INICIAR SESIÓNเมื่ออุษมันทราบข่าวอาการป่วยของภาคีเขาจึงจัดการโทรให้วารีเลขาส่วนตัวจัดห้องพักรักษาตัวที่ดีที่สุดให้ และส่งลูกชายหอบหิ้วกระเช้าผลไม้มาฝาก ขณะที่เหนือฟ้าฝากบะแต๋ง นิ่มฟ้าและน่านฟ้าคอยดูแลน้องแฝดสามอยู่ที่โรงพยาบาลระหว่างที่เธอขับรถจี๊ปของสามีกลับบ้านสาวอวบรีบกลับมาเก็บเสื้อผ้าของตนเองเพื่อไปอยู่เฝ้าสามีที่โรงพยาบาล จังหวะที่กำลังจะวนรถออกจากไร่เดือนเพ็ญกับอินเหลาก็กำลังยืนคุยกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์และเจ้าหน้าที่รัฐสี่ห้าคนหญิงสาวรีบดับเครื่องและลงไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น "ทุกคนคะมีอะไรกันหรือเปล่า""อ้าวคุณนายป้อเลี้ยงเป๋นอะหยังร้ายแรงก่อ" อินเหลารีบเปลี่ยนประเด็นทันที เพราะมีบางเรื่องที่ภาคีสั่งไว้ว่าห้ามให้ภรรยาของเขารู้"เป็นลมแดดค่ะแต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้วค่ะ แล้วทำไมเจ้าหน้าที่มากันเยอะแยะขนาดนี้คะ มีเรื่องอะไรที่เหนือไม่รู้หรือเปล่าคุณอินเหลา" เหนือฟ้าพยายามแค่นเอาคำตอบ เพราะสีหน้าท่าทางของอินเหลาที่พยายามเปลี่ยนเรื่องคุยดูไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่"คืองี้ค่ะคุณเหนือ มีชาวบ้านตำบลข้างเคียงไปร้องเรียนกับนายอำเภอว่าไร่เราเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคระบาดของกระบือ แล้วก็มีคนเอาไปใส่สีตีไข่พูดผิด ๆ
รถจี๊ปคันดำจอดส่งเหนือฟ้าหน้าบ้านขณะที่ลูกทั้งหกกำลังปูเสื่อทำกิจกรรมอยู่ใต้ต้นนางพญาเสือโคร่ง โดยมีบะแต๋งกำลังนั่งอ่านดูอนิเมะเรื่องโปรดผ่านทางโทรศัพท์ ส่วนนิ่มฟ้ากับน่านฟ้าก็กำลังเล่นเป็นควายให้แป้งจี่กับน้ำเงี้ยวขี่หลัง มีเพียงหมูยอที่กำลังนั่งละเลงสีเทียนลงบนกระดาษปอนด์ขนาดเท่าเอสี่เพียงคนเดียว"กลับมาแล้วจ้ะ" เหนือฟ้าทรุดตัวลงนั่งบนเสื่อ "เดี๋ยวแม่จะสอนภาษาอังกฤษนะคะ ใครพร้อมเรียนแล้วบ้างยกมือขึ้น" แม่ลูกหกขอแนวร่วมทว่ากลับไม่มีลูกคนไหนเลยที่สนใจเธอบะแต๋งชำเลืองมองแม่ที่ทำสีหน้าผิดหวังจึงเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วลุกไปนั่งข้างแม่ "อี่แม่ไปฟินมาซะนานเลยนะ" เด็กชายแซว เหนือฟ้าคลี่ยิ้มเขินอาย"ก็แม่กับพ่อไม่ได้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันนานแล้วนี่ อ้อ..ทำไมน้องแฝดสามของลูกถึงทำเย็นชากับแม่จัง" เธอถามพลางเหล่มองหน้าหมูยอ แป้งจี่ น้ำเงี้ยว"น้องงอนอี่แม่น่ะสิ" เด็กชายถอนหายใจแรง "นี่ก็จะได้เวลาข้าวตอนแล้ว เฮาไปทำกับข้าวกั๋นเต๊อะเดี๋ยวแต๋งเป๋นลูกมือเองครับ""แต่แม่ยังไม่ได้ง้อน้องของลูกเลย" เหนือฟ้ากลัวว่าถ้าเธอไม่รีบง้อเดี๋ยวลูกจะงอนไม่หาย"บ
