลานมา จิ่นซินก็รีบเข้าไปต้อนรับ “พี่หญิงอวิ๋นหลานมาได้อย่างไรกัน?”จะว่าไปตําหนักจิ่นซิ่วกับตําหนักชิงอวิ๋นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งต่อหน้าอะไรกันแต่จิ่นซินและจินอวี้ในตําหนักชิงอวิ๋นต่างก็รู้ว่าเมื่อฮองเฮายังเป็นพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status