2 คราพบกันครั้งแรก
... ... ... ...
บทกวีซุกซ่อนความหมาย
อยากรู้ใจเธอมีฉันไหม สี่ห้องในนั้นฉันอยู่ไหน
อยากรู้ใจนักหากวันใด เกิดไม่ใช่กันแล้ว...ใครผิดเอย
รุ่งทิวาอยากเอาสมุดเล่มน้อยนี้ปาหน้าชายหนุ่ม ...ใครกันที่ผิด คิดว่าคงเป็นเธอล่ะสิที่เป็นฝ่ายผิดที่ไม่ได้ดูแลหัวใจให้ดี ปล่อยทิ้งขว้างให้คนอื่นมาคว้าเอาไป
โชคชะตาให้บังเอิญเข้ามาในชีวิต รุ่งทิวาถูกส่งให้ไปร่วมงานแสดงสินค้าของบริษัทแม่ที่ปีนี้ได้เข้าร่วมงาน Expo 2020 ที่ซิดนีย์ เธอในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายโปรโมทสินค้าและผลิตภัณฑ์จึงได้เดินทางไปจัดเตรียมงานแต่เนิ่นๆ ก่อนงานแสดงสินค้าหนึ่งสัปดาห์
ก่อนเดินทางรุ่งทิวาได้เขียนอีเมล์ติดต่อชายหนุ่มบอกเขาว่าเธอจะไปซิดนีย์ เธอไม่คาดหวังกับคำตอบของเขา และเป็นจริงอย่างที่เธอคาดเดา หญิงสาวเปิดอีเมล์ดูเกือบทุกวัน เขมราฐไม่ตอบอีเมล์ของเธอ หรือว่าอีเมล์เดียวกันนี้ที่ผู้หญิงคนนั้นใช้เขียนหาเธอก่อนหน้านั้น มันอาจถูกปิดไม่ใช้งานแล้ว
“ไม่เป็นไร...ฉันคงตามหาเธอเจอนะ...เขม” รุ่งทิวาพึมพำเบาๆ เผื่อใจไว้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง
กวีบทนี้ดูเหมือนเป็นภาพจริง ณ ขณะนี้
เกลียดใจตัวเอง...ช่างอ้ำอึ้ง สักวันหนึ่งจะ...ได้อ้างไหม
หากเปลี่ยนใจแล้ว...จะว่าไง เธอคงไม่โกรธ...ฉันนะเออ
รุ่งทิวาแม้จะเห็นเขาเป็นเพื่อนอยู่ก็ตาม แต่ก็อดใจหายไม่ได้ จริงๆ หญิงสาวเองก็ไม่มีใครเข้ามากุ๊กกิ๊กด้วย มีแต่เขาที่รู้จักกันตั้งแต่ปีหนึ่ง แม้จะเรียนกันคนละคณะวิชาแต่แล้ววันหนึ่งเวลาของชีวิตทำให้ทั้งสองมาบรรจบพบกันจนได้ ...มีคนเคยพูดไว้ในสำนวนภาษาอังกฤษ...
Everything happens for a reason.
ด้วยทุกสิ่งมันมีเหตุ...จึงบังเกิดขึ้น
เขมราฐปะทะคารมกับรุ่งทิวาในการประกวดสุนทรพจน์บนเวทีในวันชิงชนะเลิศ เขาเดินมาบลัฟเธอ
“อย่าคิดว่าสำนวนการพูดเชยๆ ของเธอจะเอาชนะฉันได้...” รุ่งทิวาตกใจกับคำพูดท้าทายของชายหนุ่มซึ่งเธอได้แอบชื่นชมว่า มาดเขาดูดีมากตอนเข้ารอบมาด้วยกัน ไม่คิดว่าจะหยาบคายดูถูกกัน
“ลองดูล่ะกัน...ฉันไม่ชอบคนขี้โม้ขี้อวดแบบนี้หรอก เสียดาย…เฮ้อ!”
