“แหมแก้ว เปรียบซะเห็นภาพเลยแก พูดเหมือนตัวเองไม่ใช่ชะนีอย่างนั้นแหละ”
“แก้วไม่ใช่ชะนีนะมะลิ แก้วไม่ได้ร้องหาผัวๆ” แก้วกุดั่นลอยหน้าตอบจนเพรีและกาสะลองหัวเราะคิกคัก
“ใครจะไปกล้ากับแกแก้ว ปากแกอย่างกับกรรไกร” เพรีต่อว่าเพื่อนรักเสียงใส
“ผู้ชายมันไม่น่าปลื้มนี่ แต่ละคนเห็นแล้วอ่อนใจ แก้วยอมนอนบนคานดีกว่าจะมาปวดหัวเพราะนิสัยเน่าๆ ของผู้ชายพวกนั้น” แก้วกุดั่นไหวไหล่อย่างไม่แคร์ถ้าหาคนดีไม่ได้ ก็จะขออยู่เป็นโสดแบบนี้ให้สบายใจ ดีกว่าปวดหัวเพราะวีรกรรมของคู่ครอง
“มะลิก็คงเหมือนแก้วล่ะ เหนื่อยใจกับนิสัยเจ้าชู้เห็นแก่ตัวของผู้ชาย คงไม่มีเจ้าชายในฝันเหมาะสำหรับเราสองคนเนอะแก้ว”
“ดอกปีบล่ะคิดจะมีไหมแฟนอะ”
“ไม่ล่ะจ้ะ ดอกปีบจะอยู่ดูแลคุณท่าน คงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่”
“ผู้ชายรู้ความคิดของพวกเราคงจะแปลกใจนะ ดูแม่พวกนั้นสิ ระริกระรี้อยากมีผัวจนตัวสั่น แต่พวกเราขอบาย”
“สวย เริ่ด เชิดโสด ไม่ง้อค่ะฉันรวย” แก้วกุดั่นแอ่นอกคุยโอ่ เมื่อหาคนที่ดีพร้อมไม่ได้ ก็จะขอเก็บพรหมจรรย์ไว้กับตัวเองให้มันหายไปกับกาลเวลา
“มาแล้วๆ” เพรีสะกิดแก้วกุดั่นยิกๆ เมื่อพระเอกของงานปรากฏตัวขึ้น เขาสวมสูทสีน้ำตาลไหม้ผ่าหน้า มองเห็นเสื้อยืดสีขาวด้านในกับกางเกงยีนส์กระชับลำตัว กลุ่มสาวๆ กรี๊ดกร๊าด จนกาสะลองได้แต่แอบหมั่นไส้
“เริ่มได้ยังแก้ว?”
“เอาเลย! เดี๋ยวแก้วไปบอกนักดนตรีก่อน” แก้วกุดั่นผุดลุกขึ้นยืนเดิน ไปยังเวที ที่กลุ่มนักดนตรีกำลังบรรเลงเพลงกันอย่างเมามัน
“จะทำอะไรกัน...ไม่คิดจะบอกดอกปีบก่อนหรือ”
“ต้องบอกดอกปีบสิ ก็ดอกปีบเป็นนักแสดงนำนี่”
“ทำลับลมคมใน ดอกปีบถอนตัวตอนนี้ทันไหมอะ”
“ไม่ทันแล้วคนสวย ลงแรงมาถึงขั้นนี้แล้ว ท่องไว้เพื่อคุณหญิงประกาย กับหักหน้ายัยลิซ่า”
“จ้ะ เอาก็เอา ตกลงจะทำอะไรกันล่ะ? เฉลยเถอะดอกปีบอยากรู้แล้ว”
“เต้นแท็ป ดอกปีบถนัดอยู่แล้ว เรียกสายตาได้ชะงัดทุกครั้งล่ะหากดอกปีบขึ้นโชว์ คราวนี้ขออินเนอร์เต็มที่เลยนะเพื่อความสำเร็จ น่ากากไม่ต้องใส่หรอก จะได้ส่งสายตาให้เต็มที่ คุณเปรมกะคุณเปรมเถอะ ไม่หลงให้รู้ไป”
สามสาวเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่ต่างสาขา แก้วกุดั่นเรียนอินทีเรียดีไซน์ เพรีเรียนสถาปนิก กาสะลองเรียนการจัดการ แต่ที่รู้จักกันเพราะทั้งสามคนอยู่ชมรมดนตรี เพราะรักการเต้นรำ หลงเสน่ห์การวาดลวดลายบนฟลอร์ ที่สามสาวถนัดมากที่สุดคือแท็ปแดนซ์ จังหวะดนตรีเร้าใจกระแทกกระทั้น ของดนตรีในถิ่นประเทศสเปน บวกกับลีลาที่สวยงามเย้ายวน โดยเฉพาะกาสะลองที่ถูกเชิญไปโชว์ตัวบ่อยๆ แต่หญิงสาวขอซ่อนตัวตนไว้หลังหน้ากากแก้ว เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าหญิงสาวเรียบร้อยจะชอบเต้นระบำยั่วยวน
