รถแวนของผอ.ทัพฟ้าจอดยังโรงรถบริเวณบ้านไม้ของภาคี แฟนหนุ่มอนาคตไกลของลูกสาวจึงเดินมาต้อนรับอีกครั้ง
"ผมจะพาไปดูห้องนอนครับ"
"อืม บ้านสวยมากเลยภาคี แล้วนี่เธอปลูกเองเหรอ" ผอ.ทัพฟ้ามองความใหญ่โตของบ้านไม้สไตล์แปลกตาที่เหมือนกับบ้านฝรั่งในต่างประเทศ
"ครับ ผมเป็นคนออกแบบเองแล้วก็ควบคุมการก่อสร้างเอง"
"โห คนเก่ง เก่งสุดยอด" ครูนับเก้าชมไม่ขาดปาก แต่สามีด้านข้างกลับทำหน้าจ๋อยใส่ "ไม่ต้องเลยค่ะ พี่ฟ้าต้องง้อนับ เชอะงอนแล้ว"
"อ้าวเดี๋ยวค่ะแม่" เหนือฟ้าวิ่งตามแม่เข้าไปในบ้าน จึงเหลือเพียงลูกผู้ชายต่างวัยทั้งสองคนที่กำลังยืนจ้องตาทำสงครามเย็นกันอยู่
"ผมช่วยให้อาคืนดีกับคุณแม่ได้นะครับ ถ้าอยากให้ผมช่วยจัดดินเนอร์พิเศษให้ ผมก็ทำให้ได้หมด" ภาคียื่นข้อเสนอเอาใจพ่อของแฟนสาว
"งั้นจัดดินเนอร์กับหานักสีไวโอลินให้ให้ฉันหน่อย" ผอ.ทัพฟ้ายิ้มแล้วตบไหล่เจ้าของไร่
"แค่นี้เองเหรอครับ ผมนึกว่าจริง ๆ แล้วอาจะมาจับผิดผมซะอีก"
"อาไม่กล้าขออะไรเธอมากหรอกภาคี แล้วที่เดินทางมาด้วยก็ไม่ได้จะมาจับผิดอะไรเธอกับยัยเหนือ แค่หาที่เหมาะ ๆ ง้อแม่นับเขาเท่านั้นเอง แต่จะทำอะไรกันก็อย่าลืมป้องกันให้ดี แล้วก็เรียกพ่อเธอไม่ต้องเรียกแล้วอา ไปเข้าบ้านกัน" ผอ.ทัพฟ้าหนุ่มใหญ่สไตล์โอปป้าเพราะมีเสี้ยวเกาหลีจากฝั่งพ่อโอบไหล่ภาคีเข้าไปในบ้านด้วยกัน
"ขอบคุณนะครับคุณพ่อ" ภาคียิ้มอย่างโล่งอก อย่างน้อยพ่อของเหนือฟ้าก็ไม่ได้คิดจะมาเป็นไม้กันหมาลูกสาว แต่ที่ตามมาเพราะต้องการหาเวลาง้อเมีย
หนุ่มสาวสองคนเลือกนอนชั้นสองของบ้าน ส่วนผู้หลักผู้ใหญ่ที่กำลังตะบึงตะบอนใส่กันอยู่เลือกที่จะนอนชั้นล่างแทน
"เหนือพร้อมไปเที่ยวน้ำตกรึยัง" ภาคีเคาะประตูเรียก
"พร้อมค่า ไปกันเลย" เหนือฟ้าเดินออกมาในชุดบอดี้สูทเหมือนจะไปดำน้ำลึก ผมสีดำถูกรวบเก็บในหมวกคลุมผมอาบน้ำลายกบ จนภาคีถึงยกมือป้องปากเพื่อกลั้นขำ
"ฮ่าฮ่า" เจ้าของไร่รีบเดินหนี หญิงสาวหลุบตาสำรวจดูสภาพตัวเองว่ามีอะไรแปลกตาจนทำให้เขาต้องเดินหนีเพื่อไปหาที่ระบายความขบขัน
"พี่คี เส้นตื้นจังนะคะ ขำอะไรเหนืออ่ะ"
"ก็...พี่จะพาไปเล่นน้ำตก ไม่ได้จะพาดำน้ำนะครับ ทำไมเหนือไม่หาเสื้อผ้าที่มันสบายตัวกว่านี้"
"เหนือก็แค่อายพี่คี" เหนือฟ้าพูดพึมพำทำหน้าจ๋อย