“เสียดาย...อะไร ทำไม!” เขาทำหน้าเลิ่กลั่ก
“ไม่มีอะไร...แค่แอบชื่นชม” เธอทิ้งท้ายให้เขาทำหน้านิ่วอย่างสงสัย
และแล้ววันนั้นด้วยความคมคายของบทกวีที่เขากล่าวทิ้งท้ายได้ซาบซึ้งใจมาก จึงทำให้คณะกรรมการเทคะแนนให้เขาชนะเลิศเฉือนรุ่งทิวาไปอย่างสูสี เธอเองก็เสียใจไม่น้อยนั่งซึมอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามายื่นมือให้จับเพื่อแสดงน้ำใจนักกีฬา
“ไม่ต้อง...ฉันรู้ตัวเองดีว่า ยังไงก็สู้คารมของนายไม่ได้หรอก” รุ่งทิวาลุกขึ้นยืนน้ำตาซึมขอบตา เขมราฐยังถือวิสาสะจับมือเธอโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะอยากพูดดีด้วยหรือไม่
“พรุ่งนี้...เราอยากนัดกินข้าวเย็นด้วย...จะมารับที่นี่นะ” เขายังตื้อเธออีกโดยจะข้ามฝั่งมาที่คณะของหญิงสาว จะมานั่งรอเธอที่ห้องสมุด
นับจากนั้นมาทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนกันจนถึงปีสุดท้าย เขมราฐเรียนเก่งมากได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งและได้ทุนไปเรียนต่อจนจบปริญญาเอก หน่วยงานที่บรรจุให้เขาเข้าทำงานลงทุนสานฝันให้เขา ตอนที่สัมภาษณ์ขออนุมัติรับทุน เขาสามารถพิชิตใจผู้อนุมัติทุนด้วยการสร้างความประทับใจจากวิดีทัศน์ บทกวีที่กล่าวนำเสนอไปในนั้นเป็นผลงานรังสรรค์ที่ร้อยเรียงเรื่องราวไว้อย่างไพเราะ
รุ่งทิวาแปลกใจที่เธอไม่รู้สึกเสียใจแม้ไม่ได้รับคำตอบจากเขา เพราะนั่นคือสัญญาณอย่างหนึ่งที่เธอรับรู้แล้วว่า ในใจของเขาคงไม่มีผู้หญิงที่ชื่อ ‘รุ่งทิวา’ คนนี้อีกต่อไป
ทันทีที่เครื่องบินร่อนลงที่สนามบินซิดนีย์ หญิงสาวมองหาเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดเดียวกันมารอรับ เธอเดินทางมาถึงโรงแรมที่ได้จองไว้ให้สำหรับทีมงานที่ล่วงหน้ามาแล้วหลายคน ด้วยเวลาที่กระชั้นเข้ามาเธอจึงได้นัดประชุมวันรุ่งขึ้นเพื่อจัดการตารางงานทั้งหมดให้ลงตัว และช่วยประสานทุกฝ่ายในการดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์
“Hey…Roong I have someone to help you here! He’s my Thai friend… รุ่ง ผมมีคนมาช่วยยู เขาเป็นเพื่อนคนไทย” บ๊อบซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานบินจากสำนักงานใหญ่ที่ลอนดอน เข้ามาจัดการฝ่ายอำนวยการทั้งหมดของที่นี่ร่วมกับทีมโปรโมทผลิตภัณฑ์ที่เธอรับผิดชอบ รุ่งทิวามาพร้อมกับทีมอีกสองคนเพื่อช่วยเธอในการจัดแสดงสินค้าที่ต้องการออกตัวอย่างรวดเร็ว
ตกค่ำบ๊อบพาทุกคนไปเลี้ยงที่ร้านอาหารจีนแถวริมอ่าวซิดนีย์ เขานัดให้เพื่อนคนไทยมารอพบเขาที่นั่นด้วย