เจ้าของร่างน้ำหนักหกสิบกว่าโลถูกหย่อนลงกับเตียงนอนแบบคิงไซซ์สีเทา แต่ยังไม่ทันจะเด้งตัวลุกขึ้นมายิงคำถามกับเขาพ่อคนใจร้อนก็โถมกายที่ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์อย่างรวดเร็ว"พี่คีไปกินอะไรมาคะ...อื้อ" กะว่าจะใช้ฝ่ามือดันหน้าเขาออก แต่ความซาบซ่านทำให้เธอทึ้งเส้นผมของเขาแทน"แซนด์วิชสลัดไข่น้ำเงี้ยว" เขาโบ้ยว่าเป็นเพราะมื้อเช้าฝีมือลูกสาวคนเล็ก"คนต๊อง..เหนือก็กินไม่เห็นหื่นแบบพี่คีเลย""ก็เหนืออยากน่ารักทำไมละ" เจ้าของเสียงแหบพร่าก้มลงไปใช้ริมฝีปากขบดูดเนินอกที่วับแวมออกมานอกเสื้อคอวีอย่างตะกรุมตะกรามจนเหนือฟ้าหัวเราะคิกคักจั๊กจี้ "หึหึ พี่คีฮ่าฮ่า"ภาคีชะงักที่เมียขำ เขาจึงกระเถิบตัวออกให้ห่างจากเธอเปลี่ยนเป็นนั่งในท่าถ่างขาเอนตัวไปด้านหลังโชว์อาวุธร้ายที่กำลังตั้งชูคอล่อสายตา สีหน้าของเขาช่างไร้ความกระดายอายสิ้นดี"หยุดทำไมล่ะคะ งอนเหนือเหรอ" เหนือฟ้ารีบหยัดตัวลุกนั่ง แล้วคลานสี่ขาเข้าไปหา "ตอบเหนือหน่อยสิคะ""ก็เหนือขำพี่อ่ะ พี่ก็นึกว่าพี่เล้าโลมเหนือไม่ฟินเหมือนเดิม" เขาทำหน้าหงิกเบนสายตาไปทางอื่น"โธ่ปาขี้! ไม่ฟินตรงไหนฟินจะตายไปเหนือก็แค่จั๊กจี้เฉย ๆ" สาวอวบยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ แล้วเอาจมูกเ
มื้อเช้าสุดพิเศษนี้ทำให้เหนือฟ้ากับภาคีประทับใจจนน้ำตาไหล ถึงแม้ครัวจะเละเทะเต็มไปด้วยไส้แซนด์วิชที่กระจุยกระจายอยู่เต็มพื้น แต่ได้ลิ้นพิฆาตของแก๊งหมาโกลเด้นช่วยปาดเช็ดจนไม่เหลือคราบ ทำให้นิ่มฟ้ากับน่านฟ้าที่อาสาทำความสะอาดครัวไม่ต้องเช็ดถูอะไรมากมาย"อันนี้แซนด์วิชหน้าอะไรคะ" เหนือฟ้าหยิบแซนด์วิชโรลเสียบไม้ขึ้นมาถามสามแฝด"ชันวิกไฉ้ปะตูน่ะ" หมูยอพยายามออกเสียงสำเนียงฝรั่ง"บ่าใจ้มันเยียกว่าแชนวิกปาตุ๊น่าตั่งหาก" แป้งจี่เถียงหมูยอ"พอเถอะมันก็เรียกว่าปลาทูน่าเหมือนกันนั่นแหละ" แม่รีบคัดค้านการโต้วาทีของลูกทั้งสองก่อนที่มื้อเช้าจะจบลงด้วยสงครามปลาทูน่า"แล้วของน้ำเงี้ยวล่ะทำแซนด์วิชอะหยังให้ป้อกับแม่กิ๋น" ภาคีโพล่งถามลูกสาวที่กำลังกะพริบตาวิบวับมาให้อย่างรู้ใจ"ก๋องงิ้วกือไฉ้ฉะหยัดไข่เยะเยะเทะเทะ" น้ำเงี้ยวอธิบายแล้วหยิบแซนด์วิชสลัดไข่โรลส่งให้พ่อกับแม่คนละไม้เพราะชื่อไส้สลัดไข่เละเละเทะเทะทำให้สองผัวเมียชำเลืองมองหน้ากันจนไม่กล้ากิน เด็กหญิงหน้าม้าเต่อขมวดคิ้วชนกันรู้สึกเคืองนิด ๆ ที่พ่อกับแม่ทำท่าทางไม่ไว้เนื้อเชื่อใจในรสชาติ"ป้อกับอี่แม่บ่กิ๋นก๊ะ" บะแต๋งกินแซนด์วิชของน้ำเงี้ยวให้พ