“เรียบร้อยยังแก้ว” เพรีรีบถามเมื่อแก้วกุดั่นเดินย้อนกลับมา
“Okเตรียมพร้อม เพลงเดิมนะดอกปีบ”
“เพื่อคุณท่าน สู้ๆ”
“ใช่เพื่อคุณหญิง แต่แก้วอยากเห็นหน้ายัยลิซ่าชะมัด ตอนโดนดอกปีบฉกผู้ชายออกจากอกหล่อน”
“มันอาจไม่ใช่อย่างที่แก้วคิดก็ได้ ดอกปีบไม่ได้สวยอย่างลลิตาหรอก”
“มันก็ไม่แน่เนอะมะลิ”
“ใช่ มันไม่แน่ ปลาร้าค้างปีหรือจะสู้นางพญาแสนสวย ถ้าคุณเปรมตาต่ำ เราค่อยหาทางอื่นก็แล้วกัน”
“ไปๆ เพลงจะเริ่มแล้วสู้ๆ”
“จ้ะสู้ๆ” เพรี แก้วกุดั่น กาสะลองเดินนวยนาดลงไปจากชั้นVIPเมื่อดนตรีเริ่มบรรเลงจังหวะหนักๆ กลิ่นไอบรรยากาศเร่าร้อน ผสมผสานไปกับความสลัวๆ ส่งให้กาสะลองดูเด่นกลางฟลอร์ แสงระยับระยับจากคริสตัลกลางหน้าอกสะท้อนแสงไฟเป็นประกาย ยิ่งกาสะลองเริ่มขยับตัวตามจังหวะดนตรีประกายคริสตัลก็ยิ่งสะท้อนแสงมากขึ้น ถ้วงทำนองเร้าใจและหญิงสาวสวยคมเต้นตามเสียงเพลงเรียกสายตาผู้ชมได้เป็นอย่างดี กาสะลองหลงอยู่ในมนต์เสน่ห์กลิ่นไอของสเปน ความที่ชอบเป็นทุนเดิมจึงใส่อารมณ์เต็มที่ แก้วกุดั่นและเพรีถอนตัวออกมายืนด้านข้างฟลอร์ ปล่อยให้เพื่อนสาววาดลวดลายเต็มที่ เมื่อกาสะลองจมดิ่งเข้าไปในมนต์เสน่ห์ของแท็ปแดนซ์เต็มตัว หญิงสาวจึงปล่อยสุดพลัง จังหวะโดนใจทำนองโดนอารมณ์ ดวงตากลมโตปรายสายตามองทุกคนรอบๆ ตัวแล้วจึงตวัดสายตาทิ้งสายตาเย้ายวนตามแบบฉบับดั่งเดิม รอยยิ้มยั่วเย้าถูกโปรยหว่าน จนหนุ่มๆ เริ่มขยับตัวเข้ามารุมล้อมรอบฟลอร์เต้นรำ เสียงผิวปากหวีดหวิวเมื่อถูกใจนางระบำที่กำลังเต้นโชว์ตัวเต็มที่ อกเอวอ่อนไหวฝีเท้าขยับตามจังหวะดนตรี ยิ่งตอนปลายรองเท้ากระแทกบนพื้น ‘กึกๆ’ เสียงเป่าปากจะดังขึ้นเป็นระยะ และคนคอยเฝ้าดูเริ่มหนาตาขึ้น
เปรมชะเง้อคอมองกลางฟลอร์ สายตาเป็นประกายแพรวพราวเมื่อมองเห็นผู้หญิงทรวดทรงเตะตา กำลังร่ายระบำอยู่กลางฟลอร์ มีเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม ชายหนุ่มหยัดกายลุกขึ้นยืน เขาเดินเอื่อยๆ ลงจากชั้นVIPตรงไปที่ฟลอร์เต้นรำเมื่อความอยากรู้ตามประสาผู้ชายรักสนุกเกาะอยู่เต็มหัวใจ เรือนกายโปร่งบางเต็มตึงในส่วนที่ควรมีสะดุดนัยน์ตาสีคาราเมล เมื่อเดินมาจนชิดขอบฟลอร์เต้นรำ แววตาหวานหยดของกาสะลองส่งประกายเชิญชวนให้เขา ริมฝีปากอิ่มเต็มเผยอยั่วเย้าเหมือนอยากถูกจุมพิตจากชายผู้โชคดี ชายหนุ่มหรี่เปลือกตาลง มองวงหน้าหวานใสเหมือนเคยเห็นที่ไหนสักที่ ดวงตาหวานเตะตาแต่ไม่ว่าจะเค้นความคิดหนักขึ้นเพียงใดก็เลือนราง เหมือนมีกลุ่มควันบังตาเอาไว้ ลลิตาเดินตามเปรมมาห่างๆ ริมฝีปากเคลือบสีสดแสยะยิ้ม เมื่อมองเห็นกลุ่มคู่ปรับเต็มสายตา