5 มนต์เสนห์แห่งบอลติกระหว่างทางไป กดัญสก์ (Gdansk) โทนี่เล่าว่าเมืองนี้เป็นฉากของนิยายลือเลื่องของนักเขียนเยอรมันเจ้าของรางวัลโนเบล นามว่า ‘Gunter Grass’ กรึนเทอร์ กลาสส์“เคยได้ยินนิยาย The Tin Drum ไหม” เขาถามถึงสองครั้งแต่เกรต้าไม่ตอบ เธอกำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ในเว็บไซด์“กลองสังกะสี มีแปลเป็นภาษาไทย...ฉันไม่เคยอ่านหรอกนะ” เกรต้ากำลังกวาดสายตาอ่านเรื่องย่อที่ทำให้ผู้เขียนคนนี้ได้รับรางวัลโนเบล“a lot of codes…needed to interpret เป็นนิยายนามธรรมแฝงด้วยนัยที่ต้องตีความ” เกรต้าได้ยินคำพูดของโทนี่ที่ดูเข้าท่าก็ตอนนี้“เมืองกดัญสก์ (Gdansk) เดิมเคยอยู่ในดินแดนเยอรมันชื่อ Danzig ดานซิก ที่นักเขียนคนนี้ใช้เป็น location ของการเล่าเรื่องในนิยายของเขา” เขาเล่าคร่าวๆ แล้ววันหน้ามีเวลาเขาจะพยายามเล่าให้เธอฟังเป็นภาษาอังกฤษ นิยายเรื่องนี้ซับซ้อนมากตัวเอกเป็นคนหลังค่อมแต่มีของวิเศษที่ติดตัวมาเหมือนมีพลังเหนือธรรมชาติคือ tin drum คล้ายกับเรื่องอลาดินกับตะเกียงวิเศษ ที่ผู้เขียนเล่าเรื่องราวผ่านสิ่งของอันเป็นสัญลักษณ์ซึ่งแทนความหมายเกี่ยวกับความหวัง ไฟปรารถนา พลังแห่งศรัทธาของการมีชีวิตอยู่
4 จัดรายการแดนไกล“สองหนุ่มสาวจากแดนสยามเมืองยิ้มวันนี้มาช่วยจัดรายการแทนป้าทิพย์...ใน Dear Debby in Warszawa วันนี้ป้าจะขอพักฟังสองคนจัดรายการเพื่อสร้างความแปลก Amazing ให้กับผู้ฟัง” เสียงป้าทิพย์เปิดรายการเกรต้ายังจดจำถึงวันนั้นได้เป็นอย่างดี คำพูดหนึ่งที่น่าประทับใจของเขาในรายการภาคภาษา Polish ของเขา หากเป็นภาษาไทยก็คง ‘เมื่อรักโดนใจแล้วใครจะช่วยเราได้หากเราไม่รีบที่จะไปตามหาหัวใจดวงนั้นทันที เมื่อรักเก่ามันสะบั้นลงอย่าหลงติดกับวังวน...รีบเหวี่ยงตัวเองออกมาซะแล้วไปตามหาคนที่ใช่ต่อไป’เกรต้าได้รับคำขอร้องจากสายของสาวไทยที่นั่นซึ่งโทรเข้ามาในรายการ เธอให้ความเห็นว่า ‘Whatever you think is real…ไม่ว่าเราจะคิดยังไงสิ่งนั้นคือความจริง คิดว่ารักคือรัก คิดว่าใช่คือใช่ ชีวิตคนนั้นไม่ยืนยาวจงรีบทำหากตัดสินใจแล้วอย่าปล่อยให้โอกาสดีๆ หลุดลอยไป’“ผมคิดถึงคำพูดของคุณในรายการป้าทิพย์ ผมตื้อคุณจนถึงขอนแก่นวันนั้นใช่ไหม” เขาทำหน้ายียวนมองแววตาของเกรต้า“ใช่เลย...ฉันเลยได้คำพูดจากการกระทำวันนั้นของนาย” น้ำเสียงเกรต้าอย่างหมั่นไส้เขาถือวิสาสะจูงมือเกรต้าหลังจากเดินออกมาจากสถานีแล้วข้ามถนนไปฝ
