ตอนที่ 1
2/3
เธอยื่นข้อเสนอพลางโปรยยิ้มหวานล้ำ นัยน์จ้องใบหน้างามตาขวาง แม้วันนี้ลลินาจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น สวยสะพรั่งและไม่ติดความเป็นเด็กเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ไม่อาจทำให้เขาหัวใจหวั่นไหวอีก อย่าว่าแต่หวั่นไหวเลย แม้แต่มองเฉียดด้วยหางตายังไม่อยากมอง อากาศในห้องเขาก็ไม่อยากใช้ร่วม ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวของเขาและเธอมาจะถึงจุดนี้ได้
ภาพในหัวลลินาคือเขาเซ็นเช็คสิบล้านแล้วโยนให้เธอเหมือนแฟ้มประวัติ ส่วนเธอก็เชิดหน้าฉีกยิ้มรับประหนึ่งมิสเวิลด์มงลง ประโยคที่ว่าเงินซื้อฉันไม่ได้จะไม่เกิดขึ้น ขอแค่คุณนัยน์บอกมาว่าพร้อมโอนหรือจ่ายสด!
แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นเลย นัยน์คิดว่าหากหน้าด้านกล้าเรียกร้องถึงสิบล้านก็ควรดูสารรูปตัวเองบ้าง คนสวยและเก่งไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวในโลก
คิดในอีกแง่หนึ่ง ก็แล้วทำไมเขาต้องจ้างออกล่ะ ในเมื่อเธอดั้นด้นมาแล้วก็ควรใช้งานให้คุ้มหน่อย คำว่าคุ้มของเขาไม่รู้ว่าลิมิตอยู่ตรงไหน คิดถึงวันเวลาเก่า ๆ แล้วฉุนกึก เสียทองเป็นกิโลยังรั้งใจใครไว้ไม่ได้
เขาเคยรักและถนอมเธอเป็นที่สุด จึงให้เกียรติและให้ความสำคัญเธอมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่เธอก็ยังใจดำทิ้งเขาเหมือนเป็นขยะ สิ่งที่ทำมามันไม่มีความหมาย หากรู้ว่าจะเป็นแบบนี้คงไม่เปิดใจรักเธอตั้งแต่แรก คงจะทำกับเธอเหมือนผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามา
เขาเคยมีความรักแค่สองครั้ง ครั้งแรกบอกเลยเกือบตาย ครั้งที่สองลลินาดันทิ้งรอยบาดแผลไว้ให้เจ็บปางตายอีก ตั้งแต่นั้นมานัยน์ก็ไม่เปิดใจให้ใครอีกเลย ต้องยอมรับว่ามุมมองความรักของเขาเปลี่ยนไปมาก เขาเคยสุภาพอ่อนโยนและมองโลกในแง่ดี เทิดทูนความรักเหนือทุกสิ่ง บัดนี้เหลือเพียงผู้ชายที่บ้างานไม่เคยสนใจเรื่องรัก ต่อให้มีผู้หญิงที่คู่ควรผ่านเข้ามามากมาย นัยน์ก็ไม่ยอมเปิดใจรักใครเป็นตัวเป็นตน สาเหตุเป็นเพราะลลินาคนเดียว เธอทำกับเขาเจ็บแสบมากเกินเยียวยา
"ตกลงจะได้มั้ยคะสิบล้าน" เธอย้ำถาม
นัยน์ยกยิ้มมุมปาก ภายใต้รอยยิ้มอันหล่อร้ายนี้ สร้างความรู้สึกคุ้นชินให้คนตรงหน้า เธอมองเขาอย่างระแวดระวัง อ้าปากจะพูดต่อแต่เขาชิงพูดก่อน
"ไม่ออกก็ไม่ออก"
ไม่เห็นจะยากตรงไหน เขามีวิธีที่ทำให้เธอออกโดยไม่ต้องเสียเงินสิบล้าน ไม่ใช่แค่ลลินาที่อยากแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นมืออาชีพ นัยน์เองก็เช่นกัน เมื่อสามปีที่แล้วมันก็เป็นแค่อดีต อีกอย่างอยากให้เธอได้เห็นกับตาว่าเขาไม่สนใจเธอสักนิดเดียว ในเมื่อเธอเปลี่ยนจากยัยจรจัดมาเป็นคุณลลินาสวยเก่งฉลาดได้ ทำไมเขาที่เป็นคุณนัยน์ผู้เพอร์เฟกต์มาตลอดต้องด้อยค่าตัวเอง ไม่เคยมียุคมืดสำหรับนัยน์ ชัชวาลเกียรติ์