"อายอะไร เหนือออกจะน่ารัก" ภาคีบีบแก้มก้อนนิ่ม ๆ ของเหนือฟ้า ถ้าไม่ติดว่าเขาอยากสานสัมพันธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป ป่านนี้แก้มพอง ๆ สองข้างคงโดนเขาฟัดทุกวันแล้ว
"งั้น เหนือไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ"
"เดี๋ยวพี่ไปรอข้างล่างนะ"
"ค่ะ" เหนือฟ้ายิ้มรับแล้วหายกลับเข้าไปเปลี่ยนเป็นเสื้อเกาะอกผ้ามัดย้อมสีชมพู ช่วงขาอวบขาวสวมกางเกงผ้ามัดย้อมขาสี่ส่วนสีเดียวกัน คว้าหมวกสานปีกกว้างมาใส่แทนหมวกคลุมอาบน้ำ เดินตรงไปหาภาคีที่กำลังยืนเล่นกับควายเผือกที่ชื่อบ่ะผางอยู่ข้างรถ
"พร้อมแล้วใช่ไหม" ภาคีหันไปหาแฟนสาวที่อยู่ในชุดสีสันสดใสท่อนบนโชว์ผิวขาวราวหยวกกล้วยจนก้อนเนื้อในอกรู้สึกว้าวุ่นไปหมด
"เป็นไงคะ ถูกใจพี่คีรึยัง" ปลายรองเท้าแตะเขย่งถามคนตัวสูงพลางจับหมวกไม่ให้ปลิวหลุดจากศีรษะเพราะกระแสลมแรงในไร่พิทักษ์มหิงสา
"ถูกใจมาก" โน้มใบหน้าลงมาใกล้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใส่คนตัวเล็กกว่า
ไม่ไกลจากไร่รถจี๊ปของภาคีก็เดินทางมาถึงน้ำตกที่ไหลพาดผ่านไร่ ทำให้กลายเป็นจุดตั้งแคมป์ และกางเต้นท์เล็ก ๆ ที่เริ่มนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมากขึ้น
"ทำไมไม่มีคนเลยล่ะคะ" เหนือฟ้ามองหาคนอื่น ๆ
"พี่ปิดบริการโซนนี้ชั่วคราวน่ะ"
"อ๋อ เพราะพี่คีกำลังเริ่มสร้างรีสอร์ตใช่ไหมคะ" เหนือฟ้าสังเกตเห็นป้ายที่ปักไว้ข้างต้นไม้ว่าอยู่ในระหว่างก่อสร้าง
"ครับ ดังนั้นส่วนใหญ่จุดนี้ก็จะเปิดให้แค่คนในครอบครัวเท่านั้น"
"แต่เหนือไม่ใช่ครอบครัวพี่คีสักหน่อย"
"ตอนนี้ยังไม่ใช่ อนาคตอาจจะใช่ก็ได้" เขายิ้มแล้วหยิบเตาปิ้งย่างขนาดพกพาออกมากาง พร้อมกับเก้าอี้สนามแบบพับนั่งได้สองถึงสามคน
"มันจะไม่หักอีกใช่ไหมคะ" เหนือฟ้าลังเลที่จะนั่ง แต่อยู่ดี ๆ เขาก็รวบเอวเธอเข้าไปนั่งบนตัก เรียวแขนอวบขาวไขว่คล้องหลังคอคนขี้แกล้งด้วยความตกใจ
"จะลองนั่งโยกบนตัวพี่ดูก็ได้นะ ดูสิว่ามันจะหักไหม" ดวงตาสีดำสนิทเขม็งมองเข้ามาในตา ทำให้เหนือฟ้าไม่กล้าแม้แต่จะขยับเนื้อขยับตัว
"โยกบนตัวพี่คีมันเหมือนกับ..เอ่อ" เหนือฟ้าพูดเสียงเบา
"เก้าอี้สนามตัวนี้รองรับน้ำหนักได้ถึงสองร้อยโล น้ำหนักเราสองคนรวมกันก็ยังไม่ถึงอยู่ดี"
"อ้อ ดีค่ะโคตรแข็งแรงเลย" คราวนี้เหนือฟ้ากลั้นใจลุกขึ้น เพราะขืนนั่งต่อไปก็กลัวจะเลยเถิด
