Se connecter
@ผับแห่งหนึ่ง
“แม่งโคตรน่าเบื่อเลยว่ะ ทำไมผู้หญิงแม่งงี่เง่างี้วะ” ท่ามกลางเสียงของดนตรีที่ดังกระหึ่มของผับหรูที่ผู้คนต่างมาหาความสุขกัน เสียงบ่นของภูผาก็เริ่มดังขึ้นหลังจากที่เมาได้ที่แล้ว “มันเป็นอะไรของมัน” ชายหนุ่มใบหน้าหล่อที่เพิ่งเดินเข้ามาเอ่ยถามเพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ พลางปรายตามองคนเมาเพียงนิด “ทะเลาะกับเมีย” ทิศเหนือตอบกลับพร้อมกระดกเหล้าเข้าปากไปพลางๆ “หึ” คนที่เข้ามาใหม่ส่ายหัวเล็กน้อย พร้อมกับหย่อนตัวลงด้านข้างของทิศเหนือ มือหนาเทเหล้าลงในแก้วก่อนจะกระดกเข้าปากอึกใหญ่ราวกับเป็นเพียงน้ำเปล่าเท่านั้น “มึงไม่ต้องมาหัวเราะกูเลยนะ แม่ง กูบอกแล้วว่ากับน้องเขากูไม่ได้จริงจัง จะอะไรนักหนาวะ” ภูผายังคงพูดต่อไปไม่หยุดเพื่อระบายอารมณ์หงุดหงิดและเสียใจของตัวเอง “แล้วมึงจะไปมั่วกับผู้หญิงคนอื่นทำไม” ทิศเหนือถามกลับ โดยมีชายหนุ่มอีกคนนั่งฟังอยู่เงียบๆ “กูก็แค่เล่นๆ เปล่าวะ” “แต่มึงมีเมียแล้ว” “...” “มึงต้องเลือกอะไรสักอย่างดิวะ มึงมีเมียแล้วมึงก็ควรจะหยุด แต่ถ้ามึงยังหยุดไม่ได้มึงก็ปล่อยอีกคนไป เขาจะได้ไปเจอคนดีๆ” ร่างสูงเริ่มอธิบายต่ออย่างใจเย็นเพื่อให้อีกคนได้เข้าใจ “กูปล่อยเค้าไปไม่ได้ว่ะ” “เพราะ?” “ก็กูรักเค้าอะ มึงจะให้กูทำไง ถ้าไม่รักกูคงไม่ขอเป็นแฟนหรอก” “ที่มึงมานั่งเมาเป็นหมาแบบนี้คือผู้หญิงทิ้งมึง?” ริมฝีปากหยักได้รูปเอ่ยถามหลังจากนั่งฟังเพื่อนทั้งสองคนเถียงกันเงียบๆ มาสักพักใหญ่ “ก็ใช่อะดิ” “แล้วมึงรักเขา?” “เออ...” “หึ” เสียงเค้นหัวเราะในลำคอดังขึ้นอย่างเย้ยหยันจนภูผาต้องหันขวับกลับมามองก่อนจะตะเบ็งเสียงใส่ร่างสูงที่นั่งอยู่อย่างไม่สบอารมณ์ “มึงหัวเราะอะไร” “กูบอกมึงแล้วใช่ไหม ว่าความรักมันเป็นเรื่องไร้สาระ” “มันไม่ใช่แบบนั้นเว้ย” “แล้วไอ้ที่มึงมีสภาพเหมือนหมาแบบนี้มันไม่ใช่เพราะไอ้สิ่งที่เรียกว่าความรักบ้าๆ นั่นเหรอวะ” “มึงแม่งไม่เข้าใจกูหรอก เพราะมึงไม่เคยรักใครไง ถ้ามึงรักใครแล้วโดนเขาทิ้งแบบนี้ มึงก็คงมีสภาพเป็นหมาไม่ต่างจากกูหรอก” “กูไม่มีทางเป็นแบบมึง” เพราะสำหรับเขาแล้วความรักมันเป็นแค่เรื่องไร้สาระ เขาไม่เคยมีความรัก ไม่เคยรัก และก็ไม่คิดจะรักใครด้วย ในชีวิตเขาพบเจอผู้หญิงมามากมาย แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ชอบเขาแค่ที่รูปร่างหน้าตาภายนอก และฐานะของเขาเท่านั้น สำหรับเขาทุกคนที่ผ่านเข้ามาก็แค่หวังผลประโยชน์ ซึ่งชายหนุ่มก็เอ่ยตอบกลับภูผาเพียงเท่านั้นแล้วกระดกเหล้าเข้าปากอึกใหญ่ ก่อนที่เสียงหวานของผู้หญิงคนหนึ่งจะดังขึ้นมา “ชาร์วีคะ” หญิงสาวหน้าตาสะสวยในชุดรัดรูปเดินเข้ามาหาร่างสูงที่นั่งอยู่อย่างถือวิสาสะโดยไม่สนใจสายตาของเพื่อนๆ ชาร์วีที่มองอยู่เลย “ฟ้าคิดถึงวีจังเลยค่ะ” ปลายฟ้าเอ่ยบอกเสียงหวานพลางหย่อนตัวลงด้านข้างชาร์วี มือเรียวลูบแผงอกแกร่งเบาๆ อย่างยั่วยวน “ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อนั้น เธอไม่ได้สนิทกับฉันขนาดนั้น” หญิงสาวหน้าเสียไปเล็กน้อยเมื่อชาร์วีตอบกลับมาแบบนั้น แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงใจดีสู้เสือตอบกลับไป “ขอโทษค่ะ แต่ฟ้าคิดถึงชาร์วีจริงๆ นะคะ แล้วก็...” “คิดถึงเรื่องของเราด้วย” ใบหน้าหวานที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเอี้ยวหน้าไปกระซิบที่ข้างหูของชายหนุ่มให้ได้ยินกันแค่สองคน ซึ่งชาร์วีก็ปรายตามองเธอเล็กน้อยก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปากอย่างไม่ใส่ใจ @หนึ่งชั่วโมงต่อมา “รู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ชอบพวกมีปัญหาทีหลัง” มือแกร่งผลักร่างบางในชุดสายเดี่ยวรัดรูปลงบนเตียงอย่างแรงพลางถอดเข็มขัดของตนเองไปด้วย “จะไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ” ปลายฟ้าตอบกลับด้วยน้ำเสียงยั่วยวนพร้อมกับเริ่มถอดเสื้อผ้าตัวเองออกเช่นกัน จนร่างกายของทั้งคู่อยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่า และ.... “อื้ออออ ชาร์วีคะ ชาร์วี อ๊าาาาา~” “อ๊า เบาๆ หน่อยค่ะ อ๊ะ” ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! “อื้อออ ฟ้ามีความสุขที่สุดเลยค่ะ อ๊ะๆๆ” เสียงครางระงมของปลายฟ้าดังก้องไปทั่วห้องนอนของโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับผับแข่งกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังขึ้นตลอดเวลา ซึ่งชาร์วีเองก็ออกแรงกระแทกกระทั้นหญิงสาวไปตามความต้องการของตัวเองโดยไม่คิดยั้งแรงใดๆ เนื่องจากเขารู้ดีว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายเพียงคนเดียวที่ปลายฟ้ามีอะไรด้วย นั่นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องอ่อนโยนกับเธอ และเขาเองก็รู้ว่าเธอเองก็ชอบแบบนั้นเหมือนกัน... “อาา...” ร่างสูงกระตุกเกร็งสองสามครั้งก่อนจะปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นใส่ถุงยางอนามัยขนาดใหญ่ ชาร์วีค่อยๆ ถอดแก่นกายออกพร้อมกับดึงถุงยางอนามัยทิ้งลงถังขยะหลังจากปลดปล่อยจนหมดแล้ว ในขณะที่ปลายฟ้ายังคงนอนเหนื่อยหอบอยู่จากการร่วมรักเกือบสี่สิบนาที “รอบเดียวเองเหรอคะ” “วันนี้ฉันมีงานต่อ” ปากหนาเอ่ยบอกคนที่นอนอยู่เพียงเท่านั้นก่อนจะใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกไปโดยไม่หันกลับมาสนใจปลายฟ้าอีกเลย@วันวาเลนไทน์-คอนโดชาร์วี"แน่ใจเหรอว่าจะไม่ไปกินข้าวที่ร้านอาหารจริงๆ" ร่างสูงที่กำลังถือจานอาหารเอ่ยถามหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะอีกครั้งซึ่งมินตราที่อยู่ในชุดสีชมพูหวานก็วางดอกไม้ในมือลงแล้วตอบกลับแฟนหนุ่มไปอย่างมั่นใจ"ทานที่ห้องนี่แหละค่ะ ที่ร้านอาหารคนเยอะและมินก็อยากอยู่กับพี่วีสองต่อสองมากกว่า""หึ เป็นเด็กติดพี่เหรอ""ติดแฟนค่ะ" ใบหน้าหวานหันกลับมาตอบกลับอย่างทะเล้นก่อนที่ชาร์วีจะวางอาหารที่สั่งมาลงบนโต๊ะกระจกแล้วสวมกอดหญิงสาวจากทางด้านหลังพลางเอ่ยถ้อยคำที่ทำให้คนฟังต้องหน้าแดงออกมา"กินที่ห้องก็ดีเหมือนกัน จะได้อุ้มขึ้นเตียงง่าย"เพี๊ยะ!"พะ...พอเลยค่ะ ครั้งก่อนก็โดนปะป๊าจับได้ มินอายนะคะ" มือเรียวฟาดที่ต้นแขนแกร่งอย่างแรงแล้วทำหน้ามุ่ยออกมาให้กับความหื่นของรุ่นพี่หนุ่มที่เขาได้ทำเรื่องน่าอายไว้ที่บ้านของเธอเมื่อไม่กี่วันก่อนจนธันวาเดินเข้ามาเห็นภาพที่ชาร์วีกำลังซุกไซ้เธออยู่ในห้องครัว"ครั้งนี้ทำบนเตียง ไม่ได้ทำที่ห้องครัวแล้ว""ชิ มินไม่พูดกับพี่แล้วค่ะ" มินตราแสดงท่าทีกระฟัดกระเฟียดออกมาแล้วหยิบดอกกุหลาบที่เหลืออยู่ขึ้นมาจัดใส่แจกันต่อโดยไม่สนใจร่างสูงที่กำลังคลอเคลียเธออย
"มิน! ฟังพี่ก่อน""มินตรา...มันไม่ใช่อย่างที่เราคิดนะ" ฝ่ามือแกร่งเลื่อนจับล็อกที่ท่อนแขนเรียวเอาไว้แล้วพยายามอธิบายให้หญิงสาวตรงหน้าฟัง หัวใจแกร่งกระตุกวูบเมื่อเห็นน้ำตาใสของคนตัวเล็กที่กำลังไหลออกมา"ฮึก...""ใจเย็นๆ นะมิน มันไม่ใช่อย่างที่เราคิดนะ" ชาร์วีรั้งตัวของคนตัวเล็กเขามาสวมกอดไว้แน่นพลางลูบที่เรือนผมของเธอไปด้วยเพื่อให้มินตราใจเย็นลงแต่ว่าทุกอย่างมันกลับไม่ได้ง่ายแบบนั้น"ปล่อยมินค่ะ มินจะกลับบ้าน" มินตราพยายามออกแรงดิ้นเพื่อให้พ้นจากพันธนาการของชายหนุ่มทว่าชาร์วีก็ยังคงไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ"มันไม่มีอะไรจริงๆ นะมิน""แน่ใจเหรอคะว่าไม่มีอะไร" น้ำเสียงที่เยือกเย็นดังออกมาจากคนตัวเล็กอีกครั้ง มินตราผละใบหน้าออกแล้วจ้องมองแฟนหนุ่มเขม็งในขณะที่ชาร์วีซึ่งพอจะรับรู้ถึงสายตาคนตรงหน้าได้ก็รีบบอกความจริงออกมาเพราะเขาไม่มีอะไรจะต้องปิดบังเธออยู่แล้ว"ฉันกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีอะไรด้วยกันมานานแล้ว ตั้งแต่ที่มีเธอเราก็ไม่ได้ยุ่งกันอีก""พี่แน่ใจแล้วเหรอคะว่าไม่เคยยุ่งกันอีก" มินตราเอ่ยถามคนตรงหน้าเสียงสั่นในขณะที่ชาร์วีขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความงุนงงเพราะเขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคน
@หลายเดือนต่อมา-มหาวิทยาลัย"คุยกับพี่ชาร์วีอยู่เหรอ" เสียงหวานของเม็ดทรายเอ่ยถามคนด้านข้างที่กำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่หลังจากที่ออกมาจากห้องเรียนแล้วก่อนที่มินตราจะละสายตาจากหน้าจอแล้วหันมาตอบกลับเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มหวาน"ใช่~ พี่วีบอกว่ามารอหน้าตึกแล้ว""เฮ้อ เบื่อคนมีความรักจริงๆ เลย" หญิงสาวลอบถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ให้กับความคลั่งรักของทั้งสองคนที่ไม่ว่าจะเป็นมินตราที่มักพูดถึงแฟนหนุ่มของตัวเองให้เธอฟังอยู่บ่อยๆ หรือแม้แต่ชาร์วีเองก็มารับมินตราทุกวันรวมถึงถ่ายรูปของเธอแล้วบอกรักลงอินสตาแกรมอยู่บ่อยครั้งจนทุกคนต่างอิจฉาให้กับความคลั่งรักของทั้งคู่ที่ดูจะยิ่งมากขึ้นในทุกๆ วัน"แต่ก็เอาเถอะ เห็นว่าผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ จะยอมให้ก็แล้วกัน" เม็ดทรายแสร้งกอดอกแล้วเอ่ยออกมาอย่างไม่จริงจังนักจนมินตราหลุดเสียงหัวเราะออกมาให้กับท่าทางของเธอ"ฮ่าๆๆ งั้นเธอคงต้องยอมเราทุกวันแล้วล่ะเพราะเรากับพี่วีผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมากกก" มินตรายิ้มตอบกลับไปอย่างอารมณ์ดีเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต ทุกเหตุการณ์เธอยังคงจดจำมันได้อยู่เพียงแค่มันไม่ได้มีผลต่อความรู้สึกหรือทำให้เธอต้องเจ็บปวดอีกแล้วเพียง
"แฮ่ก~""พี่รักเรานะครับ" ชาร์วีกดจูบลงบนไหล่มนชุ่มเหงื่อแล้วบอกรักคนที่นอนอยู่ไปด้วยในขณะที่ตัวของเขาเองก็เหนื่อยหอบไม่ต่างกัน ฝ่ามือหนาดึงแก่นกายใหญ่ออกจนน้ำคาวสีขุ่นไหลทะลักออกมาก่อนจะล้มตัวลงนอนราบแล้วจับร่างบางขึ้นมานั่งบนหน้าตักไปด้วย"พี่วี ไม่ทำแล้วนะคะ มินเหนื่อยแล้ว" มินตรางอแงออกมากชุดใหญ่อย่างรับรู้ความต้องการของแฟนหนุ่ม เพียงแค่เห็นความใหญ่โตที่ผงาดขึ้นอีกครั้งตรงหน้าก็พาลทำให้หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ"พี่บอกแล้วไงว่าจะปล่อยเราตอนทุ่มครึ่ง แต่ถ้า..." ปากหนาจงใจเว้นคำในประโยคสุดท้ายแล้วเลื่อนมือไปสัมผัสเอวคอดไปด้วยจนร่างบางขนลุกซู่ไปทั้งตัวก่อนที่ชาร์วีจะเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงร้ายกาจ"ถ้าเราขึ้นให้พี่ พี่จะให้จบแค่น้ำเดียว""ละ...ลามกที่สุดเลย" ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงระเรื่อด้วยความเขินอายให้กับคำพูดลามกของคนด้านล่างแล้วพยายามลุกขึ้นออกจากตรงนั้นทว่ากลับโดนฝ่ามือแกร่งรั้งเอวคอดไว้มั่นจนเธอไม่สามารถหนีไปได้"พี่ให้เวลาเราตัดสินใจนะ ถ้าเราหนีอีกพี่จะจับกระแทกจนถึงเวลาที่บอก" "อึก..." มินตราลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ให้กับท่าทีที่ดูจริงจังเหล่านั้นพลางเม้มปากเข้าหากันแน่