“ยัยแก้ว ยัยมะลิ แม่ดอกปีบคิดจะทำอะไรน่ะ?” หญิงสาวกัดฟันกรอดๆ เมื่อหนุ่มหล่อตรงหน้าแสดงอาการสนใจนางระบำจนลืมตัว
“เจนาสคะ อย่าไปสนใจพวกเรียกร้องความสนใจแบบนี้เลยค่ะ”
“คุณรู้จักพวกเธอหรือลิซ่า?” ชายหนุ่มถามกลับ เขาชักสายตากลับมาจากภาพเย้ายวนที่เรียกกระแสเลือดให้วิ่งพล่าน ลลิตาพยักหน้ารับ ขยับเขาสอดมือคล้องวงเรียวแขนแข็งแรง พร้อมกับรั้งเขาให้ถอยห่างออกมาจากภาพความเย้ายวนของสาวโสภากลางฟลอร์ เปรมยอมเดินตามแรงอันน้อยนิดที่พยายามจูงเขาให้พ้นจากที่ชุมนุม แต่ก็ยังแอบปรายตามองกาสะลองบนฟลอร์อยู่ตลอดเวลา
“รู้จักซิคะ รู้จักดีเชียวล่ะ” ลลิตากัดฟันตอบ สะบัดสายตาใส่กลุ่มสาวๆ ที่ยิ้มร่าเบื้องหลัง ทั้งโกรธและแค้นใจจนอยากจะเดินขึ้นไปกระชากหญิงสาวที่กำลังวาดลวดลายเย้ายั่วอยู่กลางฟลอร์ให้ล้มลงบนพื้น แล้วตบล้างน้ำให้หายแค้นใจ
“แหมแก้ว เปรียบซะเห็นภาพเลยแก พูดเหมือนตัวเองไม่ใช่ชะนีอย่างนั้นแหละ”“แก้วไม่ใช่ชะนีนะมะลิ แก้วไม่ได้ร้องหาผัวๆ” แก้วกุดั่นลอยหน้าตอบจนเพรีและกาสะลองหัวเราะคิกคัก“ใครจะไปกล้ากับแกแก้ว ปากแกอย่างกับกรรไกร” เพรีต่อว่าเพื่อนรักเสียงใส“ผู้ชายมันไม่น่าปลื้มนี่ แต่ละคนเห็นแล้วอ่อนใจ แก้วยอมนอนบนคานดีกว่าจะมาปวดหัวเพราะนิสัยเน่าๆ ของผู้ชายพวกนั้น” แก้วกุดั่นไหวไหล่อย่างไม่แคร์ถ้าหาคนดีไม่ได้ ก็จะขออยู่เป็นโสดแบบนี้ให้สบายใจ ดีกว่าปวดหัวเพราะวีรกรรมของคู่ครอง“มะลิก็คงเหมือนแก้วล่ะ เหนื่อยใจกับนิสัยเจ้าชู้เห็นแก่ตัวของผู้ชาย คงไม่มีเจ้าชายในฝันเหมาะสำหรับเราสองคนเนอะแก้ว”“ดอกปีบล่ะคิดจะมีไหมแฟนอะ”“ไม่ล่ะจ้ะ ดอกปีบจะอยู่ดูแลคุณท่าน คงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่”“ผู้ชายรู้ความคิดของพวกเราคงจะแปลกใจนะ ดูแม่พวกนั้นสิ ระริกระรี้อยากมีผัวจนตัวสั่น แต่พวกเราขอบาย”“สวย เริ่ด เชิดโสด ไม่ง้อค่ะฉันรวย” แก้วกุดั่นแอ่นอกคุยโอ่ เมื่อหาคนที่ดีพร้อมไม่ได้ ก็จะขอเก็บพรหมจรรย์ไว้กับตัวเองให้มันหายไปกับกาลเวลา“มาแล้วๆ” เพรีสะกิดแก้วกุดั่นยิกๆ เมื่อพระเอกของงานปรากฏตัวขึ้น เขาสวมสูทสีน้ำตาลไหม้ผ่าหน้า มองเห็นเส