การจมปลักกับอดีตครั้งนั้นมันกินเวลามากเกินไป เขาเสียเวลาชีวิตมามากพอแล้ว ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป นัยน์จะเปิดใจให้คนอื่นเข้ามาและลองคบหาอย่างจริงจัง เพื่อที่ผู้หญิงร้ายกาจคนนี้จะได้เห็นว่าไม่มีเธอแล้วชีวิตเขาไปได้ดีขนาดไหน
ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปชั่วครู่ อุณหภูมิเย็นเฉียบภายในห้องเริ่มทำให้ลลินาหนาว ๆ ร้อน ๆ ไม่นานเขาก็ดึงสติกลับมาเป็นคนที่สุขุมดังเดิม
"เอาเป็นว่าตั้งใจทำงานก็แล้วกันนะครับ นิสัยทำอะไรเล่น ๆ ไม่เคยจริงจังควรเลิกซะนะ"
"ฉันจริงจังกับงานค่ะ แต่สำหรับอย่างอื่นต้องดูก่อนว่าควรค่าแก่การจริงจังด้วยมั้ย"
ชายหนุ่มแค่นเสียงหัวเราะ "ถึงตอนแรกผมจะอยากได้คุณมาร่วมงาน แต่นั่นก็อีกเรื่องนึง อย่าเที่ยวไปป่าวประกาศบอกใครว่าเคยเป็นอะไรกัน"
"แน่นอนว่ามันไม่จำเป็นค่ะ"
"ออกไปได้แล้วครับ ประวัติคุณผมรู้ดีหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำความรู้จักอะไรกันอีก"
ลลินากำมือแน่น คิดถึงประวัติอันเน่าเฟะของตัวเองก็เจ็บปวดทุกครั้ง จริงอยู่ว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ และเธอก็ไม่อยากเกิดเป็นลลินาคนนั้น คนที่มีภูมิหลังอันน่าสะอิดสะเอียน
ถึงในวันนี้รูปลักษณ์ของเธอจะดีกว่าเมื่อก่อนล้านเท่า ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอเคยเป็นนังนีลหมาขี้เรื้อนมาก่อน และแม้ว่าใครบางคนจะยังมองเธอเป็นหมาขี้เรื้อนตัวนั้นอยู่ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยวันนี้ก็พูดได้เต็มปากว่าเธอคือหมาขี้เรื้อนที่สามารถมีทุกอย่างได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง
เธอแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ได้ร้องไห้ซ้ำ ๆ กับเรื่องเดิม ๆ เหมือนวันวาน คนเราเมื่อก้าวผ่านความทุกข์ยากที่สุดจนรอดตายมาได้แล้วชีวิตที่เหลือถือเป็นกำไร ความเจ็บปวดครั้งนั้นเป็นแรงผลักดันให้พายุทุกข์ลูกใหม่เป็นเพียงลมหวนวูบสั้น ๆ มันทำให้เธอเข้มแข็งขึ้นอย่างประหลาด ไม่มีสักเสี้ยวเวลาที่นั่งเหงา ๆ แล้วคิดถึงเขา...สักนิดเดียวก็ไม่เคย
ตอนพิเศษ-2-หลังกลับจากทะเลลลินาก็ยิ่งแพ้ท้องหนัก บางวันถึงขั้นกินอะไรไม่ลงจนอ่อนเพลีย ยิ่งเห็นภรรยาต้องเป็นแบบนั้นนัยน์ก็ยิ่งเป็นห่วง ในทุก ๆ เช้าเขาจะตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเตรียมอาหารเช้าให้เธอและลูกในท้อง พอตกเย็นก็กลับจากที่ทำงานเร็วหน่อยเพื่อที่จะได้กลับมาดูแลเธอ ถึงจะเหนื่อยกว่าเดิมเป็นเท่าตัวแต่นัยน์ก็ไม่เคยปริปากบ่น จากเดิมที่ลลินาตั้งใจว่าจะทำงานจนอุ้มท้องถึงห้าเดือน ตอนนี้คงเป็นแบบนั้นไม่ได้แล้ว