ยังไม่ทันฟ้าสว่างพ่อเลี้ยงหนุ่มจำใจต้องกัดฟันลุกไปอาบน้ำตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อเร่งคัดแยกย้ายควายป่วย นัยน์ตาอ่อนล้ากวาดมองหอมบั่วกับลูกชุบ สุนัขโกลเด้นของเขากับเหนือฟ้าที่มักจะนอนหลับอยู่บนเบาะนอนปลายเตียง ทว่าพวกมันกลับไม่ได้นอนอยู่ตรงนั้น"ไปไหนหว่า" เขาพูดงึมงำขยี้ตาเบา ๆ คว้าผ้าขนหนูเดินผ่าความมืดออกมาจากห้องนอน ระหว่างนั้นเองกลับมีเสียงก่อกแก่กดังขึ้นมาจากด้านล่าง เขาจึงเงี่ยหูฟังพลันได้ยินเสียงของเด็กกำลังพูดคุยกันปลายขายาวก้าวทีละสองขั้นบันไดพยายามเดินย่องให้เบาที่สุด เพื่อตรงไปยังห้องครัวที่เปิดไฟสีขาวสว่างจ้า ภาคีรีบหลบข้างเสามืดที่สามารถเห็นลูกทั้งหกคนกำลังช่วยกันทำอาหารเช้า โดยมีบะแต๋งเป็นเชฟใหญ่นั่งคุมอยู่หัวโต๊ะ ส่วนนิ่มฟ้ากับน่านฟ้าคอยคุมพฤติกรรมแฝดสามขณะทำแซนด์วิชสารพัดไส้ รอบโต๊ะกินข้าวมีแก๊งสุนัขโกลเด้นนอนหมอบเฝ้าเจ้าของของมันด้วยความเรียบร้อย"ก๋องดอไฉ้ปะตูน่ะ" หมูยอม้วนขนมปังเป็นโรลตามตัวอย่างที่พี่ทำไว้ให้ดูเป็นต้นแบบ"ฉี่ไฉ้ปู๋อักจี๊ด" ของแป้งจี่เป็นไส้ปูอัดชีส"ยำยำ ยำแต๊ ๆ" น้ำเงี้ยวตักไส้แซนด์วิชใส่ปากตนเอง"น้ำเงี้ยว!" ทุกคนร้องห้ามน้องคนเล็ก"จ๋าววว" เด็กหญิ
หลังจากภาคีขอเติมพลังด้วยรสจูบของเหนือฟ้า เขาก็แต่งตัวเป็นหนุ่มชาวไร่ขับรถเอทีวีออกไปเพื่อไปช่วยลุงสำรวยแยกควายป่วยที่พักอาศัยอยู่ในแต่ละโซนเพื่อไม่ให้กลุ่มควายที่ป่วยไปปะปนกับสัตว์ที่ยังมีสุขภาพดีด้วยคำแนะแนวจากเจ้าหน้าที่ต้องการให้เขาแยกสัตว์ป่วยและเร่งทำวัคซีนป้องกันโรคให้กับควายอย่างเคร่งครัด ทว่าด้วยจำนวนของควายที่ไถ่ชีวิตมานั้นมีจำนวนมากเกินกว่าจำนวนวัคซีนที่ปศุสัตว์จังหวัดมี เขาจึงต้องรอเวลาให้เจ้าหน้าที่ประสานงานทีมสัตวแพทย์ลงมาฉีดวัคซีนลูก ๆ ควายของเขาทั้งหมดพ่อเลี้ยงหนุ่มตรากตรำก้มหน้าก้มตาต้อนควายเข้าคอกชั่วคราวที่จนกินเวลาถึงบ่ายโมง แล้วยังตระเวนขับรถตะลอนไปทั่วไร่เพื่อทำให้พื้นที่โดยรอบนั้นสะอาดและปราศจากเชื้อโรค รวมทั้งเตรียมกันอาณาเขตปลอดโรคให้เป็นสัดส่วน รวมทั้งเตรียมเสบียงน้ำและอาหารให้กับควายทั้งหมดด้วยความเหน็ดเหนื่อย จนเหงื่อโทรมกายใบหน้าและผิวเริ่มเกรียมแดด"ป้อเลี้ยงวันนี้พ่อแค่นี้ก่อนเถอะครับ ป้อเลี้ยงขับรถกลับมาเหนื่อย ๆ ไปพักก่อนเถอะ" ลุงสำรวยบอกระหว่างขนหญ้าสดและฟางแห้งวางไว้ให้ควายที่เริ่มมีอาการป่วย"ผมไม่เหนื่อยหรอกครับ อ้อแล้วไอ้อินกับพี่เดือนเพ็ญไปดูคว