3 กับดักรักเกรต้ามารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อกระเป๋ารถมาสะกิดเธอว่าใกล้ถึงท่ารถที่อำเภอพล เธอจึงตกใจรีบทะลึ่งตัวผึงขึ้นศอกกระแทกเข้าที่หน้าอกของชายหนุ่มอย่างแรงจนเขาร้องเสียงดังโอ๊ก“My heart’s being extremely attacked…หัวใจผมกำลังถูกโจมตีอย่างรุนแรง...”เสียงอ้อนของเขากำลังจะหายไปกับสายลมเพราะหญิงสาวขอตัวลงที่ท่ารถที่อยู่เบื้องหน้า ทำให้หนุ่มโทนี่ถึงกับผิดหวังจริงๆ อย่างที่พูดออกมาสักครู่“I wanna follow you here…ผมขอตามคุณลงไปด้วย” เขาพูดยังไม่ทันจบคำก็คว้าเป้ใบโตสะพานหลังกระโดดลงจากรถตามหญิงสาวที่ไม่แม้แต่จะหันมากล่าวลาเขาเลย"Oh…don’t go away โธ่...อย่าหนีผมไปเลย ผมจะไปไม่ถึงบ้านที่ Nong Song Hong หนองสองห้อง” เขายังคอยตามตื้อเกรต้าทั้งที่เธอพยายามเร่งฝีเท้าเพื่อเดินหนีชายหนุ่มที่บ้าตามตื้อเธอมาถึงที่นี่“โน่น...ท่ารถแท็กซี่ นายไปติดต่อเลย อาจไม่มีรถนะ” เกรต้าทำตาดุใส่หนุ่มลูกครึ่งหน้าตายู่ยี่เพราะยังคิดไม่ตกว่าจะไปถูกไหม-------------------เกรต้าโล่งอกเมื่อมองหันหลังกลับไปไม่เห็นชายหนุ่มที่นั่งรถมาด้วยกันจากกรุงเทพ ใจหนึ่งก็นึกสงสารแต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกรำคาญหมั่นไส้ ก่อนจะเดิน
2 ข้อความจากแดนไกลเกรต้า...เอนหลังนอนเอกเขนกเหม่อมองเพดานห้องและอมยิ้มเมื่อความคิดยังลอยวนเวียนอยู่ในสมองถึงวันศุกร์ที่ผ่านมาเกือบสองเดือนแล้ว เธอนึกได้ว่าต้องเปิดอีเมล์เช็คดูว่าจะมีอะไรส่งมาถึงเธอบ้างจากหนุ่มนามว่า ‘โทนี่’ นายนี้ แปลก...ไม่มีเมล์อะไรมาถึงเธอเลยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เธอกำลังเปิดดูกลุ่มต่างๆ ในไลน์ แต่แล้วก็มีแช็ตชื่อแปลกๆ โผล่ขึ้นมาจากลิสต์ที่มีอยู่ เมื่อกดเข้าไปจึงเห็นสติ๊กเกอร์ทักทายจากหนุ่มนายคนที่คิดถึงอยู่พอดี“Wonder?? แปลกใจล่ะสิว่าผมรู้ได้ไง...” เกรต้าอ่านแล้วเธอหัวเราะคิกทันที นึกขำว่าแปลกที่เขายังตื้อจะคุยอยู่ได้“ผมจะมาเมืองไทย...อาทิตย์หน้า เจอผมได้ไหม” เกรต้ายังนิ่งเฉยไม่ตอบอะไรกับประโยคที่เขายังขึ้นพล่ามอยู่และอาจร่ายยาวไปได้เรื่อยๆ ฟังดูว่าจะเขียนไปได้ยาวแค่ไหนกัน“ผมจะเอา souvernir มาฝาก อยากได้แบบไหน ผมมีเยอะ” เกรต้าก็ยังไม่ตอบอะไรเขาเลย นายคนนี้เป็นอวาตาร์ไหม มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ หญิงสาวสงสัยเหมือนกันว่า AI ทุกวันนี้มันเป็นไปได้หมดแม้อวตารของคนที่ไม่มีอยู่จริง“Hey…you’re an Avatar ฮัลโหล...ฮัลโหล ยูเป็นอวาตาร์???...!!!” เขายังเขียนพล่ามมาเรื่อ