บทที่3.ลอกคราบ“ดอกปีบก็รู้ว่าคุณเปรมของดอกปีบนะชอบผู้หญิงสวยๆ วิธีล่อผู้ชายเจ้าชู้ก็ต้องทำให้สะดุดตาเขา เดี๋ยวแก้วกับมะลิจะเป็นธุระจัดการให้เอง” แก้วกุดั่นกับเพรีเห็นพ้องตรงกัน สองสาววางแผน ‘ล่อเสือเข้าถ้ำ’“แกสองคนรวมหัวกันทีไร เดือดร้อนดอกปีบทุกที ไม่เอาล่ะ”“น่านะ เขาไม่รู้หรอก ลอกคราบจากดักแด้เป็นผีเสื้อสวยๆ ไปล่อผู้ชายกัน คืนนี้มีปาร์ตี้ไฮโซ ลองไปวัดดวงดู เผลอๆ แกอาจจะลากคุณเปรมกลับบ้านก็ได้ ผู้ปกครองแกจะได้ดีใจ”“เอ่อ...”“เอาน่าลองดู” สองสาวคะยั้นคะยอ ส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองกาสะลองด้วยสายตาระยิบระยับ รอยยิ้มกรุ่มกริ่มจนกาสะลองขนลุกซู่ รีบร้องห้ามเสียงสั่นๆ“ไม่นะ...”“อิๆ...” เสียงหัวเราะคิกคักของเพื่อนรักทำให้กาสะลองจำต้องก้มหน้ารับอย่างจำใจกระบวนการลอกคราบเปลี่ยนดักแด้ขี้เหร่ ให้กลายเป็นผีเสื้อแสนสวยเริ่มต้นขึ้น ด้วยสองสาวผู้นำแฟชั่น แก้วกุดั่นเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้าหรูในห้างสรรพสินค้าไฮโซ เธอมีความชำนาญเรื่องการแต่งตัวเป็นพิเศษ เพรีเป็นสถาปนิกมีชื่อเสียง ทางบ้านมีฐานะร่ำรวยและไม่ถือตัว เธอจึงมีเส้นสายพาสามสาวเข้าไปในงานปาร์ตี้ไฮโซได้สบายๆ แผนการล่อพญาเสือออกจากถ้ำด้วยการเอากว
กาสะลองเดินคอตกกลับไป หญิงสาวชำเลืองประตูหน้าห้องทำงานของชายหนุ่มผู้กุมชะตาชีวิตของคุณหญิงประกาย เธอรู้สึกความผิดหวังและแอบเศร้าใจแทนประมุขของพงษ์ไพศาลกิจ ที่จะต้องอดทนรอความปราณีจากหลานชายต่อไป“คนใจดำ คนใจร้าย” เรียวปากอิ่มขยับต่อว่า รู้สึกเจ็บปวดแทนคุณหญิงประกายเมื่อต้องรับความผิดหวังทั้งๆ ที่กำลังตั้งตารอบ้านพงษ์ไพศาลกิจ...รั้วกำแพงสีน้ำตาลไหม้เด่นตระหง่านอยู่เบื้องหน้า แต่กาสะลองละล้าละลังไม่กล้าแม้จะผ่านประตูรั้วบ้านเข้าไป เธอไม่อยากแจ้งข่าวร้ายให้ผู้เป็นเจ้านายได้รับรู้ และรู้สึกความผิดหวังปี๊น!เสียงแตรรถยนต์กดถี่ๆ ด้านหลัง หญิงสาวจึงหมุนตัวกลับไปมอง“คุณผู้ชาย!”“มาทำอะไรตรงนี้ดอกปีบ ทำไมไม่รีบเข้าไปในบ้าน ยืนตากแดดอยู่ตรงนี้ทำไมหะ” กระจกรถยนต์ถูกลดลง เมื่อผู้สูงวัยต้องการตำหนิหญิงสาวที่ยืนขวางทางเข้าออก“ดอกปีบกำลังจะเข้าไปพอดีค่ะ” หญิงสาวรีบแก้ตัว แล้วจึงเดินออกไปจากหน้าประตูใหญ่ เปิดโอกาสให้รถยนต์คันโตได้เลี้ยวผ่านเข้าไปด้านใน“มากวนใจคุณท่านอีกสินะ คุณผู้ชายมาแต่ละที คุณท่านสุขภาพทรุดลงตลอด” หญิงสาวบ่นอุบ เร่งฝีเท้าเดินตามท้ายรถยนต์เข้าไปด้านใน เธอเป็นห่วงคุณหญิงประกาย