สามีไม่ยอมให้เธอแบกท้องไปทำงานในขณะที่แพ้ท้องหนักอย่างนี้ ซึ่งลลินาเองก็เข้าใจเหตุผลที่นัยน์ขอในแต่ละวันดำเนินไปอย่างเชื่องช้า คนเคยทำงานพอไม่ได้ทำก็รู้สึกว่าเหมือนชีวิตขาดอะไรไป วันนี้เป็นวันหยุดลลินาจึงขอให้นัยน์พาออกไปข้างนอก เพราะเธออยากออกไปคาเฟเพื่อหามุมสวย ๆ นั่งผ่อนคลาย หลังจากที่ได้ส่องเพจคาเฟสวย ๆ หลายแห่งทั้งวันจนในที่สุดก็เลือกได้อยู่ที่หนึ่ง ทั้งคู่มาถึงในเวลาต่อมา เป็นคาเฟร้านขนมหวานสไตล์อังกฤษ รายล้อมด้วยกุหลาบสายพ
ตอนพิเศษ-1-สองปีต่อมาณ บ้านหลังเล็กริมทะเล คู่รักที่เพิ่งแต่งงานใหม่กำลังนั่งปิกนิกอยู่ชายหาด เสียงคลื่นกระทบฝั่งประสานกับเสียงลมทะเลขับกล่อม แว่วเสียงหัวเราะกังวาลใสดังมาเป็นระยะ วันนี้เป็นวันครบรอบสองปีแล้วที่นัยน์เคยพาลลินามาสถานที่แห่งนี้ เมื่อปีที่แล้วเขาไม่มีโอกาสพาเธอมาเพราะยังวุ่นอยู่กับงาน บัดนี้ทุกอย่างเริ่มลงตัวดีแล้ว บอร์ดบริหารให้ความไว้วางใจและยอมรับในการบริหารงาน ผลกำไรของท่าเรือทั้งสองแห่งเป็นที่น่าพอใจ เมื่อการงานมั่นคงนัยน์ก็ขอลลินาแต่งงานทันที ซึ่งงานแต่งเพิ่งจะผ่านพ้นไปได้แค่สามเดือนเท่านั้นที่วันนี้มีโอกาสได้มาเยือนบ้านริมทะเลอีกครั้ง เป็นเพราะภรรยาป้ายแดงคะยั้นคะยอให้พามา บอกว่าอยากพักผ่อนคลายเครียดและถือเป็นเป็นการฮันนีมูนแบบสงบเงียบไปในตัว ตัวนัยน์เองก็เห็นด้วย เพราะสองปีที่ผ่านมาเขาละเลยลลินาหลายอย่าง จึงอยากชดเชยช่วงเวลาเหล่านั้นคืนให้“หนูมีอะไรจะให้ด้วยค่ะ""อะไรครับ"หญิ
ตอนที่242/3จากมือที่ต้องการผลักไสเขาออกก็อ่อนแรงลง มัดหมี่ลืมเลือนความปวดแสบไปชั่วขณะ ได้ยินเพียงเสียงหัวใจของเขาที่กำลังเต้นแรงตึก ๆ"แล้วพี่ปินจะมาเป็นห่วงมัดทำไมคะ""พี่มีหลายอย่างอยากพูด ถ้าไม่พูดวันนี้ก็คงไม่มีโอกาสได้พูดแล้ว วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะทำงานที่นี่ พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอกันอีกหรือเปล่า พี่ไม่อยากให้เธอไป อย่าไปไหนเลยนะ...พี่ชอบเธอ"มัดหมี่ได้ยินที่ปรินทร์บอกก็ยืนตัวแข็งทื่อ เธอไม่แน่ใจว่าเขาพูดจริงจากใจหรือแค่แกล้งอำเล่นตามลักษณะนิสัย จึงทำให้เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เขาไม่เคยอ่อนโยนกับเธอมาก่อน จะว่าไปก็ไม่เคยเห็นมุมนี้ของเขาเลยสักครั้ง จึงรีบผละตัวออกจากอ้อมกอดถอยห่างไปสองสามก้าว"พี่ปินเห็นเป็นเรื่องตลกมากรึไงถึงเอามาแกล้งเล่นอีกแล้ว""พี่พูดจริงไม่ได้ล้อเล่น พี่ชอบเธอจริง ๆ นะ ไม่รู้ว่ามั