คำโปรย...Dear Abbie แอบบี้ที่น่ารัก...มีปรัศนีมาช่วยไข-------------------1 ดีเจตัวแทน เกรต้า...Greta เข้ามาจัดรายการแทน Abbie แอบบี้ เมื่อวันศุกร์แรกของต้นเดือนเมษายนที่สถานี Hits965 ณ ห้อง broadcast live สดที่กรุงเทพ เธอเลือกเพลง ‘คนที่แสนดี’ ของโทนี่ ผี (Tony Phee) เปิดเป็น jingle intro เข้าสู่ช่วงต้นของรายการฉันเหมือนคนหลงทางหาไม่เจอกับ...ความรักฉันไม่เคยได้รู้จัก...เลยฉันได้แต่นั่งมองเหม่อดูคนอื่น...เฉยเฉยฉันไม่เคยไม่เคยเลย ไม่เคยแล้ววันหนึ่งเธอก็เข้ามาเข้ามาในชีวิตฉันไม่เคยรู้สึกนี่ ฮู้ ว่าเธอนะ...ใช่เลยฉันเพิ่งเข้าใจทุกทุกอย่าง ทุกความหมายว่ารักของเธอนั่นช่างมากมายและ...เหนือใครเสียงเพลงโฆษณาก็ขึ้นมาคั่นระหว่างที่เธอกำลังเตรียมเพลงและหาเนื้อหาให้เข้ากับรายการเพลง ‘Dear Abbie ปรัศนีหัวใจ...คำถามของคนมีรัก’กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง...เกรต้าสาละวนกับการค้นหาเรื่องราวที่ค้างไว้สำหรับการตอบคำถามที่แอบบี้ทิ้งไว้ให้ตั้งแต่เมื่อวาน เธอร้างลาการจัดรายการออกอากาศสดเกือบ 2 ปีแล้วตั้งแต่ไปเรียนต่อที่ซิดนีย์ ครั้งนี้เธอแวะมากรุงเทพเลยถูกเพื่อนสาวแอบบี้ใช้งานในฐานะดีเจเก่า คร
5 บอลลูนสื่อใจเรเน่ช่วยโอโมโรสดูแลการขึ้นกระเช้าจนครบทุกคน ด้วยจำนวนคนเพียง 5 คนซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มเพื่อนของยานะและมาร์ค ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคารันนั่นเอง ส่วนอีก 1 คู่เป็นญาติของมาร์คที่เพิ่งแต่งงานกันไม่นาน ยานะเล่าว่าคารันขอมาทริปนี้ด้วยเมื่อมาร์คบอกว่าจะมาเยี่ยมญาติของยานะที่ไคโรและจะมาขึ้นบอลลูนที่นี่เรเน่ทำหน้าที่แทนเพื่อนสาวที่เสียงแหบแห้งบรรยายหุบเขากษัตริย์และราชินีที่เห็นอยู่เบื้องหน้า รวมทั้งวิหารลักซอร์ และคานัค วิวที่มองลงไปจากกระเช้าซึ่งล่องลอยไปกับตัวช่วยนำพาคือบอลลูนขนาดใหญ่ที่มีสีสันสวยงาม ทำให้ทิวทัศน์อย่างโอเอซิสตาน้ำในทะเลทรายและสายน้ำแห่งแม่น้ำไนล์ที่เห็นเป็นสายอยู่นั้นกลายเป็นความมหัศจรรย์ที่ยากจะลืมเลือน.... .... .... ....“ที่นี่เป็นอะไรที่ฝังอยู่ในหัวผมมานานมากแล้ว...เรเน่” เสียงชายหนุ่มพูดขึ้นท่ามกลางความมืดที่มีแสงจันทร์ส่องสว่างเต็มดวง คืนนี้มีเขาและเธอที่นั่งชมความงามของภูมิประเทศของเมืองแห่งนี้“อยากมาขึ้นบอลลูนล่ะซิ...ไปขึ้นมากี่เมืองแล้ว” หญิงสาวมองแววตาสีเขียวอ่อนของชายหนุ่มขณะที่เขากุมมือของเรเน่ไว้กำลังจะยกขึ้นมาจุมพิต“อย่าบอกนะว่าไปมาเกือบหมด