บทที่2.เปรม เจนาส พงษ์ไพศาลกิจ... ชายหนุ่มหน้าคม คิ้วดกดำพาดเฉียงๆ กับสันจมูก ริมฝีปากหนาหยักสีเข้ม กับปลายคางเหลี่ยมได้รูป นัยน์ตาคมดุเปล่งแสงวับวาว ตอนที่สบนัยน์ตากลมโตของเลขานุการทรวดทรงอะร้าอร่าม สาวร่างอวบเบียดกายกระแซะเรือนกายตึงแน่นของเจ้านายหนุ่ม ขณะชี้ชวนให้ดูผลการประชุมที่เพิ่งจบลง แววตาพราวระยับรู้ความนัยของกันและกันเป็นอย่างดี เสียงหวานฉอเลาะแบบไม่มีความเหนียมอาย เมื่อสิ่งที่ผู้เป็นเจ้านายตอบแทนให้ ทั้งความอิ่มเอมในรสเสน่หา หรือจะเป็นเม็ดเงินมหาศาล เป็นที่พอใจทั้งสองฝ่าย“บอสคะ ลีลี่ว่าตรงนี้น่าจะมีอะไรเพิ่มมาซักหน่อยนะคะ”“เธอคิดว่าสมควรมีอะไรเพิ่มขึ้นมาหรือลีลี่ ผมว่าเท่าที่มีก็น่าจะพอแล้วนะ งานเปิดตัวใหญ่เกินไปผมไม่ชอบ เราน่าจะเน้นที่ผลงานมากกว่าการโฆษณา” เปรมแย้งเสียงทุ้ม เขาเอนกายพิงพนักโซฟาโดยรั้งเอวบางของเลขานุการแสนสวยขึ้นมาก่ายเกยอยู่บนหน้าตัก มือหนาลูบไล้สะโพกงามงอนเล่นเพลินๆ“อ้าย! บอสคะ บอสจะทำอะไรลีลี่กันคะนี่” เสียงหวานฉะอ้อนถาม แต่กลับเบียดกายกระแซะมากขึ้นกว่าเดิม“ไม่น่าถาม” เปรมตอบเสียงแผ่ว เขาแนบเรียวปากหนาประทับจูบริมฝีปากอิ่มที่เผยอรอท่าอยู่ การแลกลิ้น
บทที่1.คุณหญิงประกาย พงษ์ไพศาสกิจ“ดอกปีบ...ไปตามพ่อหลานชายตัวดีของฉัน ให้มาพบฉันสักหน่อยซิ! ใจคอจะปล่อยให้ย่าแก่ๆ รออยู่อย่างเดียวดายโดยไม่คิดจะเหลียวแลเลยรึยังไงหะ” เสียงแหบเครือของหญิงสูงวัยบอกกาสะลอง เด็กรับใช้ใกล้ชิดที่คุณหญิงประกายรับเลี้ยงมาแต่เยาว์วัย“ค่ะ...คุณท่าน” เธอรับเสียงหวาน กระถดตัวถอยหลัง ออกไปจากห้องนอนโอ่อ่า เธอหยัดกายลุกขึ้นยืน ถอนหายใจเฮือกๆ ด้วยความหนักใจ เมื่อคิดถึงเขา... เปรม เจนาส พงษ์ไพศาสกิจ หลานชายเพียงคนเดียวของคุณหญิงประกาย เขาเข้มแข็งองอาจ รูปงามประหนึ่งเทพบุตรในนิทาน และเพราะความสามารถ เขาประสบความสำเร็จในถนนนักธุรกิจได้อย่างงดงาม โดยไม่ได้อาศัยชื่อเสียงของพงษ์ไพศาสกิจเป็นฐานมันเป็นเรื่องราวแต่หนหลัง ที่กาสะลองเกิดไม่ทัน...ประชัน พงษ์ไพศาสกิจบุตรชายคุณหญิงประกายได้ภรรยาตอนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ โดยที่ไม่ได้รับการเห็นชอบจากครอบครัว เขาปกปิดเรื่องภรรยาเป็นความลับ มารดาของเปรมถูกรังเกียจ และไม่ยอมรับจากครอบครัวฝ่ายชาย เธอจำใจหอบลูกน้อยกลับบ้านเกิด หลังถูกขับไล่และไม่ได้รับการเหลียวแล พิทีเซียจากไปพร้อมเด็กชายแรกเกิดที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เธอหายไป...จากช