"ระหว่างรอถ่านร้อน ไปเล่นน้ำกันก่อนดีกว่าแล้วค่อยขึ้นมากินบาร์บีคิว" ภาคีเดินนำเหนือฟ้าไปที่ลำธารไหลเชี่ยว เดินลุยน้ำลงไปอยู่กึ่งกลางธารน้ำใสแจ๋ว ยื่นมือให้อีกฝ่ายจับ
"ขอบคุณค่ะ" พอจับได้ปุปภาคีก็ดึงตัวเหนือฟ้าเข้าไปหาอย่างเร็ว หญิงสาวกลัวเสียหลักจึงได้รวบกอดตัวเขาแน่น
"เป็นอะไรรึเปล่า" เขาก้มลงถาม กะพริบตาปริบ ๆ เหมือนไม่รู้สึกรู้สา
"โอเคค่ะ" เหนือฟ้ายิ้มแล้วดันอกภาคีออก เริ่มเดินลุยน้ำด้วยตนเอง ภาคีสบโอกาสยกโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพและคลิปของสาวอวบผู้น่ารักของเขาไว้จำนวนมาก แล้วเดินไปสะกิดไหล่
"เหนือเซลฟี่กับพี่หน่อย"
"จะดีเหรอคะ"
"ทำไม แฟนจะขอถ่ายรูปเก็บไว้ดูก็ไม่ได้เหรอ" เขาทำแก้มป่องพองลม
"ได้ค่ะ" เหนือฟ้ายิ้มแล้วยื่นหน้าเข้ามาในกล้องโทรศัพท์ แต่จู่ ๆ เธอก็อยากหอมแก้มเขา ช่วงที่เขากำลังกดชัตเตอร์เธอก็เลยหันไปจุ๊บแก้มเขาให้ไวที่สุด ภาคีตะลึงฉีกยิ้มให้บ่ะหนุนน้อยตัวแสบ
"ไม่ยุติธรรมนี่นา หอมพี่คนเดียวเลย ให้พี่หอมบ้างสิครับ" เขาอ้อนแล้วเริ่มกดถ่ายรูปใหม่ แต่คราวนี้เขาเลือกอัดคลิปวีดีโอ เพราะเขาชอบเก็บภาพเคลื่อนไหวของเหนือฟ้าไว้มากกว่า พอเขาหอมแก้มเธอจนจมูกฝังมิดลงไปเหนือฟ้าก็ฉีกยิ้มกว้างมีความสุขทันที
"เหนือหิวแล้วค่ะ ไปกินกันเถอะ" เหนือฟ้าลากแขนภาคีไปที่เตาปิ้งย่างจิ๋ว ทั้งสองช่วยกันย่างบาร์บีคิวเกือบสามสิบไม้ แล้วอยู่เล่นน้ำด้วยกันสองคนจนตะวันตกดิน
ปิดเทอมหน้าร้อนเทอมสุดท้ายบะแต๋งจะเรียนจบประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ส่วนนิ่มฟ้าและน่านฟ้าจะขึ้นปอ.2 ครอบครัวคนเลี้ยงควายจึงคุยกันว่าจะไปเยี่ยมเยียนครอบครัวมหาจันทร์ของปินปินและพบปะสังสรรค์สักหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ภาคีจอดรถจี๊ปในอาณาจักรอัญฎรญามีอันยิ่งใหญ่ที่มีเทวสถานพระศิวะขนาดความสูง 35 เมตร นิ่มฟ้าที่กำลังนั่งมองวิวทิวทัศน์สังเกตเห็นว่ารอบบริเวณเทวาลัยถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้พลันนั้นเด็กหญิงกลับสะดุดตาเข้ากับไม้ยืนต้นสูงที่มีลักษณะใบคล้ายกับต้นมณฑารพที่เทพมาสมักจะนัดพบเจอเธอที่นั่น