ตอนที่241/3"ครับ แต่ผมยังไม่ได้เซ็นอนุมัติ""ทำไมคุณมัดตัดสินใจลาออกกะทันหันแบบนั้นล่ะคะ ถึงคุณมัดจะบอกว่าไม่เกี่ยวกับหนูแต่หนูก็ไม่สบายใจอยู่ดี""ก็ไม่เกี่ยวจริง ๆ นั่นแหละ มัดหมี่เป็นเด็กน่ารักนะ ถึงแม้ว่าบางครั้งจะเอาแต่ใจไปบ้าง แต่ตอนนี้มัดดูเหมือนจะเติบโตขึ้นอีกก้าวแล้วล่ะ"ยิ่งฟังลลินายิ่งงง แต่จะมาบอกว่าผู้หญิงคนอื่นน่ารักต่อหน้าแฟนตัวเองแบบนี้ได้เหรอ! จากใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มเริ่มขุ่นเคืองลงทุกขณะ เธอกำหมัดเม้มปากเข้าหากันแน่น พอนัยน์เห็นแบบนั้นก็รีบอธิบายให้กระจ่างกลัวว่าเรื่องราวจะเลยเถิดไปไกล เหมือนมีรังสีอำมหิตกระจายอยู่รอบตัวเธออย่างไรอย่างนั้น"ไอ้ต่อบอกว่าธุรกิจครอบครัวมันกำลังขยายกิจการ ที่มัดหมี่มาทำงานที่นี่ก็ไม่ได้มองเรื่องเงินเดือนเป็นหลักอยู่แล้ว""แต่มาเพราะอยากมองคุณนัยน์เป็นหลัก"เขาแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน ตั้งใจว่าจะอธิบายให้ลลินาเข้าใจแต่ก็เผลอปากพูดวกมาจุดหาเรื่องแตกหักจนได
ตอนที่233/3"ทำอาหารเป็นมั้ย เย็นนี้ฉันจะรอทานข้าวพร้อมลูกชาย เธอคงไม่ได้อยากรีบไล่ฉันกลับหรอกนะ""หนูจะคิดอย่างนั้นได้ยังไงคะ เดี๋ยวหนูโทร.ไปบอกคุณนัยน์ก่อนนะคะ ถ้าคุณนัยน์คุยงานเสร็จแล้วจะได้กลับมาทานข้าวเย็นพร้อมเรา"ว่าแล้วลลินาก็เดินไปหยิบมือถือขึ้นมากดโทร.ออกด้วยความดีใจ ระหว่างรอนัยน์กลับจากต่างจังหวัดก็นั่งคุยกับสิเรียมไปพลาง ๆ พอรู้ตัวอีกทีทั้งคู่เริ่มคุยกันอย่างสนิทสนม กระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนถึงหกโมงเย็นเสียงเคาะประตูดังขึ้น ลลินารีบลุกไปเปิดประตูให้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม"คุณนัยน์เป็นไงบ้างคะ เหนื่อยมั้ย""ไม่เหนื่อยครับ ผมรีบเหยียบรถกลับมาเลยนะ" เขาพูดแล้วหยุดไว้ก่อนจะเอียงหน้าเข้ามากระซิบข้างหูผ่อง ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย "แม่ผมแกล้งอะไรคุณอีกมั้ยครับ""ไม่ค่ะ บอกแล้วไงคะว่าหนูเอาอยู่"เธอห
ตอนที่232/3"หนูเจอกับคุณนัยน์ตอนทำงานพิเศษค่ะ ช่วงนั้นหนูยังเรียนอยู่เลยหางานพาร์ทไทม์ทำไปด้วย บังเอิญว่างานที่ทำวันนั้นเป็นงานวันเกิดคุณนัยน์พอดี""เอ็มซี พริตตี้...หรือเด็กเอน""เด็กเสิร์ฟค่ะ"หญิงอาวุโสหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ สาว ๆ ที่ผ่านมาของนัยน์ถ้าไม่ใช่ดาราก็จัดว่าสวยในระดับพริตตี้มอเตอร์โชว์ สำหรับลลินาถึงแม้ว่าจะมีความสวยจะอยู่ในระดับนั้น แต่ก็ทำให้สิเรียมแปลกใจไม่น้อยที่ลูกชายของเธอดันไปหลงเสน่ห์เด็กเสิร์ฟในงานวันเกิดตัวเอง"เหรอ...แล้วตอนนี้แม่เธอไปไหนซะละ""ตอนที่หนู เอ่อ...ทิ้งคุณนัยน์ไปครั้งแรก ย่าแท้ ๆ มารับตัวหนูไปอยู่ด้วย หนูจึงตัดสินใจพาแม่ย้ายไปอยู่กับย่าที่ต่างจังหวัด ปัจจุบันนี้แม่อยู่ดูแลย่าที่นั่น ในระหว่างสามปีหนูได้เรียนต่อป.โท และทำงานไปด้วย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหนูส่งเสียตัวเองและทางย่าเป็นคนส่งเสีย คุณย่ามีธุรกิจเล็ก ๆ เป็นโรงงานประกอบเฟอร์นิเจอร์ก็เลยพอมีเงินส่งหนูเรียนต่อค่