"เลิกร้องได้แล้วครับ" มือหนาเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าหวานอย่างอ่อนโยนในขณะที่คนตัวเล็กยังคงสะอื้นไห้ออกมาเบาๆ อยู่ ชาร์วีอมยิ้มออกมาเล็กน้อยให้กับนิสัยที่ขี้แงของหญิงสาวแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาก็ตกหลุมรักเด็กน้อยคนนี้จากนิสัยนั้นเหมือนกัน"ดีขึ้นหรือยัง""ฮึก! มะ...มันยังอยากร้องอยู่เลยค่ะ อึก มินกลั้นน้ำตาไว้ได้""งั้นไปร้องต่อในห้องก็แล้วกันนะ แต่เป็นร้องคราง""อ๊ะ! ไม่ทำนะคะพีวี" ร่างเล็กออกแรงดิ้นเมื่อถูกคนตัวสูงช้อนตัวเข้าไปในห้องนอนด้วยความรวดเร็วทว่าเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอไม่สามารถสู้ชาร์วีได้ ชายหนุ่มวางแฟนสาวลงบนเตียงด้วยความแผ่วเบาจากนั้นจึงรีบไปคร่อมตัวของเธอเอาไว้แล้วโน้มใบหน้าลงไปซุกไซ้ตามลำคอขาวเนียนด้วยความหื่นกระหาย"อื้ออ~ พี่วีทำเบาๆ หน่อยค่ะ อ๊ะ! มินเจ็บนะคะ ยะ...อย่าทำรอยเดียวปะป๊าเห็น อื้ออ" เรียวปากบางส่งเสียงร้องประท้วงออกมาไม่หยุดเมื่อคนด้านบนเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ชาร์วีสูดดมกลิ่นกายหอมหวานของคนตัวเล็กอย่างหลงใหล ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาคิดถึงร่างบางนุ่นนิ่มนี้มาตลอด"ไม่ไหวแล้วมิน พี่ขอเอาเลยนะ" ชายหนุ่มผละใบหน้าออกมาเอ่ยบอกเสียงแหบพร่าแล้วรีบปลดเปลื้องเส
@วันต่อมา-บ้านมินตรา"พี่วีอย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ เดี๋ยวมินก็ใจอ่อนหรอก" มินตราแสร้งทำหน้ายู่ออกมาแล้วเอ่ยต่อว่าคนตรงหน้าอย่างไม่จริงจังนักให้กับสายตาที่ดูอ้อนวอนของชายหนุ่มเนื่องจากเธอจะไม่ได้กลับไปนอนที่คอนโดด้วยกัน"เพิ่งได้นอนกอดกันแค่คืนเดียวเอง ยังไม่หายคิดถึงเลย" ร่างสูงรั้งคนตัวเล็กเข้าไปสวมกอดไว้แน่นด้วยความโหยหาพลางกดปลายจมูกโด่งลงบนศีรษะทุยเล็กไปด้วยจนมินตราลอบยิ้มออกมาให้กับความออดอ้อนของเขา"มินนอนที่บ้านแค่ไม่กี่วันเองค่ะ เดี๋ยวก็ได้กลับไปอยู่ด้วยกันแล้วนะ""ไม่กี่วันตรงไหน ตั้งสี่วัน แล้วยังได้กลับไปนอนด้วยกันแค่สองวันเอง""ปกติตอนปิดเทอมมินกลับมานอนที่บ้านเป็นเดือนเลยนะคะ ตอนนี้เหลือแค่เป็นวันเอง~ มานอนที่บ้านสี่วันแล้วกลับไปนอนกับพี่สองวันมันก็ไม่น้อยเลยนะคะ""แต่ฉันอยากมีเวลาสัมผัสเธอมากกว่านี้""น้อยๆ หน่อย นี่ยังอยู่ที่บ้านอยู่นะ" ธันวาที่เดินออกมาเอ่ยบอกชายหนุ่มรุ่นลูกที่กำลังกอดหอมลูกสาวของเขาอยู่เสียงดุทำให้ชาร์วีต้องยอมผละตัวออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ในขณะที่มินตราก้มหน้างุดด้วยความเขินอายที่พ่อของตัวเองเข้ามาเห็นในเวลาแบบนี้"ถึงพ่อจะอนุญาตให้คบกันแล้วแต่ก็ไม่ใช่ว