เพียงแต่ดอกไม้ตนนั้นมีขนาดสูงใหญ่กว่าและผลิดอกสีเหลืองนวลเต็มต้น"พี่คีพี่เหนือเชิญทางนี้ค่ะ" แซมมี่ในชุดสาหรี่แต้มผงกุมสีแดงกลางหน้าผากเดินออกมาพร้อมกับมะแป่มตัวน้อยที่ตอนนี้ขึ้นอนุบาลสองเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่มะแป่มเห็นน่านฟ้า หนูน้อยก็ทำตัวอ่อนเดินเซไปหาคนพี่"ปี้น่านขา" มะแป่มคว้าหมับที่แขนของเด็กชายจนผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองต่างพากันหัวเราะขบขัน"เอ่อ...เป๋นหยังครับ" น่านฟ้าขานรับแต่กลับยืนตัวเกร็งหน้าแดงซ่าน"อุ๊ย..." มะแป่มทำท่าสะดุดขาแล้วรีบสวมกอดเอวพี่พลางเอาหน้าซบแผ่นอก"เกินไปแล้วจ้ะแม่ลูกสาว" แ
ภายในอ่างอาบน้ำทรงกลมที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องน้ำ มีร่างตุ้ยนุ้ยสองแม่ลูกกำลังแช่น้ำนมอุ่น ๆ ที่ภาคีเป็นคนเตรียมให้ ระหว่างที่เหนือฟ้ากำลังหยิบฟองน้ำเตรียมยกขึ้นมาขัดแผ่นหลังให้ลูกสาว พลันนั้นบาดแผลที่มีร่องรอยของการถูกกัดก็ปรากฏอยู่บนหัวไหล่เล็ก นัยน์ตาของเธอสั่นระริกวูบไหวอย่างฉับพลัน หัวใจของคนเป็นแม่แทบแหลกสลายในทันที เมื่อเห็นว่าลูกสาวยังมีบาดแผลภายในร่มผ้าที่เธอหรือหมอก็ไม่เคยรับรู้มาก่อน"นิ่มฟ้าคะ หนู หนูเจ็บไหมลูก" ฟองน้ำรูปสัปปะรดหลุดลอยจากฝ่ามือไหลผ่านไปยังเบื้องหน้าของเด็กหญิงที่กำลังนั่งหันหลัง นิ่มฟ้าย่นคิ้วชิดกันแล้วรีบหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น"เป็นอะหยังก๊ะหนุนน้อย" มือเล็กยื่นไปจับแก้มขาวอมชมพูของแม่ ผิวพรรณของแม่ทำให้เธอรู้สึกหลงรัก"หัวไหล่หนูไงคะ โดนยัยเด็กกระถินนั่นกัดมาเหรอ ทำไมหนูไม่บอกแม่ว่ามีแผลตรงนี้ด้วย"เจ้าของบาดแผลกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว แต่แม่ของเธอกลับน้ำตาไหลอาบนองหน้า "เจ้า นิ่งโดนขบมาแต่นิ่งบ่เจ๋บแล้ว อี่แม่บ่ต้องร้อง เดี๋ยวนิ่งร้องตามเน้อ"เด็กหญิงโผเข้าซุกอกของแม่ที่ล้นหลามเหนือผิวน้ำ เหนือฟ้าสวมกอดกลับจูบซับศีระษะเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ ไม่รู้เบื่อเส
นิ่มฟ้าแสดงสีหน้าและแววตาโกรธสุดขีด เด็กหญิงตอบโต้กลับไปหาอีกฝ่ายด้วยความขุ่นเคือง กำหมัดสองข้างแน่นพยายามนึกถึงหน้าครอบครัวที่เธอรัก นึกถึงเทวดาคนโปรด"กรี๊ดด ติ๋นไม่ได้โง่นะ ไม่ได้โง่" กระถินกระทืบเท้าปึ้กปั้กแล้วพุ่งเข้ามากระชากศีระษะของนิ่มฟ้าและใช้กรงเล็บครูดข่วนใบหน้าของเธอไปทั่วโดยมีเพื่อน ๆ พยายามช่วยกันดึงตัวกระถินสายวีนออกจากการทึ้งหัวของหัวหน้าห้อง"ปล่อยเปิ้นเน้อ ปล่อยสิ" นิ่มฟ้าพยายามแกะมือเหนียวของกระถินออก พอเห็นว่าไม่เป็นผลเธอจึงใช้แรงทั้งหมดเหวี่ยงตัวของเด็กหญิงที่ตัวเล็กกว่าจนเหวี่ยงไปกระแทกกับพื้น"โอ้ย ยัยหัวหน้าเผ่าฟาย" กระถินโกรธหน้าดำหน้าแดง"บ่าใจ้ฟายตำมะดาโตย แต่เป๋นฟายเจ๋ดทัวย่ะ" เด็กหญิงเถียงกลับแล้วรีบจัดทรงผมให้เข้าที่ เตรียมที่จะเดินหนียัยกระถินปากจัดที่พูดจาไม่รู้เรื่อง"ไม่ให้ปายยย" กระถินวิ่งกลับเข้ามากระโดดตะครุบกลางหลังนิ่มฟ้า เนื่องจากเธอตัวเล็กกว่าทำให้ปีนขึ้นไปอยู่หลังเด็กหญิงหุ่นจ้ำม่ำได้ง่ายขึ้นงั่บ!"โอ๊ยยย" นิ่มฟ้าร้องเพราะถูกคมเขี้ยวของกระถินงับลงมาบนหัวไหล่ แม้จะมีเนื้อผ้าของชุดนักเรียนขวางกั้นแต่ฟันคม ๆ ก็กัดจมลงมาจนเด็กหญิงถึงกับน้ำตาเล็ด
หลังจากกลับจากโรงพยาบาลภาคีอาสาดูแลหมูยอแทนเหนือฟ้า ระหว่างนั้นเขาจึงปรึกษากับภรรยาเรื่องลูกสาวเพราะเกรงว่าอาจมีการกลั่นแกล้งและบูลลี่กันที่โรงเรียนโดยที่เขาและเธอไม่เคยรับรู้มาก่อน"เหนือว่าเราควรไปสอบถามคุณครูโดยตรงเลยดีไหม พี่ไม่ค่อยสบายใจเลย" เขาบ่นพึมพำท่ามกลางไฟสีส้มที่ส่องจากโคมรูปเห็ด ขณะที่ตนเองกำลังนอนตะแคงตบ ๆ ก้นให้หมูยอที่เพิ่งจะนอนหลับสนิท เนื่องจากหนูน้อยรู้สึกกระสับกระส่ายไม่สบายท้อง แค้พอได้รับประทานยากับเกลือแร่เข้าไปอาการท้องเสียของเจ้าตัวเล็กก็ดูทุเลาลงสาวอวบที่เพิ่งอาบน้ำและไดร์ผมเสร็จก้าวขาเข้ามาในคอกกั้น วันนี้เธอกับสามีตัดสินใจนอนที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูแลหมูยอ"ดีค่ะ เพราะสมัยที่เหนือโดนเพื่อนแกล้งและถูกล้อเลียนเรื่องรูปร่างเหนือก็มีความรู้สึกเดียวกับลูก เหนือไม่เข้าใจเลยว่าตอนนั้นทำอะไรผิดเพื่อน ๆ ถึงไม่อยากคบเหนือ ตอนนั้นคนเดียวที่ให้คำปรึกษาได้คือพี่ไนท์ค่ะ แต่ตอนนี้เราคือครอบครัว เราทุกคนจะช่วยกันให้คำปรึกษานิ่มฟ้า เหนือจะไม่ปล่อยให้ลูกเผชิญความเจ็บปวดคนเดียวเด็ดขาด" หญิงสาวเล่าเท้าความในอดีตที่เจ็บช้ำ คำพูดถากถากทับถมของเพื่อน ๆ กลายเป็นปมในใจของเธอที่อยาก
ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงนาฬิกาปลุกข้างหัวเตียงดังขึ้นทำให้พ่อครัวใหญ่รีบดีดตัวขึ้นมาคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาชะล้างร่างกายเพียงสิบห้านาทีจึงรีบวิ่งซอยเท้าลงไปแล้วเริ่มปรุงอาหารด้วยความรักก่อนที่ลูกและภรรยาจะตื่นนอน"ป้อขี้!""เฮ่ย" หัวมันฝรั่งในมือเขาร่วงตุ้บลงกระแทกพื้น นิ่มฟ้าที่อยู่ชุดเสื้อคอกระเช้าเด็กประแปรงหน้าขาววอกสะกิดเรียกเขาท่ามกลางความมืดสลัวของห้องครัวในเวลาตีห้า"นิ่งบ่าใจ้ปี๋เน้อ ป้อต๋กใจนิ่งก๊ะ" นิ่มฟ้าลากเก้าอี้แล้วก้าวขึ้นไปยืนข้างพ่อชะโงกดูวัถตถุดิบที่พ่อเตรียมทำมื้อเช้า "ป้อทำก้าวผัดแฮ่มก๊ะ"เด็กหญิงสังเกตเห็นว่ามีเครื่องเคียงเป็นผัก หมูสับ และแฮมอีกอย่างพ่อก็วางกระทะตั้งไว้กับเตาแก๊สจึงมั่นใจว่าพ่อกำลังจะทำข้าวผัดแฮม"ฉลาดนะเนี่ยเรา ถูกต้องครับป้อกำลังทำข้าวผัดแฮมแล้วก็มีน้ำซุปมันฝรั่งซดแก้ฝืดคอ" เขาว่าแล้ววางหัวมันลง"โอ้โหดีเลยนิ่งกำลังอยากกิ๋น" นิ่มฟ้าคว้าหัวมันฝรั่งที่พ่อวางไว้บนเขียงมาถือแล้วหาที่ปอกเปลือกมัน"นี่ครับ" ผู้เป็นพ่อหยิบที่ปอกให้ลูกสาว มือเล็กรับไว้แล้วเริ่มปอกมันฝรั่งอย่าทะมัดทะแมง"ค่อย ๆ ปอกนะครับ แล้วนี่หนูตื่นมาทำอะไรแต่เช้า วันนี้วันเสาร์ไม่
โรงพยาบาลทั้งครอบครัวเดินทางมาให้กำลังใจภาคีในวันที่มีผ่าตัดทำหมันกับหมอที่โรงพยาบาล หลังจากที่เขาตัดสินใจจะหยุดการสืบพันธ์ุนี้เพราะเกรงว่าภรรยาจะเผลอท้องขึ้นมาอีกในอนาคต และเพื่อแสดงตนว่าเขาจริงใจที่จะเสียสละเพื่อเธอดังนั้นวิธีการนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพราะเขาอยากให้เหนือฟ้ารู้ว่าทายาททั้งหกคนของเขาจะเป็นของเธอตลอดไป และจะมีใครมีโอกาสแย่งชิงเขาไปจากเธอ"ปี้ปี้" หมูยอเดินเลาะไปมาเกาะแข้งเกาะขาพวกพี่ ๆ ขณะที่แป้งจี่นอนหลับอยู่บนตักแม่ ส่วนน้ำเงี้ยวนั้นนอนแผ่ยาวหนุนตักน่านฟ้าและนิ่มฟ้าเสมือนว่าพี่สาวพี่ชายเป็นเตียงนอนส่วนตัว"หมูยอคะมานั่งเฉย ๆ สิลูก" เหนือฟ้าอุ้มลูกชายสายปราดเปรียวที่ไม่ยอมหลับยอมนอน เอาแต่ปีนป่ายโซฟาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย"หม่ำ ๆ" หมูยอเริ่มเดินเหนื่อยหนูน้อยหยิบขวดนมในกระเป๋าสัมภาระเด็กที่วางอยู่บนเก้าอี้ แล้วเปิดฝาขวดนมบริการตัวเอง"อะหยังป้อต้องตัดหำโตยก๊ะ" น่านฟ้าสงสัยตั้งแต่พ่อบอกว่ามีนัดตัดสิ่งที่อยู่ใต้หว่างขา เด็กชายก็มีคำถามกับเธออยู่ตลอด"ป้อตัดเพื่อคุมกำเนิดพวกเราจะได้มีกันแค่หกคนไงคะ ไม่ดีเหรอหรือหนูอยากมีน้องเพิ่ม" เหนือฟ้าหันไปอธิบายกับลูกชาย"อึ๋ย